ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องสีผิว ความสูง ความเตี้ย การศึกษา นามสกุล ไม่เกี่ยวค่ะ ไปบอกใครก็แล้วแต่ที่ยังมีความคิดแนวๆ นี้ให้เลิกคิดแบบนี้ ได้แล้วนะคะ เพราะเป็นความคิดที่ค่อนข้างไม่พัฒนาเลยค่ะ และ คนที่คิดแบบนี้ขาดความรู้พื้นฐานกับเรื่องเผ่าพันธ์ของมนุษย์ อย่างแรง คนเหล่านี้มักเคารพคนที่เปลือก และ มักจะตกเป็นเหยื่อของโฆษนาผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งค่ะ อยู่ที่การเตรียมเอกสารล้วนๆ และ อยู่ที่เอกสารตามลิสท์ที่สถานทูตขอมา และ หลักฐานเพิ่มเติมอื่นๆ สำหรับเคสพิเศษค่ะ คุณ จขกท. เข้าไปอ่านกระทู้นีไปพลางๆ ก่อนนะคะ แล้วถ้าเรามีเวลามากกว่านี้จะเข้ามาพิมพ์ต่อค่ะ ตอนนี้ขอตัวไปทำงาน ก่อน อ่านนี่ไปก่อนนะคะ http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H12867022/H12867022.html จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 17:48:53 A:220.255.2.60 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 2 ^_^ รอ คุณBeen there, done that! มาตอบคะ  รบกวนเพื่อนท่านอื่นๆด้วยนะคะ จากคุณ : จขกท (แมวปัง) เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 20:55:26

ความคิดเห็นที่ 3 รอๆๆๆ คำแนะนำอย่างใจจดจ่อ เหมียววว จากคุณ : จขกท (แมวปัง) เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 21:58:30

ความคิดเห็นที่ 4 ว๊าย เหมียว อ่ะ มาพิมพ์ให้ก่อนก็ได้นะคะ รีบๆ พิมพ์เลยนะคะ เอาแบบด่วนเลย เพราะฉนั้นประโยคอาจจะไม่สละสลวย จะห้วนๆ นะคะ ________________________ 1. จะไปเทีี่ยวทั้งอิตาลี่และกรีซเนี่ย มีเวลาทั้งหมดกี่วันคะ? สองประเทศนี้แยกเที่ยวจะเหมาะกว่านะคะ ไปอิตาลี่ แล้วพ่วงด้วยสวิทเซอร์แลนด์ จะเหมาะกว่าค่ะ หรือ อิตาลี่ประเทศเดียวแบบเจาะลึกไปเลย 2. เอารูปที่แต่งงานในโบสถ์ไปยื่นแนบไปพร้อมเอกสารอื่นๆ ด้วยค่ะ ส่วนที่เหลือกรุณาอ่านในลิ้งค์กระทู้ ใน คห. 1 ค่ะ 3. ถ้ามีสองบัญชีก็แสดงให้หมดค่ะ บัญชีที่รับเงินเดือนก็แสดง บัญชีใช้จ่ายประจำก็แสดง ที่เหลือให้อ่านในลิ้งค์กระทู้ คห. 1 เช่นกันค่ะ 4. เรื่องเงินเก็บเขาดูตามเคส ถ้าการงานมั่นคง มีเงินเข้าออกสม่ำเสมอยอดเงินไม่สำคัญมากนัก โดยเฉพาะถ้าจ่าย ค่าตั๋วแล้ว จ่ายค่าโรงแรมแล้ว ซื้อประกันเดินทางแล้ว ถ้ามีเยอะอยู่แล้วไม่เป็นไร แต่อย่าตกแต่งบัญชี อย่าให้มียอดเยอะๆ เข้าตู้มเดียวก่อนขอวีซ่า 5. เท่าที่ยื่นเชงเก้นวีซ่ามาหลายสถานทูตแล้ว ทั้งในประเทศไทย นอกประเทศไทย ไม่เคยพบว่สขึ้นอยู่กับอารมณ์ของ ท่านกงสุล บางกงสุลบางสถานทูตอาจจุกจิกเรื่องเอกสาร แต่เขาพิจารณาตามเอกสารด้วยวิจารณญาณของเขาเอง ตามเอกสารที่ได้รับจากผู้ยื่น อย่าได้ไปเชื่อข่าวลือแบบนั้น โดยเฉพาะเรื่องสีผิวอะไรนั่น อย่าไปเชื่อค่านิยมผิดๆ บิดๆ เบี้ยวๆ ตามตรรกะประหลาดล้ำค่ะ 6. เมื่อไปเจอ ต.ม. แล้วเขาไม่ส่งกลับง่ายขนาดนั้นหรอกค่ะ ถ้าเจตนาไปเที่ยวจริง พิรุธจะไม่มี ถ้าพูดไม่เก่ง ให้เตรียม เอกสารทุกอย่่างเหมือนตอนขอวีซ่าไปด้วย ถ้าเขาถามอะไรก็ยื่นเอกสารเลย และ สามีภรรยาเข้าหา ต.ม. พร้อมกันได้ บอกเขาว่ามาด้วยกัน 7. การขอกับทัวร์ไม่ได้ทำให้ง่ายกว่า ถ้าเอกสารไม่ครบก็ไม่ได้เช่นกัน หรือเราเคยอ่านเจอกระทู้ในห้องบลูแพลเน็ท บางครั้งบริษัททัวร์บอกว่าสถานทูตไม่ออกวีซ่าให้บอกแบบนาทีสุดท้ายก็มี อารมณ์ประมาณว่าไม่ได้ยื่นเอกสารให้ประมาณนี้ หรือ ยื่นแล้วมีปัญหาแต่ไม่ได้บอกลูกทัวร์หน่ะค่ะ ทำให้กลับลำไม่ทัน ขอวีซ่าเองไม่ทันอะไรทำนองนี้นะคะ จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 23:12:20 A:220.255.2.142 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 5 คุณ จขกท. เอากระทู้นี้ไปอ่านด้วยนะคะ http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H12863494/H12863494.html นอกนั้นให้หาข้อมูลในห้องบลูแพลเน็ท และ ห้องไกลบ้านจากกระทู้อื่นๆ ด้วยค่ะ ให้เก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ ทั้งคุณจขกท. และสามีมีงานการดีๆ กับบริษัทระหว่างประเทศ และ องค์กรระหว่างประเทศทำ โพรไฟล์ขนาดนี้ การศึกษาต้องมีพอสมควร ไม่ต้องกลัวอะไรนะคะ ทำจดหมายแนะนำตัวไปดีๆ ค่ะ หลักฐานแน่นๆ ค่ะ ขอจดหมายจากผู้บังคับบัญชา จาก HR วันลาระบุให้พร้อม ตำแหน่ง เงินเดือน ถ้าเกร็งมาก กังวลมาก จะดูเหมือนหมกเม็ดนะคะ มีอะไรก็เขียนใส่ในจดหมายแนะนำตัว และ กรอกไปในใบคำร้อง ตามจริงค่ะ เวลาเข้าหาสถานทูตหรือตัวแทนให้มั่นใจในตัวเอง ฉาดฉาน ไม่ต้องกลัวเขา ไม่ต้องเคารพเขา แต่ต้องให้เกียรติเขา ไม่ต้องก้าวร้าว แต่ไม่ต้องสร้างกำแพง ถ้าเขาพูดร้ายๆ ใส่ให้อโหสิให้เขา ให้เข้าไปแบบสบายๆ และ สุภาพค่ะ เคสนี้คล้ายๆ ของคุณ purelight ในกระทู้ในลิ้งค์ที่ คห. 1 มากนะคะ ให้ศึกษากระทู้นั้นดีๆ ค่ะ เวลาเขียนจดหมายถึงสถานทูตให้บอกด้วยว่าทำไมอยากไปประเทศเขา มีแรงบันดาลใจอะไร จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 23:22:54 A:220.255.2.151 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 6 ตามเข้ามาขอบคุณ คูณ Been there, done that!  ที่นี้คะ เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ด้วยคะ เราก็กำลังเตรียมเอกสารอยู่เหมือนกัน อยากจะขออนุญาตถามต่อได้ไหมค่ะ ถ้าอยู่ๆแฟนเอาเงินมาเข้าบัญชีตัวเองแสนนึงก่อนยื่นวีซ่าประมาณเดือนสองเดือน จะเป็นที่สงสัยไหมค่ะ ( จะมีเงินโบนัสกับเงินคุณแม่แฟนคะ ที่จะเอาไปใช้ในทริปด้วย) ขอบคุณคะ จากคุณ : purelight เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 23:51:27

