ความคิดเห็นที่ 1 ต่อนะค่ะ คุณหมอก็ให้ยาลดไข้แบบสอดที่ก้นมา3อันใช้ทุก6ชั่วโมง ตอนเราไปรับยาก็ถามคนจ่ายยาว่าถ้าไข้ไม่ลดจะต้องทำไง ถ้ายาหมดึำตอบคือให้มาหมอใหม่ในวันถัดไป. เราก็เลยรู้สึกงงกับหมอที่นี่มาก.  ทันทีที่ถึงบ้านเราก็จัดการเอายาให้ลูกตอน12.30  จนพอช่วงบ่าย3ได้ลูกเราก็หลับแ่ไข้ก็ไม่ยอมลดกว่าเดิมเลย. จน 6.30 เราให้ยารอบ2. ที่นี้ไข้ขึ้นจะ40 เรากังวลใจมากเลยพาไปหาหมอที่เปิดฉุกเฉิน เป็นหมอเด็ก. ครั้งนี้หมอ. บอกเราว่า ยาลดไข้ที่ได้มา3อันเมื่อเช้าใช้ไป2ให้ลดอันที่3เหลือครึ่งนึง. แล้วก็บอกว่าลูกเราอาจเป็นส่าไข้.  เราก็เลยบอกหมอว่าลูกเราเป็นมาแล้วจะเป็นซำ้อีกหรือ. หมอก็บอกงั้นก็ดูอาการไปแต่ไม่ต้องใช้ยาลดไข้ ถ้าจะใช้ให้ใช้ได้ครึ่งเม็ด. เราเลยถามหมอว่าแล้วถ้าดึกฯไข้สูงกว่าเดิมจะทำไง ถ้าช็อค. หมอเค้่ก็แบบหัวเราะแล้วบอก เราว่า. เด็กมีไข้ช็อคเป็นเรื่องธรรมดา. เราเลยงงมากแล้วก็โมโหหน่อยๆ. เพราะิราคิดว่่าบ้าหรือเปล่าหมอนี้ ถ้าลูกช็อค มันก็อาการหนักแล้วดันบอกธรรมดาอีก จากคุณ : Rainyuta (Rainyuta) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 22:07:44

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วสามีเรากับหมอก็เข้ากันดีเหลือเกิน. บอกว่าเราคิดมาก ถ้าลูกช็อคค่อยพาพาหาหมอใหม่ก็ได้ แล้วก็หัวเราะกันใหญ่. แถมยังบอกว่าต้องให้ลูกอยู่เย็นๆเอาพัดลมพัดเด๋ยวไข้ลด. เข้ากับหลักการคุณสามีว่าต้องใช้นำ้เย็นเช็ดประคบ. ใจเรานี่ทั้งโมโหและสับสน. ว่าตลอดเวลาที่เลี้ยงลูกมาเวลามีไข้ก็ใช้ผ้าชุบนำ้อุ่นประคบนั้น เราเข้าใจผิดหรือ.   แล้วเราก็ต้องปล่อยให้ลูกนอนปวดเพราะพิษไข้อย่างนี้หรือ.  ต้องรอให้ชักก่อนงั้นหรือ.  เราเรียน. ทำงาน. อยู่ วนกับกับประเทศนี้มาก็พอสมควร แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ทำเราอึ่งมากๆกับเรื่องราวสองวันนี้ เราก็เลยอยากรู้เหมือนกันว่าแม่ๆท่านอื่นที่อยู่ญี่ปุ่น. ดูแงและใช้วิธีไหนหากลูกป่วย. หมอเป็นไง แล้วสรุปต้องใช้นำ้เย็นประคบ อยู่ที่เย็นๆ หรือเปล่า. เวลาลูกป่วยหนักในวันหยุดทำอย่างไรกัน. ในเมื่อไมมีหมอเฉพาะทางเปิด ขอทุกท่านที่มีประสบการณ์ช่วยเล่าหรือบอกหนทางให้ด้วยคะ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับเราและท่านอื่นๆต่อไป ถึงตอนนี้ ลูกเราก็ยังไข้สูงมาก. เราช่วยอะไรไม่ได้เลยทุกข์มากค่ะ ยอมรับว่าที่พิมท์อยู่ตอนนี้ทั้งโมโหและสับสนสงสารลูกมาก จากคุณ : Rainyuta (Rainyuta) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 22:23:35

