ความคิดเห็นที่ 1 1. เรื่องจักรยานถ้าเป็นได้ลองสอบถามทางมหาวิทยาลัยดูว่ามีใครที่ทิ้งๆเป็นมรดกตกทอดให้รุ่นน้อยคนไทย อาจจะได้ฟรีมานะคะ มาแค่ไม่นาน ระวังซื้อจักรยานไม่คุ้มนะคะ มือสองก็แพงราวๆหมื่นเยนได้ค่ะ แต่ปัญหาสำคัญคือทิ้งขยะชิ้นใหญ่ในญี่ปุ่นเสียค่าทิ้งค่ะ จะต้องโทรเรียกคนมาซื้อขยะไปทิ้ง อาจจะโดนที่ห้าพันเยนขึ้นไปค่ะ รายละเอียดรอบมหาวิทยาลัยไม่ทราบค่ะ เผอิญเราอยู่โตเกียว 2. คิดว่าไม่ควรซื้อไอโฟน เพราะนอกจากคุณต้องจ่ายค่าผิดสัญญา หมื่นเยน ตอนที่กลับ (เพราะคุณอยู่ไม่ถึงสองปี) คุณจะต้องเสียเงินค่าเครื่องคืนเนื่องจากผิดสัญญาด้วย เราโดนมากับตัวเองแล้วขนาดจะครบสองปียังโดนจ่ายคืนรวมๆสี่หมื่นเยนได้ค่ะ แนะนำให้ซื้อเครื่องแบบที่ซื้อขาดแล้วเลือกแพคเกตอะไรก็ตามแต่ใจคุณค่ะ โทรกลับไทยแนะนำว่าสไกป์ถูกมาที่สุดแล้วค่ะเลือกแบบจ่ายเป็นแพคเกตก็ได้ค่ะ ของเราใช้แพคเกตทั่วโลกโทรไม่จำกัดที่พันกว่าเยนต่อเดือนค่ะ 3. คนไทยที่มาญี่ปุ่นมักไม่เคยทำงานพิเศษมาก่อนทั้งนั้นเพราะค่านิยมความคิดของคนไทยเราแตกต่างกัน ถ้าได้ซักห้าหมื่นเยนจะพอกินและเที่ยวได้แบบพอดีๆค่ะ อาจจะต้องทำงานเยอะหน่อย อย่างน้อยต้องเข้างานซักสองวันต่อสัปดาห์ จะทำมากน้อยแค่ไหนอยู่ที่งานคุณได้ค่าแรงเท่าไหรค่ะ ภาษามีส่วนในการหางานพิเศษอยู่ไม่น้อย นอกจากนี้คือดวง และมีคนแนะนำงานให้หรือไม่ ญี่ปุ่นเน้นระบบมีคนรับรองค่ะ วีซ่านร.สามารถทำงานได้ 28 ชม.ต่อสัปดาห์ ค่ะ และงานที่ห้ามทำ ก. เป็นการทำงานที่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียน ข. ต้องไม่ใช่งานที่อยู่ในสถานเริงรมย์ เช่น บาร์ คาราโอเกะ ค. ต้องไม่เป็นงานผิดกฎหมาย หรือส่อไปทางการให้บริการทางเพศ ง. ต้องเป็นการหารายได้เพื่อการศึกษา หรือ ค่าใช้จ่าย ขณะที่ศึกษาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น จ. ผู้ที่จะทำงานพิเศษจะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป 4. งานส่วนใหญ่ก็ทุกงานที่คุณสามารถหาได้และไม่ผิดกฏหมาย เพียงแต่ส่วนมากเด็กไทยที่ยังไม่เก่งภาษาจะเลือกทำร้านอาหารไทยเหมือนกับเด็กไทยที่ไปประเทศอื่นๆค่ะ จากคุณ : อามามิยะ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 22:55:02 A:111.171.249.188 X: TicketID:320637

