ความคิดเห็นที่ 1 หุหุหุ เมืองนอกไม่ได้เจริญกว่าเมืองไทยหรอก พูดถึง เทคโนโลยี เมืองไทยดีกว่าฝรั่งเยอะ (เพราะเทคโนโลยีเราราคาถูกทำให้แพร่หลาย) ลองเอาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และก็เกมส์ไปใช้ที่อเมริกาสิ จะรู้เลยว่าเขาล้าหลังมาก (เทคโนโลยีของฝรั่งแพร่หลายในระดับบนเท่านั้น) สิ่งที่เมืองไทยด้อยคือ ระเบียบวินัย การกำกับดูแล (ตำรวจไม่กวดขัน) แล้วก็วิธีคิด เคยเห็นเพื่อนใน Pantip คนหนึ่งเขา Post บอกว่ามีอยู่ประเทศหนึ่งพอเขาแล้งน้ำ เขาห้ามคนล้างรถ แล้วสรุปว่าประเทศนั้นด้อยพัฒนา หากทุกคนจำได้ ประเทศไทยเคยแล้งมากประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว ทางแก้ที่ผู้บริหารทำคือ "ห้ามทำนาปรัง" (ไม่เช่นนั้น สนามกอลฟ์เกิดใหม่ในเมืองกว่า 20 สนาม จะไม่มีน้ำรดหญ้า และทำให้สนามกอล์ฟเสียหาย) ซึ่งน่าสนใจว่าให้คนที่กำหนดนโยบายมันคงกินลูกกอล์ฟแทนข้าว เห็นวิธีคิดของคนไทยกับฝรั่งหรือยัง คงไม่แปลกเลยที่คนไทยจำนวนมากอยากไปอยู่เมืองฝรั่ง ไม่มีใครคอยจอดรถขวางทาง ไม่มีหาบเร่แพงลอย ไม่มีส่วยทั่วไป (มีค่าคุ้มครองบ้าง) ที่สำคัญเขาให้ความสำคัญของอาหารการกินมากกว่าสนามกอล์ฟ จากคุณ : คนกินข้าว - [ 24 ส.ค. 46 11:00:17 A:202.57.176.219 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 แก้คำผิดครับ พอดีพิมพ์เร็วไปหน่อย หาบเร่แผงลอยครับ จากคุณ : คนกินข้าว - [ 24 ส.ค. 46 11:07:23 A:202.57.176.219 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอโทษเจ้าของกระทู้มานอกเรื่อง จากคห 2 ....เมื่อสิบปีมาแล้ว (ประมาณนั้น+-) แถวเบย์แอเรียก็แล้งมากนะ เขาห้ามคนล้างรถ ห้ามคนรดน้ำสนามหญ้าด้วย บางบ้านไปซื้อพลาสติคสีเขียวๆ ที่ใช้ปูแทนสนามหญ้ามาวางด้วยซ้ำ อันนี้ด้อยพัฒนาหรือเปล่าคิดกันเอาเอง จากคุณ : 94025 - [ 24 ส.ค. 46 12:13:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมเป็นแบบหลังครับ ยอมรับตามตรง แต่ไม่ใช่เพราะเห็นว่า บ้านเรามีดี่สู้เขาไม่ได้หรอกนะครับ เพราะเหตุผลส่วนตัว จากคุณ : ดอส - [ 24 ส.ค. 46 17:05:18 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมเรียนจบกลับมาแล้ว แต่ก็อยากจะกลับไปอยู่เมืองนอกเหมือนกัน ไม่ใช่บ้านเราดีสู้เขาไม่ได้หรอก ส่วนที่ดีกว่าเขาในบ้านเราน่ะมีมาก และส่วนที่เลวกว่าเขาก็มี มันเป็นเรื่องธรรมดา เพียงแต่ส่วนที่เราเลวกว่าเขานั้น มัน "เลวเกินไป" เท่านั้นเอง จากคุณ : OSX - [ 24 ส.ค. 46 20:54:06 A:203.148.143.129 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 มีคนบอกว่า เมืองไทยไม่เหมาะกับเรา ก็เลยเร่ร่อนไปเรื่อย ชีวิตบางทีก็เหมือนตลกร้าย จากคุณ : fas - [ 24 ส.ค. 46 20:55:45 A:203.170.151.83 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 เกิดที่ไหนก็เป็นคนของที่นั่น จากคุณ : หมูหวัง (หมูหวัง) - [ 24 ส.ค. 46 22:26:53 ]

ความคิดเห็นที่ 8 I am the type 1. I don't want to live here forever. I will back home to develope my country. จากคุณ : Bye. (DUSITA) - [ 24 ส.ค. 46 22:49:55 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นแบบที่ ๑ นะ แต่ยอมรับค่ะว่ามาตอนแรก ๆ อยากมีผัวเป็นฝรั่ง.. เอ๊ยยยย.. ไม่ช่ายยย.. ขอมีสาระละกันกระทู้นี้ ตอนแรกที่มา ก็เลือกที่จะมาเอง และก็อยากมาอยู่นาน ๆ เพราะเมืองสวย สงบ สะอาด เจริญ สบาย ไม่วุ่นวาย .. แต่พอเราเรียนในระยะนึง เริ่มคิดถึงเมืองไทย คิดถึงในลักษณะที่ เมืองเราไม่ได้น้อยหน้าประเทศเค้าเลย เพียงแต่ว่ายังขาดและบกพร่องอะไรบางอย่าง..มีอะไรอีกหลายอย่างที่ต้องพัฒนาและแก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง.. ตอนนี้ไม่อยากอยู่ต่อแล้ว แต่เมื่อเรามีโอกาสและเรียนมาถึงขนาดนี้แล้วก็คงไม่ถอยไปง่าย ๆ ... รู้สึกคิดถึงคุณพ่อคุณแม่มากขึ้น รักท่านมากขึ้น .. รักเมืองไทยมากขึ้น... (จริง ๆ น่ะ รักอยู่แล้ว แต่พอมานี่จะรู้สึกรักมากขึ้นกว่าเดิม) คิดว่าทกุคนน่าจะเข้าใจนะ ความรู้สึกนี้... เราจะกลับเมืองไทยทุกครั้งที่ปิดเทอม ความรู้สึกอย่างนึงที่ไม่เคยรู้สึกอย่างแรงกล้าแบบนี้มาก่อนก็คือ ... รู้สึกว่าอยากทำอะไรให้ประเทศชาติให้มากเท่าที่จะมากได้ ตั้งใจว่าจะพยายามเรียนให้สำเร็จ และเมื่อจบแล้วก็จะไม่อยู่ต่อแน่ ๆ ..... จะรีบกลับมาพัฒนาประเทศชาติ.. ในหัวตอนนี้คือ อยากเป็น "นักการเมือง" .. เราคิดเลยนะว่าจะสมัครส.