ความคิดเห็นที่ 1 เป็นแนวคิดที่ดีมากกกกกกกก อ่านแล้วแบบอึ้งมาก ไม่เคยคิดเรื่องแบบนี้เลย มาอยู่อังกฤษบ่นว่าแพงๆๆๆแต่พอมาดูที่คุณพูดแล้วมันจริงทั้งนั้น อาจจะเป็นเพราะเราเป็นนักเรียนเลยยังไม่มีรายได้ ซื้อะไรก้แพงไปหมด จากคุณ : Phanichakorn เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 23:16:34

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าเป็น กทม ก็จริงแหละ ตาม ตจว ก็เป็นบางที่ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว อย่างสมุยนี่ค่าครองชีพแพงกว่า กทมอีกนะ ของ import เมืองไทยแพงจริงๆ เสื้อผ้าในห้างลดราคาแล้ว 50% ก็ยังแพงราคาตั้ง 500-600 บาท (ของเด็กและไม่ใช่ของนอก) ถ้าไปซื้อตามตลาด คุณภาพก็ไม่ดีเลย ซักสองสามทีก็พังแล้ว ไปซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ตเช่น Tops นี่สองพันบาทอยู่ได้ไม่ถึงอาทิตย์นะ จากคุณ : yinnerella เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 23:20:55

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นด้วยค่ะแพงขึ้น... หมายถึงระดับวิถีชีวิตคนไทยนะคะ ไม่เอาค่าเงินดอลฯ ปอนด์ หรือยูโร ไปเปรียบเทียบ ตอนนี้พักชั่วคราวที่นี่... ดิฉันปรับตัวเองให้ใช้ชีวิตเหมือนคนไทยเดินทั่วๆไป เดินถนนมากกว่าคนทั่วๆไป ดิฉันเดินทางทั้ง BTS และขึ้นรถเมล์ธรรมดา มีเวลาว่างมาก ได้ศึกษาสภาพแวดล้อมแต่ละถิ่นที่ผ่าน... ถ้าอยู่แบบหกเดือนอย่างดิฉัน ถ้ากินแบบฟุ่มเฟือย เงินที่พกมาจะหมดไปเร็วมาก... ค่าไฟฟ้าที่พักอยู่เจ้าของคิดเพิ่มต่อยูนิทละ ๘ บาท... เดือนที่ผ่านมาเสียค่าไฟไป ๒พันกว่าบาท เกือบเท่ากับค่าไฟในอเมริกาที่จ่ายต่อเดือน Level billing $80-85 ดิฉันซื้อกินอาหารทั้งที่ร้านหรู และ กินอาหารจากรถเข็น (เฉพาะบางเจ้าเท่านั้น) รถเข็นขายอาหารส่วนมาก ...สกปรก มักง่าย ..ดิฉันเห็นหลายเจ้าแล้ว... คนที่กินๆนี่ต้องกระเพาะเหล็ก อาหารการกินข้างถนนอยู่ที่ ๓๐... ๓๕.. ๔๐ และให้น้อย เพิ่มพิเศษนี่แทบไม่แตกต่างจากราคา ๓๐ บาทเลย หาของกินที่ราคา ๓๐ บาทที่อร่อย ยากมาก กาแฟเย็นถุงละ ๑๕ บาท... ย่านคนรวยถุงละ ๒๐ ขนาดแก้วเล็กลง ก๋วยเตี๋ยวชามละ ๓๐ ราคาปกติมีน้อย ส่วนมากที่ ๓๕... ๔๐ และพิเศษที่ ๔๕ แทบไม่แตกต่างกัน ผักสดแบ่งใส่ถุงๆละ ๑๒.. ๑๕ บาท ข้าวสุกแบ่งขายถุงเล็ก ๗ บาท... ย่านคนรวย ๑๐ บาท ดิฉันพักใกล้ทองหล่อมาก เมื่อวานเดินผ่านแผงขายทุเรียนแกะแล้ว ห่อพลาสติค มีสองพลูเล็ก เขียนราคาไว้ ๒๐๐ บาท ดิฉันเดินหาซื้อตับย่างจะซื้อไปให้แมว... แถวทองหล่อขายไม้ละ ๑๐ บาท เล็กเหมือนไม้ละ ๕ บาท... แม่ค้าปากไม่ดี พูดใส่ดิฉันว่า ขายแถวน้ต้องราคาแบบนี้ ถ้าไปแถวอุดมสุขขายไม้ละ ๕ บาท เหมือนกัน ลูกชิ้นสี่ลูก ไม้ละ ๑๐ บาท กล้วยแขกทอด ๕.. ๗ ชิ้น ๒๐ บาท.. มันทอด ๕ ชิ้น ๒๐ บาท ... เดี๋ยวนี้ฝานชิ้นบางมาก ถั่วต้มเร่ขายขายกระป๋องละ ๑๐ บาท และคนขายบางคนออกแบบกระป๋องตักถั่วให้ "ก้นตื้น" แต่ทำเป็นกระป๋องยาวปกติ... หลอกตาคนซื้อ บางโซนที่เป็นโซนคนทำงานหาเช้ากินค่ำ อาหารจะขายถูกลงมา แต่คุณภาพตามราคาถูก ปล. ดิฉันไม่ซื้ออาหารวัตถุดิบทำกินเองนะคะ ไม่มีครัว... ออกไปซื้อกินสำเร็จรูป... ถ้าเจ้าไหนให้สนนราคา ดิฉันก็จะกลับไปกินเจ้าเดิมๆประจำ เสื้อผ้าสำเร็จรูปบางชนิด ต้องคำนวณเป็นเงินดอลฯ แล้วจะบอกได้ว่า เสื้อผ้าบางในไทยแพง.. วันก่อนถามราคากางเกงขาสั้นผ้ายืดเพื่อใส่กับกระโปรงสั้น... ราคา ๒๐๐ บาท ราคาเท่ากับขายในอเมริกา ๖ ดอลฯ จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 23:28:00

ความคิดเห็นที่ 4 ร้าน $1 ในนิวยอร์คที่สินค้ามาจากจีน ขายถูกกว่าในไทย... หาของที่ราคา ๓๐ บาทไม่ได้แล้ว ได้เคยแวะเข้าร้านญี่ปุ่น ในซอยญี่ปุ่นร้านราคา 50-60-70บาท... ของยังขายแพงกว่าร้าน $1... สินค้าส่วนมากที่ขายในร้านญี่ปุ่นั้นทำมาจากจีน... น้อยมากที่มาจากญี่ปุ่น จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 23:34:45

ความคิดเห็นที่ 5 รู้สึกเสมอค่ะ ว่าค่าครองชีพที่ กทม. แพงมากและมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง (เช่น รถไฟฟ้า) ค่าอาหาร ค่าไฟ และสินค้าอื่นๆ ฯลฯ ส่วนตัว เลยเลิกไปช็อปปิ้งที่เมืองไทยมานานแล้วค่ะ รอซื้อช่วง sale ที่นี่ (ซูริค) หรือไม่ก็ไปช็อปที่อเมริกาแทน (แต่ในทางกลับกัน เวลาไปเดินในห้าง เช่น พารากอน หรือ T21 ไม่ว่าเวลาไหน คนเยอะมากๆ... ร้านอาหารแทบจะไม่มีที่นั่ง บางครั้ง เลยทำให้คิดว่าคนกรุงเทพฯส่วนใหญ่นี่รวยจัง...) จากคุณ : Miss_Behaving เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 23:35:47

ความคิดเห็นที่ 6 ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ของในตลาดที่ไทยแพง แต่ประเด็นคือ เรามีรายได้น้อยกว่ามาตฐานโลก น้อยไปหน่อยนะครับ จากคุณ : อุบาสกฉางชุน เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 00:01:01

ความคิดเห็นที่ 7 คิดเหมือน จขกท ค่ะ กลับไปขอนแก่นปีที่แล้ว 6 อาทิตย์ เห็นร้านสตาร์บ้คไม่กล้าซื้อกินค่ะทั้งๆที่ถือเงินดอลล่าร์นะ อยู่อเมริกากล้าซื้อกินค่ะ แก้วล่ะ 5 ดอลล่าร์ทำไม่ถึงชั่วโมงก็ได้แล้ว เป็นคนติดกาแฟสตาร์บัคค่ะ ชงกินเองที่เช้าที่นี่บางวันชงกินบ่ายเป็นกาแฟเย็นก็ยิ่งถูกกว่าไปที่ร้าน งง ว่าคนไทยรวยนะ ตอนอยู่ที่ขอนแก่นนั่งกินกาแฟโกปี๋กะพ่อค่ะ ขืนไปกินสตาร์บัคโดนพ่อดุอย่างแน่นอนว่าแพงมาก จากคุณ : applematrix เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 00:09:07

ความคิดเห็นที่ 8 จริงที่สุด โดนเลยอ่ะ จากคุณ : lovedaddy06 เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 00:13:55

ความคิดเห็นที่ 9 คิดมานานและเคยบอกคนที่เมืองไทยมาแล้ว.. เค้าไม่เชื่อกัน -_- จากคุณ : pervpanda เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 00:22:25

ความคิดเห็นที่ 10 เเพงจิงๆค่ะถ้าเทียบกับค่าครองชีพ จากคุณ : mon kiwi เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 00:49:04

ความคิดเห็นที่ 11 ความรู้สึกเดียวกับ คห.5 (ย่อหน้าสุดท้าย) เลย เราถือเงินยูโร ยังไม่ไปนั่งกินในพาราก้อน แต่ผ่านไปทีไรคนตรึม (เราไปเดินเล่นตากแอร์) รถไฟ้ฟ้างี้ แพงยังไงคนก็แน่นตึบ แต่รถเมล์ฟรีงี้โล่งเชียว ถ้าไปไหนมาไหนคนเดียวเราเลือกนั่งรถเมล์ฟรีตลอด มันอยู่ที่การเลือก เสื้อผ้าเราไปซื้อที่ประตูน้ำ ราคาส่ง กางเกงขาสั้นใส่สบายๆ ตัวละไม่ถึงร้อย เสื้อก็ร้อยกว่าบาท (สมัยก่อนยังตั้ง 199 ) แกงถุงละ 30 เรากินได้ตั้ง 2 มื้อ หม้อหุงข้าวใบละ 300 กว่าบาทเอง อยู่เมืองไทยแค่เดือนเดียวก็ยังคุ้ม ถ้ารักหรู ดูดี มีคลาส คุณภาพเริ่ด ก็อย่าบ่นเลย จากคุณ : จริงๆ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 00:57:56 A:124.120.111.115 X: TicketID:346678

ความคิดเห็นที่ 12 เรารู้สึกมาตั้งนานแล้ว เคยคุยเรื่องนี้บอกว่าของกรุงเทพแพง เค้าก็แย้งว่ามาแบบนักท่องเที่ยวก็แพงนะสิ แต่เราไปไหนนี่นั่งรถเมล์นะ taxi ปกติคนเดียวไม่ขึ้นอยู่แล้วกลัว กลับบ้านก็กินที่บ้านเนี่ยล่ะ วันนึงเราต้องออกไปซื้อวัตถุดิบมาทำก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่กินกันทั้งบ้าน เอาไป 500 เหลือมาไม่เท่าไร หมดไปหลายนะ ทั้งๆที่ไปตลาดสดธรรมดานี่แหละ เห็นพูดถึง starbugs กัน ไปนัดเพื่อนมาเจอที่ร้านเพราะมันง่าย ปกติก็ไม่กินอยู่แล้ว ตอนนัดก็บ่ายครึ่ง เชื่อเปล่า คนเข้าแถวรอซื้อกาแฟขดไม่รู้ตั้งกี่ขดอยู่ข้างใน พอเพื่อนเรามาก็เปลี่ยนร้านเลย ขืนไปรอซื้อเมื่อไหร่จะได้กินก็ไม่รู้ ทำไมคนกรุงเทพรวยกันจริงๆ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 55 01:06:45 จากคุณ : pixp เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 01:02:50

ความคิดเห็นที่ 13 อะ ผมลองเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้ดู เปรียบเฉพาะปัจจัยพื้นฐานที่ต้องกินต้องใช้นะ อันนี้ลองเทียบค่าแรงฝรั่ง ชมละ 6 ปอนด์ กับค่าแรงคนไทยชมละ 30 บาทนะครับ ตั๋ววันของอังกฤษ ใช้ได้ทั้งรถไฟฟ้า ใต้ดิน รถบัส ฯลฯ ราคา 8.4 ปอนด์ คนอังกฤษ ทำงาน 2 ชม. ซื้อบัตรได้แล้ว ตั๋ววันของ BTS ใช้ได้เฉพาะ BTS แต่ใช้กับรถเมลล์ไม่ได้ MRT ไม่ได้ ราคา 130 บาท คนไทยทำงาน 3 ชม. นั่ง BTS ได้อย่างเดียว ใครไปทำงานต้องต่อรถก็หนักหน่อย ฝรั่งกินมันฝรั่งเป็นอาหารหลัก ซื้อกระสอบใหญ่ 5 kg ตกกิโลละ 0.4 ปอนด์ ทำงาน 1 ชม ซื้อมันฝรั่งได้ 15 kg คนไทยกินข้าวเป็นหลัก ซื้อข้าวกระสอบละ 5 kg กิโลละ 25 บาท (ราคานี้มั้ย ผมไม่แน่ใจ) ทำงาน 1 ชม ซื้อข้าวสารกินได้ 1 kg เศษๆ เสื้อผ้าฝรั่ง เสื้อยืดแบบถูกๆ พอใส่ได้ ตัวละ 4 ปอนด์ ฝรั่งทำงาน 1 ชม ซื้อเสื้อได้ 1 ตัว แถมมีเงินเหลือ เสื้อยืดในเมืองไทย ถูกๆ ตัวละ 100 บาท คนไทยทำงาน 3 ชม ซื้อเสื้อได้ 1 ตัว ******************************** คุณ Jidnince ครับ เห็นด้วยมากกกก ว่าของกินเมืองไทยแพง แถมไม่เขียนราคาบอกด้วย ผมเคยไปซื้อไส้กรอกอีสาน จากร้านรถเข็นริมถนน ตรงสวนลุม ก็ถามคนขายว่า ราคาเท่าไหร่ เค้าไม่ตอบ ถามว่าเอากี่ไม้ ผมก็บอกว่าเอา 2 ไม้ หนึ่งไม้มี 2 ลูกกลมๆ เท่าลูกชิ้น พอจ่ายเงิน เค้าบอกว่า 30 บาท คือตกไม้ละ 15 บาท จ่ายเงินแล้วอึ้งเลยว่า ทำไมของกินริมถนนเมืองไทยแพงขนาดนี้ ทั้งที่ค่าที่ ค่าน้ำค่าไฟก็ไม่ต้องเสีย คุณ Applematrix เหมือนผมเลย อยู่เมืองนอก ซื้อของกิน พวกกาแฟ แซนวิช ขนมเค้ก ซื้อนอกบ้านกิน รู้สึกว่า เออ ไม่แพงนะ คุณภาพก็ดี แต่กลับไปเมืองไทย ขนาดถือเงินปอนด์กลับไป แลกเป็นเงินบาทได้เยอะนะ แต่ยังไม่กล้าซื้อ เพราะรู้สึกว่าแพงมาก แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 55 01:21:48 จากคุณ : seabreeze_psu เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 01:07:34

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยอย่างมากค่ะ โดยเฉพาะของตามห้างเดี๋ยวนี้ไม่ถูกเลยนะคะ ส่วนเสื้อผ้าเราก็ซื้อที่อเมริกาแล้วเหมือนกัน เพราะถ้า sale แล้วราคาถูกมากค่ะ จากคุณ : Mononoke เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 02:10:55

ความคิดเห็นที่ 15 ปัญหาเดียวสำหรับตัวผม  คือยังไม่รู้จักค่าของเงินไทยเพียงพอ ผมรู้จักแต่ว่า $100  นั้นมันมีค่าอย่างไรซื้ออะไรได้บ้าง   แต่เงิน 100 บาทของไทย  นั้นคือ $1 ของผมนั้นแหละ (ในความคิด จากสมองของตนเอง) แต่จริงๆแล้ว ผมจะขาดทุนไปตั้ง 70 บาท บอกตามตรง   ว่าความคุ้นเคยนั้น มันแก้ยากจริงๆ  ทำให้ใช้เงินเพลิน  เพราะสมองจำได้แต่สิ่งที่คุ้นเคย  ทำให้อยู่เมืองไทย  แพงมากๆ ปัญหาของผม  คืออยู่ที่อเมริกา  นานกว่า  เมืองไทย  "เท่านั้นเอง" จากคุณ : hollywop เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 02:16:48

