ความคิดเห็นที่ 1 เคยไปอยู่ครึ่งปี ไม่่ต่างอะไรมาก เมืองไทยมีสีสันกว่าเยอะค่ะ อาหารหากินง่ายพอกัน แต่ไม่อร่อยเท่าไทย สรุป ชอบเมืองไทยมากกว่า ถ้าไม่มีรถก้อลําบากด้วยค่ะ แท็กซี่มี แต่บางทีเรียกมารับยาก สรุปเน้นว่าถ้าอยู่ก้อน่าจะมีรถส่วนตัว ปลฺ ซื้อหมูในซุปเปอร์ก้อลําบากด้วย จากคุณ : ดีใจที่เกิดเป็นคนไทย เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 55 19:53:55

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วถ้าคุณภาพชีวิต ความก้าวหน้าทางศก. และระเบียบวินัยผู้คน เขาดีกว่าเราไหม จากคุณ : Aenieas เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 55 20:05:06

ความคิดเห็นที่ 3 1. บ้านเมืองมีความสงบ  ปลอดจากปัญหาอาชญากรรมสูงกว่าในเมืองไทย......โดยเฉพาะไม่มีปัญหาการก่อการร้ายแบบในสามจังหวัดภาคใต้ที่ติดกับมาเลเซียภาคเหนือ  ได้แก่รัฐปะลิส  ไทรบุรี  และกลันตัน ( ก็อย่าไปหาว่าเขาเป็นผู้สนับสนุนผู้ก่อการร้ายในไทยเสียเอง  บ้านตนจึงไม่มี...อย่าคิดนา ) 2. การบังคับใช้กฎหมายกระทำได้เป็นจริงมากกว่าในเมืองไทย 3. แต่การแบ่งแยกเชื้อชาติ  มีอยู่สูง  คนมาเลย์มุสลิม  ถือเป็นชนชั้น  ภูมิบุตร  Bhumi Butra แปลว่าลูกของแผ่นดิน.......จะได้รับสิทธิและคุณค่าสูงกว่าคนมาเลย์สัญชาติอื่นๆ  เช่น คนมาเลย์เชื้อชาติจีน  หรือคนมาเลย์เชื้อชาติไทย  ที่อาศัยอยู่ในมาเลเซียปัจจุบัน 4.  สำหรับคนไทยที่ไปอาศัยทำงาน หรือไปเรียนหนังสือ  หรือหญิงไทยที่แต่งงานกับคนมาเลย์  ก็ต้องยอมรับสภาพความเป็นจริงว่า....ไม่ใช่บ้านเมืองของเรา  เรามิใช่พลเมืองชั้นหนึ่งในประเทศนี้ อาหารการกินก็งั้นๆ ..คนไทยนิยมกินอาหารจีนเสียมากกว่า คนมาเลเซียเอง.....ตอนสุดสัปดาห์  ....พากันเดินทางมาเที่ยวหาของกิน  มาหาความบันเทิงในเมืองไทย...ที่หาดใหญ่    สะเดา  หรือที่เบตง......ตอนเย็นวันศุกร์เห็นคิวรถจากมาเลเซียรอผ่านด่าน ฯ เข้าไทยเต็มไปหมด มาเลียเซียถือเป็นรัฐอิสลาม  ที่ไม่ส่งเสริมการบันเทิงแบบเลยเถิดทางเพศ  และต่อต้านการดื่มสุรา ผู้คนเขาอยู่กันแบบเงียบๆ  .....ไม่นิยมหวือหวา  เขามีตำรวจศาสนาคอยสอดส่องคนมุสลิมที่ประพฤตินอกกรอบ ยกเว้นพวกคนจีนมาเลย์  ที่ชอบรสนิยมแบบคนไทย  และนับถือพุทธเหมือนกัน  กินอาหารคล้ายๆ  กัน จากคุณ : Detente เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 55 20:13:52

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่น่าใช้ชีวิตอยู่โดยรวมๆ ผู้คน ภัยอันตราย สายตาไม่เป็นมิตร(ท่ามกลางกลุ่มมุสลิม) ภาษา ขาดซึ่งอัติรสใดๆ มุสลิมโพกศีรษะล้อมรอบ อาหารกลิ่นแรง สีสันของกินน่ากลัว ล้อมรอบไปด้วยของกินแป้งๆทอดๆสีๆ คล้าย4จังหวัดไทยยกเว้นไม่พูดไทย เคยไปแล้วไม่ไปอีก มีแต่คนทีนั่นไม่ให้เราอยู่นาน...ไม่คุ้ม อยู่ไทยดีกว่าทุกอย่าง ยิ่งนิสัยใจคอด้วยแล้ว...ไม่ไหว เพราะเราไทยพุทธไง จากคุณ : ออ เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 55 21:13:26 A:175.156.244.107 X: TicketID:184589

ความคิดเห็นที่ 5 จากประสบการณ์ที่ไปมาเลเซียมาหลายครั้งโดยเฉพาะกัวลาลัมเปอร์หรือเรียกสั้นๆ ว่า เคแอล KL ขอแชร์ในส่วนของห้องน้ำว่า สกปรกมาก และเหม็นมาก ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำหญิงหรือห้องน้ำชาย ไม่ว่าจะ อยู่ในห้างหรูขนาดไหน ขอให้เป็นห้องน้ำสาธารณะ จะสกปรกได้ระดับห้าดาวจริงๆ พื้นห้องน้ำแบบฝรั่งแบบชักโครกในมาเลย์ฯ มักจะเปียกเจิ่งนองไปด้วยน้ำทั้งน้ำจริงๆ และน้ำอื่นๆ ที่ขับถ่ายออกมาจาก ร่างกายของคนเรา ใครไปมาเลย์ขอให้สังเกตว่า ผู้หญิงที่นั่นจะพกขวดน้ำขนาด 1.5 ลิตรเอาไว้ด้วย หรือไม่ก็ขวดน้ำเปล่า ขวดเล็กกว่า 1.5 ลิตร แต่ส่วนใหญ่จะเห็นขวด 1.5 ลิตร เอาไว้สำหรับกรอกน้ำจากอ่างล้างมือ เอาไปใช้ชำระล้างในจุดนั้น เอาไปใช้ที่ในห้องน้ำ คือนอกจากจะทำให้พื้นห้องน้ำเปียกทั้งด้ายนอก ด้านในแล้ว ตามอ่างล้างมือก็จะเปียกมากด้วย ผู้ชายที่มาเลย์ โดยเฉพาะคนเชื้อสายมุสลิม ยังสอบตกเรื่องการให้เกียรติเพศหญิง ยังขาดมารยาทสังคมในเรื่องนี้อยู่มาก Laksa ที่มาเลเซียอร่อยมาก อร่อยกว่าในสิงคโปร์ และมีให้เลือกมากมายหลายชนิด โดยทั่วๆ ไปชอบเมืองปีนัง คนปีนังน่ารัก เป็นมิตร หลายๆ คนเป็นลูกครึ่งไทย ลูกครึ่งญี่ปุ่น หรือเกิดที่ไทย พูดภาษาไทยได้ หรือเคยมาเมืองไทยบ่อย ปีนังเป็นเมืองในมาเลเซียที่ชอบที่สุด เป็นเมืองที่น่ารักมากๆ อาหารอินเดียที่ปีนังอร่อย นมร้อนอร่อย อาหารเพรานากัน (Peranakan) หรืออาหารบาบ๋า ยาหย๋าอร่อยมาก ตึกรามบ้านช่อง อาคาร น่ารัก ไม่เคยอาศัยอยู่ในมาเลเซียแต่ไปบ่อยอย่างที่บอก และมีเพื่อนเป็นเซเล็บของมาเลย์ เป็นคนดังระดับแถวหน้าคนหนึ่ง ของมาเลย์ เพื่อนคนนี้อยู่อีกสถานะหนึ่งเพราะไม่ใช่คนมาเลย์ ไม่ใช่คนจีน ไม่ใช่คนอินเดีย แต่เป็นลูกครึ่งมาเลย์กับฝรั่ง พวกลูกครึ่งพวกยูเรเชี่ยนในมาเลย์จะมีอีกสถานะหนึ่งในสังคม คล้ายๆ กับในอินโด ในเมืองไทย ในฟิลิปปินส์ ในเวียตนาม ในลาว ลูกครึ่งในมาเลยเซียส่วนใหญ่มักจะมีแม่เป็นหญิงท้องถิ่น ส่วนพ่อจะเป็นฝรั่งสามชาติหลักๆ นี้ คือ อังกฤษ ไอริช และ ออสเตรเลี่ยน //แวะมาแชร์เฉยๆ และสังเกตว่าท่านเจ้าของกระทู้ตั้งกระทู้แนวนี้บ่อยมาก