ความคิดเห็นที่ 3 มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ (´･_･`) จากคุณ : คนเลี้ยงแกะปริศนา เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 22:38:14

ความคิดเห็นที่ 4 เราใช้น้ำอุณหภูมิห้องเช็ดค่ะ ไม่เย็นไม่อุ่น แต่ลูก จขกท.ยังเล็กอยู่ด้วยนะ แม่ต้องคิดเยอะ ช่วงวัย 1 ขวบ  ลูกเราก็ป่วยบ่อยเหมือนกันค่ะ ตอนลูกเป็นไข้ สามีเราให้ลูกกินอะไรเย็นๆ เหมือนกันนะ  เช่น ไอติม แล้วก็แปะแผ่นลดไข้ หมอญี่ปุ่นใช่ว่าจะวินิจฉัยโรคถูกหมดนะคะ เคยวินิจฉัยโรคลูกเราผิดด้วย ลูกชายตอน 3 ขวบ เป็นไข้  ไปหาหมอที่คลีนิคใกล้บ้าน หมอคิดว่าเป็นไข้ตัวร้อนธรรมดา หมอให้ยาลดไข้ แล้วก็กลับมาไข้สูงอีก  ก็กลับไปหาหมออีก ไปมา 3 - 4 รอบก็ไม่หาย  จนต้องให้น้ำเกลือที่คลีนิค แล้วก็กลับมาไข้สูงอีก(รวมระยะเวลาเป็นอาทิตย์นะ ที่วนไปวนมาเนี่ย) สุดท้ายหมอถึงยอมส่งตัวลูกไป ร.พ.(ทำใบส่งตัวให้) ตอนไปนี่คืออาการค่อนข้างหนักแล้ว ไข้ 40 ลูก 3 ขวบ ตาขาวกลายเป็นสีเลือด  เล็บกลายเป็นสีเลือด หมอ ร.พ.จับแอดมิดทันที ตรวจเลือด  ผลออกมาเป็นโรคคาวาซากิ ลูกชายเราโดนจับนอน ร.พ. 3 อาทิตย์  นอนรวมกับเด็กอื่น โดนเจาะเลือดจนพรุน เด็กอื่นที่นอนห้องเดียวกันก็ป่วยเป็นโรคเดียวกัน แต่ไม่มีใครเข้ามาอาการหนักเท่าลูกเรา(เป็นเพราะหมอคนแรกวินิจฉัยผิดอยู่นั่นแหละ เสียเวลามากมาย) เวลาเข้าเยี่ยมก็ห้ามเอาเด็กเล็กเข้ามา เพราะหมอกลัวลูกสาวที่อายุยังไม่ถึงขวบติดเชื้อ ก็ต้องผลัดกัน คนนึงเลี้ยงน้องสาวข้างนอก คนนึงเข้าไปเยี่ยม ช่วงนั้นทรมานทรกรรมมาก  ร.พ.ก็ไกล ช่วงนั้น เราต้องเอาตัวเล็กใส่คาร์ซีท แล้วขับรถไปเยี่ยมลูกชายทุกวันตอนบ่ายๆ (ร.พ.กำหนดเวลาเยี่ยม) แถมตอนนั้นก็ยังขับรถในญี่ปุ่นไม่เก่งเท่าไหร่ด้วย   แต่ก็พยายามคลำทางไป แล้วก็ไปป๊ะกะสามีหลังจากเลิกงานแล้วกลับมาด้วยกันบ้าง บางทีก็ฉายเดี่ยวคนเดียวทั้งไปทั้งกลับ โดยวานญาติสามีมาช่วยดูลูกสาวให้ข้างนอกบ้าง ดีที่โลกนี้มีเนวิเกเตอร์นะ  ไม่งั้นคงต้องอกแตกตายแน่ๆ เพราะเราจำทางไม่ได้  ยิ่งมืดยิ่งมองไม่ออกว่าถึงไหนแล้ว คาร์นาบิช่วยชีวิตไว้จริงๆ จากคุณ : Kitakaze เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 23:39:47