ความคิดเห็นที่ 16 ซื้อกระเป๋าสะพายของจริง ตอนลดราคา ยังถูกกว่ากระเป๋าก๊อปที่เมืองไทยอีก ก่อนกลับได้กางเกงตีเบสบอล ลดราคาให้ลูกชาย ตัวละ$3.5 เอง จะหาราคานี้ คุณภาพดีแบบนี้ ได้จากเมืองไทยเหรอค่ะ? จากคุณ : jasdorn เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 02:39:15

ความคิดเห็นที่ 17 วันก่อนบอกเพื่อนคนญี่ปุ่น(แต่สถานที่คุยอยู่ในยุโรป)ว่ามาจากเมืองไทย เพื่อนญี่ปุ่นบอกว่า You come from the rich country. ฟังแล้วงงไปสามวิ แต่ข้าวของในเมืองไทยเดี๊ยวนี้ก็แพงจริงๆแหละ กินข้าวแถวมหาลัย มื้อหนึ่งเกือบสองร้อย (ข้าว น้ำ ขนม) อยู่มอทั้งวันตกสี่ถึงหกร้อย เดินทางอีกสองร้อย จน เมี๊ยวว จากคุณ : เด็กบ้านนอก (slothmachine) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 03:14:36

ความคิดเห็นที่ 18 อ่านกระทู้นี้แล้วนึกถึงพี่สาวเลยค่ะ ตอนมาจากเมกาใหม่ ๆ กินข้าวมื้อนึง 300 บาท เค้าบอกถูกมาก ๆ แค่สิบเหรียญ พออยู่ไปสักสองอาทิตย์ เริ่มบ่นละ ว่าข้าวของแพง จากคุณ : หน้าแง๊ว~* เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 03:36:15

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยค่ะ วันนี้ไปทานข้าวร้านเกาหลีแถวที่พักจ่ายไป 25ปอนด์ = 1250บาท ถ้าทานที่เมืองไทยแบบนี้ก็ราคาไม่ต่างกันเลยจริงๆค่ะ ทำให้คิดว่าถ้ายิ่งทำทานเองนี่จะประหยัดขนาดไหน ส่วนตั๋ววันก็เหมือนกันวันนี้ซื้อโซน1-4 ขึ้นลงจนพรุน คุ้มกะเงินสามร้อยกว่าบาทที่จ่ายไปจริงๆ :) จากคุณ : ฟากฟ้าฝั่งฝัน เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 03:41:52

ความคิดเห็นที่ 20 จริงแท้ อยู่นิวซิแลนดืนะ ซ์้อกับข้าวสำหรับสี่คน ต่ออาทิตยหนึ่ง สองร้อยกว่าดอล ทำเองทุกวัน แต่พอไปไทยอะนะ ซื้อทีไร เป็นหลายร้อย ๆ เป็นพันก็มี ถ้าจะทำเองนะ สำหรับมื้อเดียวเองด้วย ไข่ที่ไทย ก็ราคาสู่สีกะทีนี้แล้วด้วย ผลไม้บางอย่าง ก็ราคาพอกันไปแล้วด้วย แพงจริงจัง ราคาขึ้นแล้วก็ไม่เคยลงอีกเลย ไปเมืองไทย ใช้เงินมากกว่าอยู่เมืองนอกอีก จากคุณ : แม่หมูปิ้ง เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 04:27:37 A:122.61.222.1 X: TicketID:142447

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าเปลี่ยนเป็นค่าครองชีพในกรุงเทพฯ แพงกว่าเมืองนอกจะเห็นด้วยครับ ถ้าทำกินเองโดยซื้อวัตถุดิบจากตลาดสดผมว่าหลาย ๆ อย่างที่ไทยยังถูกกว่าครับ เล่นเปรียบเทียบค่าแรงขั้นต่ำ มันก็ต่างกันชัดเจนอย่างที่ จขกท เขียนมาแหล่ะครับ มันเป็นเหตุผลให้ประเทศพวกนั้นมาลงทุนในไทยเพื่อผลิตของใช้ส่งกลับไปขาย แรงงานราคาถูกนิครับ ตอนผมกลับเมืองไทยใหม่ ๆ ก็เคยเปรียบเทียบครับ ว่าเนื้องานที่ผมทำเหมือนกับฝรั่งที่ทำที่อเมริกา แต่ผมได้เงินน้อยกว่าเขา 4 เท่า แต่ลองคิดว่า ถ้าผมอยู่ที่ไทยแล้วได้เงินเท่าฝรั่งในอเมริกา ผมอาจจะไม่ได้งานนั้นทำเลยก็ได้ จากคุณ : เอาชื่อรัยอ่ะ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 04:51:03

ความคิดเห็นที่ 22 รู้สึกค่ะ อยู่ที่นี่อเมริกา - รู้สึกว่าเงินเดือนสัมพันธ์กับค่าครองชีพ ในกณีคนโสดนะคะ เช่น บางคนอาจได้ค่าแรงขั้นต่ำ แต่ถ้าประหยัด ไม่ฟุ่มเฟือยจนเกินไปจริงๆ อยู่ได้ ค่ะ เมืองไทย - ตามเมืองใหญ่ๆ ไม่เฉพาะในกรุงเทพ ค่าครองชีพแพงมาก ค่าใช้จ่ายแบบเดือนชนเดือน แต่สุดท้ายพอมาคำนวณดู ไม่มีเงินเก็บเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 55 05:21:44 จากคุณ : Bounty เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 05:21:12

ความคิดเห็นที่ 23 จริงค่ะ..ต้นปีกลับไทยอยากพาแม่ไปทัวร์กินของอร่อยๆ เห็นราคาแล้วตกใจเลย มันแพงกว่าเมื่อก่อนมาก ทานร้านข้าวต้มธรรมดาที่กรุงเทพ 3คน หมูัดกระเทียม ต้มยำกุ้ง แกงป่า ผัดหอยลาย ข้าว+น้ำอัดลม ไม่มีแอลกอฮอลล์รวมเกือบ 700บาทแต่ก็ทำใจแล้วตั้งแต่อ่านเมนู นึกถึงตอนที่เราทำงานอยู่ไทยของพวกนี้คงจะไม่ได้กินแน่ อาหารที่ไม่ได้หรูหราอะไรเลยแต่ต้องรอโอกาสพิเศษจริงๆ T_T จากคุณ : love mom so much เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 05:37:54

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นด้วยกับทุก ๆ ความเห็นเลยค่ะ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยอยากกลับบ้านแล้วยิ่งที่บ้านคนเยอะไปทีไรก็หมดเงินไปเยอะ โดยเฉพาะกรุงเทพยิ่งเห็นได้ชัดว่าแพงมากกก เราไม่มีบ้านอยู่ต่างจังหวัดเลยไม่ค่อยรู้เรื่องค่าครองชีพต่างจังหวัด.. ได้แต่สงสารคนทำมาหากินที่อยู่กรุงเทพรายได้น้อยแต่ค่าครองชีพแพงมหาโหด (แต่ก็แปลกใจที่เห็นคนกรุงเทพขับรถใหม่ป้ายแดงเกลื่อนถนน แถมตามแหล่งช้อปปิ้งต่าง ๆก็เต็มไปด้วยผู้คนบางทียังคิดเลยว่าคนบ้านเรานี่อาจจะมีเงินมากกว่าที่เราคิดก็ได้) >< เปลี่ยนเป็นให้พ่อแม่มาหามาอยู่ด้วยยังจะถูกกว่าเราไปหาแกทั้งครอบครัวแถมพวกท่านได้มาอยู่ด้วยหลาย ๆ เดือน ได้ทำกับข้าวให้หลาน ๆ กิน ได้มานั่ง ๆ นอน ๆ ให้เราดูแล...ถ้าบ้านเราไปเมืองไทยก็อยู่ได้อย่างมากเดือนเดียว (หลายเดือนก็จนแน่ ๆ) จากคุณ : Charleigh v เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 05:51:45

ความคิดเห็นที่ 25 อันนี้เห็นด้วยมานานแล้วนะ กลับไปเมืองไทยครั้งล่าสุด ไปกินก๋วยเตี๋ยวเป็ดที่จตุจักรชามละ 40 บาท มีเส้นก๋วยเตี๋ยวไม่กี่เส้น และเป็ดไม่กี่ชิ้น ต้องสั่งสองชาม ปาเข้าไป 80 แล้ว รวมน้ำด้วยก็ร้อยบาทพอดี พอคิดเป็นเงินดอล ก็แค่สามดอลกว่าๆ มันไม่แพงหรอกสำหรับคนที่ทำงานที่เมืองนอกแล้วกลับไปเที่ยวไทย แต่คนไทยที่ต้องหาเงินที่เมืองไทยนี่สิ แพงมากกกก อีกอย่างที่เกลียดคือ ตลาดบางแห่ง พ่อค้าแม่ขายเจ้าเล่ห์มากกก โดยเฉพาะผลไม้ ผลไม้บางอย่างเราเห็นแต่ไกลว่า 40 บาท พอซื้อเข้าโลนึง แม่ค้าบอก 80 บาท ก็งงน่ะสิ อ้าว มันโลละสี่สิบไม่ใช่หรือ แม่ค้าบอกว่าไม่ใช่ ครึ่งโลสี่สิบบาท แต่คำว่าครึ่งนี่ เขียนแบบต้องเอาแว่นขยายไปส่อง แต่คำว่าโลที่เขียนติดกันนี่ เขียนตัวใหญ่ เห็นได้ในระยะไกล เสียรู้แม่ค้าไปตามระเบียบ นอกจากเสียรู้แล้วยังขี้โกงด้วยนะ เช่นซื้อส้ม แม่ค้าบอกว่าต้องช่วยกันหยิบ คือไม่ให้เราเลือกคนเดียว แกหยิบๆ ใส่เข้าด้วย พอกลับบ้าน เอาออกจากถุงมา เน่าไปหลายลูกเลย ตอนหลังไปซื้อผลไม้ เราถามก่อนเลยว่าเลือกได้หรือเปล่า ถ้าเลือกไม่ได้ก็ไม่ซื้อ เข็ดจริงๆ ไม่งั้นก็ต้องให้เงินเพิ่มไป แล้วบอกว่าเราขอเลือกเอง บางร้านก็ยอม บางร้านก็ไม่ยอม แม่ค้าหยิบให้เท่านั้น ถ้าเป็นแบบตลาดที่ออสเตรเลียเราไม่ว่าหรอก เพราะตลาดในเมือง แม่ค้าก็ไม่ให้เลือก เขาจะหยิบให้เรา แล้วหยิบของดีๆ ให้ ไม่ใช่เอาของเน่าของเสียใส่มาขายแบบเมืองไทย (ตลาดบางแห่ง) เซ็งสุดๆ จากคุณ : ข้าวปั้น เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 06:06:09 A:122.111.4.231 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นด้วยค่ะ แพงขึ้นมากจริงๆ เพื่อนฝรั่งเรา ไปเมืองไทย (เค้าเป็นลูกครึ่งไทย) ...เค้าก็บอกว่า คนไทยรวยมาก มีห้างใหญ่มากอย่าง พารากอน เซ็นทรัลเวิร์ล และคนแน่นตลอดตามร้านอาหาร และห้าง จากคุณ : Halimeda Lover เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 06:20:52

ความคิดเห็นที่ 27 เราอยู่ในดีซี กินใช้สบายๆ เหมือนอยู่ในเมืองไทย ยังมีเงินเหลือเฟือ สัดส่วนค่าอาหารและของใช้ส่วนตัวรวมแล้วค่ะหนึ่งในสี่ของรายได้เอง...ของกินหลายอย่างก็ถูกด้วย อย่างไก่ ไข่ มัฟฟินก้อนใหญ่ที่กินเป็นอาหารเช้า เจ็ดแปดชิ้น ขายห้าเหรียญกว่าเอง ถ้าเอาคุณภาพขนาดนี้ เมืองไทยต้องสามสิบกว่าบาท ขณะที่เมืองไทยถ้าได้เงินเดือนสองหมื่น ค่าอาหารอย่างเดียวก็ปาไปประมาณ หกพันบาท (วันละสองร้อย นอกจากอาหารสามมื้อ ยังรวมถึงนม โยเกิร์ต ขนม ผลไม้ เครื่องดื่ม) ค่ารถอีกพันกว่า น้ำ ไฟ  อินเตอร์เน็ต โทรศัพท์ และค่าเช่าห้อง...หมดพอดี ยังไม่ได้รวมเงินที่ส่งให้แม่ เรื่องช้อปเสื้อผ้าเครื่องประดับ...ต้องเก็บตังค์และรอโอากาสพิเศษจริงๆ แต่อยู่ที่อเมริกา ถ้าทำงาน อยากได้อะไรก็ได้ แม้แต่รถก็ไม่ยาก (เมืองไทยแพงมหาโหดจนไม่กล้าคิดเลย) เรากินสตาร์บัควันละสองสามแก้ว กินอาหารเย็นดีๆ นอกบ้าน...รวมแล้วยังแค่เงินค่าแรงสองสามชั่วโมงเอง ...อยู่ที่นี่ทำให้สุรุยสุร่ายมากเลย ปล. เสื้อผ้าประตูน้ำ แพล็ตตินั่ม...ไม่เชิงว่าถูกนะ แพงมากๆ ก็มี แถมไม่ไห้ลองด้วย...ที่นี่ของถูกกว่า ลองได้ด้วย แถมไม่พอใจยังเอามาคืนได้อีก...คนละเรื่องกันเลย ยังนึกไม่ออกว่ากลับไปกรุงเทพฯ แล้วจะอยู่ยังไง เฮ้อ.... ว่าไปแล้วคนไทยนี่รวยจริงๆ รถราคาแพงกว่าที่นี่เท่าตัวยังซื้อกันโครมๆ ห้างใหญ่ๆ ร้านอาหารแพงๆ ดังๆ คนนั่งเต็มตลอด...เด็กนักเรียนก็แบรนด์เนมหัวจรดเท้าแถมมือถือก็สมาร์ทโฟนยี่ห้อดังกันทั้งนั้น.... แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 55 06:38:03 จากคุณ : kiria chalee เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 06:32:16

ความคิดเห็นที่ 28 ค่าอย่างอื่นเช่น -ค่าเล่าเรียนบุตรหลาน(ถึงระดับมหาลัย) -ค่ารักษาพยาบาล ถูกกว่าเมืองนอกหรือเปล่าคะ จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 06:37:03

ความคิดเห็นที่ 29 พี่เราอยู่นิวยอร์ค กลับมาเยี่ยมญาติที่ไทยก็บอกว่าค่าใช้จ่ายไม่ต่างจากอยู่ที่โน่นเท่าไหร่เลย คือพอๆกับอยู่ที่โน่นเลย เจ๊แกเลยบอกว่าปีหน้าไม่มาดีกว่า อ้าว จากคุณ : ฉันชอบวินเทจแล้วไง??? เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 08:53:52

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่ใช่อุปาทานหมู่หรือคิดกันไปเอง ใช่ม้ายยยยยยย จากคุณ : passport เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 09:12:12 A:110.168.186.138 X: TicketID:356941

ความคิดเห็นที่ 31 ความคิดเห็นที่ 12 เห็นพูดถึง starbugs กัน ไปนัดเพื่อนมาเจอที่ร้านเพราะมันง่าย ปกติก็ไม่กินอยู่แล้ว ตอนนัดก็บ่ายครึ่ง เชื่อเปล่า คนเข้าแถวรอซื้อกาแฟขดไม่รู้ตั้งกี่ขดอยู่ข้างใน พอเพื่อนเรามาก็เปลี่ยนร้านเลย ขืนไปรอซื้อเมื่อไหร่จะได้กินก็ไม่รู้ ทำไมคนกรุงเทพรวยกันจริงๆ แหม... ไม่ยักรู้ว่าเดี๋ยวนี้ จิ้งหรีดทอด หนอนทอด เปิดบริการในห้างแล้ว ความคิดสร้างสรรค์ดีมากเลยครับที่จะแข่งกับ StarBucks โดยขาย จิ้งหรีด Fraps ได้ทั้งโปรตีนกับความหวามมันของ Whipping Cream ขอเข้าเรื่องหน่อยก็แล้วกัน ลองเปรียบเทียบครอบครัวที่มีรถยนต์ เติมน้ำมันเต็มถัง ครั้งละเท่าไร แล้วเดือนหนึ่งเติมกี่ครั้ง แล้วแต่ละวันต้องจายค่าทางด่วนกี่จุด ทั้งไปและกลับ.......เดือนหนึ่งก็มีเงินเหลือสักกี่บาท จากคุณ : A|E เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 09:20:38