ส. ไม่ว่าจะปาร์ตี้ลิสต์ หรือ จะอะไรก็แล้วแต่ จะไปสมัครเข้าพรรคการเมือง และมีอุดมการณ์อย่างแรงกล้าว่าสิ่งที่ได้มาจากการได้มีโอกาสที่ดีมาอยู่ต่างประเทศ ทั้งประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ การใช้ชีวิตที่นี่ มาประยุกต์ สิ่งที่ดี ที่น่าสนใจ ก็จะนำมาใช้ พยายามทำเสนอ นโยบายต่าง ๆ ถ้ามีโอกาสจะทำให้ดีที่สุด แม้มันอาจจะต้องใช้เวลาก็ตาม.. และแม้อาจเป็นแค่ฝันลม ๆ หรือไม่ เราก็จะไม่ท้อนะ ... ถึงจบมาอาจจะไม่ได้เป็นส.ส. นักการเมือง หรือสังกัดรัฐบาล เพราะเราก็รู้ว่ามันต้องผ่านด่านอะไรมากมาย ... ทั้งดีและไม่ดี ... แต่ไม่ลองก็ไม่รู้นี่ และ ถ้าลองแล้วไม่ได้จริง ๆ และถ้าเราก็คงทำงานอะไรสักอย่าง อาจเป็นแค่พนักงานบริษัท หรือทำงานกับพ่อ แม่ ญาติพี่น้องก็ตาม .. แม้จะเป็นแค่ประชาชนธรรมดาคนนึง อย่างน้อยเราก็จะทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด นำความรู้ ประสบการณ์ และสิ่งที่เราได้เจอ ทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ... อย่างน้อยก็เป็นส่วนหนึ่ง (แม้จะเป็นส่วนเล็ก ๆ ก็เหอะ) แต่ส่วนเล็ก ๆ นี้ จะไม่ทำให้ประเทศชาติและคนรอบข้างต้องผิดหวังแน่นอนค่ะ .. จากคุณ : หลานป้าเม้าท์ - [ 24 ส.ค. 46 22:54:46 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อ่านความเห็นของคุณหลานป้าเม้าท์แล้วรู้สึกดีใจจังที่มีคนคิดคล้ายๆ เราเลย เราขอก๊อปคำตอบที่เราะแปะไว้ในห้อง around UK  มาละกันค่ะ (กระทู้นี้อยู่ในห้อง UK ด้วย) * * * * * เราคิดว่านักเรียนนอกแบบแรกมีอยู่เยอะ พอได้มาเรียนได้มาเห็นระบบต่างๆ ที่เมืองนอกก็รู้สึกว่ามีหลายอย่างที่ดี และอยากให้ประเทศเรามีบ้าง เช่น ระบบขนส่งมวลชนดีๆ บ้านเมืองเป็นระเบียบ แล้วก็ตั้งใจว่าจะทำงานให้ประเทศเราได้มีอะไรดีๆ อย่างนี้เหมือนกัน ถ้าเขายังคงความตั้งใจดีๆ และคงพลังที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ไว้ได้ เขาก็จะมีส่วนทำให้ประเทศก้าวหน้าได้เยอะ ลำพังคนคนเดียวอาจจะคิดและทำอะไรไม่ได้มากนักก็จริง แต่ถ้าเขาไม่ได้คิดอยู่คนเดียว มีคนอื่นๆ ที่มีความตั้งใจดีๆ เหมือนกัน หลายๆ แรงรวมกันก็จะทำสิ่งดีๆ ได้สำเร็จ เหมือนรถจะแล่นไปได้ก็คงไม่ได้อาศัยแต่ล้อรถ หรือพวงมาลัย แต่ต้องอาศัยชิ้นส่วนทุกส่วนประกอบเข้าด้วยกัน ส่วนนักเรียนนอกแบบที่สอง เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าเขาทำผิดหรือเป็นคนไม่ดี ทุกคนย่อมอยากจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองและครอบครัว  เขาอาจจะไม่อยากกลับไปเจอรถติดๆ ที่กรุงเทพฯ ไม่อยากให้ลูกโตในรถ ไม่อยากกลับไปเจอกรอบจำกัดความคิดในที่ทำงานที่ใช้ระบบอาวุโส ฯลฯ ถ้าเลือกได้ ใครๆ ก็คงไม่อยากเจอสภาพอย่างนั้น จริงๆ แล้วถึงเขาจะทำงานเมืองนอก แต่ว่าเงินที่ได้ก็มักจะส่งกลับไปเมืองไทย ก็ถือว่าหารายได้เข้าประเทศได้เหมือนกัน แต่ก็น่าเสียดายคนเก่งๆ เพราะถ้าเขากลับไปเมืองไทย ก็จะใช้ความรู้ความสามารถที่มีให้เป็นประโยชน์กับประเทศได้โดยตรง ตัวเราเองรู้สึกว่าเจอนักเรียนนอกแบบแรกมากกว่าแบบที่สอง บางทีนั่งคุยกับเพื่อน เพื่อนก็จะบอกว่าเมืองไทยน่าจะทำอย่างโน้นอย่างนี้นะ เช่น ไปดู play เพื่อนก็บอกว่าเมืองไทยก็มีการแสดงดีๆ เยอะแยะเหมือนกันอย่างโขน ละคร ฝรั่งที่มาเที่ยวเมืองไทยก็อยากดูศิลปะไทยๆ อยู่แล้ว แต่ว่ากลับหาดูได้ยาก ถ้าเราจัดระบบการแสดงดีๆ ทำให้ฝรั่งรู้สึกว่ามาถึงเมืองไทยแล้วต้องดูโขน ดูละครนะ (เหมือนที่มาอังกฤษแล้วรู้สึกว่าต้องดู play ให้ได้ ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึง) ก็จะเป็นจุดขายอีกอย่างนึงที่ทำให้ฝรั่งได้เห็นศิลปะไทยๆ (อย่างปี Amazing Thailand ที่เคยจัดเมื่อสองสามปีก่อน เรากลับเห็นโฆษณา Amazing Thailand Grand Sales ห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ ลดราคาครั้งใหญ่ทุกห้าง ซื้อน้ำหอม เครื่องสำอางได้ถูกกว่าซื้อเมืองนอก แล้วฝรั่งจะมาเมืองไทยเพื่อซื้อน้ำหอมทำไมเนี่ย -_-'  จริงๆ แล้วเราว่า Amazing Thailand ก็สร้างสรรค์และดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศได้เยอะดีนะ แต่ว่าจะมีฝรั่งสักกี่คนที่ไปเที่ยวกรุงเทพฯ แล้วรู้สึกว่าต้องไปดูการแสดงไทยๆ ที่ศูนย์วัฒนธรรมฯ และมีฝรั่งกี่คนที่คิดว่าต้องไปเที่ยวพัฒน์พงศ์??) เรารู้สึกว่าเมืองไทยมีอะไรดีๆ เยอะมาก และเป็นประเทศที่น่าอยู่  เพียงแต่เรายังไม่ได้นำข้อดีที่เรามีมาใช้ประโยชน์ให้เต็มที่เท่านั้นเอง ถ้ามาเรียนเมืองนอกแล้วช่วยให้เรามองเห็นสิ่งต่างๆ มากขึ้น