ความคิดเห็นที่ 1 สวัสดีคุณ fongiles คุณจำได้ไหมที่พี่เคยบอกคุณว่า ขอให้อยู่กับปัจจุบัน อย่าหันหลังไปมองอดีต และไม่ต้อง วิตกกังวลกับอนาคตมากนัก อยู่กับวันนี้และทำมันให้ดีที่สุด_ถ้าน้อง fongiles คิดในแง่ดีกับตัวเอง ขอให้คิดว่าคุณโชคดีแค่ไหนที่จะไม่ต้องคบกับคนที่เคยขโมยของๆ คุณอีก ของที่หายไป เงินที่โดนขโมยไป ขอให้น้องคิดว่าเมื่อในอดีตชาติที่แล้ว คุณกับเขาอาจจะเคยรู้จักกันมาก่อนคุณอาจจะเคยไปเอาของเขาไว้ แล้วชาตินี้เขามาทวงคืน ขอให้คิดแบบนี้ อาจจะฟังดูงม งาย แต่มันช่วยให้คุณปล่อยวางได่ และขอให้คิดว่าคุณกับเขามีบุญให้มาได้คบกันแค่นั้น เข้าใจว่าทำไมคุณปรี๊ดขึ้นมา ตอนนี้สิ่งที่คุณฝนควรทำคือบังคับใจตนเองไม่ให้คิดว่าทำไมเขาซึ่งเคยทำไม่ดีกับเรา แต่ทำไมโชคดี ถ้าเลิกคิดแบบนี้ได้ สิ่งต่างๆจะไม่สามารถมาบั่นทอนจิตใจของคุณได้ เพราะคุณสามารถควบคุมจิตใจ ตนเองได้ แต่ไม่สามารถไปควบคุมเขาได้นะ บางคนที่เขาคิดไม่ดีกับคนอื่น อิจฉาริษยา เขาแก้ไขตนเองไม่ได้ และอาจจะไม่เคยเห็นข้อบกพร่องของตนเอง เพราะเขาอาจจะคิดว่าเขาเป็นที่ 1 ในทุกๆเรื่อง เก่งที่สุด ฉลาดที่สุด อาจจะคิดว่าตนเองทำงานเก่งที่สุด พูดภาษาอังกฤษเก่งที่สุด แต่งตัวเก่งที่สุด ทำอาหารเก่งที่สุด รสนิยมดีที่สุด เที่ยวเก่งที่สุด ดื่มเก่งที่สุด สูบบุหรี่เก่งที่สุด แต่งหน้าเก่งที่สุด มีจิตวิทยาในการพูดคุยกับคนเก่งที่สุด ส่วนใหญ่ คนที่คิดแบบนี้เขายังปล่อยวางในเรื่องของกิเลสไม่ได้ เพราะต้องเปรียบเทียบตนเองกับคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ต้องแข่งขัน จิตไม่สงบ ไม่มีความสุข เพราะไม่สามารถปล่อยวางได้ และจะต้องเหนื่อยกว่าคนปกติ เพราะเขาไม่สามารถเห็นใครที่ดีกว่าได้ เขาจะต้องเป็นเบอร์ 1 เป็นที่ 1 เท่านั้น หวังว่าที่เราพล่ามมาคุณ fongiles จะเอาเก็บไปคิดบ้าง และทำใจให้สบาย จดจ่ออยู่แต่กับเรื่องของตนเอง การพัฒนาตนเอง เสริมสร้างกำลังใจให้แก่ตนเองในยามที่ต้องเข้มแข็งและเป็นเสาหลักให้ครอบครัวดีกว่านะ เราดีใจด้วยที่คุณฝนได้พูดคุยกับคุณตี้ สีหมอกเบบี และอาจจะได้พบปะกับคุณตี้ สีหมอกเบบีบ้าง บุญรักษาค่ะ จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 15:06:56 A:218.186.10.230 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 2 ขอฝากสุภาษิตไทยเชยๆ เอาไว้ให้คุณ fongiles "สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ" เข้าใจว่าสิ่งที่เล่ามาในกระทู้ของคุณ ทำให้จิตใจของคุณร้อนรุ่ม แต่คุณต้องเลือกนะ ว่าจะเลือกไม่รับสิ่งไหน และพยายามรับสิ่งไหนเข้ามาในอกในใจ คุณมีทางเลือกเพราะฉนั้นขอให้เลือกสิ่งที่ดีต่อตนเอง เพื่อที่จะเสริมสร้างความเป็นคนที่สามารถฝึกจิตของตนเอง ให้ปล่อยวางกับเรื่องทางโลกได้ เมื่อใจเปิดรับแต่สิ่งดีๆ สิ่งดีๆ เหล่านั้นจะสะท้อนออกมาทางหน้าตาของคุณ และเมื่อจิตสงบคุณจะมองเพื่อนมนุษย์อื่นๆ ได้ด้วยความเมตตา ปราศจากความอิจฉาริษยาและอัตตาใดๆ ทั้งหมดทั้งปวง และคุณจะอยู่ในสถานะที่เป็นผู้ให้ได้โดยที่ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน เพราะคุณฝึกจิตให้รับแต่สิ่งดี และสามารถเผื่อแผ่ สิ่งดีๆ ให้แก่เพื่อนมนุษย์ที่อาจจะต้องการความช่วยเหลือได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 15:22:58 A:218.186.10.230 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 3 พี่ทรายน้องรู้ค่ะ  เรื่องบางเรื่องคือสิ่งที่ดี   แต่เรื่องนี้ดูเหมือนไม่ค่อยยุติธรรม ที่บังเอิญน้องมาเจอ  บางทีน้องคิดว่าทำไมคนทำดีมักไม่ได้ดี  พี่พูดถูก น้องควรอยู่ปัจจุบัน มีเรื่องที่ต้องทำอีกเยอะ น้องดีใจที่พี่ ตอบน้องอีกครั้ง  น้องแค่ถามทำไม ทำไม เท่านั้นเอง  ลึกๆ หาก เขาใช่คนในอดีต  ถ้าเขาแค่บี้ปาก ไม่อะไรกับการทักทาย ก็ไม่ผิด จากคุณ : fongiles (fongiles) เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 15:27:52

ความคิดเห็นที่ 4 ทำใจค่ะ อย่าไปคิดอะไรมากเลย คนทำดียังไงก็ได้ดีค่ะ การได้ดีนั้นมีหลายแบบ บางทีไม่ใช่ทรัพย์สมบัติ หรือ หน้าที่การงานนะคะ บางทีคือการมีความสุข ชีวิตสงบสุข เรียบง่าย ไม่ได้ขึ้นเขาลงเหว มีคนรักและหวัง ดี มีคนค้ำจุน ให้ความช่วยเหลือตลอด สิ่งเหล่านี้ก็เป็นอานิสงค์แห่งการทำดีนะคะ แอนเข้าใจดี ดีมากๆ ของคุณแค่ขโมยเงิน มือถือ มีคุณค่าทางใจ แต่สนนราคารวมกันไม่กี่หมื่น มาดูเรื่องของแอนบ้าง สามีแอนกับแอนตกลงที่จะไม่ไปร่วมขบวนการหุบส่วนแบ่งผลประโยชน์จากคนๆนึงซึ่งป่วยเป็นโรคหัวใจ เพราะเครียดจากเรื่องงาน โรคหัวใจเลยกำเริบ เราไม่อยากรวยทางลัด อยากที่จะนอนหลับฝันดี เดินไปไหนมาไหนได้อย่างภาคภูมิใจ ผลที่ได้ เราโดนบีบออกจากงานประมูล และ เค้าก็โกงเงินค่าก่อสร้างงวดสุดท้ายเราไป ผลคือ เป็นหนี้ร้านวัสดุก่อสร้าง ค่าคนงาน งานนั้นเกือบแสนยูโร คนที่ป่วยนั้น หลังจากหายป่วยก็ได้มาทำงานร่วมกัน เค้าขายบ้าน เราเป็นซับ รับเหมาก่อสร้าง 2 ปีกว่าผ่านไป เค้าไปเที่ยวพักร้อนกัน