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณคุณอามามิยะมากค่ะ โอ้โห ค่าจักรยานแพงจังค่ะ ตอนแรกเราคิดว่าน่าจะอยู่ราวๆ 5000-7000 เยน แต่นี่มือสองยัง 10000 เยนเลยหรือนี่ //ช็อกค่ะ ขอสอบถามขั้นตอนการสมัครสไกป์นิดนึงนะคะ คือจ่ายเงินผ่านแอคเค้าท์เราเลยใช่ไหมคะ แล้วเวลาโทรออกกดโทรจากมือถือเราเลยได้รึเปล่า ใจจริงเราอยากใช้แบบฟรีค่ะ(โปรแกรม-โปรแกรม) แต่ติดว่าคุณพ่อคุณแม่ใช้ไม่เป็น =_='' อ้อ ช่วยกะๆราคาโทรศัพท์หน่อยได้ไหมคะ จะได้เตรียมเงินไปถูกน่ะค่ะ โทรเข้าโทรออก แชร์เน็ตได้ก็พอค่ะ พอดีมีไอแพดอยู่แล้วคงไม่ได้ใช้อะไรมาก และอีกเรื่องคือฟรีไวร์เลสค่ะ ไม่ทราบว่ามีเยอะไหมคะ ส่วนเรื่องงาน คิดว่าจะลองหาข้อมูลระหว่างรอครบ 90 วันไปก่อนค่ะ อ้อ แล้วพอครบต้องไปติดต่อกับทางมหาวิทยาลัยก่อนใช่ไหมคะ ต้องขอเปลี่ยนประเภทวีซ่าด้วยรึเปล่า ขอบคุณอีกครั้งค่ะ จากคุณ : แสงจันทร์คืนแรม เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 23:37:24

ความคิดเห็นที่ 3 ผมเป็นอดีตนร.แลกเปลี่ยนที่ Osaka U เหมือนกันครับ ขอแนะนำเกียวกับเรื่องการหาเงินจากการทำไบต์เท่าที่จำได้ก็แล้วกันครับ 1. รายละเอียดเกี่ยวกับกระบวนการการขอ work permit: จำได้ว่า อาจารย์ผู้ดูแล (คิดว่าน่าจะยังเป็นคอนโดเซนเซย์)  จะ brief ให้ฟังครับ เท่าที่จำได้คร่าวๆ ต้องให้อาจารย์ที่ปรึกษาเซ็นรับรองด้วย ซึ่งก็ไม่ยากอะไรนัก 2. ที่ Osaka University จะมี Office กิจการนักศึกษากระจายอยู่ตาม campus ทั้ง 3 แห่ง  (ที่ Suita Campus ชื่อ IRIS ที่ Toyonaka Campus จะใช้ชื่อว่า CIEE) ใน Office จะมีนิตยสารแจกฟรีอยู่ 2 หัวชื่อ Kansai Flee Market กับ Kansai Scene ในนั้นจะมีหน้า classified ที่รับสมัครงาน Part time ต่างๆ ตั้งแต่สอนหนังสือ ไปจนถึงแจกใบปลิว รายละเอียดต่างๆมีเขียนไว้เป็นภาษาอังกฤษครับ   3. ไบต์ทีทำนศ. ต่างชาติทำได้ก็มีหลายแบบครับ บางคนก็ไปทำแคชเชียร์ บางคนก็ทำร้านอาหาร บางคนก็ทำร้านสะดวกซื้อ หรือสอนภาษาไทยให้คนต่างชาติ (สำหรับงานสอนภาษาไทยนั้น นักเรียนไทยที่มหาวิทยาลัยจะรู้แหล่งจ้างครับ ให้ลองถามดู) เท่าที่จำได้ ค่างาน part time โดยเฉลี่ยจะตกชั่วโมงละ 800 เยนครับ และกฏหมายก็จะจำกักชม. ที่สามารถทำงานได้ด้วย 4. ที่ IRIS และ CIEE จะมีโครงการพิเศษเรียกว่า School Visit ซึ่งจะให้นศ.ต่างชาติไปทำ presentation เกี่ยวกับประเทศตัวเองให้เด็กตามโรงเรียนรู้จักครับ ไปแต่ละครั้งจะได้ ค่าตอบแทนประมาณ 3,000-5,000 เยน  ทาง IRIS และ CIEE จะส่งรายละเอียดเกี่ยวกับโรงเรียนเหล่านี้มาทุกเดือนครับ 5. จะมีสมาคมคนญี่ปุ่นที่สนใจพูดภาษาอังกฤษ เรียกว่า SES (Speaking English Salon) ที่ Senri-Chuo  ซึ่งจะเชิญให้นศ. ต่างชาติไป present กก. ประเทศตัวเอง กิจกรรมนี้จะมีค่าตอบแทน 6,000 เยน ต่อครั้งครับ (แต่คิวยาวค่อนข้างมาก ต้องรอนานหน่อยกว่าจะได้ไปพูด) 6. เท่าที่จำได้ ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของผมเองน่าจะตกประมาณ 50,000-60,000 นะ (ได้รับทุนจาก Jasso 80,000 ต่อเดือน จ่ายค่าหอ 40,000 ใช้ที่เหลือ 40,000+ เงินเก็บที่เอามาจากไทย 10,000-20,000) แต่อย่าลืมว่าผู้ชายไม่ีมีค่าใช้จ่ายมากนักในส่วนของเสื้อผ้า + เครื่องสำอางค์ ขออภัยที่เขียนงงๆ นะครับ แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 55 23:45:28 จากคุณ : the scholar เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 23:37:57

