ความคิดเห็นที่ 1 เค้าก็ไม่ยอมคุย บางคนก็ไม่เป็นมิตร แต่ แอ่น แอน แอ๊น พระเอกของเราก็ปรากฎ .. สวัสดีครับ ..ว้าว หล่อวุ้ย จริงๆ เค้าก็พูดภาษาปะกิตแค่ hello แค่นั้นแหละเสียงก็กระชาก ๆ อีกต่างหาก ดูเถื่อนๆ ไงก็ไม่รู้เนอะ ไอ้เราก็แอบดีใจเล็กๆ ตอนนั้นไม่ได้คิดเชิงชู้สาวเลยนะ ก็แค่อยากมีเพื่อนก็เท่านั้น วันนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แฮ่มวันต่อมาดิ รู้สึกว่า เอ เหมือนถูกจับตามองอยู่ พอเราหันไปดู ก็ไม่เห็นเจอใคร(ตอนนั่งฟังเลคเชอร์ ห้องมันเล็กคนเรียนก็แค่ 12 คนเอง) อ้าว เอาแล้วสิ จะได้เรื่องก็คราวนี้แหละ พอหันไปอีกที พ่อหนุ่มน้อยหน้ามนแอบมองเราอยู่ เล่นเอาเราฟังเลคเชอร์ไม่รู้เรื่องเลย จริงจริงแล้วฟังไม่ค่อยออกต่างหาก ขออธิบายพ่อหนุ่มน้อยของเราหน่อยนะ ก็ไม่ได้สูงล่ำล้ำนายแบบหรอก แต่ก็สูงใช้ได้ หน้าตาคมๆ หล่อแบบขนๆน่ะ แต่ก็ดูสะอาด ไม่ค่อยคุยกะเพื่อนเท่าไหร่(แล้วมาคุกะเราทำไมฟ่ะ เข้าข้างตัวเองนิดนึง) พอเจอกันในห้องเลคเชอร์หลายหนเข้าก็ เฮ้อ ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ในใจคิด ชั้นรออยู่น่ะเฟ้ย แบบว่าตอนนั้นมันเหงาอยากมีเพื่อน เรียนแลปด้วยกันก็คุยบ้างนิดหน่อย ส่วนมากเค้าจะแอบเหล่นิดๆ ไอ้เราน่ะหรือสาวไทยใจห้าวหาญอยากมองชั้นก็มอง ยิ้มให้อีกต่างหาก เล่นเอาพ่อหนุ่มอายไปเลย จากคุณ : tassi - [ 1 ส.ค. 46 11:11:23 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เห็นจากภาษาอังกฤษห่วยถึงห่วยที่สุดก็เลยต้องทำรายงายเล่มใหญ่ เพื่อดูว่าจะทำได้ไม๊ มีปัญญาเรียนจนจบไม๊ ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานตั้งแต่เช้ายันค่ำทุกๆวัน กินไม่ได้นอนไม่หลับ โทรมมากกก ปรกติดูไม่ได้อยู่แล้ว นี่ไม่ต้องพูดถึงเลย แล้ววันเสาร์ที่สดใสวันหนึ่ง(ขออมยิ้มก่อนนะนึกแล้วก็หวานซะ) เราก็ไปทำงานก็งานมันเยอะ วันเสาร์ วันเส้ว อะไรก็ไม่สนต้องรีบปั่นงาน ตอนนั้นยังไม่มีคอมก็เลยต้องไปใช้ในห้องคอมรวม สวรรค์ช่างเป็นใจ เราก็ไปตั้งกะเช้านั่งริมหน้าต่างเลย กะว่าได้ชมวิวอาบแดดแค่ริมหน้าต่างก็ยังดีวะ พอสายหน่อยพระเอกของเราก็มา คนอะไรช่างให้ความหวังที่นั่งมีตั้งเยอะ ทำไมต้องเลือกนั่งใกล้ชั้นด้วยนี่ คนกะลังรีบๆอยู่ ก็คุยและทักทายกันใหญ่ พอซักเที่ยงเค้าก็จะกลับแล้วเค้าก็เปิดประเด็น “วันนี้อากาศดีเนอะ ดูดิด้านนอกแสดแจ่มแจ๋เลย ว้า แล้วเราต้องมานั่งทำงานเนี่ย แย่จังนะ” แหมเชยจังนะพ่อคุณ “อืม น่าเบื่อ แต่งานวันเยอะนี่ ต้องรีบทำให้เสร็จ” อารมณ์โรแมนติกไม่มีเลย ช่วงนั่นต่อมชื่นมื่นเสื่อมมาก “ถ้า เราจะพักซักแป๊บ ออกไปเดินเล่นก็คงจะดีนะ” มองหน้าเราแบบอ้อนวอนเล็กๆ “อืม ไม่รู้ซิ งานยังไม่ไปถึงไหนเลย” อย่ามายุ่งตูจะรีบปั่นงาน “ออกไปแค่ ชั่วโมงเองนะ เดินไปชายหาด ใกล้ๆ นี่เอง พักมั่ง แล้วค่อยกลับมาทำงานต่อ นะ” อ้อนสุดขีด ปรกติแล้วเป็นคนชอบตามใจคน เห็นแกอยากไปซะขนาดนั้นก็เลย เอ้า ไปก็ไป ในใจคิดว่า อะไรฟ่ะ เดินไปเองไม่ได้หรือไง แดดก็แจ่มขนากนี้ มาเมืองนอกได้พักแล้ว สีชั้นยังไม่ตกเลย ดำดีดำดูดมาก แล้วก็ตกลงปลงใจ ไปกะเค้า อย่าว่าใจง่ายนะคะ ก็แค่เดินไป beachใกล้ๆ ตอนกลางวันแสกๆ แต่งตัวรัดกุม ชั้นเดินไปก็เอาแขนแอบไว้ข้างหลัง เค้าก็ถามยูเป็นไรน่ะ “แดดมันร้อนนะซิ(ฟ่ะ ถามได้) เดี๋ยวดำกว่านี้แค่นี้ก็เหมือนถ่านแล้ว” ก็แบบว่าผิวสีแทนน่ะ สีขาวไปสีดำมาแทน “ไม่เห็นดำเลย ผิวแบบนี้ซิสวยดี ดูดี” ชมเหรือเปล่าว้า ก็เดินคุยกัน ตอนเที่ยงวันแดดเปรี้ยงๆ นี่แหละ คุยกันไปก็เริ่มรู้สึกว่าเออ ตานี่ดีแฮะ พยายามเข้าใจเรื่องที่เราพูด ดูอดทนต่อภาษาอังกฤษสำเนียงไทยเรามากเลย แล้วก็ตั้งใจคุยกับเราถามนั่นถามนี่ ไอ้เราก็ดีใจมีเพื่อนแล้วจะได้ไม่เหงาอีก พอเดินถึงชายหาดก็นั่งคุยกันท่ามกลางแสงตะวันนวลผ่อง ไม่นกนางนวลติ๊งต๊องเดินวนไปเวียนมา เป็นหัวข้อในการสนทนา ชี้ชวนดูนกดูทะเล อื้ม นึกถึงแล้วซื่นจาย เราก็คุยกะเค้าแบบไม่ค่อยรู้ศัพท์เท่าไหร่ อาศัยวาดรูป แล้วก็แสดงท่าทางเอา เค้าคงนึกว่าคนไทยนี่ตลกดีนะ เพราะเห็นค้าหัวเราะกิ๊กกั๊กตลอดเลย ไอ้เราก็ได้ใจ ก็เลยทำตลกเข้าว่า ขำซะอุจจาระแตกแตน ลองนึกภาพตามนะ ชายหาดไม่ค่อยขาวออกสีตุ่นๆแบบทะเลเมืองนอก หาดกุดๆสั้นๆ แดดเปรี้ยงระเบิดระเบ้อ แต่มีลมที่ทำให้หนาวเป็นระยะๆ ไม่ได้ยินเสียงคลื่นเลย มีนกนางนวลเดินตะแตะ ส่งเสียงโวยวาย ดูเหมือนไม่มีอะไรดีเลยใช่ไม๊ แค่มิตรภาพไง มันเริ่มเกิดขึ้นในใจคนสองคน ต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา ต่างผิวพรรณ จากคุณ : tassi - [ 1 ส.ค. 46 11:13:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โพสดต่อซิคะ........... รออ่านอยู่เนี่ย.... จากคุณ : รองเท้ามะนาวเปรี้ยวๆ - [ 1 ส.ค. 46 13:44:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 รออ่านเหมือนกัน โพสต่อเร๊ววว จากคุณ : :) - [ 1 ส.ค. 46 13:54:06 A:203.145.3.2 X:203.145.13.13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อ้าว จบแล้วเหรอ ต่อสิ จากคุณ : แมวเหมียว (miaonz) - [ 1 ส.ค. 46 15:53:24 ]

