ความคิดเห็นที่ 2
!!!!!!ได้ผล TWE 6.0 ล่ะ..มีเทคนิค TWE มาบอก !!!!!!!!! วันนี้ผมเพิ่งได้รับคะแนน TOEFL น่ะครับ ปรากฎว่า TWE ได้ 6.0 ซึ่งก็ดีใจที่สามารถทำได้อย่างที่ตัวเองคาดหวังเอาไว้ ก็เลยคิดว่าตัวเองน่าจะทำประโยชน์ให้เพื่อน ๆ ที่กำลังจะสอบ TOEFL บ้างไม่มากก็น้อย เพราะ Part นี้ก็ถือว่าเป็นตัวฉุดของหลาย ๆ คนที่เดียว โดยผมก็ได้อาศัยเก็บตกความรู้จากหลาย ๆ คนในห้องนี้ เก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อย ๆ เลยรู้สึกอยากจะตอบแทนสังคม ( ไกลบ้าน ) บ้าง เลยมีเทคนิคการเตรียมตัวสอบ TWE เพื่อให้ได้คะแนนดี ๆ มาให้กัน ซึ่งผมได้ใช้วิธีนี้และก็ได้ผลดี
จากคุณ : แมงโม้ (เศรษฐ์ มธ) - [7 ธ.ค. 44 22:19:59]
--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 1
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าผมไม่ได้ไปติวที่ไหนเลยน่ะ และก็ไม่ได้เรียนหนังสือภาคภาษาอังกฤษด้วย เกิดมาก็เรียนอยู่เมืองไทย เป็นภาษาไทยตลอดเหมือนกับหลาย ๆ คนในนี้นี่แหละ ไม่เคยไปเมืองนอกด้วย ถ้าผมทำได้ก็คิดว่าคนอื่น ๆ ก็คงจะทำได้เช่นกัน โดยผมมีเทคนิคดังนี้
1. อ่านภาษาอังกฤษให้มาก ๆ ซึ่งข้อนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญ จะทำให้เรามีทักษะในการใช้ภาษาได้อย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นการอ่าน หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ตำราเรียน ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต แต่ก็แน่นอนว่าเทคนิคอันนี้ไม่สามารถจะฝึกได้ในชั่วข้ามคืน ต้องใช้เวลาสะสมไปเรื่อย ๆ สำหรับผมนั่งรถเมล์จากมหาลัยกลับบ้าน ก็นั่งอ่านอะไรไปเรื่อย ๆ
2. ฝึกหัดการเขียน
ถ้าเราอ่านมากแต่ไม่ได้จรดปากกาลงเขียนเลยเนี้ย บางครั้งมันก็ตันเหมือนกัน จึงต้องฝึกการเขียนภาษาอังกฤษอย่างสม่ำเสมอ สำหรับผมก็ใช้การเขียน email บ้าง chat กับเพื่อนเป็นภาษาอังกฤษบ้าง และก่อนสอบประมาณ 2 อาทิตย์ (ถ้าทำได้มากกว่านี้ก็ดี) ก็หัดเขียนตามหัวข้อของ ETS ซึ่งถ้าสามารถทำได้วันละหัวข้อจะดีมากเลย ( ผมทำไม่ได้ทุกวันหรอก แต่อาศัยฝึกมานานหน่อย ) โดยในขั้นนี้ไม่จำเป็นต้องกำหนดเวลา เพียงแต่แค่เขียนให้เรารู้สึกว่าถูกต้อง สละสลวย ( ซึ่งก็ต้องอาศัยประสบการณ์จากการอ่าน ถึงจะรู้ได้ว่ามันดีหรือไม่ดีเพียงใด ) โดยจะมีเทคนิคย่อยดังนี้
2.1 หัดเลียนแบบประโยคหรือรูปแบบจากหนังสือหรือบทความที่เราคิดว่ามันดูเท่ห์ มันดูเก๋ ( ที่แบบเราจะไม่นึกถึงในชีวิตประจำวันทั่ว ๆ ไป )
2.2 หัดเลียนแบบใช้ศัพท์ที่ดี ๆ และหลากหลาย โดยอาจจะไปอ่านเจอศัพท์คำนี้ ดูว่ามันน่าสนใจดี ก็หัดเอามาใส่ในบทความของเรา
2.3 ถ้าเป็นไปได้ก็ลองส่งให้เพื่อน ๆ ผู้รู้ หรือครูอาจารย์ ช่วยตรวจแก้ให้ ซึ่งคนที่ไปเรียนติวจะได้เปรียบตรงจุดนี้ แต่ของผมส่วนใหญ่ก็ลอก ๆ เขามา และก็เป็นคนชอบอ่าน เลยพอจะรู้ว่าแบบไหนถึงดีหรือไม่ค่อยดี
2.4 ทำความคุ้นเคยกับข้อสอบของ ETS ถ้าหัดเขียนไปเรื่อย ๆ จะรู้ว่าข้อสอบของ ETS มีลักษณะเป็นเช่นไร ถ้าเผื่อโชคดีอาจจะเจอข้อสอบซ้ำกับที่เราเคยเขียนเอาไว้ ( ผมว่าข้อสอบจริง ๆ ก็ไม่หนีจากตัวอย่างที่เขาให้มาเท่าไหร่ ) ก็จะมีการเปรียบเทียบ , ยกตัวอย่างสนับสนุน ขัดแย้ง , มีรูปแบบคำนำ เนื้อเรื่อง สรุป