ความคิดเห็นที่ 5 ลองถามเพื่อนบ้าน  หารายชื่อ ร.พ. หรือคลีนิคที่เปิดให้บริการในวันหยุดไว้ค่ะ หรือถ้าภาษาเก่งๆ ก็เซิร์ชหาจากเน็ต มันต้องมีเปิดค่ะ  แต่มีน้อยหน่อย   หาข้อมูลเตรียมไว้เลย  เผื่อคราวหน้าด้วย จากคุณ : Kitakaze เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 23:46:00

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องเช็ดตัวค่ะ เคยแต่ใช้น้ำอุณหภูมิห้องนะคะ ไม่เคยใช้น้ำอุ่นเหมือนกันค่ะ แต่จากที่สังเกตดูนะคะ ว่าใช้น้ำอุณหภูมิห้อง พอเช็ดไข้ และชุบน้ำหลายรอบขึ้น น้ำยังอุ่นเลยค่ะ ... บางที น้ำเย็นๆ หน่อย น่าจะช่วยระบายความร้อนดีกว่านะคะ ประสบการณ์ส่วนตัว ล้วนๆ ค่ะ สู้ๆ นะคะ จากคุณ : s_anutt เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 00:41:17

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่เคยมีลูก แต่เท่าที่เห็น ที่ญี่ปุ่นเวลามีไข้ ถ้าจะเช็ดตัวเพื่อลดไข้ เขาจะไม่ใช้น้ำอุ่นกัน ตอนเราเป็นไข้หลังผ่าตัด พยาบาลเอาหมอนใส่แข็งมาให้นอนเลย เห็นป้า ๆ ที่รู้จักบอกว่า เวลาไข้ขึ้นจัด ๆ เขาจะเอา น้ำแข็งมาแปะตามข้อพับ รักแร้ บางทีใส่ปากด้วยเลย ตอนได้ยินครั้งแรกว่า คนญี่ปุ่นเวลามีไข้ บางคนกินไอติม เรายังงงเลย แต่เขาก็กินกันจริง ๆ (ตอนนี้เราก็กินด้วย ^^) ขอให้ลูก จขกท. หายป่วยเร็ว ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ทั้งคุณแม่คุณลูกค่ะ จากคุณ : Ssachiy เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 04:47:58

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่เคยใช้น้ำอุ่นเช็ดตัวให้ลูกค่ะ ใช้น้ำก็อก  เเล้วก็หาผ้าเย็นมาเเปะที่ที่หน้าผากลูกด้วย  ไข้สูงไม่ชัก ไม่เป็นอะไรมากค่ะ อย่ากังวัล ระวังอย่าให้ชักเป็นพอ จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 05:02:18

ความคิดเห็นที่ 9 ใช้น้ำอุณภูมิปกติเช็ดตัวนะคะ  แล้วให้เช็ดให้เสร็จก่อนที่จะใส่่ยาลดไข้ด้วย  ปิดหน้าต่าง  ปิดพัดลม และแอร์ให้เรียบร้อยก่อน   เช็ดทวนย้อนแนวขึ้นไปเพื่อเปิดรูขุมขน  เน้นที่ข้อพับต่างๆค่ะ ลูกสาวเคยเป็นโรคส่าไข้ค่ะ  มันจะไข้สูงสามวัน แล้วจะลดในวันที่ 4 พร้อมกับผื่นเม็ดๆขึ้นมาเต็มตัวทันทีค่ะ ตามตำราเป๊ะๆเลย   ปกติหมอไม่ได้จ่ายยาแก้อักเสบให้ค่ะ จะให้แต่ยาลดไข้เท่านั้น แล้วยาที่สอดใส่ทางก้น ให้ไช้วันละไม่เกิน 3 แท่งนะคะ   พยายามให้น้องดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อระบายความร้อน สวมเสื้อผ้าสบาย ไม่หนามาก   แนะนำเครื่องดื่มตัวนี้ค่ะ  เพราะเวลาคนป่วย ไข้ ร่างกายจะขาดน้ำและเกลือแร่  ดื่มตัวนี้ จะช่วยให้ดีขึ้นค่ะ   พยายามจิบเรื่อยๆทั้งวันนะคะ ... คิดประมาณว่า มันหยดๆ เหมือนผู้ใหญ่ไปให้น้ำเกลือน่ะค่ะ จะหยดช้าๆ  แต่เรามาดื่มทางปาก ก็จะต้องจิบบ่อยๆเอา จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 07:19:04