ความคิดเห็นที่ 6 นั่นสิคะ ต่อเร้ววว อยากอ่านใจจะขาดแล้ว จากคุณ : MaRiMeKKo - [ 1 ส.ค. 46 21:36:09 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อยู่เมืองไหนเนี่ย? จากคุณ : peanut :) - [ 1 ส.ค. 46 22:31:18 ]

ความคิดเห็นที่ 8 heyyy c'monnn I'm waiting for the next "chapter"!! จากคุณ : Love - [ 1 ส.ค. 46 23:39:10 A:158.125.1.23 X:unknown ]

ความคิดเห็นที่ 9 มาช่วยเชียร์ด้วยคน จากคุณ : rachsc7 - [ 2 ส.ค. 46 00:05:26 ]

ความคิดเห็นที่ 10 Plz...I look forward to reading ....... จากคุณ : Gin_berry - [ 2 ส.ค. 46 00:35:28 ]

ความคิดเห็นที่ 11 จบแล้วเหรอค่ะ จากคุณ : ''_" (MRC) - [ 2 ส.ค. 46 04:55:47 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อย่าเพิ่งจบนะค่ะ กำลังเริ่มสนุกเลย จากคุณ : กระเป๋าอ้วน - [ 2 ส.ค. 46 14:15:42 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มาหลอกให้รอ ฮือ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : หมูหวาน - [ 2 ส.ค. 46 21:45:55 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขออภัยติดเสาร์อาทิตย์แต่มาต่อจนจบแล้วจ้า ขอเล่าตอนที่อยู่ชายหาดก่อนนะ พยายามหาเรื่องคุยจิปาถะไอ้เราก็เล่าให้เค้าฟังว่า ชั้นน่ะ มาตกปลาแถวๆนี่(นำเสนอความแก่นเซี้ยว) ได้ปลาหมึกด้วย เอแต่ ไอ้ปลาหมึกมันคืออะไรหว่า เราก็พยายามอธบายใหญ่โต ด้วยภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่น เค้าก็ไม่เข้าใจ ก็เลย เอ้า มา ทำไมยูถึงไม่รู้อีกว้า ก็เลยวาดรูปให้ดู เค้าก็บอก อ๋อ squid อ้าว หรอกเหรอ แล้วชั้นจะรู้ไม๊ล่ะ แล้วก็สอนว่าไอ้สควิดกับออกโทปุส มันต่างกันนะ เราก็พยักหน้าหงึกๆ อืม อืม แล้วเค้าก็บอกว่า แต่อยู่วาดรูปสวยดีนะ มีพรสวรรค์ ไอ้เราก็ได้แย่ยิ้มแหย แหย เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ดูเวลา อ้าวชั่วโมงกว่าแล้วนี่หว่า เริ่มห่วงงานแล้วซิ เริ่มหนาวแล้วด้วย เค้าเห็นเราเริ่มหลุกหลิกก็เลยชวนกลับ ระหว่างทางก็คุยกันไปเรื่อย เกี่ยวกับที่เที่ยวที่เมืองร้างอันเงียบสงัดแห่งนี้ แล้วก็ถึงที่จอดรถเค้า เค้าก็เลยชวนไปเดินเที่ยวตลาดนัดวันเสาร์ (อ้าว ชวนเดทซะแล้ว) เราก็ตกลงมันไม่มีอะไรเที่ยวมากนัก ห้างก็ไม่ใหญ่ ขนาดประมาณบิ๊กซี มีอยู่ที่สองที่อีกต่างหาก ไปเดทกะหนุ่มน้อยหน้ามนก็ดีแฮะ ก็เลยตกร่องปล่องชิ้น อ้าว ยังขอโทษใจน่ะ มันไปแล้ว เค้าก็อาสาจะไปรับที่บ้าน เราก็แหมเกรงใจบอกชั้นนั่งรถเมล์ไปก็ได้ (จริงจริงอยากให้ถามอีกสักที แล้วชั้นจะไปด้วยนะ เค้าก็ไม่ถาม ประมาณว่าถามแล้วถามเลย อยากให้ไปรับต้องบอกทันทีนะ ฝรั่งไม่ชอบถามรอบสอง ไม่คือไม่) โอเค แม่ใหญ่สอน เจอกันสิบโมงเช้า หน้าเวทีหมอลำซิ่งนะจ๊ะ พ่อหนุ่ม ขอสารภาพเลยนะว่าแอบรอวันเสาร์อยู่เหมือนกัน(อ้างว่าเหงาอีกตามเคย) และแล้ววันที่ตั้งตารอก็มาถึง รถเมล์ที่เมืองนี้ก็นะ ช่างห่างซะเหลือเกิน ยิ่งวันหยุดด้วยนะ ชั่วโมงละคัน บางทีสองสามชั่วโมงมาคัน กว่าจะไปถึงที่นัดหมายก็สิบโมงกว่าเข้าไปแล้ว วิ่งกระหื่นกระหาย เฮ้ย ไม่ใช่ กระหืดกระหอบไปข้างเวทีหมอลำซิ่ง (วงดนตรีเปิดหมวก เล่นดนตรีเพราะมาก) จากคุณ : tassi - [ 3 ส.ค. 46 09:48:27 ]