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณคุณ the scholar ค่ะ ได้รายละเอียดเพิ่มเติมเยอะทีเดียว ไม่เห็นจะงงสักนิด : D ตอนนี้อาจารย์ผู้ดูแลโครงการยังเป็นอาจารย์คนโดค่ะ ว่าแต่บรีฟให้ฟังนี่คงเป็นตอนปฐมนิเทศรึเปล่าคะ และเราจะได้พบอาจารย์ที่ปรึกษาเมื่อไร : ) หอพักของเราอยู่ Suita ค่ะ แต่ที่น่าเศร้าคือเราไม่ได้จัซโซ่ค่ะ ยังดีที่ค่าหอแค่ 30000 เยน พอจ่ายไหวอยู่ แต่ค่ากินอยู่นี่คงต้องหาเองค่ะ (เราเป็นผู้หญิงไม่แต่งหน้าค่ะ เสื้อผ้าก็ไม่ชอบช้อปค่ะ แต่กลัวเรื่องของน่ารักๆนี่ล่ะ เห็นแล้วตัดใจไม่ซื้อยาก) ป.ล. โครงการในข้อ4-5นี่น่าสนใจนะคะ ไว้ไปถึงจะลองหาข้อมูลเพิ่มเติมดูค่ะ XD อ้อ.. ไม่ทราบว่าขอเมลได้รึเปล่าคะ เผื่อมีคำถามจะได้้เมลไปสอบถามได้น่ัะค่ะ แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 55 00:03:39 จากคุณ : แสงจันทร์คืนแรม เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 23:56:36

ความคิดเห็นที่ 5 - ใช่ค่ะ จ่ายเงินผ่านทางแอคเคาท์ชื่อตัวเองได้เลย มีเลือกจ่ายหลายแบบแต่ที่นิยมคือ จ่ายตามร้านสะดวกซื้อ พวกแฟมิลี่มาร์ท เซเว่น กับ จ่ายผ่านบัตรเครดิต (เผอิญเราจ่ายผ่านบัตรเครดิตเลยไม่ทราบการจ่ายผ่านร้านค้าค่ะ) เราไม่สามารถกดผ่านมือถือเราได้ นอกจาก มือถือเราเป็น สมาร์ทโฟน ที่มีแอปของสไกป์ แต่ใช้คอมพิวเตอร์ที่ลงโปรแกมสไกป์โทรได้ค่ะ ข้อดีของการใช้สไกป์แบบแพลนเสียเงินคือสามารถโทรเข้ามือถือ และเบอร์บ้าน(ที่ไทยได้) เราเองก็เลือกเสียเงินเพราะที่บ้านเราพ่อกับแม่อายุมากแล้วไม่ถนัดเรื่องการเล่นคอมพิวเตอร์ค่ะ ค่ามือถือแล้วแต่คนเลือกค่ะ เหมือนได้ยินเพื่อนบอกมาว่า มีมือถือเติมเงินขาย เป็นขอค่าย เอยู ใช้ได้โอเคเหมือนกันค่ะ แต่ราคาไม่แน่ใจค่ะ เราคิดว่าไม่น่าเกินสองหมื่นเยนนะคะ ไม่แน่ใจว่ามีค่ายอื่นออกมาอีกหรือไม่ เราไม่ค่อยถนัดเรื่องมือถือ นี่ก็ใช้รายเดือนปกติมาตลอดเลย ไม่แน่ใจที่โอซาก้า แต่คิดว่าเหมือนกับโตเกียวนะคะ ฟรีไวเลส น่าจะมีหลายทีเหมือนกัน โดยเฉพาะตามสถานีรถไฟตามร้านค้าที่แจกฟรี (อย่างสตาบัค แมค) แต่เราว่ามันช้าๆอืดๆ คงแย่งกันเล่นเยอะหรือยังไงไม่ทราบเราต่อแล้วรำคาณทุกทีเลย รอความเห็นท่านอื่นเพิ่มเติมนะคะ ขอโทษที่ช่วยอะไรได้ไม่มาก ปล.คุณ the scholar ข้อมูลสุดยอดเลย ขออ่านประดับความรู้นะคะ จากคุณ : อามามิยะ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 55 00:39:07 A:111.171.249.188 X: TicketID:320637