ความคิดเห็นที่ 32 ค่าเรียน ค่ารักษาพยาบาล อย่าเทียบเลยยยยยยยยยย เมืองนอก เรียนฟรี รร รัฐได้มาตรฐานดี สอนดี รักษาพยาบาลฟรี หมดทุกอย่าง เมืองไทย รร รัฐ ไม่ได้จะดีหมดทุกที่แม้ว่า จะถูกมาก ถ้าประถมเอกชนละก็ อ่านในห้องชานเรือนงง ไปเลย ค่าเทอม เกือบแสนทั้งนั้น ไม่ก็เกินกว่านั้น คนปกติธรรมดา เงินเดือนไม่ถึงแสนอยู่ลำบากนะ เราว่า คชจ สูงมาก ไป ๆ มา ๆ เมืองไทย ไม่ถูกแล้วนะเนี่ย สวัสดีการต่างๆ อื่น ๆ มันน้อยนะ แบบคนตกงาน ได้เงินรัฐนะ ไม่มี หรือแค่ทำ ทุก รร รัฐ ให้มาตรฐานเท่ากันหมด ก็ยังไม่ได้นะ โอกาสของคนในสังคมเลยไม่เท่ากันซะที จากคุณ : แม่หมูปิ้ง เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 09:23:21 A:122.61.222.1 X: TicketID:142447

ความคิดเห็นที่ 33 เรื่อง น้ำมันยิ่งไปใหญ่เลยดิ กทม จะไปไหนที ก็ไกลทั้งนั้น ขับเป็น ชม แค่ในเมืองเอง รถติดตลอด แฮะ ๆ เติมที่เต็มถัง สองวันหมดแล้ว เมืองนอกนะ รถไม่ติด ใกล้ไปหมดทุกที เต็มถังใช้ได้เกือบสองอาทิตยง่าย ๆ ถ้าวน ๆ แค่ส่ง ลูก รับ ลูก กะซุปเปอร เนี่ย จากคุณ : แม่หมูปิ้ง เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 09:25:41 A:122.61.222.1 X: TicketID:142447

ความคิดเห็นที่ 34 มันเป็นบางอย่างค่ะ  ตอบจากที่เคยอยู่ " ญี่ปุ่น " นะคะ 1. ของที่เมืองนอก ราคาถูก ค่าหนังสือ, ค่ารถไฟ-รถเมล์, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ไม่ใช่รุ่นใหม่ล่าสุด ต้องชื่นชมว่าประเทศนี้ หนังสือดีมาก และถูกมาก เคยซื้อหนังสือประวัติศาสตร์โลก เป็นตำราเรียนที่สนุกมาก พิมพ์ 4 สี ในราคา 800 เยนเท่านั้น ....... ราคานี้เท่ากับค่าอาหาร 1 มื้อ  ........ เห็นได้ชัดเจนว่า ทำไมผู้คนถึง  " ฉลาด "   หนังสือเมืองไทยแพงอ่ะ  เข้าร้านหนังสือ ที่ขายดี เป็นพวกดาราหน้าอกใหญ่ๆ  กอสซิปดารา  หนังสือหมอดู มีญาณวิเศษมองเห็นภพชาติ  ฯลฯ   เห็นได้ชัดเจนว่า มันจะ " บ่มเพาะสติปัญญา " กันอย่างไร  ??? 2. ของที่เมืองนอก ราคาแพง 2.1  ค่าเช่าบ้าน - ประกันบ้าน - ย้ายบ้าน  ........ ย้ายบ้านทีนึงแทบหมดตัว 5555+ 2.2  ค่าจ้างพนักงานบริการ ......... อะไรที่เกี่ยวกับ " การใช้แรงงานของคน " 2.3  ค่าอาหาร   2.4  ค่าท่องเที่ยว 2.5  ค่ารถ Taxi ....... เคยตกรถไฟ ต้องนั่งแท๊กซี่  จนเลย  5555+ 2.6  ค่าเสื้อผ้า ....... เสื้อกันหนาวต้องรอ SALE แล้วงัดมาใส่ปีหน้า 2.7  ค่าเล่าเรียน .......... ญี่ปุ่น ค่าเทอมในมหาลัย แพงที่สุดในโลก เมืองไทยมันแปลกตรงที่ว่า  สมมติคุณจ้างพนักงานมาซ่อมก็อกน้ำ  สิ่งที่ราคาถูก คือ ค่าจ้างช่าง ทั้งที่มันเป็นงานวิชาชีพ  แต่สิ่งที่แพง คือ อะไรที่เป็นวัสดุอุปกรณ์ ตัวหัวก็อกน้ำ ท่อน้ำ ในทางกลับกัน  ที่เมืองนอก  ค่าจ้างช่างจะแพง แต่ค่าอุปกรณ์จะถูกกว่า เห็นได้ชัดว่า ประเทศพัฒนาแล้ว กับประเทศกำลังพัฒนา ให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพชีวิตของคนทำงาน แตกต่างกันอ่ะนะคะ ปล. ค่าอาหารเมืองไทย มื้อละ 35-40 บาท เราว่าไม่แพงเลยค่ะ ผลไม้รถเข็น อร่อยมากๆ 10 - 15 บาท เท่านั้นก็อร่อยได้ แต่รถไฟฟ้า 40 บาท ระยะสั้นๆ หรือค่าทางด่วน 60 บาท หรือมือถือ/คอมพิวเตอร์ ที่ราคา 2 หมื่นกว่าบาท  หนังสือราคา 200-300 บาท ...... เราว่าแพงมากค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 55 09:42:58 จากคุณ : จำฉันได้ไหม เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 09:30:41

ความคิดเห็นที่ 35 เห็นด้วยว่าคนกรุงเทพรวยจริง ๆ ค่ะ บางคนเด็ก ๆ ก็มีมือถือ smartphone แล้ว หรืออย่างน้องสาวเราก็เหอะ เงินเดือนหมื่นปลาย ๆ แต่ใช้ bb เครื่องละหมื่นกว่า เอ้อออ....เห็นแล้วไม่เข้าใจ ว่ากล้าใช้ได้ยังไง ขนาดของเราได้มือถือ smartphone ฟรี ก็ยังขอผ่าน แล้วเลือกแบบธรรมดาค่ะ คิดว่าไม่จำเป็นต้องจ่ายค่า data เราว่าของที่เมกาถูกกว่าเมืองไทยหลายอย่างมาก ๆ เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ น้ำมัน เสื้อผ้ามียี่ห้อ ของใช้ต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย  ทั้ง ๆ ที่ค่าแรง เงินเดือนที่นี่เยอะกว่าของคนไทยเยอะมาก ๆ เข้ามาแก้ไขคำผิดค่ะ สะกด data  ผิดเป็น date แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 55 05:02:34 จากคุณ : แมวเหมียวลาย ๆ สบาย ๆ อ้วนพี เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 09:31:45

ความคิดเห็นที่ 36 น้องที่กลับมาจากอังกฤษ บ่นตลอด เวลาไปกินข้าวในห้าง บอกว่ามือ้นึงในกรุงเทพ ใช้เงินมากกว่ามื้อนึงในลอนดอนอีก มันเทียบให้ฟัง แบบจขกท เลยค่ะ จากคุณ : นักเดินทางระหว่างดวงดาว เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 09:38:44

ความคิดเห็นที่ 37 อยากให้ใครสักคนช่วยแปลกระทู้นี้เป็นภาษาอังกฤษซะจริง จะเอาไปให้คุณแฟนอ่าน เป็นอะไรที่ถกกันมาตลอดสำหรับเรื่องนี้ ตอนนี้มั่นใจแล้วว่าเราไม่ได้คิดไปเองคนเดียว จากคุณ : November Dew เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 09:45:19

ความคิดเห็นที่ 38 เห็นภาพมากๆค่ะกระทู้นี้ ถูกใจเอาใจไปเลยค่ะ จากคุณ : สวี๊ตParadiSe เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 10:26:38

ความคิดเห็นที่ 39 แม่ดิฉันบ่นมาหลายปีแล้ว และดิฉันก็เห็นตามนั้น ว่ากรุงเทพค่าครองชีพแพงมาก แม่อยากย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด วันละหลายร้อยรอบ จากคุณ : PoomPim..TMB เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 10:29:00

ความคิดเห็นที่ 40 สรุปแล้วพวกเราอพยพไปอยู่เมืองนอกกันเถอะ ปล่อยให้พวกลาว เขมร พม่า มอญ แขก เขา ครอบครองเมืองไทยกันไปเถอะ จากคุณ : อัลปลั๊ก เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 10:34:00

ความคิดเห็นที่ 41 ถ้าไม่นับพวกแบรนด์นำเข้า ก็เห็นท่าจะจริง เมื่อเอาค่าครองชีพ เทียบรายรับ-รายจ่ายพื้นฐาน แต่เราคิดว่า พวกแบรนด์นำเข้าต่างๆ มันแพงเพราะถูกบวกภาษีโหดๆๆๆๆๆ ค่ะ ยังไงมันก็ต้องแพงกว่าของที่ซื้อเมืองนอกอยู่แล้วล่ะค่ะ ต่อให้มันเซลล์70% ก็ตาม ของนำเข้าไปซื้อเมืองนอก ยิ่งเป้นประเทศผู้ผลิตยังไง๊มันก็ถูกกว่าอยู่แล้ว ซื้อมังคุดไทยที่เมืองไทยกับไปซื้อมังคุดไทยที่เมืองนอก ยังไงราคาก็ต่างกันฟ้ากะเหว แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 55 10:36:28 จากคุณ : พี่น้องที่เคารพ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 10:35:55

ความคิดเห็นที่ 42 กรี๊ดดดด ถูกใจกระทู้นี้มากกกกก อยู่ กทมมาตั้งแต่เกิด เลยเหมือนอยู่ในกะลา คิดว่าค่าครองชีพมันถูก แต่ะพอมาอยู่ไต้หวันได้สามปี รู้เช่นเห็นชาติเลยว่า กทม มีค่าครองชีพท่ีแพงเว่อ เทียบกับรายได้คนท่่ัวไป มีแค่อาหารแผงลอยเท่านั้นท่ีถูก เม่ือเทียบกับค่าอาหารท่ีน่ีแต่ เม่ือเทียบกับรายได้คนไทย ถือว่าแพงนะ เทียบง่ายๆ ทำงานแมคท่ีไทย ชม ละ 29 บาท ถ้าซื้อ ข้าวกล่อง 25 บาท จะเหลือเงินส่ีบาท ท่ีไต้หวัน ทำงานแมค ชม นึง ได้ ร้อยบาท บะหม่ี ชามละ 40 เหลือเงิน 60 บาท ดูสิ เห็นความแตกต่างมั้ย นร ขึ้นรถเมล์ ใช้ บัตร อีซ่ี ราคาแค่ 7 บาท ตลอดสาย mrt ใช้บัตร อีซ่ี มีส่วนลดด้วย ผมน่ัง ประมาณ7 สถานี แล้วแต่ละสถานีห่่างกันเยอะนะจ๊ะ ไม่ได้ อยู่ติดๆกันแบบ bts ราคาแค่16 บาทเท่านั้น ส่วนรองเท้ากีฬา ผช เคยซื้อท่ีไทย 4000 กว่า ท่ีน่ีขาย 2 พัน ปลายๆ โอ้มายก๊อชชช อย่าให้พูดถึงเคร่ืองใช้ไฟฟ้าทีวี จอแบนนะ ถูกกว่ามาก แล้วท่ีน่ีของแท้นะจะ คนท่ีน่ีไม่ใช่ขอปลอมจ่ะ หรือพูดอีกที มันไม่มีของปลอมขายอ่ะจะ เสื้อผ้าตลาดนัดไทย 199 จะได้ของห่วย ดีไซน์ล้าหลัง แต่ท่ีน่ี 199 น่ี เหมือนของท่ีขายตามสยาม เลยนะจ๊ะ สวย และถูก คุณภาพดี ผมซ้ือบ่อย อะไรอีกล่ะ เดี๋ยวนึกได้จะมาต่อนะ นึกได้อีก ร้านไดโสะ 100 เย็นน่ะ ท่ีน่ีชิ้นละ 39 บาท ของไทยทำไมมัน ตั้ง หกสิบบาทล่ะนั่น ของเหมือนกันทุกอย่าง ราคาท่ีไทยมันเกินร้อยเย็นแล้วนะ คิดได้ไง เหมือนโดนเอาเปรียบอ่ะ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 55 10:51:19 จากคุณ : ted_chen เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 10:42:27

ความคิดเห็นที่ 43 เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ เมืองไทยของแพงจริง ขึ้นรถไฟฟ้าทีกินข้าวได้หนึ่งมื้อเลยนะ (หมายถึงตามร้านทั่วไปนะคะ ไม่ใช่ในห้าง) เจ็บปวดมาก 555 น่าจะคิดเป็นโซน ๆ นะ แต่ก็ไม่รู้จะเอาตรงไหนเป็นโซน เพราะมันมีแค่ โซนเดียว - -" ปวดตับค่ะ อยู่อังกฤษซื้อน้ำเปล่าขวดนึง ยังแถมหนังสือพิมพ์ให้อ่านฟรี ๆ ชอบจัง คิคิ หนังสือพิมพ์ไม่ต้องซื้อเขาแจกให้อ่าน แค่เดินจากบ้านไปขึ้น tube ก็ได้มาหลายฉบับแล้ว เมืองไทยนี่ไม่มีหรอก เฮ้อออ เซ็ง จากคุณ : MIMHUMIMIN เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 10:48:59

ความคิดเห็นที่ 44 ลืมไปอย่างหนึ่งหรือเปล่า ภาษีรายได้ที่เมืองไทยถูกนะคะ ^_^ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 55 10:55:35 จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 10:52:19

ความคิดเห็นที่ 45 เห็นด้วยว่าข้าวของหลายอย่างแพงอย่างเสื้อผ้านี่ยี่ห้อดีๆถ้าซื้อตอนลดราคาจะได้ของดีของถูกกว่าเมืองไทยมาก แต่ของกินนี่ถึงจะคิดว่าแพง แต่มันกินอร่อยกว่ากินที่เมืองนอกนี่ เจ้าไหนที่เมืองไทยทำของอร่อยให้กินได้ก็คิดเสียว่าเป็นค่าฝีมือละกัน แต่น่าเห็นใจคนไทยที่เงินเดือนน้อย หรือไม่มีเงินเดือนเลย..เอ..น้ำกำลังว่าจะมาท่วมอีกแล้วใช่ไหม? จากคุณ : PatPDX เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 10:52:48

ความคิดเห็นที่ 46 มันก็จริงอย่างที่จขกท.ว่า ปัญหาอยู่ที่ช่องว่างระหว่างรายได้ในเมืองไทยมันกว้างมาก คนมั่งมี ก็มีกันจริงๆ ใช้ชีวิตสุขสบายถึงแม้ข้าวของจะแพง คนขายก็ขายราคานั้นได้เพราะคนมีกำลังซื้อก็มีอยู่ ต้นทุนบางอย่างก็ต้องอิงตามราคาตลาดโลก จะมาขายถูกมากก็ไม่ไหว ในขณะที่คนรายได้น้อย ก็น้อยจริงๆ ถึงขนาดไม่สามารถซื้อหาอะไรได้ คุณภาพชีวิตย่ำแย่ เป็นหนี้เป็นสิน ต่างกับประเทศพัฒนาแล้ว ที่คนรายได้น้อยระดับค่าแรงขั้นต่ำของเขา ก็ยังพอจับจ่ายซื้อของ ใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพพอสมควร จากคุณ : กระจิ๊ดฤทธิ์ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 11:22:22

ความคิดเห็นที่ 47 เป็นเพราะค่าเงินดอลล่าห์ที่อ่อนลงไปเยอะด้วยเปล่าครับ (เมื่อเทียบกับสิบกว่าปีก่อนที่ 40-50 บาทต่อดอลล่าห์) เลยทำให้รู้สึกแพงมากขึ้น จากคุณ : คนแอลเอ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 11:45:04 A:76.171.74.133 X: TicketID:165399

