มาช่วยตอบให้ตามที่ประสบการณ์ของตัวเองเคยมี และก็ไม่ต้องห่วงว่าจะเทศน์ให้ฟังนะครับ
เรื่องการขอบัตรเครดิต ไปตอนแรกจะยังไม่มี credit history พวกแบงค์อาจจะไม่ให้ แต่เราเริ่มสร้างเครดิตได้ด้วยการไปสมัครบัตรเครดิตกับห้างร้านต่างๆก่อน อย่างเช่น Sears, Best Buy, Target เพราะเค้าให้ง่ายกว่า ใหม่ๆเค้าก็คงให้ credit limet นิดหน่อย ก็ใช้ซื้อของไปเรื่อยๆ จ่ายให้หมดตามกำหนด อย่า late ซักพักก็เริ่มมีเครดิตแล้ว แล้วค่อยไปขอกับแบงค์ต่างๆ
เวลาไปเปิดบัญชี Savings, Checking เค้าก็มี ATM card ให้อยู่แล้ว ไม่มีค่ารายปีเหมือนเมืองไทย แต่ค่า fee ต่างๆ ค่อนข้างเยอะ ต้องดูดีๆว่าแบงค์ไหน ชาร์ทค่าอะไรบ้าง แบงค์ที่อเมริกาส่วนมากมี online banking อยู่แล้ว ใช้จ่ายบิลต่างๆได้ ไม่เสียค่าบริการเลยด้วยซ้ำ
เรื่องมือถือ ไปเปิดเบอร์ใหม่ เซ็นต์สัญญาสองปี เรามีสิทธิ์ซื้อมือถือได้ในราคาลดพิเศษ ถ้าโทรศัพท์ที่ตกรุ่นไปแล้ว เค้าก็ให้ฟรีเลย แต่ต้องอยู่กับเค้าจนหมดสัญญา ไม่งั้นถูกปรับ ระบบมือถือมีทั้งใช้ซิมการ์ด (AT&T, T-Mobile) และไม่ใช้ซิมการ์ด (ระบบ CDMA-Sprint, Verizon)
การทำงานที่อเมริกา เรื่องหักภาษีเป็นหน้าที่ของนายจ้าง ที่จะต้องหักภาษีเงินได้ต่างๆ ก่อนที่จะจ้างเงินเดือนให้เรา พอสิ้นปีเราก็ได้ statement มาว่า ถูกหักไปเท่าไหร่ เงินเดือนทั้งปีได้เท่าไหร่ แล้วก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องยื่นเรื่องเสียภาษี (Tax return) ว่าที่เราทำงานมา ได้เงินแค่นี้เนี่ย เราถูกหักภาษีมากหรือน้อยเกินไป ถ้าเราถูกหักมากเกินไป เราก็ได้เงินคืน ถ้าน้อยเกินไป ก็ต้องเสียเพิ่ม
ส่วนเรื่องที่จะแนะนำก็คือ อย่าคบแต่คนไทย เพราะจะไม่ได้ฝึกภาษา หรือได้ภาษามาแบบผิดๆ ถ้ามีกรีนการ์ด ทำงานบริษัทได้ ไม่จำเป็นต้องทำงานร้านอาหารอย่างเดียว แต่ข้อเสียของคนต่างชาติคือภาษาไม่ดีเท่าคนของเค้าเอง ถ้าได้ภาษาแล้ว (ถึงจะมี accent ก็ไม่เป็นไร) สมัครงานตามความรู้เลย
ขอให้โชคดีนะครับ