ให้เราดูแลบริษัท ภายในเวลา 3 อาทิตย์นั้น มีคนมากมายมาตามทวงเงิน จริงอยู่ มันไม่เกี่ยวอะไรกับเรา เรามันก็เหมือนลูกจ้างเขาดีๆนี่เอง แต่มันเกี่ยวกับชื่อเสียง ไม่อยากได้ชื่อว่าร่วมมือกับคนโกง คนอยู่วงการเดียวกัน เอเรียเดียวกันโลกมันแคบนัก อีกอย่างส่วนใหญ่ก็เป็นเพื่อนๆของเรา ที่เราแนะนำให้เค้าเข้ามาร่วมงานด้วย พอสอบถาม มันก็มาในรูปแบบเดิมอีก คือ เราไม่เอาด้วย โดนบีบ เงินไม่จ่าย แถม เอาหุ้นส่วนของบริษัทเราไปอยู่พวกเค้าได้อีก งานนี้ ผลคือ เราแทบไม่เหลืออะไร คนงานต้องจ่าย ร้านวัสดุเราก็ต้องจ่าย บริษัทต้องปิดไป เป็นหนี้แปดหมื่นยูโร หุ้นส่วนเราที่ออกไปทำกับไอ้บ้านั่น ไม่ยอมจ่ายในส่วนของมัน ( ไม่เข้าใจเหมือนกัน เค้าโกงบริษัทเราก็เท่ากับโกงเค้าด้วย ยังไปทำกับมันได้ยังไง มีเบื้องหลังแน่ๆ ) เป็นเรื่อง ขึ้นศาลตามตัวเค้า ตามยึดทรัพย์สินมากมาย สุดท้ายเราต้องจ่ายให้เจ้าหนี้ด้วย กลายเป็นแสนหกหมื่นยูโร แม้แต่รถแอนยังต้องขายไปใช้หนี้ เข็นรถแพรมพาลูกไปจ่ายกับข้าว ไปหาหมอ เริ่มจากศูนย์กันใหม่ ไปฟ้องไอ้โรคหัวใจเรื่องไม่จ่ายเงินเรา มันก็ฟ้องเราว่าทำไม่ดีงั้นงี้ คาราคาซังมาหลายปีแล้ว เรื่องแอนน่ะ แย่ และ ยุ่งกว่าอีก รู้จักกันมานานสนิทกันมาก นึกว่าจะได้เพื่อนดีๆซักคน กลับมาเป็นอย่างนี้ ทำดีไม่ได้ดีใช่ไหมแบบนี้ แต่แอนไม่เอามาคิดนะคะ เชื่อว่า เราทำดีต้องได้ดี แอนกับสามีก้อมีทางไปเสมอ มีงานทำตลอด ใช้หนี้ให้กับทุกเจ้า จ่ายเงินให้ลูกน้องครบ ไม่ต้องไปยื่นล้มละลายแต่อย่างใด คนรับรู้เรื่องราว เค้าก็เห็นใจ อะลุ่มอล่วยผ่อนผันให้ ชื่อเสียงความซื่อสัตย์ที่เราสะสมมา มันยังมีคุณค่าสูงเสมอ ตอนนี้เราก็กลับมายืนหยัดได้เหมือนเดิม ชื่อเสียง ความภูมิใจ ของพวกเรายังอยู่เหมือนเดิม แล้วพวกเค้าล่ะ รวยทางลัดจริง แต่จะนอนหลับดีหรือ ภรรยากับลูกโดนคนตามไปด่าถึงบ้าน ถึงโรงเรียน ผลกรรมก็ไปตกอยู่กับลูก เรียนก็ไม่ได้ดี เป็นโรคอ่านหนังสือไม่ได้ ชื่อเสียงด้านโกงก็ดังกระจาย ต้องออกไปหาเหยื่อรายใหม่เรื่อยไป  ไอ้หุ้นส่วนเรา โกงหนี้ส่วนของมันไปกับไอ้นั่น ก็โดนไอ้นั่นโกง น้องชายเค้าที่เอามาร่วมด้วยก็โดนไอ้นั่นโกง แถมต้องหนีหนี้เราอีก เพราะหลวงส่งจนท.ยึดทรัพย์ไปตาม ต้องคอยย้ายบ้าน ย้ายเขตอยู่บ่อยๆ แอนไม่ได้รวย แต่มีกินมีใช้ มีความภูมิใจ มีคนช่วยเหลือ มีคนค้ำจุนชี้ช่องทาง ด้วยความซื่อสัตย์ของเรา ลูกค้าก็แนะนำกันต่อๆไป นอนหลับเต็มตา เคยเจอกับไอ้พวกบ้านนั่นด้วยนะ เจอกันตัวเป็นๆเลย เฉยๆเลยนะ ไปกอดทักทายได้เหมือนปกติ จนเค้าๆเขินแทน ความละอายใจมันคงผุดขึ้นมาบ้างกระมัง เล่าให้ฟังเฉยๆค่ะ ไม่อยากให้คุณจิตใจขุ่นมัว ด้วยเรื่องแค่นี้ คนโดนโกงเยอะกว่านี้ยังมีอีกมาก จากคุณ : Annachen เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 20:07:44