ความคิดเห็นที่ 48 ต่างจิตต่างใจค่ะ เมืองไทยถ้าหารายได้พอประมาณ ก็พออยู่ได้ แต่คนที่อยู่ไม่ได้ อาจจะใช้เงินเกินตัว เกินความจำเป็นหรือเปล่าค่ะ ให้กระแสสังคมฉุดกระชากลากถูไป แข่งขัน ต้องมี ต้องเป็นให้ได้ตามค่านิยม โดยที่ไม่คิดว่ามันดีหรือเปล่า คนเราก็แค่กินพออิ่ม แต่เราอาจจะบำเรอใจมากกว่าที่จะบำรุงแค่ธาตุขันธ์ุให้มันอยู่ได้ เมืองไทยเสรีในด้านการลงทุน มีทุนไม่มาก ก็ค้าขายได้ เสียภาษีน้อย ค่ารักษาพยาบาลไม่แพงเวอร์ ถ้ามีประกัน ถ้าไม่เข้าอินเตอร์ น้ำมันแพงอันนี้เรื่องจริง แต่อยู่ที่ไหนเราก็ต้องปรับตัว ปรับชีวิตความเป็นอยู่ให้เข้ากับสังคมนี้นให้ได้ เมืองนอก (เมกา) เสียภาษีแพงมาก นั่นอาจจะเป็นสาเหตุให้การขนส่งถูก สะดวกสบาย เค้ามีพื่นที่เยอะ รถก็เลยไม่ติด แต่เมืองใหญ่อย่าง ลอสเองเจอลิส ซานฟราน ก็ติดเหมือนกันในช่วงเวลา rush hour ส่วนของแบรนด์ ก็แน่นอนว่าต้องถูกเพราะมันเป็นสินค้าบ้านเค้า แต่สินค้าบางอย่างที่เราไม่เห็นค่าที่เมืองไทย พอมาอยู่ที่นี่ มันก็แพงเหมือนกัน เพราะเสียภาษีนำเข้ามาจากเมืองไทย ก็น่าจะถูกต้องว่าอยู่ที่ไหนก็ควรจะฉลาดบริโภคของที่ทำขึ้นที่นั่น มันอยู่ที่เราไปให้ค่ากันเอง อย่างกระเป๋าแบรนด์บางอัน คนที่นี่ถือกันให้เกลื่อนและก็มองว่ามันไม่ได้ สวย หรู ต้องมีให้ได้ขนาดนั้น แต่ถ้ากระเป๋าใบนี้ ไปอยู่ที่เมืองไทย คนจะให้ค่ากันมากมาย อย่างเครื่องสำอางค์ก็เหมือนกัน สินค้าทุกอย่างมันไม่เสมอไปหรอก ว่าเป็นแบรนด์นอกแล้วจะดี ดีบ้างไม่ดีบ้างปะปนกันไป ถ้าคิดจะทำธรุกิจที่นี่ก็เรื่องเยอะ กฎหมายจุกจิกมาก เอกสารเยอะมาก ลงทุนเยอะด้วย อาหารการกิน ถ้าต้องกินนอกบ้านทุกมื้อก็ไม่ไหวเหมือนกันนะคะ นั่งร้านอาหารทีถ้าไม่ใช่ fast food ก็ตกอยู่ ที่ประมาณ 15-30 เหรียญต่อคน คนที่นี่มีนิวัยที่ดีเรื่องการกิน(ไม่ทุกคน) เค้าพกน้ำ พกอาหารกลางวัน ไปกินที่ทำงาน ทำกับข้าวกินเอง ถ้าไปกินร้านอาหารเหลือ ก็จะเก็บกับบ้าน ไว้กินต่อมื้อหน้า ไม่มีหน้าใหญ่ใจโตมาอวดรวย ถ้าเราปรับตัวให้เข้ากับที่เราอยู่ให้ได้ อยู่ที่ไหนก็น่าจะได้ จากคุณ : ก็ว่ากันไป เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 12:08:43 A:98.248.230.80 X: TicketID:215721

ความคิดเห็นที่ 49 เรื่องใช้ของแพง กินข้าวห้าง เราว่าส่วนนึงมันเป็นค่านิยมด้วยล่ะ ไม่ใช่คนไทยรวยอย่างเดียว อย่างคนเงินเดือนหมื่นปลายที่คหบนบอกใช้โทรศัพท์แพง อันนี้เป็นความคิดทางการใช้เงินของเค้าที่ผิด ไม่ใช่ของแพง คนไทยวัตถุนิยมนะคะ เลยทำให้ทุกอย่างแพง แต่พวกร้านข้าวแกง ของในตลาดอะไรแบบนี้ก็แพงขึ้นจริงอันนี้ไม่เถียง แต่ร้านพวก pizza hut, sizzler อะไรแบบนี้เราเลิกกินไปแล้วอะค่ะ ไม่ได้แพงมากนะ แต่ไม่สมราคาเลยคุณภาพห่วยได้อีก จากคุณ : PuppyPower เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 12:12:14

ความคิดเห็นที่ 50 คิดเหมือน จขกท. เปี๊ยบเลยค่ะ ราคาของที่ไทยถ้าเทียบกับรายได้ มันแพงจังเลยค่ะ เคยไปเดินรอเวลาที่พารากอน อยากกินไอติม เข้าไปร้านไอติมชื่อดังจากต่างประเทศ เปิดเมนูแล้วอึ้ง อย่างต่ำ ๆ ก็สองสามร้อย แล้วคนนั่งกันเต็มร้านเลย เรายังคิดคนกรุงเทพเค้ารวยกันเนอะ เราเอาเงินเยนไปแลก เห็นราคาของแล้วยังคิดแล้วคิดอีก ไปเดินตลาดนัด มศว. กับเพื่อน เดินไปนิดเดียวเลยพกตังค์ไปแค่สามร้อย แวะร้านแรกซื้อหมู-ไก่ย่าง เค้าว่าน้ำจิ้มเด็ด จัดมาสามชิ้น ชิ้นประมาณฝ่ามือ แม่ค้าคิดตังค์ 250 เราอึ้งไปเลย ...สามร้อยที่เอามาแทบจะไม่มีความหมาย (แต่กินแล้ววน้ำจิ้มเค้าอร่อยจริงนะ) เรื่องเสื้อผ้า เราไม่ใช่คนแต่งตัวตามแฟชั่นมาก รอซื้อที่ญี่ปุ่นตอนลดราคาเยอะ ๆ หรือไปซื้อร้านที่เขาเอาของตกรุ่นมาขาย หลักร้อย(บาท) ต้น ๆ ก็ได้เสื้อคุณภาพดี ราคาไม่แพง ที่ไทย ตัวละร้อยสองร้อยมีขายเยอะจริง แต่คุณภาพไม่ดีเลย ซื้อมาซักยังไม่ได้ใส่ กระดุมหลุด ขอบหลุดรุ่ยแล้ว จากคุณ : Ssachiy เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 12:12:16

ความคิดเห็นที่ 51 ลืมบอกไปว่าค่ารักษาพยาบาลที่เมกาแพงมากนะคะ ถึงมีประกันก็ตาม ถ้าไม่มีประกันเอาแบบรักษาฟรีนี้ ก็ไม่มีคุณภาพ ต้องโทรนัดหมอว่าจะไปหา กว่าจะได้คิวก็หายป่วยพอดี ยิ่งเรื่องฟันยิ่งแพง การเรียนที่นีถ้าเรียนของรัฐก็ถูก พวกคนมีเงินก็ส่งลูกเรียนเอกชน จากคุณ : ก็ว่ากันไป เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 12:13:47 A:98.248.230.80 X: TicketID:215721

ความคิดเห็นที่ 52 กินข้าวนอกบ้านที่ลาวก็แพงกว่าไทยครับ แต่ค่าแรงน้อยกว่าไทยมากๆ จากคุณ : Oakyman เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 12:33:34

ความคิดเห็นที่ 53 มีสว่นถูกของจขกท. ของส่วนใหญ่ในเมืองไทยขออนุญาตใช้ภาษาอังกฤษ Overpriced. จากคุณ : ainboston เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 12:54:00

ความคิดเห็นที่ 54 ราคาน้ำมันในประเทศไทยแพงเป็นอันดับ 6  ของโลก   จึงมีคำสอนว่าทำมาหากิน  (ยังไม่พอ) ค่าแรง  300  ค่ารถเกือบ 100  ค่ากินก็เกือบ  100   แล้วจะเหลือให้ลูกไปโรงเรียนหรือเปล่า จากคุณ : MAOK เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 13:02:50

ความคิดเห็นที่ 55 ชอบความเห็นที่ 48 และ 51 ของคุณก็ว่ากันไปมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่เสียดายให้้ิกิฟต์ไม่ได้ จากคุณ : For You I Will เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 13:14:29

ความคิดเห็นที่ 56 อยู่ที่รูปแบบการใช้ชีวิต และ ชนิดของสินค้าที่ซื้อ บางคนอยู่เมืองนอก ห้องสตูดิโอ ค่าเช่าก็ 600 euros หรือ 1000 usd ในขณะที่เมืองไทย ค่าเช่า ไม่เกินหมื่น ก็ได้ห้องดีๆ ค่ารถไฟฟ้า แพงอยู่แล้ว เพราะ ตอนสร้าง ก็ใช้เทคโนโลยีต่างชาติ ถ้าเป็นแทกซี่เมืองไทย ผลิตเองในประเทศ ดัดแปลงใช้ก๊าซแทนน้ำมัน ดังนั้น ค่าแท็กซี่เมืองไทยจึงถูกมาก ค่าอาหาร ถ้ากินนอกบ้าน หัวละ 100 กว่าบาท บางทีก็ได้กินอาหารดีๆ อย่างมากก็ 300 กว่า ถ้าไปกินที่เมืองนอก อย่างต่ำก็ 15 € ขึ้น เมืองไทยมีอาหารล่อตาล่อใจเยอะ คนก็กินอาหารนอกบ้านบ่อย เมืองนอก ไม่ค่อยมีอะไรน่ากิน ช่วงหน้าหนาว คนก็ไม่ค่อยอยากออกนอกบ้าน ไม่เฉพาะแต่เมืองไทย ที่รายได้ขั้นต่ำน้อย เมื่อเทียบกับค่าครองชีพ ประเทศกำลังพัฒนาอื่น ก็มีปัญหานี้เหมือนกัน จากคุณ : no login เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 13:16:43 A:202.28.182.5 X: TicketID:221104

ความคิดเห็นที่ 57 จริงมากๆ เลยค่ะ รู้สึกได้เลยตอนไปอยู่ที่อเมริกา คนอเมริกันรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย ตอนที่เราอยู่มีเงิน 50$ สามารรถซื้อของกินได้เป็นเดือนอยู่ 2 คน กับแฟน แต่พอกับมาไทย ที่เมืองไทยของขึ้นราคาทุกอย่าง ของแพงขึ้นมาก แต่ค่าแรงเท่าเดิม จะบอกกับทุกคนตลอดเลยว่า เมืองไทยอยู่ยากมากๆ เพราะคนรายได้ต่ำมาก แต่ของแพงไม่สามารถมีเงินเหลือเก็บได้  อยู่อเมริกาขนาดชอปปิ้งยังมีเงินเหลือเก็บเลย จากคุณ : khunyingyui เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 13:45:34

ความคิดเห็นที่ 58 คุณรีบนครับ แท็กซี่เมืองไทย ราคาไม่ได้ถูกเลยนะครับ ถ้าเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำ แท็กซี่เมืองไทยแพงมากต่างหากครับ เมืองไทยแท็กซี่ มิเตอร์สตาร์ที่ 35 บาท แต่ค่าแรงขั้นต่ำคนงานอยู่ที่ 30 บาท เพราะฉะนั้น คนจน คนฐานะปานกลางแทบจะไม่มีโอกาสนั่งแท็กซี่เลย ที่อังกฤษ แท็กซี่ มิเตอร์ เริ่มที่ 2.4 ปอนด์ แต่ค่าแรงเค้าอยู่ที่ 6 ปอนด์ ครับ เลยถือว่าไม่ได้แพงมาก ถ้าเทียบค่าแท็กซี่ไปสนามบินนะ จากเมืองที่ผมอยู่ไป Heathrow Airport (ผมไม่ได้อยู่ลอนดอน ห่างไปพอสมควร) ค่าแท็กซี่ประมาณ 65 ปอนด์ คือทำงาน 10 ชม ได้ค่ารถแท็กซี่แล้ว เทียบเมืองไทย จากจ.นครปฐมไปสนามบินสุวรรณภูมิ ค่าแท็กซี่ไม่ต่อกว่า 600-800 บาท (อาจถึง 1,000 บาท) คนไทยต้องทำงานกี่วันครับ ถึงจะได้ค่าแท็กซี่ นี่ขนาดว่าแท็กซี่เมืองไทยติดแก๊ส NGV, LPG ราคาถูกกว่านะ แต่แท็กซี่อังกฤษเติมน้ำมันเบนซินนะครับ คิดดูแล้วกันว่ายังต่างกันเลย ถ้าแท็กซี่เมืองไทยเติมน้ำมันผมนึกไม่ออกว่า ค่ารถจะขึ้นไปอีกเท่าไหร่ ที่อังกฤษ แท็กซี่ต้องคิดตามมิเตอร์เท่านั้นนะครับ จะเมืองไหน เมืองใหญ่เมืองเล็ก คิดตามมิเตอร์หมด ไม่มียกเว้น แต่ขอโทษ คุณไปพัทยา ภูเก็ต สมุย แทบจะหาแท็กซี่ที่คิดตามมิเตอร์ไม่ได้เลย ต้องเหมาอย่างเดียว แถมแพงมากกว่ากรุงเทพอีก ที่มาบ่นๆ กระทู้นี้ ไม่ได้ต้องการให้ราคสินค้า ราคาบริการต่ำลงนะครับ เพราะรู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้ แต่อยากให้รายได้สัมพันธ์กับรายจ่าย ไม่งั้นผมว่าคนไทยนี่แหล่ะ จะอยู่ลำบาก เพราะค่าครองชีพแพง จากคุณ : seabreeze_psu เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 13:51:31

ความคิดเห็นที่ 59 ยืนยันว่ากรุงเทพอยู่ยากขึ้นทุกวัน ออกจากบ้านทีแบงค์ห้าร้อย แบงค์พันปลิว แต่ต่างจังหวัดก็ยังพอมีแหล่งของกินอร่อย สะอาดและราคาไม่แพงอยู่ เช่นโจ๊ก 2 ชาม ปาท่องโก๋ 5 ตัว 40 บาท หรือข้าวเหนียว 2 ห่อ หมูปิ้ง 3 ไม้25 บาท ข้าวแกงยังพอมี 25 -35 บาท สะอาดและอร่อย ต้องอยู่ประจำถึงจะรู้ว่าเจ้าไหน ถูก สะอาด อร่อย ถ้าไปตามแหล่งท่องเที่ยวก็เตรียมตัวโดนขูดเลือด ตอนจบมาใหม่ ๆ  ป.ตรีสาขาเราเอกชนจะสตาร์ทที่ประมาณ 9000-12000 บาท ยี่สิบปีผ่านไปเริ่มต้นที่ 15000-20000 ค่าแรงขึ้นน้อยมาก แต่สินค้าเพิ่มราคาสูงกว่าหลายเท่าตัว เห็นด้วยกับเรื่องรายได้กับรายจ่ายไม่สัมพันธ์กันค่ะ พนักงานเงินเดือนอยู่แบบเดือนชนเดือน กู้หนี้ยืมสิน ซื้อหวยหวังรวย ส่วนเจ้าของกิจกรรมก็รวยเอา ๆ จากคุณ : Ms...plum เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 14:18:46

ความคิดเห็นที่ 60 เดี๋ยวนี้ถ้าไปทานข้าวตามห้าง ก็จ่ายจะพอๆกับต่างประเทศอยู่แล้วล่ะค่ะ แต่เราเห็นด้วยอะ อาเราพูดตลอดว่าค่าครองชีพเมืองไทยแพงถ้าเทียบกับเงินเดือน อยู่ต่างประเืทศ เป็นเด็กเสิร์ฟนี่อยู่ได้สบายๆ เมืองไทยเหรอคะ ทำให้ตายก็ไม่พอหรอก จากคุณ : Calotropis เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 14:28:22

ความคิดเห็นที่ 61 ยังไม่พูดถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อีเล็คโทรนิค เทคโนโลยีทั้งหลาย ที่ราคาใกล้เคียงกันทั่วโลก ในขณะที่รายได้คนไทยน้อยกว่า ไม่น่าเชื่อว่าคนไทยหลายคนใช้ ไอแพด ไอโฟน กันให้เกร่อ จากคุณ : chilla เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 14:34:00

ความคิดเห็นที่ 62 เห็นด้วยครับ เรื่องนี้ผมกับแฟนเคยคุยกันไปหลายรอบละ เพราะเราสองคนเคยอยู่ญี่ปุ่นกันมาก่อน เอาค่าครองชีพ เงินเดือน ของคนไทยญี่ปุ่น เทียบกับราคาอาหาร ของกินของใช้ เห็นได้เลยว่า ค่าครองชีพไทยแพงกว่าจริงๆ เช่น ญี่ปุ่น ทำงานได้ ชม.ละประมาณอย่างต่ำก็ 900 เยน ซื้อโค้ก 150 เยนได้ 6กระป๋ิอง ที่ไทย ถ้าได้ค่าแรงวันนละ 300 บาท ตกชม.ละ 30-40 บาท ซื้อโค้กกระป๋องละ 15-20 ได้ 2กระป๋อง ประเทศไทย ใครว่าของถูก? จากคุณ : House Of FlyingBird เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 14:44:12

