ความคิดเห็นที่ 1 ไม่มีใครหรอกครับ ที่จะใช้ชีวิตในต่างประเทศตลอดไป คนที่มาต่างประเทศก็เพื่อจะมาหาเงิน ถ้ามีเงินมากพอ ที่คิดว่าชีวิตมั่นคงแล้ว ไม่มีใครที่คิดจะใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศหรอกครับ ทุกคนก็อยากกลับไปอยู่ที่บ้านเกิดของตัวเองทั้งนั้นแหละครับ ส่วนเรื่องการปรับตัว มันเป็นธรรมดาครับ ที่เราจะต้องไปอยู่ในที่ซึ่งมีประเพณี วัฒนธรรมที่ไม่เหมือนกัน ก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพสังคมของเค้าที่เราจะต้องไปอยู่ เพียงแต่ว่า เราจะต้องมีวินัยมากขึ้นเท่านั้นเอง เพราะผมพูดหมายถึงคนไทยนะครับ คนไทยอยู่กันอย่างสบายๆ อยู่กันแบบพี่แบบน้อง แต่สังคมเมืองนอก มันไม่ใช่แบบนั้นน่ะครับ ส่วนเรื่องอุปสรรค คงไม่มีหรอกครับ ถ้ามีการวางแผนชีวิตที่ดีแล้ว คิดดี ทำดี ทุกอย่างก็คงไม่มีปัญหาหรอกครับ สรุป ไม่ต้องคิดหนักหรอกครับ อยากมาก็มา ถ้าไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา เท่านั้นเอง เพราะถ้าคิดว่า อยากเห็นอะไรใหม่ๆ สังคมใหม่ ก็ขอเชิญมาพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองดีกว่านะครับ ฟังคนอื่นเค้าเล่ามันไม่เห็นภาพเหมือนมาเองหรอกครับ ผมว่าน่าลองมาดูนะครับ เผื่อคุณอาจจะเป็นหนึ่งในหลายๆคน(ผมว่าส่วนน้อยนะ)ที่ไม่อยากกลับไปอยู่เมืองไทยอีกเลยก็ได้.......... คิดให้รอบคอบ โชคดีนะครับ... แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 47 03:05:39 จากคุณ : อยากตอบ (สมชายสายเสมอ) - [ 28 มี.ค. 47 02:59:44 ]

ความคิดเห็นที่ 2 I totally agree with #1, but I have to really think hard about going home permanently. I'm worried for my own and my family safety, especially when I accidentally step on someone's toes and get shot dead without knowing whose son my shooter is. แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 47 04:05:28 จากคุณ : genf - [ 28 มี.ค. 47 03:22:28 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คำถามกว้างมากเลยครับ ตอบลำบาก แต่ในฐานะที่อยู่เมืองนอกมาพอสมควร และรู้จักคนไทยบ้างที่ ตัดสินใจไม่อยากอยู่เมืองไทย ผมขอให้ความเห็นบ้างคงไม่ว่ากันนะครับ ถึงแม้ผมจะไม่เข้าข่ายคนที่คุณถาม จริงๆแล้วแบ่งกว้างๆได้สามประเภทครับ ประเภทแรก คนไทยที่เป็นรุ่นลูกของคนไทยที่อพยพ(ขอใช้คำนี้ )มาอยู่เมืองนอก หรือจะเรียกว่าย้านถิ่นฐาน ก็ได้ เด็กรุ่นนี้เติบโตในเมืองนอก พูดอังกฤษชัดกว่าภาษาไทย (บางทีพ่อแม่ก็ไม่ค่อยสอนภาษาไทยให้ลูก) พวกนี้อยู่เมืองนอกดีกว่า เพราะกลับไปเมืองไทยก็ปรับตัวลำบาก แต่คนพวกนี้น่ะ ถ้าฉลาดนะครับ (ฉลาดในความคิดส่วนตัวของผม) ไปอยู่เมืองไทยน่ะดีกว่าอีก เพราะว่า ถ้าคุณใช้งานภาษาอังกฤษได้ดีมากๆ ทั้งอ่านเขียน พูดฟัง แถมพูดภาษาไทย ใช้งานได้ เรียนให้จบที่เมืองนอก หอบดีกรีกลับไปเมืองไทย อนาคตทางการงาน*อาจจะ*ดีกว่าอยู่เมืองนอกอีก แถมถ้าเป็นผู้ชายนะครับ โห อยู่เมืองไทยด้วยคุณสมบัติแบบนี้ คุณแทบจะเป็นเทพบุตรเลยหล่ะครับ คุณไม่ต้องไปหาผู้หญิงสวยๆหุ่นดีๆหรอกครับ อยู่เฉยๆก็มีมาให้เลือกไม่ว่างเว้น อยู่เมืองนอก (อันนี้พูดถึงอเมริกา) ต้องเสียภาษีเยอะมาก คุณทำงานได้เงินมากก็จริง แต่ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็แทบจะตามมาติดๆ เมื่อเร็วๆนี้ มีกระทู้เกี่ยวกับเงินๆทองๆ แล้วมีคนนึงออกตัวว่า มีสามีเป็นคนอเมริกัน เขียนไว้ดี บอกว่าเงินเดือนสามีเท่านี้ (ก็เยอะนะครับ) แต่เค้าแจกแจงรายจ่ายต่างๆ ต่อเดือน รวมถึงภาษีที่ต้องจ่าย สรุปแล้วเงินเก็บเหลือไม่เท่าไหร่เอง อยู่อเมริกา ที่เที่ยวน่ะ น่าเบื่อมาก มีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งบอกผมว่า ไม่ว่าจะไปเที่ยวรัฐไหนก็เท่านั้น มันก็คืออเมริกา ผมมีเพื่อนคนนึงมาเรียนแล้วก็เที่ยวไปหลายรัฐ เวลาผมถามว่าที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง เผื่อมีอะไรน่าสนใจบ้าง เธอบอกว่า ก็รู้ๆอยู่อเมริกา ไม่ว่ารัฐไหน ก็คล้ายๆกัน คุณๆว่าจริงมั้ยหล่ะ? ประเภทที่สอง คือพวกรุ่นอพยพ รุ่นพ่อแม่ของประเภทแรก พวกนี้มีปัญหาครับ ผมรู้ดีว่าเขียนแบบนี้ หลายคนอาจะไม่ชอบหน้าผม แต่ผมว่ามันเป็นความจริง ตอนผมมาอเมริกาใหม่ๆ คนไทยที่อายุมากคนนึงบอกผมว่า คนไทยที่อยู่อเมริกาไม่กลับเมืองไทย คือ**พวกที่มีปัญหา ไม่สามารถกลับไปเมืองไทยใช้ชีวิตอย่างปกติสุขได้** บางคนมีหนี้สินที่เมืองไทย บางคนมีคดีความ บางคนมีปัญหากับครอบครัวญาติพี่น้องที่เมืองไทย ผมมานึกๆดูมันก็จริง แต่มีอีกกรณีนึงที่ผมพึ่งมาสังเกตพบภายหลัง คือ คนไทยบางคนมีปมด้อย อาจจะเรื่องการศึกษา หรือ ฐานะทางการเงิน ทางสังคม บางคนอยู่เมืองไทย อยู่ในระดับชั้นทางสังคมระดับนึง พอมาอยู่ที่อเมริกา **ซึ่งเป็นประเทศประชาธิปไตยที่เปิดโอกาสทางชนชั้นอย่างมาก** พอได้รับพื้นที่ตรงนี้ เหมือนของขวัญที่ตีค่าไม่ได้ เป็นพื้นที่ๆไม่สามารถมีได้ในประเทศไทย พอได้ทุกอย่างสมหวังอย่างที่ตั้งใจ และอยู่อเมริกามานานจนได้เห็นความเป็นไปในสังคมอเมริกันมากพอ ที่จะตระหนักได้ว่า **มันไม่ได้ดีเลิศขนาดที่จะเอาชีวิตที่เหลือมาฝากไว้ แผ่นดินนี้มันไม่มีความศักดิ์สิทธิ์พอที่ จะไว้ฝังร่างของตัวเองยามจากไป** คิดจะกลับบ้านเกิด ?? พอตีตั๋วเครื่องบินกลับไปเที่ยว ปรากฏว่า เมืองไทยเปลี่ยนไปมาก แต่บรรยากาศและเงื่อนไขโง่ๆบางอย่าง ยังเหมือนเดิม คนพวกนี้จึงไม่สามารถ ตัดสินใจกลับได้ ก็ต้องอยู่อเมริกาต่อไป ทั้งๆที่ลึกๆแล้ว พออายุมากขึ้น.... "ลึกๆแล้ว ทุกคนก็ฝันอยากกลับไปมีที่ๆสงบสุขสักแห่งในเมืองไทย เพียงแต่ว่าจะยอมรับออกมาหรือไม่" ข้อความข้างบนที่ ผมอ่านมาจากกระทู้ที่ป้าวิ เขียน เอาเข้าจริงๆน่ะ ไม่มีที่ไหนดีและอบอุ่นเหมือนบ้านหรอก ถึงคุณหรือใครจะอยู่อเมริกานานแค่ไหน แต่ถ้าคุณไม่ได้เกิดและโตที่นี่ ที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ของคุณ ถึงคุณจะเป็น citizen แต่ประเทศนี้ก็ไม่ใช่ของคุณ เจ้าของเดิมน่ะคือคนอินเดียนแดงพื้นเมือง ส่วนปัจจุบันคนขาวและคนยิวบางส่วนต่างหากเป็นเจ้าของ ! ส่วนประเภทที่สาม คือคนไทยที่มาเรียนต่อในการศึกษาระดับสูง มีความรู้ความสามารถสูง พวกนี้ถ้าไม่สามารถหางานที่มีค่าตอบแทนสูงที่เมืองไทยได้ ก็ต้องทำงานที่เมืองนอก คนพวกนี้ก็น่าสงสารครับ เรียนสูง แต่กลับไปเมืองไทยแล้วพบอย่างที่คนอื่นๆพบ คือ เงื่อนไขโง่ๆ คนมีการศึกษาดีๆ มีทางเลือก เค้าถึงหนีไปอยู่เมืองนอกหมด อย่างที่เรียกว่าสมองไหล แต่คนพวกนี้มีข้อน่าตำหนิอยู่อย่างนึง ไว้วันหลังผมจะมาตั้งกระทู้เขียนถึงกรณีนี้ ต้องแบบว่าว่างๆก่อนครับ เพราะประเด็นแบบนี้เนี่ยต้องระวังนิดนึง เขียนไปกระทบกับพวกคนเรียนสูง พวกนี้บางทีก็ ego ลึกๆอวดดีถือดี ไม่ค่อยยอมรับความจริงง่ายๆ ไม่ค่อยให้ใครมาสอน หรือ บอกว่าตัวเองมีจุดบกพร่องอะไรแบบตรงๆ ขอบคุณที่อ่านครับ จากคุณ : คนไทยในอเมริกาคนหนึ่ง - [ 28 มี.ค. 47 03:28:42 A:151.196.29.92 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 ที่เมืองไทย ถึงคิดจะหนีกรุงเทพไปอยู่ต่างจังหวัด อากาศดี สภาพแวดล้อมสะอาด ชีวิตไม่เร่งรีบอะไรเกินไปแบบกรุงเทพ แต่ ดิชั้นต้องการความก้าวหน้าแก่ชีวิต เรียนรู้และต้องการประสบการณ์ในวงธุรกิจและระบบที่ได้มาตราฐานโลกอ่ะนะ ในแวดวงต่างจังหวัดมันหาไม่ได้อยู่แล้ว เมื่อกลับมามองกรุงเทพอย่างที่รู้ๆกัน ใครจะอยู่ได้ในสภาพแบบกรุงเทพ ดิชั้นไม่ขออยู่ล่ะคนนึง ส่วนอยู่ต่างประเทศ ในประเทศที่เจริญแล้วทั้งหลาย ถึงจะอยู่นอกเมืองหน่อยแต่ก็ยังมีระบบของบริษัทดีๆให้ได้ทำงาน และเรียนรู้สิ่งดีๆ ระบบดีๆ ถึงจะอยู่เมืองใหญ่ มลภาวะ และสภาพแวดล้อม ก็ยังไม่เป็นพิษเท่าที่กรุงเทพ ความเป็นระเบียบมีมากกว่า ถ้ารู้จักเลือกเมืองและประเทศที่ไปอยู่อย่างรอบคอบด้วยอ่ะนะ เพราะบางคนที่ไม่มีทางเลือกก็ต้องไปอยู่ขายแรงงานในเมืองที่คุณภาพชีวิตแย่ๆ แม้จะเป็นเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ของประเทศที่พัฒนาแล้วก็เหอะ ในบางประเทศก็ติดอันดับมลภาวะเป็นพิษสูงเหมือนกัน จากคุณ : ชอบเปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆ - [ 28 มี.ค. 47 06:06:58 A:203.23.155.1 X:202.173.194.125 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เอาเป็นว่าลองมาดูมาอยู่ดีไม๊ ไม่ชอบก็ค่อยกลับไป เราถือคติอย่างนึงน๊ะ ก้าวขาไปข้างหน้าข้างนึงยังดีกว่าไม่ได้ก้าวไปเลยสักขาอ่ะ คุณนั่งนึกภาพหรือฟังความเห็นมันก็ไม่เหมือนคุณได้ไปสัมผัสด้วยตัวเองน่ะ จากคุณ : คนเมืองนอกเหมือนกัน - [ 28 มี.ค. 47 09:09:15 A:66.53.60.148 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 มันก็คงแล้วแต่คนด้วยมั้งครับ ทั้งที่อยากกลับ และอยากอยู่ ต่างคนก็มีหนทางของตัวเอง จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม จะใช้คำว่า "ทุกคน" เป็นยังงั้น ยังงี้ ก็คงจะไม่ได้ ส่วนผมเอง ถ้าอยู่ออสเตรเลียได้ ผมก็อยู่ อยู่ไม่ได้ ก็กลับ เหตุผลก็เรื่องหาเงินจุนเจือครอบครัวแหละครับ เพราะอยู่เมืองไทย ผมไม่สามารถ (อย่างน้อยก่อนมามันก็เป็นอย่างนั้น) เพราะค่าจ้างน้อย ได้มาเท่าไหร่ จ่ายไปหมด ไม่เหลือเก็บด้วยซ้ำไป อย่าว่าแต่ส่งให้พ่อแม่น้องนุ่งเลย แต่อยู่นี่ ถ้าผมไม่ต้องจ่ายค่าเรียน อย่างน้อย ผมก็น่าจะ พอมีส่งกลับไปให้น้องเรียน แบ่งเบาพ่อแม่ไปได้บ้าง ถึงแม้ผมอาจจะไม่สามารถนั่งทำงานออฟฟิศ เหมือนอย่างที่เคยทำที่กรุงเทพ จะต้องเป็นกุลี ใช้แรงงาน ให้เขาโขกสับ แต่ผมก็ชินแล้วล่ะครับ จากคุณ : ดอส - [ 28 มี.ค. 47 09:15:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อ่านคคห.ที่สามแล้วตรงใจมากที่สุด คือเราตามอ่านมาตั้งแต่กระทู้แนะนำแล้ว ก็เลื่อนลงมาเรื่อยๆ ก็มาเจอกระทู้นี้ ขอเซฟเก็บไว้ก่อน ไม่เคยนึกว่าจะมีคนจัดกลุ่มได้ตรงขนาดนี้ เห็นด้วยทุกประการกับคนที่สามแบบ เห็นด้วยแม้กระทั่งว่า [b]ตอนผมมาอเมริกาใหม่ๆ คนไทยที่อายุมากคนนึงบอกผมว่า คนไทยที่อยู่อเมริกาไม่กลับเมืองไทย คือ**พวกที่มีปัญหา ไม่สามารถกลับไปเมืองไทยใช้ชีวิตอย่างปกติสุขได้** บางคนมีหนี้สินที่เมืองไทย บางคนมีคดีความ บางคนมีปัญหากับครอบครัวญาติพี่น้องที่เมืองไทย[b] จากคุณ : นับเราด้วยคนนึง - [ 28 มี.ค. 47 09:34:51 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ส่วนเราถ้าถามว่าอยากกลับไปอยู่ไทยตอนนี้ คำตอบที่ชัดเจนที่สุดคือไม่กลับ เพราะอะไรหรือ เรายังมีแม่อยู่ที่เมืองไทยที่เราต้องดูแล ถึงจะด้วยการส่งเงินกลับอย่างเดียวก็เถอะ ที่เมืองไทยนะถ้ามีเงินสะอย่างก็สบายไปหลายอย่างแล้ว แล้วเราอยู่เมืองไทยจะมีปัญญาไหม คำตอบคือไม่มี เพื่อนๆที่เรียนด้วยกันมาตอนนี้รับเงินเดือน 15000กว่าๆเอง เราอยู่ออสเตรเลีย สามารถหาเงินได้มากกว่า4-5เท่าหลังหักภาษีนี่ขนาดเบาะๆงานเดียวนะ ถ้าขยันๆเราหาได้เดือนหนึ่งเยียบแสน แต่ก็อีกละไม่อยากตายก่อนเวลาอันควร เลยไม่ขยันเท่าไร ชิวิตนี้นอกจาหากะตังค์แล้วยังมีอย่างอื่นอีกเยอะ เอาไว้เราเลิกทำงานเมื่อไร อาจจะคิดกลับไปอยู่มืองไทยก็ได้ แต่คงจะอีกนานนนน จากคุณ : (y) - [ 28 มี.ค. 47 11:21:40 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมคนนึงล่ะที่ไม่กลับไปอยู่ ผมมัน pro choice ครับ กลับไปคงหงุดหงิดตาย เบื่อรัฐแบนไทยอ่ะครับ จากคุณ : AquariusFX - [ 28 มี.ค. 47 13:46:46 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ : นับเราด้วยคนนึง I agreed with most of what # 3 said except เจ้าของเดิมน่ะคือคนอินเดียนแดงพื้นเมือง ส่วนปัจจุบันคนขาวและคนยิวบางส่วนต่างหากเป็นเจ้าของ. That's nonsense to me ( if I understand crrectly). I own part of America and I am a proud taxpayer and I recieve all benefits that any citizen deserved. However, America is only my second home. Thailand is my final home. Bangkok is not my kind of town. จากคุณ : Isvasu - [ 28 มี.ค. 47 14:30:08 A:4.7.57.249 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถามใจและความต้องการของคุณจ้ะ ชีวิตเป็นของคุณ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนๆในโลกนี้ไม่ว่าเมืองไทย หรือต่างประเทศ หากเรารู้สึกสุขใจ ก็ไม่แปลกที่จะอยู่ตลอดไป หากอยู่ๆไปไม่สุขใจก็กลับบ้านเราจ้ะ ดูปัจจัยต่างๆของคุณผนวกความสุขใจแล้วตัดสินใจจ้ะ จากคุณ : Soleil - [ 28 มี.ค. 47 16:44:35 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบรู้สึกประทับใจจริงๆ มันทำให้เราได้รับรู้มุมมองด้านอื่น คือใจหน่ะมากว่าครึ่งแล้วเพราะเคยใช้ชีวิตในหลายประเทศมาบ้างแต่อยู่แค่ 2-3 เดือนและคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการปรับตัว ที่ถามเพราะอยากฟังประสบการณ์ของคนอื่นบ้างเผื่อมีอะไรที่เรายังไม่รู้ ความจริงมีหน้าที่การงานมั่นคงดูดีและอนาคตไกลในสายตาหลายคนแต่ไม่มีใครรู้ว่าเรากำลังเผชิญกับภาวะเต็มกลืนกับอะไรบ้าง ต้องหลุดเข้าไปอยู่ในวังวนของอำนาจและความงี่เง่าไร้สาระอย่างที่ข้างบนบอกอยู่ตลอดเวลา คือเรื่องมันยาวถ้าเล่าไปเดี๋ยวจะเบื่อกันเสียก่อน ขอตัวนอนก่ายหน้าผากคิดต่อดีกว่า จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [ 28 มี.ค. 47 21:59:47 A:203.151.127.223 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 น้ายังตัดสินใจไม่ได้ค่ะ แต่ขอตอบด้วยคนนะ เกิดมาชอบเรียนหนังสือแต่เด็ก ก็เรียนมาเรื่อยๆ เรียนมาเรียนไปจนถึงดอกเตอร์ กลับเมืองไทยได้งานไม่ถูกใจ ไปสมัครงานที่หนึ่ง เขาว่า "ไม่มีตำแหน่งวิจัย แต่ท่านผู้จัดการใหญ่อยากได้ตัวไปเป็นเลขา" ขณะที่อเมริกามีบริษัทรอรับอยู่แล้ว เลยตั้งใจว่าจะลองดูสักพัก แล้วก็เจอหนุ่มมาจีบ เคยลากลับบ้านไปพักใหญ่ ไม่มีทั้งงาน ไม่มีทั้งแฟน คุณแม่ท่านว่า "เป็นเพราะเรียนสูงไป เลยหาแฟนยาก" บริษัทที่นี่ก็คอยถามว่าเมื่อไหร่จะกลับมาเสียที ก็เลยกลับมาทำงานเหมือนเดิม แว๊ปเดียวผ่านไปอีกสิบกว่าปี มีทั้งสามีและลูก กับงานที่มั่งคง ถ้าจะกลับเมืองไทย คงต้องรอลูกเข้า college ก่อนมั้ง แล้วคงได้กลับไปรีไทร์เลย จากคุณ : น้าหญิง - [ 29 มี.ค. 47 06:26:45 A:24.60.117.125 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 I get stuck here in the US. Close to retirement. Financially is OK but not wealthy enough to take my single son back to Thailand with me and do not want to leave him alone in the US. It is not possible for him to earn in Thailand as much as he could in the US. Also, to live in Thailand with US standard.. can not afford it. จากคุณ : I honestly get stuck in the US - [ 29 มี.ค. 47 11:24:35 A:4.7.57.249 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 อยู่เมืองไทยเงินเดือน แสนนึงผมว่าถมถืดไปครับ เมืองนอกเมืองนา...ผมไปได้ แต่อยู่ได้ไม่เกิน 5 วันครับ มาม่าหมดเมื่อไหร่ผมกลับเลย ผมมันปรับตัวยากครับ กินข้าวเหนียวหมูปิ้งมาตั้งแต่เกิด สรุป.....ไปน่ะได้แต่ต้องกลับครับสำหรับผม จากคุณ : tri - amp lampang - [ 29 มี.ค. 47 14:50:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ก่อนอื่นผมต้องขอบอกว่าผมเคารพในความคิดของทุกๆ คนนะครับ ผมเชื่อว่าคนเราสามารถคิดได้ต่างกัน ไม่สามารถไปตัดสินความคิดของคนอื่นว่าผิดหรือถูกด้วยความคิดของตัวเราได้ ทีนี้ผมขอแสดงความคิดของผมบ้างนะครับ ผมเป็นคนนึงที่กำลังเตรียมตัวเพื่อไปใช้ชีวิตต่างแดน ด้วยต้องการไปศึกษาเพื่อเพิ่มระดับการศึกษาและต้องการไปหาประสปการณ์การทำงานที่ต่างแดนด้วย เพื่อปลูกฝังวัฒนธรรมความมีระเบียบวินับให้กับตัวเอง และนำเทคโนโลยีความรู้ต่างติดตัวให้ได้มากที่สุด เพื่อวันนึงเมื่อผมคิดว่าผมพอแล้วกับความรู้ประสบการณ์ที่ต้องการ วันนั้นผมจะกลับมา ประเทศไทยครับ ผมจะกลับทำให้ประเทศไทยเป็นที่ที่ทุกคนจะไม่รู้สึกว่า ไม่อยากกลับมาอยู่ ไม่ว่าจะได้เหตุผลใดก็ตาม ทั้งไม่มีระเบียบวินัย ไม่น่าอยู่ มีแต่ปัญหา สำหรับผมอย่างที่หลายๆคนบอกไว้ว่า ยังไงซะ ที่นี่ก็คือบ้านเรา ผมอยากจะทำให้บ้านหน้าอยู่มากกว่าไปหาบ้านใหม่ที่น่าอยู่อยู่น่ะครับ ใช่ครับที่ว่าอยู่เมืองไทยแล้วรายได้ไม่พอใช้ ผมเห็นด้วยในเรื่องนี้เลย ในระบบการทำงานในเมืองไทย(ในความคิดผมนะ) ผมว่าค่าตอบแทนมันยังไม่คุ้มกับประสิทธิภาพของคนที่ทำงาน คนที่ได้เงินเดือนสูงๆ อาจจะเป็นคนที่เข้าหานายเก่งเลยได้เลื่อนขั้นขึ้นมา ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไร แต่ในขณะเดียวกัน ปัจจุบันเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ให้ความสำคัญกับความสามารถของคน นโยบายบ. ในปีนี้ หลายบ. มากๆครับ ที่ทุ่มเทงบประมาณบ. มาที่แผนก HR เพื่อให้คนที่มีความสามารถมาทำงานกับบ. สำหรับคนที่บอกว่ากลับมาแล้วหางานที่เหมาะสมไม่ได้ ผมเชื่อว่าลองหาอีกซักทีซิครับ ไปบ.ที่ตรงกับสายงานคุณจริงๆ ผมว่ามีครับ ในเมืองไทยต้องมีที่เห็นคุณค่าของคุณแน่ๆ คุณต่างหากที่จะประโยชน์ให้เค้าเห็นได้มากแค่ไหน จริงๆ ผมอยากจะเชิญชวนให้กลับมาทำงานราชการเลยด้วยซ้ำไป เพราะมันจะมีผลกับประเทศโดยรวมมากกว่า ที่จะเอาความรู้ความสามารถของคุณไปเพิ่มตัวเลขในบัญชีของคนใดคนหนึ่งตระกูลใดตระกูลหนึ่ง ประเทศไทยยังเป็นประเทศกำลังพัฒนานะครับ เมืองใหญ่เรายังมีไม่กี่เมือง ยังมีที่ว่างอีกมากมายให้เราได้ช่วยกันพัฒนาครับ แต่ก็อีกนั่นแหละครับผมว่าเหตุผลแรกๆที่จะยกขึ้นมาแย้งการทำงานราชการก็คงเป็นเรื่องเงินอีกนั่นแหละ และนี่แหละครับคือเหตุผลนึงที่ผมคิดว่าจะทำงานที่เมืองนอกซักพัก ก็เพื่อเก็บเงินให้พออยู่พอกินครับ อาจจะนำกลับมาเป็นทุนทำอะไรซักอย่างเพื่อเลี้ยงขีพ เพื่อจะได้นำความรู้ความสามารถไปทำประโยชน์ได้โดยที่ไม่ได้เกี่ยงเรื่องผลตอบแทนมากนัก เท่าที่ได้ยินมาจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่ไปอยู่เมืองนอกมา ก็มีแต่คนบอกว่าถ้าไปแล้วประหยัดซักนิด เงินที่ได้กลับมา ขนาดเค้าไม่ได้ทำงานประจำ แค่ไปเรียน เค้ายังได้กลับมาเป็นหลักล้าน(เมื่อยี่สิบปีก่อน) เลยนี่ครับ ผมว่าจำนวนขนาดนั้นมันพอตั้งตัวเลี้ยงชิวิตได้แล้วนะครับ กลับมาเถอะครับ กลับมาทำให้บ้านเราเมืองเรามันแข่งกับบ้านเมืองอื่นๆ ได้เถอะครับ ผมเชื่อว่าคุณๆ ทุกคนที่สามารถใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกได้เนี่ย คุณมีความสามารถครับ กลับมาช่วยกันพัฒนาประเทศไทยเถอะครับ ก่อนที่จะไม่มีประเทศไทยในแผนที่โลก กลายเป็นเมืองหนึ่งของประเทศอื่นที่มีเจ้าของเป็นคนไม่กี่ตระกูล นะครับ ... ^_^ จากคุณ : ชาตินิยมไปนิดนะครับ^_^ (BukHamNoi^_^) - [ 30 มี.ค. 47 11:37:09 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สำหรับคนหนึ่งที่อยู่ต่างแดนมา 30 ปี ถึงต่างแดนจะมีความเจริญกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าดีกว่า โดยเฉพาะถ้าเป็นคนไทยที่ได้เคยสัมผัสชีวิตวัยเด็กๆในไทยแล้ว เราคนหนึ่งที่มีอดีตวัยเด็กๆที่ดีกับเมืองไทย เลยไม่มีอคติกับเมืองไทยอย่างไร้เหตุผล กำลังถึงอายุที่อยากกลับไปอยู่เมืองไทย แต่ยังติดปัญหาลูกๆยังไม่โตพอที่จะปล่อยให้อยู่กันลำพัง จนกว่าเขาจะถึงอายุบรรลุนิติภาวะ และรอแฟนที่คิดจะกลับไปอยู่เป็นเพื่อนกันและกันในไทย ที่ยังติดสางภาระเหมือนกัน คงอีกไม่นานเกินรอ จากคุณ : คงไม่แก่ตายเกินรอ - [ 30 มี.ค. 47 21:28:20 A:68.237.253.27 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 Guess where is this ? Hot Traffic jam crime low income crowded have to play politics for career advancement deep-root corruption No view (flat) flooded only 4 million out of 60+ million people pay income tax (why do I have to support other people's welfare) Polluted river จากคุณ : Tisco fan - [ 31 มี.ค. 47 05:19:29 ]

