Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เขียนให้อ่านเล่นๆครับ..จากประสบการณ์การขอวีซ่าอเมริกา ติดต่อทีมงาน

..ด้วยบริษัทที่จขกท.ทำงานอยู่นี้เป็นของคนอเมริกันมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สหรัฐอเมริกา..เพราะฉะนั้นพนักงานทุกคนซึ่งมีอยู่หลายสัญชาติทั่วโลกจึงต้องมีวีซ่าเพื่อเข้าอเมริกา..

ใครที่เคยไปขอวีซ่าเข้าอเมริกาที่สถานฑูตตรงถนนวิทยุคงจะเข้าใจดีถึงความยุ่งยาก..ก็อย่างที่คุณโน๊สอุดมเคยพูดไว้ด้วยความคับแค้นใจในเดี่ยวไมโครโฟนประมาณว่า..ทีตอนจะมาบ้านเราแสนจะง่ายดายทีเราจะไปบ้านเค๊ามันช่างยากเย็น..

ซึ่งจากประสบการณ์ของตัวเองทั้งของอเมริกาและของประเทศอื่นที่เคยไป..เห็นด้วยกับพี่โน๊สอุดมทุกประการ..แต่หลังจากเดี่ยวชุดนั้นออกไปเมื่อซักสามปีที่แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะที่แกพูดหรือเปล่า..ทำให้ตอนนี้ยุ่งยากหนักยิ่งกว่าเดิม..ฮา..

เพื่อให้สมกับเป็นประเทศผู้นำอันดับหนึ่งด้านไอที..เดี๋ยวนี้กระบวณการขอวีซ่าจึงต้องผ่านอินเตอร์เน็ต..ขนาดใบคำร้องยังต้องสแกนรูปผู้ขอเลย..ใครใช้คอมพ์ไม่เป็นหรือไม่มีอีเมล์เเอดเดรสก็คงเข้าอเมริกาไม่ได้..ฮา..ล้อเล่น..เดี๋ยวนี้ขออีเมล์แอดเดรสใช้เวลาไม่เกินห้านาที..

กระบวณการขอเริ่มตั้งแต่ต้องไปซื้อpin codeที่ที่ทำการไปรษณีย์เพื่อโทรฯไปขอวันนัดสัมภาษณ์..ตรงนี้กี่ร้อยก็ไม่รู้..ลืมไปแล้ว..เมื่อได้วันนัดสัมภาษณ์แล้วก็ต้องดาวน์โหลดแบบฟอร์มมากรอกตามประเภทที่จะไปเช่น..ไปเที่ยวหรือไปทำงาน..

เมื่อกรอกเสร็จแล้วก็ต้องไปไปรษณีย์อีกครั้งเพื่อจ่ายเงินค่าวีซ่า..ประเภทของจขกท.เมื่อก่อนจ่าย100ยูเอสก็ประมาณสามพันสี่สามพันห้าแต่ปัจจุบันนี้เพิ่มเป็น160เหรียญ..ล่อไปห้าพันกว่าบาท..เเพงโคตร..

เมื่อจ่ายตังค์แล้วก็นำสลิปการจ่ายตังค์พร้อมแบบฟอร์มที่กรอกไว้และหลักฐานต่างๆไปตามวันเวลาที่นัดสัมภาษณ์..อย่างของจขกท.ก็ต้องมีจดหมายรับรองจากเอเจนซี่อ้างอิงถึงสำนักงานใหญ่ที่อเมริกาเพื่อประกอบการพิจารณาออกวีซ่า..

หากใครเคยผ่านสถานทูตอเมริกาช่วงเช้าๆตรงถนนวิทยุคงจะเห็นกันจนชินตากับภาพผู้คนยืนต่อแถวหน้าสถานฑูต..ไม่ว่าจะยากดีมีจนจะขับเบ๊นซ์หรือโหนรถเมล์..หากอยากได้วีซ่าเข้าอเมริกาก็ต้องมายืนต่อแถวข้างกำแพงเหมือนกันหมด..ถึงขนาดจ้างมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปยืนเข้าแถวก็มี..แต่ระบบการนัดสัมภาษณ์ก็แก้ปัญหาตรงนี้ไปได้ระดับหนึ่ง..

กว่าจะเข้าไปได้ก็ต้องตรวจอาวุธกันเข้ม..เอาอะไรเข้าไปข้างในไม่ได้เลยเข้าได้แต่ตัวกับเอกสารที่จะยื่น..เมื่อเข้าไปแล้วก็ตรวจเอกสารพร้อมให้ซื้อซองสีน้ำตาลของไปรษณีย์สำหรับส่งพาสปอร์ตกลับมาให้เรา..จะเห็นว่าdealกับไปรษณีย์ไทยตลอดแต่ก็สะดวกดี..ตรงตรวจเอกสารนี่แหละที่หกปีที่แล้วจขกท.เจอเหมือนพี่โน๊สอุดมเปี๊ยบเลย..เจ้าหน้าที่บอกรูปถ่ายไม่ชัด..ไม่เห็นหู..โห..จะเอาชัดอะไรปานนั้น..คุณเธอบอกให้รีบออกไปถ่ายมาใหม่แล้วกลับมาที่ช่องของเธอ..เธอแนะนำร้านให้เสร็จสรรพ..แถวสถานทูตนั่นแหละ..เราก็ไปตามนั้นโดนฟันไปห้าหกร้อยบาท...

เรื่องรูปมันเป็นระเบียบของอเมริกาจริงๆ..ต้องเป็นขนาดสองนิ้วเห็นหน้าตาชัดเจนไม่ต้องแต่งด้วยคอมพิวเตอร์..ฉากหลังต้องเป็นสีขาวเท่านั้น..เมื่อตรวจเอกสารผ่านหมดแล้วก็ไปนั่งรอสัมภาษณ์..ซึ่งทำใจไว้เลยว่าคิวยาวมาก..ตอนนั้นรู้สึกว่าจะนั่งรอสองสามชั่วโมงพอถึงคิวก็ถามแค่สองสามคำว่า..ไปทำอะไรที่อเมริกา??..ทำตำแหน่งอะไร?..ถามแค่เนี๊ยแล้วก็ให้กลับ..รอประมาณอาทิตย์นึงก็ได้รับพาสปอร์ตพร้อมประทับวีซ่าห้าปีส่งไปตามที่อยู่ที่เราจ่าหน้าซองไว้..


เล่าเรื่องนี้ให้ฟังเพราะวีซ่าขาดพอดี..ไปจ้างเค๊ากรอกฟอร์มพร้อมนัดสัมภาษณ์จ่ายไปสองพันห้า..ซื้อความสะดวก..วันที่ไปจ้างเค๊ามีลูกค้าคนนึงเข้าไปถามเหมือนเรา..จ้างทำวีซ่าเมกาเท่าไหร่ครับ?..เสียงพนักงานตอบทำเราสะดุ้งโหยง..วีซ่าท่องเที่ยวก็สองหมื่นห้าค่ะ..ไม่รับรองผล..ทำไมล่ะครับ..เพราะต้องไปสัมภาษณ์เองค่ะ.....โห..แพงเน๊อะ

จากคุณ : AXL ROSE
เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 12:55:14




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com