ความคิดเห็นที่ 63 เห็นด้วยสุดๆครับ ผมคนนึงไม่เคยเทียบอัตราแลกเปลี่ยน แต่เทียบเงินที่ได้รับ กับเงินที่ต้องจ่าย เคยไปทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่อเมริกา ได้ชั่วโมงละ 7เหรียญกว่า -เปรียบเทียบค่าอาหาร Fast Food แบบ Mc Donald's หรือ Subway ประมาณ 5 - 6 เหรียญ อาหารไทย, แม็กซิกัน, อิตาเลี่ยน และอื่นๆ แบบขายในฟู้ด คอร์ทนะ ประมาณ 6 - 7 เหรียญ แปลว่าทำงานเมืองนอก 1ชม กินข้าวมื้อใหญ่ๆ อิ่มๆได้เลย แถมยังเหลือตังนิดหน่อย แต่เมืองไทยเนี่ย ทำงานค่าแรงชั่วโมงไม่รู้ว่ากินข้าวแกง2อย่างกับชาเย็นแก้วนึงได้หรือป่าว -เปรียบเทียบค่ากาแฟ ผมขอยกตัวอย่าง Starbuckครับ เอาแบบแพงสุดๆ เป็น Frappuccino ราคา 5.25 - 5.50 ทำงานได้ 7เหรียญกว่าเท่าเดิม แปลว่าทำงาน 1ชม มีตังกินสตาร์บัค 1 แก้ว แล้วยังเหลือเงินอีก ประมาณ 2 เหรียญ แต่อยู่เมืองไทย ผมถามว่าต้องทำงานกี่ชั่วโมง ถึงจะซื้อกาแฟได้หนึ่งแก้ว ผมคิดแบบนี้มานานแล้ว ว่าเมืองไทยแม้ค่าเงินจะถูกแต่ค่าครองชีพแพงกว่าเมืองนอกเห็นๆ จากคุณ : Tsim_Sha_Tsui เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 14:58:54

ความคิดเห็นที่ 64 เราอยากจะบอกเลยว่า ถ้าไม่ได้เรียนอยู่ในรร.ที่มีห้องสมุดใหญ่ๆ หรือมหาลัยเอกชน หนังสือดีๆเป็นเรื่องยากที่จะได้อ่านมากๆ ยกเว้นว่าพ่อ-แม่ พอจะมีเงินหรือเห็นค่าของหนังสือ สัปดาห์ก่อนเราซื้อหนังสือ การ์ตูนแบบIllustrator สามก๊ก 1เซ็ตมี4เล่ม 985บาท เราว่าประเทศไทย หนังสือแพงมาก มาก ถึงมากที่สุด หนังสือถูกๆก็เล่มละร้อยขึ้น ทุกวันนี้เราทำงานมา3ปี รู้สึกว่าค่ากินก็แพงมาก ร้านข้าวหน้าออฟฟิต ข้าวผัดหมูใส่ไข่ กินตอนเที่ยง จานนึง47บาท ข้าวผัดหมู40 ไข่ดาว7บาท นั่งรถเมล์ก็แพง รถฟรีไม่ค่อยมี รอกันไปเหอะ รถไฟฟ้านั่งต้นสายไปสุดสาย รวมกันยังไม่ถึง20สถานี จ่ายเงินทีตั้ง50บาท ทุกวันกินเช้าที่ทำงานกับมื้อเที่ยง วันนึงใช้ประมาณ2ร้อยอ่ะคะ ใช้แบบประหยัดด้วย เช้าเรานั่งรถเมล์4ต่อ กว่าจะถึงออฟฟิต 2คันแรก8บาท คันที่3 11บาท คันที่4 8บาท รวมค่ารถตอนเช้า 35บาท มื้อเช้า 35-40บาท ค่าน้ำเปล่า1.5ลิตร2ขวด 28บาท ค่ามื้อเที่ยง 45-50บาท น้ำเปล่าแก้วละ3บาท ค่ารถกลับบ้านตอนเย็น 35บาท รวมวันนึง ใช้แค่ค่ารถ ค่าน้ำ ค่าข้าว ไม่กินขนมเลย ก็วันนึง 191บาทอ่ะคะ ถ้าอพยพไปอยู่เมืองนอกได้ ก็จะทำคะ แต่ไม่มีโอกาสเลย T^T จากคุณ : cindesomla เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 15:04:58

ความคิดเห็นที่ 65 ตอนไปเวิร์ค อเมริกาก็เคยลองคำนวนดูค่ะ ค่าใช้จ่าย หักจากรายได้ มีเงินเก็บอื้อ อยู่ได้สบายๆ มีบ้านสวยๆ ของกินดีดีมีคุณภาพ อยู่เมืองไทยต้องอยู่ต่างจังหวัด ถึงจะมีเงินเก็บ แต่ก็ต้องกิน ใช้อย่างประหยัดเช่นกัน จากคุณ : pangzpang เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 15:06:32

ความคิดเห็นที่ 66 ยกตัวอย่างให้ดูอีกอย่างหนึ่ง กล้วยหอม ที่อังกฤษ หวีละ 1.2 ปอนด์ เพราะฉะนั้นทำงาน 1 ชม. คนอังกฤษ ซื้อกล้วยหอมได้ 5 หวี ที่เมืองไทย กล้วยหอมหวีละ 15-20 บาทได้มั้ง คนไทยทำงาน ซื้อกล้วยหอมกินได้ แค่ 1-2 หวี แต่........ ที่อังกฤษ ปลูกกล้วยเองไม่ได้ อากาศไม่เหมาะ ต้องนำเข้ามาขาย เค้ายังขายได้ถูกขนาดนี้ ทั้งที่เมืองไทย ปลูกได้เยอะแยะ ตามไร่สวนท้องนา แต่ทำไมราคากล้วยเมืองไทย ถึงแพงกว่าอังกฤษ ??? ราคาหนังสือก็เหมือนกัน ที่อังกฤษ Harry Potter ราคาเล่มละ 5-10 ปอนด์ แล้วแต่คุณภาพกระดาษ และความหนาเล่ม พ่อแม่ที่อังกฤษทำงาน ชม.เดียว ซื้อ Harry Potter ให้ลูกอ่านได้แล้ว ที่เมืองไทย หนังสือนิยายสำหรับผู้ใหญ่ นิทานสำหรับเด็ก ราคาเล่มละเท่าไหร่ครับ อย่างต่ำๆ ต้องมี 300-400++ คนจบแทบไม่มีปัญญาซื้อหนังสือดีๆ อ่านเลย แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 55 15:32:24 จากคุณ : seabreeze_psu เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 15:25:46

ความคิดเห็นที่ 67 บาง คห ก็ดูกระมิดกระเมี้ยนกันจัง จริงๆ ของกินของใช้เสื้อผ้าเมืองไทย มันก็แพง ไม่พอกับรายรับ คนชั้นกลางของเมืองไทยมาแต่ไหนแต่ไรแล้วไม่ใช่เหรอคะ ก้ในเมื่อดูตัวเลข GDP (PPP) ต่อหัว หรือ purchasing power กำลังซื้อ ของบ้านเรามันก็ไม่สูงมากอยู่แล้ว ก้เป็นไปในทิศทางเดียวกับประเทศกำลังพัฒนาทั่วไปนิ่คะ แต่มันก็ค่อยๆปรับตัวขึ้นมาตามการเจริญเติบโตทาง ศก. จริง ถ้าดูตัวเลขของ world bNK IMF CIA กำลังซื้อของคนไทยดีขึ้นมากนะคะ เล่นเอาไปเทียบกับ อเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย งี้ กำลังซื้อมันย่อมสู้เค้าไม่ได้อยู่แล้ว บาง คห ที่บอกว่า คนไทยไปกินอาหารแพงๆ ที่ พารากอน กันแน่นเยอะแยะ ทำไมคนไทยรวยกันจัง จะบอกว่า คนไทยที่ทำงานในไทย มีกิจการในไทย เงินเดือนเป็นแสน กำไรเป็นล้าน มีอยู่เยอะแยะมากในประเทศนี้ค่ะ คนพวกนี้รวยกว่า ค่าเฉลี่ยของคนใน อเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ที่คุณไปทำงานอยู่ด้วยซ้ำไปค่ะ ตลกกับบางคนไปชุบตัวเมืองนอก ไปล้างจาน เด้กเสริฟ งานคลีน ขับรถส่งของ มาหน่อย ทำตัวเป็นเทวดาเป็นคนจากประเทศพัฒนาแล้วทั้งนั้น (บางคนเท่านั้นนะ) บางคนก็เห็นเมือนจะเก๋ แต่วันๆ ก็ได้ แต่ซื้อ สินค้า homebrand housebrandกินถูกๆ ไปวันๆ ไม่มีตังเก็บ บางคนต้องให้เมืองไทยส่งไปให้ด้วยซ้ำ แน่จริง ก็สอยู่เมืองไทย ทำงานให้ได้เงินเดือนเป็นหลายหมื่น เป็นแสนบ้างก็ได้นะคะ จากคุณ : waverton เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 15:40:42 A:58.11.98.127 X: TicketID:315287

ความคิดเห็นที่ 68 เคยได้แต่ฟังคนรอบตัวที่เคยใช้ชีวิตที่ต่างประเทศเล่าให้ฟังว่า... - ถ้าเทียบรายได้ที่มี อยู่อเมริกา เค้าสามารถซื้อกาแฟสตาร์บัคได้โดยไม่รู้สึกว่า ซื้อกาแฟแพงเลย - คนกวาดถนนที่ออสเตรเลียขับรถยนต์ส่วนตัวมาทำงานค่ะ ห่างจากไทยลิบลับเลยนะคะ... จากคุณ : กะลาสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 15:49:14

ความคิดเห็นที่ 69 กลับเชียงใหม่1 เดือน เงินแสนไม่พอใช้--"(นี่รวมใช้สี่คนพ่อแม่ลูก) จากคุณ : ข้าวเหนียวไหม้ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 15:52:28

ความคิดเห็นที่ 70 คุณ Waverton สงสัยไม่เข้าใจที่ผมต้องการสื่อ ผมรู้ว่าที่ไหนมันก็มีคนรวย คนจนทั้งนั้นแหล่ะ ฝรั่งจนๆ ผมก็เห็นอยู่ถมไป คนไทยรวยๆ นั่ง First Class ก็เห็นมาเยอะ แต่กระทู้นี้พูดถึงค่าครองชีพโดยรวมๆ ค่าแรงขั้นต่ำ เทียบชีวิตของคนทั่วไปในสังคม เช่น - กรรมกรไทย กับกรรมกรอังกฤษ - นักเรียนไทย กับนักเรียนอังกฤษ - เด็กเสริ์ฟพม่าในเมืองไทย กับเด็กเสริ์ฟไทยในอังกฤษ - ชาวสวนเมืองไทย กับชาวสวนของอังกฤษ จากคุณ : seabreeze_psu เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 16:12:16

ความคิดเห็นที่ 71 difinitely agree witchu ! ไม่ต้องดู ไกล ลอง คำนวนดู เดือนนึง หัก ค่าใช้จ่ายแล้ว แทบไม่เหลือ เมืองนอก เอาเอเซีย อย่างจีน ที่ว่า เน่าๆ ก็ ได้ ก๋วยเตี๋ยวชามละ 60-70 แต่ชามเดียวอยู่ ไทยเรา 40 แต่ต้องสองชาม   สรุป มัน ก็ พอๆ กัน จากคุณ : Nancy Zeng (nancy zeng) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 16:19:40

ความคิดเห็นที่ 72 seabreeze_psu คะ เราเข้าใจคุณค่ะ และเราไม่ได้จะ point ไปที่คุณค่ะ แต่คห บนๆ บางอัน สองสามอัน เท่านั้นค่ะ จากคุณ : waverton เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 16:19:47 A:58.8.162.225 X: TicketID:315287

ความคิดเห็นที่ 73 ตกใจความเห็นคุณข้าวเหนียวไหม้ที่ว่า เชียงใหม่หนึ่งเดือนเงินแสนไม่พอใช้สำหรับสี่คน เลยสงสัยว่าเงินแสนนี้คือรวมค่าอะไรบ้างคะ เราอาจจะต้องไปเชียงใหม่ในอนาคตน่ะค่ะ ส่วนตัวเองตอนนี้อยู่ญี่ปุ่น คิดว่าค่าครองชีพสมเหตุสมผลกว่าไทย และมีให้เลือกหลายราคา หลายระดับดีค่ะ จากคุณ : mameemoo เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 16:48:10

ความคิดเห็นที่ 74 เห็นด้วยค่ะ  ค่าครองชีพที่นี่ (เมืองไทยทุกที่)  สูงมาก  ถ้ามาเปรียบเทียบกับรายได้ที่คนทั่วไปได้รับ  เรารับราชการยังคิดว่าเงินเดือนตลอดชีวิตที่ได้รับช่วงรับราชการได้แค่รถหนึ่งคันกับบ้านหลังเดียว  ซึ่งถ้าไม่มีรายได้อื่นๆ (จากมรดกที่ได้รับจากพ่อแม่)  คงน้อยมากเมื่อไปเปรียบเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว   ค่าครองชีพที่เห็นชัดๆ  ตัวอย่างเช่น ข้าราชการเมื่อปรับฐานเงินเดือน เพิ่ม 5 %  แต่เมื่อไปกินข้าวแกงกับ 2 อย่าง  ราคาเพิ่มขึ้นจาก 25 เป็น 30 บาท  ซึ่งเป็นสัดส่วนเพิ่มถึง  20 %  สัดส่วนไปคนละเรื่องเลย แต่นั้นแหละเพราะเกิดที่นี่ และไม่อยากไปเริ่มต้นใหม่ที่ต่างแดนแล้ว  ก็ยังชอบที่นี่อยู่ดี   แต่ต้องอยู่อย่างเพียงพอค่ะ จากคุณ : แพท (sweetpat) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 17:00:28

ความคิดเห็นที่ 75 ย้ายไปอยู่อังกฤษดีกว่า โค้ก 3 กระป๋องปอนด์นี้ ที่นี้กระป๋องล่ะ 80  เซ็นต์แพง ไข่ 6 ฟองถูกสุด 1 ยูโร แต่ที่เห็นแพงจริง ๆ ค่า ทีวีดาวเทียม ของคนขายไก่นี้แพงจริง ๆ ค่ะ เดือนล่ะ 2000 กว่าบาท ที่ฝรั่งเศสยังแค่ 40 ยูโรเลย(1600 มีช่องมากกว่าด้วย) เราอยู่เชียงใหม่มาก่อน พึ่งกลับไป แม่เรารายได้จากพ่อเดือนล่ะ 6 พัน ขายเห็ดได้เดือนล่ะ เกือบ ๆ หมื่น ไม่มีเงินเก็บ เพราะพี่ขอหมด (กรรม) แม่เราพอใช้นะ ใช้เดือนไม่ถึงหมื่นด้วย มีค่าน้ำไฟ 2 พัน ค่ารถ 3 พัน ค่ากิน ค่าอาหารหมา เดือน ๆ แม่ใช้ 7-8 พัน ที่เหลือโดนไถ่ จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 17:19:50

ความคิดเห็นที่ 76 เป็นเรื่องช็อคที่สุดในรอบปี จากคุณ : spoiled daughter เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 18:25:45

ความคิดเห็นที่ 77 งั้นถามหน่อยครับ ไม่ได้กวนนะ ที่ฝรั่งชอบมาเมืองไทยแล้วบอกว่า เมืองไทยของถูก ค่าครองชีพถูกนั้น ดูเหมือนจะขัดแย้งกับกระทู้นี้นะ ใครก็ได้อธิบายหน่อยสิครับ จากคุณ : ร ฉ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 18:30:54 A:223.205.210.201 X: TicketID:359309

ความคิดเห็นที่ 78 เพราะเค้าได้รายได้จากประเทศเค้า แล้วเอามาใช้จ่ายในไทยไง เลยถูก แต่ถ้ารายได้จากไทย ใช้จ่ายในไทย ถือว่าแพง จากคุณ : Halimeda Lover เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 18:41:11

ความคิดเห็นที่ 79 จขกท. คำนวนได้ถูกต้องแล้วครับ และเปรียบเทียบได้เหมาะสมแล้ว คำนวนและคิดจาก การแลกหยาดเหงื่อและแรงงานของเราเพื่อมาเป็นอาหาร แล้วถือว่าแพงมากครับ ทำงาน(แรงกาย)แรงงาน แลกกับอาหารแล้ว คนไทยทำงานหนัก และจ่ายแพงกว่ามากมายครับ ทำงาน 1 ชั่วโมง เพื่อให้ได้ อาหารได้กี่มื้อ เมืองไทย 1 ชั่วโมง ไม่สามารถนับได้ ต้องทำงาน เต็มวัน ก็นับเป็น 1 วัน ค่าแรง(สมมุติ) 300 บาทต่อวัน มื้อละ 100 ก็ไม่ต้องเหลืออะไรแล้วครับ เมืองไทยแพงมากจริงๆ ครับ จากคุณ : NoIDEA เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 19:12:43 A:115.87.39.59 X: TicketID:296110

ความคิดเห็นที่ 80 เราทำงานที่ญี่ปุ่น ชม.ละ 1,400 เยน => ซื้อโค้กได้ 14 กระป๋อง                                          => ซื้อไข่ได้ 73 ฟอง มานั่งคิดดูเออจิงเว้ย เพราะจขกท.ทำให้คิดได้เรย --;; จากคุณ : เหมียวลายพาดกลอน เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 19:13:22