ความคิดเห็นที่ 7 ให้คุณ purelight แจ้งตามจริงเลยค่ะ เขียนแจ้งสถานทูตในจดหมายเลยว่า เงินก้อนนี้จำนวนเท่านี้ที่เข้ามาใหม่ ระบุจำนวนลงไปว่าเท่านี้เท่านี้คือโบนัส และ อีกส่วนหนึ่งคือจำนวนเท่านี้เท่านี้ (เท่าไหร่ก็เขียนระบุไปตามจริง) ว่า เป็นของขวัญที่คุณแม่ของแฟนของคุณ purelight สมทบทุนให้ลูกชายกับลูกสะใภ้ไปเที่ยวค่ะ หัวใจสำคัญคือ แจ้งตามจริง เขียนตามจริง เข้าตามตรอก ออกตามประตูค่ะ แสดงความบริสุทธิ์ใจที่จะไปเที่ยว สถานทูตจะมองเห็นเจตนา เอง และ จะทำให้ผ่านนะคะ และ ในส่วนนี้ส่วนของเงินเที่ยวหรือเงินสนับสนุนเนี่ยจะมีให้กรอกในใบคำร้องขอวีซ่าอยู่ข้อนึงเลยค่ะ ว่าทุนมาจากไหนบ้าง ใครคือสปอนเซ่อร์ แต่ในใบคำร้องมีเนื้อที่ให้กรอกน้อยมากๆ หัวใจสำคัญอีกอย่างนึงเลย คือการเขียนจดหมายแนะนำตัว เขียนเพื่อขยายความจากคำตอบต่างๆ ที่คุณต้องกรอกในใบคำร้องหน่ะค่ะ เพราะเนื้อที่มันน้อยจึงต้องมาอธิบายต่อในจดหมายนะคะ และเอกสารที่ส่งให้สถานทูตพิจารณาต้องสอดคล้องกับสิ่งที่กรอก แจ้งลงไปในใบคำร้อง และ ต้องสอดคล้องกับเนื้อความในจดหมาย เพราะจดหมายนี้คือสิ่งที่สนับสนุนเอกสารหน่ะค่ะ คือทุกส่วนมีความสำคัญเท่ากันหมดและต้องสัมพันธ์กันหน่ะค่ะ จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 03:25:05 A:202.156.9.10 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณ คุณpurelight ที่ให้กำลังใจ ขอบคุณ คุณBeen there, done that! มากๆๆๆ คะ ข้อมูลที่โปรมากเลยคะ รู้สึกเหมือนกับคุยอยู่กับ agent ที่รับทำVisaเลยคะ ^_^ ได้อ่านลิงค์แนะนำแล้วด้วยนะคะ ขอคำแนะนำเพิ่มเติมคะ อาจจะถามเยอะ แต่ไม่ค่อยรู้เรืองจริงๆคะ คุณBeen there, done that! อย่าเพิ่งรำคาญนะคะ (ขอถามผ่านหน้ากระทู้เผื่อเป็นความรู้กับเพือนท่านอื่นๆด้วย) -จขกท จะเลือกไปประเทศอิตาลี หรือ กรีซ ประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้นคะ สุดแท้แต่จะเจอโปรโมทชั่นค่าตั๋วประเทศใดก่อน แต่จะไป2ประเทศนี้ก่อนแน่ๆ เพราะอยากไปมากๆๆทั้ง2ประเทศ ชอบเกี่ยวกับประวัติศาสตร์โรมและปรณัมของเค้าคะ ดูแต่ในหนัง ชีวิตนี้ต้องไปสัมผัสของจริงให้ได้คะ(ดูหนังมาก) -เรื่องบัญชีการเงิน หมายควาว่าต้องโชว์บัญชีเงินเดือนของจขกท1เล่ม และสามี1เล่ม และอีก1เล่มเป็นบัญชีที่สามีโอนเงินมาให้จขกท.เก็บ แบบนี้เข้าใจถูกต้องไหมคะ..แต่บัญชีเงินเก็บเป็นชื่อของจขกท. แบบนี้ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ(แล้วอธิบายใน จม.แนะนำตัว แทน) เพราะพี่ที่ทำงาน -จดหมายแนะนำตัว ต้องทำเป็น2สำเนาแนบพลาสปอร์ตจขกท.1ฉบับ และสามีอีก 1ฉบับ หรือ ฉบับเดียวก็พอ แล้วเวลายื่นวีซ่าใส่ซองเดียวกันยื่นพร้อมกันเลยคะ -ทราบมาว่าเดี๋ยวนี้ทางสถาณฑูตจ้างagentข้างนอก เพื่อมาเป็นคนรับคนตรวจเอกสาร พวกเค้ามีสิทธิที่จะดึงจดหมายแนะนำตัว รูปถ่ายแต่งงานหรือเอกสารการจบการศึกษา ของเราออก หรือไม่คะ เพราะอ่านเจอในเน็ตเคยบอกว่า บางทีagentจะบอกว่า ไม่ต้องใช้ ให้เราเอากลับไป -เวลายื่นวีซ่าเป็นสามีภรรยากันใส่ซองยื่นพร้อมกันได้เลยใช่ไหมคะ -จดหมายแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าจะเขียนเองได้ไหมคะ ต้องถูกต้องตามหลักไวยกรณ์ไหมคะ เพราะจขกทไม่ค่อยเก่งภาษาคะ -ต.ม. ที่นู้นมีพูดไทยได้ไหมคะ ปกติจขกท.เป็นคนฉาดฉาน แต่กลัวจริงๆคะ ที่จะฟังเค้าไม่รู้เรือง แล้วเค้าหงุดหงิดส่งตัวกลับ(บอกตรงๆไปสิงค์โปร์ฮ่องกงมา เราต้องให้ต.ม.เค้าพูดซ้ำๆเค้าทำหน้าเซ็งๆอ่ะคะ เราเลยพารานอยด์ คะ) -เราเจอหน้า ต.ม. บอกเค้าเลยได้ไหมคะ sorry i cannot eng หรือ i am not good for eng language. -หรือเจอหน้า ต.ม.เราแนะนำตัวเลยได้ไหมคะว่าชื่ออะไร จะกลับเมื่อไหร่ พักที่ไหนยื่นใบจอง รร ให้ดู แบบไม่ต้องรอให้เค้าถามอ่ะคะ(กลัวฟังฝรั่งพูดไม่รู้เรือง) -เคยอ่านเจอในเน็ตเล่าให้ฟังว่า บางคนเอาโฉนดที่ดิน ทรัพย์สมบัติ เงินในบ/ช หลักล้าน เจ้าของกิจการ เอกสารจากกระทรวงพาณิชย์ก็ไม่ผ่าน อันนี้อยากทราบส่วนตัว ทำไมไม่ผ่านอ่ะคะ พอมีความเห็นไหมคะ ปอลิง :- : คุณBeen there, done that! ดูเป็นคนเดินทางบ่อยมากๆ อิจฉามากคะ จขกท.ก็ใฝ่ฝันอยากเดินทางไปเที่ยวรอบโลก โดยทำงานอิสระ แต่ไม่รู้จะเป็นจริงได้เมือไหร่ : ที่บอกว่า มักจะตกเป็นเหยื่อของโฆษนาผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่ง ตลกมากคะ5555 ชอบๆ : แต่คุณBeen there, done that!พูดถูกคะ เห็นคนเหล่านี้เดินทางบ่อยจึงไปปรึกษา แต่พวกเค้าก็ดูวัตถุนิยมพอสมควรอ่ะคะ ก็อย่างว่าอะเนอะ พวกเค้าได้ไปต่างประเทศบ่อย บ้านก็มีฐานะก็เลยคงเป็นธรรมดา บางครั้งเค้าอาจจะดูถูกคนอื่นโดยไม่ได้ตั้งใจอ่ะคะ ไม่ได้ จขกท.ก็พยายามเข้าใจธรรมชาติของคนคะ จขกท.เองก็ไม่ได้ทำถูกใจใครไปทั้งหมด : จขกท.คิดว่าตัวเองทำงานใช้ภาษาอังกฤษตลอด นึกว่าไปตปท.แล้วจะง่าย แต่พอไปใช้จริงไม่ง่ายอย่างที่คิดคะ ^_^ จากคุณ : จขกท (แมวปัง) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 08:52:44

ความคิดเห็นที่ 9 เข้ามาเสนอหน้ารบกวน จขกท และ คุณBeen there, done that! อีกแล้วคะ พอดีแว๊บเข้ามาอ่าน แล้วสงสัยบางข้อที่ จขกท สงสัยเหมือนกันคะ ของเราต้องยื่นกับ TLS contact เพราะจะขอกับสถานฑูตฝรั่งเศสคะ เขามีสิทธิที่จะดึงหลักฐานบางอย่าง ของเราออกหรือไม่ค่ะ และเห็นด้วยกับ ปอลิง :- ของ จขกท ใน คห 8 มากๆด้วยคะ :P จากคุณ : purelight เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 11:30:36

ความคิดเห็นที่ 10 purelight : ไม่รบกวนเลยคะ ดีใจที่ได้เพือนร่วมชะตากรรม ปูเสื่อ รอ แง๊วๆๆๆๆ จากคุณ : จขกท (แมวปัง) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:01:55

