|
THE DIVERSITY IMMIGRANT VISA PROGRAM
คงมีหลายคนที่ได้ pop-up หรือ junk mail ที่เป็นโฆษณาเกี่ยวกับ Lottery Green Card พอเข้าไปสมัครแล้วก็ต้องเสียเงินและก็ต้องกรอกนู่นกรอกนี่มากมาย วันนี้ผมขออธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อเป็นประโยชน์กับท่านที่สนใจครับ
โปรแกรมล็อตโต้กรีนการ์ดนี้ หรือที่เรียกเป็นทางการว่า Diversity Immigrant Program คือ โปรแกรมพิเศษของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เป็นโอกาสให้คนชาติของประเทศที่ยังมีจำนวนพลเมืองอยู่ในสหรัฐฯ น้อยอยู่จากทั่วโลก จำนวน 50,000 คน มีโอกาสได้รับกรีนการ์ดของสหรัฐฯ โดยท่านจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสมัครแต่อย่างใด โดยท่านจะสามารถส่งใบสมัครได้ที่เว็บไซต์ http://www.dvlottery.state.gov ซึ่งจะรับสมัครประมาณช่วงปลายปีของทุกปี (ได้ข่าวว่าปีนี้จะยกเลิกแล้ว)
โดยทั่วไปแล้ว ไม่ใช่ทุกคนจะมีสิทธิยื่นขอ ล็อตโต้ กรีนการ์ด ได้ โดยโปรแกรมนี้จะมุ่งให้โอกาสแก่ผู้ที่อาศัยอยู่นอกสหรัฐฯ โดยส่วนใหญ่ หรือหากเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ แล้ว ก็จะต้องเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ อย่างถูกกฎหมายอยู่จนถึงในเวลาที่ท่านได้รับกรีนการ์ดแล้วเท่านั้น เช่น เป็นผู้ถือวีซ่าประเภท F-1 หรือ H-1B เป็นต้น เฉพาะบางกรณีเท่านั้น ที่ผู้ที่อยู่ในสหรัฐฯ เกินกว่าระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ ที่จะมีสิทธิได้รับประโยชน์จาก ล็อตโต้ กรีนการ์ด (หากได้รับเลือก) คือ เฉพาะผู้ที่ได้รับความคุ้มครองภายใต้กฎหมาย 245 (i) ซึ่งได้แก่ ผู้ที่ได้ยื่นขอกรีนการ์ดผ่านทางครอบครัว หรือผ่านทางนายจ้าง หรือได้มีการยื่นขอเอกสารทำงาน Labor Certificate ก่อนวันที่ 30 เมษายน 2001 ที่ผ่านมา ซึ่งในจุดนี้ ท่านจะต้องทำความเข้าใจให้ดี เพราะว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ เกินกว่าอายุของวีซ่าในวันที่ได้รับเลือกแล้ว แม้ว่าจะได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน 50,000 ก็ตาม ก็จะไม่สามารถได้รับกรีนการ์ดในสหรัฐฯ ได้
คุณสมบัติ
1. จะต้องเป็นคนที่มีสัญชาติโดยการเกิดของประเทศที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศ เท่านั้น ผู้ที่เกิดในประเทศต่อไปนี้ จะไม่สามารถยื่นขอและไม่มีสิทธิรับประโยชน์จาก ล็อตโต้ กรีนการ์ด
ทวีปเอเชีย คือ จีนแผ่นดินใหญ่, อินเดีย, ปากีสถาน, เกาหลีใต้, ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม (ส่วนผู้ที่เกิดในฮ่องกง, ไต้หวัน และมาเก๊า จะสามารถสมัครได้)