แต่หลายๆ ครั้งไม่เคยเข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ที่สละเวลาเข้ามาตอบกระทู้ของท่านเลย และไม่เคยขอบคุณ ไม่ได้ว่ากล่าวท่านใดๆทั้งสิ้น เพียงแต่ตั้งข้อสังเกต จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 55 23:24:49 A:125.213.233.66 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 6 กราบเรียนท่าน Detente ความคิดเห็นที่ 3 ขอความกรุณาเข้ามาให้ความรู้ในเรื่องของสถานบริการในตอนกลางคืน ที่มาเลเซียด้วยค่ะท่าน โดยเฉพาะในเคแอล ข้าพเจ้าเคยเห็นบ่อยๆ ว่ามีบาร์เบียร์คล้ายๆ ตามพัทยา สมุย ภูเก็ต ซอยคาวบอย นานาพลาซ่า พัฒน์พงษ์ ที่เมืองไทย มีหญิงขายบริการนะท่าน นุ่งน้อยห่มน้อย แต่งตัวแต่งหน้าแบบ ผู้หญิงที่ทำงานกลางคืนด้วย จะพบเห็นได้มาก ตรงถนนสายหลักที่มุ่งจากตึกแฝดออกไปทางด้านสถานีโมโนเรล ที่ใกล้ๆ โรงแรมแชงกรีล่าหน่ะท่าน และย่านถนนที่แยกไปจากตรงนั้น ตรงที่มีผับมาบาร์เยอะๆ อีกเรื่องคือ ทั้งคนไทยคนต่างชาติหลายคนที่เคยอยู่อาศัยหรือเคยทำงานที่เคแอล มักจะโดนฉกชิง วิ่งราว หรือลวนลาม อยู่เนืองๆ ข้าพเจ้าไม่เคยเจอเอง เพราะถ้าไปเคแอลจะพยายามไม่ออกไปเดินที่ไหนตอนกลางคืน ถ้าไม่จำเป็น หรือถ้าออกไปจะไม่ถือไม่สะพายกระเป๋าติดตัวไปเลย แต่จะเอามือถือ เงินเล็กน้อย และกุญแจคีย์การ์ด โรงแรมใส่กระเป๋ากางเกงไปแทน ขอท่านกรุณาเข้ามาแชร์อีกครั้ง และข้าพเจ้าเห็นว่าท่าน Detente มีความรู้ทางด้านต่างประเทศในระดับนักการฑูตมากมาย จึงอยากจะขอเรียนเชิญท่าน เข้าไปแสดงความคิดเห็น เข้าไปชี้แนะ ในกระทู้นี้ด้วยค่ะท่าน จะเป็นพระคุณยิ่งแก่ผู้น้อยทั้งหลาย เช่นข้าพเจ้า เป็นต้นที่กระหายความรู้จากผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์มากกว่า และรู้จริงรู้ลึกกว่า http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H12196086/H12196086.html จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 00:02:30 A:125.213.233.66 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 7 เข้ามาเสริมหน่อยเรื่องระเบียบวินัยของคนมาเลย์ ปีกลายขับรถข้ามไปมาเดือนละเที่ยวสองเที่ยวเป็นเวลาตลอดทั้งปี ตั้งแต่ Butterworth ถึง Genting Highland แวะพักผ่าน KL ขอบอกว่าหากเป็นวันหยุด ร้านอาหารตามจุดแวะพักรถระหว่างทางบนฟรีเวย์ จะมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลย์แห่กันจอดรถแวะกินอาหารกันมืดฟ้ามัวดิน แย่งกันซื้อ แย่งกันนั่งกินกันแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา และอีกครั้งเป็นวัตรุษจีน อยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ผู้คนไม่รู้ว่าแห่มาจากไหน มองดูเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด ในตอนกลางคืน จะยืนอยู่แถวริมถนนใหญ่ๆ ดูการแต่งตัวน่าจะเป็นคนงานเชื้อสายมาเลย์หรือทมิฬ พอโรงงานอุตสาหกรรมหยุด ก็เลยแห่กันเข้าเมืองกรุงมาเที่ยว ถนนหนทางช่วงนี้จะรกไปด้วยสิ่งปฏิกูลที่ผู้คนจำนวนมากมายเหล่านี้ละทิ้งไว้ จากคุณ : Rapier เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 08:56:28

ความคิดเห็นที่ 8 อ้อ ลืมบอกไปอีกเรื่อง เรื่องคอรัปชั่นของ ตร มาเลย์ก็ไม่แพ้ชาวบ้านชาติอื่นเขานะ ขับรถบนฟรีเวย์ช่วงผ่านเข้าอุโมงก่อนถึง KL คุณเธอจะมาดักจับสปีดตอนออกมาจากอุโมง อ้าวว่าขับด้วยความเร็วแค่นั้นแค่นี้ แต่ไม่เห็นกล้องดักจับจากตรงไหน แล้วก็แจ้งว่าต้องถูกปรับเป็นเงินเท่านี้ ถ้าไม่อยากเสียมากให้เสียตรงนี้เลย สุดท้ายโดนไป 50 เหรียญแต่ต้องต่อรองตั้งนาน คุณเธอทีแรกจะเอาตั้ง 500 พวกช่วยพูดให้เลยเหลือแค่นั้น จากคุณ : Rapier เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 09:03:07

ความคิดเห็นที่ 9 อาจจะตอบไม่ตรงคำถามนัก ขออภัยด้วยนะคะ และขออนุญาตทักทายคุณ Been there, done that! ด้วยค่ะ พอดีเมื่อวานกลับจากมาเลย์ ไปประชุมไฟลท์เช้ากลับเย็นแถวๆ the curve เครื่องลงก็สอบถามประชาสัมพันธ์เรื่องการนั่งรถไฟฟ้าไปสถานที่ที่จะประชุม ประชาสัมพันธ์ใส่ชุดประชำชาติผู้หญิงใส่ผ้าคลุมศรีษะน่ะค่ะตอบแบบห้วนมากเลย "no have... go to take taxi next building" ยิ่มเจื่อนๆใส่แว๊บนึงแล้วก้มหน้าแบบไม่สนใจใยดี  ถ้าเป็นคนไทยดิฉันบอกได้เลยว่าไม่สมกับเป็นประชาสัมพันธ์ ไม่ยิ้มแย้ม ไม่เป็นมิตร ไม่ยินดีให้บริการ ทีนี้มาตอนประชุมบ้าง บ่ายสองถึงหกโมงเย็น ไม่มีเสริฟน้ำนะคะนั่งคอแห้งจนประชุมเสร็จ ถ้าอยากกินก็ต้องเดินไปกดเองในส่วนเดียวกันกับน้ำที่มีไว้ให้พนักงานของตัวเอง ปีที่แล้วยังได้เดินไปกดเอง แต่ปีนี้ไม่มีเบรคเลยนั่งคอแห้งยาว  ไม่เหมือนบ้านเรานะบริการลูกค้าราวกับพระเจ้าให้เป็นขวดๆเลย หมดแล้วเสริฟใหม่อีก สังเกตุเห็นว่าพนักงานระดับเลเบอร์จะเป็นแขกเสียส่วนใหญ่ แท็กซี่ก็คนขับเป็นแขกเยอะแล้วก็ค่อนข้าง tricky นะ ห้องน้ำที่สนามบินอินเตอร์ไปเจอแบบที่คุณ  Been there, done that! ยิ่งสนามบิน low cost นี่คุณเอ๋ยเจอมาแล้วเจิ่งสุดๆค่ะ จากคุณ : ThaiSilk เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 18:39:16