ความคิดเห็นที่ 10 ปล. ..  ในเขตที่พักอาศัย  จะมีคลีนิค สถานพยาบาล หรือ โรงพยาบาลที่เปิดกรณีฉุกเฉินนะคะ  เขาจะมีรายละเอียดบอก  เคยเห็นหนังสือของอำเภอค่ะ   หรือตอนเราพาลูกไปตรวจสุขภาพตามเกณฑ์  จะมีคู่มือฟรี แจ้งว่า วันหยุดเทศกาล  วันเสาร์อาทิตย์  กลางคืน  จะมีสถานที่ใด เขตไหนบ้างเปิดรับกรณีฉุกเฉิน   อาการแบบไหน เข้าข่ายฉุกเฉินบ้าง   เมื่อก่อนเราไม่ทราบเหมือนกัน ก็บ่นๆ  แต่ตอนนี้รู้แล้ว ก็ยังสบายใจขึ้นค่ะ   เคยพาไปหาหมอตอนวันหยุดเทศกาล  น่ะค่ะ  ช่วงนั้น ไข้หวัดใหญ่ระบาดพอดี  เค้ามีจ่ายยา หมอตรวจปกติเลยค่ะ หรือถ้าด่วนมากๆ ขับรถไปกลัวไม่ทัน ก็เรียกรถพยาบาลมารับที่บ้านได้ค่ะ จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 07:26:18

ความคิดเห็นที่ 11 คุณแม่ค่ะ ระวังน้องเป็นマイコプラズマ(ปอดบวมชนิดหน๊่ง)คุณแม่พาน้องไป ให้คุณหมอตรวจให้ละเอียดอีกทีนะค่ะ จากคุณ : ยู (แม่ของยูยู้) เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 07:34:34