ทวีปยุโรป คือ โปแลนด์, รัสเซีย และ สหราชอาณาจักร หรือ อังกฤษ (ซึ่งหมายรวมถึง Anguilla, Bermuda, British Virgin Islands, Cayman Islands, Falkland Islands, Gibraltar, Montserrat, Pitcairn, St. Helena, Turks and Caicos Islands) อย่างไรก็ตาม หากว่าท่านเกิดในประเทศไอร์แลนด์ตอนเหนือแล้วล่ะก็ ท่านจะมีสิทธิสมัครได้
ทวีปอเมริกาเหนือ คือ แคนนาดา และเม็กซิโก
ทวีปอเมริกาใต้ คือ โคลัมเบีย, สาธารณรัฐโดมินิกัน, เอวซาวาดอร์, ไฮติ, จาไมกา และเม็กซิโก
แน่นอนว่า คนไทยสามารถสมัครและรับประโยชน์จาก ล็อตโต้ กรีนการ์ด ได้หากว่ามีคุณสมบัติในข้อข้างล่าง คือ
2. จะต้องเป็นผู้ที่จบการศึกษาขั้นต่ำ (Educational Requirement) คือ ระดับ High School หรือเทียบเท่า หรือมิฉะนั้นก็จะต้องเป็นผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมทางวิชาชีพหรือมีประสบการณ์ทำงาน (Training Requirement) เป็นเวลาขั้นต่ำ 2 ปี (โดย O*Net Online database ของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ จะเป็นผู้พิจารณาประสบการณ์ทำงาน)
* * เฉพาะผู้ที่มีคุณสมบัติสองประการข้างต้นเท่านั้น ที่จะสามารถยื่นขอ ล็อตโต้ กรีนการ์ด ได้ * *
การยื่นขอ ล็อตโต้ กรีนการ์ด นั้น ท่านจะไม่ต้องเสียค่าสมัครให้แก่รัฐบาลสหรัฐฯ แต่อย่างใด โดยวิธีสมัครในปีนี้ ก็จะเหมือนกับในปีที่แล้ว คือ จะต้องเป็นการยื่นผ่านทางอินเตอร์เน็ตเท่านั้น ใบสมัครที่เป็นกระดาษจะไม่ได้รับการพิจารณา รูปถ่ายที่ใช้ประกอบจะต้องเป็นไปตามตัวอย่างที่รัฐบาลประกาศเท่านั้น ที่ผ่านมาในอดีตมีจำนวนของใบสมัครที่ไม่ได้รับการพิจารณาจากรัฐบาล เนื่องจากรูปถ่ายที่ไม่ได้ขนาด ฉะนั้น รูปถ่ายที่ถูกต้องจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ท่านมีโอกาสเป็นหนึ่งใน 50,000 ผู้โชคดีได้
(ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thaitownusa.com)
หากท่านเป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่ได้รับการคัดเลือก ประมาณเดือนเมษายนของปีถัดไปจากที่ท่านสมัคร ท่านจะได้รับจดหมายจาก KCC แบบนี้ครับ
ภายในจดหมายจะมีรายละเอียดของโครงการ และก็มีเอกสารให้ท่านกรอกส่งกลับไปที่ KCC เช่น Form DSP-122, DS-230 Part I และ Part II จากนั้นก็ดำเนินการตาม Step ที่จดหมายแนะนำ
ประมาณเดือนกรกฎาคม (หรือตามเลข Case numberของท่าน) จะมีจดหมายจาก KCC มาอีก ตัวอย่างแบบนี้ครับ
ซึ่งเป็นจดหมายคิวนัดสัมภาษณ์กับท่านกงสุลที่สถานฑูต ในจดหมายจะมีรายละเอียดของเอกสารที่ต้องเตรียมยื่นในวันสัมภาษณ์ เช่น ใบสูติบัตร ใบรับรองประวัติอาชญากรรม หนังสือเดินทาง ทะเบียนสมรส ใบวุฒิบัตร ฯลฯ คลิกรายละเอียดของการเตรียมเอกสารข้างต้น ตามนี้เลยครับ
การรับรองเอกสารตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศ
การขอหนังสือรับรองความประพฤติเพื่อไปต่างประเทศ
การทำหนังสือเดินทาง
การขอรับใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลหรือรถจักรยานยนต์
โดยปกติคิวสัมภาษณ์หรือการติดต่อเรื่อง Immigrant Visa จะเป็นวันจันทร์ พุธ และศุกร์ ซึ่งค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายก่อนสัมภาษณ์ประมาณ $755 U.S. (31,000 บาท)
ส่วนประสบการณ์การสัมภาษณ์อ่านได้จากกระทู้นี้ครับ http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H3900015/H3900015.html
และอีกกระทู้จากคุณแม่ไข่หกครับ http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H4101815/H4101815.html
หลังจากที่สัมภาษณ์ผ่านแล้ว อีกประมาณ 2-3 วันก็จะนัดให้ไปรับเล่มหนังสือเดินทาง พร้อมวีซ่าและซองเอกสาร เจ้าหน้าที่สถานฑูตจะอธิบายให้ฟังเกี่ยวกับรายละเอียดเพิ่มเติม ที่สำคัญก็คือคุณต้องเดินทางเข้าสหรัฐภายใน 6 เดือน ก่อนที่วีซ่าจะหมดอายุ ซึ่งตัวอย่าง Immigrant Visa ของ DV จะเป็นแบบนี้ครับ
*พอมาถึงสหรัฐอเมริกาแล้ว ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ทาง SSA จะส่ง Social Security Card (Number) มาให้ และ Green Card ตัวจริงก็จะได้ประมาณ 3-4 สัปดาห์ครับ
*เวปไซด์นี้ ควรอ่านก่อนเดินทางเข้าประเทศครับ ชื่อก็คือ Welcome to the United States: A Guide for New Immigrants
*รายละเอียดเพิ่มเติม สำหรับตัวอย่างของผู้ที่เคยได้รับล๊อตโต้กรีนการ์ด ได้แก่ คุณแม่ไข่หก (2006) คุณ vanderzaz (2006) คุณ je tam (2006) คุณ poople (2005) คุณ chin_ta_ta (2003) และคำแนะนำในเรื่องต่างๆ คุณ BMW (BlackmagicW) น่าจะเป็นผู้รอบรู้อีกท่านครับ
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกรีนการ์ด Green Cards or LPR : Lawful Permanent Resident
กรีนการ์ด หมายถึงบัตรประจำตัวผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรอย่างถูกกฎหมายในสหรัฐฯ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ กรีนการ์ดแบบมีเงื่อนไข (Conditional Green Card) มีอายุ 2 ปี และกรีนการ์ดแบบถาวรที่ต้องต่ออายุทุก ๆ 10 ปี โดยผู้ถือกรีนการ์ดทั้งสองแบบนั้นต่างมีสิทธิหน้าที่และความรับผิดชอบเท่า ๆ กัน ความแตกต่างระหว่างกรีนการ์ดทั้งสองแบบมีเพียงเล็กน้อย คือ กรีนการ์ดแบบมีเงื่อนไข จะหมดอายุภายใน 2 ปี นับแต่วันที่ได้รับสิทธิตั้งถิ่นฐานถาวรในสหรัฐฯ ซึ่งเขาทั้งหลายเหล่านั้นต้องยื่นเรื่องเพื่อถอดถอนเงื่อนไขนั้นออกไป ผู้ที่จะได้รับกรีนการ์ดแบบมีเงื่อนไข ได้แก่ ผู้ที่ขอมีสิทธิอยู่อาศัยถาวรโดยการสมรสกับพลเมืองสหรัฐฯ ซึ่งการสมรสนั้นยังมีอายุไม่ครบ 2 ปีในวันที่ได้รับสิทธิมีถิ่นที่อยู่อย่างถาวรนั้น รวมทั้งผู้ที่ได้รับสิทธิมีถิ่นที่อยู่จากการลงทุนเพื่อการสร้างงานในสหรัฐฯ
