ขอปรึกษา+ระบายเรื่อง Sex harassment ที่ีทำงานหน่อยได้มั๊ยคะ
|
|
กลุ้มใจมาหลายวันแล้วกับเรื่องนี้ ไม่รู้จะหาใครเข้าใจได้ เพราะเล่าให้ใครฟังก็มีทางออกอยู่อย่างเดียวคือออกจากงานนี้ หางานใหม่ ไม่ก็ฟ้องผู้ใหญ่ระดับสูง ซึ่งผลก็รู้ๆกันว่า ผู้ใหญ่ก็คงว่ากล่าวตักเตือนคนผิด ซึ่งเป็นคนที่ไม่เคยฟังใคร ไม่เคยคิดว่าตัวเองผิดอยู่แล้ว เอาตัวเองเป็นใหญ่ สุดท้ายก็ต้องแตกหักเราก็ต้องย้ายไปทำงานที่อื่นอีกอยู่ดี ใครพอจะมีหนทางดีๆที่เราจะแก้ปัญหานี้ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนงานบ้างมั๊ยคะ
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า เราทำงานอยู่กับหัวหน้าที่ extreme หรือเรียกว่าเป็นคนสุดโต่งในทุกเรื่อง งานแกก็สุดโต่ง เรื่องอารมณ์นี่การควบคุมต่ำมาก อาละวาดด่าว่าลูกน้องจนกลัวลนลานกันไปหมด ด่ากระทั่งลูกน้องผู้ชายยังร้องไห้ ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะเถียงอะไรแก ซึ่งคาแรคเตอร์แบบนี้หัวหน้าใหญ่หรือผู้บริหารก็รู้ดี แต่เป็นเพราะความที่ผลงานแกดีมาก งานเดินเร็วมาก กำลังสร้างชื่อให้สถาบันทำให้แม้แต่ผู้บริหารบางคนที่เคยทะเลาะกับแกยังต้องแพ้ไปเพราะ ผอ ก็ยังไม่กล้าแตะเพราะถ้าขาดแกไปคนนึง งานก็ต้องชะงัก หาคนมาทำงานไม่ได้ เพราะงานนี้แกรู้ดีรู้ลึก ควบคุมทุกอย่างอยู่คนเดียว
พอเราเข้ามาทำงานนี้ ก็พยายามเต็มที่ งานหนักไม่เคยเกี่ยง จะถูก Power harassment ยังไงก็ยังทนทำ คนอื่นๆโดนด่าแต่ไม่กล้าเถียง แต่เราคนเดียวที่ไม่เคยกลัว ถ้าแน่ใจว่าเราไม่ผิด ก็ตอบโต้ไป จริงๆเถียงด้วยเหตุผลแกก็ฟัง แต่ไม่เข้าใจว่าลูกน้องคนญี่ปุ่นคนอื่นๆจะกลัวแกลนลานอะไรขนาดนั้น เพราะความที่แกยังฟังเราอยู่บ้างทำให้เราคิดว่า แกไม่เลวร้ายเกินไปนัก งานที่นี่ก็เปิดโอกาสให้เราได้เจอผู้ประกอบการณ์อีกมากมาย ทำให้เรารู้จักคนภาคอุตสาหกรรมอีกเยอะ เลยไม่ถือสากะคาแรคเตอร์แกก็ยังทำงานต่อไปได้ไม่ยากเกินความสามารถ ตอนนี้อะไรๆก็เริ่มดี งานก็ไปได้ดี แต่ไม่ทันไรก็ต้องมาสะดุดกะเรื่อง Sex harassment