ความคิดเห็นที่ 11 รีบๆ ตอบเลยนะคะ ห้วนๆ อีกแล้วค่ะ _________________________________________ 1. เรื่องบัญชีเงินฝากตามนั้นค่ะ โชว์ทุกบัญชี และ ให้สัมพันธ์กัน แต่ต้องแสดงใบสลิปเงินเดือนด้วยของทั้งสองท่าน และ ต้องไปขอใบรับรองบัญชีจากธนาคารด้วยบอกธนาคารว่าจะเอาไปเป็นเอกสารขอวีซ่า 2. ในเคสนี้เป็นสามีภรรยาแบบ Common Law Husband and Wife สถานะภาพสมรสเป็น De Facto ก็ขอ จนท. ยื่นพร้อมกัน แต่เรื่องจองคิวว่าจะจองอย่างไรเพราะสองท่านใช้คนละนามสกุลกันให้โทรปรึกษาตัวแทนรับยื่น เรื่องค่ะ เรื่องจองคิวแบบสองคนคนละนามสกุลยื่นพร้อมกันเราไม่ทราบจริงๆ ต้องขออภัย 3. แล้วแต่เอเจ้นท์ค่ะ บางคนก็ดึงแล้วบอกว่าไม่ต้องใช้ บางคนก็จะบอกว่าไม่จำเป็นแต่จะส่งก็ได้ แต่ถ้าคุณแมวปัง หรือ คุณ purelight อยากส่งเอกสารอะไรที่ตัวแทนรับยื่นเรื่องบอกว่าไม่จำเป็นแต่ถ้าคุณยังอยากจะส่งเขาไม่มีสิทธิที่ จะมาห้ามคุณค่ะ เพราะทางสถานทูตพิจารณาจากเอกสารล้วนๆ เอกสารแน่นๆ เกินๆ ดีกว่าส่งไปแบบไม่ครบ ขาดๆ ค่ะ ก็ให้ยืนยันกับตัวแทนไปว่าอยากส่งไปด้วย อะไรแบบนี้นะคะ 4. ถ้าเขียนไม่เก่ง ก็เขียนเองก่อน แล้วไปให้คนที่เก่งกว่า เกลาให้ค่ะ ไวยากรณ์อาจจะไม่ต้องเป๊ะแบบเทพ -00% แต่ขอให้เจ้าหน้าที่อ่านรู้เรื่อง ลำดับเรื่องราวดี อธิบายได้ครบ จดหมายมีครบตามแบบฟอร์มจดหมายทางการทั่วๆ ไป มีที่อยู่ มีวันที่ ถึงใคร มีขึ้นต้นเกริ่นนำ มีเนื้อความ มีบทสรุป มีคำลงท้าย มีชื่อลงท้าย เซ็นต์ชื่อ ทำนองนี้หน่ะค่ะ 5. ต.ม. หลายๆ ประเทศทักทายภาษาไทยได้ หลายๆ คนเคยมาเมืองไทย หลายๆ คนมีแฟนคนไทย หรือมีภรรยา เป็นคนไทย แต่ตั้งแต่เดินทางมายังไม่เคยเจอ ต.ม. ของต่างประเทศที่พูดไทยได้ค่ะ เจอแต่ทักทายเป็นภาษาไทย บางคนทักแบบดีใจที่ได้เจอคนไทยทักแบบสุภาพ บางคนทักแบบกระลิ้มกระเหลี่ยตื่นเต้นที่ได้เจอผู้หญิงไทย ทักแบบเสร่อๆ แบบทะลึ่งๆ แบบนี้ก็เคยเจอตอนสมัยสาวๆ ค่ะ ตอนนี้แก่แล้ว ต.ม. รีบสแตมป์ให้ แล้วรีบให้ออกไปค่ะ เพราะเค้าจะคุยกับผู้หญิงไทยสาวๆ สวยๆ ข้างหลังแทนยายค่ะ (ฮาาาาาาาาาา) 6. เจอ ต.ม. ไม่ต้องพูดอะไรค่ะ ถ้าพูดไม่เก่งอย่าทัก ให้ยื่นพาสปอร์ตแบบหน้าตาเป็นมิตร มองตาเขาแค่นั้นพอ ไม่ต้องพูดอะไรก่อนทั้งสิ้น อย่างมากแค่ทักเฮลโหล กู๊ด ม๊อร์นิ่ง กู๊ด อาฟเตอร์นูน เป็นต้นแค่นั้นพอ แต่ให้เขาถามก่อนค่ะ ส่วนใหญ่เขาก็ถามง่ายๆ เช่นมากี่วัน มาทำอะไร จะกลับเมื่อไหร่ มีตั๋วขากลับแล้วหรือยัง จะไปไหนบ้าง หลักๆ ก็แค่นี้แหละค่ะ ถ้าตอบได้ เขาก็สแตมป์ แต่ถ้าพูดไม่คล่อง อย่างที่บอกค่ะ ให้ยื่นเอกสารชุดเดียว เหมือนกับที่เตรียมตอนไปขอวีซ่าให้ ต.ม. ดูค่ะ ให้เขาอ่านเองดูเอง ยื่นนามบัตรให้เขาดูด้วยค่ะ และนามบัตรของที่ทำงานที่มีชื่อคุณมีตำแหน่งงาน และ รายละเอียดติดต่อต่างๆ บนนามบัตร ให้ยื่นไปตอนขอวีซ่าด้วยค่ะ ส่วนของน้อง purelight ถึงจะทำงานอิสระ แต่ก็สามารถไปทำนามบัตรได้นะคะ ให้มีชื่อ นามสกุล เบอร์โทร ที่อยู่ อีเมล คนทำงานอิสระก็มีนามบัตรได้ค่ะ หรือข้าราชการหลายๆ ท่านเราก็เคยเห็นว่าเขาทำนามบัตรกัน นามบัตร ใบเล็กๆ ก็เหมือนการแนะนำตัวกลายๆ แล้วค่ะ ว่าเป็นใคร ทำอะไร ฯลฯ แสดงให้เขาเห็นค่ะ ว่าสถานทูตสามารถติดต่อ เราได้เสมอ เฟสบุ๊ค อินสตาร์แกรม ทวิตเตอร์ สไก๊พ์ การติดต่อทางโซเชี่ยลมีเดี่ยมีกี่ช่องทาง ใส่ไปในนามบัตร ส่วนตัวได้เลยค่ะ (กรณีของน้อง purelight ที่ไม่ได้ทำงานประจำ) หรือ น้อง purelight อาจจะนำผลงาน หรือ ของที่ทำขาย โชว์ทางเฟสบุ๊คอยู่แล้ว ก็แจ้งได้เลยค่ะ ว่าให้เขาเข้าไปดูได้ด้วยอะไรแบบนี้ 7. เรื่องคนที่โชว์โน่นโชว์นี่เยอะๆ แต่วีซ่าไม่ผ่าน เคยได้ยินเหมือนกันค่ะ คือต้องมีอะไรสักอย่างหน่ะนะคะ ที่ไม่เกี่ยวกับ เรื่องเงินมากมายที่เขามี หรือ อสังหาริมทรัพย์ที่เขามีหน่ะค่ะ หรืออาจจะเข้าไปคุยโวหรือเปล่าไปทำไม่สุภาพที่สถานทูต เขาก็กาหัวเอาไว้ได้ค่ะ สถานทูตเขาพิจารณาจากหลายอย่างประกอบกันค่ะ อยู่ที่การพรีเซ้นท์ตัวเองล้วนๆ ค่ะ เรื่องคนประเภทที่ดูถูกคนอื่นเพราะสีผิว เพราะหน้าตา จิตใจไม่พัฒนาเลยค่ะ คนพวกนั้นมีแต่เงิน แต่ขาดมารยาท และขาดความมั่นใจในตัวเองนะคะ คนดีๆ หน่ะค่ะ ถ้าเคยไปมาก่อนแล้ว เขาก็ต้องแนะนำ ต้องให้กำลังใจนะคะ ไม่ใช่มาพูดทับถมให้คนอื่นใจเสีย คนประเภทที่คุณแมวปังเล่ามาเนี่ยรู้จักได้ แต่ไม่ต้องคบนะคะ เพราะคนประเภทนี้ จะมีอุปนิสัยชอบแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น อิจฉา ริษยาค่ะ เขาอิจฉานะคะนั่นไม่อยากให้คุณไป เพราะถ้าคุณก็เคยไปมาแล้ว เขาก็จะไม่ใช่คนเดียวที่เคยไปค่ะ เขาจึงต้องพูดแบบไม่ให้กำลังใจคุณ ทำให้คุณท้อแท้ตกต่ำ ไม่มีกำลังใจค่ะ จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 15:44:29 A:202.156.9.10 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 12 แก้คำผิดค่ะ เป๊ะแบบเทพ 100% ค่ะ ไม่ใช่ -00% __________________________ จากคุณ : BTDT เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 15:47:32 A:202.156.9.10 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 13 ฝากน้องแมวปัง และ น้อง purelight เซฟกดกระทู้นี้ลงคลังกระทู้ด้วยนะคะ และ กระทู้อื่นๆ ที่พี่ลากลิ้งค์มาให้ด้วย และลิ้งค์อื่นๆ ที่อยู่ในกระทู้อื่นๆ ด้วยนะคะ เก็บไว้ให้คนข้างหลังที่จะเข้ามาหาข้อมูลค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 15:50:11 A:202.156.9.10 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 14 ลืมบอกไปค่ะว่า ต.ม. ของประเทศที่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก ก็ไม่ใช่ว่าจะพูดภาษาอังกฤษเก่งนะคะ เท่าที่เคยเจอมาบางคนก็พูดได้แค่นิดๆ หน่อยๆ เองค่ะ หรือ อย่าง ต.ม. ฮ่องกง ต.ม. สิงคโปร์ เขาอาจจะพูดอังกฤษได้ แต่หลายๆ คนที่เราเคยเจอมา เขาก็ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษแบบเป็นเรื่องเป็นราวค่ะ หรืออย่าง ต.ม. ฮ่องกงเนี่ย เราเจอเมื่อไหร่ เขาสามารถหยาบคายใส่เราได้เมื่อนั้น เพียงเพราะว่าเขาเห็นเราถือพาสปอร์ตไทยแค่นั้นแหละค่ะ เมื่อปลายปีที่แล้วพี่ก็เพิ่งไปฮ่องกงมา (เคยไปมาหลายหนแล้ว ไม่ใช่ครั้งแรก) เจอ ต.ม. ฮ่องกง กวักมือเรียก อย่างกับมู๋กับม๋า แล้วพอสแตมป์พาสปอร์ตให้เสร็จ เขาโยนพาสปอร์ตคืนให้พี่กระแทกอย่างแรงบนเคาน์เตอร์ค่ะ พี่ไม่พูดอะไรสักคำ แต่มองหน้าเขาแบบดูถูก และ จากนั้น พี่ไปยืนสังเกตการณ์ว่า เขาจะทำอย่างไรกับผู้โดยสาร (นักท่องเที่ยวคนถัดไป) ที่ต่อคิวอยู่ข้างหลังของพี่ พี่อยากเห็นค่ะ จึงยืนรอ อยากดูว่าเราไม่ได้คิดไปเองว่าเขาหยาบคายกับเรา ปรากฏว่า ต.ม. ฮ่องกงคนนั้นที่เพิ่งทำหยาบๆ กับพี่ ทักทายผู้โดยสารคนถัดไปอย่างดี มีการขอบคุณ มีการยื่นพาสปอร์ต ที่สแตมป์เสร็จแล้วกลับให้ ผดส. คนนั้นอย่างสุภาพ ต่างกับเพิ่งทำกับพี่ราวฟ้ากับก้นเหวค่ะ และ ผดส. คนที่ยืนถัดไป จากพี่ เป็นฝรั่งตัวสูงใหญ่ และ พี่เห็นว่าถืออเมริกันพาสปอร์ตค่ะ ที่จริงเมื่อเห็นแบบนั้นพี่ควรจะโกรธ จริงไหมคะ แต่พี่สามารถให้อภัยเจ้า ต.ม. นั่นได้ เพราะพี่ไม่บ้าจี้ ไปกับเขาค่ะ คือก่อนหน้าที่พี่จะไปฮ่องกงหน่ะ พี่บินมาจากยุโรปค่ะ เพิ่งไปอังกฤษ เบลเยี่ยม ฝรั่งเศสมา แล้วพี่ก็บิน กลับเมืองไทย แวะนอนบ้านที่กรุงเทพฯ คืนนึง แล้วพี่ก็บินไปฮ่องกง ไปเดินเล่น ไปดูไฟ ไปหาของกินค่ะ พออกจากฮ่องกง พี่ก็กลับกรุงเทพฯ แล้วก็ออกมาจากบ้านกรุงเทพฯ กลับบ้านที่สิงคโปร์ ส่วน ต.ม. นั่น ก็คงนั่งสแตมป์อยู่ตรงนั้น เกือบทุกวันนั่นแหละค่ะ แล้วแบบนี้พี่จะต้องไปโกรธเขาเรื่องอะไร จริงไหมคะน้องๆ แต่เอามาเล่าให้ฟังค่ะ ว่า ต.ม. ของบางประเทศเป็นอย่างไรบ้าง จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 16:04:08 A:202.156.9.10 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 15 รบกวน share ประสบการณ์  การขอวีซ่าอิตาเลี่ยน น่ะค่ะ     เอกสารเตรียมให้ครบ ดังนี้   ( ข้อมูลเอกสาร อ้างอิง จาก เวบ สถานฑูตอิตาลี่ ประจำประเทศไทย) http://www.ambbangkok.esteri.it/Ambasciata_Bangkok/Menu/Informazioni_e_servizi/Visti/ 1. โทรไปที่ Tel +66 (0) 2 2639101.(Call Center)  เพื่อนทำการ booked เวลาในการยื่นวีซ่า เตรียม กระดาษ ปากกกา passport No. เพื่อ จด Reference Number น่ะค่ะ ถึงแม้ว่า ทางเจ้าหน้า จะ แจ้งผ่าน sms บางที มันก็ ไม่ได้น่ะค่ะ  ( ซึ่งก่อนโทรก็ควรที่จะ คิดไว้เสียก่อนว่า ว่างวันไหน ควรจะยื่น วันจันทร์ เช้า น่ะค่ะ เพราะ หากไม่มีการ ขอเอกสารเพิ่ม ในกรณีวีซ่าท่องเที่ยว อาจจะได้วีซ่าใน 3-4 วันต่อมา)    ***  Call Center หรือ Joint Visa Application Center” managed by VFS (Thailand)  เป็นเพียงตัวแทน ในการ ขอ เวลาในการ booking Visa เท่านั้นน่ะค่ะ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่สถานฑูต  ฉะนั้นเจ้าหน้าที่จะตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับ วีซ่า อะไรต่างๆ ไม่ได้น่ะค่ะ อีกทั้ง ไม่สามารถที่จะ ขัดแยก ดึงเอกสาร ต่างๆ ในการทำวีซ่า ของ ผู้ที่ต้องการทำวีซ่าได้ค่ะ   ***any assessment and decision on visa is taken by the Embassy only.