การได้มาซึ่งกรีนการ์ด
การได้มาซึ่งกรีนการ์ดนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายวิธี แต่จะขอนำมาเขียนเพียงแค่ไม่กี่วิธี โดยเลือกเอาเฉพาะรูปแบบอันเป็นที่นิยมและเหมาะสมกับคนไทยเท่านั้น
1. การขอตั้งถิ่นฐานโดยผ่านทางสายสัมพันธ์ทางครอบครัว (Immigration through a Family Member)
2. การขอตั้งถิ่นฐานโดยผ่านทางการจ้างงาน (Immigration through Employment)
3. การขอตั้งถิ่นฐานโดยผ่านทางโครงการเสี่ยงโชคกรีนการ์ด (Immigration through the Diversity Lottery)
4. การขอตั้งถิ่นฐานโดยผ่านการลงทุน (Immigration through Investment)
สิทธิ
1. คุณมีสิทธิอยู่อาศัยในสหรัฐฯ เป็นการถาวร โดยคุณจะไม่กระทำการใด ๆ อันเป็นผลให้สิทธิของคุณถูกถอดถอนไป
2. คุณมีสิทธิทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายอย่างที่คุณเหมาะสมและต้องการ
3. คุณจะได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายจากทางการสหรัฐฯ ทั้งกฎหมายระดับชาติ ระดับรัฐ และระดับท้องถิ่น
4. คุณสามารถลงคะแนนเลือกตั้งในการเลือกตั้งประจำท้องถิ่น เฉพาะการเลือกตั้งที่ไม่จำกัดไว้สำหรับพลเมืองสหรัฐฯ
ข้อยกเว้น
1. คุณไม่สามารถทำงานบางอย่างที่สามารถส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ซึ่งจะจำกัดไว้ให้เพียงพลเมืองสหรัฐฯ เท่านั้น
2. คุณไม่สามารถลงคะแนนเลือกตั้ง สำหรับการเลือกตั้งที่จำกัดสิทธิไว้ให้เพียงพลเมืองสหรัฐฯ เท่านั้น
หน้าที่ความรับผิดชอบ
1. คุณจะต้องปฏิบัติตนภายใต้กรอบของกฎหมายสหรัฐฯ ทั้งกฎหมายระดับชาติ ระดับรัฐ และระดับท้องถิ่น
2. คุณมีหน้าที่ที่จะต้องยื่นใบคืนภาษีรายได้ (Income Tax Returns) และรายงานรายได้ของคุณต่อสรรพกรประจำรัฐและประจำประเทศ (US Internal Revenue Service and State IRS)
3. คุณจะต้องสนับสนุนหลักการประชาธิปไตย และไม่กระทำการใด ๆ เพื่อล้มล้างรัฐบาลด้วยวิธีการที่ผิดกฎหมาย
4. หากคุณเป็นเพศชาย อายุ 18-25 ปี คุณจะต้องเข้ารายงานตัวเพื่อรับราชการทหาร
การท่องเที่ยวนอกสหรัฐฯ
ในฐานะผู้ถือกรีนการ์ดสหรัฐฯ คุณสามารถท่องเที่ยวนอกสหรัฐฯ ได้อย่างอิสระเสรี โดยใช้หนังสือเดินทางจากประเทศที่คุณถือสัญชาติอยู่ และคุณต้องแสดงบัตรกรีนการ์ด (Permanent Resident Card : Form I-551) เพื่อเดินทางกลับเข้าสหรัฐฯ สำหรับการท่องเที่ยวนอกสหรัฐฯ นานกว่า 1 ปี แต่น้อยกว่า 2 ปี ในการเดินทางแต่ละครั้ง คุณจะต้องแสดงเอกสารเพื่อขอกลับเข้าประเทศ (Reentry Permit)
การรักษาสิทธิการมีถิ่นที่อยู่ถาวรในสหรัฐฯ
ในการรักษาสิทธิของผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรในสหรัฐฯ นั้น คุณจะต้องไม่กระทำการใด ๆ อันเป็นการละเมิดกฎหมายว่าด้วยการตั้งถิ่นฐานและสัญชาติ ซึ่งจะทำให้คุณเสียสิทธิการอยู่อาศัยในสหรัฐฯ การกระทำเหล่านั้นได้แก่
1. ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ประเทศอื่นอย่างถาวร
2. อยู่นอกสหรัฐฯ นานกว่า 1 ปี โดยไม่ขอใบอนุญาตกลับเข้าประเทศ (Reentry Permit) หรือไม่ขอวีซ่าผู้มีถิ่นที่อยู่เพื่อกลับเข้าประเทศ (Returning Resident Visa) อย่างไรก็ตาม การพิจารณาว่าคุณได้ละทิ้งสถานะผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรในสหรัฐฯ หรือไม่นั้น อาจไม่นำระยะเวลาการออกนอกประเทศมาใช้ในการตัดสิน ถึงแม้ว่าจะระยะเวลานั้นจะสั้นกว่า 1 ปีก็ตาม
3. อยู่นอกสหรัฐฯ นานกว่า 2 ปี หลังได้รับใบอนุญาตกลับเข้าประเทศ (Reentry Permit) โดยไม่ขอวีซ่าผู้มีถิ่นที่อยู่เพื่อกลับเข้าประเทศ (Returning Resident Visa) อย่างไรก็ตาม การพิจารณาว่าคุณได้ละทิ้งสถานะผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรในสหรัฐฯ หรือไม่นั้น อาจไม่นำระยะเวลาการออกนอกประเทศมาใช้ในการตัดสิน ถึงแม้ว่าจะระยะเวลานั้นจะสั้นกว่า 1 ปีก็ตาม
4. ไม่ยื่นใบคืนภาษีรายได้ (Income Tax Returns) ขณะที่อาศัยอยู่นอกสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลานานเท่าใดก็ตาม
5. แจ้งสถานะของตนว่าเป็นผู้ไม่มีถิ่นที่อยู่ (nonimmigrant)ในสหรัฐฯ เมื่อยื่นใบคืนภาษี
การได้มาซึ่งสัญชาติสหรัฐฯ (Naturalization)
ผู้ถือกรีนการ์ดสหรัฐฯ หลายคน มีความประสงค์ที่จะเป็นพลเมืองสหรัฐฯ (US Citizen) ต้องทำเรื่องขอมีสัญชาติสหรัฐฯ ซึ่งจะต้องผ่านการพิจารณาจากศาลทั้งของรัฐบาลกลางและของรัฐ รวมทั้งขั้นตอนอื่น ๆ อีกหลายประการ เมื่อผู้ถือกรีนการ์ดนั้น ๆ มีถิ่นที่อยู่และอาศัยในสหรัฐฯ ครบตามข้อบังคับแล้ว (แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล) จะสามารถขอมีสัญชาติสหรัฐฯ ได้ โดยจะเริ่มพิจารณาจากคุณสมบัติเบื้องต้น ประวัติอาชญากรรม รวมไปถึงการทดสอบภาษาอังกฤษ ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และรูปแบบการปกครองของสหรัฐ และหลักศีลธรรมจรรยา ดูรายละเอียดได้ที่หัวข้อการขอมีสัญชาติสหรัฐฯ
เมื่อคุณได้มาซึ่งสัญชาติสหรัฐฯ แล้ว คุณจะมีสิทธิเสรีภาพและหน้าที่ความรับผิดชอบเทียบเท่ากับคนที่เกิดมาเป็นพลเมืองสหรัฐฯ ทุกอย่าง แต่มีข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียว คือ จะไม่สามารถเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ได้ เมื่อคุณถือสัญชาติสหรัฐฯ แล้ว คุณจะสามารถดำเนินการขอให้บิดามารดาและพี่น้องมาตั้งถิ่นฐานในสหรัฐฯ ได้ คู่สมรสและบุตร (อายุไม่เกิน 21 ปีและเป็นโสด) จะถือเป็นญาติสายตรงในทันที ซึ่งจะทำให้สามารถย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในสหรัฐฯ กับคุณได้อย่างรวดเร็ว (เร็วกว่าคู่สมรสและบุตรของผู้ถือกรีนการ์ด)
บัตรประจำตัวผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวร (Permanent Resident Card)
บัตรประจำตัวผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรหรือ Form I-551 (เรียกกันติดปากว่า "กรีนการ์ด") นั้น คือหลักฐานการลงทะเบียนของชาวต่างชาติที่ได้รับสิทธิอยู่อาศัยในสหรัฐฯ ซึ่งจะต้องถือติดตัวไว้ตลอดเวลา และจะต้องมีการต่ออายุบัตรอยู่เสมอ ๆ บัตรนี้มีอายุ 10 ปี สถานะผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรในสหรัฐฯ จะไม่มีวันหมดอายุ มีแต่ตัวบัตรเท่านั้นที่หมดอายุ
การมีถิ่นที่อยู่ถาวรแบบมีเงื่อนไข (Conditional Permanent Resident) นั้น กรีนการ์ดจะมีอายุเพียง 2 ปี นับแต่วันที่ออกบัตร หากต้องการมีถิ่นที่อยู่ถาวรในสหรัฐฯ ต่อไป ผู้ถือบัตรจะต้องดำเนินการยื่นเรื่องขอถอดถอนเงื่อนไขของบัตรออกไปภายใน 90 วัน ก่อนวันที่บัตรหมดอายุ กรีนการ์ดแบบมีเงื่อนไขนี้จะไม่สามารถต่ออายุได้ จะต้องยื่นเรื่องเพื่อถอดเงื่อนไขออกเท่านั้น หาไม่แล้วคุณจะหมดสิทธิมีถิ่นที่อยู่ในสหรัฐฯ ดูรายละเอียดที่หัวข้อการถอดเงื่อนไขของกรีนการ์ด (Form I-751 Become a Permanent Resident Based on Marriage และ Form I-829 Become a Permanent Resident Based on Investment)
กรีนการ์ดทั้งแบบมีเงื่อนไข (2 ปี) และไม่มีเงื่อนไข (10 ปี) สามารถใช้แสดงเป็นหลักฐานในการทำงานอย่างถูกกฎหมายในสหรัฐฯ เมื่อต้องกรอกใบอนุญาตการจ้างงาน (I-9) กับนายจ้างใหม่ รวมทั้งสามารถใช้ในการขอบัตรประกันสังคมและใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ในแต่ละรัฐ ผู้ถือกรีนการ์ดที่ท่องเที่ยวนอกสหรัฐฯ นานไม่เกิน 1 ปีในแต่ละครั้ง สามารถใช้กรีนการ์ดนี้เป็นหลักฐานเพื่อขอเข้าสหรัฐฯ ได้ หากเดินทางออกนอกสหรัฐฯ นานกว่า 1 ปี ผู้ถือกรีนการ์ดจะต้องใช้ใบอนุญาตขอเข้าประเทศ (Reentry Permit) แทนเท่านั้น
ญาติ
ผู้ถือกรีนการ์ดสามารถยื่นเรื่องขอให้ญาติบางส่วนมาอยู่ด้วยในสหรัฐฯ ได้ในฐานะผู้ขอตั้งถิ่นฐาน ญาติเหล่านั้นได้แก่ คู่สมรส และบุตร ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม ดูรายละเอียดได้ที่ การขอตั้งถิ่นฐานโดยผ่านทางสายสัมพันธ์ทางครอบครัว (Immigration through a Family Member)
หากคุณมีคู่สมรสและบุตรตั้งแต่ก่อนที่คุณจะยื่นเรื่องขอมีถิ่นที่อยู่ถาวรในสหรัฐฯ พวกเขาจะเป็นผู้มีสิทธิยื่นขอมีถิ่นที่อยู่ถาวรในคราวเดียวกันกับคุณ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณได้สิทธิมีถิ่นที่อยู่ถาวรได้อย่างไร คุณสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่น ทนายความ หรือองค์กรการกุศลที่ให้ความช่วยเหลือในเรื่องนี้โดยเฉพาะ สำหรับคำแนะนำต่อไป
