ความคิดเห็นที่ 1 อย่างอื่นไม่ทราบ แต่ขอมาแชร์ว่าชอบภาพยนตร์สองเรื่องนี้มากๆ เนื้อหากินใจ โพรดั๊คชั่นสุดยอด คอสตูมสุดยอด ถ่ายภาพสวย เพลงประกอบสุดยอด ดารายอดฝีมือทั้งตัวเอก ตัวประกอบ ดาราแต่ละคนสุดยอดมากๆ โดยเฉพาะคริสเตียน เบล และ เอเดรี้ยน โบรดี้ สองเรื่องแอบเหมือนกัน ตรงที่ The Pianist มีนายทหารเยอรมันช่วย นักเปียโน ชปิลมันน์ (เอเดรี้ยน โบรดี้) และ เรื่อง The Flowers of War มีนายทหารญี่ปุ่นมาช่วยพวกสาวน้อยเด็กนักเรียน คอนแวนท์ เป็นการช่วยเหลือผู้ที่จะต้องถูกกำจัดหรือถูกล่าโดยที่มีทหารของฝ่ายตรงข้ามที่ต้องฝืนใจ ทำตามหน้าที่ทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาช่วยเหลือ ชอบมากตอนที่นายทหารญี่ปุ่นมาเล่นเปียโน เล่นเพลงเกี่ยวกับแม่น้ำ ป่าเขา ในญี่ปุ่นเพราะคิดถึงบ้าน ถ้าคุณ จขกท.ยังไม่เคยดูหนังเรื่องนี้ เราขอแนะนำเลยนะ เรืื่อง Empire of The Sun หนังเก่าจากปี 1987 กำกับโดยสตีเว่น สปิลเบิร์ก เป็นหนังเรื่องแรกที่คริสเตียน เบล (บาทหลวง-สัปเหร่ออเมริกัน จากเรื่อง The Flowers of War) แสดงเอาไว้ตั้งแต่อายุเพียงสิบกว่าขวบ แต่แอ๊คติ้งสุดยอดมากๆ จนส่งให้เขาเป็นดาราเจ้าบทบาทอนาคตไกลอย่างในทุกวันนี้ เรื่่องนี้มีดาราเจ้าบทบาทที่เก่งมากๆ อีกคนหนึ่งเล่น คือ จอห์น มัลโควิช เล่นได้กวน และจิตมากๆ เนื้อหาของหนัง Empire of The Sun จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวอังกฤษที่ต้องพลัดพรากจากกัน ตอนญี่ปุ่นบุกเซี่ยงไฮ้ ส่วน The Flowers of War จะ Base ที่เมืองนานกิง ในช่วงเดียวกัน คือช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ยิวกับเยอรมันเราไม่ทราบว่าเขาคิดกันอย่างไร ส่วนจีนกับญี่ปุ่นเราก็ไม่ทราบ รู้แต่ว่าจีนกับยิวเขาเป็นมิตรกันมาก_คือการที่รูเพิร์ท เมอร์ด็อค เจ้าพ่อสื่อชาวยิว-อเมริกัน-ออสเตรเลี่ยน มีภรรยาเป็นสาวจีนอย่างคุณนายวันดีมือตบ หรือ เวนดี้ เติ้ง เมอร์ด็อค ทั้งคู่มีลูกสาวด้วยกันสองคน เด็กๆ สวยมาก และหน้าตาฉลาดมาก โตข้ึนมาคงเก่งมากๆ เพราะเป็นลูกครึ่ง จีนกับยิว และเวนดี้ สอนให้ลูกๆ พูดภาษาจีนแมนดารินด้วย ส่วนตัวเราชอบเวนดี้ เติ้งมากๆ ต้องฟังเธอให้สัมภาษณ์ เธอฉลาดมีสมอง พูดภาษาอังกฤษเก่งมาก ภาษาจีนภาษาบ้านเกิดก็ไม่มีเพี้ยน มีหนังดีๆ อีกเรื่องที่เวนดี้ เติ้งเป็นผู้อำนวยการสร้าง คือ หนังจีนชื่อ Snow Flower and The Secret Fan หนังถ่ายภาพสวยมากๆ เสื้อผ้าสวย เนื้อหากินใจ และเบสจากเรื่องราวในยุคต้น ศตวรรษที่ 19 เช่นกัน กำกับโดยผู้กำกับ The Joy Luck Club //ขอแวะมาคุยมาแชร์ด้วยแค่พอหอมปากหอมคอค่ะ อย่าลืมไปหาหนังที่เราแนะนำมาดูถเาคุณ จขกท. ชอบหนังสองเรื่องตามหัวข้อกระทู้ของคุณนะคะ แอบชอบนางเอกสองคนของ The Flowers of War ค่ะ ทั้งหัวหน้านางโลม และทั้งหัวหน้านักเรียน สวยมากๆ ทั้งคู่ เครื่องแต่งกายสวยคลาสสิคมากๆ หน้า ผม ก็ชนะเลิศค่ะ จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 14:29:10 A:115.87.198.166 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 2 บอกตามตรง    ไม่ชอบหนังแนวนี้เลย      ดูแล้วหดหู่กับชีวิตมาก     ไม่ได้โลกสวย  แบบที่เค้านิยมพูดกัน   ^^     เพราะชีวิตจริง  มันดราม่ายิ่งกว่าในหนัง จากคุณ : pippo's sweet heart เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 16:52:30

ความคิดเห็นที่ 3 สรุปง่ายๆ ห้ามพูดชื่อฮิตเลอร์ในประเทศเยอรมัน จากคุณ : bear hunt เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 17:00:05

ความคิดเห็นที่ 4 ชล พี่บอกคนที่บ้านว่า ไม่ใช่แต่ฮิตเลอร์ที่บ้า ในขณะนั้น คนเยอรมันก็บ้าเหมือนกันล่ะ ไม่งั้นฮิตเลอร์จะทำอะไรได้ ขนาดนั้นเหรอ เขายอมรับนะ แต่ตอนไป ดัคเชา เขาไม่เข้า ไปดูด้วย บอกว่า เชิญหล่อนไปชมคนเดียวเถอะ พี่เลยจำใจ เดินเอ้อระเหยเข้าไป ท่ามกลางฝนปรอยๆ ได้บรรยากาศมาก จากคุณ : พิพพ์ เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 20:20:13

ความคิดเห็นที่ 5 เค้าช้ำใจนะพี่พิพพ์ แบบคนรุ่นใหม่ทำใจไม่ได้เลย ว่าจะมีผู้นำประเทศแบบนั้น แต่ตอนนี้ก็ดันมีกลุ่มคนที่เข้าข้างฮิตเลอร์ออกมาอีก โลกหนอโลก T_T จากคุณ : bear hunt เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 21:09:30

ความคิดเห็นที่ 6 พึ่งดูสารคดีชื่อ Inheritance ไปเมื่อคืน พูดถึงลูกสาว(ตัวจริง)ของ Amon Goeth ที่เป็นตัวเอกตัวหนึ่งในเรื่อง Schindler's List จากคุณ : Overseas เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 22:10:21

ความคิดเห็นที่ 7 I went to the Holocaust Museum in Wasington DC years ago and saw a lot of cruel displays.  One of the the exhibitions showed how 20,000 Jewish people were masscred in the gas chamber. I was so shaken and started to cry uncontrollably. The chamber was sealed, the people were forced in - all young and old, men and women, children and mothers, then the poisonous gas was released. It was such a Great tragedy. That is why I refuse to watch war movies. Having said that, I saw the Pianist and Life is Beautiful.  I was so touched by them. Of course, I cried too. แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 55 03:04:58 จากคุณ : yinnerella เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 22:59:43