ความคิดเห็นที่ 15 พอใกล้ถึงที่ที่นัดกันไว้ ก็มีเบาฝีเท้าแล้วก็ค่อยๆแอบมองหา เชื่อไม๊คุณ เหมือนมีแสงส่องสว่างเป็นประกายออกมาจากตัวเค้าเลย แล้วก็เห็นรอยยิ้มของเค้ามาแต่ไกลเลย ‘ยิ้มน่ารักจังวุ้ย’ วันเสาร์ที่เดทกันก็เป็นวันที่สดใสมาก แดดแจ่มๆ ไม่หนาว ไม่ร้อน สวรรค์เป็นใจอีกแล้ว วันนี้คนเยอะจังแฮะ เบียดเสียดยัดเยียด ชนคนนั้นคนนี้ เค้าก็เลยจับมือไว้กันหลง แล้วก็ช่วยกันคนให้ ‘อุ้ย มือนิ่มจัง มือผู้ชายอะไรเนี่ย นิ่มกว่ามือชั้นอีก เอ หรือว่า อืม คงไม่หรอก ออกจะแม้นแมน ’ ก็แค่เดินจูงมือน่ะ ไอ้เราก็ไม่ใช่วัยรุ่นจะเขินอายก็ไม่เหมาะ ก็เลยเลยตามเลย เดินจูงมือกันชี้ชวนดูนั่นดูนี้ ทั้งต้นละหมากรากไม้ ของกิน เสื้อผ้า แต่ไม่ได้อะไรซักชิ้นเลย ข้าวก็ไม่มีตกถึงท้อง แต่มันอิ่มๆ ยังไงไม่รู้ รู้สึกว่ามันร้อนผ่าวๆ เขินๆ ขัดๆ ใจก็เต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ เฮ้อ ทำไมต้องทำให้ชั้นหวั่นไหวด้วยน้า เดินกันจนเหนื่อย แข้งขาซักจะไม่ไหว คนแกก็อย่างงี้แหละ ก็เลยชวนกันกลับ เค้าก็ชวนไปเที่ยวชายหาดอีกที่ไม่ไกลจากจากเมืองนัก จริงจริงแล้วก็อยู่ชานเมืองนั่นแหละ โอเค มาด้วยกันไปด้วยกันอยู่แล้วไปไหนก็ไป แต่ก่อนไปชายหาดก็และกินไอติมที่ร้านไอติมที่อร่อยมากมากข้างๆตลาดนัด ซื้อเป็นกรวยมานั่งกินกันที่สวนสาธารณะ ทำยังกะวัยรุ่น แหววเชียว ขอบอกว่าเนื่องจากเราเป็นหญิงมั่นหิ้วของเองตลอด ไม่เคยเอ่ยขอความช่วยเหลือจากแฟน(เก่า)เลย ก็เลยต้องปล่อยแบกของทุกอย่างเองตลอดเป็นยายเพิ้งสมกะที่ปากหนักดีนัก วันนี้ก็เดินแบกเป้ใบโตเหมือนเคย (สงสัยชาติก่อนเป็นเต่า เวลาเดินต้องแบกเป้ไปด้วยตลอด) ด้วยความว่าชินกะการทำอะไรด้วยตัวเอง เค้าขอช่วยถือ ก็บอกไม่เป็นไร(ไม่เป็นไรจริง ถือเองได้ ไม่หนักมาก) แต่เค้าก็ถามอยู่นั่นแหละขอช่วยถือ เราก็บอกไม่เป็นไร(โว้ย) จนเค้าบอกว่า ให้เค้าช่วยเถอะขอร้อง เค้ารู้สึกละอายใจ ถ้าไม่ได้ช่วย อาจเป็นเพราะเค้าช่วยถือของให้ก็เลยประทับใจ อย่างว่างั้นงี้เลย ถึงเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่มันก็ประทับใจน่ะ จากคุณ : tassi - [ 3 ส.ค. 46 09:49:37 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ชายหาดที่มาก็ไม่ใกล้ไม่ไกล แต่ถ้าเดินก็เกือบชั่วโมงเหมือนกัน ทางเข้าก็แสนจะโรแมนติก มีต้นไม้สองข้างทางเป็นซุ้มเหมือนอุโมง อยู่กันลำพังกะหนุ่มน้อยใต้ซุ้มต้นไม้นี่มันช่างแหววซะจริง ที่หาดนี้ก็ดันไม่ค่อยมีคนซะอีก ‘ถ้าเกิดอะไรไม่งามขึ้นมา เค้าร้องขอความช่วยเหลือขึ้นมา คงไม่มีใครมาช่วยเค้าหรอกนะ’ แอบวางแผนการในใจ ล้อเล่นน่ะ ชายหาดสีขาวทอดยาว ทะเลสวยมาก น้ำทะเลสีฟ้าอมเขียว ตัดกับท้องฟ้าที่ฟ้าสุดสุด ไม่มีเมฆเลย ลมก็ไม่แรง คนก็ไม่มี เหมือนทั้งทะเลนี่มีแค่คนสองคน เดินเล่นลัดเลาะหาดซักพักก็มองหาที่พัก จริงจริงแล้ว จะเป็นลมหิวข้าวจะแย่ อิ่มใจกันท้องมันโหวงเหวนี่แทนกันไม่ได้เลยน้า แล้วเราก็นั่งแหมะกันที่ริมหาดนี่แหละ นั่งกันเงียบๆ ฟังเสียงคลื่น ฟังเสียงลม ฟังเสียงหัวใจเต้น อืม ตั้งแต่จากเมืองไทยมา วันนี้ค่อยหายใจได้ทั่วทั้งใจหน่อย อากาศมันดีจังเลย เค้าก็มีอ้อนเล็กแบบว่า “เนี่ยปวดไหล่จังเลย” (เค้ารู้ว่าเราเรียนนวดที่วัดโพธิ์มา) เราก็ไม่ได้คิดจะล่วงเกินเค้าเลยนะ ก็นวดไหล่ให้เค้า ก็เท่านั้น แล้วเค้าก็ขอบคุณ นั่งอิงเราซะด้วย อุ้ย เขิลลลล จัง อยู่ที่ชายหาดกันพักใหญ่ก็ชวนกันกลับ แล้วเค้าก็ไปส่งที่บ้าน แวะกินน้ำกินท่า ประสาธรรมเนียมไทย ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ เครื่องดื่มมีเพียบ แต่พ่อขอดื่มน้ำส้มซะเนี่ย อนามัยมาก แล้วเรามีรูปที่เมืองไทยมาอวดเค้า ทั้งรูปตอนลุยๆ เฮี้ยวๆ เซอร์ๆ แต่ก็ไม่ถูกใจท่านเลย ไปประทับใจเอารูปที่ไม่ใช่เราเข้า ก็รูปที่แต่งหน้าทำกระบังซะน่าเกลียดเชียว เค้าก็บอกว่าสวยจัง น่ารักดี ขอรูปได้ไม๊(จะเอาไปทำอะไรฟ่ะ กันผีไม่ได้นา) เราไม่ได้ให้เค้าหรอกเพราะมีอยู่รูปเดียวเอง เดี๋ยวเอาไปตัดหัวตัดหน้าใส่ในอินเตอร์เนตล่ะแย่แน่ๆเลย เวอ่ร์ไปงั้นแหละ สรุปวันเสาร์สีชมพูก็ผ่านไปได้ด้วยดี มีการร่ำลากันนานกว่าได้ขึ้นรถได้ แหมว่าจะถามร่ำไรนัก อยากจะอยู่ด้วยกันซะเลยเอาไม๊ นี่แค่เริ่มต้นนะ กว่าจะถึงปัญหาอีกยาวเลย จากคุณ : tassi - [ 3 ส.ค. 46 09:50:17 ]