**** 2. ขั้นตอนการเตรียมเอกสาร ( อ้างอิงจาก สถานฑูต)     ****Single fee for all Schengen visas:€ 60  National visas for long-term stays (type D)€ 105****   2.1 visa application form ( http://www.esteri.it/visti/pdf/Formulario_Visto_Schengen_EN.pdf) สามารถ print แล้ว เขียน ไปให้พร้อมเลยน่ะค่ะ   2.2 recent passport-style photo  ( ไม่แน่ใจว่า ขนาด 1 or 2 นิ้ว น่ะค่ะ ก็ ถ่ายไป ทั้ง 2  ขนาดก็ได้น่ะ จำได้ว่า  2 นิ้ว น่ะค่ะ )   2.3 passport or travel document valid for at least three months after visa expiry date ( Passport ทั้ง 2 เล่ม ทั้งสามีและภรรยา เล่มจริง ที่มีอายุ เล่ม เหลือมากกว่า 6 เดือน)   2.4 return-trip booking or ticket or proof of available means of personal transport proof of available lodging in Italy: tourist vouchers, hotel booking, offer of hospitality ( ในส่วนนี้ ต้อง แสดง ใบจอง โรงแรม หรือ บ้านญาติ ที่ต้องการใบพัก ในลักษณะแบบนี้  ทาง คุณ สามารถ ไป booking Hotel  ได้ที่   www.booking.com  ได้น่ะค่ะ ใน web นี้ สามารถ booking hotel โดยยังไม่ต้องจ่ายตังค์ได้ค่ะ  ในลักษณะแบบนี้ ทาง คุณ เอง สามารถ วางแผน การเดินทาง หรือ การเที่ยวของคุณได้ โดย วางแผน โดยการไปประเทศอิตาลี่ก่อน เดินทางถึงวันไหน พักที่ไหนเมือง อะไร บ้าง จองโรงแรม ที่ไหน วันไหน เสร็จแล้ว จะเดินทางไป กรีซ ก็ ไปจอง โรงแรมที่กรีซ  วันไหน อย่างไร แล้ว print แนบไปกับเอกสารการขอวีซ่า น่ะค่ะ ) ****ในส่วนของ ตั๋ว เครื่องบิน สามารถให้ agent print ใบจอง booking มาให้ ก็ได้ค่ะ print แล้วก็แนบเอกสารการขอวีซ่าไปค่ะ ตรวจสอบ การ สะกด ชื่อ -นาสกุล Passport No. ของ คุณ และ สามี ให้ถูกต้องน่ะค่ะ *****   2.5  proof of economic means of support, as per Ministry of Interior Directive 1.3.2000  (  ในส่วนของเอกสารทางการเงิน ในรวม บัญชีทางการเงินของบัญชีเงินเดือนของทั้ง 2 ท่านน่ะค่ะ ทั้ง สามีและภรรยา และ เงินที่อยู่ในส่วนของเงินเก็บ  จะสามารถ เอา สมุดบัญชีตัวจริงและ ขอ statement จาก แบงค์ ก็ได้ ย้อนหลัง 6 เดือน  ขอเป็นภาษาอังกฤษ น่ะค่ะ  โดย มี เงินอยู่ในบัญชี เท่าไหร่ ?  ขึ้นอยู่กับ จำนวนวันที่เที่ยว (อ้างอิง จาก สถานฑูต ดังนี้ น่ะค่ะ  http://www.esteri.it/visti/sussistenza_eng.html ) เช่น  คุณ จะขอ วีซ่า  ในการเที่ยว 2 weeks   From 11 to 20 days: fixed amount One participant - € 51.64 *** Two or more participants - € 25.82 x 2 x15 Days = 774.6 eu x 40 Bth = 30,984 Bth ----  แต่ ในความเป็นจริง เงินนี้ อยู่ยุโรป เที่ยวแบบนี้อาจไม่พอ ฉะนั้น เงินในบัญชี ใช้ 2 คน ในยุโรป ค่ากิน ค่าโรงแรม ค่าเดินทางต่างๆ  ฉะนั้น  เอาเงินใส่บัญชี โดยรวมทั้งหมด ทุกบัญชีที่มี มากกว่า  200,000 บาท ก็ น่าจะ ดีมากๆๆ ค่ะ แต่ก็ อย่า มาแบบว่า ตู้ม ที่เดียว 2-3 แสนน่ะค่ะ นอกจากว่า จะสามารถอธิบายได้ว่า เป็นเงินมาจากไหน พ่อแม่ให้ หรืออย่างไร -------- จะแนบ slip เงินเดือน ไปด้วยทั้ง 2 ท่านไปด้วยก็ได้น่ะค่ะ อย่างน้อย 6 เดือน   2.6  documentation of socio-professional standing  ---- เอกสารส่วนนี้ ก็ เอกสารปกติ น่ะค่ะ ใบรับรองการทำงาน ภาษาอังกฤษ  แจ้ง ชื่อ ที่อยู่ ที่ทำงานต่างๆ เงินเดือน ระบุวันในการลาพักร้อน ต่างๆให้เรียบร้อย ( กรุณา เขียนชื่อในใบรับรองการทำงาน ให้ตรงกับ passport น่ะค่ะ )  ทั้งของ คุณและสามีน่ะค่ะ หาก มีการเปลี่ยนชื่อ -นาสกุล อะไร ต่างๆ เอาเอกสารไปด้วยน่ะค่ะ  หากแต่งงาน แต่ไม่ได้ จดทะเบียน ก็ เอารูปแสดงหลักฐาน การแต่งงาน ไปแสดง น่ะค่ะ   2.7  health insurance policy with a minimum coverage of €30,000 for emergency hospital and repatriation expenses ---- หา บริษัท ที่ทำ ประกันชีวิตการเดินทาง ที่ คุ้มครอง ครอบคลุม และมี เงินประกันเกิน 2 ล้านบาท น่ะค่ะ  อันนี้ไปทำ ที่ไหนก็ได้ ตาม บริษัทประกันต่างๆ บอกเค้าว่า ทำประกันเดินทางไปยูโรป ราคาก็แล้ว แต่ จำนวนวันเดินทาง ประมาณ 2 wks ก็ น่าจะประมาณ  1500 -2500 บาท/คน   **** ต้อง แจ้ง คนที่ทำประกันด้วยว่า หากวีซ่าไม่ผ่าน สามารถคืน ประกันได้หรือไม่  เอาแบบที่คืนได้น่ะค่ะ  เผื่อ วีซ่าไม่ผ่าน ****    2.8   ค่า วีซ่า 60 Eu  เตรียมเงินบาทไปให้ พอ น่ะค่ะ  เตรียมไป 2400 x2 = 4800 ประมาณ เอาน่ะค่ะ เตรียมเศษ แบงค์ ร้อย แบงค์ สิบ เหรียญ ไป ด้วย เผื่อมีเศษ การยื่นเอกสาร ทั้ง 2 ท่านยื่นไปพร้อมกันเลยน่ะค่ะ  ยังไงแล้วไม่แน่ใจว่า หากยื่นเอง ทั้ง 2 ท่านต้องไปสถานฑูต ทั้ง คู่ ยังไงแล้ว ก็ไปแสดงตัวให้เค้าเห็น นั่นแหละค่ะ ไม่มีอะไร ส่วนจะให้ agent ยื่นให้นั้น ก็ไม่แน่หรอกค่ะ เพราะยังไง คนที่ตันสินใจ คือ สถานฑูต   ส่วนเอกสารแนะนำตัว นั้น ลักษณะ คล้ายๆกับ ใบแปะหน้า หรือ  cover letter นั่ีนแหละค่ะ อาจเขียนได้ประมาณนี้ address / Daqte/Mth. To : Consultant of Italian Embassy , Bangkok Thailand My name is.......and also my husband name is............   I work at and my husband work at ......for..year and we are planing to travel in Italy and also go to travel in Greece between........ and ........ in addition, I also included  all the documents that maybe be concern for issue ours visa has be listed below :  **** คุณก็สามารถ เขียน เอกสารที่คุณได้เตรียมไว้ เขียนลงไปเลยค่ะ ****** Sincerely Yours, ลงชื่อ........................... หวัง ว่า คงเป็นประโยชน์ น่ะค่ะ   หากไม่แน่ใจ โทรไปถามสถานฑูต ค่ะ แต่ว่า ต้อง ตั้งใจฟังน่ะค่ะ เขาพูดเร็ว แล้วก็เขียน คำถามไว้เลยว่า จะถามอะไร เพราะว่า เจ้าหน้าที่ มีน้อย แค่ 1 คน ที่พอจะ รับโทรศัพท์ได้ นอกนั้น ต้องรับยื่นวีซ่า เห็ฯใจเขาด้วย วันๆๆ รับโทรศัพท์ หบายสาย บางสายต้องพูด ย้ำๆ สิ่งเดิมๆ เพราะไม่เข้าใจ   ในอะไร เมล์มาถามได้ค่ะ  phuntong@ ฮ๊อทเมล์ ดอท  คอม     ตม. อิตาเลี่ยนไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ ทำหน้าเหนื่อยๆ เข้าไว้ ไปถึง ยื่น passport ให้เขาเท่านั้น ถ้าถาม ก็ ตอบ เท่าที่ถามนั่นแหละค่ะ ไม่มีอะไรมาก ตม. เขาก็พูด อังกฤษ ไม่แข็งแรงเท่าไหร่ ที่อิตาลี่ พูดอังกฤษ ได้ไม่เท่าไหร่ ส่วนใหญ่ พูดอิตาเลี่ยนค่ะ  อาจพูดได้ ตามโรงแรม เมือง ท่องเที่ยว เท่านั้น ถ้าเค้าไม่ถามอะไร ก็ ไม่ต้องตอบ ไม่จำเป็นค่ะ   ส่วนเอกสารที่ยื่นที่สถานฑูต ก็ หาก สถานพูต มีคำถาม เค้าจะโทรมานัดสัมภาษณ์ อีกครั้ง ซึ่งก็ เข้าไปพบ แล้วเค้าจะบอกเองว่า ต้องการอะไรเพิ่ม ถามให้เข้าใจ เพราะว่า ทาง เจ้านายเค้าจะถามเอง  ซึ่งก็ จะมีเจ้าหน้าที่คนไทย แปลให้ หาก ไม่เข้าใจจริงๆ  เค้าขออะไรก็ ทำให้ ตามนั้น เอกสารต่างๆ เช่น visa application ต่างๆ,  Travel Insurance ของบริษัทต่างๆที่ สถานฑูตยอมรับ ,  Visa Documents check List ฯลฯ.......... ใบขอวีซ่า มีเป็นแบบ Excel น่ะค่ะ จะได้ พิมพ์ ลงไปเลย เวลา print ออกมา จะได้ดูสวย ^ ^ สามารถ download  ได้จากนี้น่ะค่ะ เวบ จาก สถาณฑูต ค่ะ   http://www.ambbangkok.esteri.it/Ambasciata_Bangkok/Menu/In_linea_con_utente/Modulistica/ ที่อยู่สถานฑูต ค่ะ   Bangkok - Embassy of Italy Address: 27 Floor, CRC Tower, All Seasons Place 87 Wireless Road, Lumpini, Phatumwan Bangkok 10330 Tel.: 006622504970 Fax: 006622504986 Website: www.ambbangkok.esteri.it E-mail: visa.ambbang@esteri.it แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 55 16:55:00 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 55 16:53:25 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 55 16:50:33 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 55 16:36:44 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 55 16:30:08 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 55 16:23:14 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 55 16:10:21 จากคุณ : Signorina-Moda เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 16:04:47