ความคิดเห็นที่ 8 เราแปลก เรากลับชอบดูหนังสงครามโลกมาก ไม่รู้ทำไม ฮ่าๆๆๆ ส่วนใหญ่คนรุ่นใหม่ๆ คิดว่าเค้าคงไม่น่าจะรู้สึกอะไรมากเท่าไหร่แล้ว เพราะเรื่องมัน ก็เกิดขึ้นมานานมาก แต่คิดว่าถ้าครอบครัวไหนที่บรรพบุรุษเคยถูกกระทำ ก็คงจะมี เรื่องเล่าให้ฝังใจกันพอสมควร ยกตัวอย่าง คุณตาของสามีเป็นทหารสังกัด Air Force ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นหน่วยที่ต้องไปรบกับญี่ปุ่น คุณตาเกลียดพวกญี่ปุ่นมากกกกกก สามีเคยเปรยว่า นี่ดีนะ ที่เธอเป็นคนไทย ถ้าเธอเป็นญี่ปุ่นสงสัยเราคงไม่ได้แต่งงานกัน เพราะคุณตา เกลียดคนญี่ปุ่นมาก รู้แต่ว่าคนดัช ไม่ชอบคนเยอรมัน แต่ก็ยังมีนะที่คนดัชแต่งงานกับคนเยอรมัน อันนี้ที่ รู้ เพราะรู้จักกับคนดัชเอง แล้วพ่อเค้าก็เป็นคนเยอรมันด้วย แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 55 01:03:58 จากคุณ : Scooterella เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:03:42

ความคิดเห็นที่ 9 มาแนวเดียวกะพี่ scooterella อิอิอิ ชอบดูมากหนังแนวนี้ เป็นโรคจิตเลยละ ดูแล้วเหมือนได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ไปด้วยในตัว แม้ในหนังจะบิดเบือนบ้าง แต่เกือบๆ จะใกล้เคียงความจริง คุณตาที่เมืองไทยและเสียไปเมื่อ 2 ปีก่อนแกเคยเขาร่วมสงครามเวียดนาม ช่วงหลังๆ ความจำแกจะเลอะเลืิอนและชอบเพ้อ เรื่องสมัยสงคราม หลานก็ชอบที่จะฟัง แต่มันลันทดซะมากกว่า ส่วนเรื่ิง ฮิตเลอร์ หนูไปตามอ่านเอาในหนังสือซะมากกว่า จากคุณ : lady scotland เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 06:34:49

ความคิดเห็นที่ 10 คุณๆ สาวๆ ข้างบนที่ชอบดูหนังเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สอง ถ้ายังไม่เคยดูหนังดีๆ สองเรื่องนี้ ที่ค่อนข้างแหวกแนวจากเรื่องอื่นๆ เรามีมาแนะนำสองเรื่อง 1. เรื่อง "Female Agents" เรื่องของกลุ่มสาวสวยที่มาจากต่างพื้นฐานต่างฐานะต่างสัญชาติ แต่จุดมุ่งหมายที่มีอยู่เดียวกันคือการต่อต้านการรุกรานของนาซีในฝรั่งเศสทำให้พวกเธอได้มาทำงานร่วม กัน โดยมีจุดมุ่งหมายในการเข้าไปเป็นสายลับเพื่อช่วยให้แผนยกพลขึ้นบกที่นอร์มองดี สำเร็จลุล่วง สาวๆ ในเรื่องนี้สวย เก่ง ทุกคน และเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะได้เห็นความสามารถและความสง่างาม ของดาราหญิงของฝรั่งเศสที่อยู่ยงคงกระพันในวงการบันเทิงมานานและกาลเวลาไม่สามารถทำร้าย เธอได้เลย และยิ่งแก่เธอยิ่งสวย คือ โซฟี มาร์โซ จากอดีตดาราวัยรุ่นของฝรั่งเศสที่โด่งดังไปทั่วโลก จากภาพยนตร์เรื่อง ลาบูม