ความคิดเห็นที่ 10 ดีใจเจอคุณ ThaiSilk ยินดีที่ได้ยินว่าคุณไปเจอประสบการณ์เดียวกัน ว่าตัวเราไม่ได้คิดติเขาไปเองแต่ฝ่ายเดียว แต่มีคนไทยอื่นๆ ไปมาเลย์แล้วไปมีประสบการณ์แบบเดียวกันเลย คนมาเลย์นะคุณ ThaiSilk เขาจะพูดภาษาอังกฤษห้วนๆ แบบนั้นหล่ะค่ะ พูดเหมือนคนสิงคโปร์ คือจะสั้นๆ ห้วนๆ ถ้าพูดยาวๆ เขาถือว่าใช้คำฟุ่มเฟือยเสียเวลา เขาพูดแบบ Broken English โดยที่แปลมาตรงๆ จากประโยคและ ไวยากรณ์ภาษาฮกเกี้ยน และแถมด้วย Dialect ของมาเลย์ แขกทมิฬ และแต้จิ๋ว สิงคโปร์ กับ มาเลย์ เขาพูดแบบนี้เหมือนกัน แต่ฝรั่งเรียกภาษาอังกฤษแบบสิงคโปร์ว่า Singlish และเรียกภาษาอังกฤษแบบมาเลย์ว่า Manglish ค่ะ ฝรั่งเจ้าของภาษาได้ยินแล้วยังมึนตึ้บเลยค่ะ เพราะนอกจากจะพูดห้วน พูดผิดไวยากรณ์แล้ว การออกเสียงก็จะเป็น โมโนโทน ไม่มีเสียงสูงเสียงต่ำ ไม่เสตร๊สส์คำค่ะ และพูดแบบไม่มีเสียงประโยคคำถาม ประโยคคำถาม ประโยค บอกเล่าของเขาเวลาพูดภาษาอังกฤษจะเสียงโทนเดียวกันหมด จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 19:33:47 A:125.213.233.66 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยกับ คห. 7, 8 ของคุณ Rapier เรื่องมือใครยาวสาวได้สาวเอา และไร้ระเบียบใช่ว่าจะเป็นแต่ "เสือเหลือง" แต่ "ลอดช่อง" ก็เป็นเหมือนกันค่ะ "ลอดช่องเนี่ยอย่าได้เผลอ ชอบแซงคิว และ กั๊กที่ แต่ที่ลอดช่องยังดำรงอยู่ได้และเจริญมากมาย เพราะกฏหมายแรงและศักดิ์สิทธิ์ และตระกูล "L" วางรากฐานของประเทศ เอาไว้ดีมากๆ ส่วนเรื่องคอรัปชั่น คันเฟิร์มว่า เสือเหลือง ไม่แพ้ปินอย ไม่แพ้สารขันธ์ ไม่แพ้เหงียน ไม่แพ้โสร่งบาติก ค่ะ จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 19:54:54 A:125.213.233.66 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 12 เล่ามั่ง จากประสบการณ์ของตัวเอง ไปทำงานอยู่ KL เรื่องอาชญากรรมไม่น้อยหน้าเมืองใหญ่ๆ เผลอๆบางทีโหดพอๆพี่จีนบางคลิป(ที่เคยมีคนมาโพสต์ในพันทิป) เรื่องกระชากกระเป๋า ถึงขนาดมีเมล์ภายในบริษัทฯ แจ้งเตือนเรื่องอาชญากรรม(ที่เกิดกับคนมาเลย์เองภายในบริษัทฯน่ะแหละ) เพราะเธอโดนกระชากกระเป๋าแล้วไม่ยอมปล่อย เลยโดนคนกระชาก(ซ้อนมอ'ไซค์)ลงมากระทืบซ้ำ เตะต่อยจนต้องยอมปล่อยมือ เหตุเกิดใกล้ใจกลางกรุง KL (แถวๆ Jalan Alor) แหล่งกินยอดฮิต เลยเชียว ในเมล์มีเนื้อความเตือนให้ระวังตัว อย่าพกของมีค่าเยอะๆ อย่าเผลอวางของมีค่าบนโต๊ะทานข้าว หรือกล้องแพงๆอย่าเอาออกมาโชว์ โดนจี้ง่ายๆ เพื่อนชาวมาเลย์เองก็เตือน อย่าพกเงินเยอะๆ อย่าเดินที่เปลี่ยว ป้ายหน้าโรงแรมจะมีเตือน ระวังพวกวิ่งราว Snatching