ความคิดเห็นที่ 12 เราก็ไม่เข้าใจหมอที่นี่เหมือนกันเรื่องเป้นไข้แล้วชัก　　เค้าไม่ให้ความสำคัญเลยเฉยมากไม่เหมือนเมืองไทย ตอนมาญี่ปุ่นลูกเราไข้สูงชัก　เรียกรถพยาบาลไปห้องฉุกเฉิน　เค้าก็ถามๆอาการ　แล้วก็ให้รอๆๆๆๆ　นานมาก　ไม่มีพยาบาลมาวัดไข้ให้ยาแก้ไข้หรืออะไรเลย　　เราก็เช็ดตัวลูกรอ　ไม่ได้เตรียมผ้าอะไรไปเช็ดมากมายเหมือนที่บ้านด้วย　ความผิดของเราด้วยที่เราไม่เตรียมพร้อม　คิดว่าจะเหมือนที่เมืองไทย　อันนี้เราเสียใจมาก　รู้สึกว่าตัวเองเป็นแม่ที่แย่มากกๆ　ปรากฎว่าลูกชักอีกรอบ　ถึงได้เข้าพบหมอ　 หมอก็เจาะเลืดตรวจ　ถามๆอาการ　ให้ยาลดไข้　เอ็กเรย์ปอด　ให้ยาแล้วนานมากลูกเราไข้ก็ยังไม่ลงมีแนวโน้มว่าจะขึ้นสูงเรื่อยๆอี　เราก็เลยถามถึงยากันชัก　แล้วก็เล่าโพรเสสของ　รพ　ที่ไทยกรณีเด็กเคยชักว่าเค้าทำอะไรบ้างก่อนหลัง　เค้าก็เลยเอายากันชักมาให้ เราก้ไม่รู้นะว่าเราควรพุดกะหมออย่างนั้นหรือเปล่า　แต่หมอวันนั้นแบบว่ามีแต่หมอเหมือนจบใหม่น่ะ　แล้วลูกเราก็ชักรวมวันนั้นก็สี่ครั้งแล้ว　　เราก้เลยกังวลมาก　แล้วเราก็งงๆกับเรื่องน้ำเช็ดตัวด้วย　เราก้อยากให้ลูกไข้ลด　สามีก็กลัวแต่ลูกหนาว　แต่เราก้ใช้น้ำอุณภูมิห้องนะคะ　　ตอนออกจาก　รพ　หมอก็จ่ายแต่ยาลดไข้　ดันไม่จ่ายยาแก้หวัด　พอยาลดไข้หมด　เราก็เลยไปหาหมอคลีนิคใกล้บ้าน　ตอนแรกเราไม่รู้หรอก　เพิ่งหาเจอ　เป็นหมอแก่　แกก็บอกว่าทำไมหมอไม่จ่ายยาแก้หวัด　ยาลดไข้ก็ให้มาโดสสูงไปสำหรับเด็กเล็ก　แกก็จ่ายยามาให้　สามวันก็หายดีค่ะ ตอนนี้เรามีวิธีเพิ่มคือใช้แผ่นเจลสีฟ้าแช่ช่องฟรีสน่ะค่ะ　ซื้อแผ่นใหญ่เลย　พอดีกับหลังลูกเอามาทาบหลังไว้เลย　ใส่เสื้อนะคะไม่ถอดอออกเดี๋ยวจะเย็นไป　ที่หน้าผากก็เอาผ้าชุบน้ำประคบเปลี่ยนบ่อยๆใช้แผ่นเจลก้ได้ค่ะ　แต่ลูกเราหัวร้อนมากต้องใช้น้ำค่ะ　นอกนั้นก็ใช้ผ้าชุบน้ำประคบไว้ตามรักแร้　　ข้อพับ　ขาหนีบ　ถอดผ้าอ้อมออกเลยค่ะ　แล้วเปลี่นผ้าเรื่อยๆค่ะ　　ช่วยได้เยอะค่ะ　ลูกได้พักผ่อนด้วย　ไม่ต้องตื่นงอแงตอนเราจับเช็ดตัว　　แต่เราก็ต้องเฝ้าเปลี่ยนผ้า　เช็คอุณภูมิตลอดนะคะ　 ยังไงซะเมื่อไหร่ที่　จขกท　สับสนให้ใชความรู้สึกสัณชาติญาณความเป็นแม่ค่ะ　เราคิดว่าแบบนี้ดีก็ทำไปเลยค่ะ　บางครั้งคนข้างตัวก็ทำให้เราสับสนมึนงง　　จริงๆนะ จากคุณ : มาม่าน้ำข้น เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 09:59:31

ความคิดเห็นที่ 13 เราก็ใช้น้ำเย็นค่ะ อยากตอบยาวๆอ่ะ แต่ต้องไปทำงานแล้ว เดี๋ยวมาต่อตอนเย็นๆ จากคุณ : แม่ลูกสาม (jeepang) เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 10:49:53

ความคิดเห็นที่ 14 เราเคยเป็นไข้ สามีบอกให้กินไอสกรีม วันนั้นวีนสามีซะบ้านแตกเลยค่ะ 555 ใจเย็นๆนะคะ เข้าใจว่าแม่ทุกคนเป็นห่วงลูก  ตอนนี้ก็ค่อยๆหาข้อมูล รพ.ใกล้ๆบ้าน เวลาเราสับสนร้อนรนจะหาอะไรไม่ค่อยเจอค่ะ  เข้ามาเป็นกำลังใจ ขอให้เจ้าตัวเล็กหายไวๆนะคะ จากคุณ : Nong-Ngek เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 12:51:42