ตั้งแต่ 30 กว่าปีที่แล้ว หนังเรื่อง Female Agents ไม่ใช่หนังเก่า แต่เป็นหนังใหม่อายุไม่เกิน 5 ปีมานี้เอง 2. เรื่อง "Inglorious Basterds" หนังสายลับสงครามโลกครั้งที่ 2 ตลกแบบดาร์ค คอมเมดี้ เลือดสาด สไตล์ผู้กำกับ เควนติน ทาเรนติโน่ ที่มีซิกเนเจอร์ในการกำกับหนังโหด แต่ตลก ซาดิสม์ และเลือดสาด ปกติ เราชอบดูหนังพีเรียด หนังย้อนยุคโบราณ หนังแนวประวัติศาสตร์ หรือหนังตลก แนวตลกประเทืองปัญญา และไม่ชอบหนังสงครามเลย แต่เราสามารถดูหนังของเควนติน ทาเรนติโน่ ประเภทเลือดสาดได้หลายๆ เรื่อง เพราะเควนติน ทำหนังได้แหวกแนว สนุก มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และ ในหนังทุกเรื่องของเควนติน จะหลอกคนดู และ มีการหักมุมจบ เป็นการทำหนังที่มีเสน่ห์มาก หนังเรื่อง Inglorious Basterds เป็นเรื่องของทหารอเมริกันยิว (แสดงโดยแบรด พิทท์) ที่ตั้งกลุ่ม โค่นนาซีขึ้นมาเอง โดยมีผู้ร่วมสมคบคิดเป็นหญิงสาวชาวเยอรมันที่ต่อต้านนาซีช่วยเหลือ (แสดงโดย ไดแอน ครูเกอร์) ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งของเรื่องเป็นเรื่องของหญิงสาวชาวฝรั่งเศสที่รอดจากการที่นายทหาร เยอรมันนำทหารบุกสังหารครอบครัวเธอ เธอหนีไปปารีสและแอบแฝงทำงานในโรงหนัง ที่ภายหลัง นายทหารเยอรมันต้องเข้าไปดูหนัง เธอวางแผนแก้แค้น สามฝ่ายมีจึดมุ่งหมายเดียวกัน คือกำจัดนายทหารนาซี เรื่องนี้จะได้เห็นแบรด พิทท์ พยายามพูดภาษา อิตาเลี่ยนและอเมริกันสำเนียงอิตาเลี่ยน ขอบอกว่าฮามากๆ และจะได้ยินไดแอน ครูเกอร์ พูดถึง 3 ภาษา โดยที่ในชีวิตจริงเธอสามารถพูดไดเคล่องทั้ง 3 ภาษา คือ อังกฤษ เยอรมัน และ ฝรั่งเศส แต่หนังเรื่องนี้คนที่เด่นมากๆ กลับไม่ใช่ดาราดังอย่างแบรด พิทท์ หรือสาวสวยมากความสามารถอย่าง ไดแอน ครูเกอร์ แต่เป็น "คริสทอฟ วอท์ซ" ที่แสดงเป็นนายทหารเยอรมัน ต้องไปดูในหนังเอาเอง ว่าเขาแสดงได้โดดเด่นอย่างไร และขโมยซีนดาราทุกคนไปได้อย่างไร และจากบทนี้ ในเรื่องนี้นี่เอง ทำให้ คริสทอฟ วอลท์ซ กวาดรางวัลมาจากเวทีหลักๆ ทั่วโลก บทนี้ทำให้เขาได้รับรางวัลดาราประกอบชายยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์, เวทีบ๊าฟต้า, เวทีสกรีน แอ๊คเตอร์ กิลด์ อวอร์ด และ รางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมจากเวทีเมืองกานน์ (คานน์) อย่าลืมไปหามาดูกันสำหรับคอหนัง_เรื่องหนังเนี่ย คุยไม่ได้ คุยแล้วยาววววววว ค่ะ จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 14:02:44 A:125.213.233.66 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นคุณข้างบนพูดถึงเรื่อง Life is Beautiful เนี่ยเมื่อเกือบๆ สองสัปดาห์ที่แล้ว