ความคิดเห็นที่ 17 หลังจากสานสัมพันธ์อันดีระหว่างตัวแทนทั้งสองทวีป(น่าจะเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศได้นะ) ในวันเสาร์แสนสุขผ่านไปได้ด้วยดี เวลาเจอกันก็ทักทาย แลกเบอร์โทรศัพท์ ส่งข้อความหากันเกือบทุกวัน เวลานั่งเรียนถ้านั่งใกล้กันล่ะก็ ไม่เป็นอันฟังคุณครูเลย พอดีช่วงแหววกันนั้นมันก็ใกล้กับวันเกิดเรา เราก็มีปาร์ตี้เล็กๆกับเพื่อนที่อยู่ห้องทำงานเดียวกัน เค้าไม่ได้มาด้วย วันเกิดคนอื่นๆก็เอาการ์ด เอาของมาให้ แต่พ่อหนุ่มเราซิ ลืมหรือเปล่าหว่า หรือว่าไม่สนใจ จนถึงตอนบ่ายแก่ๆ เจอเค้าที่หน้าห้องทำงานเราก็ทักทายกันเฉยๆ เฮ้อ กินแห้วซะแล้วม้าง “เดี๋ยวครับ อย่าเพิ่งไป วันนี้วันเกิดคุณผมมีของขวัญสำหรับคุณด้วย สุขสันต์วันเกิดครับ” หุหุหุหุห แปลเป็นไทยซะหวานเลย ถ้าเป็นภาษาประกิตจะไม่ค่อยหวานเท่าไหร่ แค่นี้เราก็ปลื้มซะ ห่อของขวัญสวยมากเลยสีเทา แม้น แมน ข้างในเป็นชอกโกเลตที่ดูดีมีชาติตระกูลน่ากินมาก อร่อยด้วย ขอบอกว่าป่านนี้ยังกินไม่หมดเลย ผ่านมาประมาณ 3 เดือนแล้ว กะว่าจะกินให้ถึงปีหน้าเลย ปลื้มจัด หลายวันต่อๆมา ก็เจอกันในห้องเรียนบ้าง ห้องคอมบ้าง ได้ก็ไม่ได้คุยกันนานนัก เราก็เห็นเค้าอุตส่าห์มีน้ำใจ แล้วก็เป็นหนึ่งในเพื่อนที่มีอยู่ไม่กี่คน ก็เลยชวนเค้าไปกินข้าวเย็นที่ร้านอาหารไทย เป็นเทคติกในการนำเสนออาหารไกลให้ไปได้ไกลระดับโลกด้วย นัดหมายกันดิบดีเย็นวันเสาร์หน้านะจ๊ะ (สงสัยจะถูกโฉลกกับวันเสาร์) จากคุณ : tassi - [ 3 ส.ค. 46 09:50:59 ]

ความคิดเห็นที่ 18 พอถึงวันเสาร์ตอนเช้าก็ใช้ชีวิตตามปกติ แต่เหลือบมองเวลาบ่อยขึ้นอีกหน่อย เมื่อไหร่มันจะถึงตอนเย็นซักกะทีน้า เริ่มบ่ายแก่ อิฉันก็เริ่มอาบน้ำแต่งตัว ทั้งๆที่ปกติก็ไม่ค่อยได้สนใจอาบน้ำนัก(สาวเซอร์) นัดกันไว้หกโมงครึ่งนี่นา ที่มันก็หกโมงครึ่งแล้ว ปกติฝรั่งเค้าไม่มาสายกันนี่นา เอาละวุ้ยสงสัยกินแห้วแน่เลย หกโมงสี่สิบห้าแล้วยังไม่มาอีก ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่าเป็นชุดอยู่บ้าน ไม่ไปก็ได้ฟ่ะ ไม่มาก็น่าจะบอกกัน ถ้าไม่อยากไปด้วยก็ไม่ต้องนัดดิ ฯลฯ บ่นกะตัวเองเป็นการใหญ่ เปลี่ยนเป็นกางเกงpolar bear แล้ว ก็ กริ๊งงงงงง เสียงกริ่งหน้าบ้าน เฮ้ยสงสัยมาแล้วแน่เลย วิ่งแจ้นไปเปิดประตู หนุ่มเกาหลี แคนไอซี . อ้าว ไม่ใช่ แห้วสลด แล้วก็กลับเข้าห้องแบบหงอยๆ ซักพักเพื่อนที่อยู่บ้านเดียวกัน มาเคาะประตูห้องบอกมีเพื่อนมาหา เย้ เย้ เย้ ไม่เป็นแม่สายบัวรอเก้อแล้ว “โหย นึกว่ายูจะไม่มาซะแล้ว” “อืม โทษทีครับ มาสายไปสิบนาที” “ไม่เป็นไรค่ะ” แค่มาก็ดีแล้ว จริงจริงแล้วบ้านเค้าอยู่ไกลจากบ้านเรามาก อยู่บนเขาโน่นแน่ะ พ่อหนุ่มน้อยใส่เสื้อยีนส์เท่มาเลย กรี๊ด ถูกใจจ้า เราก็ขอเปลี่ยนกางเกงหมีขั้วโลกออกก่อนนะ กระชากวัยเกินไปหน่อย จากคุณ : tassi - [ 3 ส.ค. 46 09:55:40 ]

ความคิดเห็นที่ 19 และแล้วคู่ตุนาหงัน(แอบฝันน่ะ) ก็ไปถึงร้านอาหารไทยร้านเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากบ้านซัก 20 นาทีขับรถถึง ร้านนี้คูหาเดียว ส่วนมากเน้นซื้อกลับบ้านมากกว่า มีโต๊ะว่างพอดี กินอะไรดีน้า ต้องสั่งอะไรที่เค้ากนแล้วต้องประทับใจแน่ๆ เอาต้มยำกุ้งดีกะไก่ผัดเม็ดมะม่วงก็แล้วกันต้องชอบแน่ๆ แต่เค้าบอกขอไก่ก็แล้วกันไม่เอากุ้ง โอเช ต้มยำไก่ กะไก่ผัดเม็ดมะม่วง กินไก่กันจนขันได้แน่ๆ ก่อนเริ่มมื้อใหญ่ขอเปิดด้วยปอเปี๊ยะทอดก่อนก็แล้วกัน อืม อย่างแรกผ่านไปได้ด้วยดี กินกันหนุบหนับ แล้วเมนูต่อมาต้มยำไก่กะไก่ผัดเม็ดมะม่วง พอเค้าซดต้มยำไปซู้ดหนึ่ง แต่นั่นแหละได้เรื่องเลย หน้า หู แดงเถือก กินต้มยำไปช้อนหนึ่ง พ่อล่อโค้กไปซะหมดขวดเลย พร้อมกับบ่นว่า “โหย เผ็ดโคดโคด” จริงแล้วสุภาพกว่านี้เยอะ แต่ดูท่าเค้าเผ็ดมากๆเลย เราก็เลยลองชิมดู ไม่เห็นจะเผ็ดเลย ทำไมอ่อนแอยังงี้หว่า แล้วจะปกป้องชั้นได้ไม๊เนี่ย พูดเล่นค่ะ ก็เข้าใจเค้า เค้าเป็นพวกเด็กวัยรุ่นฝรั่งกินอาหารฝรั่งจืดๆเต็มขั้น ก็เลยไม่ค่อยจะชินกะอาหารบ้านเรา ไอ้เราก็ขอโทษขอโพยเค้าใหญ่เลย เค้าก็บอกไม่ต้องขอโทษเค้าหรอก เพราะถ้าขอโทษเค้ามาก เค้ารู้สึกว่าเป็นความผิดเค้าที่กินเผ็ดไม่ได้ อ้าวเป็นงั้นไป “’ถ้างั้นลองผัดหน่อยนะ ไม่เผ็ดหรอก” “อื้ม อร่อยดีครับ ผมชอบ” เฮ้อ ถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างน้อยก็มีที่กินได้วะ แต่วันนั้นเพราะต้มยำช้อนเดียว พี่แกดื่มโค้กไปซะสามขวด นึกว่าจะพ่นไฟได้ซะแล้ว อิชั้นเลยต้องสำเร็จโทษต้มยำไก่คนเดียว มันก็อร่อยดีนี่หว่า จากคุณ : tassi - [ 3 ส.ค. 46 09:56:20 ]