ความคิดเห็นที่ 81 หารนำอายุเป็นเกณฑ์ล่ะ เป็นไปได้ไหมว่า เมืองไทยเหมาะกับเด็กอายุ 7 ปีลงมา(มีความอบอุ่นหมู่ญาติ บ้านช่องมีที่ทางสำหรับวิ่งเล่นมากกว่า) และ อายุ 60ปีขึ้นไป(เหตุผลเดียวกับวงเล็บบน และได้ทักทายผู้คน พูดคุยมากว่า รวมทั้งทางการแพทย์ได้รับการบริการอบอุ่นกว่า) อายุสำหรับวัยเรียน ทำงานเต็มที่คงสู้เมืองนอกไม่ได้ แต่ต้องยอมรับว่า เมืองไทยมีออฟชั่นในการเป็นอยู่ การใช้ชีวิต โอกาสทางเลือกมากกว่าที่อื่่น โดยเฉพาะความภาคภูมิใจ หัวเราะได้ดังกว่า ด่าได้ถนัดปากกว่าด้วย จากคุณ : หน่อง เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 19:26:01 A:175.156.195.171 X: TicketID:184589

ความคิดเห็นที่ 82 คุณ : มนชิจัง อย่าย้ายไปอยู่อังกฤษ ของยังแพงกว่าอเมริกา เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาผมไป อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เยอรมันและฝรั่งเศส ของแพงกว่าอเมริกาทั้งนั้น ผมอยู่ห่างจากตึกเพ็นตากอนแค่ 25 ไมล์เท่านั้น สำหรับเชียงใหม่ ถือว่าน่าอยู่มาก ยังหาที่พักและอาหารราคาไม่แพงได้ง่าย จะเอาหรูๆก็ได้ เรื่องโรงพยาบาล เขาดีมาก มีผู้เชี่ยวชาญเยอะ สนนราคาไม่โหดร้ายทั้งของหลวงของราษฏร์ คนเถื่อนๆมีน้อย ผมบอกได้แค่นี้ เมื่อต้นปีนี้ผมไปตลาดสดทุ่งสงกะว่าจะซื้อปลากะพงมานึ่งสักตัว เขื่องหน่อย แม่ค้าบอก(ห้ามต่อ ต่อราคาก็ไม่ได้) 550.00 บาท ผมถอยออกมานิดหนึ่ง ป้องกันตัวเองไว้ก่อน แล้วถามว่าอะไรราคาจะขนาดนั้น ใครซื้อกันนักกันหนา แม่ค้าถือว่าใจดีบอกว่า คนจีนนาบอน(อำเภอที่อยู่ห่างไปราว 15 กม) ซื้อหมดแหละำพี่ ที่นั่นเขามีสวนยางเยอะ ตกลงผมได้แต่ตัวเล็กมา ปกติผมกินคนเดียวก็หมด ในราคา 180 บาท แกงเหลืองกับหน่อไม้ อร่อยดีเหมือนกัน ถ้านึ่งก็ไม่พอกินกันสามสี่คน เคล็ดลับ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน เวลาไปตลาดสดทุ่งสง ถ้าจะต่อราคาให้ยืนห่างๆแม่ค้า และอย่าต่อซี้ซั้ว อย่าหยิบของเลือกของแล้ววาง ไม่ซื้อ ไม่เช่นนั้นอาจจะโดนไม้คานหรือโดนบริภาษต่างๆนานาได้ ความคิดเห็นที่ 77 ฝรั่งที่คุณพูดถึง คงไม่ได้พูดเมื่อไม่นานมานี้นะครับ อีกอย่างหนึ่งฝรั่งเขาไม่มาช้อปสินค้าอิมปอร์ต และคนที่มาเที่ยวส่วนมากก็คงมีรายได้มากกว่ารายเฉลี่ย เกษียณแล้วมีรายได้เดือนละแสนถือว่าไม่มาก ฝรั่งที่รู้จักหาของถูกก็มี ย้ำอีกที ของอเมริกาถูกกว่ายุโรปเยอะครับ จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 19:42:53 A:98.231.188.19 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 83 เราอยู่เชียงใหม่ค่ะ  ของยังถูกอยู่ เรากับสามีเออรี่หนีลูกมาอยู่ที่นี่ ๓ ปีกว่าแล้ว   กินข้าวนอกบ้านวันละ๑ มื้อ  กินร้านแพงเลยค่ะเพราะสามีกินร้านข้างทางไม่ได้  เดือนหนึ่งใช้ไม่เกิน ๔ หมื่นบาท  ใช้อย่างสบายๆเลย  แต่ไม่ต้องเสียค่าเช่าบ้านนะ นํ้าเต้าหู้ ๕ บาท  ขนมจีนนํ้าเงี้ยว ๒๐ บาท  กับข้าวที่สันป่าข่อยถุงละ ๑๐บาท (เมื่อ ๒ ปี ก่อน)  ผักหญ้า ยังกำละ ๑๐ บาท   นี่ถ้าไม่ติดที่คุณสามีแล้วเรากินข้าวแกงได้ทุกวัน  เดือนนึงคงใช้ไม่ถึงหมื่น อายุมากแล้วค่ะนอกจากเรื่องกินและเรื่องไปนวด  ก็ไม่ได้ใช้เงินอะไร   เก็บไว้เผื่อลูกโทรมาขอ(เราสองคนกลัวลูกไม่รัก อิอิ) ตอนอยู่ออสเตรเลียต้องทำกับข้าวทำงานบ้านทุกวัน   โหดมาก   ถ้าไม่เจ็บไม่ป่วยก็จะอยู่เมืองไทยไปจนกว่าสังขารจะให้  เมืองไทยยังน่าอยู่ จากคุณ : อาคิคุุน เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 19:47:32

ความคิดเห็นที่ 84 ความคิดเห็นที่ 77 จขทก. เจาต้องการเปรียนเทียบเรื่อง ค่าครองชีพไม่สัมพันธ์กับรายได้ ที่ฝรั่งชอบมาเมืองไทยแล้วบอกว่า เมืองไทยของถูก ก็ถูกต้องแล้ว ดังที่ จขทก.  ยกตัวอย่าง - ราคาไข่ไก่ อังกฤษ ลูกละ 0.11 ปอนด์  คือทำงาน 1 ชม (6 ปอนด์) ซื้อได้ 54 ฟอง - ราคาไข่ไก่ เมืองไทย ลูกละ 3 บาท ทำงาน 1 ชม (30 บาท) ซื้อได้ 10 ฟอง ถ้าคนอังกฤษทำงาน 1 ชม. มาซื้อไข่ไก่ที่เมืองไทยจะได้ 100 ฟอง ในทางกลับกัน คนไทยทำงาน 1 ชม. ไปซื้อไข่ไก่ที่อังกฤษจะได้ 5.5 ฟอง จากคุณ : TrojanTHM เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 19:53:15

ความคิดเห็นที่ 85 จริงครับ ถ้าเทียบกับค่าครองชีพ ค่าแรงขั้นต่ำ แพงครับ ถ้าเทียบอย่างที่ จขกท ว่า แต่ที่เป็นเช่นนั้น เพราะว่า ต้นทุน ของสินค้าด้วยครับ เช่น ไข่ ผลิตต้นทุนในดลกก็พอๆกัน ต่างกันจากค่าแรงแค่นั้นแหละ ที่อังกฤษ เลยฟองละ 6 บาท บ้านเรา 3 บาท อาหารจากบ้านเรา ราคาผลิตถูก รวมส่งออกไปอังกฤษ บวกนู้นนี่ ก็เลยยังถูก ถ้าเทียบกับค่าครองชีพ คือ สรุปว่า ยังไงอาหาร การกิน บ้านเราก็ไม่ได้ถูกไปกว่านี้หรอก เพราะมัน at cost แล้ว ( ประเทศกำลังพัฒนา ก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น) จะให้ดี ก็ต้องขึ้นค่าแรง ค่าครองชีพนั่นแหละถูกต้องแล้วครับ สำหรับ ฝรั่ง มาเมืองไทย ถ้าเทียบค่าเงิน ก็ยังถือว่าถูกครับ บ้านเราไปบ้านเค้าก็แพง ก็ถูกต้องแล้วนิ เพราะค่าเงิน ค่าครองชีพต่างกัน นี่แค่สำหรับอาหาร แต่ลองดูอย่างอื่นซิครับ บ้านเราถือว่าแพงมาก ถ้าเทียบกับ รายได้นะครับ เช่น ของ IT ทั้งหลาย เพราะทั่วดลกราคาเท่ากันหมด แต่คนไทย ต้องใช้เงินเยอะในการบริโภค ทั้ง ค่ามือถือ ipad iphone notebook license ยา รถยนต์ สิ่งต่างๆเหล่านี้แหละ ที่ทำให้เงินคนไทยเรา ลดลง จากคุณ : x เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 20:19:27 A:110.164.191.67 X: TicketID:321959

ความคิดเห็นที่ 86 จริงค่ะ คุณ อิสวาสุ งานแบบสามีหนู ได้เงินที่อเมริกา หัวล่ะ150-200 เหรียญ(แต่สงสัยต้องไปเรียนเพิ่มเพราะเกี่ยวกับสุขภาพ-การแพทย์) เห็นประกัน 4 คนในครอบครัว(จากเว็บ) ประมาณ 700-1000 เหรียญต่อเดือน ตอนนี้ทำงาน ที่ฝรั่งเศส หัวล่ะ 60 ยังไม่หัวค่าหัวคิว จ่ายสวัสดิการสังคมเดือนล่ะเกือบ ๆ พันยูโร ยุโรปอะไรแพงจริง แถมค่าแรงทำงานบางประเภท ถูกกว่าอเมริกาอีก ภาษีก็แพงกว่ามหาศาลเลย จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 20:50:06

ความคิดเห็นที่ 87 เห็นด้วยค่ะว่าค่าครองชีพในไทยแพงกว่าประเทศพัฒนาแล้วอย่างน่าตกใจ รายได้ต่ำกว่ามากแต่ต้องซื้อสินค้าราคาไม่หนีกันเลย อย่างไรก็ตาม สตาร์บัคส์ในญี่ปุ่นมีเยอะแต่ก็ยังถูกมองว่าเป็นร้านเครื่องดื่มราคาแพงอยู่ดี ร้านกาแฟยี่ห้อญี่ปุ่นจะถูกกว่านั้น และที่ถูกมากๆและเป็นที่นิยมอย่างแท้จริงก็คือกาแฟกระป๋องขายตามตู้อัตโนมัติ (ในไทยต้องซื้อสตาร์บัคส์ในราคาเท่ากับที่ขายในญี่ปุ่นแต่ของอร่อยน้อยกว่า อุปกรณ์เสริม บริการเสริมน้อยกว่าหรือแทบไม่มีเลย ได้แต่เซ็ง) จากคุณ : อ่าวโตเกียว เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 21:02:16 A:125.203.118.71 X: TicketID:299625

ความคิดเห็นที่ 88 อ่านๆดูหลายๆความเห็น ของแต่ละอย่างในไทย ก็ราคาเท่าเมืองนอก แต่เรา มีรายได้ ต่อชม. ต่อวัน น้อยกว่าเมืองนอก แค่นั้นแหละ เคยคำนวนเล่นๆ เทียบค่าครองชีพ ไทยกับญี่ปุ่น เงิน 100 เยน ในมือคนญี่ปุ่น ก็ประมาณ 10 บาทในมือคนไทย (ทั้งที่แลกจริง ได้ 30 กว่าบาท) มิน่า เค้าถึงซื้อของเล่นมาเก็บสะสมกันได้เยอะๆ จากคุณ : เป่าหิมะ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 21:15:55

ความคิดเห็นที่ 89 รู้สึกเช่นกันค่ะ และก็รู้สึกมานานแล้วด้วยค่ะ ทุกครั้งที่กลับไปเยี่ยมบ้านที่เมืองไทย(กลับบ้านทุกปีค่ะ ปีละ 1-2 ครั้ง) ดิฉันย้ายมาอยู่ต่างประเทศเกือบจะ 5 ปีแล้วค่ะ จากปีแรกถึงปัจจุบัน ถ้ามีงบไปเท่าเดิมจะไม่พอค่ะ ปีที่แล้วตั้งงบไปแต่บานปลายมากๆค่ะ ทั้งๆที่ก็กิน เที่ยว ช้อป แบบเดิมๆทุกอย่างค่ะ ปีหลังๆมานี้ก็ไม่ค่อยได้ช้อปที่ไทยแล้วค่ะ รอช่วงลดราคาที่นี่ดีกว่า ไม่ต้องแบกกับมาให้ยุ่งยาก เน้นกินกับเที่ยวอย่างเดียวค่ะ ดิฉันเชื่อว่าคนที่อยู่ไทยเองก็คงจะรู้สึกเช่นกันค่ะ ตอนดิฉันอยู่เมืองไทย ก็เป็นคนจ่ายตลาดให้ที่บ้านค่ะ เมื่อหลายปีก่อน มีเงินไปซุปเปอร์มาเก็ต 500 บาท ก็ได้ของกินหลายรายการค่ะ ทั้งผัก เนื้อ นม ผลไม้ ปัจจุบันนี้มีเงินไปซื้อของที่ซุปเปอร์ 500 บาท ได้แต่เนื้อมาไม่กี่กิโลค่ะ หิ้วแบบสบายๆ ของตลาดสดเองก็ใช่ว่าจะไม่ปรับราคาขึ้นนะคะ ถึงค่าแรงจะปรับให้วันละ 300 บาท แต่ราคาข้าวของอุปโภคบริโภคก็ปรับขึ้นตามค่ะ (เขาอ้างว่าค่าแรงปรับ เขาก็ต้องปรับราคาตาม ต้นทุนสูงขึ้น) ชีวิตคนไทย ที่หาเช้ากินค่ำ ลำบากจริงๆค่ะ เช่น พนักงานตามโรงงานรายวัน เป็นต้น ต้องเสียค่าเช่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ารถไปทำงาน ค่ากิน ไม่ต้องคิดถึงเงินรักษาพยาบาลเลยค่ะ ไม่ต้องคิดว่าจะมีเงินเก็บ มีเงินไปเที่ยวไหนได้บ้าง ค่ารักษาที่เมืองไทยถูกก็จริงหรืออาจจะมีฟรีบ้าง แต่ถ้าเป็นอุบัติเหตุ ผ่าตัด ก็ไม่ได้ฟรีใช่ไหมค่ะ แล้วพนักงานตามโรงงานจะทำอย่างไรกัน ให้ประหยัดเงินอย่างไรก็ไม่เหลือเก็บค่ะ เพราะรายจ่ายบางรายการก็ไม่สามารถเลี่ยงได้ เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าอาหาร เป็นต้น สมัยดิฉันทำงานออฟฟิสที่ไทย ใช้เงินให้ชนเดือนก็ถือว่าดีที่สุดแล้วค่ะ แก้ไขคำสะกดตกหล่นค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 55 21:41:42 แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 55 21:35:42 จากคุณ : sunisaogkim เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 21:32:32

ความคิดเห็นที่ 90 คิดเหมือนกันเลยค่ะ เมื่อก่อนคิดว่าเมืองไทยถูกนะ แต่พอได้มาอยู่เมกา เราเคยทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟ อาทิตย์ละ 3 วัน ได้วันละประมาณ $100 บางทีก็มากกว่าขึ้นอยู่กับทิป จ่ายทุกอย่างได้หมด ยกเว้นชอปปิ้งแพงๆ ต้องเก็บตังนิดนึง ค่าใช้จ่ายในนิวยอร์ค - ค่าตั๋วรถไฟ เดือนละ $104 ทำงานวันเดียวแทบจะจ่ายค่าตั๋วทั้งเดือนได้ ขึ้นได้แบบ unlimited ทั้งรถไฟและรถบัส - ค่ากิน $100 บางทีก็กินที่ร้านที่ทำงาน - ค่าโทรศัพท์ $30 แบบได้เน็ต 30 Mb โทร+ข้อความ 1500 นาที แอบแพงอยู่ - ค่าเน็ต เดือนละ $40 ได้้เน็ตความเร็ว 10 Mb - ค่าไฟ เดือนละ $30 หารกับเพื่อน - ค่าที่พัก เดือนละ $400 หารกับเพื่อน แต่อยู่ห้องเดียวกัน อันนี้ก็แพงเกิน ไม่ได้อยู่ในแมนฮัตตันด้วย - ค่าจิปาถะ ซักผ้า ของใช้ $40 แต่ก็ไม่ได้ซื้อเข้าทุกเดือน รายได้เราประมาณ $1200 ต่อเดือน ไม่เยอะนะ ส่วนค่าใช้จ่ายรวมแล้วประมาณ $744 (บวกถูกมั้ยนี่) เหลือเงินเก็บพอควร แต่แอบหมดไปกับช็อปปิ้ง 55 ขนาดเราทำงานน้อย ยังมีเงินเหลือเก็บอยู่เกินหมื่น คิดอยู่ว่าถ้่าเป็นที่เมืองไทยจะจ่ายยังไงไหว มีเงินเหลือมั้ยไม่รู้ แต่ตอนนี้หยุดทำงานไปเพราะต้องเรียนคอลเลจเลยกลับมาไส้แห้ง ซึ้งเลย ถ้าไม่มีงานทำนี่ ค่าใช้จ่ายแพงโคตรรรรรรร จากคุณ : Seitan เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 21:59:06

