อ่านแล้วนึกถึงแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน สภาพชีวิตของเขาในประเทศเราไม่ต่างจากเรื่องที่คุณเอามาเล่า ยอมสละผ้าห่ม เพื่อเดินท่ามกลางลมหนาว เพราะคิดว่าผ้าห่มหนาๆ มันหนัก ถ้าทิ้งไปก็จะไปถึงจุดหมายเร็วขึ้น
บางคนวางจุดหมายเหมาะกับตัวเอง เอาแค่ทนหนาวไหว ถึงจุดที่ตั้งไว้ หยิบของที่ปลายทางแล้วเดินกลับมาหาผ้าห่ม (แต่บางครั้งกลับมาไม่เจอผ้าห่มแล้ว)
บางคนวางจุดหมายไว้ไกล เพราะคิดว่าของที่รออยู่ที่จุดหมายอันไกลโพ้นมันตอบโจทย์ได้ดีกว่า ก็พยายามกัดฟันเดินไป แต่บางทีจนหัวใจหยุดเต้นก็ยังเดินไม่ถึง ลืมไปว่าตัวเองไม่ใช่มนุษย์เหล็กไหลที่ทนได้ไม่มีขีดจำกัด
ยังไม่พูดถึงบางคนที่ไม่เคยมีผ้าห่มมาตั้งแต่ต้น และได้เปรียบที่ร่างกายเคยชินกับความหนาว ต่อสู้จนถึงจุดหมายยาวไกลได้ ให้ดูคนจีนโพ้นทะเลที่กลายมาเป็นเจ้าสัว และไม่พูดถึงบางคนที่มีห่มผ้าหลายชั้น แค่สละไปชั้นเดียวก็บ่นว่าหนาวแล้ว ให้ดูคนที่อยู่สุขสบายจนเคยชิน และไม่พูดถึงคนที่สมัครใจเดินห่มผ้าไปเรื่อยๆ ไม่เร่งร้อน ไม่ต้องถึงจุดหมายยิ่งใหญ่ก็ได้ สบายๆ ก็พอ ให้ดูคนทั่วไปในสังคมเรา สุดท้ายไม่พูดถึงคนที่บ่นว่าหนาว แต่ก็ยังเดินต่อไปแบบไร้ผ้าห่ม ให้ดูคนที่ขึ้นความเห็นแนะนำในลิงค์ที่คุณแปะมา
คนธรรมดาที่ถึงจุดหมายที่ตัวเองต้องการได้ก็หนาวกันมาทุกคน บางคนแค่อยากแข่งกับคนมีผ้าห่มที่เดินทางไปยังจุดหมายด้วยราชรถทุ่นแรง แม้จะถึงที่หมายเดียวกันในสภาพที่ต่างกัน แต่มันก็ยังเป็นความพอใจภูมิใจที่เอาชนะโชคชะตาได้
ชีวิตก็เป็นอย่างนี้..
จากคุณ |
:
Sunshine Sonata
|
เขียนเมื่อ |
:
18 ต.ค. 55 16:17:00
|
|
|
|