ความคิดเห็นที่ 20 หลังจากมื้อค่ำผ่านไปได้ทั้งน้ำตา(เผ็ดจัด) ก็ได้ฤกษ์เคลื่อนขบวน ตอนแรกกะกันไว้ว่าจะไปแดนซ์กระจายกัน แต่ก็เปลี่ยนแผนไปนั่งคุยกันดีกว่า ที่บ้านอะฮั้นเอง ตอนเดินไปที่รถก็บอกเค้าว่าขอเดินไปทางนี้ได้ไม๊ อยากเดินดูร้านอื่นๆหน่อย. ‘อยากเดินนานๆ’.แล้วเราก็เดินจับมือชมเมืองกัน ลมแผ่วๆ กับเสียงดนตรีเปิดหมวกข้างทาง อยากเดินให้ถึงเมืองไทยเลย แต่โชคร้ายที่เมืองมันเล็กเดินแป๊บเดียวก็ถึงที่จอดรถซะแร้ว เร็วจัง เราก็บอกว่าวันนี้กินเยอะมากเลย อ้วนเป็นหมูเลย สงสัยต้องลดความอวบซะหน่อยแล้ว เค้าก็บอกว่า “ไม๊ ไม่ เลยฮ้า(เสริมเอง) ดูดีออก ไม่อ้วนเลย” เราก็เลยโชว์พุงซะเลย “นี่ไง พุงหลามเลย” ก็แค่ลูบพุงนะ อย่าคิดมาก เค้าก็บอก “ไหนดูดิ อื้ม ไม่หรอก เพอร์แฟค ผมชอบ” พร้อมเอื้อมมือมาจับพุง เฮ้ย ยังไม่ได้แขม่วเลย เดี๋ยวก็รู้ความลับชั้นหรอก เราก็เบี่ยงตัวหลบ แอบพุงก่อน ตอนนั้นเริ่มจะดึก ก็หนาวนิดหน่อย แต่เค้าไม่ได้หยิบแจ๊คเกตติดมือไปด้วย ตอนเดินกลับเค้าหนาวซะจนมือสั่นไปหมดเลย (สั่นอะไรน้า สั่นสู้หรือสั่นถอยกันแน่) จากคุณ : tassi - [ 3 ส.ค. 46 09:56:55 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ประมาณสองทุ่มที่บ้าน โชคดีที่บ้านเรามีวิวที่สวยมาก ถ้าคุณมาจะสามารถมองวิวของเมืองได้แบบพาโนราม่า กว้างมาก เวลาเซ็งๆ หรือกลุ้มใจก็จะมาที่ระเบียงสูดลมหายใจลึกๆ ก็จะดีขึ้นมาทันที เผอิญอีกนั่นแหละ คืนนั้นฟ้าเปิดดาวกระจ่างเต็มท้องฟ้า พระจันทร์มีอยู่ประมาณครึ่งดวง พอส่องแสงนวลใยเพิ่มดีกรีความโรแมนติก เราก็นั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่นที่ไม่ค่อยจะมีใครใช้ มีแต่เราครองอยู่คนเดียว ทุกอย่างดูจะราบรื่นนะ แต่ไอ้รุ่นน้องคนผู้ชายที่สนิทกัน มันก็ดันอยู่ในห้องนอนเราฟังเพลง ดูหนังไปตามเรื่องของมัน เค้าก็บอก “มีคนอยู่ในห้องยูหน่ะ” ประมาณถามว่าแฟนยูหรือเปล่าอะไรอย่างเนี่ย แต่เราก็บอกว่าเพื่อน ไม่มีอะไร แล้วก็เลยแนะนำให้รู้จัก โอ้ย งานนี้เค้าจะเข้าใจผิดหรือเปล่า เห็นเค้าทำหน้างงว่าทำไมต้องอยู่ในห้องเราด้วย ตอนนี้มืดมากแล้วประมาณสองทุ่มแต่มีแสงจันทร์เพิ่มบรรยากาศ เราก็เปิดไฟให้มันสว่างแต่มันก็สว่างมากซะจนไม่เห็นแสงจันทร์ ก็เลยเปิดแค่ไฟดวงเล็กๆ กะแสงจากโน้ตบุคเราเอง โรแมนติเป็นบ้าเลย เราก็เปิดรูปที่ถ่ายเล่นๆ มีรูปหนึ่งที่เค้าชอบมากเลย บอกส่งไปทางเมลให้เค้าหน่อย รูปที่เค้าชอบ มันเป็นรูปที่สวยด้วยโฟโต้ช็อบน่ะ ชอบแต่ละรูปนี่ไม่ใช่ชั้นเล้ย แล้วเราก็คุยกันทั้งสลัวๆนั่นแหละ ส่วนมากเราก็จะเล่าเกี่ยวกับเรื่องเมืองไทยที่ฉันรัก โม้ซะส่วนมาก เค้าก็นั่งฟังซักถามแสดงความสนใจ แล้วเค้าก็บอกว่าอยากเรียนภาษาไทย ให้ช่วยสอนหน่อย เราก็ตกลงเพราะเรามาเรียนต่อโดยพ่วงตำแหน่งทูตวัฒนธรรมมาด้วย ทางไหนที่จะสามารถเผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับไทยไทยล่ะ ก็ด้วยความเต็มใจ เหอะ ชั้นจะสอนแต่ พอมร้ากคุนนน ก้าก ก้าก กับ อาหร่อย จะได้พูดแต่คำที่เราอยากฟัง หลังจากสนทนาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมแล้วก็ถึงเวลาอันสมควรที่เค้าจะกลับบ้าน แล้วก็เลยออกไปดูวิวที่ระเบียงก่อนกลับ เค้าไม่ได้ใส่เสื้อกันหนาวก็เลยสั่นเป็นลูกหมาตกน้ำ ยืนดูวิวเมืองป่าช้า(เมืองมันเงียบง่ะ) อากาศเย็นๆ แต่อุ่นใจ เค้าก็ยืนโอบเราจากด้านหลัง ใกล้จนได้ยินเสียงหัวใจเต้น รู้สึกว่าจะตื่นเต้นไปหรือเปล่าย่ะ เสียงหัวใจเต้นตึก ตึก ดังยังกะรถไฟแน่ะ พร้อมด้วยเสียงถอนหายใจเป็นระยะๆ เราก็ถาม “แก เป็นอะไร หัวชั้นเหม็นเหรอไง” จริงจริง แล้วถามว่า”เป็นอะไร หนาวหรือเปล่า เข้าไปข้างในดีกว่านะ” เค้าก็บอกเปล่า ไม่มีอะไร แค่มีความสุขมากเท่านั้นเอง อ๋อออ จากคุณ : tassi - [ 3 ส.ค. 46 09:57:54 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แล้วคืนเสาร์ที่ไม่เศร้าก็ผ่านไปโดยติดตรึงอยู่ในความทรงจำแทบทุกๆนาที เฮ้อ มาเรียนซะไกลบ้าน ไกลครอบครัว ไกลเพื่อน อยู่แต่กะความเหงา ใต้แรงกดดันจากการเรียน มามีเรื่องกุ๊กกิ๊กอย่างนี้ค่อยชุ่มชื่นหัวใจหน่อย ยิ้มมมมมมม หลังจากเหตุการณ์ต่างๆที่ทำการประมวลผล ทำให้เราคิดว่าเค้าชอบเราแน่ๆ ความสัมพันธ์ของเราก็ดีขึ้นเรื่อยๆ มีการทักทายและเล่าสู่กันฟังมากขึ้น เวลาเค้ามีการแข่งกีฬาเล็กๆภายในคณะ เราก็ไปดูเค้าเล่น ดูแล้วก็ก๊องแก๊งๆ ไม่ค่อยเหมือนนักกีฬาเลย แต่เค้าก็ทำแต้มให้ทีมชนะ เราก็คอยถ่ายรูปแล้วก็ส่งเมลไปให้เค้า มีวันศุกร์หนึ่งที่คณะจะจัดบาร์บีคิวฉลองปิดภาคเรียน ปกติเราก็กินดื่มกับที่คณะเป็นประจำ แต่เราก็ไม่เคยเห็นเค้ามาซักที ทั้งๆที่เพื่อนเค้าก็เป็นคนจัดงาน เราก็เลยลองชวนเค้ามางานนี้ดู เค้าบอกว่าไม่รู้สิ คงไม่มาเพราะบ้านเค้าไกล แล้วก็ถ้าดึกก็ไม่มีรถเมล์ ถ้าดื่มก็ขับรถกลับไม่ได้ เราก็เลยบอกเค้าว่ามาเหอะ คุยซักแป๊บแล้วค่อยกลับก็ได้ หรือไม่ก็ไม่ต้องดื่ม เค้าก็บอกว่าไม่รับปาก ไอ้เราก็คิดว่าเค้าคงไม่มาแน่ๆ ประมาณหกโมงเย็นของวันศุกร์ เราก็ลงไปที่งานบาร์บีคิว แอบมองๆหา เอ จะมาไม๊น้อ อุตส่าห์ชวนแล้ว เฮ้อ ไม่มาจริงจริงด้วย เศร้า เราก็คุยกับเพื่อนไปเรื่อย กำลังเมาท์อย่างเมามัน หันไปจะเอาเครื่องดื่มเพิ่ม เฮ้ เห็นยิ้มหวานมาแต่ไกลเลย เค้ามาก่อนเราตั้งนาน ตอนเรามาเค้าไปขนลังน้ำแข็งพอดีก็เลยไม่เจอ ดีใจจังอยากน้อยก็ไม่เสียแรงชวน แต่เราก็ไม่ค่อยได้คุยกะเค้ามานักเพราะเค้าก็ต้องช่วยเฝ้าเตาบาร์บีคิวกะเพื่อนๆเค้า เราก็คุยอยู่กะเพื่อนๆเรา ได้จังหวะเหมาะเราก็ไปคุยกะเค้า ก็ถามว่ามายังงี้แล้วกลับยังไง เค้าบอกว่าไม่ได้เอารถมาเดี๋ยวสองทุ่มก็ต้องกลับเพราะมีคนมารับ(จริงจริงแล้วแม่เค้ามารับแต่ไม่บอกเราคงเขิน โตเป็นหนุ่มแล้วต้องให้แม่มารับด้วย) เค้าก็เลยดื่มได้ จากคุณ : tassi - [ 3 ส.ค. 46 09:58:30 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ประมาณทุ่มครึ่งเราก็อยากจะไปเข้าห้องน้ำ กึ่มๆแล้ว แต่การ์ดเรามันมีปัญหาเปิดประตูตึกไม่ได้ เค้าก็เลยมาช่วยดู แล้วก็บอกว่าการ์ดของเค้าใช้ได้กับประตูอีกด้านหนึ่งซึ่งต้องเดินอ้อมตึกไป แล้วเค้าก็เดินไปส่งพร้อมกับรออยู่หน้าห้องน้ำ พอเราทำธุระเสร็จก็เห็นเค้านั่งรออยู่ เราก็ชวนเค้ากลับไปที่งาน เค้าบอกเค้าอยากคุยที่นี่ก่อน ที่ที่คุยกํนเป็นในตึกที่ไม่ได้เปลี่ยว เงียบอะไรนัก เพราะมีคนเข้าออกทำงานตลอดเวลา แล้วเราก็คุยกันถึงเรื่องที่เค้าเล่นบอล รักบี้ แล้วก็ล้อเลียนท่าเดินเค้า แล้วเราก็ถามเค้าเรื่องที่เราสงสัย เดี๋ยวนะ ขอย้อนไปเดทแรกที่ไปเที่ยวตลาดกันก่อน ตลาดเราเค้าบอกว่าเค้าชอบเที่ยวแบบเธค แดนซ์ๆ ดื่มๆ เราก็ถามว่าไปทำอะไรที่นั้นน่ะ ไปจีบสาวหรือเปล่า เค้าบอกว่าเปล่าก็ไปแดนซ์เฉยๆ เราก็ถามเค้าว่า “มีแฟนรึเปล่า” เค้าบอกว่าน้อท นอทแอทออล ไม๊ ไม่แน่นอน แล้วเค้าก็ถามเราว่าแล้วเราล่ะมีแฟนหรือยัง เราก็เฉย แล้วเราก็ถามเค้าต่อว่าไม่มีแฟนแน่เหรอ แล้วเป็นตุ๊ดตู่หรือเปล่า เค้าก็หัวเราะ แหะแหะ แล้วก็บอกว่า “ไอ ด้อน ทิง โซ=ไม่หรอก(มั้ง)” เราก็ถามย้ำว่าจริงรึเปล่า เค้าก็ยิ้มแล้วก็ถามเราว่าทำไมถึงถามเค้าอย่างงี้ล่ะ เราก็บอกว่าไม่มีอะไรก็แค่อยากรู้เฉยๆ เพราะสมัยนี้หาผู้ชายที่ชอบผู้หญิงเท่านั้นยากขึ้นทุกที กลับมาที่หน้าห้องน้ำ ระหว่างงานบาร์บีคิวต่อ เราก็คุยกะเค้าคล้ายที่เราถามคราวนู้น “ถามอะไรหน่อยไดรึเปล่า จริงจริงแล้วเธอชอบเพื่อนร่วมห้องทำงานชั้นรึเปล่าย่ะ ชั้นเห็นเธอคุยกะชั้นทีไร ก็ถามถึงแต่เพื่อนชั้น” เพื่อนที่ห้องทำงานเรามีสามคนเป็นชายทั้งหมดเลย แล้วก็หน้าตาพอใช้ได้ เค้าก็บอก“จะบ้าหรือย่ะ ไมหล่อนถามชั้นอย่างนี้ย่ะ” เวอร์ จริงแล้วเค้าบอกว่า “ทำไมเราถึงคิดอย่างนั้น” เราก็บอกว่าก็เห็นคุยกันทีไรก็ถามถึงคนนั้นคนนี้ทุกทีเลย เค้าก็บอกว่า เค้าก็แค่หาหัวข้อคุยเท่านั้นเอง แล้วเรื่งที่จะคุยก็มีไม่กี่เรื่องแล้วเค้าก็บอกเรา “I like you not them” กรี๊ดดดดดด แปลว่าอะไรนี่ แล้วเค้าก็จับแก้มเราแล้วบอกว่า อื้ม นิ่มมากเลย เค้าคุยด้วยแล้วก็อยู่ใกล้แล้วมีความสุข เราก็เขินดิ ก็เลยชวนไปที่งาน เค้าก็บอกว่าเค้าไม่อยากดื่มแล้ว อยากอยู่กับเราอย่างนี้ก่อนกลับ แล้วเราก็คุยๆเขินๆ พอใกล้เวลาที่เค้าจะต้องกลับ เค้าก็เดินจับมือเราแล้วก็ อึ้ย ไม่เล่าดีกว่า เขินจัด แต่ที่เค้าทำทำให้เรามั่นใจมากขึ้นว่าเค้าต้องชอบเราแน่ๆ ขอบอกว่าไม่เกินเลย แล้วเค้าก็กลับทั้งๆที่เราและเค้าก็ยังอยากคุยกันต่อ เฮ้อเวลาที่มันมีความสุขมันผ่านไปเร็วจริงจริง ทุกอย่างเหมือนจะดี แต่สิ่งที่ทำให้ไม่เข้าใจก็เกิดขึ้น จากคุณ : tassi - [ 3 ส.ค. 46 09:59:19 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เค้าจะต้องสอบ แล้วตารางสอบก็เอี้ยด แล้วเค้าก็ต้องทำรายงานส่งด้วยก็เลยยุ่ง เจอกันบ้างที่ห้องคอม แต่หน้าเค้าก็จะบูดๆ ถามคำตอบคำ บอกว่างานเค้ายุ่งมาก แล้วเค้าก็บอกว่าหลังสอบเค้าจะพาไปที่ยวชายหาด ช่วงที่เค้ายุ่งเราก็ไม่ค่อยได้เจอ ส่งแต่ข้อความไปหาให้กำลังใจ เค้าก็ตอบมาเป็นระยะๆ พอเค้าสอบเสร็จก็หายไปนานมาก ส่งข้อความไปก็หายไม่มีการตอบ หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปแบบไม่ได้ยินข่าวคราว บอกว่าไปเที่ยวกับเพื่อนมาสนุกดี อาทิตย์หน้าต้องไปฝึกภาคสนามอีก เราก็เซ็งๆ แล้วมาบอกชั้นทำไมย่ะ ว่าจะไปเที่ยวกันน่ะ ให้ชั้นเป็นแม่สายบันรอเก้อทำมายยยยย พอเปิดเทอมใหม่ก็ไม่ค่อยเจอกัน เราก็ไม่ได้ไปทีห้องคอมบ่อยนัก เพราะมีโน้ตบุคแล้ว จะไปก็แต่พริ้นต์งานนิดหน่อย ก็เลยไม่เจอกันเลยในหนึ่งอาทิตย์แรก สรุปเดือนหนึ่ง มีข้อความมาสองสามครั้งแล้วก็หาย พอดีเราจะต้องกลับเมืองไทยประมาณเดือนหน้า ก็เลยบอกเค้าว่าจะกลับเมืองไทย เค้าก็เลยบอกว่าจะมาเจอก่อนเรากลับเมืองไทยแน่ๆ จนวันหนึ่งเจอเค้ารอเรียนที่ใกล้ห้องเราก็เลยได้คุยกัน ก็บ่นๆเค้าว่าหายไปไหน มีอะไรหรือเปล่า เค้าก็บอกไม่รู้สิ แล้วก้บอกว่าจะไปดูหนังกับพี่ชาย ดูแปลกๆไป วันหลังก็เจอเค้าที่ห้องคอมอีกก็บึ้งๆไม่ค่อยยิ้มไม่ค่อยพูด ส่งข้อความก็เงียบ ส่งการ์ดไปให้ทางเมลก็หาย แต่ก็รู้ทีหลังว่าเค้าก็ได้รับแล้วก็รูปที่เราส่งให้ก็เซฟเก็บไว้ตลอด จากคุณ : tassi - [ 3 ส.ค. 46 09:59:41 ]

