ความคิดเห็นที่ 1 นี่คือเรื่องการเป็น"ศรีธนณชัย" ในเชิงการใช้ภาษาของนักกฏหมายอย่าง ปธน. คลินตัน ในตอนที่ ถูกกล่าวหาว่า มีเพศสัมพันธ์กับ เด็กสาวผู้ฝึกหัดงานในทำเนียบ  Monica Lewinsky   ในตอนแรก...นายคลินตันได้ให้การปฏิเสธทั้งหมด โดยใช้ข้อความใน testimony ว่า.. "there "is" not a sexual relationship, an improper sexual relationship or any other kind of improper relationship" แต่หลังจากนั้น ได้มีการสอบสวน..ปรากฏว่า  ฝ่ายหญิงได้นำหลักฐานคือเสื้อผ้าที่เปื้อนด้วยอสุจิ ของฝ่ายชาย ที่อาจมีการทำ DNA ถึงตัวเจ้าของได้.. จึงได้มีการเปลี่ยนบท..อันเป็นว่า..มีการเล่นรักกันจริง..แต่ไม่มีการล่วงล้ำในภายในของผู้หญิง (เพราะจากหลักฐานที่เปรอะเปื้อนเสื้อผ้า...ก้อ..เรื่องอื่นมันพิสูจน์ไม่ได้) นายคลินตันจึงได้เปลี่ยนคำพูดแบบพลิกลิ้น เพื่อไม่ให้ว่าตัวเองเป็นคนโกหกประชาชนได้อย่างรวดเร็วว่า.. ""It depends on what the meaning of the word 'is' is" ซึ่งหมายถึง..ตอนที่ให้การทางศาลโดยปากคำนั้น..คือ is  หมายถึงช่วงเวลาปัจจุบัน และใกล้เคียง  นั่นคือ ไม่มีการติดต่อทางชู้สาวกับฝ่ายหญิงแต่อย่างใด..(นี่คือ เรื่องจริง ที่ไม่ได้โกหก) เขาไม่ได้พูดว่า..There was not....ซะหน่อย... ดังนั้น..พวกสื่อๆและประชาชนต้องไปทำความเข้าใจกับคำว่า..is  เสียก่อน ก่อนที่จะหาว่าเขาเป็นคนลวงโลก... ส่วนเรื่อง The ของนาย John Edwards นี่ก็สไตล์เดียวกัน..ถ้าอยากทราบก็ถามมาแล้วกันนะคะ เพราะค่อนข้างยาว.. จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 23:51:37

ความคิดเห็นที่ 2 ถามแทนได้ไหมครับ  อยากทราบเหมือนกัน :) จากคุณ : Ariete (en ligne) เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 01:30:00

ความคิดเห็นที่ 3 ก่อนอื่นต้องขอชมเชย จขกท. ที่เป็นคนช่างสังเกต และ มีความอ่อนไหวต่อความสงสัย..เพราะคำคำเดียวนีั้..เป็นจุดหนึ่งของประวัติศาสตร์ทีเดียว..นายคลินตันได้สร้างบรรทัดฐานของ "ผู้นำ" ในอเมริการวมไปถึงที่อื่นๆในทั่วโลก..ให้รู้จักการใช้คำให้การอย่างระมัดระวังในยามที่ถึงคราวคับขัน.. หวังว่าคงจำกันได้ กับ"วลีเด็ด" ของเขาในเรื่องการสูบกัญชา..ที่เหล่าเพื่อนๆในสมัยเรียนได้ออกมาแฉว่าเคยตั้งก๊วน"พี้" กันที่อังกฤษ.. เขาได้ออกมาแก้ตัวว่า.. "When I was in England, I experimented with marijuana a time or two, and I didn't like it. I didn't inhale and never tried it again. เอากะพ่อซิ...รับว่าแตะต้องและลองกัญชาจริง...แต่ไม่ได้สูบเข้าไปในปอด...และไม่ชอบมันด้วย...เป็นแค่ประสบการณ์ที่พอให้รู้จักเท่านั้น.. ประชาชนก็ให้อภัย..เพราะทุกคนเคยผิดพลาดในสมัยเด็กๆด้วยกันทั้งนั้น.. ดังนั้น..การให้ปากคำของผู้นำ..จึงต้องกำกวมเข้าไว้..เผื่อให้มีทางหนีไฟต่อไปในข้างหน้าที่ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น.. จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 09:46:07