เห็นจุดบกพร่องของประเทศและคิดว่าจะทำยังไงให้เมืองไทยดีขึ้น เราก็คิดว่าการส่งนักเรียนไทยมาเรียนเป็นสิ่งที่คุ้มค่า  ไม่ว่าจะกลับไปทำงานอะไร รับราชการ ทำธุรกิจส่วนตัว ทำงานบริษัท ฯลฯ ถ้าทำงานทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ก็เป็นการช่วยชาติได้ เพราะเศรษฐกิจของประเทศจะดีหรือไม่ดีก็ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจของหน่วยต่างๆ ในสังคม (ก็คือว่าคนในประเทศกินดีอยู่ดี บริษัทต่างๆ กิจการดีหรือหรือไม่) แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องมาเรียนเมืองนอกเท่านั้นถึงจะคิดทำโน่นทำนี่ช่วยเมืองไทยได้ คนเก่งๆ เยอะมากที่เรียนเมืองไทยและใช้ความรู้ที่เรียนมาให้เกิดประโยชน์กับประเทศได้มากกว่าคนที่เรียนเมืองนอกอีก เราเพียงแต่คิดว่าถ้าเราคิดว่าประเทศไทยดีแล้ว ไม่เห็นต้องปรับปรุงอะไร เราก็จะดีอยู่เท่าเดิม ขณะที่โลกเปลี่ยนไป ประเทศอื่นก้าวนำเราไปเรื่อยๆ แต่ถ้าคิดว่าเมืองไทยดีแล้วแต่ยังดีได้มากกว่านี้อีก เราก็จะพยายามทำให้ประเทศเราดีมากขึ้นได้เต็มศักยภาพที่เรามีอยู่ แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 46 23:31:25 จากคุณ : Aoyama - [ 24 ส.ค. 46 23:12:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แล้วพวกมีแฟนอยู่เมืองนอกล่ะครับ? บางคนมีเหตุผลส่วนตัวครับ กรุณาอย่าเหมารวม ไม่มีเส้นมีสายก็โน่น เตะฝุ่นต่อไปอีกสามปี แล้วบังเอินดวงดีใด้งานที่นี่เงินเดือนเฉียดครึ่งล้านบาทต่อเดือน จะกลับไปเตะฝุ่นทำไม? เอะอะก็ชาติบ้านเมือง แล้วเวลาผมต้องกลับรับเงินเดือน 8000 บาท หรือไม่มีงาน เลี้ยงตัวยังไม่พอ ไหนจะพ่อแม่ตอนแก่ บ้านเมืองเลี้ยงผมไม๊ครับ???? ที่พูดมาไม่ใช่ว่าทำตัวเป็นคนไทยที่ไม่ดีครับ แต่การรักชาติไม่ได้หมายความว่าต้องกลับไปทำที่เมืองไทย เพื่อนๆผมจบกลับเมืองไทยไปตกงานกันเพียบ ว่าแต่ว่าพวกคุณๆที่กลับไปรับใช้ชาติกันน่ะ หางานที่อเมริกาได้หรือเปล่าล่ะ? พวกคุณปฎิเสธิงานที่นี่กลับไปหรือหางานไม่ได้กันแน่? แล้วมาอ้างว่าคิดถึงบ้าน? จากคุณ : Hotlver - [ 24 ส.ค. 46 23:44:58 ]

ความคิดเห็นที่ 12 งงเล็กน้อย ยังไม่มีความเห็นไหนไปว่าใครไม่ดีเลยนี่นา -_-' จากคุณ : Aoyama - [ 25 ส.ค. 46 00:07:51 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แบบแรกครับทั้งตัวและใจเป็นไทยตายก็ขอเป็นดินที่แผ่นดินไทย ที่นี่ดีกว่าบ้านเรามากแม้ในทางอาชญากรรมที่ว่าแย่ยังเบากว่าบ้านเราแต่ไม่ขออยู่นานครับ จากคุณ : kk - [ 25 ส.ค. 46 00:19:23 A:68.13.184.236 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 lสมัยไปเรียนอเมริกา นะคะ ตอนนั้นไม่คิดว่าจะไปอยู่ไปอาศัย หรือไปตาย ที่อื่นอีกนอกจากที่เมืองไทย สมัยเรียนในอเมริกา มีการแบ่งผิวให้รู้สึกมาก เราเลยอึดอัดใจมากเพราะเพื่อนสนิทมีแต่ผิวดำ คนจีนในห้องเรียน เราคุยด้วยก็ไม่คุยกับเราเวลาทำงานกลุ่ม ทำราวกับว่าเรามาจากต่างดาว ที่มาอยู่ยุโรปเพราะความรักพามา ไม่งั้นไม่อยากมาเลยค่ะ สามีหางานทำที่เมืองไทยไม่ได้ไม่ได้ เราเลยมาลำบาก เพราะโดนหาว่ามาแย่งงานคนที่นี่บ้าง หาว่าสามีซื้อเรามาบ้าง คนในประเทศที่เจริญแล้ว โดยมากที่เห็นๆอยู่ จะเจริญทางด้านวัตถุค่ะ ที่ดีก็มีแต่พบยากจัง สถานที่ที่ดิฉันทำงานอยู่นั้นทันสมัยมาก แต่บางครั้ง เมื่อไฟดับ คอมพ์เสีย เครื่องไม้เครื่องมือเสีย งานไม่เดินเลย เมืองไทยพัฒนาไปมาก เด็กๆรุ่นใหม่อยากเรียนเมืองนอกกัน ไม่ผิด หรือ ไม่แปลก หรอกค่ะ แต่ทางที่ดี เมื่อเขาเรียนจบแล้วเขาควรจะเอาส่วนที่ดีที่เห็นและเรียนมา มาใช้ ส่วนเสียตัดมันไปเสีย การล้างจานหาเงินใช้ หรือส่งครอบครัวผิดตรงไหนคะ ที่สำคัญเวลาพวกเขาจบมา ได้เงินน้อยไม่ค่อยคุ้มกับที่เหนื่อย อันนี้น่าจะพิจารณาใหม่ ทำไม ไม่มี motivation ในการดึงพวกเขาให้ทำงานที่เมืองไทยละคะ เช่น ให้เงินเดือนดีหน่อย มีสวัสดิการณ์ที่ดีหน่อยให้พวกเขา ส่วนเรื่องของความรักนั้นมันเลือกสัญชาติ เชื้อชาติ ศาสนา และ พรมแดนไม่ได้หรอกค่ะและมันก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งซึ่งควรแยกออกมาต่างหาก ดิฉันคงไม่มีโอกาสช่วยชาติได้มากมายอย่างที่เคยคิด แต่ความคิดว่าเรายังเป็นคนไทยนั้นยังเต็ม 100 เวลามีโอกาสสร้างชื่อให้เมืองไทย ให้ฝรั่ง มองเมืองไทยดีหน่อย ก็ทำเท่าที่ทำได้ จากคุณ : แม่บ้านฝรั่ง - [ 25 ส.