ความคิดเห็นที่ 16 หาก เตรียมเอกสาร เสร็จเรียบร้อยแลว โทรนัด วัน เวลา การขอยื่นวีซ่า แล้ว   ในวัน ยื่น วีซ่า  1.  ไปก่อน เวลา นัด สัก 30 นาที - 1 Hr น่ะ เผื่อ คน ที่จองก่อนเราเขายังไม่มา ทางเจ้าหน้า เขาจะเรียกชื่อตาม  เวลา ที่เราโทรไปจอง เวลา กับทาง call centre หากคนก่อนหน้าเรา เขาไม่มา เราจะได้ยืนเอกสาร เลย  2.  เจ้าหน้าที่ เขาจะทำการตรวจเอกสารในเบื้องต้น  หากครบ ในเบื้องต้น ก็ จะให้เราจ่าย ค่าธรรมเนียมวีซ่า และออกใบเสร็จ ที่มีเลขที่ มาให้  และ ทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งว่า  ให้โทรมาสอบถาม ว่า วีซ่า ได้ ภายในวันที่ เท่าไหร่ๆๆ ( ปกติ ก็ จะ 3-4 วัน หลังจากยื่นค่ะ )     เป็นอันเสร็จเรียบร้อย   จากนี้ก็ ภาวนาว่า เอกสารที่ส่งจะ จะรัดกุม ครบถ้วน ค่ะ   หาก เอกสาร ไม่ครบ หรือ ทางสถานฑูต มีข้อสงสัย  ในวันรุ่งขึ้น หรือถัดมา( จากวันที่ยื่น)  สถานฑูต จะโทร มาถาม หรือ นัดวันสภาษณ์ หรือ เอาเอกสารไปให้เพิ่มเติม ค่ะ ไม่ต้องกังวล ค่ะ   จัดเอกสาร ตามที่สถานฑูต ระบุ ไว้ ไม่เข้าใจ โทรถามสถานฑูต เลยค่ะ คิดเพียงว่า เอกสารทุกชึ้น แสดง ตัวตนของเรา ว่า ที่เมืองไทย เราเป็นใคร หน้าที่การงาน เงินเดือนที่มั่นคง ไม่หนีไปอยู่ที่อิตาลี่แน่นอน   บ่งบอกที่มาที่ไป เท่านั้นเอง ค่ะ Good Luck   ค่ะ จากคุณ : Signorina-Moda เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 17:10:57