ความคิดเห็นที่ 15 โรงพยาบาลที่นี่ส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ อยู่ที่นี่ต้องทำใจยอมรับกับระบบของที่นี่ ส่วนตัวแล้วมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับ โรงพยาบาล คลีนิค คลีนิคทำฟัน ได้แต่ทำใจ กินวิตมินช่วยจะได้ไม่ค่อยเป็น ถึงเป็นก็ไม่มากแล้วก็หายเร็ว จากคุณ : mariya เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 13:10:49

ความคิดเห็นที่ 16 หาหมอที่ญี่ปุ่นนี่ต้องทำใจไว้ก่อนเลย เช่นโรงพยาบาลปิดเสาร์ อาทิตย์ รวมถึงวันพฤหัสด้วย และปิดทุ่มหนึ่งถ้าไม่สบายก็รอวันอื่นละกัน และเด็กมีไข้ 39 - 40 องศานี่หมอที่ญี่ปุ่นก็จะบอกเป็นเรื่องธรรมดา เดือนแล้วลูกผมเป็นไข้ 38 องศาโดนหมอบอกว่าถ้าไม่จำเป็นมากก็ไม่ต้องมาหาหมอก็ได้ นอนพักอยู่บ้านเดี๋ยวก็ดีเองแต่ก็ได้ยาแก้ไข้แบบผง (อย่างเดียว) มาประมาณสิบซอง เด็กหรือผู้ใหญ่ถ้าเป็นหวัดก็บอกว่าไม่มียา ให้ไปนอนพักผ่อนเอาเองเดี๋ยวหวัดก็หายไม่ต้องกินยา แต่กว่าจะหายอาการหวัดนี่สิใช้เวลาเป็นหลายอาทิตย์กว่าจะหาย จากคุณ : Leto เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 13:29:30

ความคิดเห็นที่ 17 เจอรพ.ดี ก็ดีนะคะ  เจอรพ.เข้มงวด ก็ยุ่งยากเหลือเกิน   รพ.เก่าที่เคยเจอ ตอนเราไม่สบายขอหมอฉีดยาเอาค่ะ จะได้หายไข้ไวๆ ก็ดีขึ้นค่ะ 2 วันไข้ลง หายเลย  สะดวกดี ลูกเป็นไข้ แล้วยาไม่พอเพราะไข้ยังไม่หาย ...ก็ไปขอรับยาได้เลย ไม่ต้องพบหมอ แต่ที่ใหม่นี้  ต้องให้เจ้าตัวมาพบหมอเองค่ะ  แล้วต้องเข้าระบบการจองคิวทางมือถือและเนทด้วย  ยุ่งยากสำหรับเราค่ะ  แต่คิดว่าดีที่ไม่ต้องรอคิวนาน... ยังไงก็รอ 30 นาทีอยู่ดี จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 13:39:14