ค. 46 01:09:24 A:217.83.196.163 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 แบบสองครับ แต่สุดท้ายคงจะกลับเมืองไทย อยากหาความท้าทายใหม่ๆ การทำงานที่เมืองนอกได้นั้นมันเป็นการพิสูจน์ความสามารถของตัวเองได้ดีระดับหนึ่งนี่ครับ และถ้าทุกคนมีสิทธิเลือกที่จะถือสองสัญชาติ มีใครไหมครับที่จะปฎิเสธข้อเสนอนั้น จากคุณ : Okey Dokey - [ 25 ส.ค. 46 01:16:34 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เราเป็นแบบหนึ่ง จบแล้วเราก็กลับมาทำงานเมืองไทย คนมักพูดกันว่า ให้ช่วยเหลือประเทศชาติ เราก็ช่วยเต็มที่ แต่ ไม่มีใครช่วยเรา เราไม่ใช่คนรวย ไม่มีเส้นไม่มีสาย แถมต้องไปเป็นลูกน้อง รุ่นน้องที่เขาไม่ได้ไปนอก เขาจึงมีอายุราชการมากกว่า เงินเดือนมากกว่า เราไม่อยากโกงเวลาราชการ เพื่อหารายได้พิเศษ เราจึงกลับไปอยู่เมืองนอก จากคุณ : ธนิตา - [ 25 ส.ค. 46 03:36:55 ]

ความคิดเห็นที่ 17 I am type 1. I don't mind about money. But I feel like No.6. "มีคนบอกว่า เมืองไทยไม่เหมาะกับเรา ชีวิตบางทีก็เหมือนตลกร้าย" So I just do the best. And I will back home next year. จากคุณ : pumpond - [ 25 ส.ค. 46 05:38:14 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แบบที่2คงอาจจะเป็นแบบเดียวกับคนจีนในเมืองไทยที่มาจากแผ่นดินใหญ่ ไม่ใช่ว่าเมืองไทยดีกว่าเมืองจีน บางคนความฝันที่ตนเองอยากจะเป็นแต่ไม่มีโอกาส เลยอยากให้ลูกหลานสานความฝันให้เป็นจริง ผมคนหนึ่งละที่อยู่ต่างประเทศมากกว่า30ปีแต่ก็ยังรักแผ่นดินเกิดของผมอยู่เสมอผมคนหนึ่งที่ส่งเงินในสมัยที่พ่อแม่ผมยังมีชีวิตอยู่ และอุดหนุนสินค้าไทยทุกอย่างที่มีโอกาส มีหลายอย่างที่นี่ดีกว่าแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีไปทุกอย่าง จากคุณ : สันติ (Sunti) - [ 25 ส.ค. 46 11:13:54 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ใช่ครับคุณสันติ ผมก็ยังคงอุดหนุน "มาม่า" เมืองไทย อยู่เสมอ คิคิ จากคุณ : ดอส - [ 25 ส.ค. 46 12:26:24 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ใช่เห็นด้วยกับคุณดอส ยัง หนับหนุน มาม่า เมืองไทย อุอุ เราอยู่ที่นี่ก้อ จะ 10 ปีแล้ว... แต่เรายังกลับม่ะได้อ่ะ ต้องทำงาน แล้วอีกอย่างถ้าให้เราเลือกนะ ขอกลับไปอยู่เมืองไทยตอน.. มีเงินเยอะๆ ไม่ต้องทำงานอ่ะ.. แหะๆ มีงั้นหรือป่าว.. แต่ว่า อยู่ที่นี่ก้อมี ฐานะขึ้นมาหน่อย.. เฮ้อ ไม่รู้ดิ เรื่องของ อนาคต นะเราว่า อ้อ เราตอบทู้ผิดประเด็นไปหน่อย เราว่า เมืองไหน เขาก้ออยากจะพัฒนา ประเทศกันทั้งนั้นแหล่ะ.. เพียงแต่ว่า..มันขึ้นอยู่กับ รัฐบาล จะงี่เง่า หรือ ฉลาด ในการตัดสินใจ ... แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 46 13:58:29 จากคุณ : chikorita - [ 25 ส.ค. 46 13:56:09 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ผมไม่กลับไป ก็เหมือนควายหายจากประเทศไทยไปตัวนึง คงไม่เป็นไรมั้ง :D จากคุณ : JFlame - [ 25 ส.ค. 46 17:34:11 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านมานานเหมือนกัน ก็เลยอยากแสดงความคิดเห็นนะ ชอบแบบข้อสอง ความเห็นของเราก็คือ ที่บ้านไม่ค่อยดี มีเสียงมอเตอร์ไซค์แข่งกันตอนกลางคืนมากเลย ไม่รู้จะทำไงดี หายไปไม่นานก็มาอีก ไม่ค่อยเป็นระเบียบเท่าไรก็ไม่อยากอยู่ เพื่อนบ้านก็ไม่ไหวนะ ชอบทิ้งขยะเรี่ยราดด้วย ไม่ค่อยรักษาบ้านเมืองเลย เราอยากจะย้ายไปอยู่ที่อื่น เราก็ไม่มีเงินมากพอที่จะไป บ้านเราซื้อมาอยู่ที่นี่นานแล้วกับพ่อแม่เรา แต่ทำไมล่ะเราต้องย้าย เขาน่าจะรักษาสิ่งแวดล้อมเหมือนกันไม่ใช่เหรอ แถวบ้านเรามีรถกระป๊อ ขับปาดไปปาดมาเสมอๆ ทำให้เราบางที ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน เขานึกจะจอดก็จอดนะ ทำให้เราเบรคตัวโก่งเลย เราชนเขาไปคนนั่งในรถก็คงบาดเจ็บไป มอเตอร์ไซค์ก็ปาดหน้าเสมอๆ พอชนเขาไปเขาก็จะเรียกพวกมามุงเราเยอะๆให้เราผิด เราชอบเมืองนอกเพราะว่ามอเตอร์ไซค์น้อยนะ ถนนหนทางกว้างดี เราเดินสบายไม่ต้องเดินออกมาบนถนนนะ บ้านเรารถไฟฟ้าไปไม่ถึงนะ หากว่าถึงก็ยังไม่รู้ว่าจะมีเงินขึ้นหรือเปล่า ระยะทางมันไกลก็คงแพงอยู่นะ ทำงานก็เงินเดือนนิดเดียว ขึ้นไปขึ้นมาทุกวันก็คงไม่พอกิน แถมยังไม่มีระบบต่อรถเมล์อีก กว่ารถเมล์จะมาก็นานมากเลย มาทีนึงก็แน่นจนเราต้องยืนอยู่หน้าประตูบ่อยๆ เบียดจนกระทั่งปิดได้ในบางครั้ง วันไหนเราไม่ได้ขับรถไปเราก็กลับบ้านดึกมากเพราะว่ารถเมล์รอนาน ที่เมืองนอกอากาศหนาวมากหน่อย แต่เราก็ชอบเพราะว่าที่นี่จะร้อนมากสำหรับเรา เรารุ้สึกสบายกับอากาศหนาว เราไม่ชอบทานอาหารทะเลเท่าไรนัก ไปเมืองนอกก็คงไม่เสียดายอาหารทะเลเมืองไทยเท่าไร เราพูดได้สองภาษาทำงานได้ไม่แพ้คนเมืองนอกเหมือนกัน เราก็เก็บเงินเราเองส่งเรียนนะ ไม่ได้เอาทุนไป เราเลือกที่จะอยุ่ที่เมืองนอกดีกว่านะ จากคุณ : แพร - [ 25 ส.