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณคุณอามามิยะอีกครั้งค่า <3 (ตอนนี้กำลังเข้ากลูเกิ้ลเอิร์ทดูหออยู่ค่ะ เห็นแต่ข้างหน้าหอ ยังหาคอนบินิไม่เจอด้วยมีแต่บ้านคนกับไซต์ก่อสร้าง.... อ่า ทำไมดูลึกลับจังนะ) จากคุณ : แสงจันทร์คืนแรม เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 55 10:05:07

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้ามีคำถามอะไรก็ส่ง message มาที่ login ผมก็ได้ครับ ต้องขออภัยด้วยครับที่ไม่ค่อยสะดวกกับการเปิดเผยตัวจริง - เรื่อง brief เกี่ยวกับการทำงาน part time สามารถคุยกับ อ.คอนโด ได้โดยตรงครับ จะก่ิอนหรือหลังปฐมนิเทศก็ได้ หรือไม่ก็ลองคุยๆกับเจ้าหน้าที่ที่ IRIS กับ CIEE ดู  เจ้าหน้าที่พูดอังกฤษได้พอสมควร และใจดีมาก  มิโฮซังที่ IRIS พูดไทยได้นิดหน่อยด้วยครับ - ส่วนอาจารย์ที่ปรึกษา จะมาพบนักเรียนตอนช่วงปฐมนิเทศเช่นกันครับ (ในกรณีที่เลือกทำ Independent Study แต่บังเอิญผมไม่ได้เลือกทำ จึงไม่ต้องไปพบกับใคร) - นอกจากนี้ ทางมหาวิทยาลัย จะจัดหา Tutor  สำหรับให้นศ. ต่างชาติโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายครับ  ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการทำ IS  แต่ถึงแม้จะไม่ได้ทำ IS ก็ขอ Tutor จากมหาวิทยาลัยได้เช่นกันครับ ถือว่าได้่เพื่อนญี่ปุ่นมาสอนภาษา และช่วยแนะแนวเกี่ยวกับชีวิตในญี่ปุ่น  (Tutor เองก็จะได้ค่าจ้างจากมหาวิทยาลัยด้วย)   ขอให้สนุกกับการเรียนแลกเปลี่ยนที่ Osaka U ครับ โดนส่วนตัว ผมชอบมหาวิทยาลัยนี้มาก จนอยากกลับมาทำโทอีกใบที่นี่หลังจบโทในไทยแล้ว แต่จนใจที่ไม่รวยพอ สอบทุนมงปีนี้ก็ไม่ผ่านรอบสัมภาษณ์ T T จากคุณ : the scholar เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 55 10:45:31

ความคิดเห็นที่ 8 กำลังจะไปเรียน ป.โท นี่ Osaka U (Suita) นี่ละครับ ได้เรียนจาก คุณ the scholar เยอะเลยแฮะ แต่ภาษาญี่ปุ่นไม่ค่อยกระดิก (กำลังพยายามครับ) แต่ดันอยากทำ ไบต์ :P ไว้มีอะไรคงได้ถามคุณ the scholar แน่ๆเลย จากคุณ : Mewchan เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 55 11:36:06