บ่อยครั้งที่หัวหน้าถือโอกาส จับมือถือแขน ลูบผม จับแก้ม ซึ่งเราพยายามจะคิดว่า เป็นเพราะเราทำงานลุยๆ ห้าวๆ ทำให้แกไม่ระวังเรื่องถึงเนื้อต้องตัว อาจจะคิดเหมือนเราเป็นผู้ชายคนนึง จนวันนึงแกบอกว่าชอบเรา ก็พยายามคิดในแง่ดีอีกนะ ว่าชอบในผลงาน ชอบที่ทำงานออกมาถูกใจแกไม่ค่อยพลาด แต่ที่มันชัดเจนเกินไปแล้ว คือ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เราไปทำงานต่างจังหวัดกับแก ซึ่งที่จริงมีคนในแผนกไปด้วยอีกคน ต้องไปค้างสามคืน เราจองโรงแรมไปก่อนกะจะไม่บอก แกก็สั่งว่าไปพักที่ไหนให้แจ้งด้วย เราก็เลยต้องบอก(เพราะสุดท้ายเวลาเบิกเงินก็ต้องผ่านการอนุมัติของแกก่อนแกก็รู้อยู่ดีว่าเราได้จองโรงแรมไปเมื่อไหร่) พอบอกแกก็จองตามแต่เพราะมีห้องว่างเหลือแค่สองคืน อีกคืนแกก็เลยต้องย้ายไปพักที่อื่น พอไปทำงาน แกก็เรียกกินข้าวด้วยทุกมื้อ วันแรกก็ยังดีที่คนในแผนกอีกคน(นาย อ)ถูกเรียกไปด้วย แต่พอวันที่สองแกชวนเราไปกินอาหารฝรั่งเศสร้านหรูมาก เราก็บอกโอเคเดี๋ยวเราจะโทรไปบอก นาย อ นะ แกก็ห้าม บอกว่า มีอะไรจะคุยกะเราหลายอย่าง ขอไปแค่สองคน
ถ้าเป็นปกติเราจะไม่ไป แต่วันนั้นเราก็มีเรื่องจะคุยกะแกเหมือนกัน คือเราท้องได้สี่เดือนแล้ว จะบอกแกเป็นทางการ แล้วพอถึงลาคลอดงานก็จะได้ไม่เสียถ้าวางแผนงานเสียแต่เนิ่นๆ ก็เลยตกลง ก่อนไปดินเนอร์แกบอกให้เรามาเจอที่ล็อบบี้โรงแรมแก พอไปถึง โรงแรมแกหรูมาก แบบที่ผิดปกติวิสัยซึ่งแกไปทำงาน ต่างจังหวัดทีไรจะเลือกระดับกลางค่าห้องไม่เกินหมื่นเยนต่อคืนแน่ๆ แต่คราวนี้น่าจะเกินสองหมื่น แล้วตอนนั้นแกไม่อยู่ที่ล็อบบี้ เราก้อไปถามที่เคาน์เตอร์ให้โทรบอกแกทีว่าเรามาถึงแล้ว โอเปอร์เรเตอร์โทรไปแกก็ให้บอกเราว่าให้ไปหาที่ห้องแล้วก็วางไป
เราก็ไม่รู้ทำไงก็ไปถึงหน้าห้อง แกก็บอกให้เข้ามาดูสิ ห้องสวยมากๆ วิวดี สไตล์แบบบูติค เราก็คิดในแง่ดีอีกว่า แกอยากจะอวด เราก็เข้าไป ดูแล้วมันก็สวยมากจริงๆ เลยบอกแกว่า ไว้มีโอกาสมาอีกคราวหน้าจะมาพักที่นี่บ้าง แกก็บอกว่า ไม่ต้องรอคราวหน้าหรอกมาพักด้วยกันวันนี้เลยก็ได้ เราก็หน้าตึง ถึงจะคิดว่าแกพูดเล่นแต่ก็ไม่ค่อยชอบมาพากลละเลย รีบบอก ไปกันเถอะค่ะแล้วเดินออกห้องไปเลย
| จากคุณ |
:
enjoymiracle  
|
| เขียนเมื่อ |
:
16 ก.ย. 55 00:32:27
|
|
|
| 
