ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องอนุมัติเนี่ย นานแค่ไหนตอบไม่ได้นะคะ แล้วแต่ทาง BCIS บางคนเร็ว บางคนช้า ส่วนว่าจะขอวีซ่าท่องเที่ยวไปอยู่กับแฟนก่อน ถ้าส่งเรื่องวีซ่า k-3 แล้ว เค้าจะไม่ให้ขอวีซ่าใด ๆ เลยค่ะ ต้องอยู่เมืองไทยรออย่างเดียว จากคุณ : หมูหวาน - [ 15 พ.ย. 46 22:11:06 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ต้องรอประมาณ 60 และ 90 วันค่ะ ถึงจะได้รับการ approved จากคุณ : Blue Narumi - [ 25 พ.ย. 46 10:33:30 A:203.149.39.61 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 Sawasdeekha, My name is Pat. I'm a thai citizen, married with an american husband, i got my K-3 visa in April 2003 after 15 months separation. I think you should wait until you get the visa. I understand your feeling very well na kha. Oh, i used to send you an email last week, did you get it? I will pray for you... Hang in there, Pat จากคุณ : sawasdee_girl@yahoo.com - [ 27 พ.ย. 46 10:28:33 A:24.30.141.250 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 สวัสดีค่ะ.. คุณโอ๋ ดิฉันชื่อพัดคะ (โพสในคคห.ที่ 3) เพิ่งจะเจอโปรแกรม Thai Keyboard น่ะคะก็เลยตามมาโพสอีกที ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ดิฉันเองก็เป็นคนหนึ่งที่มาอเมริกาโดย K-3 Visa ดิฉันแต่งงานกับสามีเมื่อต้นปี 2002 (ม.ค.2002) คือเราเจอกันทาง internet แล้วสามีก็ติดต่อกับดิฉันทางโทรศัพท์ (โทรมาคุยกับดิฉันทุกวัน) หลังจากนั้นเขาก็มาเมืองไทยเดือน ม.ค. 2002 แล้วเราก็ตัดสินใจแต่งงานกันค่ะ หลังจากนั้นสามีก็เดินทางกลับไปอเมริกา แล้วก็เดินเรื่องเอกสารต่างๆกับทาง INS หรือ BCIS ในปัจจุบันนี้.. อ้อ..สามีเริ่มส่งเอกสารไปทาง INS ประมาณวันที่ 22 ก.พ.2002 หลังจากนั้นทาง INS ก็ได้ส่งเอกสารตอบกลับมาว่าได้รับเอกสารแล้ว และก็ได้ส่งหนังสือมา request เอกสารอื่นๆอีกมากมาย (ก็อย่างที่รู้กันว่าทาง INS เรื่องมากจะตายไป..) แต่ case ของดิฉันได้รับการ approved เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2003 (ที่ทราบก็เพราะว่าดิฉันเช็คทาง website ของ INS เขามีให้เช็ค case status online) หลังจากนั้นทางดิฉันก็ไดัรับจม. หรือเราเรียกว่า Package 3 จากทางสถานฑูตอเมริกาในประเทศไทยเืมื่อวันที่ 22 หรือ 23 มี.ค. 2003 ให้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ พร้อมกับฉีดวัคซีนด้วย หลังจากนั้นดิฉันก็ส่ง Pakeage 3 กลับไปที่สถานฑูตอีกที หลังจากนั้นทางสถานฑูตก็ส่ง Package 4 มาให้อีกครั้ง (แนะนำว่าคุณควรอ่านรายละเอียดทุกอย่างให้ดีนะคะ) พร้อมกับวันนัดสัมภาษณ์ (วันที่ 10 เมษายน 2003) **แนะนำว่าคุณควรเตรียมตัวให้ดี** ดิฉันหมายถึงเอกสารโดยเฉพาะเอกสาร (หลักฐาน) ที่สามารถพิสูจน์ความสัมพันธ์ว่าคุณกับสามีของคุณติดต่อกัน (หากว่าสามีของคุณอยู่อเมริกา แต่คุณอยู่เมืองไทย เหมือนกับกรณีของดิฉัน) เช่น รายละเอียดการโทรทางไกล หรือ เอกสารการโอนเงิน (กรณีที่สามีของคุณส่งเสียคุณทุกเดือน) แนะนำว่าคุณควรจะมีรายละเอียดครบถ้วนนะคะ เพราะมันสำคัญมากทีเดียว หรือหากคุณติดต่อกับสามีทาง email แนะนำว่าให้คุณ Print จม.ที่คุณส่งไปหาสามี ไปให้ทางสถานฑูตดูด้วย (อาจเป็นจม.โต้ตอบกันระหว่างคุณกับสามี) ... แม้ว่าดิฉันจะเตรียมตัวดีแล้ว แต่วันนั้นก็ยังติดเอกสารอื่นๆ อีก คือ หนังสือหย่าตัวจริงจากสามี (เนื่องจากสาีมีเคยแต่งงานมาก่อน) แต่เมื่อดิฉันไปยื่นเอกสารเพิ่มเติมอีกครั้งวันที่ 18 เมษายน 2003 ก็ได้รับวีซ่าวันนั้นเลยค่ะ.. สำหรับช่วงที่รอแล้วจะไปเที่ยวได้ไหม ดิฉันเองก็ไม่แน่ใจ แต่ในความคิดเห็นของดิฉันแล้วคุณไม่ควรใจร้อนนะคะ เพราะหากคุณไปขอวีซ่าท่องเที่ยวก่อน แต่ได้รับการปฏิเสธ.. (สมมตินะคะ) มันจะมีผลต่อวีซ่าถาวรของคุณด้วย เชื่อดิฉันเถอะค่ะ ใจเย็นๆดีกว่า เพราะในคำจัดกัดความของวีซ่าท่องเที่ยว หรือ Nonimmigrant Visa นั้นคุณต้องแสดงให้ทางสถานฑูตเชื่อว่าคุณไม่มีเจตนาที่จะไปอยู่ที่โน่น แต่ในขณะเดียวกันคุณได้ยื่นขอ K-3 Visa ไปแล้วด้วย มันดูขัดๆกันนะคะ หากมีข้อสงสัยส่งอีเมลล์มาคุยกันได้ที่ sawasdee_girl@yahoo.com โชคดีนะคะ.. Pat จากคุณ : sawasdee_girl@yahoo.com - [ 30 พ.ย. 46 04:20:32 A:24.30.141.250 X: ]