ความคิดเห็นที่ 18 ตอนเล็ก เด็กๆที่บ้านนี้ไม่สบายบ่อยมาก โดยเฉพาะหน้าหนาว จนต้องเรียกว่าหน้าป่วยแทนแล้ว พอลูกมีไข้ แรกๆก็กังวลแบบ จขกท นี่หละค่ะ หลังๆเริ่มชิน ถ้าไข้ไม่ถึง 39องศาก็ไม่อะไรมาก แต่ถ้า39.5ขึ้น   ก่อนไปหาหมออันดับแรก ก็คือวัดไข้ให้ลูก แล้วก็จดค่ะ คอยสังเกตอาการต่างๆ (เพื่อจะได้บอกหมอเกี่ยวกับอาการได้) เอาเจลลดไข้แปะหน้าผาก เช็ดต้วให้ลูก เรียกว่าแตะๆเอามากกว่า เราจะค่อยๆแตะๆซับเอาความร้อนอ่ะค่ะ หน้าผาก แก้ม หลังใบหู แล้วก็รักแร้ค่ะ ค่อยๆทำ เพราะมันเย็น    เวลาหนอนก็ใช้หมอนเจลรี่เย็น   รอดูอาการซักวันก่อน   วันต่อมา ถึงไปหาหมอค่ะ เราพาลูกไปหาหมอที่คลินิคใกล้บ้านก่อน ไปหาหมอแล้ว ได้ยามา ยาหมด ถ้าไม่หายหรือดีขึ้นก็ไปหาหมออีกรอบ (ช่วงที่ลูกไม่สบาย เราจะวัดไข้ คอยสังเกตอาการ แล้วจดไว้ด้วย) ได้ยามาอีก ยาหมด ไม่หายอีก เราก็จะพาไปโรงพยาบาลเลยค่ะ ป่วยมาเป็นอาทิตย์ ไปโรงพยาบาลหมอก็จะตรวจระเอียดขึ้น   เจาะเลือด เอกซ์เร อ่ะค่ะ ที่เราไม่พาลูกไปโรงพยาบาลก่อนเพราะ รพ. รอนาน ไม่ได้จองไว้ก็รอสองสามชั่วโมง เด็กๆที่บ้านส่วนมาก ก็จะเป็นแบบเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา ก็เลยไปคลินิคดีกว่า  อีกอย่างส่วนมากไปหาหมอไม่เกินสองครั้งก็หายแล้วหละค่ะ ลูกคุณ จขกท คอแดง ก็เลยมีไข้มั้งคะ หรืออาจจะติดเชื่อ อะเดะโนไวรัส โยเรงกิงที่คอ ลูกเราเป็นบ่อยเลย ให้ลูก ทานยาที่คุณหมอให้มาไปก่อน แล้วก็คอยดูอาการไปก่อน ถ้าไม่หายค่อยไป รพ.นะคะ  เราไม่อยากพาลูกไปเลย รพ. สงสารลูก ตอนโดน มัดเป็นมัมมี่ เพื่อแทงเข็มเจาะเลือด  T_T จากคุณ : jeepang เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 16:09:32

ความคิดเห็นที่ 19 ขอขอบคุณ แม่ๆที่ให้กำลังใจและร่วมแชร์ประสบการณ์ค่ะ ตอนนี้ลูกเราไข้ลดลงมาหน่อยแล้ว แต่ก็มีอาเจียน. และงอแงงทั้งวัน เราคงต้องทำใจกับระบบแบบนี้......ซึ่งจริงๆอยากที่เราจะยอมรับ แถวบ้านเราก็มีคลีนิคแบบฉุกเฉินแต่ไม่เฉพาะทาง (ขนาดเฉพาะทางยังวินิจฉัยมั่วเลย) เราไม่อยากใช้บริการเลยถ้าไม่ถึงที่สุด.   เราไม่เข้าใจว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่พัฒนาก้าวล้ำประเทศอื่นในหลายๆด้านแต่ทำไมทางการรักษาถึงทำระบบแบบนี้.  ชอบวินิฉัยแบบก็อบจากแบบสอบถามที่ให้กรอก. มาทั้งดุ้นเลยแทนที่จะใช้อ้างอิง แล้วค่อยบอกว่าเป็นอะไรเกิดจากอะไร จะต้องรักษาไง ไม่บอกเลย เราเป็นแม่คน. ทนเห็นลูกเจ็บป่วยไม่ไหวหรอก. แต่หมอนี่. ชิวชิว. ลูกคุณจะชักก็ชักไป.   เราเลยก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าจะทนกับสภาพแบบนี้ได้อีกนานไหม. เพราะล่าสุด หมอจ่ายยาแก้หวัดให้เรา แล้วเราก็แพ้.  ขึ้นตา. อยู่. ยังไม่หาย. นี่มาเจอเรื่องแบบนี้กับลูกเราอีก ทำให้เราอยากกลับประ้ทศไทยเดี๋ยวนี้เลยจริงๆ เมื่อวาน้ราพูดประชดคุณสามี ไปว่าไม่แปลกใจเลยว่าทำไมปรัเทศนี้ถึงมีคนที่บกพร่องทางร่างกาย. ก็เพราะตินเด็กอาจป่วยแล้วไปรักษาไม่ทันแน่ๆ. จะเข้ารักษาทีไม่เจียนตายก็ไม่ได้เจอหมอ. เจอหมอก็ใช่ว่าจะรักษาได้ถูกโรคอีก บอกตรงๆตอนนี้เรานั่งเฝ้าลูกเรา. ดูลูกแขนขากระตุกอยู่อย่างนี้นำ้ตาเราตกเลย โมโหมากๆ ยังไงก็ขอบคุณแม่ๆอีกครั้งนะค่ะ จากคุณ : Rainyuta (Rainyuta) เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 17:48:21