ความคิดเห็นที่ 19 :) ถึงไม่ทำราชการ แต่ทำอะไรสักอย่างอย่างเต็มที่ไม่คดโกง ก็ช่วยประเทศชาติได้นี่ครับ จากคุณ : ผ่านมา (พลายมะลิ) - [ 31 มี.ค. 47 11:08:16 ]

ความคิดเห็นที่ 20 กำลังจะกลับเมืองไทย อยู่มา4 ปีกว่า ๆ ตอนแรกมาเรียน แต่ก็โดดร่ม เป็น โรบินฮู้ดรู้จักคนอเมริกันที่จะช่วยเรื่องการแต่งงานโดยไม่ต้องมีค่าตอบแทน ได้แต่ซาบซึ้งเพราะคิดถึงแต่ Mother Land จะกลับบ้านอีก สองสามเดือนข้างหน้า นี้ ประมาณมิถุนายน ทำงานมา 3ปี มีเงินเก็บสองแสนสอง usd (โชคดีถูกแจ็คพอต Royal Flushแสนกว่า) ก็เลยได้มีเงินไปตั้งตัว พอสมควร ชอบอเมริกา แต่รัก เมืองไทย เป็นคำตอบที่ ถูกต้องนะคร้าบบบบบบ สำหรับผม จากคุณ : Little Jean - [ 31 มี.ค. 47 14:48:38 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มีโครงการมาแนะนำครับ :) The Reverse Brain Drain Project -- โครงการสมองไหลกลับ RBD : Use "brain" and "connections" of Thai professionals living overseas to help in the development of Thailand, particularly in science and technology. -- ประสานงานให้คนไทยในต่างแดน สามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศของตนได้ Missions : (1) Identify and attract experienced high-level Thai professional living overseas to participate in mission-oriented projects, and promote development of core teams led by the respective Thai professionals. [Higher priority mission] (2) Promote and facilitate the return of Thai professionals overseas to work in government agencies or in the private sector. Website: http://www.nstda.or.th/rbd/ ---- เครือข่ายของคนไทยในต่างแดน กลุ่มเพื่อนไทยเสวนา (Bay Area, USA) http://www.thaifriendforum.org/ เครือข่ายสยามเสวนา (Global) http://www.siamsewana.org/ Thai Student Academic Conference (Europe) http://www.thai-students.de/thaisac/ จากคุณ : bact' (Bacteria!) - [ 31 มี.ค. 47 19:31:36 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ไม่ได้อยู่มานานเหมือนคนอื่น อยู่มาแค่ ครึ่งปี และจะต้องอยู่อีกนาน เพราะมาเรียน บอกได้เลยว่า เมื่อผมเรียนจบ ถ้าที่บ้านไม่เดือดร้อนอะไร ก็คือกลับครับ ถ้าใช่ ก็คงต้องหางานทำเพื่อช่วยที่บ้าน บอกตรงๆ ที่บ้านจนครับ หางานเก็บเงินได้บางส่วน และได้ทุนบางส่วนมา ผมมันคนไทยครับ ปรับตัวยากมาก ชอบกินส้มตำ ไก่ย่าง ข้างทาง อยู่ที่นี่ ไม่มีครับ ของพวกนี้ ยังไงมีโอกาส กลับไปแน่ๆครับ ไม่อยู่หรอกบ้านนี้เมืองนี้ เบื่อจะตายอยู่แล้ว จากคุณ : รักเมืองไทยมากๆ (Lattitude) - [ 1 เม.ย. 47 00:11:45 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เห็นด้วยกับคุณ #22 อย่างยิ่ง จบโทเมืองนอก กลับไปใช้ทุนแล้วก็ตะเกียกตะกายขอทุนมาต่อเอก ตอนนี้ก็กำลังตะเกียกตะกายขอให้ผ่านปีแรก เนื่องจากเป็นนักเรียนทุนก็จำเป็นต้องกลับเมืองไทย แต่ตัวเองไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่อง"จำเป็น" เพราะไม่เคยคิดอยากอยู่ที่นี่ อยากมีดีกรีนอก แต่ไม่อยากอยู่ อยู่ที่นี่รู้สึกเหมือเป็นประชาชนชั้นสาม (ไม่ใช่แค่สองนะ) ไม่รู้สึกเป็นเจ้าของของที่นี่ ไม่เหมือนเมืองไทย ยิ่งเครียดๆยิ่งคิดถึงเมืองไทย อาหารไม่ค่อยคิดถึงหรอกเพราะทำกินทุกวัน ถึงแม้ว่าจะไม่แซบเหมือนที่เมืองไทยก็เถอะ ตอนนี้นับวันจบ แต่ก็รู้สึกว่าจะอีกนานมาก.กกกก....เพราะยังมาได้ไม่ถึงปี รอก่อนนะส้มตำ.. แหนมเนือง...ที่โชคชัยสี่ และหมอดูที่ท่าพระจันทร์ ก่อนสิ้นปีจะกลับไปเช็กดวง...555 จากคุณ : คนบ้านเรา - [ 1 เม.ย. 47 05:40:05 A:194.80.32.10 X:10.38.71.24 ]