เราหยิบออกมาวางไว้ หน้าทีวี กะว่าจะเอาแผ่นออกมาดูอีก ชอบมาก ตอนมาฉายที่เมืองไทยเราไปดูที่สกาล่า จอใหญ่สะใจ ส่วน คห. 1 ที่มาแชร์เอาไว้นั่น ปกติเราไม่ชอบดูหนังโหด แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับจีนในยุคสงครามโลก ครั้งที่สอง โดยเฉพาะถ้าเกี่ยวกับเซี่ยงไฮ้เราจะดู เพราะเราชอบเซี่ยงไฮ้ในยุคตั้งแต่ 20s ลงมา เราสะสมโปสเตอร์เก่าๆ จากเซี่ยงไฮ้ เป็นโปสเตอร์โฆษนาเครื่องสำอาง สกินแคร์ บุหรี่ เหล้า โปสเตอร์คลาสสิค เราได้มาทั้งของเก่าจริง และของรีโพรดัคชั่น ใส่กรอบแต่งบ้าน และชอบฟังเพลงจีน ของเซี่ยงไฮ้จากยุคแถวๆ นั้นมาก และที่ชอบเป็นพิเศษคือเพลงเก่าๆ ของเซี่ยงไฮ้ ที่ร้านเสื้อผ้า และแอ็คเซสโซรี่ "Shanghai Tang" นำเอามารีมิกซ์ใหม่ และออกซีดีมาหลายชุด ถ้าใครสนใจ ไปตามหาซีดีพวกนี้ได้ที่ร้านชางไฮ แทง ของจะมีตลอด แต่บางครั้งบางชุดอาจจะขาดตลาดไปบ้าง แนะนำมากๆ โดยเฉพาะชุด 1 //แวะมาแชร์ข้อมูลที่มีประโยชน์ สำหรับผู้ที่สนใจค่ะ จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 14:10:19 A:125.213.233.66 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 12 ขออนุญาตคุณเจเาของกระทู้ แวะเอาลิ้งค์มาแปะให้ดูค่ะ เผื่อท่านที่ไม่ทราบว่าโปสเตอร์จากยุคต้นทศวรรษที่ 19 ของเซี่ยงไฮ้ เป็นแบบไหน บางท่านอาจจะนึกไม่ออก แต่ถ้าคุณเห็นแล้วจะต้องร้องออกมาว่า อ๋อ ค่ะ พวกสาวๆ จีนที่เล่นในหนังเรื่อง The Flowers of War ที่คุณ จขกท. เอามาตั้งถาม แต่งตัว ทำผม แต่งหน้า เหมือนสาวๆ ในโปสเตอร์นี่แหละค่ะ เราชอบหนังเรื่อง The Flowers of War มาก เพราะสามารถทำให้สาวๆ จากโปสเตอร์ที่เราสะสม สามารถออกมามีชีวิตจริงฌลดแล่นบนแผ่นฟิมล์ได้ http://www.zitantique.com/poster.html หนังเรื่อง The Flowers of War เป็นหนังท่ี่ดีมากๆ เรื่องหนึ่ง เนื้อหาต่อเนื่องกันหมด ไม่มีสะดุด บทสนทนา ไดอะล็อกของเรื่องฉลาดมากค่ะ และมีความสัมพันธ์ของตัวละครหลายตัวที่กินใจ และเป็นความสัมพันธ์ที่มีจุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง และพัฒนามาเป็นความสัมพันธ์ที่งดงามค่ะ หรือสถานะการณ์ต่างๆ ในเรื่องก็เกี่ยวเนื่องกันแบบมีเหตุมีผล เล่าแล้วอยากดูอีกครั้งค่ะ มีฉากโหดก็จริง แต่ของจริงๆ โหดกว่านั้นมากค่ะ เรื่องนี้โหดน้อยสุดแล้ว เรื่อง Empire of The Sun ที่คริสเตียน เบล พระเอกของ The Flowers of War เล่นเอาไว้ตั้งแต่เด็กๆ ก็ไม่มีฉากโหดค่ะ แต่เป็นหนังที่เน้นในเรื่องของความพลัดพราก การอยู่รอด และอารมณ์ของตัวละคร เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่งดงามมากๆ ค่ะ หนังเรื่องนี้มีอายุครบเบญจเพศ 25 ปีแล้ว