ก่อนถึงวันปีใหม่ ก็เก็บบันทึกเก่าๆ มาปัดฝุ่นให้อ่านเล่น
เผื่อคนที่ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีในปีใหม่ อาจจะมีไอเดีย
บางอย่าง ข้อมูลบางอย่างอาจมีความคลาดเคลื่อบ้าง
ก็ต้องขอภัย เพราะเป็นบันทึกถึงเพื่อน แบบง่ายๆ
ควันหลงวันปีใหม่จากญี่ปุ่น : พรจะถึงพระเจ้าไว ถ้าตัดสินใจลงทะเบียน
วันเวลาเลื่อนผ่านไปเรื่อยๆ โดยมิเคยถูกจำกัดโดยตัวเลขที่
สร้างขึ้นความใหม่และความเก่าในแต่ละจุดของโลกก็มีการ
กำหนดที่แตกต่างกัน แต่ดูเหมือนว่าโลกในยุคใหม่นี้ความใหม่
และเก่าจะถูกเลื่อนเข้ามาจนใกล้จะเป็นนิยามเดียวกัน
ญี่ปุ่นเองก็ได้เลื่อนวันปีใหม่มาเป็นวันที่หนึ่งเดือนธันวาคมตาม
แบบชาวโลกอีกหลายๆ ประเทศเช่นกัน แม้ตัวเลขปีจะแตกต่าง
กันไปจากประเทศอื่น แต่วันสุดท้ายของปีดูเหมือนจะเป็นวันเดียวกัน
ในปีนี้ผมได้มีโอกาสสัมผัสช่วงรอยต่อ ระหว่างปีสองพัน กับปี สองพันหนึ่ง
สู่ปีสองพันสอง ณ ดินแดนอันเหน็บหนาวที่สุดที่ชื่อ
ว่าฮอกไกโดเมืองทางภาคเหนือของญี่ปุ่น ก็เลยอยากเก็บบรรยา
กาศการนับถอยหลังฉบับเมืองหนาวมาฝากผู้อ่านทุกท่าน
ในญี่ปุ่นสถานที่ที่คนมักจะรวมตัวกันในคืนรอยต่อระหว่างปี ก็คือ
ตามวัดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวัดของชาวพุทธ หรือวัดของชินโต
ที่เมืองซัปโปโร(Sapporo) ซึ่งเป็นเมืองหลวงประจำฮอกไกโด
Hokkaido ) ก็มีการนับถอยหลังเช่นกัน และในสถานที่ที่
มีคนไปมากที่สุดก็คือวัดกลางของฮอกไกโด ซึ่งเรียกกันสั้นๆว่า
วัดฮอกไกโด
ที่แห่งนี้ดูเหมือนจะเป็นศูนย์รวมจิตใจ และที่รวมความทุกข์และ
ความหวังของผู้ที่อาศัยในเมืองหนาวแห่งนี้ แม้ว่าผมจะอยู่ที่ฮอก
ไกโดมาเกือบสามปีแล้ว แต่ผมก็ไม่เคยได้เข้าได้เข้าวัดอย่างจริงจัง
สักที อาจจะเคยมาบ้างก็เพียงแค่การมาดูวัด ดูโครงสร้างและความ
งามของวัด แต่มิได้มาร่วมพิธีกรรมของวัด ดังนั้นจึงไม่อาจเรียกได้ว่า
เคยเข้าวัด
วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในปีที่แล้ว ผมได้ไปอาศัยอยู่ที่บ้าน
ครอบครัวญี่ปุ่น เมื่อนับถอยหลังตามทีวีที่ถ่ายทอดสด ผมกับโฮส
แฟมมิลี่ก็ไปคาระวะศาลเจ้าที่อยู่ภายในหมู่บ้าน ที่นี่สามารถเรียกได้
ว่าเป็นศาลเจ้าเพราะเป็นเพียงแค่เพิงเล็กๆ และคนที่มาก็มีเพียงไม่กี่
คนส่วนใหญ่ก็อาศัยในละแวกนั้น
แต่ในปีนี้ผมกับเพื่อนได้ไปร่วมงานนับถอยหลังแบบฉบับสไตล์
ชาวญี่ปุ่น ตอนแรกก็คาดว่าการไปเข้าวัดขอพรในวันปีใหม่
น่าจะเป็นเรื่องง่ายๆ เพราะแค่เดินไป ยกมือไหว้ ก็น่าจะเสร็จ
แต่ดูเหมือนกาลจะไม่เป็นเช่นนั้น เพราะนับตั้งแต่ลงจากรถไฟ
ใต้ดินก็มีฝูงคนจำนวนมากไม่รู้หลั่งไหลออกมา ราวกับมดที่แย่ง
กันออกจากรูยามที่น้ำท่วม
อากาศภายนอกค่อนข้างหนาวเพราะพายุหิมะ ที่พัดผ่านเข้ามายัง
คงทิ้งร่องรอยของหิมะเอาไว้ตามยอดไม้และบนพื้น เป็นจำนวนมาก
ดังนั้นการเดินทางไปวัด จึงเหมือนกับการเดินในตู้เย็นขนาดใหญ่
ที่สำคัญไม่ได้เดินในช่องธรรมดา แต่เป็นการเดินในช่องแช่แข็งพิเศษ
ซึ่งมีอุณหภูมิประมาณลบห้าองศา แม้ว่าจะหนาวเพียงใดแต่ดูเหมือน
ฝูงชนจะไม่ย่อท้อเลย
อีกไม่ถึงห้านาทีก็จะถึงเวลานับถอยหลังแล้ว แต่ดูเหมือนว่าการเดิน
ตามหลังฝูงชนคงจะไม่สามารถทำให้ผมได้นับถอยหลังภายในเขตวัด
แน่นอน ผมจึงตัดสินใจเดินออกจากเชือกที่เขากั้นคนเอาไว้ริมฟุต
บาท และลงมาเดินบนถนนแทน
เนื่องจากรถมีค่อนข้างมากดังนั้นจึงไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ ถนน จึง
กลายมาเป็นของคนเดินเท้าไปโดยปริยาย
พื้นถนนทีคลุมไปด้วยหิมะค่อนข้างลื่นดังนั้นแม้จะพยายามเดินให้
เร็วเพียงไรก็ยังค่อนยังดูเหมือนช้า เพราะต้องเดินแบบไถไปข้าง
หน้าเรื่อยๆ แต่ก็ยังโชคดีที่สามารถเข้ามาถึงเขตวัดได้ ก่อนที่วันใหม่
จะมาถึง
แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 46 15:06:56
จากคุณ :
ยาโมเมะ
- [
11 ธ.ค. 46 15:01:35
]