ความคิดเห็นที่ 24 because i had no home in thailand :) จากคุณ : BBC(British Born Chinese-thai) - [ 1 เม.ย. 47 15:12:18 A:210.86.157.254 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าคุณความคิดเห็นที่สามแยกประเภทแล้ว ก้อควรจะนึกถึงกรณีย่อยๆบ้างนะครับ ผมคิดว่า คนบางคนไม่กลับไทย เพราะว่าเค้าสามารถสร้างฐานะได้ อยู่ในเมืองนอก จนได้เป็นพลเมือง หอบลูกหอบหลานมาอยู่ด้วยกัน ไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนที่เมืองไทย อาจจะกลับไปเยี่ยมประเทศบ้าง ไปกินของอร่อยๆ ไปเที่ยวทะเลสวยๆ แต่นั่นก้อไม่ได้เรียกว่ากลับไทย ถือเป็นนักท่องเที่ยวแล้วครับ ผม...กลับไทยชัวร์ครับ ที่นี่ของแพง(ญี่ปุ่น) คนไม่มีน้ำใจ(เวลาขึ้นรถไฟ และเดินตามท้องถนน) อาหารรสจืด (วัตถุดิบทำอาหารไทย แพงจัง) คิดถึงคนที่เรารัก และรักเราครับ ... จบข่าว จากคุณ : seifiros - [ 2 เม.ย. 47 02:13:16 ]

ความคิดเห็นที่ 26 กลับไปเที่ยวได้...ให้กลับไปอยู่...ไม่เอา!! คนบางคนอย่างเช่นเรา...ก็อยู่กับสังคมไทยได้ลำบากนะ...ตรงๆเกินไป ไม่แคร์สายตาชาวบ้าน...ไม่ชอบเล่นพรรคเล่นพวกเล่นเส้น.. free spirit อยู่ยากหน่ะ...สำหรับเรา..มันอึดอัด. จากคุณ : @บะหมี่เกี๊ยวหมูแดง@ - [ 2 เม.ย. 47 06:59:57 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คุณคนตั้งกระทู้ ถามตัวเองดีกว่า ความคิดคนอื่น ก็นานาจิตตังนะคุณ อ้อ แล้วคุณความเห็นที่ 3 คุณคนไทยในอเมริกาคนหนึ่ง คุณควรจะรีบกลับเมืองไทยน่าจะดีกว่ามั๊งครับ อย่างคุณอยู่เมืองนอกไปก็คงไม่มีความสุข ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ด้วยความเป็นห่วง ป.ล. คุณบะหมี่เกี๊ยวหมูแดง คุณอย่าพูดอย่างนั้นไป เดี๋ยวคุณคนไทยในอเมริกาคนหนึ่ง เขาจะจับพลัดจับผลู เอาคุณไปรวมกลุ่มกับคนไทย 3 จำพวกที่เขาตู่จัดตั้งขึ้นมาเองตามอำเภอใจนะ เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่เตือน จากคุณ : ทองแดงสีน้ำเงิน - [ 2 เม.ย. 47 10:46:00 A:131.215.11.201 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 จริงครับ อยู่ไม่ได้ไปตลอดหรอก มันต้องกลับมาบ้านเกิดเมืองนอนมั่ง ตอนนี้ผมอยากกลับมากๆ อยากไปกินอาหารไทย กลับไปอยู่สังคมไทยๆ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ดีเลิศ แต่มันก็เป็นสังคมที่เราอยู่แล้วสบายใจมากกว่า จากคุณ : Loft - [ 2 เม.ย. 47 21:07:41 A:68.10.24.140 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 I agree. I back to TL everyyear (1-2 months). I still think it is not enough time. Bu I can't back to TL because it is a difficult life in Bangkok for my kid. I will wait until she grows up enough to stay alone with her father. I will spend more time in BKK (my home town). จากคุณ : ThaiLiveInFrance - [ 2 เม.ย. 47 22:42:23 A:194.2.176.231 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผมก็หนุ่มไทยคนหนึ่งที่ออกไปหากินเมืองนอก ผมไปทำงานที่มาดากัสการ์ ที่นั้นมีพลอยดิบเยอะ 1 ปีกับความรู้สึกและประสบการณ์แปลกๆ ที่อยากแบ่งปันประสบการณ์ในต่างแดนเอาไว้เดี๋ยวผมจะกลับมาเล่าให้ฟังนะครับผมต้องไปธุระก่อน จากคุณ : Todakely - [ 3 เม.ย. 47 08:59:35 A:203.118.109.211 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 การคิดกลับมาอยู่เมืองไทยของผมเรียกว่าเป็นสัญชาตญาณเลยก็ว่าได้ แต่ที่ไปทำงานเมืองนอกเพราะความท้าทาย และประสบการณ์ใหม่ๆ ที่คิดว่าอยู่เมืองไทยคงไม่เจอ เรื่องของรายได้ในการทำงานเมืองนอกนั้นมากกว่าที่เมืองไทย แต่ผมคิดว่าถ้ามุ่งมั่นก็มีรายได้มากเช่นกันแต่อาจต้องใช้เวลาหน่อย ที่ประเทศมาดากัสการ์ที่ผมไปทำงานเป็นประเทศโลกที่ 3 คนเอเชียถือเป็นคนมีเงิน ยิ่งคนไทยเขาจะรู้จักในฐานะที่หอบเงินมาซื้อพลอย คนที่นั้นมองเราเป็นคนมีเงิน ทำให้อันตรายต่อทรัพย์สินพอสมควร ความรู้สึกที่คิดถึงเมืองไทย คิดถึงพ่อแม่พี่น้องเพื่อยฝูงซึมเข้าสายเลือด แต่การออกมาหากินเมืองนอกมีรายได้กลับมาเป็นกอบเป็นกำ ผมว่ามันทำให้พ่อแม่ พี่น้อง ภูมิใจ และมองเราว่าเราโตขึ้น แต่ตอนนี้ผมกลับมาอยู่เมืองไทยแล้วเก็บเงินมา 4 แสนใน 1 ปี ยังมองหาอะไรลงทุนอยู่ หรือถ้ายังคิดไม่ออกก็ทำงานประจำไปก่อน ดูลู่ทาง ไม่อยากใช้เงินเก่า แต่ตอนนี้มีความสุขที่กลับมาใช้ชีวิตที่แผ่นดินเกิด ต้องสู้ต่อไป จากคุณ : Todakely - [ 3 เม.ย. 47 11:04:31 A:203.118.109.202 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 ของเรายังไงๆก้อขอกลับไปตายบ้านอยู่แล้ว ไม่เห็นมีที่ไหนอยู่สบายเหมือนบ้านเลย แต่มีคนรู้จักเค้าบอกฝรั่งที่ถามว่าไม่กลับไปเที่ยวเมืองไทยบ้างเหรอ(เพราะเจ้แกได้สามีรวย ทุกๆปีจะตะเวณเที่ยวไปรอบโลก แต่ใน list สิบปีนี้ไม่มีเมืองไทยอยู่เลย) แกตอบกลับไปว่า ไม่ไปหรอกเมืองไทย ร้อน สกปรก คนไทยขี้โกง ขี้อิจฉา และสารพัดจะเลวร้าย เราได้ฟังแล้วตะลึง โอ้หนอ "คน" จากคุณ : safari sunset - [ 3 เม.ย. 47 14:42:49 A:203.97.103.89 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 ความคิดเห็นที่ 32 ครับ สงสัยฝรั่งที่ว่าคนไทยขี้อิจฉา สารพัดจะเลวร้าย ดูหนังไทย (ประเภทน้ำเน่า) มากไปหน่อยรึเปล่าครับ จากคุณ : VCAMD - [ 4 เม.ย. 47 08:52:10 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ความคิดเห็นที่ 16 I like what you wrote. I hope you don't change when you go back and work in Thailand. I know a number of people who were very "fai rang" right after graduation and wanted to make good changes in Thailand but unfortunately have become a "dead wood" because of the system..you know what I mean. That's why I hope you don't change. Thailand needs people like you. For me, what I can do is just work here in the States and send money to Thailand. I don't want to go back there. I have more opportunity here. จากคุณ : sleepless again tonight - [ 4 เม.ย. 47 14:05:10 A:65.248.26.227 X: ]

ความคิดเห็นที่ 35 ความคิดเห็นที่ 33 ความคิดเห็นที่ 32 ครับ สงสัยฝรั่งที่ว่าคนไทยขี้อิจฉา สารพัดจะเลวร้าย ดูหนังไทย (ประเภทน้ำเน่า) มากไปหน่อยรึเปล่าครับ จากคุณ : VCAMD เท่าที่อ่านๆ รู้สึกว่า คนที่พูด เป็นคนไทย เมียฝรั่งอะครับ ไม่ใช่ฝรั่งเป็นคนว่าหรอก ฝรั่งเค้าถามตะหากว่าทำไมไม่มีเมืองไทยในลีส จากคุณ : ดอส - [ 4 เม.ย. 47 16:26:03 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ช่ายแล้วค่ะที่คุณVCAMD สงสัย คุณดอสตอบได้ถูกต้องค้า คือถ้าเป็นฝรั่งจะไม่อึ้ง ทึ่ง(แต่ไม่เสียว)ขนาดนี้ แต่เจ้แกไทยแท้ๆ นั่งเจริญพรด่าคนไทย....ไอ้ไทยที่นั่งอยู่ข้างๆสะดุ้งแล้วสะดุ้งอีก โอ้ฉันมันเลวขนาดนั้นเลยน่ะนี่ ไม่มีดีเลย เลยขอแทรกไปนิดนึงว่าแห้มที่ไหนๆมันก้อมีดีมีเลวปนกันไปแหละ ถ้ามัน definitely เลวขนาดนั้น ตัวฉันคงไม่โง่ดิ้นรนกลับบ้านอยู่บ่อยๆหรอก แล้วเจ้แกว่าไงรู้ไหมล่า...แกบอกว่าอ๋อก้อเมืองไทยมันถูกนี่น่ะ .... ตอนนี้เลิกคบเจ้เรียบโร้ยแล้วจ้า จากคุณ : safari sunset - [ 4 เม.ย. 47 17:09:26 A:203.97.103.224 X: ]

ความคิดเห็นที่ 37 คุณเบอร์สาม ความคิดของคุณคับแคบมากครับ มีคนอีกหลายคนที่อยู่เมืองนอกแล้วมีความสุขครับ อย่างผม อยู่เมืองนอกมาสิบกว่าปี เหตุผลที่อยากกลับเมืองไทยคือกลับไปดูแลแม่อย่างเดียว แต่โชคดีที่พี่น้องผมปรนนิบัติท่านดี ผมเลยยังไม่จำเป็นต้องกลับ ถ้าตัดเรื่องนี้แล้ว ผมอยู่ที่ไหนก็ได้ครับ อยู่เมืองไทย บ้านผมก็มีตังค์ หางานทำได้ไม่ลำบาก แต่ที่อยู่เมืองนอกตอนนี้ 1. งานมันท้าทายความสามารถครับ เป็นงานที่ผมชอบ ทำแล้วมีความสุข ตื่นเช้าทุกวันอยากไปที่ทำงาน เมืองไทยก็อาจมีงานดีๆแบบนี้ แต่ทำไมล่ะครับ ผมมีงานดีๆอยู่ที่เมกา ทำไมต้องเสี่ยงกลับเมืองไทย ไปหางานที่ตัวเองอาจไม่ชอบ 2. สังคมงานดีมาก เพื่อนร่วมงานดี ไม่ขัดแข้งขัดขา ไม่มีการเมือง เป็น prefesional กันหมด เจ้านายไม่ถือตัว ความเห็น คำพูดของเรามีค่า บริษัทไม่มีกฏระเบียบงี่เง่า ไม่ต้องตอกบัตร อยากเข้าทำงานกี่โมงก็ได้ แต่งตัวอย่างไรก็ได้ แฟนผมกับไปทำงานที่เมืองไทย โดนเจ้านายติเรื่อง แต่งตัว เพราะแฟนผมชอบใส่กางเกง แถมคนแก่ๆที่ร่วมงาน ก็ยังเอาไปพูดไปนินทา คนไทยไม่ค่อยใช้สมองทำงานมั้งครับ เลยต้องมีกฏระเบียบบ้าบอคอแตกมากมาย ที่ทำงานผม เอาสมองไปทำงานก็พอ 3. อากาศ เมืองที่ผมอยู่ ผมถือว่าเป็นเมืองที่อากาศดีมาก มีหิมะตกหน้าหนาว แต่มีแสงแดดเกือบทั้งปี ทำให้ไม่หนาวมาก หน้าร้อนก็ไม่ร้อนมาก ส่วน spring กับ fall นี่ สวรรค์ดีๆนี่เอง 4. กิจกรรมเยอะ เมื่อวานก็เพิ่งกลับจากเล่นสกี วันนี้เดี๋ยวคงไปหวดกอล์ฟสักหน่อย ปั่นจักรยาน hiking camping เดี๋ยว rafting season ก็เริ่มแล้ว ถ้าผมมีเวลาสักหน่อย อยากจะหัด kayak ด้วย ที่คุณบอกเมกาไม่มีที่เที่ยวนี่ ผมว่าคุณเที่ยวไม่เป็นมากกว่า คนไทยไปเที่ยว ก็มองหาแต่แหล่งชอปปิ้ง ดูตึกรามบ้านช่อง โอเคครับ เมกาไม่มีประวัติศาสตร์ แต่ธรรมชาติ ก็ไม่ได้แพ้ชาติอื่น ประเทศเขาใหญ่ขนาดนี้ ความแตกต่างทางธรรมชาติมีมาก คนไทยน้อยคนนักที่จะเข้าไปสัมผัสกับธรรมชาติจริงๆ จริงๆแล้ว ผมไม่ชอบสุงสิงกับเด็กนักเรียนไทยเท่าไหร่ กิจกรรมอะไรก็ไม่เอา เคยไปเที่ยวกับกรุ๊ปหนึ่ง เดินป่าได้แป๊ปเดียวก็ร้องกันงอแงแล้ว 5. อาหาร ผมชอบอาหารไทยครับ แต่ผมก็ชอบ อาหารญี่ปุ่น จึน ฝรั่งเศส อิตาลี อินเดีย etc. เพราะฉะนั้น อาหารไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับผมเลย ผมยังรู้สึกว่า อยู่เมืองนอก อาหารบางอย่างเขาสดกว่า เพราะอากาศเย็น อาหารเก็บได้นานกว่า ความหลากหลายผมก็ว่า ที่นี่มีมากกว่า 6. รายการโทรทัศน์ ไม่ดูถูกคนดูครับ พูดได้แค่นี้ หวังว่าคงเข้าใจกัน จะให้สาธยาย มันก็คงมีอีกเยอะ เอาตัวอย่างจากความเห็นที่สาม ก็บอกได้เลยว่า คนไทยความคิดคับแคบ ใครที่เห็นไม่เหมือนตัว แสดงว่ามีปัญหา จากคุณ : สตางค์แดงเดียว - [ 4 เม.ย. 47 22:49:35 A:63.225.111.204 X: ]