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณอีกครั้งสำหรับข้อมูลดีๆที่เป็นประโยชน์ค่ะ มีอะไรสอบถามเพิ่มเติมจะแมสเสจไปนะคะ ^ ^ วันนี้ไปเรียนภาษาญี่ปุ่นมา เจอบุคคลที่เคยอยู่หอพักนี้แล้ว นั่นก็คือเซนเซย์นี่เอง (แต่เซนเซย์อยู่สมัยปี 1999......) โลกมันกลมจริงๆค่ะ =[]= จากคุณ : แสงจันทร์คืนแรม เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 55 20:24:01

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ Mewchan พอกันเลยค่ะ ภาษาเราก็ไม่ค่อยกระดิกเหมือนกัน เหอๆ จากคุณ : แสงจันทร์คืนแรม เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 55 20:49:40

ความคิดเห็นที่ 11 ขอเพิ่มเติมอีกเรื่องหนึ่ง แต่อาจจะไร้สาระ หนักไปทางบันเทิงหน่อยนะครับ (ไม่รู้ว่าจะมีคนมาอ่านหรือเปล่า) - ถ้าอยากเจอเพื่อนญี่ปุ่นเยอะๆ  แนะนำให้ไปนั่งที่ CIEE ที่ Toyonaka Campus จะwork กว่านั่ง IRIS ที่ Suita Campus ครับ (มีรถรับส่งระหว่าง campus ฟรี ระยะ้เวลาตั้งแต่ 7.50 ถึง 1 ทุ่มมั้ง)  ที่ Suita เด็กญี่ปุ่นจะโผล่มาที่ IRIS ไม่มากเท่า CIEE  ถ้าไม่นับ นร.แลกเปลี่ยน  นักศึกษาที่มานั่ง IRIS มักจะเป็นน้าๆ จากประเทศแถบตะวันออกกลาง หรือเอเชียใต้  ที่มาเรียนพร้อมกับคุณภรรยา   - ที่ Osaka U จะมีชมรม BSP (Brothers and Sisters Program) ครับ  ชมรมนี้มักจะจัด event ต่างๆมากมายระหว่าง เด็กญี่ปุ่นกับนักศึกษาต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น party ไปดูดอกไม้ไฟ ไปเที่ยวชายหาด หรือไต่ภูเขาฟูจิ  แนะนำให้ติดตามครับ   ชมรมจะประชุมกันทุกวันพฤหัสตอนพักเที่ยง ที่ CIEE - มีชมรมหนึ่งที่เหมาะแก่การไปหาเพื่อนญี่ปุ่นอีกชมรมก็คือ TAMAKOMI ครับ เป็นชมรมฝึกพูดภาษาอังกฤษโดยเด็กญี่ปุ่น  มีกิจกรรมทุกคืนวันพฤหัส (ุ 6 โมง ถึงสองทุ่ม) ที่ชั้น 2 ของภัตตาคาร don don ใน Toyonaka Campus หลังเสร็จชมรม จะมีการไปทานอาหารเย็นร่วมกันที่ย่านการค้าใกล้ๆ ม.  ถ้าใครมาชมรมเป็นครั้งแรก สมาชิกจะเลี้ยงข้าวเย็นให้ฟรีครับ  (มีบางคนมาทีเดียวแล้วหายจ๋อยไปเลยก็มี แต่ไม่แนะนำให้ทำครับ )  ร้านที่ไปทาานบ่อยๆจะมี 2 ร้าน  ร้านแรกชื่อ Eboshi เน้นขายอาหารประเภทข้าว  มี point card ให้สะสมส่วนลด ส่วนอีกร้านชื่อ Ichibana ซึ่งจะขายอาหารพวกอุด้งเพิ่มมาด้วย ทั้งสองร้านอร่อยใช้ได้ ราคาก็สมเหตุสมผลดีครับ พิมพ์ไปแล้วชวนให้นึกถึงความหลังอันแสนหวานจริงๆ  คิดถึงมากๆ แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 55 22:47:35 จากคุณ : the scholar เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 55 22:28:17