ความคิดเห็นที่ 91 ผมว่ามันแพงเพราะในไทยไม่มี กม.คุมตั้งแต่ต้นกระบวนการน่ะครับ ถ้าเป็นพวกของที่ผ่านมือเป็นทอดๆพวกพ่อค้าคนกลางตั้งหน้าแต่จะเอากำไร บวกกำไรกันเป็นทอดๆ กลไกตลาดบ้านเรายังกินกันเป็นทอดๆเยอะเกินไปทำให้บางที่ราคาขายปลีกแพงกว่าราคาออกจากแหล่งผลิตหลายเท่าตัว ต่อให้เงินเดือนขึ้นเท่าไหร่ก็ไล่ไม่ทันค่าครองชีพขึ้นแล้วหละครับ ก๊วยเตี๋ยวเรือเดี่ยวนี้25บาทกินสองคำหมด ค่ากินวันนึงแบบอดๆอยากๆก็วันละเกือบร้อยแล้วครับ ไหนจะค่าเดินทางที่ขูดเลือดเนื้อกันแทบตายเพราะเชื้อเพลิงแพงและอื่นๆ คิดอยากหนีไป ตปท.เหมือนกันครับ เมื่อก่อนอยู่ญี่ปุ่นมา3ปี ยังมีเงินเหลือเก็บเยอะกว่าอยู่เมืองไทยตอนนี้เลยครับ จากคุณ : Notti (notti) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 22:29:40

ความคิดเห็นที่ 92 เรารู้มานานแล้วค่ะ แต่คิดไม่เก่งและคำนวนไม่เก่ง พอ จขกท. ตั้งขึ้นมามันใช่เลย เราอ่านข่าวและติดตามเกี่ยวกับเมืองไทยตลอด ตอนเรากลับเมืองไทยเวลาซื้อของเห็นเลยว่าของแพงมาก แม่เรามักจะบอกว่าอยากซื้อของเสื้อผ้า ตัดผม ไปทำเมืองไทยดีกว่า เมื่อก่อนไม่เถียงแต่เดี๋ยวนี้ต้องบอกแม่ ว่ามันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ อะไรๆก็ไม่เหมือนเดิมแล้วสมัยนี้ เฮ้อ.. -*- จากคุณ : บัวบุษราคัม เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 22:35:50

ความคิดเห็นที่ 93 ขอชี้ประเด็นอะไรหน่อยนะครับ ผมทำงานต่างประเทศตั้งแต่เรียนจบ ซึ่งไม่ได้ทำงานประเทศพัฒนาแล้วนะ ย้ายมาสองประเทศแล้ว และคงย้ายในอีกไม่กี่ปีนี้ จะบอกว่าหลายประเทศ แทบทุกที่ ที่ผมได้ศึกษามาเรื่องของรายได้ขั้นต่ำ และค่าครองชีพ เมืองไทย (สำหรับผม) ถือว่าอยู่ง่ายมากกกกกก ของถูกมากกกกกก เมื่อเทียบกับรายได้ เพราะถ้าคุณมาอยู่ในประเทศที่ผมอยู่ (และหลายประเทศก็เป็นยังคงเป็นเช่นนี้อยู่) คุณจะรู้ว่าทำงานทั้งวัน ยังไม่พอกิน 3 มื้อ (แบบอาหารข้างถนน) เลย เพราะถ้าคุณเอาประเทศไทยไปเทียบกับประเทศที่แต่ละท่านกล่าวมานั้น แน่นอน ลำบากกว่าอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณลองเอาไปเทียบกับอีกหลายยยประเทศบนโลกใบนี้ละก็นะ หึหึ แล้วจะรู้สึกไปเลยว่าอยู่เมืองไทยนั้นมันช่างแสนจะสบาย จากคุณ : เจ้าแตงกวาดอง เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 22:48:10

ความคิดเห็นที่ 94 เคยคุยกับเพื่อนแบบเดียวกับที่เจ้าของกระทู้คิดเลยครับ แสดงว่าผมไม่ได้คิดไปเองจริงๆด้วย จากคุณ : พระจันทร์กับฉันและตู้เย็น เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 22:50:17

ความคิดเห็นที่ 95 เข้าใจละ รายได้คนไทยต่ำมากนี่เอง จากคุณ : ร ฉ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 22:56:08 A:223.205.210.201 X: TicketID:359309

ความคิดเห็นที่ 96 เรากำลังตกงานค่ะ คุณ จขกท.พูดซะเราอยากไปล้างจานเมืองนอกเลยอ่ะ วิชาชีพที่เราเรียนจบมา ทำงาน รพ.รัฐ จ้าง 10,530 บ. ไม่อยากบอกเลยว่าตอนเรียน พ่อแม่ให้ใช้เยอะว่านี้อีก อะไรๆ มันก็แพง คิดว่าถึงทำงานแล้ว ยังไงก็ต้องได้ขอเงินพ่อ แม่ใช้อยู่แน่ๆ ค่ะ จากคุณ : ซาลาเปาขาวอวบ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 23:01:57

ความคิดเห็นที่ 97 เคุยกับเพื่อนพ่อเป็นคนไทยแต่ทำงานญี่ปุ่นว่าผมอยากจะไปเรียนต่อโท ที่นู้น เค้าถามว่าทำไมไม่เรียนที่บ้านเรา ผมตอบไปว่าที่บ้านเรา ผมไม่สามารถทำงานพิเศาแล้วส่งตัวเองเรียนโทได้เหมือนที่ญี่ปุ่น จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 23:10:00

ความคิดเห็นที่ 98 อีกประเด็นคือ จะให้ทำยังไง แก้อะไรได้เนอะ? เพราะเราเป็นประเทศกำลังพัฒนาจะไปเทียบ ยักใหญ่แบบ อเมกา ญี่ปุ่น และอื่นๆฝั่งยุโรปได้ไง แต่ก้พอเข้าใจ นะว่าประเทศไทยไปช้าจริงๆ ดู้กาหลีที่คนไทยแอนตี้นักสิ เค้าไปถึงไหนแล้ว ว่าแล้วก็ น่าคิด ยังไงคนไทยที่ ค่าครองชีพต่ำ ก็ไม่สามารถไปทำเงินเมืองนอกได้ทุกคนอยู่ดี ไม่งั้นเด็กจบใหม่คงไม่แย่ง งาน 15000 ต่อเดือนกันทำแล้ว คงไปเสิฟอาหาร หรือทำงานเมืองนอก กันหมด ใครก็อยากไป ใครก็อยากมีเงินเก็บ จากคุณ : galaxy note (คิวปิดน้อย) เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 00:38:23

ความคิดเห็นที่ 99 พึ่งกลับจากไทย  ลงเครื่องไม่ถึง  5  ชั่วโมง   ^^ อิชั้นคิดคนเดียว  มานานแล้วคะว่าของที่เมืองไทยแพง  ถ้าเทียบกับฐานเงินเดือน ล่าสุดกินกาแฟเย็น  ร้านริมถนน   แก้วละ25 บาท    ดูดกาแฟหมดไม่กล้าเทน้ำแข็งทิ้ง เอาแช่ตู้เย็นไว้  กินต่อ จากคุณ : pippo's sweet heart เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 00:58:06

ความคิดเห็นที่ 100 ให้คิดเล่นๆ พนักงานร้านแมกโดนอลที่วอชิงตันดีซี ทำงานวันละแปดชั่วโมง ได้ค่าจ้างมากพอที่จะซื้อไข่ไก่ 1080 ฟอง ไข่ที่นี่โหลละ 99 เซ็นต์ ซื้อได้ทุกวัน แต่ไม่ใช่ทุกร้านขายราคานี้ ความคิดเห็นที่ 96 จากคุณ : ซาลาเปาขาวอวบ ถ้าคิดไปล้างจานเมืองนอกคิดผิดครับ ซาลาเปาขาวอวบ ที่ทุ่งสง บ้านผม อร่อยมาก ลูกละ 18 บาท แต่ละวันขายเยอะมากๆ ที่ขายลูกละ 10 บาทก็มี ซื้อหนเดียวแล้วไม่ซื้ออีกเลย ไม่ต่างอะไรกับหมั่นโถว ขายซาละเปาที่บ้านเราดีกว่า คุณ : มนชิจัง ค่าประกันค่ารักษาพยาบาล ที่อเมริกา ตอนที่ผมจ่ายเองทั้งหมด คุ้มครองผมและภรรยาเท่านั้นเดือนละ $1,400.00 ครับ ตอนนี้หลวงช่วยจ่ายแล้ว เหลือต้องจ่ายเองไม่กี่ร้อยแต่หาหมอแล้วเขาไม่จ่าย 100% นะครับ จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 01:39:30 A:98.231.188.19 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 101 2ปีที่แล้ว ตอนกลับไปบ้านที่กรุงเทพ เห็นชัดจนสะอึกเลยค่ะ ของใช้แพงมากๆๆ ของที่ใช้ในบ้านในชีวิตประจำวันนี่แหละ ไปซื้อของใช้เข้าบ้านสำหรับเรากับลูกสาว พวกกระดาษทิชชู่ กระดาษชำระ แชมพู ครีมอาบน้ำ อะไรพวกนี้น่ะค่ะ ห้างโลตัส ซื้อขวดเล็ก ห่อเล็กนะคะ ตอนจ่ายเงิน 4000 กว่าบาท กรี๊ดดดดด แพงกว่า ในเยอรมันอีก ยังไม่มีอาหารนะคะ ของก็ไม่ได้ซื้อ ยี่ห้อแพงเว่อร์อะไร ไปดูอาหารบ้าง เราว่าซื้ออาหารในห้างมาทำทานที่บ้าน แพงกว่า ซื้อนอกบ้านมาทาน จ่ายอีกนิดไปนั่งร้านอาหาร ได้เลย ไม่เหนื่อยทำเหนื่อยเก็บด้วย ส่วนตลาดไม่ทราบ ไม่ เคยไปเดิน ขนมบางอย่างนำเข้ามา ลูกสาวอยากทาน นังแม่ ทำใจซื้อไม่ลงเลยค่ะ ช็อคโกแลต yoghuretti ที่นี่กล่องนึงถูกมาก มากจนไม่ได้จำราคาเลยล่ะ ที่กรุงเทพขายกล่องนี้ เกือบ 300 บาท ยังบอกลูก กลับไปกินบ้านดีกว่าค่ะลูก ค่าน้ำมันอีก เติมเต็มถัง จ่ายไปในราคาเดียวกันกับที่นี่เลย แต่กรุงเทพรถติดง่ะ เติมถี่จริงๆ นั่งแทกซี่เอาดีกว่า รวมๆแล้ว แพงพอกัน แต่ไม่เหนื่อย ไม่ต้องหาที่จอด สรุปรอบนั้น งบที่ตั้งไว้เอาไม่อยู่เกินกระจุย ช็อปไร ไม่ช็อปแล้ว ซื้อเสื้อผ้าลูกในห้างหมดเป็นหมื่นๆ ยี่ห้อไรไม่รู้ คือไม่เอาแบรนด์นะ แต่ใส่ตอนอยู่ไทยเท่านั้นเอง กลับมามันหนาว ใส่ไม่ได้ หน้าร้อนอีกที มันก็เล็กไปแล้ว ครั้งหน้าไปสอย h&m เซลหน้าร้อนตุนไว้ ไม่ไปซื้อไทยแล้ว สามีบอกว่า รูดการ์ดไปเลย ไหนๆก็ราคาพอๆกันแบบนี้แล้ว เก็บเงินสดไว้แลกใช้จ่ายเล็กน้อยดีกว่า ไม่ต้องเสียค่าโอน น้องสาวคนเพิ่งจบสัตวแพทย์ ม.รัฐชื่อดัง ไปหางานทำ เค้าให้แค่หมื่นห้า ทั้งน้องทั้งเพื่อนๆเค้าบอกเหมือนกัน ค่าขนมแม่ให้ยังมากกว่าเงินเดือน เลยไปเรียนโทต่อกัน แต่เราว่า ทานอาหารนอกบ้านนี่ ยังไงๆก้อถูกกว่าที่นี่มากๆค่ะ ไปทานอาหารในโรงแรม ทั้งครอบครัว ผู้ใหญ่ 7 เด็ก 1 จ่ายไปต่อมืัอเฉลี่ยมื้อละ 8000 บาท หัวละพันละกัน บริการอย่างดี อาหารอร่อย ทานที่นี่ไม่ได้อ่ะ เข้าได้แต่ร้านอาหารธรรมดาๆ กลางๆ จากคุณ : Annachen เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 02:22:32

ความคิดเห็นที่ 102 คุณ Annachen ปีที่แล้วเดือนตุลา (ล่าสุดที่กลับไทย) ดิฉันไปซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันเข้าบ้านที่บิ๊กซีในกรุงเทพฯนะคะ พวกสบู่เหลวอาบน้ำ ยาสีฟัน แชมพู ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน ฯลฯ จ่ายไปสามพันกว่าบาท เดินออกมาตัวปลิวๆ หิ้วของเบาๆ ใจหวิวๆเลยค่ะ 555 นึกภาพตามที่คุณเล่ามา เข้าใจดีเลยค่ะ จากคุณ : sunisaogkim เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 03:33:47

ความคิดเห็นที่ 103 ชอบกระทู้นี้จัง อ่านเพลินดีค่ะ เราแพลนจะกลับบ้านอีก 2 ปี นี้ล่ะ(อีกนานเหมือนกันนะนี่) เราคงไม่ใช้ชีวิตเที่ยว กิน ที่ กทม เกิน สาม วันแน่ๆ เพราะอะไรมันก็แพงๆ ไปหมดมีเงินหมื่นบาท คงใช้หมดภายในไม่กี่วัน แพลนว่าจะกลับบ้านนอก ตามชนบทบ้านเกิดเรา อยู่กับครอบครัว มีเงิน สาม สี่ ร้อย ไปตลาด ซื้ัอผัก ปลา เนื้อสัตว์ต่างๆ จากแม่ค้า ในหมู่บ้านเราเองถูกกว่าเยอะเลยค่ะ หมุ่บ้านเรานี่อาหารการกินสมบูรณ์มาก แถมสะดวกมาก อยากได้อะไรมีหมด เราชอบชีวิตแบบนั้นมากกว่า แม่เราบอกว่า มี เงินพันนึง มาอยู่บ้านเรา เอาเงินพันให้แม่ไว้เป็นค่าอาหารนะลุก อยู่ได้เกินอาทิตย์แน่นอน ของที่ชนบทบ้านเรายังถูกมีคุณภาพเหมือนเดิมค่ะ ชาวบ้านเขาปลูกผัก เลี้ยงปลา มีฟาร์มของเขา เขาขายไม่แพง ยิ่งญาติเราทำนะ ขนมาให้ฟรีมีผักกินไปเป็นเดือนเลย แถมได้อยู่กับครอบครัว ออกไปนา ไปทุ่งโอ๊ยสนุกใหญ่ กทม เราก็ชอบอยู่ที่ว่ามันมีร้านค้า อร่อยๆมากมาย น่ะสิ แต่ให้อยู่เป็นเดือนๆ ไม่ไหวอ่ะค่ะ มาอยู่เมืองนอกเรา งก มากกว่าเดิมอีก ทำงานได้เงินเยอะกว่าไทยมากก็จริง แต่มันเหนื่อยอ่ะกว่าจะได้แต่ละดอลล์ หึๆ ที่ไทยทำงานออฟฟิส สบายๆ เงินเดือนหมื่นปลายๆแต่ ที่ กทม ค่าเช่าค่าครองชีพเอาไปกินหมด ไม่เหลือเงินเก็บเลย มีแค่พอใช้พอกิน ส่งบ้าน เท่านั้นเอง แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 55 04:35:58 จากคุณ : MajestyLove เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 04:35:08

ความคิดเห็นที่ 104 เปรียบเทียบเห็น อย่างมะนาวลูกหนึ่ง ที่เมืองไทยตกเกือบ 10 บาท บระเจ้า!! ไปซื้อตามซุปเปอร์มาเก็ตในเมกา ลดราคา 10 ลูก 99C แล้วก็พวกต้นหอม ผักชี ที่นี่ราคาถูกกว่าไทยอีกอ่ะ ผัก ผลไม้ ที่ต่างประเทศจะถูกกว่าเมืองไทยเยอะเลยค่ะ จากคุณ : sa_bkk เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 04:35:58