ความคิดเห็นที่ 38 มายืนยันความเห็นคุณสตางค์แดงเดียวค่ะ สถานการณ์คล้ายกัน ตอนแรกไม่ตอบเพราะเขาถามคนที่ไม่คิดจะกลับไปอยู่เมืองไทย ตัวเองยังคิดจะกลับในอนาคต แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นเมื่อไหร่ แต่ที่ยังติดอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพราะเงิน หรือเพราะหลงแสงสีอย่างที่หลายคนคิด แต่เป็นแบบเดียวกับคุณข้างบน งานท้าทาย สนุก เขาให้โอกาสและให้ความนับถือคนทำงาน สังคมก็ไม่วุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวเท่าไหร่ อากาศดี(แม้จะหนาวมั่ง) ที่เที่ยวมากมาย หลากหลาย และปลอดภัย อยู่ที่นี่จริงๆแล้วถ้ารู้จักกินรู้จักเที่ยว เผลอๆถูกกว่าบ้านเรา สถานเที่ยวฟรีมีเยอะแยะ เพราะระบบชุมชนของเขาดี แต่ที่ชอบมากที่สุดคือระบบห้องสมุดของเขา เมืองไทยหนังสือแพงมาก ถ้ากลับไปเราคงไม่กล้าควักเงินซื้ออ่านอุตลุดได้เหมือนกับใช้บริการยืมที่นี่ คนอยู่เมืองนอกแบบไม่ทรมานก็มีเยอะนะคะ และก็อย่าคิดว่าคนที่อยู่ไกลบ้านเป็นพวกไม่รักชาติ สู้คนเรียนจบแล้วรีบกลับไม่ได้ ไม่จริงในทุกกรณีหรอกค่ะ จากคุณ : Bluesky - [ 5 เม.ย. 47 09:23:20 A:24.145.194.227 X: ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอแสดงความคิดเห็นเพื่อค้าน #37 กับ #38 หน่อยนะครับ ถ้าคุณว่าคุณคนที่3 ว่าความคิดคับแคบดังนั้นคุณก็น่าจะรับฟังความคิดที่แตกต่างของผมนะครับ ด้วยความเคารพครับ ^_^ อย่าให้กระทู้นี้เป็นกระทู้ทะเลาะเลยครับผมเสียดาย ^_^ ข้อแรกผมรู้สึกขัดแย้งกับประโยคที่คุณว่าว่า คุณคนที่ 3 ความคิดคับแคบ ถ้าความคิดของคุณไม่คับแคบ แล้วคุณไปว่าเค้าทำไมล่ะครับ ก็เค้าคิดของเค้าอย่างนั้น ก็เรื่องของเค้าทำไมคุณไม่แสดงเหตุผลที่แย้งกับเค้าที่ไม่เห็นด้วยกับเค้า แทนที่คุณจะไปฟันธงตัดสินว่าความคิดเค้าผิด หรือแคบ (อย่าเพิ่งคิดจะว่าผมกลับเลย คุยกันด้วยเหตุและผลเถอะ) ว้าว ผมอิจฉาที่ทำงานคุณจัง ไม่ได้ประชดนะครับ แต่ชอบการทำงานแบบนั้นจริงๆ ^_^ จริงๆ แล้วบ. ในเมืองไทยปัจจุบันก็มีหลายๆ ที่ที่เป็นแบบนั้นนะครับ โดยเฉพาะเอกชนเพราะว่าเริ่มมีคนต่างชาติเข้าทำงานอยู่เยอะขึ้นทำให้ได้รับวัฒนธรรมเข้ามาพอสมควร ผมเคยฝึกงานกับบ. มือถือเอกชนแห่งนึง ก็ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนได้ครับ จะเข้าก็โมงก็ไม่มีใครว่า ถ้าไม่เสียงานแล้วก็ในที่ประชุมแทบจะไม่รักษาหน้ากันเลย เถียงเป็นเถียง แต่ก็โอเคสุภาพหน่อย แต่ก็เถียงครับ ผมยังตกใจเลยที่เค้ากล้าเถียง supervisor ขนาดนั้น เพียงแต่ลักษณะงานที่คุณไม่ชอบน่ะ ตอนนี้ผมว่าจะเป็นแต่เฉพาะราชการแหละครับ ซึ่งผมอยากจะเปลี่ยนเป็นที่สุด รำคาญเหลือเกิน อ่านเรื่องกิจกรรม คุณอาจจะอยู่เมืองนอกนานพอสมควร ตอนนี้ ททท. เค้ารณรงค์เรื่องท่องเที่ยว แล้วก็เปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เยอะมากๆ นะครับ ฝรั่งยังว่า เมืองไทยเป็น paradise เลยนะ แต่ก็อีกนั่นแหละถ้าคุณเป็นคนชอบอากาศเย็นๆ หนาวๆ กิจกรรมในเมืองไทยคุณก็คงไม่ชอบ แต่ผมไม่ชอบที่คุณชมประเทศอื่นๆ ว่าดีซะเหลือเกิน เท่านั้นเอง (ไม่ได้ว่านะครับความคิดคุณ ผมบอกว่าผมไม่ชอบไม่ได้ว่าคุณคิดผิด @_@ อย่าว่าผมนะขอร้องๆ) เรื่องคนไทยเที่ยวไม่เป็น คนเรามีหลายแบบครับ คนกลุ่มนั้นเค้าไม่ได้อยากเที่ยวธรรมชาติ เค้าก็ไปหาแหล่งชอบปิ้ง คนที่ชอบธรรมชาติก็มีเยอะแยะไป ลองไปดูห้อง blue planet ซิครับ ไม่มีใครตั้งกระทู้ถามแหล่งขอบปิ้งเลย มีแต่น้ำตก ทะเล เกาะ ดำน้ำ ปีนเขา ต่างๆ นานา มันแล้วแต่คนนะครับ รายการโทรทัศน์ --- ถ้าคุณเห็นว่ารายการนี้ดูถูกคนดู ก็ไม่ต้องไปดูเค้าซิครับ ก็ไปดูรายการอื่นซะ คงไม่ทุกรายการหรอกมั้งครับที่จะดูถูกคนดู หรือถ้าคุณไม่ชอบจริงๆ เคเบิ้ล ดาวเทียมก็ติดไป ประเทศเราไม่ปิดกั้นสื่อต่างประเทศอยู่แล้ว อ่า.....มาถึง #38 บ้าง ไม่ได้จะเถียงจริงๆ น้า เพียงแต่เสนอ ความคิดที่ไม่เหมือนกันเท่านั้น (ย้ำอีกครั้ง...เดี๋ยวจะพานโกรธกัน ^_^) เรื่องเที่ยว ผมว่าถ้าเที่ยวเป็นในเมืองไทยน่าจะถูกกว่าอยู่ดีนะ ถ้าเที่ยวเป็น เรื่องหนังสือ--- ผมงงครับ ตกลงคุณยืมอ่าน หรือ ซื้ออ่านกันแน่ (ลองกลับไปอ่านดู หรือผมงงไปเองก็ไม่รู้) ....ห้องสมุดเมืองไทย ดีๆ มีเยอะมาก ตามมหาลัย ลองยกตัวอย่างดู ที่ผมเคยไปใช้บริการหาหนังสือที่จะนำมาทำงาน(ด้านวิศวะน่ะครับ) ผมเคยไป จุฬา ลาดกระบัง เกษตร AIT มหานคร อืมมีที่ไหนอีก หมดแล้ว เท่านี้ผมก็เจอแล้วล่ะ ถ้าจะซื้อ ศูนย์หนังสือก็อีกแหละตามมหาลัยน่ะครับ ถ้าเค้าไม่มีขาย เค้าก็มีบริการสั่งมาให้เรา ทั้งหมดนี้คือความรู้สึกและความคิดของผมที่ขัดแย้งกับคุณเท่านั้น เพียงแต่ว่ายังไงๆ ซะ ที่คุณโพสมา มันก็เป็นความคิดของคุณ ผมเคารพความคิดคุณครับคุณมีสิทธิ์คิดอย่างไรก็ได้ เราเสรีอยู่แล้ว คนเรามัน นานา จิตตังอยู่แล้ว ถ้าคุณอ่านความเห็นไหนแล้วไม่ชอบ อาจเป็นเพราะว่าเค้าคิดไม่เหมือนคุณหรือ เค้ามีความคิดงี่เง่า(ขอโทษนะครับที่ต้องใช้คำนี้ หาคำอื่นอธิบายไม่ได้ครับ ^_^ ) ก็ไม่ต้องอ่านครับ ไม่มีใครบังคับให้อ่านทุกความเห็น ข้ามไปเลยครับ ผมเองก็ข้ามหลายๆอันที่รู้สึกว่า เถียงข้างๆ คูๆ เหมือนกัน สุดท้ายก็คงได้เพียงแสดงความเห็นที่ขัดแย้งเท่านั้น ไม่มีอะไรจะไปบังคับให้คุณกลับมาอยู่เมืองไทยหรอกครับ แค่เพียงรู้สึกว่า ยังไงซะ นี่ก็เป็นบ้านเมืองเรา เราเกิดที่นี่พ่อแม่พี่น้อง ลูกหลานเราคงต้องการประโยชน์จากแผ่นดินนี้อีกมาก ก็เลยอยากให้ช่วยกันกลับมาพัฒนาเท่านั้นเองล่ะครับ คนที่มีความคิดอย่างพวกคุณน่ะ จริงๆ แล้วคล้ายๆ ผม ผมเองก็ชอบที่จะทำงานอย่างที่พวกคุณทำมากๆ (จริงๆ ผมก็นั่งด่าระบบการทำงานของไทยอยู่ทุกวี่ทุกวันให้เพื่อนๆ ฟัง เห็นด้วยกับระบบการทำงานที่คุณอยู่ทุกอย่างครับ แต่สุดท้ายเป้าหมายของผมก็คือกลับมาเปลี่ยนมันครับ ไม่ใช่ไปหาระบบที่มันดีอยู่แล้วทำ) เพียงแต่ผมรู้สึกว่า ทำไมผมต้องเอาความรู้ความสามารถที่ใช้เงินภาษีของประชาชนคนไทย ร่ำเรียนมา ไปช่วยทำประโยชน์ให้ประเทศอื่นๆที่จ้องจะเอาเปรียบคนไทยด้วยกันด้วย แทนที่จะกลับทำให้ประเทศเราเข้มแข็งขึ้น ไม่ถูกเอาเปรียบจากประเทศที่เจริญแล้ว ก็เท่านั้นเองครับ ยาวหน่อยนะครับ เรื่องนี้นี่เลือด รักชาติมันพุ่งจริงๆ ^_^ ขอกราบขอบพระคุณทุกๆ คนที่ทนอ่านจนจบครับ จากคุณ : BukHamNoi^_^ - [ 5 เม.ย. 47 17:58:33 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อิจฉาคุณความเห็นที่ 37 ตอนแรกที่อ่านเรื่องของคุณจบก็เดาเอาเองว่า เมืองที่คุณอยู่น่าจะเป็นเดอเวอร์ แต่ก็ยังคิดว่าเอ...หรืออาจจะเป็นเวอร์มอน แต่คงเพราะเพื่อนเราสองคนจบจากยูที่เดนเวอร์ด้วย ดูจากที่เล่าออกจะเหมือนกันกับที่เพื่อนเล่าเกี่ยวกะชีวิตเค้าตอนเรียนที่นั่นเลย เพื่อนสองคนนี้ชอบเล่นสกีเป็นชีวิตจิตใจน่ะค่ะ ถึงเจ็บตัวก็ไม่เข็ด และด้วยความสงสัย ขอโทษด้วยนะคะที่แอบเช็ค แหะๆ เป็นเดนเวอร์จริงๆเสียด้วยสิ อิจฉาค่ะ ...เดนเวอร์... เมืองตากอากาศที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นี่อ้างจากคำพูดใครหลายๆคนที่ได้ไปอยู่นั่นน้ะคะ คงมีใครอีกหลายคนรู้สึกหมั่นไส้ คงด่าในใจว่าพวกคลั่งเมืองนอกมาอีกรายแล้ว เมืองไทยก็สวยดีออกค่ะ ชอบภูเก็ต อันไหนดีก็บอกดี อันไหนไม่ดีก็ต้องยอมรับว่าไม่ดี อันไหนเฉยๆก็คือเฉยๆ อย่าแสดงออกว่ารักชาติโดยการพูดปกป้องไปเสียทุกอย่างเลยค่ะ บางทีมันดูเหมือนพ่อแม่ที่ปกป้องลูกจนลูกเสียคนน่ะค่ะ จากคุณ : โอ๋ - [ วันจักรี 09:47:30 A:203.16.198.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 41 I agree with #37 and #38 (75%) and #39 (25%). จากคุณ : #40 - [ วันจักรี 10:09:57 A:24.217.124.146 X: ]

ความคิดเห็นที่ 42 มายืนยัน #38 ครับ ผมชอบห้องสมุดเมืองนอกมากกว่าจริง ๆ ครับ มันต่างกันจริง ๆ นะ เชื่อเต๊อะ :P จากคุณ : ผ่านมา (พลายมะลิ) - [ วันจักรี 10:43:50 ]

ความคิดเห็นที่ 43 กลับมาไขข้อข้องใจคุณบัก:-)น้อยค่ะ ********* BHN: เรื่องหนังสือ--- ผมงงครับ ตกลงคุณยืมอ่าน หรือ ซื้ออ่านกันแน่ Bsk: อยู่ที่นี่ ยืมอ่านฟรีค่ะ แต่ถ้ากลับไป ถ้าอยากอ่านคงต้องซื้อเอง บ้านอยู่ต่างจังหวัด คงไม่สามารถเดินทางไปยืมตามมหาวิทยาลัยได้ และก็เลิกอ่านหนังสือวิชาการไปนานแล้วค่ะ อ่านแต่ประเภท Harry Potter หรือ Now, Discover Your Strengths (อ้อ! ใครยังไม่ได้อ่านเล่มหลังนี้ แนะนำให้หาอ่านนะคะ เป็นรากฐานแนวคิดของ Gallup จะช่ายให้รู้จักตัวเองขึ้นเยอะ) ที่นี่ แค่เดินไปหน้าหมู่บ้านก็ยืมได้ทุกอย่างที่ต้องการ ***************** BHN: ยาวหน่อยนะครับ เรื่องนี้นี่เลือด รักชาติมันพุ่งจริงๆ Bsk: ยาวแค่ไหนก็ไม่ว่าหรอกค่ะ อย่าอ่านข้ามที่บอกไว้แล้วว่า "และก็อย่าคิดว่าคนที่อยู่ไกลบ้านเป็นพวกไม่รักชาติ" โอกาสรับใช้ชาติไม่ได้มีเฉพาะต้อง "กลับมาช่วยกันพัฒนาประเทศไทย" หรอกค่ะ มันกว้างกว่านั้นเยอะ และไม่ต้องกลัวว่าอ่านความเห็นแย้งแล้วจะโกรธหรอกค่ะ การที่คนเราคิดไม่เหมือนกัน เพราะประสบการณ์และโอกาสต่างกัน การที่คิดไม่เหมือนกันเป็นสิ่งที่ดีค่ะ เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความเจริญงอกงาม ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกว่าใครจะไม่เห็นด้วยกับเรา ถ้าจิตสำนึกของเราดีก็ไม่จำเป็นต้องห่วงมาก เวลาจะสอนเองค่ะ ไม่สอนเราก็สอนเขา แต่โดยทั่วไปแล้วจะสอนทั้งคู่นั่นแหละ เห็นบอกว่ากำลังจะเรียนต่อ ขออวยพรนะคะ Experience is the best teacher. จากคุณ : Bluesky - [ วันจักรี 11:21:24 A:24.145.194.49 X: ]