ค. 46 22:40:15 A:202.133.177.72 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ผมคิดว่าดีนะครับ โหวตกระทู้ให้อีกละกัน ถ้าให้ระบุนิยามตัวเองว่าอยู่กลุ่มไหน ผมจัดตัวเองอยู่กลุ่มที่ 1 นะครับ เพราะมันเหมาะกับตัวผม ที่บ้านผมไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน เส้นสายพอมีบ้าง ผมสามารถกลับเมืองไทยมารับเงินเดือนแบบพอดีๆ ได้ และที่เมืองไทยผมได้เจอคนที่ผมรักและคนที่รักผม ทำไมผมต้องไปที่อื่นล่ะครับ ที่ผมไปเรียนเมืองนอก ผมไม่ได้ต้องการไปเรียนเพื่อให้กลับมาแล้วมีโอกาสดีกว่าคนอื่นในสังคมไทย (ตามค่านิยมเก่าๆ ที่บอกว่าจบนอก ภาษาอังกฤษดี ดูมีชาติตระกูล) แต่ผมไปเรียนเพื่อเพิ่มพูนทักษะทางวิชาการ และเปิดมุมมองที่เราไม่มีทางได้เห็นในประเทศของเราเองครับ ในขณะที่หลายคนไปเรียนเมืองนอกเพื่อสร้างโอกาสให้กับตัวเองเมื่อกลับมาเมืองไทย สำหรับคนที่ระบุว่าตัวเองอยู่กลุ่มที่ 2 ผมว่าถ้าคนกลุ่มนี้เขาอยู่เมืองไทยไม่ได้ (หรือไม่อยากอยู่) ก็เพราะเขารู้สึกว่าเมืองไทยตอบสนองความต้องการของเขาและครอบครัวไม่ได้ มันไม่เหมาะกับตัวเขา ก็เลยไปเมืองนอก เหตุผลก็เท่านี้เอง ไม่มีอะไรผิดครับ แค่น่าเสียดายเท่านั้น เสียดายอะไร? ผมเคยเขียนอีเมล์ไปถามท่านมีชัย ฤชุพันธุ์ (ไม่แน่ใจสะกดถูกหรือเปล่านะครับ ขออภัยล่วงหน้า) ท่านบอกว่า "คนไทยเนี่ย อยู่ที่ไหนก็ยังเป็นคนไทย รักบ้านรักเมืองทั้งนั้น ถ้ารวยแล้วก็กลับประเทศเองล่ะครับ" แต่ผมก็เสียดายนะครับ หลายคนเป็นคนเก่ง แต่ก็ไหลไปอยู่ต่างประเทศหมด ผมไม่อยากให้เราเป็นเหมือนประเทศบางประเทศที่อ้างว่าตัวเองส่งออกทรัพยากรบุคคลด้าน IT ออกนอกประเทศได้สูงเป็นอันดับสองของโลก แต่ประเทศตัวเองกลับมี IT Infrastructure ในระดับต่ำมาก จากคุณ : Please - [ 26 ส.ค. 46 00:19:02 ]

ความคิดเห็นที่ 24 type 1 always. จากคุณ : love you Thailand - [ 26 ส.ค. 46 01:38:03 A:131.230.171.188 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านความคิดเห็นที่ 23 แล้วดีใจ เราเองก็จัดตัวเองอยู่ในประเภทที่ 1 ล่ะ ถึงแม้ว่าอันที่จริงเราก็ยอมรับว่ามาเรียนเมืองนอกก็เพื่อสร้างโอกาสในชีวิตตัวเองก็ตาม ตอนนี้เรากำลังทำ thesis อยู่ บริษัทที่ทำด้วยก็จีบๆ จะให้ทำงาน แต่เราจะกลับเมืองไทยแน่นอน ถึงแม้ว่ากลับไปแล้วได้เงินน้อยกว่าที่นี่มาก แต่คิดดีๆ ค่าครองชีพเราก็ถูกกว่ามากๆ ด้วยเหมือนกันนะ แล้วคุณภาพชีวิตของคนไทยในหลายๆ ด้านก็ดีกว่าด้วย อย่างในเมืองที่อยู่นี่ ฝรั่งกินแต่อาหารแช่แข็ง อาหารกระป๋อง เห็นแล้วเซ็งหัวใจมาก กลับไปจะกินอาหารทะเลสดๆ ซะให้สะใจ เออ อีกอย่าง เราเห็นฝรั่งที่นี่ไม่เห็นมีวินัยมากมายตรงไหนเลย ข้ามถนนก็วิ่งข้าม (ตอนหลังเราเลยวิ่งข้ามมั่งฟะ) กลับรถก็กลับมันกลางถนนนี่แหละ คนขับรถเมล์ก็ไม่สุภาพ เฮ้อ ทำไมมันเหมือนเมืองไทยหยั่งงี้เนี่ย จากคุณ : OBBLIC - [ 26 ส.ค. 46 04:56:11 A:144.82.193.188 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมก็ยังไม่ได้ไปเรียนเมืองนอกครับ แต่เท่าที่ทราบ ผมว่าตามที่คุณเจ้าของกระทู้พูดถึงนั้น ทั้งสองแบบก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไรนัก เพราะก็ดูเป็นผู้ที่มีความมุมานะในการดำเนินชีวิตพอๆกัน และในสถานะการปัจจุบัน ฝ่ายที่สองนั้นก็ทำไปอย่างมีเหตุผลครับ ถ้าเขาอยู่ทำงานที่โน้น โดยไม่รบกวนเงินทางบ้าน ซ้ำยังส่งเงินกลับมาจุนเจือครอบครัวได้อีก หาเงินเข้าประเทศ ก็นับว่าดีนี่ครับ เพราะการไปเรียนเมืองนอกก็ถือว่าเป็นการลงทุนแบบหนึ่ง โดยนำเงินออกนอกประเทศ ถ้าเขาอยู่ทำงานที่โน้นเพื่อหาทุนคืนก็น่าจะดีครับ มีเพื่อนผมหลายคนที่ทำงานต่อที่โน้นนั้น ทุกคนบ่นว่าเหนื่อยและเบื่อมาก อยากกลับบ้าน แต่ก็ต้องทำเพื่อเงินครับ ผมว่าพวกเขาเป็นกองรบหน่วยหน้าอีกหน่วยหนึ่งในสงครามเศรษฐกิจด้วยซ้ำ ถ้าจะบอกว่านักเรียนนอกมี 2 กลุ่มจริงแล้วมองในแบบที่ดีและไม่ดีนั้น ผมว่ากลุ่มที่ไม่ดีก็ยังเป็นพวก อยู่เมืองไทยเรียนอะไรก็ไม่จบ พ่อส่งไปชุบตัวที่โน้น ส่งเงินตามไปถุนเท่าไรก็ไม่พอ ซื้อรถสปอร์ตขับโฉบเฉี่ยวไปวันๆ เรียนหนังสือแบบซื้อเวลาไปเรื่อยๆ เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วมีเด็กกลุ่มนี้เยอะพอสมควรครับ แต่ผมไม่ทราบว่าในสภาวะการปัจจุบันนั้น เด็กกลุ่มนี้สูญพันธุ์ไปหรือยัง ขอเพิ่มเติมใน ค.