ความคิดเห็นที่ 105 ชอบกระทู้นี้มากค่ะ เพราะคิดอย่างนี้เหมือนกัน ตอนที่มาเรียนที่ซิดนีย์ใหม่ ก็บ่นตลอดว่าของแพง เพื่อนรอบข้างก็บ่น ถีงตอนนี้ หลายคนที่ไม่ได้คิดแบบ จขกท ก็ยังบ่นว่าที่ซิดนีย์ของแพงค่ะ ทั้งที่จริงๆแล้ว พอมาเทียบกับรายได้ที่เราหาได้จากที่นี่แล้ว ถือว่าค่าครองชีพถูกกว่าที่เมืองไทยเสียอีกค่ะ รายได้ขั้นต่ำของที่นี่ มากกว่าไทย 7-10 เท่า แต่ราคาสินค้ากลับแพงกว่าที่ไทยนิดหน่อย หรือบางอย่างกลับถูกกว่าเสียอีก ที่นี่จะซื้อแชมพูขวดนึง ทำงานครึ่งชั่วโมงก็ซื้อได้แล้ว เมืองไทยจะต้องทำงานกี่ชั่วโมงถึงจะได้เงินมาสักร้อยนึง บางทีก็คิดว่าของไทยไม่แพงหรอกค่ะ แต่รายได้ขั้นต่ำของประชาชนมันถูกเกินไป จากคุณ : ByMaya เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 04:36:06

ความคิดเห็นที่ 106 ค่าครองชีพที่เมืองไทยแพงขึ้นมากจริงๆค่ะ โดยเฉพาะ คนกรุงที่เคยชินกับความฟุ่มเฟือย แต่ถ้าเทียบกับยุโรป อิฉันว่า บ้านเรายังสบายกันอยู่มาก เพราะ ชีวิตคนเรา มันไม่ได้มีแต่อาหาร แต่ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ารถ ค่าบ้าน อิฉันว่า เมืองไทย ยังชิลได้อยู่นะคะ เอาแค่ ไฟดับซักสามวัน อิฉันว่า คนไทยยังอยู่ได้สบายๆ แต่ประเทศแถบยุโรปนี่ อาจสิ้นชาติกันเลยทีเดียว เพราะรูปแบบชีวิต และสภาพความเป็นอยู่ ต้องพึ่งสาธารณูปโภคต่างๆ อย่างขาดไม่ได้ ปล. เมืองไทยของอิฉัน คือประเทศไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่กรุงเทพมหานครฯ จากคุณ : letsgokrabi เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 05:39:47

ความคิดเห็นที่ 107 เป็นเรื่องที่ผมคิดมานานตั้งเเต่ผมเคยไปอยู่ออสเตรเลียละครับ อยู่ที่นู่นเป็นเเค่นักเรียน เเต่หางานpart time ทำ ไม่น่าเชื่อว่าทำงานไม่กี่เดือน สามารถเก็บเงินซื้รถมือ2ได้ เกมส์psp ทีวี ทั้งๆที่ก็ไม่ได้ประหยัดมากมาย กินเที่ยวเหมือนวัยรุ่นปกติ เเถมกลับมาเมืองไทยมีเงินเก็บกลับมาอีกก้อน ส่วนเพื่อนผมที่ประหยัดๆหน่อยก็สามารถส่งเสียตัวเองจนเรียนจบได้ ละคนที่เมืองนอกค่าเเรงเค้าจะสมเหตุสมผล คนที่ทำงานหนักค่าเเรงจะได้เยอะกว่างานสบาย เช่น คนทำเหมือง ช่าง เงินเย๊อะกว่าพนักงานธนาคาร คือเอาง่ายๆว่า เเต่ละอาชีพเเต่ละคน รายได้เฉลี่ยไม่ต่างกันมาก อยู่ที่ความขยัน ระดับชั้นของความรวยจนไม่ห่างกัน คนจนที่เมืองนอกมีเหตุผลเดียวคือจนเพราะขี้เกียจไม่ทำงานเท่านั้น เเตกต่างจากเมืองไทยมาก คนรวยคือโคตรรวย ขับรถสปอร์ตคันละ 30 ล้าน บ้าน 100 ล้าน คนจนจะหาข้าวกินครบ3มื้อเเต่ละวัน ทำงานเหนื่อยเเทบตาย.          ผมวิเคราะห์เรื่องนี้ด้วยตัวเองเเละก็รู้ด้วยว่าสาเหตุมันมาจาก การคอรัปชั่นในเมืองไทยนั่นเอง นักการเมืองโกงกิน เงินภาษีของประชาชนไม่สามารถนำมาพัฒนาประเทศ+คุณภาพชีวิตที่ดี คนชั้นกลางเเละคนชั้นล่างต้องต่อสู้เเข่งขันกันเพื่อเอาชีวิตรอดในประเทศห่วยๆนี้ ก่อให้เกิดความเอารัดเอาเปรียบกันในสังคม ความเห็นเเก่ตัว การเอาตัวรอด ค้าขายกำไรเกินควรเพราะนายทุนเอาเปรียบ ข้าวของเเพง เลยเป็นเมืองไทยอย่างที่เราเห็นทุกวันนี้นี่เอง  ไว้อาลัยเเด่สยามเมืองที่สุดเเสนจะน่าอยู่ 555555 จากคุณ : fucaborigines เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 05:49:13

ความคิดเห็นที่ 108 ถ้าคุณซาละเปาขาวอวบเป็นพยาบาล ก็ลองสมัครไปทำงานที่ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ดูสิคะ เพราะเป็นสาขาขาดแคลน มีโอกาสได้ค่ะ (ถ้าสอบ RN ผ่าน และภาษาอังกฤษอยู่ในเกณฑ์ที่ทางนี้กำหนด) พยาบาลที่นี่เงินดีมากด้วย เท่าที่คุยกับพยาบาลคนไทยที่นี่นะคะ เห็นเธอบอกว่าเงินดีกว่าเยอะ เหนื่อยน้อยกว่าด้วย ทำไม่กี่ชั่วโมง เดี๋ยวก็เบรคกินน้ำชาตอนเช้า เบรคกินข้าวเที่ยง ตอนบ่ายมีเบรคกินน้ำชาอีกเบรคนึง อันนี้ไม่เกี่ยวกับกระทู้นะคะ แต่เห็นมีบางท่านพูดถึงว่าหนังสือที่บ้านเราแพง ซึ่งอันนี้เราก็เห็นด้วยนะ แล้วสงสัยว่าผู้บริหารประเทศบ้านเรานี่ไม่เคยไปดูงานหรือไปเรียนต่างประเทศเลยหรือไงนะ เห็นนโยบายแต่ละอย่าง แจกโน่นแจกนี่ อย่างแจก tablet กับคูปองส่งเสริมการอ่านให้เด็กนักเรียนคนละสามร้อยบาท แทนที่จะสร้างห้องสมุดชุมชนขึ้นมาเพื่อส่งเสริมการอ่าน อย่างในประเทศที่เราอยู่ จะมีห้องสมุดเยอะมาก ย้ายบ้านกี่ครั้งก็มีห้องสมุดใกล้บ้านขนาดเดินไปได้ทุกครั้ง ถ้าเป็นชุมชนที่เล็ก ห้องสมุดก็มีขนาดเล็ก อาจเท่าบ้านสองห้องนอน แต่มีหนังสือหลากหลายมาก มีหนังสือเสียงให้คนแก่ที่สายตาไม่ดีอ่าน ปิดเทอมก็มีกิจกรรมให้เด็กๆ ทำ อย่างเล่านิทาน ทำของเล่นจากวัสดุเหลือใช้ต่างๆ และเป็นบริการฟรี ถ้ามีห้องสมุดชุมชน เด็กๆ สามารถเข้าถึงห้องสมุด ยืมหนังสืออ่านได้ตลอด คูปองสามร้อยบาท ซื้อหนังสือคงได้แค่สองเล่ม แล้วหลังจากนั้น ถ้าอยากอ่านเล่มอื่นๆ นี่ต้องรอให้แจกคูปองใหม่หรือไง ดูนโยบายเขา แล้วรู้สึกว่ามันแปลกๆ ยังไงไม่รู้ จากคุณ : ข้าวปั้น เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 06:06:00 A:122.111.1.177 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 109 คุณ : ข้าวปั้น ไม่รู้จริงๆหรือครับว่ารัฐบาลไทยทุกรัฐบาลที่ชอบแจกชอบสร้างโน่นนี่มีโปรเจ็กต่าง อภิมหาโปรเจ็ก เพราะอะไร ถ้าไม่รู่้ผมบอกให้ก็ได้ นักการเมืองเขาไม่แคร์หรอกครับ เขาต้องการค่าคอมมิชชันเป็นหลัก เดี๋ยวนี้เขาไม่เล่นกันสิบล้านร้อยล้านหรอก ต้องพันล้านหมื่นล้านจึงจะสะใจ ของที่ซื้อมาแจกจะห่วยเท่าไรไม่ว่ากัน ส่วนผลงานที่แท้จริงถือเป็นผลพลอยได้ จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 08:18:53 A:98.231.188.19 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 110 เราเคยอยู่แอฟริกาประเทศกาน่า ซึ่ง(ขออภัย)คล้ายกับการครองชีพไทยในปัจจุบัน คือค่าจ้างแรงงานต่ำ  แต่ค่าครองชีพสูง  เมื่อวิเคราะห์กันลึกๆ ก็มีจุดที่อยู่ได้สำหรับผู้ที่มี รายได้ต่ำ-ปานกลาง  ข้อเท็จจริงคือในแอฟริกานั้นยังไม่สามารถผลิตสินค้า  ต้องรับ มาจากต่างประเทศเสียส่วนใหญ่  แต่ประเทศไทยเราเป็นมีฐานการผลิตเยอะ ตอนนี้ย้ายมาญี่ปุ่นในกรุงโตเกียวที่ๆหลายคนบอกว่าค่าครองชีพสูง  แต่ก็มีแหล่งที่สินค้า ไม่แพงอยู่บ้าง   เท่าที่สอบถามและสังเกตราคาอาหาร+เครื่องอุปโภคบริโภค  ไม่ได้ขึ้น มากมาย(หลังจากเจอซึนามิ 2011)  หากท่านใดเคยมาเที่ยวเมื่อ 7 ปีก่อนแล้วเคยทาน ราเมงหรืออาหารที่นี่ จะสังเกตว่าราคาเท่าเดิม   ส่วนเรื่องแรงงานค่าจ้างมีเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เรื่องน่าตลก  บางครั้งเจอสินค้านำเข้าจากประเทศไทย  ทำไมถึงราคาถูกกว่าซื้อที่เมืองไทย?? ย้อนกลับมาไทย  ทุกครั้งที่ใช้ชีวิตอยู่ไทย จะทำบัญชีรายจ่ายอย่างละเอียด/ต่อวัน   ในช่วง1-2ปีนี้  สังเกตว่าค่าครองชีพต่อวันสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ  ไม่สัมพันธ์กับรายได้ แม้ว่าบางวันจะลองนั่งรถเมล์ฟรีเพื่อประชาชนก็แล้ว  มันวนเป็นวัฎจักรหมด ไม่ว่าจะค่า เดินทาง  ค่าอาหาร  ค่าข้าวของเครื่องใช้  ทุกอย่างขยับตัวขึ้นและคุณภาพลดลง ....แต่ก็ยังรักเมืองไทยสุดหัวใจ...... จากคุณ : alei เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 09:29:40

ความคิดเห็นที่ 111 ค่าครองชีพบ้านเราแพงจริงๆแหละ วันก่อนซื้อลูกชิ้นปิ้ง2ไม้ ผลไม้รถเข็น2ถุง แล้วก็น้ำอ้อยปั่น1แก้ว ทั้งหมด80บาท...ปาดเหงื่อเลย ลูกชิ้นกับน้ำอ้อยซื้อที่โลตัส ส่วนผลไม้ซื้อที่ใต้สะพานลอยหน้าบ้าน สมัยอยู่ญี่ปุ่นเราช้อปของเข้าบ้านอาทิตย์ละ 3000 เยน อยู่เมืองไทยช้อปทีเป็นพันเหมืนกัน แต่ที่อึ้งสุดๆคือร้าน xxยะ ที่เพิ่งมาเปิดในบ้านเรา ที่ญี่ปุ่นเป็นอาหารราคาถูก คนงานหรือคนที่ชอบกินอะไรง่ายๆเร็วๆปริมานเยอะๆชอบกินกัน (ตอนเราไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นก็พึ่งร้านนี้บ่อยๆเพราะประหยัด) มาอยู่บ้านเรากลายเป็นร้านไฮโซราคาแพงมากเหมือนเอาราคาญี่ปุ่นมาเปลี่ยนหน่วยเยนเป็นบาท ตอนนี้ทำงานแถวบองมาเช่ เข้าไปกินข้าวในนั้นแล้วลมจะจับ ราคาเฉลี่ยต่อจาน 40บาทถึง50++ เลยเปลี่ยนเป็นพกข้าวจากบ้านมากินแทนเพื่อการประหยัด 555 ป.ล แต่ก็รักเมืองไทยอยู่ดี ^^ จากคุณ : Ramillar เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 10:01:02

ความคิดเห็นที่ 112 ค่าครองชีพ ก็คือ ค่าครองชีพ รายได้ ก็คือ รายได้   ค่าครองชีพในไทยนั้นต่ำ แต่รายได้นั้นมีช่วงแตกต่างกันมากเกินไป ขั้นต่ำ 300 บาท(อัตราใหม่ทำให้ผู้ประกอบการหลายคนบ่น ถ้าเอาอัตราเดิมไม่แย่ยิ่งกว่านี้?) แต่สำหรับบางคน รายได้ตก 2500 บาทต่อวัน ห่างกัน 8 เท่า ปัญหาคือ คนรวยน่ะ ยอมให้คนจน มีรายได้เยอะขึ้นมั๊ย ? พอยอมก็มาบ่นของแพงขึ้น เพราะต้นทุนสูงขึ้นอีก ปัญหาน่ะ อยู่ที่ คนรวยใจกว้าง ยอมให้คนจนแค่ไหนมากกว่า ถ้ายอมมากหน่อย ช่องว่างระหว่างคนจนคนรวยน้อยลง ปัญหามันก็น้อยเอง จากคุณ : geefa เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 11:51:24

ความคิดเห็นที่ 113 รู้สึกมาตลอดว่าค่าครองชีพสูง ดูข่าววันนี้ เขาบอกว่า ค่าครองชีพในไทยสูงขึ้นกว่าประเทศอื่นๆมาก จนอยู่ในอันดับ 1ใน100แล้ว ภายในไม่กี่ปี   อันดับ1 2 ก็คือ swiss และญี่ปุ้น แต่ก๋น่าแปลกใจ ทุกครั้งที่บอกคนจนเยอะ พอเดินไปตามห้าง paragon คนจะเยอะมากกก ไม่ใช่วันหยุดก็มีคนมากินอาหาน ภัตตาคาร เยอะยิ่งกว่าสมัยก่อนก่อนฟองสบู่แตก หรือต้มยำกุ้ง ลืมค่านิยมความประหยัดไปแล้วรึเปล่า จากคุณ : คนบ่น เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 12:27:06

ความคิดเห็นที่ 114 ความคิดเห็นที่ 113 คนที่ไปที่นั่น หน้าเดิมๆทั้งนั้นแหละครับ อย่าว่าแต่ที่นั่นเลย ร้านอาหารที่ต้องจ่ายหัวละสามร้อยบาทคนส่วนใหญ่ยังไม่มีปัญญาไปนั่งกินบ่อยเลย ร้านอาหารที่จีนมื้อเที่ยงละห้าสิบเหรียญอเมริกันที่จีนก็มีคนจีนเต็ม ในขณะที่คนจีนส่วนใหญ่ยังไม่รวย ความคิดเห็นที่ 112 จะเอาคุณภาพชีวิตแบบไหนละครับ ผมคิดว่าถ้าจะให้พอเหมือนๆแบบอเมริกันโดยทั่วไปที่เมืองไทยต้องใช้เงินสองเท่าเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในอเมริกา จากคุณ : อิสวา่สุ เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 12:57:46 A:98.231.188.19 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 115 รู้สึกเรื่องรถยนต์  และค่าตั๋วเครื่องบิน .... แพงไปสำหรับคนไทย ถ้าเปรียบเงินเดือน ที่ไม่ต้องตัดค่าใช้จ่ายก่อน .... พนักงานบริษัท  ทำงาน 1 ปี ซื้อรถยนต์ดีๆ ได้ 1 คัน    ส่วนคนไทย ทำงาน  10 ปี ถึงจะได้รถเกรดเดียวกัน  เพราะไทยเก็บภาษีรถยนต์แพงมากๆ.... อาจเพราะเหตุผลหลายๆอย่าง จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 13:49:05