ความคิดเห็นที่ 25 จนวันหนึ่งนั่งทำคอมใกล้ๆกันก็เลยคุยจิปาถะ เราก็ถามเค้าเรื่อยเปื่อย คุยกันแต่หน้าเค้าไม่ค่อยยิ้มเลย เราก็ถมเค้าเรื่องโปรแกรมทีวีเมื่อคืน มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของพวกรักร่วมเพศ ที่เกย์ทั้งเบี้ยน เป็นรายการ ที่ถึงพริกถึงขิงมาก เรากไม่ได้รักเกียจเลย ก็ดูรายการนี้เหมือนกัน แต่เห็นเพื่อนที่เป็นชายแท้ๆ ไม่ชอบดูรายการแบบนี้กัน เค้าบอกน่าขยะแขยง เราก็แซวเค้าอีกเรื่องทีวี ถามเค้าว่าได้ดูหนังเมื่อคืนหรือเปล่า เราก็บอกชื่อไม่ค่อยถูก เค้าก็แก้ชื่อให้เสร็จสรรพแล้วก็ยิ้มๆ เราก็ถามอยู่ดูเรื่องนี้ด้วยเหรอ เค้าก็หัวเราะ แล้วพยักหน้า เราก็เหวอเลย จริงง่ะ เป็นรายการโปรดยูด้วยหรือเปล่า เค้าก็พยักหน้าแล้วก็ยิ้มๆอีก จ๊าก อะไรฟ่ะ เมื่อเดือนที่แล้วยังแหววๆกันอยู่เลย เดือนเดียวเปลี่ยนไปแล้วเหรอ แล้วก็ถามเค้าว่าเออหรืออยู่เป็นโฮโม เค้าก็หัวเราะ ไม่ตอบ เราก็ถามแล้วก็หลบตาหัวเราะ เราก็บอกหัวเราะๆว่าว้ายังงี้ชั้นก็อกหักสิ แย่จังเล้ย เค้าก็ยิ้มๆตามเคย แล้วเค้าก็บอกจะกลับบ้านแล้ว เราก็ถามเค้าอีกว่า ถามคำถามสุดท้ายนะ ตกลงเป็นหรือเปล่า เค้าก็ยิ้มแล้วก็บอกเบาๆ ว่า ไม่หรอก แล้วก็ไป ต่อมาความสัมพันธ์ก็ไม่คืบหน้า !!!!! เล่ามาซะยืดยาวสรุปว่างานนี้จะแห้วไม๊เนี่ย!!!!!!!!!! ถ้าเค้าไม่ชอบผู้หญิงก็จะได้ตัดใจเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ถ้าเค้าเป็นแมนแต่ไม่ชอบเราก็เป็นเพื่อนกันได้ หรือว่ายังมีหวังอยู่ จากคุณ : tassi - [ 3 ส.ค. 46 10:01:29 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ช่วยวิเคราะห์เจาะลึกทีนะคะ ตอนนี้เหตุการณ์กำลังดำเนินไปอยู่ อยากรู้ว่าจะจบแบบไหนก็ช่วยให้กำลังใจที่นะ เราก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะจบแบบไหน จากคุณ : tassi - [ 3 ส.ค. 46 10:04:44 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เล่าได้เจ๋ง ซู๊ดหยอด แต่ผมสงสัยคุณ tassi จะทานแห้วฮ่ะ.... 5555.. จากคุณ : Al - [ 3 ส.ค. 46 12:06:40 A:131.172.4.45 X:131.172.149.87 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ว๊า....ลุ้นมาตั้งนาน นึกว่าจะแฮปปี้เอนดิ้งอ่ะค่ะ จะบอกว่า ...อยากให้ใช้เวลารู้จักกันอีกระยะนึง จนถึงขั้นที่สามารถคุยกันได้อย่างจริงจัง จนเค้าบอกคุณเองว่าเป็นอะไรยังไง (จะได้ไม่ต้องแห้วไงคะ) ระหว่างนี้ก็ให้รักษาใจไปด้วย แบบว่าเหยีบเรือไว้สองแคมเลย...ถ้าเค้าเป็นจริงๆ ก็โอเค เพื่อนละกัน ... ถ้าโชคดีก็ได้เค้ามาเป็นบอยเฟรนด์ไงคะ ฮี่ๆๆ เอาใจช่วยนะคะ และมั่นใจค่ะว่าคุณจะผ่านพ้นปัญหาต่างๆ ไปด้วยดี.... และชอบเรื่องราวของคุณมากๆ เลยค่ะ เล่าได้สนุก จินตนาการตามได้ออกมาเหมือนหนังเป็นฉากๆ เลยอ่ะค่ะ อิอิ แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 46 13:17:40 จากคุณ : ทอยทอย (tiny) - [ 3 ส.ค. 46 13:16:41 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เอ่อ แนวโน้มมันออกไปในทางแห้วอ่ะ แต่ของอย่างงี้มันก็ไม่แน่ จะเอาใจช่วยละกัน แต่ไม่ว่าจะจบแบบไหนก็มาเล่าสู่กันฟังมั่งนะ ถ้าแฮปปี้ก็จะได้ร่วมยินดี หรือเศร้าก็จะได้เป็นกำลังใจ จากคุณ : MaRiMeKKo - [ 3 ส.ค. 46 16:37:39 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เอาใจช่วยค่ะ แล้วก็ชอบเรื่องที่เล่ามากๆค่ะ สนุกดี หรือเค้าป็นชายเงียบๆค่ะ เพราะเพื่อนชายเราก็เป็นนะคะ เงียบๆไม่ค่อยแสดงอาการ ยังไงๆก็โชคดีนะคะ จากคุณ : Ann ว่าที่ศรีสะใภ้Czech - [ 4 ส.ค. 46 14:04:07 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มีไรคืบหน้าอย่าลืมมาupdate นะคะ หรือว่าคุณสงสัยกับเรื่องนี้มากไปจนเค้าหงุดหงิดป่าว จิงๆอาจไม่เป็นก็ได้น๊ะ ก็ไม่เห็นมีอะไรตรงไหนชัดๆที่น่าสงสัยว่าจะเป็นเกย์เลยนี่นา คิดมากไปเองม๊าง ยังไงก็เอาใจช่วยเน๊อ อยากอ่านตอนจบแฮปปี้เอนดิ้งหงะ :) จากคุณ : :) - [ 4 ส.ค. 46 15:37:14 A:203.145.3.2 X:203.145.14.252 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เอาใจช่วยนะคะ เรื่องที่เล่าสนุกมากเลยค่ะ จากคุณ : pad o-town (pad o-town) - [ 4 ส.ค. 46 20:35:25 ]