ความคิดเห็นที่ 44 เข้ามาอ่านยิ้มๆ เฉยๆ ครับ ไม่ว่าไง.......... "อย่าแสดงออกว่ารักชาติโดยการพูดปกป้องไปเสียทุกอย่างเลยค่ะ บางทีมันดูเหมือนพ่อแม่ที่ปกป้องลูกจนลูกเสียคนน่ะค่ะ " .... ผมแสดงออกขนาดนั้นเลยหรอ T_T รู้สึกไม่ค่อยดีเลย แล้วก็ ^_^ น้อมรับคำสั่งสอนของพี่ Bluesky แต่โดยดีครับ แล้วก็ขอบคุณที่อวยพรครับ จากคุณ : BukHamNoi^_^ - [ วันจักรี 17:17:25 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ผมเห็นด้วยกับสามประโยคนี้นะครับ (ไม่ได้หมายถึงคุณ BHN โดยเฉพาะ แต่หมายถึงแบบรวมๆ) "และก็อย่าคิดว่าคนที่อยู่ไกลบ้านเป็นพวกไม่รักชาติ" โอกาสรับใช้ชาติไม่ได้มีเฉพาะต้อง "กลับมาช่วยกันพัฒนาประเทศไทย" หรอกค่ะ มันกว้างกว่านั้นเยอะ (เหมือนที่หลายๆคนพูดว่า คนไม่อยากเป็นทหารเป็นพวกไม่รักชาตินั่นแหละ) และสุดท้าย "อย่าแสดงออกว่ารักชาติโดยการพูดปกป้องไปเสียทุกอย่างเลยค่ะ บางทีมันดูเหมือนพ่อแม่ที่ปกป้องลูกจนลูกเสียคนน่ะค่ะ" (อะไรที่ดีๆ เราก็ช่วยกันโปรโมท อะไรที่ไม่ดี เราก็ต้องยอมรับแล้วปรับปรุง ไม่ใช่เอะอะ ก็จะพยายามหลับหูหลับตาปกป้อง) จากคุณ : ดอส - [ วันจักรี 22:59:52 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อยู่ยุโรปค่ะ แรกแรกก็คิดว่าเที่ยวเที่ยว โกยโกย แล้วก็กลับ ที่ไหนได้อยู่แล้วติดแงะ ถอนตัวไม่ขึ้น มีสามี มีลูกมีเต้า สามีทำงานที่นี่ ลูกเรียนที่นี่ ตัวเราอยู่ที่นี่ก็ไม่ลำบาก สบายดี เครื่องซักผ้าก็มี เครื่องล้างจ้านก็มี เครื่องดูดฝุ่น ชาวบ้านแถวนี้เขาก็ไม่นินทราอะไร (หรือเราไม่รู้กันแน่วะ)แต่ยอมรับเลยว่าเหงา แต่สามีเขาก็จ่ายเงินให้เก็บไว้ซื้อบ้านที่เมืองไทยส่วนหนึ่ง เราก็เก็บเรื่อย เรื่อย ดูเว็ปไซด์ขายบ้านไปด้วย เงินครบเมื่อไร เจอบ้านถูกใจเมือไรค่อยซื้อ ทุกวันนี้ก็อยู่บ้านเลี้ยงลูกทำอาหารให้สามี ทำความสะอาดบ้าน มีเงินเก็บเป็นของตัวเองชีวิตก็อยู่อย่างมีความหวัง สามีก็ยุติธรรมดีด้วย เขาทำงานข้างนอก เราทำงานบ้าน เงินที่ได้มามีสิทธิ์เท่าเทียมกัน เพราะเอาลูกไปฝากเนอรื่เซอรี่เลี้ยงจะแพงมาก เนี่ยะแนวความคิดดี พอลูกเราโตเราก็จะไปหางานทำตอนนี้ภาษาเยอรมันเราก็พอคุยได้ แต่ภาษาสวิสเยอรมันฟังยังไม่ค่อยออกก็ฝึกอยู่คือเรามีความสุขดีเราก็เลยอยู่ได้ ถ้ากลับไปอยู่เมืองไทยตอนนี้เราไม่รู้จะไปทำไรกิน เรื่องธุรกิจ เราเป็นคนไม่ค่อยทันคน เป็นลูกจ้าง เราก็ไม่ค่อยอดทนกลับความไม่ยุติธรรมในระบบที่เมืองไทยนะ เราจะเป็นลูกจ้าง ทำงานงก งก อยู่ที่สวิสนี่แหละ กฎหมายแรงงานดีนะ จากคุณ : พูดมาก - [ 7 เม.ย. 47 03:51:27 A:212.254.141.52 X: ]

ความคิดเห็นที่ 47 อยากรู้ทำไมต้องรักชาติ? แค่ถามๆดู จากคุณ : นะ - [ 7 เม.ย. 47 06:55:07 A:158.143.186.36 X: ]

ความคิดเห็นที่ 48 ใช้ชีวิตที่ไหน ก็ได้ทั้งนั้น ถ้ามีประโยชน์ต่อแผ่นดินนั้น ไม่โกงใคร ไม่ทำชั่ว ใครชอบที่ไหน ก็อยู่ที่นั้น ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว ไหนๆก็เป็นโลกใบเดียวกันนะ อย่าไปคิดมากเลย จากคุณ : kt (kingston) - [ 7 เม.ย. 47 15:54:26 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เราก็เป็นคนหนึ่งที่มีความคิดและตั้งใจอยากจะย้ายตัวเองไปอยู่ต่างแดนมานานแล้ว แต่ด้วยเหตุผลเพียงเพราะจากความรู้สึกลึกๆภายในของเราเองต่างหาก มันเป็นเหมือนมีเสียงของความต้องการที่จะหลีกหนีออกจากสังคมในปัจจุบัน หลีกห่างจากชีวิตความเป็นอยู่เดิมๆ เราต้องการความแปลกใหม่ เราต้องการ “ความต่าง” เพื่อมารองรับ “ความต่าง” ที่มีอยู่ภายในตัวเรานั่นเอง ... นี่คือเรานะ (ถ้ารับกันไม่ได้ก็ต้องขอโทษด้วยนะ แต่เราเป็นอย่างนี้จริงๆ) ... เราเองก็เคยไปใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนอกมาก่อน และการไปใช้ชีวิตในเมืองนอกครั้งนั้นๆยิ่งเพิ่มความรู้สึกที่อยากจะย้ายตัวเองออกไปอีกมากขึ้นๆ ... เรามีคนในครอบครัวที่ย้ายไปใช้ชีวิตในเมืองนอกเช่นกัน แต่เราไม่เคยคิดจะไปอยู่ร่วมกันกับคนเหล่านั้นหรอกนะ แม้เราจะรักพวกเค้ามากก็ตาม ...แปลกมั้ย สำหรับเรา เรากลับต้องการไปอยู่ในที่ๆไม่มีคนรู้จัก ไม่มีใคร มีเพียงตัวเราที่รู้จักตัวเอง .... เราไม่ได้เป็นคนที่มีปัญหาทางด้านสังคม ทางการเงิน หรือการงานใดๆทั้งสิ้น เรามีชีวิตอยู่ในสังคมไทยอย่างชนชั้นกลางที่มีการศึกษาดี การงานดี การเงินดี มีสังคมที่ให้การต้อนรับและยอมรับที่ดี แต่เรากลับต้องการหลบหนีออกไป .... นี่คือเหตุผลที่เราจะตัดสินใจไปอยู่ในเมืองนอก ....ซึ่งคงอีกไม่นานนัก ไม่ใช่ว่าไม่รักเมืองไทยนะ เรารักเมืองไทยมาก รักในหลวง รักหลายๆอย่างที่เป็นไทย แต่ เหตุผลที่มีพื้นฐานของความรู้สึกเป็นที่ตั้งของเรา คือเหตุผลในการตัดสินใจของเรา จากคุณ : ละอองฝนสาด - [ 7 เม.ย. 47 21:35:16 A:202.5.80.117 X: ]

ความคิดเห็นที่ 50 อยู่ที่ไหนก็ได้ถ้าเรามีความสุข...ถ้ามีคนที่รัก ชอบเมืองไทย... เพราะหาของกินง่าย คนเป็นมิตรมากกว่าที่อื่น ร้านค้าเปิดจนดึกดื่น..ตลาดขายของเยอะดี การคมนาคมพอใช้ได้ ค่าครองชีพถูก ชอบออสเตรเลีย เพราะอากาศดี เมืองใหญ่ ทันสมัยเกือบทุกอย่าง รถติดแต่ไม่มาก มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะ มีกิจกรรมให้ทำมากมาย สรุปชอบทั้งสองประเทศ.... ตอนนี้ขอทำงานก่อน...เพราะมีลู่ทางทำมาหากิน ทีสำคัญไม่ลำบาก....มีรถใช้ มีบ้านอยู่ มีธุรกิจ(งานทำ) เก็บเงินสักพัก.... อนาคตจะอยุ่เมืองไทย 6 เดือน ออสเตรเลีย 6 เดือน หรือไม่ก็ สวิส 3 เดือน ฝรั่งเศสตอนใต้ 3 เดือน เมืองไทย 3 เดือน ออสเตรเลีย 3 เดือน นี่คือความฝัน และคิดว่าอีกไม่นานจะเป็นจริง ถ้ายังมีงานทำและมีอินเวสเมนท์พรอเพอร์ตี้อีกนิดหน่อย.... รอก่อนเมืองไทย ...ต้องกลับไปแน่นอน ...คิดถึงอาหารไทยอร่อย ๆ ....(สำคัญที่สุด)...อยากมีเวลาอยู่กับครอบครัวบ้าง แต่ไม่อยากอยุ่ตลอด....เพราะเราชอบเดินทาง... จากคุณ : TMB - [ 8 เม.ย. 47 07:56:59 A:210.84.35.105 X: ]

ความคิดเห็นที่ 51 ตรงใจที่สุดก็ความเห็น 23 แหละค่ะ เรามันเป็นชนกลุ่มน้อย ต่อไปนี้เป็นความเห็นของเราเฉยๆนะคะ ไม่ได้จะกระทบลบหลู่ใครนะคะ เราคิดว่า คนที่มีโอกาสที่ดีในเมืองไทย จะไม่ดิ้นรนมากว่าจะต้องฝังราก ปักหลักอยู่เมืองนอก"ให้ได้" ค่ะ ตรงกันข้าม คนที่ "พยายามอย่างยิ่งที่จะปักหลักอยู่เมืองนอก" (เช่น ไม่ยอมกลับ อยู่จนวีซ่าขาด ก็ยังไม่กลับ) มักจะเป็นผู้ที่ไม่มีทางเลือกมากนักในเมืองไทย เช่น ทำงานเมืองไทยมีรายได้ปกติ หรือไม่พอใช้ แต่พอมาเมืองนอกแล้วกินอยู่ไม่ฟุ่มเฟือย ก็พอมีเงินเก็บ หรือ บางทีอยู่เมืองไทยแล้วไม่เห็นจะมีอะไรในชีวิตที่ดีไปกว่าที่เคยเป็น ก็เลยอยากมาลองอะไรแปลกๆใหม่ๆที่อื่นบ้าง ที่คิดอย่างนี้ คงเป็นเพราะเห็นตัวอย่างทำนองนี้มามากมั้งคะ อยู่เมกา เห็นคนหลายคน ดิ้นรนมาจากเมืองไทยเพื่อมาทำงานเป็นพนักงานยกอาหาร หรือคนครัว ที่นี่ ... สังเกตอีกนิด คนที่ "พยายามจะปักหลักที่นี่" จะมีลักษณะอย่างหนึ่งเหมือนกัน คือ ไม่มีโอกาสอะไรเหลือที่เมืองไทยแล้ว เช่น อายุมากแล้ว อยู่เมืองไทยทำงานไม่รุ่ง เคยแต่ช่วยที่บ้านขายของ พอกิจการที่บ้านปิดไปก็ไม่รู้จะทำอะไรดี มีหนี้สินผิดกฏหมาย (เช่น พนันบอล) มากมาย ต้องหาเงิน(เยอะๆ) ไปใช้หนี้เค้าไม่งั้นโดนตามฆ่า ฯลฯ ถ้าคนที่ดูท่าทางกลับไปเอาดีที่เมืองไทยได้ มักจะบอกว่า ทำงานไปสักพักแล้วกลับ หรือ ให้พอมีเงินเก็บแล้วกลับ ฯลฯ ซึ่งในจำนวนนี้ก็ยังมีอีกไม่น้อยที่ใช้เวลานานเหลือเกินในการเก็บเงิน จนในที่สุดก็หลวมตัวอยู่มาหลายปี จนแก่ซะแล้ว จากคุณ : เอริ...จัง - [ 9 เม.ย. 47 05:52:07 ]

ความคิดเห็นที่ 52 โอ้โห..งงมากที่กระทู้เราได้รับการแนะนำ ถามไปเพราะอยากได้ความคิดเห็นเพิ่มเติมประกอบการตัดสินใจเนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต ไม่มีเจตนาจุดประเด็นให้กระทบกระเทือนใจผู้ที่รักชาติหัวปักหัวปำหรือสร้างความแตกแยกเลยสักนิดเดียวสาบานได้ กรณีของเราน่าจะตรงกับคคห.49 และหลายๆ ความเห็นข้างบนเกี่ยวกับเรื่องหน้าที่การงานและความงี่เงาของระบบองค์กรในไทย ขอบคุณทุกคนที่สละเวลาเข้ามาตอบมันทำให้ได้รับรู้อะไรมากขึ้นอีกเยอะเลย จากคุณ : จากใจเจ้าของกระทู้ - [ 10 เม.ย. 47 09:48:09 A:203.151.206.81 X:203.151.127.213 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เราเองคิดว่าอยู่ที่ไหนก็ได้ แฟนเป็นคนไทย เขาอยากอยู่อเมริกา เขาให้เราลองกลับมาอยู่เมืองไทย เราก็กลับมา อยู่คนเดียวและทำงานที่เมืองไทย ๒ ปี แต่ทุก ๖ เดือน เราก็พบกัน เขาบินบ้าง เราบินบ้าง แต่แฟนยืนยันว่าจะอยู่อเมริกาต่อ เราไม่อยากให้มีการหย่าร้าง เราก็เลยกลับไปอยู่ต่ออเมริกา อยู่มานานแล้ว ก็คิดว่าทุกคนในครอบครัว มีความสุขความสำเร็จดี แล้วเห็นว่า อเมริกานั้นสภาพสิ่งแวดล้อมดีกว่าเมืองไทย มีความยุติธรรมดีกว่าเมืองไทย มีโอกาสให้มากกว่าเมืองไทย ให้เราได้ใช้ความรู้ความสามารถจนประสพผลสำเร็จมากกว่าเมืองไทย ตอนนี้จึงคิดว่า เมืองไทยเป็นเมืองเหมาะที่เราเที่ยว แต่ไม่เหมาะที่เราจะอยู่ เราจึงไม่เที่ยวที่อื่น ได้แต่มาเที่ยวที่เมืองไทย แล้วก็คงอยู่อเมริกาตลอดไป คิดแล้ว เราคงเกิดผิดที่ เพราะเกิดเมืองไทย แต่คงตายในอเมริกา จากคุณ : ธนิตา - [ 10 เม.ย. 47 17:47:58 ]

ความคิดเห็นที่ 54 I’m working so hard right now (too hard sometime) for what? Money? Greedy? I don’t know .may be I just want to save some money (not because I don’t want to work in Thailand but I’m not that young to find a job over there) so I don’t have to struggle when I move back! One day I will go back to my home land stay there and spend my live like I get used to. Nothing here like Thailand I can’t deny that. People here seem soooooo nice but faking! It look there’s so much freedoms here like what I heard a lots before I came here. Anybody know? So many people depress(crazy), not because they are poor, everything seem perfect to me, but I don’t know why? There weather is nice and clean. The traffics are not that bad ( way a lot better if compare to BKK) Wish me luck that I don’t have to stay here too long. US, it might fit perfectly for somebody but I’m not belong to here. จากคุณ : snowhill (Snowhill) - [ 11 เม.ย. 47 17:04:06 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ไม่อยากกลับเพราะประเทศไทยค่อนข้างล้าหลังบ้านเมืองก็ไม่สวย มาเรียนเมืองนอกตอนอายุสิบห้า อยู่ไปอยู๋มาชอบเมืองนอกมากกว่า สนุกกว่า ศิลปะก็ดี คนไทยไม่ให้ความสนใจกับศิลปะเท่าที่ควร อยู่ไปก็เซ็งๆ ผูหญิงไทยก็ไม่ค่อยจะแต่งตัวแต่งหน้าทำผมซะด้วยเลยไม่ค่อยถูกใจกลับไปที่ไรก็เห็นสาวไทยผมตรงอย่างเดียวบ่อทำอย่างอื่นเลยอยู่แถวๆนิวยอร์กนี้โอ้ จากคุณ : guyver - [ 11 เม.ย. 47 21:02:04 ]