ติดให้เห็นชัดเจน ดึกๆหน่อย จะมีพวกวัยรุ่นๆ แวนส์ๆมาจอดมอ'ไซค์บริเวณ 4 แยก Bukit Bintang เยอะมากกก ร่วมร้อยคันได้มั้ง ขนาดเป็นผู้ชายเดินผ่านยังเสียวเลย หน้าตาแต่ละคนน่ากลัวค่อด ส่วนที่คุณ Been there, done that! พูดถึงน่าจะเป็นถนน Jalan P Ramlee ซึ่งมีผับและบาร์อยู่ตลอดเส้น มีกลุ่มเป้าหมายคือนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่ทำงานใน KL ซึ่งแน่นอนมีบริการเหล้าเบียร์และสาวๆด้วย (ไม่เคยแวะ แค่ผ่านและเพื่อนเล่าให้ฟังเท่านั้น) จากคุณ : Click_ที่นี่ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 21:47:10

ความคิดเห็นที่ 13 ขอแชร์ประสบการณ์ จากการทำงานที่มาเลมาสองปี ปัจจุบันก็ยังอยู่ ^^ > คนไม่ค่อยเป็นมิตร ไม่มียิ้มแย้มให้กัน งานพวกบริการ หรือ แบงค์ ส่วนใหญ่ทำงานกันช้ามาก ต้องรอคิวนานๆ > ชีวิตที่นี่น่าเบื่อมาก ๆ ที่เที่ยวมีน้อย ดูเป็นประเทศที่ไม่มีสีสันเลย > พวกโจรกระชากกระเป๋ามีเยอะ  เคยโดนมาแล้วแถวบูกิตบินตัน ทั้งเจ็บตัว ของหาย แจ้งตำรวจก็เฉย / บ้านมีคนมางัด แต่ดีที่เพื่อนบ้านเข้ามาเจอได้ทัน > อาหารไม่อร่อยเลย ไม่มีรสชาติ  จนต้องทำกับข้าวไปทานที่ทำงานทุกวัน หรือพกเครื่องปรุงไว้ตอนออกไปทานข้างนอก :) ข้อดีก็มีเช่น  provident fund ของที่นี่ให้สูงกว่าไทยเยอะ ทำให้คนที่นี่มีเงินเก็บกัน แล้วก็ต้นไม้เยอะดี รถไม่ติดมาก โดยรวมแล้วอยู่เมืองไทยมีความสุขกว่ามากๆๆๆ กลับไปทำงานที่ไทยเมื่อไหร่ คงไม่กลับมาเที่ยวมาเลอีกแล้ว แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 55 23:57:17 จากคุณ : Cutely1981 (aumeim) เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 23:56:58

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณคุณ Click_ที่นี่ ที่กรุณามาบอกชื่อถนน และมาแชร์ประสบการณ์ของตนเอง เราเคยได้ยินเรื่อง Expat ฝรั่งโดนโจรมาเลย์ขึ้นบ้านยกเค้ามาหลายเคสด้วย เห็นว่าน่ากลัว ส่วนเรื่องเด็กแว๊นซ์ เด็กสก๊อย ที่สิงคโปร์มีเหมือนกัน พวกอาเหล็ง อาเส็ง อาเบ๋ง อาเหลี๋ยน อาจู อาโปะ ชื่อพวกนี้เพื่อนสิงคโปร์เรี่ยนร่ายให้ฟัง อะไรพวกนั้น เคยเห็นเหมือนกัน เวลาไปสิงค์ฯ แต่ไม่น่ากลัว เพราะที่สิงคโปร์กฏหมายแรง จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 23:58:56 A:125.213.233.66 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณคุณ Cutely1981 (aumeim) เช่นกันที่กรุณามาให้ความรู้มาแชร์ประสบการณ์ ชอบกระทู้แบบนี้มาก มีคนมาแชร์กันเยอะๆ ได้ความรู้หลากหลายดี //เข้ามาขอบคุณเขา