2.5 ทำความเข้าใจกับระบบการให้คะแนนของ ETS อันนี้ผมพึ่งทราบจากการดูตัวอย่างจาก PowerPrep ซึ่ง เขาจะมีตัวอย่างจริง ๆ ของคนได้คะแนนในระดับต่าง ๆ มาให้ศึกษา ( ก่อนสอบสักสาม วัน หรือมากกว่านั้น ให้ใช้เวลาหมกมุ่นกับ PowerPrep ให้มาก เพราะข้อสอบหลายข้อใน part structure จะซ้ำ ๆ กัน , Listening ก็เหมือนกัน ) จากการสังเกตทำให้ผมได้ความรู้ว่า
- ควรจะเขียนให้ตรงหัวข้อมากที่สุด ตอบคำถามให้ตรงจุด อันนี้สำคัญมาก - การใช้ภาษาของคนได้ 6, 5.5 ,5 หรืออาจจะถึง 4.5 ไม่ค่อยแตกต่างกันเลยในเรื่องการใช้ศัพท์ รูปประโยค แต่จะแตกต่างกันในเรื่องการตอบคำถามให้ตรงกับหัวข้อ หรือ การให้ตัวอย่างที่ไม่เพียงพอ หรือบางคนเขียนดีทุกอย่าง แต่ตอนสรุปไปสรุปในเรื่องที่ไม่ได้ฟันธงไปยังหัวข้อนั้นโดยตรง - คนเขียนไม่จบบทความ ( เวลาหมดเสียก่อน ) ก็สามารถได้ 6.0 ได้ ( แต่อย่าเสี่ยงเลย) - ศัพท์หรู ๆ ไม่จำเป็นมาก แต่ไม่ควรใช้ศัพท์ที่มันพื้น ๆ เกินไป ควรจะให้มีความหลากหลายของศัพท์ที่มีความหมายเดียวกัน - บทความส่วนใหญ่ของ ETS สามารถใช้ Present Tense ได้
จากคุณ : แมงโม้ (เศรษฐ์ มธ) - [7 ธ.ค. 44 22:25:21]
ความคิดเห็นที่ 2
3. วันสอบ จริง ๆ จะบอกว่ามันก็มีความโชคดี โชคร้ายเหมือนกัน บางคนอาจจะได้หัวข้อง่าย ๆ แต่บางคนอาจจะได้หัวข้อที่บางที่จะตอบเป็นภาษาไทยก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะตอบอย่างไร อันนี้ก็ต้องฝึกให้เยอะ ๆ เข้าไว้ก่อนจะได้รับมือได้ทุกรูปแบบ
ก่อนที่จะทำข้อสอบเขาจะมีการให้ทำ Tutorial ในเรื่องนี้
เวลาตรงนี้สำคัญมาก
ให้นั่งเขียนรูปแบบทุกอย่างเท่าที่เราจะนึกได้ลงไปบนกระดาษทดที่เขามีไว้ให้ เช่นศัพท์ที่เก๋ ๆ บางคำ คำเชื่อมต่าง ๆ เช่น ..not only but also, nevertheless, however, In conclusion, I would like to say that, consequently, as a matter of fact, etc เขียนไปเยอะ ๆ ว่าเราต้องการจะใช้คำไหนบ้าง เพราะเวลาที่เวลามัน run จริง ๆ เราจะแทบไม่มีเวลาได้นั่งคิดรูปประโยค คำเชื่อม ต่าง ๆ ที่สวยงามเลย แต่ถ้าเราได้ list คำต่าง ๆ เอาไว้แล้ว เราจะสามารถหยิบมาใช้ได้อย่างอัตโนมัติ เขียนให้เยอะเท่าที่จะทำได้ ( ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ) ทำตรงนี้เสร็จแล้วค่อยไปนั่งทำ Tutorial ต่อให้เสร็จ..และเริ่มทำข้อสอบจริง
เขียนประมาณ 3 ย่อหน้า คำนำ หัวข้อ มีตัวอย่างสักสอง สามอัน สรุปให้ตรงกับคำถาม
พยายามเขียนไม่ให้ผิด Grammar อย่างง่าย ๆ พยายามดูความสัมพันธ์ของคำในรูปประโยคต่าง ๆ เวลาเขียนจริง ๆ เวลาจะมีน้อยมาก..ไม่ควรจะเสียเวลานั่งเขียน list ในกระดาษทด แต่ให้นึกในใจและก็เขียนลงไปเลย เวลาตรงนี้จะหมดเร็วมาก
ต้องระวังให้ดี ควรจะหัดพิมพ์ดีด และทำความคุ้นเคยกับ Keyboard ให้มาก (ถ้าทำได้ ) ควรจะเหลือเวลาสุดท้ายประมาณ 5 นาที เพื่อที่จะ scan ดูทั้งหมด ว่ารูปแบบเป็นอย่างไร มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า ซึ่งบ่อยครั้งจะมีการแก้ไขในบางจุดสำคัญที่มองข้ามไปในช่วงเวลาของการ Scan ครั้งสุดท้ายนี้
ข้อสอบ TOEFL จะ auto Save ถึงเราไม่ได้กดปุ่ม OK แต่ถ้าเวลาหมด มันก็จะ save ให้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องวิตก
คิดว่าบทความนี้คงจะมีประโยชน์กับผู้กำลังจะสอบ TOEFL ไม่มากก็น้อย ขอให้ผู้อ่านทุกคนโชคดีในการสอบนะครับ ถ้าสอบได้น้อยก็อย่าท้อใจ พยายามกันต่อไปจนกว่าจะสำเร็จ
จากคุณ : แมงโม้ (เศรษฐ์ มธ) - [7 ธ.ค. 44 22:30:31]
ตามคำขอค่ะ
จากคุณ :
Eternal_Sabbath
- [
10 ก.ย. 46 03:03:19
A:169.210.5.121 X:
]
|
|
|