ความคิดเห็นที่ 33 I like your story...I hope he feels the same way as you do. I'm waiting for the next part of the story which is happy ending! จากคุณ : Gin_berry - [ 5 ส.ค. 46 04:50:59 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณค่ะที่อ่านและให้กำลังใจ ตอนที่ถามเค้าเรา ก็เล่าให้เพื่อนฝรั่งที่สนิทกันฟัง ว่าเราถามเค้าว่ายังงี้ โดนเพื่อนดุใหญ่เลย เพื่อนเราเค้าบอกว่า ยูไปถามเค้ายังงั้นได้ไง เค้าอาจจะ embarrassing ได้ เค้าจะเป็นอะไรก็ไปเกี่ยวอะไรกะเค้าด้วย มันเป็นสิทธิ์ของเค้า ไอ้เราก็จ๋อยเลย ตอบเพื่อนเสียงจ๋อยๆ ว่า ชั้นก็นึกว่าเค้าไม่ได้เป็นหรอกก็เลยถาม หลังจากโดนเพื่อนดุ วันรุ่งขึ้นก็เลยไปขอโทษเค้า บอกว่า "โทดทีน้า ก็อยากแกล้งเล่นเฉยๆ ไม่โกรธหรอกใช่ไหม" เค้าก็ยิ้มหวาน แล้วก็บอกว่าไม่โกรธหรอก เราก็บอกว่า ชั้นรู้ว่าเธอนะไม่เป็นหรอกก็เลยแหย่เล่น(ยังมีถามแย่บๆอีก) เค้าก็หัวเราะอีกตามเคย วันหลังๆ มา (อาทิตย์นี้) ดีกว่าอาทิตย์ที่แล้วเยอะ เจอหน้าก็แจกยิ้มกระชากใจแล้วก็มาคุย ดูท่าทางอารมณ์ดีเชียว สงสัยจะทำดีก่อนเรากลับเมืองไทย กลับมาอีกทีจะมีเพื่อนหญิงเพิ่มหรือมีแฟนก็ยังเดาไม่ถูกเลย อืม อาทิตย์หน้าอาจจะมีเดท อย่าลืมเชียร์ด้วยนะคะ จากคุณ : tassi - [ 5 ส.ค. 46 08:22:56 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เข้ามาลุ้นอีกรอบค่ะ ขอให้เดทอย่างมีความสุขนะคะ ฮี่ๆๆ จากคุณ : ทอยทอย (tiny) - [ 5 ส.ค. 46 11:57:19 ]