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณ คุณBeen there, done that! มากๆๆ เลยคะ สละเวลามาตอบยาว และหลายครั้ง พร้อมกับคำแนะนำให้กำลังใจ และคำแนะในมุมมองชีวิต ขอบคุณSignorina-Moda ที่มาแชร์ข้อมูลเพิ่มเติม มีประโยชน์อย่างมากสำหรับคนที่ไม่รู้อะไรเลย เก็บเข้าคลัง และเซฟใส่ file ส่วนตัวด้วยคะ ^_^ รู้สึกอิจฉา คนที่ใช้ชีวิตเดินทางเหลือเกินคะ เราจะพยายามขอวีซ่าให้ได้เพือว่าคนแนะนำจะไม้เหนื่อยเปล่าคะ จากคุณ : จขกท (แมวปัง) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 17:13:07

ความคิดเห็นที่ 18 ยินดีมากค่ะ  ไม่เป็นไร ค่ะ   ได้วีซ่าแล้ว ก็ มาบอกกันด้วยน่ะ     ว่าแต่จะไปช่วงไหน น่ะ ถ้าใกล้สิ้นปี ก็อย่ามาน่ะค่ หนาว โรงแรมแพง   ถ้าจะมา ก็มา ตั้งแต่ เม.ย. ถึง ก.ค. ก็ ได้น่ะค่ะ  อากาศกำลังดี   ฝึกภาษา อิตาเลี่ยนมาหน่อยก็ดีน่ะค่ะ   กับ อีกอย่าง  เค้าเตอร์แพน   ครีมนวดขา เพราะว่า เดินเยอะ เหนื่อย ค่ะ ตอนนี้ eu = 39.xx  bth   หาก มีเงินก็แลกไว้ก้ได้ค่ะ ตอนนี้ค่าเงินลด แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 55 18:04:27 จากคุณ : Signorina-Moda เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 17:32:49

ความคิดเห็นที่ 19 โห๋ยยย ขอบคุณ คุณBeen there, done that! คุณ  Signorina-Moda มากเลยคะ ได้อะไรเยอะมาก กระจ่างเลย ตอนนี้เหลือแต่เตรียมเอกสารให้ดีเท่านั้น ถ้าผ่านแล้วจะมาตั้งกระทู้บอกนะค่ะ ของเรากว่าจะไปตั้งเมษาหน้านู้นนน แต่ยังไงก็ก่ะจะขอตั้งแต่ต้นมกราคะ กันเกิดเหตุไม่ขาดฝันขึ้นจะได้เตรียมแผนสองทัน อิอิ จากคุณ : purelight เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 19:49:53

ความคิดเห็นที่ 20 เราเพิ่งไปขอวีซ่าฝรั่งเศสมาตอนแรกจองโรงแรมจาก booking.com แบบไม่มีการตัดเงินผ่านบัตรเครดิตและสามารถยกเลิกได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แล้วพริ้นท์ในยืนยันจากเวปไปยื่น แต่สถานฑูตขอเอกสารการจ่ายเงินค่าโรงแรมเพิ่มค่ะ เราเลยส่งเมลไปขอใบยืนยันการจองห้องจากโรงแรม แต่ส่งไป10 แห่ง ได้กลับมาแค่ 3 แห่งค่ะ เลยตัดสินใจจองโรงแรมใหม่แบบตัดบัตรเครดิตทันที แล้วพริ้นท์ใบยืนยันการจ่ายเงินจากอีเมลไปยื่นแทนค่ะ ตอนนี้ได้วีซ่ามานอนกอดแล้วค่ะ จากคุณ : ลูกหมูสี่ตา เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 20:18:36

ความคิดเห็นที่ 21 คุณSignorina-Moda : วีซ่า อิตาลี หรือ กรีซ นี่ บังคับไหมคะว่าต้องขอล่วงหน้าก่อนเดินทางกี่เดือน ตั้งใจจะไป  เม.ย. ถึง ก.ค. เหมือนกันคะ สิ้นปี เข้าใจว่าแพงจึงไม่สามารถคะ แหะๆขออภัยคะ ขอถามเพิ่มเติมได้ไหมคะ  อิตาลี และ กรีซ โลว์ซีซัน แต่อากาศเย็นๆนี่คือช่วงเดือนไหนบ้างคะ(จะหาตั๋วถูกๆ หรือทริปถูกๆคะ) ขอบคุณ คุณลูกหมูสี่ตา ที่มาแชร์คะ ได้ประสบการร์เพิ่มซึ่งดีกับเรามากมาย จากคุณ : จขกท (แมวปัง) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 20:36:23

ความคิดเห็นที่ 22 ผมขอขอบคุณ ที่ใ้ห้ความรู้แม่ผมครับ และจะมาเล่าให้ฟังจนกว่้าีจะได้ไปเที่ยวครับ แมวปังตัวจริง จากคุณ : จขกท (แมวปัง) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 20:50:52