ความคิดเห็นที่ 12 ระหว่าง Toyonaka กับ Suita ห่างกันมากไหมครับเนี่ย เห็นแล้วอยากไปเจอเพื่อนญี่ปุ่นเยอะๆบ้าง :D แล้วที่ Suita เราจะมีแนวทางเจอเพื่อนญี่ปุ่นไงบ้างครับ เท่าที่เป็นไปได้ จากคุณ : Mewchan เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 55 01:35:39

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่ห่างกันมากครับ นั่ง shuttle bus จาก campus หนึ่งไปอีกแห่งใช้เวลาไม่เกิน 20-25 นาที สำหรับการเจอเพื่อนญี่ปุ่นที่ Suita ถ้าไม่รวมเจอกันใน class ที่คณะแล้ว ก็จะเจอได้ที่ IRIS ครับ นอกจากนี้ ที่ Suita จะมีกิจกรรม Japanese Cafe (จัดที่ IRIS แต่เวลาที่จัดเป็นวันที่ผมอยู่ Toyonaka Campus เลยไม่ได้ไป)  กับ English Cafe (อันนี้ไม่เคยไป) เป็นรายสัปดาห์ เช่นกัน (อย่างไรก็ตามผมรู้สึกว่าเจอสาวญี่ปุ่นแจ่มๆ ได้ที่ CIEE เยอะกว่านะครับ แอบเสียดายนิดๆ ที่ใช้เวลาครึ่งปีแรกอยู่ที่ IRIS โดยไม่ค่อยไปแวะที่ CIEE เลย) เพิ่มเติมอีกนิดนึงเกีี่่ยวกับ Minoh campus  ถ้ามาแวะที่ Campus นี้ จะมีโอกาสเจอเด็กญี่ปุ่นที่พูดไทยได้ครับ เพราะเป็น campus สำหรับเด็กปี 2-4 ที่เรียน major วิชาภาษาต่างประเทศ  แต่จะมีข้อเสียที่อยู่ไกลไปหน่อย ผมเลยไม่ค่อยได้แวะไปนัก จากคุณ : the scholar เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 55 09:34:18

ความคิดเห็นที่ 14 อ่า.. เพื่อนเราไปโปรแกรม Maple อยู่ที่ Minoh ค่ะ สงสัยจะเจอกันยากแล้วสินะ.. จากคุณ : แสงจันทร์คืนแรม เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 55 10:55:13

ความคิดเห็นที่ 15 อ่านแล้วคิดถึงสมัยตอนเราจะมาใหม่ๆ พยายามเข้านะคะ มาอยู่ไปภาษาก็จะได้เอง ของเรามาเรียนนานาชาติ แต่เป็นคนต่างชาติคนเดียว เลยได้ภาษาไปโดยปริยาย อยู่มาสองปีแล้วคะ อยู่แถว aichi มาเองหาทุนเอาแถวนี้แร่ะคะ เราได้ RA ก็ที่เรียนนั่นล่ะ แค่มาให้เห็นหน้าเค้าก็ให้ เสียแต่ทำงานเพิ่มไม่ได้แล้วคะ ชม.ที่permitเต็มแล้ว จากคุณ : via iPhone (เหมียวลายพาดกลอน) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 16:04:27

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณค่ะคุณเหมียวลายพาดกลอน เราก็หวังมาเก็บเกี่ยวภาษานี่ล่ะค่ะ อยากเพิ่มทักษะตัวเองเหมือนกัน ^ ^; ว่าแต่หาทุนเองที่โน่นหายากไหมคะ แหะๆ แบบว่าอยากรู้ กะจะไปหาเอาที่โน่นเพิ่มเหมือนกันค่ะ ไม่งั้นอาจจะต้องทำงานเยอะๆทดแทน ตะกี้โทรไปถามจัซโซ่ประเทศไทย พี่ที่รับสายบอกว่าไม่น่าจะมีการรับทุนจัซโซ่เพิ่ม.. เพราะตอนพิจารณารอบแรกเป็นไปตามโควตาที่ล็อกจำนวนไว้อยู่แล้ว ตามที่มหาวิทยาลัยโฮสต์ส่งชื่อไป ฟังแล้วเศร้าเลยค่ะ T T ป.ล. RS ย่อมาจากอะไรเหรอคะ จากคุณ : แสงจันทร์คืนแรม เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 17:19:49