ความคิดเห็นที่ 56 สำหรับเรื่อง "เครือข่ายวิชาการของคนไทยทั้งในประเทศ+ต่างประเทศ" นะครับ ลองดูอันนี้อีกอัน Institute of Thai Researchers (ข่าวจาก linux.thai.net) "ขอแนะนำโครงการ IOTR: Institute of Thai Researchers นะครับ ใครเขียนหนังสือหรือบทความวิจัย และอยากจะเผยแพร่ให้คนอื่นๆ ได้ทราบ ก็เอาไปใส่ไว้ในนั้นได้" รายละเอียดเกี่ยวกับโครงการ อ่านได้ที่ เอกสารแนะนำโครงการ IOTR http://www.iotr.org/about/index.cfm ---- Institute of Thai Researchers http://www.iotr.org/ จากคุณ : Bacteria! - [ 11 เม.ย. 47 23:20:27 ]

ความคิดเห็นที่ 57 พอกันที......ชีวิตไทยในต่างแดน สวัสดีค่ะ ชาวกระทู้โต๊ะไกลบ้านทุกท่าน ดิฉันเป็นนักเรียนทุนรัฐบาลค่ะ ได้ทุนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปัจจุบันเขาโยกดิฉันไปสังกัดกระทรวงวัฒนธรรมแล้ว) มาทำปริญญาโทและเอกในประเทศอังกฤษ ดิฉันใช้เวลาในการศึกษามาตั้งแต่ปี 2540 แล้วค่ะ ขออนุญาตแจ้งข่าวดีว่าดิฉันเพิ่งสอบวิทยานิพนธ์ผ่านไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเองค่ะ มีส่วนที่ยังต้องแก้ไขบ้างแต่ไม่มากอีกสักเดือนดิฉันก็จะได้กลับเมืองไทยแล้ว ดีใจเป็นที่สุดค่ะ เพราะนั่นหมายความว่าชีวิตเครียดๆ เจ็ดปีที่ต้องอยู่ไกลบ้านมันกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว ดิฉันเป็นคนผูกพันกับเมืองไทยมาก การห่างบ้านไปนานๆเป็นเรื่องทรมานใจที่สุด แม้ดิฉันจะปรับตัวเข้ากับสังคมอังกฤษได้แต่ก็บอกได้เลยค่ะว่าไม่ชอบและไม่มีความตั้งใจแต่อย่างใดที่จะคิดลงหลักปักฐานอยู่ที่นี่ ต่อให้บ้านเมืองเขากว่าเมืองไทยเราอีกร้อยเท่าพันเท่าดิฉันก็จะกลับเมืองไทยค่ะ เพราะในใจดิฉันแล้วไม่มีที่ไหนอีกแล้วที่อยู่สบายเท่าบ้านเรา ถึงแม้ว่าในเมืองไทยเราชีวิตมันจะไม่สะดวกสบายเท่าอยู่ที่นี่แต่ดิฉันรู้สึกมีความปลอดภัยว่าอยู่ในประเทศที่เราเป็นพลเมืองชั้นหนึ่ง เรามีสิทธิ์ของความเป็นประชากรเต็มที่ แม้อะไรหลายอย่างจะไม่ได้ดังใจดิฉันก็ยังสุขใจที่จะอยู่เมืองไทยมากกว่าอยู่เมืองนอก คนไทยหลายตอหลายคนที่เสี่ยงดวงออกมาทำมาหากินอยู่ที่นี่ก็ล้วนพูดกันทุกคนว่าไม่คิดจะอยู่ไปจนตายแน่ วันหนึ่งเมื่อเก็บเงินเก็บทองได้พอกินก็อยากกลับ หลายคนบอกดิฉันว่าถ้าเขาไม่หมดหวังจากความยากลำบากในชีวิตที่เมืองไทยเขาก็ไม่อยากออกมาหรอก อยู่เมืองไทยเขาลำบากมากแต่ออกมาอยู่อังกฤษเขาลืมตาอ้าปากได้ ก็เข้าใจเขานะคะ แต่เชื่อมั่นค่ะว่าในใจเขานั้นถ้าเขาไม่มีปัญหาอะไรในเมืองไทยเขาย่อมจะไม่ออกมาเป็นอันขาด ใครอยากออกมาใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างไปจากบ้านเราอย่างสิ้นเชิงอย่างนี้บ้างล่ะคะ? คุณเชื่อไหมคะว่าเมืองไทยเราน่ะฝรั่งที่เขารู้จักเขายังอยากจะไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่นั่นเลย ในเมืองไทยดิฉันเกิดในครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อม มีความเป็นอยู่ค่อนข้างสบายไม่ลำบาก ดังนั้นดิฉันจึงไม่เคยมีความคิดแต่เพียงนิดที่จะหาโอกาสลงหลักปักฐานอยู่ในต่างประเทศ นี่ก็นับถอยหลังรอวันกลับบ้านเต็มที่แล้วค่ะ พอกันที่ชีวิตนักเรียนไทยในต่างแดน ไม่ชอบประเทศอังกฤษที่ความขมุกขมัวของดินฟ้าอากาศ เดือนทั้งเดือนบางทีไม่ได้เห็นแสงเดือนแสงตะวันนะคะ ยิ่งหน้าหนาวทุกอย่างยิ่งดูน่าเกลียดมากโดยเฉพาะมืดค่ำเร็วมากกกก ทุกอย่างทำให้เราเครียดมาก เพราะเรียนก็หนักแล้วยังมาเจอบรรยากาศน่าเกลียดอีก เพื่อนหลายคนทนไม่ไหวม้วนเสื่อกลับเมืองไทยไปก่อนก็มีค่ะ ดิฉันเองก็เกือบไปเหมือนกัน สุขภาพย่ำแย่ไปเยอะค่ะ ระบบการหาหมอของที่นี่ก็แย่มากๆ เราไปโรงพยาบาลตรงๆเลยก็ไม่ได้เป็นอะไรที่ต้องไปหาหมอประจำที่ลงทะเบียนไว้แล้วมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่เลย หรือถ้าเขาพบว่าเราป่วยเขาก็ต้องรายงานเราไปโรงพยาบาลซึ่งก็ต้องไปทำนัดอีกนะคะ ไปเลยทันทีก็ไม่ได้ คนไข้หนักในอังกฤษตายเพราะรอกำหนดนัดปีหนึ่งๆเป็นจำนวนมาก ดิฉันว่าดิฉันอยู่เมืองไทยยังมีโอกาสมีชีวิตรอดมากกว่ามาอยู่ในอังกฤษค่ะ หน้าร้อนในอังกฤษแม้จะสบายหน่อยแต่ดิฉันก็ไม่รู้สึกชอบมันเอาเป็นเอาตาย ดิฉันชอบร้อนแบบไทยๆมากกว่าค่ะ โดยเฉพาะร้อนแล้วเราได้ไปเที่ยวเล่นน้ำทะเลใสๆ อยู่ที่นี่หมดสิทธิ์นะคะ น้ำทะเลเย็นเฉียบแถมสกปรกอีกต่างหาก คิดถึงเกาะเสม็ด เกาะพีพีเป็นบ้า เอาล่ะค่ะขอพอแค่นี้นะคะ เขียนมาเพื่อบอกทุกท่านว่าดีใจที่ชีวิตไทยในต่างแดนจะสิ้นสุดลงเสียที ดิฉันเชื่อนะคะว่ายังมีอีกหลายคนที่คิดเหมือนดิฉันและก็ยังมีอีกหลายคนที่คิดอยากอยู่เมืองนอกมากกว่า คิดยังไงกันก็ส่งกระทู้ตอบมานะคะ จากคุณ : นักเรียนไทยในอังกฤษ - [ 12 เม.ย. 47 02:44:55 A:203.151.206.81 X:150.237.42.182, 150.237.47.3 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ยินดีด้วยนะคะคุณ คคห. 57 แต่ขอประทานโทษเถอะนะคะ คุณเขียนผิดหรือเปล่าที่ว่าเริ่มเรียนตั้งแต่ปี 40 หน่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็หมายความว่าคุณเรียนโทต่อเอกรวมเบ็ดเสร็จแล้วก็ 7 ปี อะไรมันจะนานอย่างนั้นคะ คุณกำลังทำให้ดิฉันกลุ้มใจแล้วซิคะ แล้ว ก.พ. เขาอนุญาตหรือคะ ปกติแล้วเค้าให้เพิ่มจากหลักสูตรเพียงปีเดียวนี่คะ ยินดีด้วยอีกครั้งนะคะ ดิฉันนี่ยังอีกนาน ที่ว่านานนี่คาดไว้สี่ปีนะคะ ถ้ามันเจ็ดปีเหมือนคุณนี่ดิฉันต้องอักใจตายแน่ แล้วอย่างไรเที่ยวเมืองไทยเผื่อด้วยนะคะ แต่...เอ..ดิฉันว่าอังกฤษมันไม่แย่อย่างที่คุณว่าซักหน่อย ถึงแม้จะเห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าสำหรับตัวเองแล้วที่ใหนๆก็ไม่อยู่แล้วไม่อุ่นใจเหมือนเมืองไทย จากคุณ : ป้าเม้าท์ - [ 12 เม.ย. 47 04:46:06 A:203.151.206.82 X:10.38.71.24, 194.80.32.10 ]

ความคิดเห็นที่ 59 Library systems in Thailand can not compare with library in the US krub.. not even close..... sorry no details. . Anyway, I love Thailand. จากคุณ : Isvasu - [ 12 เม.ย. 47 06:31:55 A:203.151.206.82 X:4.8.141.6 ]

ความคิดเห็นที่ 60 I love Thailand, but I want to live in Canada. Everywhere could be hell-on-earth if you don't have money and friends. If u got NO Skills, NO Jobs, NOT enough money, you would be in deep deep trouble. When I say "I love to be in Canada." that dosn't mean I hate to be Thailand, dosen't mean Bangkok is not a good place for me. จากคุณ : Sweet Freedom - [ 12 เม.ย. 47 11:45:06 A:203.151.206.81 X:203.107.211.131 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เรียนมหาวิทยาลัยเยอรมัน แล้วหันไปมองมหาวิทยาลัยไทย http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H2751904/H2751904.html ---- ความคิดเห็นเสนอต่อรัฐบาล เรื่องทิศทางมหาวิทยาลัยไทย จากที่ประชุมอาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่กำลังศึกษาต่อในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ในการสัมมนา “เรียนมหาวิทยาลัยเยอรมัน แล้วหันไปมองมหาวิทยาลัยไทย” เมื่อวันที่ ๒๘-๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ ณ เมืองคาสเซิ่ล จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 7 เม.ย. 47 04:24:15 ] ---- จากคุณ : bact' (Bacteria!) - [ 12 เม.ย. 47 19:21:18 ]

ความคิดเห็นที่ 62 สถาบันคลังสมองของชาติ Knowledge Network Institute of Thailand http://www.knit.or.th/ ---- อยากให้ลองอ่านบทความนี้ประกอบด้วยครับ วัฒนธรรมเด็ดยอด โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์ http://www.geocities.com/siamintellect/resources/culture.htm "เขาเรียกประเพณีวิธีคิดอย่างนี้ว่า "วัฒนธรรมเด็ดยอด" คือคิดว่าอะไรที่เห็นว่าดีในเมืองนอกนั้น ก็เด็ดส่วนนั้นมาเลย โดยไม่ได้พิจารณาสืบไปถึงต้นตอ และกระบวนการทั้งหมดกว่าจะมาถึงยอดนั้นๆ ด้วยเหตุดังนั้น ยอดที่ไปเที่ยวเด็ดๆ มาจากเมืองฝรั่ง จึงไม่ยอมงอกงามในเมืองไทย" "แทนที่จะเอา "ยอด" ฝรั่งมาเสียบกับต้นซึ่งเป็นไทย กลับถอนต้นของไทยออก แล้วเอา "ยอด" ฝรั่งเสียบดินแทน" ---- จากคุณ : bact' (Bacteria!) - [ 12 เม.ย. 47 19:28:26 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ความคิดเห็นที่ 57 เราเห็นด้วยนะ เรามาเรียนโทที่อังกฤษปีนึง ปลายปีนี้ถึงจบ มาปีเดียวแต่คิดว่ามันก็น่าจะพอแล้วกับการใช้ชีวิตที่นี่ อยากกลับเมืองไทยสุดๆๆ เรามีความผูกพันกับประเทศและญาติพี่น้องเพื่อนๆๆที่ไทย มากกว่าที่นี่ การใช้ชีวิตที่ไหน มันขึ้นอยู่กับตัวบุคคลมากกว่านะ อย่างตัวเราเองเรียนยูดังด้วยนะแพงอีกต่างหาก แต่เราว่าก็งั้นๆๆแหละใช่ว่าจะดีเสมอไป เราอาจไม่เก็บเกี่ยวเต็มที่ ก็อาจเป็นได้ เวลาเพื่อนๆๆหรือใครๆๆถาม จะมีใครบ้างมั้ยที่ตอบความจริงว่าคอร์สที่เรากำลังเรียนมันไม่ดีจริงๆๆ แต่เราบอกความจริงนะว่ามันเป็นยังไง กลายเป็นว่าคนไม่เชื่ออีก เราว่าคงต้องมาลองเองละมั้ง เราเห็นบางคนนะ เพื่อนเราเอง มาเรียนที่นี่พยายามเข้ายูดังๆๆแต่เอาเข้าจริง คอร์สที่ได้ไม่ตรงกับที่หวังไว้ มาบ่นให้เราฟัง แต่พอกลับไทย คนอื่นถามกลับตอบไปอย่างภาคภูมิใจว่าดีอย่างนั้น อย่างนี้ เลยไปสร้างภาพให้คนที่ไทยรู้สึกว่ามาที่นี่มันดีอย่างนั้น อย่างนี้ ไปทำให้เค้าอยากมาแต่มาไม่ได้ เราไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องไปสร้างภาพกันอย่างนั้น มันยิ่งไปทำให้คนอื่นผลักดันตัวเองมาที่นี่กันมากมาย เสียเงิน ค่าใช้จ่ายก็แพงมากกกกก ทำไมไม่พูดความจริง อย่าไปสร้างกระแสว่าเรียนเมืองนอกมันเลิศหรูขนาดนั้น เราเองก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้นด้วยมั้งเนี่ยที่โดนกระแสนั้นหลอกมา ส่วนดีก็มี ข้อเสียก็มาก แต่ถ้าไม่ได้มาสัมผัสเอง ก็คงไม่เข้าใจขนาดนี้ อยากถามว่าถ้าเรียนจบกลับไทย โดยไม่ได้ทำงานที่เมืองนอกเลยเนี่ย จะเป็นไรไหม จะรู้สึกว่าขาดอะไรไปไหม ก็ไหนๆๆก็มาถึงที่นี่ น่าจะมีประสบการณ์ทำงานกลับไปด้วยหรือเปล่า ตอนนี้เรียนมาครึ่งทางแล้ว พยายามหางานตามที่เรียนมา ไม่อยากทำงานร้านอาหาร อยากทำตามสายที่เรียนมาเป็น นักออกแบบ ช่วยแสดงความคิดเห็นด้วย เรารู้สึกว่าคนที่มาที่นี่ ต้องกลับไปมีประสบการณ์ทำงานเมืองนอกเกือบหมดเลย จากคุณ : aha - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 17:43:56 A:217.43.243.140 X: ]

ความคิดเห็นที่ 64 บางคนลืมไปว่าเมืองไทยยังเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา (พูดง่ายๆด้อยพัฒนา) พอเห็นอะไรที่เค้าดี ก็เอามาเปรียบเทียบ เมืองไทยมันแย่ๆๆๆๆๆ "พี่คร้าบบบบบบ ผมกะลังพัฒนาอยู่คร้าบบพี่ ให้โอกาสผมหน่อย อะไรที่ไม่ดีก็บอกก็เตือน โผ้มก็พยายามเต็มที่แล้วคร้าบบ", Thailand said จากคุณ : นับเราด้วยคนนึง - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 19:05:10 ]

ความคิดเห็นที่ 65 Used to stay in the States for 4 years. Was there for school and luckily got a job. Too bad that I have to come back to BKK because of family matters. I am now working for big American company. (Make good $) Life is okay. Still not get used to the way Thai people think and stick all "feet" in other people's life. They critique in everything, your dressing style, your hair, your body, your everything. If I get chance, sure enough, I definitely will go back to the States. I like my life there. Just a little tips for those who plan to come back here for good. It's just your old new life in your home land. Weird that Thais are extremly "respect" those that graduate from other countries, esp. the States. Make sure that you dont have Thai accent when you speack english...... that would 'upgrade' you even more in front of those "thais". Sounds stupid, but it's what I experienced here. :-) จากคุณ : CSUH - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 20:14:07 A:140.83.144.59 X:203.127.99.53 ]