ความคิดเห็นที่ 23 ตอบ คุณ   จขกท (แมวปัง)    น่ะค่ะ   ช่วงระยะเวลาในการขอวีซ่า ไม่แน่ใจว่า  1 เดือน ก่อน เวลาเดินทางจริง เพราะไม่แน่ใจว่า ตอนโทรไปจอง เวลาการยื่นวีซ่า ทางเจ้าหน้าที่จะเปิด ให้ จองเวลาหรือเปล่าน่ะค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่จะยื่นวีซ่า 1 เดือน ก่อน เวลาเดินทางจริง น่ะค่ะ   แต่ว่าหากต้องการเดินทาง ช่วงเวลา เม.ย. - ก.ค.  นั้น ซึ่งเป็นเวลาหยุดยาวของไทย   ฉะนั้น คุณแมวปัง  โทรไปจอง วันยื่นวีซ่าได้ สักประมาณ วันที่ 25 Jan เลยค่ะ เพื่อ ขอยื่นวีซ่า วันวันที่ 1 มีนา หรือ  เดือนธันวาคม ซักกลางเดือน โทรไปจอง วันยื่นวีซ่า วันที่ 1 กุมภา เลยค่ะ ทั้งหมด ทั้ง มวล หาก เจ้าหน้าที่ Call Centre ไม่อนุญาต ให้ จอง ทางเจ้าหน้าที่อาจจะถามว่า ต้องการเดินทางวันไหน ทางเจ้าหน้าที่ อาจ จะ บอก วัน ที่โทร มาจองกับทางเจ้าหน้าที่อีกที น่ะค่ะ แต่ ยังไง แล้ว คุณแมวปังก็โทรไปก่อน ที่ทางเจ้าหน้าที่ แนะนำ ก็ได้ค่ะ เพื่อ จะได้วัน ที่เรา สะดวก ก่อนใคร หรือ จะ ลอง ยื่น วีซ่า เดือน กุมภา คุณก็ลองโทรไปจองวันยื่นวีซ่า เดือน ธันา ค่ะ ลองดู **** เพราะหากวีซ่าไม่ผ่าน จะเว้นวรรคไป  2 weeks ไม่แน่ใจน่ะค่ะ แล้ว ค่อยยื่นไหม น่ะค่ะ ช่วง เม.ย. -  ก.ค.  หยุดยาวไทย ตั๋วแพง แต่ ที่นี่ อากาศ พอดี low season ที่นี่ 1. ค่าตั๋วแพง ตามที่ เช๊ค ของ qartar  ปกติ ใช้ สายการบินนี้น่ะค่ะ เพราะถูก ราคา ไปกลับ น่าจะ 40,xxx bth   แต่ หาก ไม่ worry อะไร ก็  ตามนั้น ค่ะ  ลอง check ดู หลายๆ สายการบนน่ะค่ะ ( โดย ปกติ จะใช้ของ การ์ต้า ค่ะ ส่วนใหญ่ เพราะ ราคา จะถูกกว่า สายการบิน อื่นๆ ประมาณ 3- 4,000 บาท หากเราได้วีซ่า เร็ว การจองตั๋ว ผ่าน Internet website ของ Qartar เอง ราคาก็ จะถูกกว่า ซื้อผ่าน agent น่ะค่ะ   อีกทั้ง หาก คุณแมวปัง plan จะมา ลงเครื่อง ที่ อิตาลี่ หมายถึง กรุงเทพ โรม หรือ กรุงเทพ มิลาน และ ขากลับ จะ กลับ จาก อิตาลี่-กรุงเทพ  หรือ อย่างไร ค่ะ เห็น ว่า จะไปเที่ยว กรีซ ด้วย เพราะ หากเช่นนี้ การแจ้ง แผน การเดินทาง การจองตั๋ว เครื่องบินต้องสัมพันธ์กัน น่ะค่ะ   เช่น หากเป็นการดีมาก ควร แนบ แผนการเดินทาง หรือ แผนการเที่ยว ของคุณ แมวปัง ไปด้วยน่ะค่ะ ในการยื่นของวีซ่า  เช่น วันที่ xx April 2013 arrival BKK- MXP(Malpenza Airport) stay at....Hotel Date xx April - xx April 2013 stay in Milan xx APril - April go to Rome xx APril - April go to Venich xx April - x April go to Greesce  stay at xxx Hotel. xx April - xx April stay at .....Hotel... xx April - xx April go to xxxx stay at .... xx April - April go back to Thailand ( ATH - BKK ) ฉะนั้น ตั๋ว เครื่องบิน โรงแรม ที่พัก ควรสอดคล้องกันน่ะค่ะ ช่วง เม.ย. - ก.ค.  อากาศเริ่มอุ่น ค่ะ น่าจะประมาณ 10'c - 20'c แล้วแต่เมือง แต่ก็จะประมาณนี้   หากเดินทางหลายเมือง สิ่งที่น่ากังวล คงเป็ฯกระเป๋าเดินทางที่หนัก ที่ต้องแบก น่ะค่ะ  การเดินทาง ระหว่างเมือง ใช้ รถไฟ เครื่องบิน low cost ในประเทศได้ ค่ะ แต่ การเดินทาง ระหว่าง ตัวเมืองไป สถานบิน low cost ก็ โหด ดีเหมือนกันน่ะค่ะ *** เพิ่มเติมน่ะค่ะ  ไม่แน่ใจว่า ณ ตอนนี้ บางคนที่ขอวีซ่าเชงเก้นของอิตาลี่ หลังจากกลับมาแล้ว ยังต้องไปรายงานตัวที่สถานฑูตหรือเปล่าน่ะค่ะ  หมายถึงว่า หลังจากกลับมาจากอิตาลี่แล้ว ต้องนำ passport พร้อมกับเจ้าของ passport ไปแสดงตัวของสถานฑูต อีกครั้งหรือเปล่าน่ะค่ะ **** แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 55 01:51:31 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 55 21:48:44 จากคุณ : Signorina-Moda เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 21:27:07

ความคิดเห็นที่ 24 แง๊วววววววววว คุณSignorina-Moda 10-20'C ยังหนาวมากกกก อยู่เลยเนอะคะ ขอบคุณมากๆที่สละเวลาคะมาตอบ ที่จริงๆไม่ได้จะเที่ยว 2 ประเทศหรอกคะ ตั้งใจเที่ยวแบบเจาะลึก คืออิตาลี ไปเลย กับ กรีซไปเลยอ่ะคะ แต่สุดแต่จะซื้อตั๋วที่ใดได้ถูกกว่ากัน หรือ เจอโปรโมชั่น ฟ้าดินเป็นใจ จขกท ไปได้ตลอดขอเพียงอากาศไม่ร้อน เป็นช่วง ตั๋วกับ โรงแรมถูก ก็พอ เพราะไม่งั้นต้องเดินเหงื่อท่วมเหมือน ฮองกง มาเก๊า สิงค์โปรแน่ๆเลยคะ ยิ่งสิงค์โปร์นะคะ เหนียวไปหมดทั้งตัวเลยคะ ร้อนแบบไม่ระบายเลยคะ เหงื่อไม่ระเหย เป็น2ประเทศที่ใฝ่ฝันมาก ฝันมาตั้งแต่อายุ 15 แล้วคะ ต้องไปให้ได้ เงินที่จะไปก็มาจากการเก็บหอมรอมริบ จึงต้องรบกวน เพื่อนๆทุกท่าน T_T แบบนี้แหละคะ เพราะบริษัทรับยื่นวีซ่า คิดราคาเป็นหมื่นเลยทีเดียว เคยอ่านเจอใน Pantip คะ ว่า มี ท่านกงศุล(ประเทศอะไร จำไม่ได้) ถามคนสัมภาษณ์ว่า มีเงินเก็บแค่นี้ จะใช้ทั้งหมดไปเที่ยวประเทศเค้ามันคุ้มหรอ ถ้าเป็นเราๆคงตอบว่า คุ้มค่าทุกบาทคะ ^_^ แต่แบบนี้กวน ไหมคะ จากคุณ : จขกท (แมวปัง) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 08:08:45

ความคิดเห็นที่ 25 ตอบคุณแมวปังน่ะค่   จากอุณภูมิ ก็ าจจะมากกว่านี้ หาก อยู่ที่ โรม มิลาน อากาศ จะประมาณนี้ ค่ะ อาจมากประมาณ 24'c - 25'c หาก เข้าใกล้ ก.ค. ส.ค. เพราะ ใกล้ๆ ก.ค. - ส.ค.  เป็นช่วงฤดูร้อนของที่นี่  คนอิตาเลี่ยน ออกเที่ยวเยอะมาก โรงแรมของแพงขึ้นหน่อยน่ะค่ะ  อากาศ จะ ร้อนสูงไปจนถึง 35- 39'c ยังไง คงช่วง april - June คง เป็นช่วงที่ดีที่สุดของการมาเที่ยวอิตาลี่ค่ะ เพราะอากาศดี ใส่เสื้อหนาวแบบบ้านเราก็ได้ค่ะ ไม่หนามาก แค่ เหมือน Jacket ก็ ได้ค่ะ หรือบางวัน Cardigan ก็ ได้ค่ะ ส่วนค่าโรงแรมคงต้องหาแบบว่า booking.com ก็ โอเค น่ะค่ะ แต่ว่า คงต้องหาแบบ รวม Breakfast ด้วยก็ดีน่ะค่ะ เพราะ จะได้ประหยัดอาหารเช้า ( ทานเยอะๆ) ส่วนเที่ยง กับเย็น ก็ แล้วแต่จะหารับประทาน เที่ยง ที่มี มี Kebeb Mc  ที่ โรม มิลาน น่ะค่ะ  ที่ เวนิส ฟรอเลน ไม่แน่ใจ ที่ โรม คงหาโรงแรม คงไม่ต้องใจกลางเมิืองก็ได้น่ะค่ะ อันนนี้แล้วแต่ หากชอบไม่ต้องเดินไกล แต่  หาก ได้ราคา ลดลงมาหน่อย หา แบบใกล้ๆ subway ค่ะ แบบว่า เดินทางไปไหน ก็ใช้ subway เอาน่ะค่ะ ( ที่ โรม จะมี 1 day ticket ค่ะ น่าจะ ประมาณ 7eu สามารถ ใช้นั่ง subway ตลอดทั้งวันได้   ที่ โรม อาจใช้เวลา 2-3 วัน ในการเดินดู น่ะค่ะ ถ้า เข้า วาติกันด้วย ล่อไปเลย 1 วัน เพราะ คงต้องไปต่อแถว แต่เช้า เพื่อเข้าดูพิพิธภัน ในวาติกัน เพราะคนเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   ส่วน มิลาน ก็ ปกติ ถ้า ชอบ งานศิลป ก็ อยูได้ 3-4 วัน ค่ะ  แล้ว เดินทาง 1 วัน ใช้รถไฟ ไปเวนิส เพราะเวนิส เดินเที่ยว 1 วันก็พอค่ะ หรือ อยากไป นอน ที่ เวนิส ตื่นเช้ามาดู บรรยากาศ เวนิส ก็ ได้ค่ะ อีก ฟรอเล้น กับ Pisa ก็ นั่งรถไฟ ไปเที่ยวได้ค่ะ ไป กลับ ภายใน 1 วัน ได้ค่ะ อาหาร การกิน อาหารเช้า ตัดไป หากจองโรงแรม ที่รวม อาหารเช้าด้วย อาหารเที่ยง คนที่ ทานใจร้านอาหารค่ะ บางทีจะเห็น buffet บ้าง 7 eu แตว่าจะออกแนว ผักต้ม พาสต้า พิซซ่า  ส่วนจะ จ่ายเป็น จานเลย อาจจะอยู่ที่ 10 eu + water 3 eu + service 1 eu/person   อาหารที่นี่จะ เหมารวมเป็ฯ course ค่ะ มี soup or pasta or spagetti เป็น ออร์เดิฟ ส่วน main cource จะเป็น สเต๊กเนื้อ สเต๊กปลา  แล้ว ตามด้วย ของหวาน หากเมืองท่องเที่ยว ร้านอาหารแบบธรรมดาก็อาจจะประมาณ 18 eu/ person   ส่วนอาหารเย็น ก็ จะคล้ายๆกันกับ อาหารเที่ยงค่ะ มีเป็น course ๆ ค่ะ   หรือ จะหาร้าน pizza ทานก็ได้ค่ะ ราคา pizza ต่ำสุด ก็น่าจะประมาณ 6.5 eu or 5.5 eu เป็น pizza magarita หรือ พิซว่าหน้าแฮมราดซอสมะเขือเทศและมอซซาเลนร่า ซีส ซีส เหนี่ยวๆๆ ดึ๋งๆ อ่ะค่ะ  (อร่อยมาก อันนี้ชอบส่วนตัว ) ขนาด pizza จะประมาณ เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ฟุต หนาประมาณ 3มิล ค่ะ แรกๆ คิดว่ากินไม่หมด แต่ สุดท้ายก็หมด ค่ะ เพราะอร่อย และชอบ สำหรับคนที่ไม่ชอบ แอบพก มาม่า หรือ ของกิน ของไทยไปด้วยก็ได้น่ะค่ะ  แบบ ใส่น้ำร้อนกิน หรือ พก กาแฟแบบซอง เนสกาแฟ สำหรับคนที่ต้องทานกาแฟแบบไทย ที่นี่ไม่มี ครีมเทียม ก็ อะไรแบบไทยน่ะค่ะ มีแต่ กาแฟดำ ถ้วยเล็กๆ จะผสม นม ผสม wine องุ่น ก็ ตามใจ หากคิดว่าทั้ง trip จะทานอาหารอิตาเลี่ยนให้ ตายกันไปเลยก็ไม่ต้องกังวลค่ะ ส่วนหากยังคิดถึงอาหารไทยบ้างบางมื้อ ก็พก มาม่า หรือ อะไร ของไทยไปบ้างแก้เหงา ค่ะ หวังว่าคงเป็นประโยชน์น่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 55 16:29:55 จากคุณ : Signorina-Moda เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 16:25:29