เป็นหนังที่ได้ระบการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลมากมายในยุคนั้น และได้รับหลายรางวัลเช่นกันทั้งจากตัวหนังเองและผู้กำกับสตีเว่น สปิลเบิร์ก ใครที่รักหนังเรื่อง The Flowers Of War หรือ ชอบดาราเจ้าบทบาท คริสเตียน เบล ต้องไปหามาชมให้ได้นะคะ จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 16:51:44 A:125.213.233.66 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 13 เรื่องยิวกับนานกิงเป็นสุดยอดของความอัปยศของสงครามเรื่องนึงในประวัติศาสตร์ ถ้าถามว่าคนจีนกับยิว ยังเกลียดญี่ปุ่นกับเยอรมันไหม จากประสบการณ์ตัวเองที่พอจะมีเพื่อนชาติเหล่านี้อยู่บ้าง ก็ขอตอบว่า คนจีนเกลียดญี่ปุ่นรุนแรงกว่า ยิวเกลียดเยอรมัน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะวิธีที่สองประเทศปฎิบัติต่อเหยื่อสงครามของตนต่างกัน เยอรมันยอมรับผิด ถือเป็นความด่างพร้อยอันน่าาอับอายในประวัติศาสตร์ของตน ชดเชยค่าเสียหาย ให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ ประนามนาซี ประนามฮิตเลอร์ สัญลักษณ์ต่างๆที่เกี่ยยวกับนาซีก็ห้ามเผยแพร่ เป็นต้น ถ้าถามว่าทำอย่างนี้แล้วจะชดเชยที่เคยฆ่าคนยิวเป็นล้านๆคนได้เหรอ ก็ขอตอบว่าไม่ได้หรอก แต่อย่างน้อยความจริงใจในการแก้ปัญหาและพยายามเยียวยาบาดแผลเหล่านี้ก็จะพอช่วยได้บ้าง คนยิวจะรู้สึกเกลียดนาซี มากกว่าเกลียดตัวคนเยอรมันจริงๆ จริงอยู่ที่ในตอนนั้นฮิตเลอร์ทำให้คนเยรมันส่วนใหญ่เห็นดีเห็นงามกับการกำจัดชาวยิว แต่มีคนเยอรมันจำนวนไม่น้อยที่ไม่เห้นด้วย ต่อต้าน ก็จะถูกฮิตเลอร์กำจัด คนที่จำต้องจำยอม สวบปากสงบคำก็มีอยู่เยอะ ถ้าพูดเรื่องเหล่านี้กับตนเยอรมันเขาจะไม่ค่อยอยากคุยหรอกคุณ เพราะเขารู้สึกอับอายและโกรธแค้นพรรคนาซีในขณะนั้นมาก เรื่อง pianist กว่าดิฉันจะได้ดูก็เมื่อไม่นานมานี้เอง เพราะสามีซึ่งเป็นคนเยอรมันไม่ยอมให้ดู บอกเป็นเรื่องที่สลดหดหู่ ทำจิตใจเขาเศร้าหมองหลายวันมาก พอไปหามาดูคนเดียวตอนหลังก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ แต่คงไม่เท่าคุณสามีเพราะความรู้สึกร่วมมันรุนแรงกว่ากัน จากคุณ : นุท (chay_tbh) เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 20:08:56

ความคิดเห็นที่ 14 ส่วนเรื่องจีนกับญี่ปุ่นในประเด็นนานกิง ญี่ปุ่นเหมือนจะไม่แสดงความจริงใจในเรื่องนี้เท่าที่ควร อาจเพราะกลัวเสียหน้าเพราะสองประเทศนี้ก็ห้ำหั่นกันมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ขอโทษจีนเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่ชดเชยค่าเสียหายสงครามในประเด็นนี้อย่างชัดเจน แม่ว่าจะให้เงินชดเชยให้จีนในรูปแบบอื่น บิดเบือนหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ จนมีการออกมาประท้วงกัน เป็นต้น และจากการที่นายกญี่ปุ่นเดินทางไปศาลเจ้า Yasukuni เพื่อสักการะดวงวิญญาญบรรพบุรุษ ก็จะเป็นประเด็นให้ชาวจีนโกรธแค้นออกมาประท้วงเสมอ ที่ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่เก็บเถ้ากระดูกของบรรดาเหล่าทหารต่างๆที่เสียสละชีพเพื่อชาติ ซึ่งรวมถึงบรรดาอาชญากรสงครามจำนวนหนี่งในสงครามโลกที่สองด้วย ญี่ปุ่นถือว่าบรรดาเหล่าทหารๆที่เสียชีวิตในสงครามคือวีรบุรุษของเขา แต่คนจีนก็ประท้วงว่าทำไมต้องไปคารวะอาชญากรสงคราม ประเด็นพวกนี้มันก็เหมือนเป็นบาดแผลเปิด สะกิดหน่อยๆก็เลือดออกตลอดเวลา แล้วเรื่องที่นานกิงมันก็โหดเหี้ยม สยดสยองเหลือเกิน ความโกรธแค้นชิงชังมันก็ไม่หายไปง่ายๆหรอก จากคุณ : นุท (chay_tbh) เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 20:52:50

ความคิดเห็นที่ 15 ที่แน่ๆคือ คนเยอรมันส่วนใหญ่ที่เกิดระหว่างกับหลัง สงครามไม่เห็นด้วยกับฮิตเลอร์แน่ๆ ที่มามีกระแสชื่นชม นี้เป็นคนรุ่นใหม่เสียมากกว่า ประหนึ่งอยากครองโลก ว่างั้น คนที่บ้านและรอบข้างไม่ชื่นชมกับการกระทำของฮิตเลอร์ แต่ !! เค้ารู้สึกว่า เรื่องมันนานแล้ว ควรจบเสียที ขอโทษ ชดใช้ เงินช่วยเหลือ และต่างๆอีกมากมายที่ รัฐบาลเอาภาษีของพวกเค้าไปจ่ายนั้น มันควรยุติ ได้แล้ว อีกอย่างถ้าจะว่ากันไป มันคือวิถีแห่งสงคราม กำจัดเสี้ยนหนาม  ในประวติศาสตร์ก้อไม่ได้มีแต่ ฮิตเลอร์คนเดียว ที่ทำสงคราม ฆ่าคนเป็นผักปลาเช่นนี้ และการที่ชาวยิวอาศัยข้อนี้ มาเรียกร้องความสนับสนุนต่างๆ ิอย่างไม่มีหยุดหย่อนนั้น จะทำให้มีคนไม่ชอบยิวกลับ มาเพิ่มขึ้นได้อีก จากคุณ : Annachen เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 55 03:45:12

ความคิดเห็นที่ 16 Inglorious Basterds สนุกจริงๆค่ะ ทีวีเยอรมันจะมีเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 2 นาซี ฉายบ่อยๆนะคะ เขายอมรับและวิเคราะห์กันถึงเรื่องนี้เสมอค่ะ แต่ก็ยังมีนีโอนาซีในเยอรมัน แต่คนที่ต่อต้านนีโอนาซีมีเยอะกว่าค่ะ จากคุณ : พริกน้ำส้ม เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 55 11:14:09

ความคิดเห็นที่ 17 น้อง lady scotland ค่ะ ถ้าชอบดูหนังสงครามโลก มีเรื่องนึงที่น่าสนใจดูแล้วจะแบบระทึกไปด้วยคือ เรื่อง Black Book เป็นหนังดัช ต้องอ่าน subtitle เอานะคะ สนุกมากๆ แนะนำๆ http://www.sonyclassics.com/blackbook/ มีอีกหลายเรื่อง จำไม่ได้ นึกได้แล้วจะมาบอกนะคะ จากคุณ : Scooterella เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 55 07:05:58