ค.ห ที่ 1, 3 เรื่องสนามกอล์ฟนั้นที่แรกผมก็มีความคิดเห็นเหมือนคุณครับ แต่ในภายหลังได้ข้อมูลมาว่าระบบน้ำภายในสนามกอล์ฟนั้น ในส่วนการรดสนามหญ้าเป็นระบบบำบัดน้ำและหมุนเวียนภายในสนามครับ ถ้าเขาเอาน้ำประปามารดสนามนั้น แม้คงไม่ถึงกับเจ๊ง แต่มันไม่คุ้มครับ แบบบำบัดและหมุนเวียนกลายเป็นถูกกว่า ถ้าคิดอีกแง่ว่าเราสามารถพัฒนาการเกษตรกรรมในประเทศเราให้เป็นระบบบำบัดและหมุนเวียนน้ำเหมือน ในสนามกอล์ฟหรือในประเทศอิสราเอลได้ ก็คงจะดีครับ ส่วน ค.ค.ห 3 ผมอ่านที่คุณเขียนผมก็รุสึกว่าฝรั่งก็ทำถูกแล้ว พัฒนาแล้วนี่ครับ เพราะในการใช้น้ำทำทั้ง 2 อย่างที่คุณพูดถึงก็เป็นแค่ความจำเป็นในระดับรองๆเท่านั้น ไม่ถึงกับเป็นปัจจัย ผมไม่แน่ใจน้ะว่าคุณเองมีความเห็นยังไง จากคุณ : Prime - [ 26 ส.ค. 46 05:12:18 A:203.192.40.162 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 I want to vote for this kratoo also..good one la.. I'm in dilemma as the topic say..either go back and get less salary, work hard..but good love family around..or stay here work hard, good salary but stay all alone..as you can see 2 different things money and mind. I don't want to have psychological problem anymore so go back home would be the best answer..and I want to be at least one gear help our country developed.. abroad is not always as good as you thought ...but at least the good way for your experience in life.. จากคุณ : mind - [ 26 ส.ค. 46 07:35:32 A:24.224.145.61 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 แรกๆ อยู่ คิดถึงบ้าน อยากกลับบ้าน พอผ่านไป 3-4 เดือน อยากอยู่ต่อ ไม่อยากกลับเมืองไทย จากคุณ : เคยเกิดกับเราและหลายคนประจำเลย (peen) - [ 26 ส.ค. 46 12:52:49 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เห็นด้วยกับคุณ Hotlver ครับ คือไม่ใช่ว่าใครดีหรือไม่ดีนะครับ เพียงแต่ลักษณะการพูดการจา บางครั้งมันก็ทำให้เกิดการแบ่งแยกอย่างไม่ได้ตั้งใจ ผมเป็นประเภทที่สามครับ คือคิดชื่นชมบ้านเมืองและระบบการทำงานเค้า แต่เลือกที่จะกลับเพราะความจำเป็นส่วนตัว มีโอกาสรู้จักคนที่มาเรียนหลายคน ทั้งประเภทหนึ่งและสอง แบบคุณหลานยายเมาท์ก็มีบ้าง แต่ผมมักจะบอกเสมอว่าถ้าอีก สามสิบปีคุณคิดและทำอย่างนี้ได้ค่อยพูดออกมา ผมเห็นบางคนอยู่ได้สามปีก็เก็บกระเป๋า ก้าวขึ้นเครื่องบิน พร้อมกับคำสัญญาว่าจะไม่กลับมาอีก บางคนบอกจะตั้งโรงงานที่บ้านเกิดช่วยเด็ก ยากจนในพื้นที่บ้านเกิด จนคนต่างชาติชื่นชมในความดีของคุณเธอช่วยหางานพิเศษ เพิ่มรายได้เป็นทุนเปิดโรงงาน พอเรียนจบ หนีตามผัวฝรั่งหายเข้ากลีบเมฆครับ จากคุณ : นานาจิตตังนะ - [ 26 ส.ค. 46 22:42:38 A:219.107.170.203 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 เมืองนอกดีกว่านะ คนขับรถเมล์นิสัยดีมากเลย จอดให้คนขึ้นลงสนิทดี ไม่เหมือนเมืองไทยนะทำให้เด็กที่มีอนาคตต้องจากไปอย่างไม่น่าให้อภัย ปีที่แล้วก็มี ปีนี่ก็มีอีก ปีหน้าก็คงมีอีก ทำให้ไม่ค่อยอยากอยู่ไง คดีต่างๆก็มีเยอะ กฎหมายมันไม่แข็งแกร่ง ทั้งๆที่มันก้แก้ให้แข็งแกร่งได้ก็ไม่ทำกัน พอเกิดเรื่องก็ล้อมคอกกันไป คนไทยน่ะ เดี่ยวก็ลืม อยู่เมืองนอกเห็นกฎระเบียบอะไรดีๆ เราก็อยากอยุ่ ก้เท่านั้น จากคุณ : - (mingest) - [ 26 ส.ค. 46 22:45:05 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่จำเป็นว่าเราต้องเป็นคนในแบบที่1 แล้วจะทำอะไรให้ประเทศไทยได้เสมอไป มีคนบอกว่าเราไม่เหมาะจะอยู่ที่นี่ เราเหมาะจะอยู่ไกลบ้านมากกว่าจริงๆ จริงที่ว่าบางทีชีวิตมันก็เป็นตลกร้าย เราเลือกที่ๆเหมาะกับตัวเองได้ แต่เราก็ทำดีที่สุดแล้ว เราเป็นคนในแบบที่2 แต่เราหาช่องทางที่จะนำรายได้เข้าประเทศในขณะที่อยู่ที่นี่ มันเป็นโอกาสที่ดีกว่า และมันก็ดีกว่าในหลายๆด้าน เราไม่ได้ทำเพื่อตัวเองเพียงอย่างเดียว บางทีชีวิตมันก็เลือกไม่ได้ ไม่มีใครอยากถูกตราหน้าว่าไม่รักประเทศตัวเอง จากคุณ : Noriko Sakai - [ 26 ส.ค. 46 23:43:28 ]