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณ คุณSignorina-Moda และ คุณBeen there, done that! เป็นอย่างมากที่สละเวลา รบกวนเก็บกระทู้นี้ไว้ในคลังกระทู้ หน่อยนะคะ ตั้งใจว่า หากปีหน้าไม่ติดขัดเรื่องการเงินก็จะไปแน่นอนคะ คงจะเริ่มดำเนินการขอวีซ่าในปีหน้าคะ ดังนั้นจะมาupdate เรื่อยๆ หากเหงาๆแวะเข้ามาดูหน่อยนะคะ สิงหา กค 35- 39'c คงไม่ไหว ขอบคุณมากคะ คงต้องไปช่วง april - June แทน จากคุณ : จขกท (แมวปัง) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 22:17:20

ความคิดเห็นที่ 27 คุณแมงปัง หน้าเที่ยวยุโรป คือ หน้าฤดูใบไม้ผลิ (หน้า Spring) เดือนเมษา, พฤษภา, มิถุนา และ หน้าฤดูใบไม้ร่วง (หน้า Autumn/Fall) เดือนกันยา, ตุลา, พฤศจิกา ค่ะ ส่วนเดือนที่ไม่น่าเที่ยวยุโรปคือ หน้าร้อน โดยเฉพาะเดือนสิงหาทั้งเดือน และ หน้าหนาวเดือนมกรา, กุมภาค่ะ เดือนธันวาโอเคค่ะ ไปดูไฟ ไปดูการตกแต่งหน้าร้าน ตกแต่งบ้านเมืองสำหรับเทศกาลคริสต์มาสได้ หรือ ไปช่วงเซลล์ หรือ ถ้าอยากไปเล่นสกีก็ต้องไปหน้าหนาวอ่าค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าจุดประสงค์ของการไปคืออะไร ___________________________ ลืมบอกน้อง purelight ไปว่า เงินโบนัส กับ เงินที่คุณแม่ของสามีของคุณจะให้สมทบทุนเที่ยว ทั้งสองเงินนี้ ขอให้มีหลักฐานในการโอนนะคะ แล้วแสดงหลักฐานแนบส่งไปด้วยค่ะ เช่นถ้าเงินโบนัสนี้มีระบุในสลิปเงิน เดือน ก็ให้ถ่ายเอกสารสลิปเงินเดือนแนบไปนะคะ ส่วนเงินที่คุณแม่จะให้ ก็ไปโอนที่ธนาคารโดยมีสลิปโอน ระบุว่า มาจากบัญชีของคุณแม่ ให้ใส่ชื่อคุณแม่เป็นผู้โอน และถ่ายเอกสารใบโอนแนบไปด้วยค่ะ และให้คุณแม่เขียนจดหมาย แนบไป สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาพาสปอร์ตของคุณแม่แนบไป นามบัตรคุณแม่ หรือ ถ้าคุณแม่เป็นข้าราชการ ให้แนบสำเนาบัตรประจำตัวส่งไปค่ะ ให้คุณแม่บอกในจดหมายถึงสถานทูตว่าเป็นคนให้เงินให้สมทบทุนเที่ยว เป็นของขวัญค่ะ ฟังดูยุ่งยากนิดนึง เตรียมเอกสารจุกจิกนิดนึง แต่รับรองค่ะ ว่าถ้าเตรียมแบบนี้ คือดักไว้แล้วทุกทาง ปลิ้นข้อมูล ให้สถานทูตดูให้หมดโดยการเตรียมเอกสารอย่างรัดกุมรอบคอบค่ะ รับรองว่าเขาจะไม่มีคำถามใดๆทั้งสิ้น คือต้องทำให้ทางสถานทูตสามารถพิจารณาจากเอกสารต่างๆ ที่สอดคล้องกัน และ ตรงไปตรงมาหน่ะค่ะ วีซ่าถึงจะผ่าน เพราะเราแสดงให้เขาเห็นถึงความตั้งใจจริงนะคะ _________________________ ก่อนจะไปเที่ยวไหนก็แล้วแต่ นอกจากเช็คสภาพอากาศของในแต่ละฤดูแล้ว ขอให้เช็ควันหยุดราชการของประเทศนั้นๆ ด้วยนะคะ เพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชนค่ะ และ ถ้าไปตรงกับหน้าที่คนมากมายแห่ไปเที่ยวกัน ทุกๆ อย่างจะแพงนะคะ โดยเฉพาะค่าที่พัก และ แย่งกันกิน แย่งกันอยู่ แย่งกันเดินทาง สนามบิน สถานีรถไฟ ถนนหนทาง สถานที่เที่ยว ต่างๆ จะเต็มไปด้วยผู้คนนะคะ หรือ โรงแรมอาจจะเต็ม หรือ หาตั๋วรถไฟไม่ได้ หาตั๋วเครื่องบินไม่ได้ หรือถ้าได้ ก็จะได้ของแพงหน่ะค่ะ จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 01:10:51 A:202.156.9.10 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 28 ฮ่าๆๆ แมวปังนะคะ ไม่ใช่แมงปัง กดแป้นพลาดค่ะ แมวปังนี่ คือแมวที่ชอบกินขนมปังเหรอคะ? จากคุณ : BTDT เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 01:12:11 A:202.156.9.10 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 29 คุณBeen there, done that!  แมวปัง คือ แมวที่วัดที่เราเอาเลี้ยงไว้คะ ตั้งชื่อขนมปัง แต่มันยาวไป เลยเรียก ปัง เฉยๆ คะ และ ^_^ ใช่คะ มันชอบขนมปัง แต่กินไม่ได้คะ เพราะขนมปังมันนิ่มเหนียว ฟันแมวเคี้ยวไม่ได้คะ เลยเลียเฉยๆคะ อิอิ จากคุณ : จขกท (แมวปัง) เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 10:17:03

ความคิดเห็นที่ 30 เหมียวๆ แมวปัง ไม่มีขนมปังมาฝาก แต่เอากระทู้มาฝาก เชิญแม่แมวปังเข้าไปอ่านด้วยนะจ๊ะ เอาไว้เป็นกรณีศึกษาค่ะ หรืออ่านเพื่อเตรียมไปซ้อมรบ ออกศึก ขอวีซ่า http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H12912659/H12912659.html จากคุณ : BTDT เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 02:37:00 A:202.156.9.10 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 31 แง๊ววว เซฟเข้าคลังกระทู้ จากคุณ : จขกท (แมวปัง) เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 18:46:50