ความคิดเห็นที่ 20 เราตามอ่านบล็อคคุณแม่คนญี่ปุ่นอยู่คนนึง ลูกเค้าไม่สบายหนักมากตอนโกลเด้นวีค หมอก็ไล่กลับบ้านแบบนี้แหละ จนเค้าสองคนก็จนใจ ซื้อไอ้ที่แปะหน้าฝากเย็นมาแปะตามตัวลูกแทน ลูกก็ค่อยๆหายค่ะ มหัศจรรย์มาก แล้วก็ให้ดื่มน้ำเกลือแร่แทน ยี่ห้อโพคาริสอะไรซักอย่าง ฉลากสีน้ำเงินอ่ะค่ะ ลูกเค้าจะป่วยอยู่อาทิตย์นึง แล้วก็ค่อยๆหายดี เราอ่านไป น้ำตาซึมไป ซึ้งในความรักของคนเป็นแม่จริงๆ ลูกป่วยทีก็แทบจะป่วยไปด้วยเลย เครดิต: http://silkyrose.blog68.fc2.com/blog-date-201205.html จากคุณ : blue-garcia เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 15:53:31

ความคิดเห็นที่ 21 ตอนนี้ที่เขมร เด็กๆเป็นโรค มือเท้าปากกันเยอะค่ะ แถมเป็นแบบรุนแรงด้วย เด็กๆตายไป 50กว่าคนแล้ว น่าสงสารมากค่ะ  ตอนนี้มีระบาดมาตามแนวชายแดนไทยบ้างแล้ว  คุณแม่ๆไทยตอนนี้จับลูกล้างมือกับพกเจลล้างมือตลอดค่ะ จากคุณ : Nong-Ngek เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 18:30:52

ความคิดเห็นที่ 22 จริงๆตัวนี้ ดื่มแล้วดีที่สุดในช่วงที่ซมจากไข้สูงนะคะ  ไม่เหมือนเครื่องดื่มสปอร์ตทั่วไปจิบเรื่อยๆให้หมดภายใน 5 ชั่วโมง  แทนการให้น้ำเกลือทางเส้นเลือดได้ค่ะ   สำหรับเด็กเล็ก อาจจะรสแรงไป  ก็ดื่มของเบบี้ พีเจ้นท์แทนได้ค่ะ   ดูสีของปัสสาวะเอาค่ะ  ถ้าข้นก็ต้องดื่มเยอะๆหน่อย ไปเรื่อยๆ  จนกว่าสีจะจางลงค่ะ  + ไข้จะลงเช่นกัน จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 22:16:49

ความคิดเห็นที่ 23 ยังดีเป็นแค่ไข้ แล้วถ้าเป็นไข้เลือดออกอะไรที่รุนแรง. แล้วแบบนี้จะรักษาทัน ไหมเนียะ. ..สุดท้ายจะเป็นไรก็เป็น. ให้มาเป็นกับเราแทนดีกว่าเป็นที่ลูก เห็นลูกทรมานแล้วใจเรานี่แทบทนไม่ไหว ขอบคุณทุก คห.  เราคงเครียดเพราะเรื่องนี้มากไปหน่อย ต้องขออภัยด้วยนะค่ะ จากคุณ : Rainyuta (Rainyuta) เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 23:55:46

ความคิดเห็นที่ 24 มาให้กำลังใจเจ้าของกระทู้คะ  ขอให้น้องหายเร็วๆนะคะ จากคุณ : junpei เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 21:30:48

ความคิดเห็นที่ 25 มาบอกค่ะ ตอนนี้น้องอาการดีขึ้นเยอะแล้วค่ะขอบคุณทุกคนนะค่ะ จากคุณ : Rainyuta (Rainyuta) เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 21:50:20