ทำมอย่างกับเป็นกระทู้ของตัวเองเลยเรา_แล้วเจ้าของกระทู้หายไปไหนเนี่ย จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 55 00:02:47 A:125.213.233.66 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 16 ขออนุญาตถามนะคะ สงสัยว่าทำไมประเทศมาเลย์เซียได้รับการยกเว้นวีซ่าจากประเทศในยุโรป ที่รู้ก็มี กรีซ ตุรกี .. ทั้ง ๆ ที่ดูแล้ว มาเลย์เซียก็ไม่ได้พัฒนามากกว่าไทยซักเท่าไหร่  ไม่ทราบว่ามีคนมาเลย์ไปค้าแรงงานที่ต่างประเทศแบบคนไทยหรือเปล่าคะ ที่บอกว่ามาเลย์เซียก็ไม่ได้พัฒนามากกว่าไทยซักเท่าไหร่  อันนี้ดูจากสาธารณูประโภคพื้นฐานอย่างพวกห้องน้ำ การคมนาคม ส่วนตัวคิดว่าคุณภาพชีวิตคนมาเลย์ดีกว่าไทยโดยรวม แต่ไม่ได้ดีกว่าถึงขั้นมากมาย เห็นเหมือนหลายท่านว่าที่นี่ ไม่มีสีสันเลยยย มองไปแล้วรู้สึกถึงความทึม ๆ ทะมึน ๆ แต่ผู้คนดูเป็นมิตร ถึงแม้ว่าจะดูหน้าตาน่ากลัว แต่ความเป็นระเบียบ มาเลย์จะมีมากกว่า อันนี้อาจจะเป็นเพราะว่าเมืองไทยมีหาบเร่แผงลอย แผงขายของตามถนนเยอะกว่า ส่วนเรื่องห้องน้ำไม่ได้สังเกตุ อาจจะเป็นเพราะว่าเลือกเข้าห้องน้ำเฉพาะห้างใหญ่ ๆ แต่ที่เมืองไทยก็มีปัญหาเรื่องสาว ๆ ที่ชอบเหยียบฝาชักโครก ทำให้คนที่เข้าที่หลังต้องลำบาก และคงสกปรกไม่แพ้ที่มาเลย์เซีย ส่วนที่ฮ่องกงก็ไม่แพ้กัน ถึงแม้จะมีกระดาษทิชชูบริการให้ ถ้าจะเข้าห้องน้ำ ห้ามนั่งลงบนฝาชักโครก เพราะจะเปียกเนื่องจากว่าสาวที่นั่นจะปัสสวะแบบไม่นั่งลงบนฝา (คงกลัวสกปรก) แต่มันทำให้มีปัสวะค้างอยู่ เผลอนั่งลงไปทับหลายรอบมาก ส่วนอาหารที่มาเลย์ไม่มีความเห็นค่ะ เพราะกินแต่พิซซ่า อาหารไทย มีบักกุตเต๋อยู่มื้อนึง เมื่อห้าหกปีที่แล้ว รายการทีวีที่นี่มากกว่า 90% ยังเป็นภาษามาเลย์อยู่เลย แต่คนที่นั่นก็พูดภาษาอังกฤษกันได้ดี อันนี้ไม่นับ generation เก่า คาดว่าน่าจะพัฒนาจากสื่อการสอนที่โรงเรียนมากกว่า ตอนนี้ไม่รู้เป็นไงบ้าง จากคุณ : littlebearproject เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 55 14:14:13

ความคิดเห็นที่ 17 มาทักทายคุณ  Been there, done that! สำหรับผม มาเลเซีย ไม่น่าอยู่ครับ  เเต่เค้าเจริญกว่าเราเยอะ! งงๆไหม ความเจริญ ผมว่าเค้าเจริญกว่าเราน่ะ คือรัฐบาลเค้าสร้างสาธารณปโภค ถนน ผังเมือง อะไรดีมากๆๆ เป็นระเบียบเรียบร้อยมาก เป็นแบบเเผน รัฐบาลสร้างเอาไว้ดีมากๆ เเต่คนที่โน่นเค้าค่อนข้างจะสกปรก ไม่ค่อยดูเเลรักษา มันเลยดูเก่า สกปรก เท่าที่ผมสังเกตน่ะ ดูใน KL ผมว่าระเบียบ สะอาดกว่ากรุงเทพเยอะ ร่มรื่นกว่า อาจเป็นเพราะประชากรที่นั่นบางเบาด้วย  (เเต่ให้อยู่ KL ผมก็ไม่เอา) ห้องน้ำสกปรกครับ อาจเป็นเพราะวัฒนธรรมของคนมาเล์ ด้วย ที่พอขับถ่ายอะไรเสร็จ ต้องทำความสะอาดส่วนนั้น เเต่คนไร้ระเบียบ ห้องน้ำเลยเละเทะ เจิ่งนองไปทั่ว เเท๊กซี่ KL อย่าให้พูด เเย่สุดในสามโลก เเย่กว่าอินโด เวียดนามอีก! ปัญหา คนจีน อินเดีย มุสลิม ก็เป็นอีกปัญหาหลักของมาเลเซีย ให้เขียนที สามวันยังร่ายไม่หมดเลยมั้ง ปัญหานี้ยาวนานมาก ทำไมเค้าถึงได้ยกเว้น วีซ่าหรือ ? ความคิดเห็นผมน่ะ เพราะเค้าไม่โดดวีซ่า  ไม่ทำผิดกฏ! อาจเป็นเพราะประชากรเค้าส่วนใหญ่เป็นมุสลิม เค้าเลยอยู่ประเทศพวกนั้นไม่ค่อยได้  เเล้วถึงเค้าจะเป็นมุสลิม เเต่ก็ไม่มีก่อการร้ายเลย คนมุสลิมสมัยใหม่ ไม่ค่อยได้เห็นเเรงงานชาวมาเลเซียในต่างประเทศ ยกเว้นทำงานออฟฟิส บลา บลา  เเรงงานในมาเลเซียเองยังต้อง import เเรงงานต่างชาติ เเต่อย่างไรสำหรับผม ผมเชื่อว่า มาเลเซียจะเป็นประเทศพัฒนาเเล้วได้เเน่นอน ในไม่ช้านี้ด้วย ไม่รู้สิผมว่าเค้าพร้อมมากกว่าไทยเยอะมาก เเต่ให้อยู่ ผมก็ไม่เอาน่ะ 55555 จากคุณ : prun poa เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 55 16:35:08

ความคิดเห็นที่ 18 แวะเข้ามาอ่านเรื่องเกี่ยวกับมาเลเซียต่อ และมาขอบคุณ ทักทายคุณ prun poa_สงสัยมานายแล้วว่า ชื่อล็อกอินของคุณอ่านออกเสียงว่าอะไร และมีความหมายว่าอย่างไรคะ เห็นด้วยว่าให้เราอยู่มาเลเซียก็ไม่เอา คงเหงาเงิบ โดยเฉพาะที่เคแอล แต่ถ้าเป็นปีนังไม่แน่นะ ชอบตึกสไตล์ เพรานากัน (Peranakan) ที่นั่น เคยสอบถามราคา ห้องนึงตกประมาณ 12 ล้านบาทไทยขึ้นไป โดยที่ยังไม่รวมค่า บูรณะ ซ่อมแซม ตกแต่ง ทาสีใหม่ ส่วนเรื่องได้รับการยกเว้นวีซ่าของคนมาเลย์ เราทราบแต่วีซ่าอังกฤษ และวีซ่าออสเตรเลีย เพราะมาเลเซีย จัดอยู่ในกลุ่มประเทศเครือจักรภพ กลุ่มเดอะคอมม่อนเว๊ลธ์ เพื่อนเราที่เป็นเซเล็บของมาเลย์หน่ะ ดอดมาเที่ยวเมืองไทยบ่อยมาก และที่เมืองไทยไม่มีใครรู้จักคนๆ นี้ แต่ที่มาเลย์ คนๆ นี้ดังมานานเกือบ 20 ปีแล้ว มีรายการทีวีของตัวเอง และดังขนาดที่ว่าได้ลงนิตยสารบ่อยๆ นิตยสารหรือข่าวซุบซิบต้องเขียนถึงบ่อยๆ เรารู้จักเขามาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นคนที่ไม่มีชื่อเสียง เวลาเราเจอเขา เราไม่ได้คิดว่าเขาเป็นคนดัง แค่เป็นเพื่อนต่างชาติคนหนึ่งที่เรารู้จัก และดีใจกับเพื่อนด้วยที่ประสบความสำเร็จ ในสิ่งที่เขาหวัง เขาก็ไม่เคยทำตัวเป็นคนดังกับเรา เพราะเรารู้จักกันมานาน จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 55 18:26:23 A:118.175.29.11 X: TicketID:357481