|
สวัสดีคุณมอนจะ ได้ตามอ่านเรื่อยๆ แต่ไม่มีโอกาสตั้งกระทู้ตอบเลย ลองเข้ามาแชร์ความเห็นนะ
เราเริ่มงานที่ปัจจุบันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา หลังจากผ่านที่ทำงานเดิมมา เกือบสามปีหลังเรียนจบครับ อารมณ์แบบคุณมอนจะเลยในช่วงแรก สนุกกับงานมาก เริ่มจากเรียนรู้ด้วยตัวเอง มีแบกลัง คีย์ข้อมูล ขนของ ทำทุกอย่างเท่าที่ได้รับมอบหมาย ไม่เกี่ยวกับงานที่สมัครเลย ขยันอดทนสู้งานเรื่อยมาจนได้ทำงานที่สมัครไว้ เป็นงานการตลาดไทย ครับ มีเอาท์ซอร์สงานไปไทย โดยเจ้านายให้เราสั่งงานทางโทรศัพท์ อีเมลแล้วรับงานมาทำที่ญี่ปุ่น เหมือนเราเป็นผู้จัดการแต่ประจำที่ญี่ปุ่น
แต่แล้วลางร้ายก็เกิดขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร ครั้งใหญ่ (restructure) ช่วงปีนั้นเงินเยนแข็งปรี้ดการค้าไม่ค่อยดี อยู่ๆ บริษัทแม่ประกาศถอนหุ้นออกไปตั้งแผนกของตัวเองพร้อมสิทธิ ในแบรนด์นั้นทั้งหมดแบบไม่คาดฝัน
ฐานะการเงินของบริษัทลูกของเราน่าเป็นห่วง แต่ทางเจ้านายก็ยังเอ็นดู ป้อนงานให้ งานแผนตลาด (ไทย) ฯลฯ หลังจากที่ บ.แม่ถอนหุ้นไป ไม่มีสิทธิใช้ชื่อแบรนด์เดิมซึ่งติดตลาดไปแล้ว ลูกค้าลดลงฮวบฮาบ ลูกค้าที่เคยอุดหนุนกันมาแต่เก่าก่อน เมื่อทราบว่าเราไม่ทำตลาดไทยแล้ว ซ้ำร้าย บ.แม่ก็ไม่มีนโยบายทำตลาดไทยเพราะมองว่าเล็กไปไม่คุ้มค่า คุณลูกค้าเลยสนองนโยบายด้วยการสั่งซื้อทางเว็บพรีออเดอร์แม่ค้าไทย กันเองเลย สถานะการณ์ตอนนั้น คือ มีงานให้ทำทั้งแปลไทยอังกฤษ ทั้งติดต่องานต่างๆ อย่างที่เคยทำ แต่ทำให้แบรนด์อื่นที่ยังใหม่มาก ยังไม่มีใครรู้จัก และใช้ช่องทางแบบไม่ต้องลงทุนด้วยเงิน (ตั้งโค้ด เว็บ, โพสต์ข่าวพีอาร์ (ฟรี) facebook ฯลฯ)
ฟีดแบ็คไม่อัพเลย มันไม่เหมือนเดิมแล้ว หากไม่ลง ads (ด้วยเงิน) หรือขาย brand license ก็แข่งขันยาก หลังจากนี้ก็มีการลด เงินเดือนเราตามสภาพงาน และสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง เป็นช่วงเวลาเราทำมากำลังสิ้นปีที่สอง หลังเรียนจบที่นี่
สิ่งที่ได้ยินบ่อยมากตอนนั้น คือ "ตลาดไทยเล็กไม่ค้มกับการลงทุน ทาง บ.แม่มองว่าสู้ไปทำตลาดจีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ไม่ได้ แปลภาษาครั้งเดียว ใส่โฆษณารอบเดียวขายได้ทั่วโลก (คนจีนในอเมริกา ยุโรป ออสซี่ดูได้) เลย" คนที่ถูกปรับออกไป ก็คนจีน นั่นเอง ทาง บ.แม่ขอตัวโอนย้ายไปอยู่ด้วยกัน
ตอนนั้นเงินเดือนที่ได้รับค่อนข้างต่ำ แต่ก็เห็นใจบริษัท ก็ทำไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่งมาถึงจุดที่ว่า
"เราไม่แคเรียร์อัพแล้วนะ" เจ้านายเห็นผลประกอบการไทย แล้วหนักใจเลยขอให้เราไปดูตลาด เพื่อนบ้านไทยควบไปด้วย โดยยืนยันไม่มีงบประมาณใดๆ ให้เราลอง ลงข่าวตามเว็บฟรีบอร์ด เฟซบุ้ค เราก็ทำทุกวิธีที่มีช่องให้ทำตลาด แบบ below the line ได้ ฟีดแบ้คดีขึ้นแต่ขึ้นเล็กน้อยมากๆ ไม่ค้มทุน
"แครเรียร์ไม่อัพแล้ว" เริ่มแวบเข้ามาในหัวบ่อยๆ แต่เจ้านายก็เอ็นดูให้งานเข้ามาอยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ
ตอนนั้นเลยคิดแบบคุณ mugen tribe เลย เอาล่ะ ทนๆทำงานไป เลิกงาน แล้วไปสนุกสุดๆ เกมส์ อาหารอร่อย ดูหนัง เข้าฟิตเนส ท่องเที่ยว สนุกทุกวีค (แน่นอนทีเดียว ไม่เหลือเงินเก็บ)
จนมาถึงจุดที่คิดถึงอนาคต อายุ 32 แล้ว รู้สึกว่างานประจำไม่ก้าวหน้า สนุกไปวันๆ คงไม่ใช่แระ เราคิดไปไกลด้วยว่าเราคงไม่แต่งงานแน่ๆล่ะ แล้วเงินเก็บล่ะ เป้าหมายชีวิต สารพัดเรื่องของอนาคตเริ่มมีให้คิดแล้ว
"ลองมองไปอีกสิบปีข้างหน้า ด้วยเงินเดือนประมาณนี้ งานดำเนินไปแบบนี้ ไม่เป็นไรน่า ทนๆ ไปก่อน งานหายากนะ" คิดแบบนี้ก็กลับมาวนลูปงาน เริ่มไม่รุ่ง และมีอารมณ์เบื่อค้างสะสมทุกวัน แล้วแก้ปัญหาแบบชั่วคราวด้วยกิจกรรมสนุกๆ หลังเลิกงาน และรอวันหยุด ยาวกลับไทย
จนมาถึงวันเกิดเมื่อสองปีก่อน ระหว่างกลับเยี่ยมไทย
"ที่กังวล คือ ภาษาญี่ปุ่นยังไม่แข็งแรงเลย เอาล่ะ ลองเอาประสบการณ์ไปวัดดวงล่ะกัน" ตัดสินใจลาออกครับ (แล้วมาเล่าต่อวันหลังนะ)
แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 55 22:59:56
แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 55 22:50:45
แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 55 22:49:07
จากคุณ |
:
silkroad
|
เขียนเมื่อ |
:
17 ส.ค. 55 22:48:29
|
|
|
|
|