ความคิดเห็นที่ 66 // แบบว่า ชาว blueฯ เขาไปเที่ยวกันหมด แต่เราแง่วอยู่บ้านนะ เลยแวะมาอ่าน ชอบฟังทุกคน เออ....อ่า....เอ้า...แบบว่า สุขสันต์วันสงกรานต์ แล้วกัน (ปรกติสถิต อยู่ที blueplanet) จากคุณ : สิงหา - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 23:09:49 A:203.113.77.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 67 มีฝรั่งชาติยุโรปชาติหนึ่งแต่งงานกับหญิงไทยหวังว่าเมื่อเกษียรแล้วจะมาใช้ชีวิตบั้นปลายในเมืองไทยกับภรรยา เคยดู ทีวี รายการสารคดีคนเยอรมันในเมืองไทย บอกว่า มาอยู่เมืองไทยเหมือนอยู่สวรรค์ อากาศดีทั้งปี ขออยู่เมืองไทยจนตาย ไม่กลับไปเยอรมนีอีกแล้ว คนเยอรมันที่ว่า บางคนเป็นเจ้าของค่ายมวย บางคนเป็นเจ้าของ รร สอนดำน้ำ บางคนเป็นเจ้าของร้านอาหาร บางคนเป็นนายหน้าขายบ้าน ขายที่ดิน บางคนทำขนมปังขาย บางคนทำไส้กรอกขาย มีหญิงไทยบางคนเหมือนกันที่แต่งงานกับชายเยอรมันและทำงานไปด้วย และไม่คิดจะกลับเมืองไทย เนื่องจากครอบครัว เงินบำนาญที่จะได้รับ หากมาอยู่เมืองไทย เงินบำนาญจะได้รับน้อยลงตามอัตราค่าครองชีพในเมืองไทย และอยู่เยอรมนีเจ็บป่วยก็มีประกันสุขภาพไม่ต้องเสียเงินค่ารักษาพยาบาลเหมือนอยู่เมืองไทย จากคุณ : บอนเนอร์ - [ วันเนา (14) 02:50:05 ]

ความคิดเห็นที่ 68 มาเรียนตอนแก่แล้ว โทเอกผมว่าก็คงไม่ค่อยอยากจะอยู่ไปตลอดอ่ะครับ แต่เด็กๆอยู่ไปนานอาจจะชิน จากคุณ : guyver - [ วันเนา (14) 07:36:52 ]

ความคิดเห็นที่ 69 คือขอออกตัวก่อนนะครับ ผมอายุ 22 เข้า 23 จบตรีเมื่อปีที่แล้ว (2002) บริหารธุรกิจ การตลาด GPA 2.87 จากประสบการณ์การทำงาน 4 เดือนและการหางานเกือบ 1 ปีหลังออกจากงาน บอกได้เลยว่าผมอยากออกไปเรียนต่อโทเมืองนอก (และได้เป้าหมายแล้ว MSc ที่ Sweden) และอยากหาโอกาสทำงานที่เมืองนอกครับ ที่เมืองไทยผมไม่รู้ว่าเป็นยังไง บริษัทเล็กและกลางยังมีการกรองคนด้วยผลงานบ้าง แต่บริษัทใหญ่ (เกือบครึ่ง) ในเมืองไทยกรองด้วยสถาบันทั้งนั้น (และบังเอิญผมจบจากสถาบันของรัฐที่ถูกจัดอันดับ "รองโหล่" ในลิสต์ของบริษัทโทรคมนาคมขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศ) เพียงเพราะผมจบวุฒิบริหารธุรกิจ แต่ผมอยากทำงานด้านคอม ทำ Portfolio ลง CD ไปให้เขาดูเขายังไม่เอาด้วยเหตุผลเรื่องสถาบัน (พูดตรง ๆ งี้เลยนะ!!! ดีจริง ๆ ทำให้ผมรู้ความเฮงซวยอะไรอีกเยอะ) เขาบอกว่าถ้าเป็น ปวส. เขาจะรับ แต่เป็น ป.ตรีเขาไม่รับด้วยเหตุผลว่ามีตัวเลือกที่ดีกว่ามาก (ไม่สนเกรด ขอแค่จบจุ.... ธรรม... ABA.... เท่านั้นเป็นพอ) เขาว่าเป็นความ "ไม่เสี่ยง" ของบริษัทในการรับคนเข้า ผมฟังแล้วก้ได้แต่ถอนใจ ผมจึงเบนเข็มชีวิตผมไปหาโอกาสนอกประเทศดีกว่าครับ ผมเคยไปสิงคโปร์ ผู้จัดการบริษัทคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่นั่นจบพียงมัธยมปลาย แต่ด้วยเหตุผลว่าเขาเก่งจริงเขาจึงได้คุมงานกับคนที่เรียนจบปริญญา!!! มันเกิดอะไรขึ้น ประเทศนี้คอยแข่งขันกับเราแต่ภาพรวมเขาชนะเราเพราะอะไร ผมเกลียดประเทศนี้ในแง่ของการแข่งขันแต่รู้สึกทึ่งในเสรีภาพด้าน "ชนชั้น" มากกว่า ผมขอไปเรียนต่อโทและหาโอกาสทำงานที่เมืองนอก (ถ้าหาได้) และถ้าผมอยู่ตัวแล้วผมจะเอาแม่ไปอยู่ด้วย ตราบใดที่สังคมไทยยังมีรากเหง้าแห่งความงี่เง่าเช่นนี้ผมจะไม่ขอไปอยู่เด็ดขาด แลเห็นด้วยกับความเห็นที่ 18 Guess where is this ? เดาซิที่นี่ที่ไหน Hot อากาศร้อน Traffic jam การจราจรติดขัด crime อาชญากรรมเยอะ low income รายได้ต่ำ crowded เต็มไปด้วยฝูงคน have to play politics for career advancement นักการเมืองเล่นการเมืองเพื่ออาชีพ (เสวยสุข) deep-root corruption มีการคอรัปชั่นแบบหยั่งราด (ฝังลึก) No view (flat) อันนี้ไม่รู้ ไม่อยากแปลมั่ว flooded น้ำท่วม only 4 million out of 60+ million people pay income tax (why do I have to support other people's welfare) มีคนเพียง 4 ล้านจาก 60 กว่าล้านคนที่จ่ายภาษี (แล้วทำไมต้องจ่ายในส่วนของคนอื่นด้วย)---> นั่นสิ Polluted river น้ำเสีย น้ำเน่า ใครจะว่าผมมองโลกแคบไม่รักดีก็ช่าง แต่อยากไปเรียนและหางานทำที่สวีเดนให้ได้สัญชาติที่สองไปเลย และถ้าประเทศไทยยังเง่า ๆ ให้เลือกเพียงสัญชาติเดียว ถึงตอนนั้น...ผมจะยอมฉักสัญชาติไทยทิ้งครับ จากคุณ : ปลาโลมาทราย - [ วันเนา (14) 16:56:08 ]

ความคิดเห็นที่ 70 คุณป้าเม้าท์ (ความเห็นที่ 58) ขอบคุณค่ะคุณป้าเม้าท์ที่ถามย้ำเรื่องระยะเวลาเรียนให้แน่ใจว่าดิฉันเขียนไม่ผิด ขอเรียนว่าเขียนไม่ผิดจริงๆค่ะ เรียนที่อังกฤษนี่มาตั้งแต่ปี 2540 ค่ะ แต่ที่ไม่มีปัญหากับทาง ก.พ. ก็เพราะดิฉันไม่ได้รับทุนของรัฐบาลมาตั้งแต่แรกหรอกค่ะ มาได้รับเอาตอนเกือบสี่ปีสุดท้ายค่ะ เพราะสาขาที่เรียนเป็นสาขาที่เขาต้องการสร้างบุคลากร ส่วนการเรียนก่อนหน้านั้นได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมวงศ์ผู้ใหญ่พระองค์หนึ่งพระราชทานทุนให้เรียนค่ะ เมื่อได้ทุนหลวงแล้วก็ไม่จำเป็นต้องรบกวนเบื่องพระยุคลบาทอีก ด้วยเหตุนี้ดิฉันจึงอยู่มาได้นานขนาดนี้แหละค่ะ จากคุณ : ความเห็นที่ 57 - [ วันเถลิงศก (15) 03:25:39 A:150.237.42.182 X:150.237.47.3 ]

ความคิดเห็นที่ 71 อยู่เมืองไทยหรือต่างประเทศก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เมืองไทย ตอนนี้อาชญากรรมสูงมาก คอรัปชั่น (หรือว่าอ่านข่าวเมืองไทยมากไปหน่อย) แต่อาหารไทยอร่อยมาก แต่อยู่อเมริกา เกลียดที่สุดคือ การรักษาพยาบาล ไม่ชอบระบบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่นี่ ค่าหมอและค่ายาโหดมาก ขนาดมีบัตรประกันสุขภาพชั้นหนึ่ง ก็ยังต้องจ่ายเงิน (เมืองไทยค่าหมอและโรงพยาบาลดีกว่ามาก ถ้าทำประกันสุขภาพที่เมืองไทยดีกว่า ถูกกว่า บริการดีกว่า) แต่ถ้าพูดถึง ธรรมชาติ อเมริกา มีธรรมชาติที่สวยงามกว่าเมืองไทย แต่บางครั้งภูมิอากาศก็โหดร้ายเกินบรรยาย จากคุณ : ขอแจมด้วยคน (Phannee) - [ วันเถลิงศก (15) 04:36:52 ]

ความคิดเห็นที่ 72 บ้านคือที่ๆดีที่สุด สังเกตสิคะ เด็กที่เรียนต่างประเทศ รักเมืองไทยมากกว่าเด็กที่นั่งเรียนอยุ่ในไทยซะอีก จากคุณ : deknz (fondant) - [ วันเถลิงศก (15) 15:09:12 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ยินดีกับคุณเจ้าของกระทู้ด้วยนะคะ เราไม่ชอบวิธีเขียนของคุณป้าเม้าท์เลย ให้ตายสิ:( จากคุณ : ยู - [ วันเถลิงศก (15) 19:48:23 A:133.46.212.117 X: ]

ความคิดเห็นที่ 74 โอ้โหเว้ยมีไอ้บ้ามันจงเกลียดจงชังแผ่นดินบ้านเกิดตัวเองอย่างคนที่69ด้วย!!!จะดีจะร้ายอย่างไีรที่นี่ก็เป็นที่ๆเกิดขึ้นมาโตขึ้นมา แต่พอปีกกล้าขาแข็งมากขึ้นมันมองแต่ผลประโยชน์ส่วนตน!!!ทั้งๆที่ทั่วโลกก็มีปัญหาอย่างนี้ทั้งนั้น!!!ไอ้....ถ้าเกลียดประเทศไทยมากขนาดนั้นรีบๆไปฉีกเลยนะสัญชาติไทยน่ะอย่ามาอยู่อย่างเสียไม่ได้เลย...........อย่าได้กลับไปที่แผ่นดินไทยอีกด้วยอย่าแม้แต่ที่จะใช้ดินเมืองไทยกลบซากศพตัวเองด้วย สงสารบรรพบุรุษไทยที่มีลูกหลานทำตัวเป็นปรสิต จากคุณ : kk - [ 16 เม.ย. 47 05:57:19 A:68.13.182.149 X: ]

ความคิดเห็นที่ 76 ตอนนี้ถ้าเป็นไปได้นะ เราอยากเป็นพลเมืองของประเทศอื่นๆเช่น อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย เพื่อเราจะได้ทำอะไรได้เหมือนคนของเค้า รับสวัสดิการได้เหมือนคนของเค้า และมันจะรวมไปถึงลูกหลานของเราในอนาคตด้วย อย่างๆน้อยๆเพื่อความมั่นใจขึ้นอีกหน่อย คิดว่าหลายคนรู้ว่าเราหมายถึงความมั่นใจอะไรบ้าง สำหรับเมืองไทย ยังรักเสมอ พยายามสนับสนุนสิ่งดีๆให้เกิดในเมืองไทยเสมอ และเราก็จะถือโอกาสนี้มาบอกบุญคนไทยไกลบ้านทุกท่านที่แสดงออกว่ารักชาติกันเหลือเกินด้วย ว่า..... ที่ห้องจตุจักร ห้องย่อยสุนัข รบกวนทุกท่านเข้าไปเยี่ยมชมและร่วมกันบริจาคเงินแก่ผู้ที่เขาช่วยเหลือดูแลรับเลี้ยงสัตว์ไม่มีเจ้าของ หรือมูลนิธิต่างๆ ตามสถานภาพและความพอใจของทุกท่านบ้าง ปัญหาสุนัขและแมวจรจัดไม่มีเจ้าของยังคงเป็นปัญหาที่ใหญ่อยู่สำหรับบ้านเรา ถ้ารักเมืองไทยอย่างที่ปากว่า คิดว่าแค่ 50-100 เหรียญของคุณคงไม่หนักหนาเกินไปที่จะควักออกมาช่วยสมทบเพื่อแก้ปัญหาใกล้ตัวเหล่านี้ รักชาติหรือไม่รัก ไม่ได้เอาส่วนที่ว่าถือสัญชาติอื่น หรือไม่กลับเมืองไทยมาวัดหรอกค่ะ คนไม่ได้ลงแรงแต่ก็ลงเงินได้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : โอ๋ - [ 16 เม.ย. 47 18:16:34 A:203.16.198.185 X: ]

ความคิดเห็นที่ 77 อีกอย่างนึง กะจะบอกด้วยว่า... คนเราทุกคนไม่ได้เกิดมาเพื่อที่จะทำอะไรเหมือนๆกันได้ทุกอย่าง เพราะทุกคนต่างถนัด เชี่ยวชาญ และมีแบคกราวน์คนละแบบ คนที่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับสิ่งใดแล้วมุ่งมั่นที่จะทำตามนั้นโดยไม่ก้าวก่ายการตัดสินใจหรือการเลือกทางเดินชีวิตของผู้อื่น คงนับเป็นผู้ที่ประเสริฐ สำหรับตัวเรา ถ้าใช้ชีวิตในเมืองไทย ยอมรับตรงๆ ไปไหนไม่ได้ไกลแน่ๆ จะไม่รอดเอา ทั้งเราและลูกหลานในอนาคต เราเคยทำงานทั้งที่ยูเอ็น และงานตลาดหุ้นมาแล้ว เคยโดนข้อหางี่เง่าประเภทใส่กางเกงมาทำงานไม่ได้และไม่เคารพเอาใจซีเนียร์งี่เง่าๆมาแล้ว เคยโดนหัวหงอกงี่เง่า:-)ดันถึงพื้นเพวงศ์ตระกูลเพราะเราทำงานช้าไม่ทันใจมาแล้ว เคยหงุดหงิดจนขับรถชนรถทนายว่างงาน ที่อยากจะเล่นเกมส์รถตูแรงจรเข้ขวางเลนส์ตอน 9 โมงเช้ามาแล้ว เคยนั่งมองคนชอบเชลียร์ได้ดิบได้ดีมามากพอจนเซ็งแล้ว ตอนนี้คิดตกแล้ว จะอยู่เมืองนอกไปจนกว่าที่ตัวเองพร้อมจะกลับถึงจะกลับ ถ้าใครข้องใจ อยากขับไล่คนถือสัญชาติอื่นไม่ให้เข้าปท. ก็เชิญมายืนดักรอไล่ได้ที่ดอนเมืองละกัน ขอให้ไล่คนไทยสัญชาติอื่นสำเร็จทุกคนนะ 5555555 จากคุณ : โอ๋ ช่วงนี้ชักเก็บกดๆ - [ 16 เม.ย. 47 18:33:33 A:203.16.198.185 X: ]