ความคิดเห็นที่ 17 RA =  Research Assistant  ผู้ช่วยวิจัยครับผม  หน้าที่ก็จะมีค่อนข้างหลากหลายแล้วแต่ว่า RA นั้นจะทำงานกับอาจารย์ท่านใดครับ บางคนไม่ต้องทำอะไรมาก แค่ทำหน้าที่เตรียมเอกสารให้อาจารย์ก่อนเข้าชั้นเรียน รวบรวมการบ้าน/รายงานจากนักศึกษาและทำ list ว่าคนไหนยังไม่ส่งบ้าง บทบาทจะออกไปทาง TA  (Teaching Assistant)มากกว่า บางคนอาจจะต้อง ลงมือวิจัยทางวิชาการให้อาจารย์ด้วย ต้องไปเข้าประชุมโน่นประชุมนี่เพื่อเอาข้อมูลมาประกอบงานวิจัย  ในบางราย (เท่าที่ได้ยินมาในประเทศไทย) ทีมงาน RA ทำงานส่วนมาก ส่วนอาจารย์ตรวจความถูกต้องและขัดเกลา จากนั้นก็ส่งงานวิจัยในนามอาจารย์เอง (แต่อาจารย์ก็จะแบ่งเงินค่าวิจัยให้ RA ตามที่เห็นเหมาะสม) บางคนต้องควบตำแหน่งเลขาไปด้วย รับโทรศัพท์ และทำการนัดหมายต่างๆให้กับอาจารย์ไปอีก จากคุณ : the scholar เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 20:17:52

ความคิดเห็นที่ 18 RA คงแล้วแต่มหาลัยนะคะ ของเราคือนศที่ไม่มีทุนมาญี่ปุ่น ต่างชาติได้ทุกคน ก็แค่ทำงานวิจัยตัวเองไป ไม่ได้เหมือนทำงานด้วยซ้ำ ออกแนวทุนมากกว่า (เราเรียนป.เอกสายทางวิทยาศาสตร์สุขภาพนะคะ) ทั้งนี่ทั้งนั้นที่สำคัญที่สุดคือให้ปรึกษาอ.ที่ปรึกษาคะ เค้าจะทราบดีมากกว่าว่าจะให้เราสมัครทุนอะไรได้บ้าง กรณีของเรา เราเป็นนศ.ที่นี่เลยนะคะ ไม่ได้มาแลกเปลี่ยน ก็ยังหาทุนนอกยากเหมือนกัน สมัครไปทุกปี แห้วตลอด เลยต้องรับทุนRA ต่อไป ปล.เราต้องจ่ายค่าเทอมเองด้วยคะ และถ้าได้ทุนอื่นที่มากกว่าทุน RA ก็จะยกเลิกไปคะ จากคุณ : via iPhone (เหมียวลายพาดกลอน) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 21:38:52

ความคิดเห็นที่ 19 คุณแสงจันทร์คืนแรมเข้าร่วมโครงการไหนของ Osaka U. คะ พอดีว่าเราก็จะไปอยู่หอที่ Tsukumodai เหมือนกันค่ะ ^^ จากคุณ : pat_kaew (pat_kaew) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 22:57:04

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณทั้งสองท่านที่ให้ความกระจ่างค่ะ เดี๋ยวจะลองเมลไปถามทางโน้นดูเกี่ยวกับเรื่องทุน+งานพิเศษอีกรอบค่ะ คุณ pat_kaew คะ เราไป OU_ _EPค่ะ(จะพรางชื่อทำไมเนี่ย 555+) คุณ pat_kaew ไปโครงการอะไรเหรอคะ จากคุณ : แสงจันทร์คืนแรม เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 01:09:27

ความคิดเห็นที่ 21 เราไป Regular ค่ะ ^^ จากคุณ : pat_kaew (pat_kaew) เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 07:03:17