ความคิดเห็นที่ 36 wowwwwww เปนกัมลังจายให้ เตือนนิดนะคะ เคยเสีย'' almost bf ' ไป ก้อไอ้คำถามแบบเดียวกันเนี่ยล่ะค่ะ คิดนิดนึงนะคะ พิจารณาเอง แล้วเชื่อตัวเอง ไม่ต้องถามดีกว่า ถามแล้วก็แล้วไป ต่อนี้ไม่ต้องย้อนความอีกไม่ว่าจะเพื่ออะไร (พิจารณาและตัดสินใจเชื่อตัวเองดีกว่าค่ะ) แต่แสดงให้เค้าเห็นว่าี ไอไม่สงสัยอีกแล้วจริงๆ แล้วก้อรออ่านอยู่นะคะ อย่าลืมมาเล่าต่อเน้อ จากคุณ : benny - [ 6 ส.ค. 46 06:16:41 A:169.210.4.86 X: ]

ความคิดเห็นที่ 37 ว้าว...... ก่อนอื่นต้องขอชมนะคะว่าเล่าได้ถึงรสมากค่ะ แบบว่านั่งอ่านไปนั่งจินตนาการไป พร้อมกับแอบยิ้มและขำเล็กๆ (อยู่คนเดียว) คุณเล่าได้น่ารักมากนะคะ ขอชม.....อิอิ เดทที่จะถึงนี้เป็นยังไง เข้ามาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ ยังไงขอเอาใจช่วยนะคะ โชคดีค่ะ จากคุณ : ^^Angel GifT^^ - [ 7 ส.ค. 46 05:37:49 A:203.118.71.91 X: ]

ความคิดเห็นที่ 38 เล่าสนุกดีนะคะ ก็ขอให้ไม่เป็นอย่างที่ถามก็แล้วกันนะ จากคุณ : little pig - [ 8 ส.ค. 46 21:28:31 A:64.252.135.202 X: ]

ความคิดเห็นที่ 39 ว่าไงแป้งชมพู (ช่ายมั๊ย?) จากคุณ : ก้อเราชื่อแป้งขาว - [ 9 ส.ค. 46 18:29:13 A:203.118.113.68 X:203.118.113.68 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อ่าว..คุณแป้งชมพูแป้งขาวยังอยู่เหรอ อิอิ ตามอ่านตั้งแต่กระทู้ที่แล้ว ว่าแต่เรื่องคุณแป้งชมพู หรือแป้งขาวน๊ะ แหะๆ (เจ้าของกระทู้นั้นอะ ขาวหรือชมพูจำบ่ได้ โทดที )จบยังไงอะคะ จากคุณ : ผู้ติดตามอ่าน - [ 9 ส.ค. 46 22:15:53 A:203.145.3.1 X:203.145.13.2 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ตอนแรกคิดว่าจะมีเรื่องแหววมาเล่าใหฟัง แต่แห้วค่ะ เพราะเค้ามีสอบวันจันทร์เลยไม่ได้ไปเที่ยวข้างนอกกัน ได้เจอกันวันเสาร์ก็คุยกันเรื่อยเปื่อย ไม่มีอะไรหวือหวา เดี๋ยวจะกลับเมืองไทยแล้วด้วยซี เดี๋วกลับไปคิดแผนการณ์ที่เมืองไทย แล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังใหม่นะคะ อะไรเหรอคะ ชมพู ขาว ฟ้า แสด งง งง จากคุณ : tassi - [ 11 ส.ค. 46 07:00:03 ]

ความคิดเห็นที่ 42 love your story krub...sounds cute...just hang in there...u will have him fall for you for sure.... จากคุณ : Matt - [ 13 ส.ค. 46 08:31:39 A:203.121.131.38 X:203.121.146.184 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ว้าว! ชอบมากครับ ชอบจริงๆ เอาใจช่วย จะติดตามตอนต่อไป เป็นนักเขียนได้นะครับ ปกติไม่ค่อยชมใครเลยนะเนี่ย จากคุณ : K - [ 21 ส.ค. 46 18:26:40 A:61.193.164.194 X: ]