ความคิดเห็นที่ 5 คำตอบล่าสุดเมื่อ สามสิบนาทีที่แล้ว เธอไม่ใช่อดีต เพื่อนเรา  โดยให้เหตุผลที่มีความน่าเชื่อถือ  แต่หน้าตา อย่างกับฝาแฝด พี่เขาเองก็คงงงๆ เพราะ เราบอก ทุกอย่างตรงตัวพี่เขาทั้งๆที่ไม่รู้จักเลยไม่ว่าพื้นแพ  หรือ ส่วนสูง รูปร่าง  แต่มันคนละคน  เราดีใจมาก  เพราะเราไม่อยากจะให้เป็นคนที่ทำไม่ดีกับเรา  แต่เราก็คิด  ว่าพี่ที่เรานับถือคนหนึ่งที่คอยตอบ คำถามเราบอกเราว่า จงอย่ามองอดีต  มันถูกแล้วค่ะ  เราจะไม่เอาเรื่องไร้สาระมาบั่นทอนจิตใจอีกแล้ว จากคุณ : fongiles (fongiles) เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 20:08:06

ความคิดเห็นที่ 7 ทำไมถึงคิดว่าเขาได้ดีล่ะ ก็แค่เห็นเขาแต่งงานกับฝรั่ง อยู่ต่างประเทศ จากคุณ : ก เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 07:38:48 A:98.196.117.81 X: TicketID:000072

ความคิดเห็นที่ 8 ลืมเรื่องที่เขาโกงไปสัก อภัยได้ให้อภัย ชาติหน้าจะได้ไม่ต้องมีอะไรต่อกัน จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 14:18:03

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่อภัย...แต่ไม่ลืม... คำๆนี้ดิฉันใช้ เตือนใจ ประจำค่ะ เลิกข้องเกี่ยว อย่ามายุ่งกันอีก แค่นี้จบ จากคุณ : ไม่หล่อจริง อย่าหยิ่งใส่ เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 18:27:39

ความคิดเห็นที่ 10 "ให้อภัย แต่ไม่ลืม  " เหมือนคุณ ไม่หล่อจริงฯ  เหมือนกันค่ะ มีเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันมา มาขอแอดที่เฟสเมื่อหลายเดือนก่อน เราไม่รับแอด เค้าเลยส่งข้อความมาบอกว่า เป็นเค้าเองนะ จำได้มั๊ย  เราตอบกลับไป "จำได้ซิ แม่นเลยทีเดียว  แล้วเธอน่ะแน่ใจเหรอว่าอยากเป็นเพื่อนกับฉัน จำได้มั๊ย จำวันที่ฉันไปหาเธอ แล้วเธอเดินผ่านไปไม่มองหน้า ไม่ทักทาย เดินผ่านไปเหมือนคนไม่รู้จัก เหมือนฉันไม่มีตัวคนอยู่ตรงนั้นน่ะ เธอจำได้มั๊ย"  เราเป็นคนเจ็บแล้วจำฝังใจสุด ๆ อ่ะ ให้อภัยคนยากด้วย แต่ไม่ได้จะโกรธใครง่าย ๆ นะ จากคุณ : Match Point เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 55 02:58:06