ความคิดเห็นที่ 32 i'm half-half. i dont want to live here forever..but...i still miss this place. i think both places have their own good points. when i'm here, i miss thai food. when i was in thailand, i also miss something here. there's no "better" place.... can i have a mixed? hehe จากคุณ : x - [ 27 ส.ค. 46 03:17:02 A:137.226.143.172 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 ผมไม่กลับไป ก็เหมือนควายหายจากประเทศไทยไปตัวนึง คงไม่เป็นไรมั้ง.... โอ๊ย ใช่ใช่ใช่ใช่ โดนโดนโดน ควายตัวนี้จับพลัดจับพลูมาอยู่ทุ่งฝรั่ง หญ้าก็แข็งเคี้ยวไม่อร่อย ไม่มีไอ้ขวัญมาอาบน้ำเกาหลังให้ เหงาแบบควายๆจริงๆนะ คิดถึงตอนเล่นน้ำคลองกับอีเรียม มอมอมอ จากคุณ : ทุย (drinkinglikeafish) - [ 27 ส.ค. 46 07:14:24 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เวลาใครมาพูดชมเมืองไทยให้ฟังเราก็จะภูมิใจมาก แต่เราก็เบื่อเหลือแสนกับความยุติธรรมและระบบต่างๆ ในเมืองไทย ทั้งๆ ที่ปัญหาต่างๆ เห็นได้อย่างชัดเจน และคนไทยไม่โง่ แต่ทำไมถึงแก้ปัญหาไม่ได้ ถ้าไม่มีระบบส่วยรายได้ของประชาชาติจะสูงขึ้นมาก ถ้าไม่คอรัปชั่นป่านนี้ถนนเพชรเกษมบ้านเราอาจทำด้วยทองคำแท้ สิ่งที่ทำให้เราต้องกลับเมืองไทยก็คือครอบครัวพี่น้อง อาหารไทย และเกาะหลีเป๊ะ บ่นเสียงดังไปหน่อยนะคะ เราเป็นคนแบบอย่างที่ 2 มากกว่านะ จากคุณ : แดงเร็กเก้บาร์ - [ 27 ส.ค. 46 16:36:07 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เห็นด้วยกะคุณ Prime ความเห็นที่ 26 ค่ะ จากคุณ : LittleGal (LittleGal) - [ 27 ส.ค. 46 22:54:32 ]

ความคิดเห็นที่ 36 กระผมเรียนต่างประเทศมาเกือบจะ ๑๑ ปี ไม่เคยมีความคิดว่าจะตั้งรกรากอยู่ที่นี่เลย ไม่ใช่ว่ากระผมจะไม่ชอบสังคมตะวันตก ไม่ใช่ว่ากระผมจะหางานทำที่นี่ไม่ได้ แต่เป็นเพราะว่ากระผมรักในหลวง กระผมอยากจะกลับไปรับใช้ท่าน ช่วยเหลือพี่น้องชาวไทย กระผมทำงานเสริมพร้อมเรียนไปด้วยตั้งแต่ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย จนบัดนี้กระผมเกือบจะจบปริญญาโทแล้ว ก็ยังทำงานเสริมกับบริษัทเอกชนอยู่หลายแห่ง กระผมอาจจะไม่มีรายได้มากมายเท่าหลายๆท่านมีงานประจำในต่างประเทศ แต่เดือนๆหนึ่งรายได้ที่กระผมหาได้จากความสามารถของตัวเองก็มากกว่าเงินเดือนของผู้ที่จบปริญญาโทสาขาการบริหารธุรกิจจากต่างประเทศแล้วกลับไปทำงานกับบริษัทเอกชนในเมืองไทยถึง ๒ เท่า ซึ่งแน่นอนว่าจะมากกว่าเงินเดือนจากองค์กรรัฐวิสาหกิจที่กระผมตั้งใจจะกลับไปทำงานด้วยไม่รู้กี่เท่า แต่กระผมก็ตั้งใจที่จะกลับไปรับราชการ กระผมมีใบอนุญาตที่จะดำรงค์อยู่ในประเทศนี้ได้อย่างถาวร และอีกไม่ถึงหนึ่งปี กระผมก็มีสิทธิ์ที่จะขอสัญชาติของประเทศนี้ได้อย่างง่ายดาย มีหลายๆคนซึ่งรวมถึงคุณพ่อของกระผมด้วย ห่วงว่า กระผมจะกลับไปเมืองไทยไหมเมื่อเรียนจบ กระผมก็ยังยืนยันเช่นเดิมครับ ว่าจะกลับไปรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา เมื่อกระผมสำเร็จการศึกษาทุกอย่างจนครบที่กระผมได้เคยตั้งใจเอาไว้ในอีก ๔ ปีข้างหน้า ถึงวันนั้น กระผมก็หวังว่าประสบการณ์ทำงานกับภาคเอกชนที่นี่จะทำให้กระผมเข้าใจกลไกความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี หรือแม้แต่ภายในองค์กรที่กระผมสังกัดก็ดี กระผมหวังว่า จะได้มีโอกาสนำความรู้ทางด้านวิชาการที่เท่าเทียมกับความสามารถในเชิงปฏิบัติกลับไปใช้ในหน้าที่การงาน แม้ว่าจะต้องอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์แห่งระบบอาวุโสก็ตาม อย่างไรก็ดี กระผมก็ยังมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะกลับไปรับใช้ในหลวงและสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ในการช่วยเหลือพี่น้องชาวสยาม แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวหนึ่งก็ดี จากคุณ : รักในหลวง (God) - [ 28 ส.ค. 46 00:21:13 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ความเห็นที่36เยี่ยมยอดมาก คิดได้ไงเนี่ย นับถือๆ ข้าน้อยขอคารวะหนึ่งจอก เอื้อกๆๆๆๆๆ ps. เราชอบความคิดนายนะ แต่เราก็เสียดายเงินอ่ะ เราไม่รู้ว่านายจะทำได้อย่างที่พูดจริงๆรึเปล่า ก็จะเอาใจช่วยให้ทำได้ตามนั้นนะ จากคุณ : mona (nuipw) - [ 28 ส.ค. 46 11:48:31 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่ได้มาเรียนกะเค้าหรอกแต่จับพลัดจับผลูมาอยู่ได้หลายปีแล้ว อยากกลับเมืองไทยอยู่ทุกวัน คงเพราะเป็นบ้านเกิดละมัง มีเพื่อนมีญาติ แม้ว่าตัวบ้านเมืองไทยจะไร้ระเบียบ แต่คนที่ไม่กลับก็อย่าไปโกรธเค้าเลยเพราะทุกคนมีสิทธิที่จะหาที่ที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง แล้วบางทีความจำเป็นก็บังคับให้ต้องอยู่ต่อก็มีไม่น้อยเหมือนกัน จากคุณ : anjing - [ 28 ส.ค. 46 12:55:21 ]