ความคิดเห็นที่ 78 ความเห็นที่ 69 เมืองไทยไม่ใช่แค่กรุงเทพ ครับ ถ้าไม่ชอบความแออัดไปอยู่ สวีเดน น่ะ ดีแล้ว วันอาทิตย์เงียบยังกะป่าช้า ขนาดใน Stockholm นะครับ เจอ อากาศหนาวๆ แล้ว จะคิดถึงเมืองไทยครับ แล้ว สังเกตผู้คนตอนหน้าหนาวนะครับว่าเขามีพฤติกรรมกันยังไง ถ้าชอบความมืด ก็ไปอยู่เถอะครับ วันนึงพระอาทิตย์โผล่ แป๊บเดียวตอนหน้าหนาว แต่ว่ายอมรับครับว่าอากาศ ดีมาก แต่ก็ไม่น่าจะต่างกับอากาศ ของต่างจังหวัดเมืองไทยครับ ความเห็นที่ 55 ผมว่าศิลปะมันมีอยู่ทุกที่ครับ มัน อยู่ที่มุมมองของคุณ จากคุณ : BubbaGump (BubbaGump) - [ 16 เม.ย. 47 20:00:49 ]

ความคิดเห็นที่ 80 กลับแน่นอน รำคาญ attitude ฝรั่ง จากคุณ : kelf - [ 17 เม.ย. 47 10:15:51 A:62.97.220.66 X: ]

ความคิดเห็นที่ 81 ว้า แย่จัง ความเห็นผมโดนลบ 2 อันเลย ไม่ทราบว่าคนที่ผมพาดพิงนี่เป็นคนรู้จักของใครหรือเปล่าครับถึงได้ปกป้องกันจัง เอาเถอะครับ ยังไงก็ขอขอบคุณคุณ Bubbagump ครับที่ให้ความเห็นอย่างมีสติและเป็นกลาง ขอบคุณในคำเตือนครับ ผมชอบคนแบบคุณจัง จากคุณ : ปลาโลมาทราย - [ 17 เม.ย. 47 10:55:09 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เห็นด้วยกับคุณโอ๋คร้าบ(ความเห็น 76, 77) ถ้าเพื่อนคนไทยรอบๆตัวผม เคารพการตัดสินใจเคารพความเห็นผมบ้างสังคมรอบตัวผมคงน่าอยู่ขึ้น เนี่ยมันเมาท์จนน่ารำคาญ ผมชอบกินเนื้อก็บอกว่าไม่ควรกิน มันวิเคราะห์กันหนักเข้าจนผมกลายเป็นคนเลวเพราะกินเนื้อ บังเอิญผมสัมภาษณ์กรีนการ์ดผ่าน กำลังเตรียมตัวไป เนี่ยผมกำลังโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ราวกับว่าผมทรยศประเทศชาติประมาณนั้น เซ็งจริงๆ จากคุณ : Sweet Freedom - [ 17 เม.ย. 47 17:19:41 A:203.107.207.28 X: ]

ความคิดเห็นที่ 83 เห็นด้วยครับ เชื่อไหมว่าบางคนที่เกิดในเมืองไทยอาจไม่เหมาะสมที่จะอยู่ในไทย เพราะนิสัยตรงเกินไป ไม่ชอบเลียใคร ทำงานเป็นตัวของตัวเอง (มีผลงาน แต่ไม่เป็นที่ชื่นชอบเพราะข้ามหน้าข้ามตา)คนไทยบางคนหากไปอยู่ที่อื่นแล้วมีความรุ่งเรืองมากกว่าก็สมควรไป และไม่ถือเป็นการทรยศต่อประเทศเพราะสามารถช่วยได้หลายทางไม่จำเป็นว่าต้องอยู่ในประเทศจึงจะสามารถช่วยได้ คนหลายคนนั่งกินนอนในไทยก็ไม่ใช่ว่าจะช่วยอะไรได้ (เดี๋ยวพ่อแม่พี่น้องเป็นอะไรไป รู้อยู่ว่า เงินกับอิทธิพลและบารมีในไทยทำให้หลายคนตายมาเยอะแล้ว) พวกเอาแต่ด่าคนที่อยากไปหาโอกาสข้างนอกก็ขอเชิญอยู่ในกะลาต่อไปเถิดครับ เหมือน kk ที่ 74 ป.ล. พาดพิงนี่ขอเหอะอย่าลบเลยครับ มีข้อความพาดพิงอันอื่น ๆ ไม่โดน ทำไมกับคนนี้ถึงโดนลบจัง kk เขาเป็นผู้มีอิทธิพลหรือเปล่าครับ จากคุณ : ปลาโลมาทราย - [ 18 เม.ย. 47 08:53:04 ]

ความคิดเห็นที่ 84 มาเป็นกำลังใจให้คุณ ปลาโลมาทราย คุณโอ๋ แล้วก็คุณ Sweet Freedom อ่านดูแล้ว เข้าใจว่า คุณรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร อยากอยู่ที่ไหน ตัวเองเหมาะกับอะไร ก็เป็นสิ่งที่ดีนะครับ คุณคงได้อยู่ที่ ๆ อยากอยู่ได้อย่างมีความสุข เพราะเท่าที่เห็นบางคน เห็นแล้วเศร้าครับ อยู่ต่างบ้านต่างเมืองแต่ก็ไม่มีความสุข ค่อนขอดว่ากล่าวไปต่าง ๆ นานา แต่ก็ยังทนอยู่ ... ไม่เข้าใจ จากคุณ : ทองแดงสีน้ำเงิน - [ 21 เม.ย. 47 07:44:00 A:131.215.11.201 X: ]

ความคิดเห็นที่ 85 เอ่อ ไม่ได้เข้าห้องนี้เสียนาน นึกว่าโดนยำเละซะแล้ว เพราะพูดแรงไปหน่อย ผมแค่หมั่นไส้ เบอร์ 3 หน่อยเดียวครับ มองว่าคนที่อยู่เมืองนอกต้องมีปัญหา ไม่งั้นไม่มาอยู่เมืองนอก ทั้งๆที่เจ้าของกระทู้แค่ถามว่า ทำไมบางคนคิดอยู่เมืองนอก คนเราเกิดมา ถูกเลี้ยงดูต่างกัน สภาพแวดล้อมที่โตมาก็ต่างกัน จะอยู่เมืองไทยหรือ เมืองนอกมันก็เรื่องของแต่ละคน ผมไม่เคยคิดจะตัดสินใจให้คนอื่น (นอกจากแฟนผม) และผมก็ไม่ชอบพวกที่มาตัดสินคนอื่นว่า ไม่รักชาติ ทำไม่ถูก มีปัญหา อะไรแบบนี้ จะถามว่า ผมรักชาติไหม ตอบเลยว่า เฉยๆ ไม่ว่าจะชาติไทยหรือชาติฝรั่ง ชีวิตคนทุกคนมีค่า ไม่ว่าคนเมกัน ไทย ลาว เอธิโอเปีย หรือชาติอะไรก็ตาม การทำงานสุจริตที่เราชอบ และทำได้ดี ได้ใช้่ competitive advantage ของตัวเรา ทางเศรษฐศาสตร์ถือว่า เราได้เพิ่มคุณค่าให้สังคมโดยส่วนรวม ถามว่าสังคมไหน ผมตอบได้โดยไม่ต้องลังเล ว่าคือ สังคมโลกครับ ผมชอบคำพูดของ นักบินอวกาศคนหนึ่งของญี่ปุ่น ถามเขาว่า ตอนอยู่ในอวกาศแล้วมองกลับมายังโลก เขาคิดอะไร เขาตอบอย่างรวดเร็วว่า เขามองไม่เห็น เขตแดนของประเทศต่างๆเลย กลับมาเรื่อง competitive advantage ถ้าต้องกลับไปเมืองไทยทำงานที่น่าเบื่อ ไม่ตรงกับที่ถนัด ไม่ได้ใช้ศักยภาพของตนให้เต็มที่ คุณค่าที่คุณสร้างให้สังคมนั้น มันก็ลดลง คุณค่าของชีวิตคุณก็ลดลง ผ่านไปสิบยี่สิบปี ประสปการณ์ที่สั่งสม คุณค่าที่ได้ให้สังคม มันต่างกันเยอะครับ จะว่าไปแล้ว ผมก็เข้าใจคนที่บอกว่า อยู่เมืองไทยสบายกว่าเยอะ คนไทยอยู่กันสบายจริงๆครับ ชีวิตเลยไม่ค่อยดิ้นรนกันมาก ประเทศมันก็เจริญแบบสบายๆ อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ส่วนคนที่บอกว่า อยู่เมืองไทยแล้วเป็นพลเมืองเต็มขั้นนี่ ผมก็ขอเตือนว่า เมืองไทยมีพลเมืองสองขั้น สามขั้น เกลื่อนไปหมด อย่าไปสะเออะกับพวกนี้แล้วกัน กฏหมายช่วยอะไรคุณไม่ค่อยได้ด้วย เพราะคนปฏิบัติมันไม่ค่อยรักษา จากคุณ : สตางค์แดงเดียว - [ 21 เม.ย. 47 12:15:41 A:63.225.111.204 X: ]

ความคิดเห็นที่ 86 แม้แต่เพื่อนฝูงบางคนที่เคยสนิทกันมาก่อนและตอนนี้คงกลายเป็นเพื่อนที่ไม่รู้ใจกันและกันไปเสียแล้ว เค้าค่อนขอดผ่านทางอีเมลล์มาเสมอค่ะเรื่องที่ตัดสินใจมาตั้งรกรากต่างแดน แต่เรายังมีแม่ที่เข้าใจให้กำลังใจและสนับสนุนเสมอ สำหรับคนที่ไม่เข้าใจเรา เราก็ไม่สนใจค่ะ มุ่งหน้าตามที่เราตั้งใจและตัดสินใจ เคยได้ยินบทสนทนานึงจากในหนัง ตัวละคร 2 ตัวคุยกัน คนนึงลังเลใจที่จะไปเดินเส้นทางใหม่แต่ไม่รู้ว่าจะพบเจอความยุ่งยากและอุปสรรคขนาดไหน จึงลังเลอยู่ อีกคนจึงชี้ไปทางถนนที่กลับบ้านเขา แล้วบอกว่า ถ้าคุณไม่เดินทางนี้ก็เดินกลับถนนเส้นนั้นไป แต่ชั้นรู้ว่าคุณจะไม่เลือกทางนั้นหรอก เพราะคุณเคยเดินบนทางเส้นนั้นมาแล้ว และคุณรู้ดีว่ามันจะต้องเจอกับอะไรและจบลงที่ตรงไหน........ จากคุณ : โอ๋ - [ 21 เม.ย. 47 12:22:03 A:203.16.198.41 X: ]

ความคิดเห็นที่ 87 อ้อ ขอออกตัวกับคุณ bukhumnoi ก่อนนะครับ ผมเคารพสิ่งที่คุณเขียนครับ ขอเพิ่มเติมเรื่องห้องสมุดนิดหน่อยครับ ห้องสมุดเมืองผมนี่ หาหนังสือจาก online catalog ได้ และสั่งหนังสือได้เลย หนังสือเยอะมากครับ มี dvd ด้วย สั่ง online แล้วไป pick up เอาสาขาที่อยู่ใกล้ เขาจัดส่งจากห้องสมุดใหญ่หรือสาขาอื่นให้ ทุกอย่าง ฟรีหมดครับ (ก็ไม่ฟรีหรอก เพราะผมจ่ายภาษีให้ state หนักโขเหมือนกัน แต่สำหรับ คนอื่นที่ไม่มีรายได้แล้ว ถือว่าเป็นกำไรของชีวิต) ส่วนเรื่องเอาเงินภาษีคนไทยไปเรียนนี่ ผมตอบว่า ผมป่าวแล้วกัน ช่วงที่เรียนทั้งตรีโท 90% ค่าใช้จ่ายทั้งหมด เป็นเงินรัฐบาลต่างประเทศทั้งนั้น ที่เหลือ 10% เป็นเงินแม่ผมเอง (เอ่อ แล้วงี้ผมต้องตอบแทนบุญคุณรัฐบาลต่างชาติ หรือป่าวหน่ะ ผมไม่อยากนะ) ตอบคุณ โอ๋ เล็กน้อยครับ ผมไม่ได้ว่าเมืองไทยไม่มีที่เที่ยวนะครับ ทะเลในดวงใจผม ก็ยังคือ สิมิลัน ยังมีอีกหลายที่ในเมืองไทยที่ผมอยากไป แต่ยังไม่ได้ไป อ้อ ชิวิตผมก็ไม่ได้น่าอิจฉามากนักหรอกครับ ทุกคนมันก็ต้องดิ้นรน ตัวอย่างเช่น ตอนผมเข้าทำงานใหม่ๆ ก็ไม่ได้ทำสิ่งที่ชอบมากนัก ก็คิดจะกลับไปเริ่มต้นใหม่ที่เมืองไทยอยู่เหมือนกัน แต่ก็มานึกดูว่า จะยอมแพ้แค่นี้หรือ ถ้าแค่นี้ยอมแพ้แล้วไปที่ไหน มันก็แพ้อยู่นั่นแหละ เลยฮึดสู้ ขึ้นมา ขอย้ายข้ามแผนก ทั้งๆที่ บริษัทมีนโยบายไม่ให้ย้าย เจ้านายผมก็รักผมมากเกิน แถมแผนกเขาคนก็ไม่พอ ไม่อยากให้ผมไป senior manager แผนกผม เขาก็ไม่สนับสนุน เรื่องขึ้นไปถึง director ของบริษัท ที่ผมแทบจะไม่ได้รู้จัก แต่ คำพูดของเขาที่พูดกับผมง่ายนิดเดียว เขาบอกว่า ถ้าคุณคิดว่าคุณย้ายแผนกแล้วทำประโยชน์ให้บริษัทมากขึ้น ผมก็สนับสนุน ถ้าเป็นเมืองไทย ป่านนี้ผมคงมองหน้าเจ้านายเก่าไม่สนิท เพราะผมข้ามหัวเขา ไปคุยกับ director แต่ไม่ใช่เลยครับ เขาเข้าใจผม ว่าทุกคนก็ต้องดิ้นรนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า เขาบอกว่า ถ้าเป็นเขาเขาก็ทำแบบผมเหมือนกัน ตอนนี้เจ้านายเก่ากับผมก็ยังคุยหยอกล้อกันเป็นประจำ และเวลาเขามีเรื่องต้องทำงานกับแผนกผม เขาก็เข้ามาหาผม สิ่งที่เราอยากได้ มันต้องขวนขวายครับ จากคุณ : สตางค์แดงเดียว - [ 21 เม.ย. 47 13:26:33 A:63.225.111.204 X: ]

ความคิดเห็นที่ 88 อ๋อ........คืองี้ค่ะ ไม่ได้หมายถึงคุณสตางค์แดงเดียวนะคะ ที่โอ๋บอกว่าพวกคลั่งเมืองนอกมาอีกรายแล้ว คือ...ที่โอ๋บอกไปว่าอิจฉาคุณสตางค์แดงเดียว เพราะอยู่ที่เดนเวอร์อ่ะ คือคิดว่าคนอื่นมาอ่านอาจจะรู้สึกหมั่นไส้โอ๋น่ะค่ะ ว่าโอ๋เป็นพวกคลั่งเมืองนอกเพราะไปอิจฉาคุณ โอ๋ก็เลยบอกไปว่าทะเลเมืองไทยโอ๋ก็ชอบนะ แล้วคำพูดต่อจากนั้นคือจะบอกคนที่ชอบปกป้องเมืองไทยอยู่ตลอด ไม่ได้หมายถึงคุณสตางค์แดงเดียวนะคะ คือคิดว่า บางคนเค้าก็ไม่ชอบที่เราไปบ่นไปว่าเมืองไทย แต่เราคิดว่าว่า ปัญหาจะด้รับการแก้เมื่อเรายอมรับว่ามันเป็นปัญหาอ่ะค่ะ ขอโทษด้วยค่ะ คือเวลาพูดแล้วชอบเปลี่ยนประเด็นไปเรื่อยๆ คนรอบข้างก็บอกเหมือนกันว่า คุยกะเราแล้ว งงๆ จากคุณ : โอ๋ - [ 22 เม.ย. 47 10:38:47 A:203.16.198.215 X: ]

ความคิดเห็นที่ 89 คุณ Sweet Freedom อย่าท้อแท้หรือเปลี่ยนใจเพราะมีคนมาต่อว่านะคะ สิ่งที่เราทำเรารู้ดีแก่ใจว่าตนเองกำลังทำอะไร เหมาะกับอะไร เวลาพิสูจน์ได้ทุกอย่างค่ะ ขอแสดงความยินดีที่สัมภาษณ์กรีนการ์ดผ่านนะคะ จากคุณ : โอ๋ - [ 22 เม.ย. 47 10:48:36 A:203.16.198.215 X: ]