ความคิดเห็นที่ 4 ทีนี้มาถึงเรื่องของนาย John Edwards วุฒิสมาชิกคนดังแห่ง นอร์ธ แคโรไลน่า ที่มีลักษณะคล้ายๆกับ นายคลินตัน นั่นคือ เก่ง ฉลาด  รูปหล่อ..ที่เขาได้เป็นหนึ่งในตัวเลือกต่อการได้รับเลือกเข้าสนามแข่งขันชิงชัยประธานาธิบดีของสหรัฐ (2004-2008) เผอิญว่า..โชคไม่ได้เข้าข้างเขา..เพราะกระแสสนับสนุนยังไม่แรงพอ.. คะแนนในปี 2008  ออกมาดังนี้... 2008 Democratic presidential primaries    Barack Obama – 17,869,542 (48.2%)    Hillary Clinton – 17,717,698 (47.8%)    John Edwards – 1,006,289 (2.65%) ทีนี้มาถึงเรื่อง "The" ของนายเอ็ดเวิร์ด ที่กำลังจะเป็นกรณีที่ชี้เป็นชี้ตายในศาล...และอาจมีความหมายถึงการที่เขาอาจจะติดคุกสามสิบปี..หรือ หลุดคดี...เนื่องจาก.. ในช่วงที่เขากำลังเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ไฟแรง..และมีแววที่จะเข้าสู่ทำเนียบขาวอย่างแน่นอน ถ้ายังไม่ใช่ตอนนี้ก็อาจจะในอนาคตข้างหน้า..เพราะเขาได้ปูทางไว้ดีแล้ว อีกทั้งมีกลุ่มนายทุนให้ความสนับสนุน.. หากแต่นายเอ็ดเวิร์ดคนนี้ได้มี"กิ๊ก" คือ Rielle Hunter  และลูกอีกหนึ่ง..ซุกซ่อนไว้.. กิ๊กคนนี้..ได้มาช่วยงานในการหาเสียงตั้งแต่ปี 2006 ส่วน Elizabeth Edwards ภริยาของนายจอห์น เอ็ดเวิร์ดมาทราบเรื่อง"ข่าวลือ" นี้..ในปี 2008  อันเป็นปีที่สามีของเธอกำลังจะทำการหาเสียงพอดี..นับว่าเป็น"งานเข้า" ที่สุดเครียดของผู้ที่อยู่ในฐานะภริยา ทำให้สุขภาพของเธอทรุดลงเพระาอาการกลับมาของมะเร็งทรวงอก (ที่เคยเป็นและคุมได้แล้ว)   นายเอ็ดเวิร์ด ปฏิเสธคอเป็นเอ็นว่า...เขาไม่ได้เป็นพ่อของเด็ก...แต่มี"กิ๊ก" จริง จนกระทั่ง..มารับเพราะจำนนต่อหลักฐานในต้นปี 2010  นั่นเหมือนกับเป็นการตัดสายใยรักระหว่างเขากับภรรยาให้ขาดผึงไป..อลิซาเบธประกาศแยกทาง..ย้ายออกไปเพื่อเตรียมทำการหย่าร้าง.. แต่เธอได้มาเสียชีวิตในตอนปลายปีนั้นเอง..เพราะความอาดูรและโรคภัยใข้เจ็บ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 55 11:49:40 จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 10:17:43