ความคิดเห็นที่ 39 Type 1 ka ... BECAUSE I ... Miss home -- family and friends ... Miss Thai food Miss boat noodle (?) Miss Thai culture Miss lifestyle in Thailand (BKK) Miss shopping at Siam Square etc Miss everything in Thailand EXCEPT -- HOT weather! But definately GO BACK la... จากคุณ : No Logo - [ 28 ส.ค. 46 13:19:50 A:134.7.248.129 X: ]

ความคิดเห็นที่ 40 ระหว่างเมืองไทยกับอเมริกา ประเทศใหน ถูกกลั่นแกล้ง ได้ง่ายมากกว่ากันครับ ผมว่าประเทศไทย โดนกลั่นแกล้งง่ายกว่านะครับ จากคุณ : moneyer - [ 28 ส.ค. 46 16:32:47 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ของอย่างนี้มันต่างจิตต่างใจนะคะ แต่ละคนก็มีเหตุผลไม่เหมือนกัน ไม่มีใครผิดหรือถูกหรอกค่ะ เป็นความเห็นส่วนตัว ว่าแต่ว่าคุณ Hotlver เป็นอะไรเหรอ ไม่มีใครเค้าด่าว่า บุคคลแบบที่ 2 ซักหน่อย จากคุณ : Guga - [ 28 ส.ค. 46 16:53:19 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เห็นด้วยกับคุณ 31 นะคะ บางทีชีวิตมันก็เป็นเรื่องตลกร้าย เลือกอะไรได้ไม่มาก เรื่องยังงี้มันต่างคนต่างคิดต่างจิตใจนะคะ แล้วก็มันแค่ความแตกต่างของความคิดทั้ง 2 ประเภท ไม่มีใครถูกใครผิดหรอกค่ะ จากคุณ : รักเมืองไทยและในหลวง (Ann ว่าที่ศรีสะใภ้Czech) - [ 29 ส.ค. 46 01:00:14 ]

ความคิดเห็นที่ 43 just one thing, In UK (England) for royal thai government scholarship 730 pounds (about 50,000 baht) for 1 month (student) for thai government official-less than 20,000 baht for a month (for D.Phil (Ph.D)) degree (work) what do you think? จากคุณ : minty_pc - [ 29 ส.ค. 46 06:06:31 ]

ความคิดเห็นที่ 44 งึมงำ งึมงำ คุณ minty_pc ครับ ค่าครองชีพในอังกฤษกับไทยมันต่างกันน่ะครับ จริงอยู่ว่าเงินเดือนของ PhD เมืองไทย (ถ้าทำราชการ) มันน้อยนิดเมื่อเทียบกับความสามารถ แต่ก็... นะ อย่าไปเทียบกับค่าครองชีพในอังกฤษเลย London น่ะ ค่าครองชีพแพงกว่าใน New York ซะอีก (อ้างอิงตาม The Economist ครับ) ค่าใช้จ่ายในอังกฤษ แค่ที่พักอาศัยกลางๆ เดือนนึงก็ปาเข้าไป 400-500 ปอนด์แล้ว เว้นเสียแต่โชคดีได้อยู่หอมหาลัย อันนั้นก็ดีไป อะไรๆ ก็แพง... อยากกลับเมืองไทยตั้งแต่แรก ถึงตอนนี้ก็ยังยืนยันครับ จากคุณ : OBBLIC - [ 29 ส.ค. 46 07:52:59 A:144.82.193.188 X: ]

ความคิดเห็นที่ 45 กลับบ้านแน่นอน (ตอนนี้ มาเที่ยวบ้านที่เมืองไทย) แต่ขอกอบโกยหน่อยเหอะ ค่าเรียนแพงนัก สามเดือน แสนนึง ขอตูโกยมันเดือนละแสนสองแสน ซักสี่ห้าปีเถอะ กลับเมืองไทย เอาเงินที่ได้จากไอ้กัน มาตั้ง บ. ในเมืองไทย แข่งกับมันโลด จากคุณ : ทายาท - [ 29 ส.ค. 46 16:19:49 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อยู่เมืองนอก เป็นประชาชนชั้น 2 อยู่เมืองไทย ก็เป็นประชาชนชั้น 2 เพราะไม่รวย อยู่ไหนก็เหมือนกัน... จากคุณ : คนจนมีสิทธิ์เลือกมั๊ยคร๊าบบบ ((:) - [ 29 ส.ค. 46 22:14:15 ]

ความคิดเห็นที่ 47 wow I read all you guys ideas and I feel good to be Thai. Whcihever type you chose, I know you all love Thailand and I am proud I am Thai just like you all. I have to stay in USA because I am married to American citizen here and he can't find a good job in Thailand. But we will go back to Thailand one day. And I agree with No. 46. Poorer Thais do have less chance to climb the ladder. That's sad =( จากคุณ : Care - [ 30 ส.ค. 46 10:48:29 A:24.118.149.93 X: ]

ความคิดเห็นที่ 48 ผมว่าคนไทยกลับบ้าเพราะหางานดีๆเงินเดือนดีๆที่ต่างประเทศไม่ได้มากกว่าที่คิดถึงบ้านนะครับ ลองถ้ามีงานดีๆทำแล้วจะกลับทำไม แต่พวกกลับก็พอมี จากคุณ : จริงมะ (โท เซ่) - [ 31 ส.ค. 46 04:04:44 ]

ความคิดเห็นที่ 49 I'm type 1. I saw manything in switzerland was perfect then I was thinking about our country and I want to manage all of the problem but I couldn't because I didn't have any power to do. So many idea I have in my head but that's not useful because I'm the only normal human in this world! จากคุณ : หอคอย (หอคอย) - [ 2 ก.ย. 46 19:36:07 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขออนุญาตไม่ออกความคิดเห็นนะคะ แต่ขอขอบคุณผู้ตั่งกระทู้ให้ได้เห็นความคิดเห็นที่ดี ๆ อย่างนี้คะ จากคุณ : samara ^-^ - [ 3 ก.ย. 46 11:13:39 A:203.146.6.101 X: ]