การลงคะแนนเลือกตั้ง
หัวใจสำคัญของประชาธิปไตยในสหรัฐอเมริกา คือ การมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ในฐานะผู้ถือกรีนการ์ดคุณจะสามารถลงคะแนนเลือกตั้งได้เฉพาะในระดับท้องถิ่นและระดับรัฐ ที่ไม่จำกัดไว้แต่เฉพาะพลเมืองสหรัฐฯ เท่านั้น หากคุณฝ่าฝืนกฎหมายอาญาโดยการลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งที่จำกัดไว้เฉพาะพลเมืองสหรัฐฯ คุณจะถูกเนรเทศออกนอกสหรัฐฯ
การเปลี่ยนแปลงที่อยู่
คุณจะต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ไปยัง USCIS (United States Citizenship and Immigration Service) ภายใน 10 วัน นับแต่วันที่ย้าย โดยการกรอกแบบฟอร์ม AR-11 ดูรายละเอียดได้ที่หัวข้อการแจ้งย้ายที่อยู่
(ข้อมูลจาก http://www.usvisa4thai.com)
รายชื่อประเทศที่หนังสือเดินทางไทยสามารถเข้าได้ โดยไม่ต้องขอวีซ่า
เกาหลีใต้ 30 วัน ฮ่องกง 30 วัน สิงคโปร์ 30 วัน บรูไน 14 วัน อินโดนีเซีย 30 วัน ฟิลิปปินส์ 21 วัน มาเลเซีย 30 วัน ลาว 30 วัน กัมพูชา on arrival 15 วัน ศรีลังกา 30 วัน เวียดนาม 30 วัน บาเรห์น on arrival 14 วัน แอฟริกาใต้ 30 วัน เปรู 90 วัน บราซิล 90 วัน เอควาดอร์ 90 วัน มัลดีฟส์ 30 วัน เซเชลล์ 30 วัน เกาะไหหลำ 15 วัน (แต่ต้องไปเป็นกรุ๊ปอย่างน้อย 5 คน) มาเก๊า 30 วัน เนปาล on arrival 60 วัน เวอร์จิ้นไอแลนด์ (อังกฤษ) 14 วัน ฟิจิ 30 วัน แวนูอาตู 30 วัน คุกไอแลนด์ 31 วัน
อยากรู้ไปไหนโดยไม่ต้องขอวีซ่า ต้องเว็บนี้ครับผม http://www.delta.com/planning_reservations/plan_flight/international_travel_information/visa_passport_information/index.jsp
สำหรับคนต่างชาติที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย
1. ต้องขอวีซ่าจากต่างประเทศก่อนเดินทางเข้ามา 2. มาขอวีซ่าที่มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า VISA ON ARRIVAL 3.ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองบางด่านหรือที่สนามบินนานาชาติในประเทศไทย
มีการยกเว้นสำหรับคนที่มีสัญชาติของบางประเทศ ไม่ต้องขอวีซ่าเลยก็สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ แต่ว่า พวกที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องมีวีซ่านี้ ก็จำกัดเพียงเฉพาะคนสัญชาติของประเทศที่มีความเจริญ และมีฐานะค่อนข้างดี ที่มีความประสงค์จะเข้ามาเพื่อการท่องเที่ยวในระยะเวลาสั้นๆ เพียง 30 วัน เท่านั้น
ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จาก http://www.immigration.go.th/nov2004/base.php?page=voa
จากคุณ |
:
MozartEffect2011
|
เขียนเมื่อ |
:
3 ต.ค. 55 09:16:41
|
|
|
|
|