ความคิดเห็นที่ 5 ผู้หญิงอเมริกันแทบทั้งประเทศต่างพากันเป็นเดือดเป็นแค้นกับการกระทำของนายเอ็ดเวิร์ด เหมือนพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก..ทางองค์กรตรวจสอบบัญชีของผู้ที่ได้รับเงินสนับสนุนทางการเมือง..เข้ามามีบทบาทในการใช้จ่ายในการหาเสียง.. เพราะ..ถือว่า..ถ้าผู้ชายคนหนึ่งสามารถโกหกได้แม้กระทั่งเมียที่เป็นแม่ของลูกถึงสี่คน..อีกทั้งเกื้อกูลกันมา ผ่านความโศกเศร้ามาด้วยกันอย่างแสนสาหัส (คือลูกชายคนโตเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุทางรถยนตร์) ดังนั้น เรื่องอื่นๆย่อมไม่น่าที่จะโปร่งใสด้วย.. การใช้เงินในการหาเสียง..ตามกฏหมายย่อมเป็นไปตามเจตนาของเจ้าของทุนสนับสนุน..นั่นคือ ค่าใช้จ่ายในทางรณรงค์ทางการเมือง...ไม่ใช่เอาไปจ่ายบิลค่าคลอดลูกของกิ๊ก..หรือ ไปเป็นค่าเช่าบ้าน หรือ ค่าผ่อนส่งรถ.. ซึ่งยิ่งคุ้ยไป..ก็ยิ่งเจอว่า นายเอ็ดเวิร์ด..ได้ใช้เงินเอาไปบำรุงความสุขของตัวเองกับครอบครัวใหม่ อันเป็นเรื่องที่ผิดกฏหมาย.. นายเอ็ดเวิร์ด และ ทีมทนาย..แทบจะหมดหนทางสู้แล้ว..เพราะหลักฐานชัดเจนขนาดนั้น เหลือทางรอดเพียงทางเดียว  นั่นก็คือการ"ตีความ" ในเรื่อง The เพราะตามกฏหมายได้ระบุไว้ว่า "campaign contributions means any gift, subscription, loan, advance, or deposit of money... for the purpose of influencing any election for federal office." ทางทีมทนายได้พยายามชี้ให้ศาลเห็นว่า..ข้อความนี้ที่หมายถึงกองทุนหาเสียงที่ได้มาในสารพัดรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการให้เปล่า..กู้ยืม..ขอยืม..โอนเข้าบัญชีนั้น..เพื่อใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ในการรณรงค์หาเสียงให้สำเร็จลุล่วง ดังนั้น..ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จะเป็นการทำให้เส้นทางหาเสียงไม่ติดขัด..นั่นคือ  for the purpose of influencing any election for federal office.  ซึ่งต้องใช้กันไปต่างกรรมต่างวาระ.. เพราะเรื่องค่าใช้จ่ายของ"กิ๊ก" นั้น..ก็มีส่วนต่อการที่จะให้ทำงานสะดวก เพราะเขามีความจำเป็นต้องปกปิดภรรยาไม่ให้ทราบเรื่อง..(ข่าวว่า..ภรรยาเขาเป็นคนที่โมโหร้ายมาก) อีกทั้ง..ตามกฏหมายได้ใช้คำว่า.. "The Propose" ซึ่งน่าจะหมายถึง..องค์รวมทั้งหมดในเจตนาและวิธีการที่หลากหลาย..(แล้วแต่ วิถีเหตุการณ์ของแต่ละบุคคล) ถ้า..กฏหมายไม่ได้หมายความอย่างนี้..ก็น่าที่จะเขียนไว้ให้ชัดเจนเป็น"หนึ่งเจตนา" ไปเลยว่า.. "for a purpose of influencing....." ทีนี้เราก็ต้องมาคอยดูกันต่อไป...ว่า..ศาลจะว่าอย่างไร..ว่านายเอ็ดเวิร์ด ศรีธนญชัยแห่งนอร์ธ แคโรไลน่า...จะติดคุก หรือ จะรอด..จะโชคดีอย่างนายคลินตันหรือไม่? แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 55 11:50:25 จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 10:54:14

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณ คุณWIWANDA ที่เล่าสู่กันฟัง ข้อมูลแน่นจังเลยครับ จากคุณ : ชาวทัวร์ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 15:08:42

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณมากครับอ่านเรื่องhitlerแล้วสนุกดีครับ จากคุณ : j เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 20:12:43 A:124.197.215.88 X: TicketID:131201

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าไปอ่านที่ใน blog เป็นงานบางส่วนเท่านั้นค่ะ...เรื่องฮิตเล่อร์ลงไว้แค่ สิบสี่ตอน...แต่มีมากกว่านั้น..รวมไปถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่นเรื่อง "เชลย" (ยิว) ถ้าสนใจจริงๆ...เชิญได้ค่ะ... http://www.iseehistory.com/index.php?lay=show&ac=member_main&actype=article&ntype=15 แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 55 22:37:32 จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 22:37:02