ความคิดเห็นที่ 1 เย้ ได้จดหมายตอบรับแล้ว ต้องทำยังไงต่อ เมื่อเราได้ผลจากทุกมหาวิทยาลัยเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องตัดสินใจว่าจะเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยไหน ส่วนมากเราควรจะมีคำตอบไว้ในใจตั้งแต่ตอนเลือกสมัครมหาวิทยาลัยแล้วว่าคอร์สไหนน่าสนใจที่สุด และอยากเข้าไปเรียนที่ไหนมากที่สุด แต่ถ้ายังลังเล ไม่รู้จะเลือกที่ไหนดี ก็ควรจะถามรุ่นพี่ที่เคยเรียนที่มหาวิทยาลัยนั้นๆ มาก่อนว่าคอร์สที่เราสมัครเป็นคอร์สที่น่าสนใจไหม ต้องเรียนอะไรบ้าง สภาพเมืองเป็นยังไง น่าอยู่ไหม ถ้าไม่รู้จะถามใครจริงๆ เห็นหลายคนมาถามในห้อง around UK ก็ได้รับคำตอบดีๆ กลับไป และพอตัดสินใจได้แล้วก็ถึงเวลาต้องจัดการกับเรื่องเอกสารต่างๆ แล้วล่ะค่ะ มหาวิทยาลัยส่วนมากจะส่งจดหมายตอบรับเข้าเรียนมาพร้อมกับสิ่งต่อไปนี้ • แบบฟอร์มให้เรากรอกเพื่อยืนยันว่าเราตอบรับที่จะเข้าเรียนคอร์สนั้นๆ • รายละเอียดเรื่องหอพักของมหาวิทยาลัย และใบสมัคร – ควรจะรีบกรอกและรีบส่งใบสมัครกลับ • ใบสมัครทุนสำหรับนักเรียนต่างชาติ หรือรายละเอียดเกี่ยวกับทุน • จดหมายข่าวของมหาวิทยาลัย ให้เราได้เห็นว่ามหาวิทยาลัยมีอะไรน่าสนใจบ้าง – มหาวิทยาลัยรู้ว่านักเรียนแทบทุกคนมักจะสมัครหลายมหาวิทยาลัย เพราะฉะนั้นก็มักจะพยายามเขียนจุดเด่นของมหาวิทยาลัยมาจูงใจให้เราเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยนั้นๆ ฉะนั้นสิ่งที่ควรทำหลังจากได้จดหมายตอบรับแล้วก็คือ 1) ส่งแบบฟอร์มตอบรับเข้าเรียนไปให้มหาวิทยาลัย เพราะทางมหาวิทยาลัยมักจะเขียนไว้ว่าให้เราตอบรับกลับไปภายในเวลาที่กำหนด ฉะนั้นก็ต้องจำให้ดีๆ ว่าต้องส่งแบบฟอร์มภายในวันไหน ถ้าเราตอบรับกลับไปช้าเกินกว่าที่กำหนดไว้ มหาวิทยาลัยก็อาจจะถือว่าเราไม่ตอบรับเข้าเรียนและเอาที่ของเราไปให้คนอื่นได้นะคะ เพราะจำนวนนักเรียนที่สมัครเรียนมีเกินกว่าจำนวนนักเรียนที่มหาวิทยาลัยจะรับได้อยู่แล้ว ถ้าตัดสินใจได้เมื่อไหร่ว่าจะไปเรียนที่ไหนก็รีบส่งแบบฟอร์มกลับไปเลย 2) ส่งใบสมัครหอมหาวิทยาลัย ปกติแล้วหอมหาวิทยาลัยมักจะคิดค่าเช่าไม่แพงมาก และมักอยู่ในบริเวณมหาวิทยาลัย หรือไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนักอยู่แล้ว ถ้าอยู่หอมหาวิทยาลัยก็จะประหยัดเวลาเดินทาง และใช้เวลาอ่านหนังสือค้นคว้าในห้องสมุดได้มากหน่อย ถ้าตั้งใจจะเรียนที่ลอนดอน ก็ควรจะรีบส่งใบสมัครหอให้เร็วที่สุด เพราะหอในลอนดอนมักจะเต็มเร็ว และถ้าไม่ได้อยู่หอมหาวิทยาลัย ต้องไปเช่าที่อยู่ข้างนอกเอง ก็มักจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากกว่าอยู่หอมหาวิทยาลัย แต่ถ้าจะเรียนที่เมืองอื่นๆ บางทีไปเช่าหออยู่กับเพื่อนๆ ก็อาจจะถูกกว่า แต่ยังไงสมัครหอมหาวิทยาลัยไว้ก่อนก็น่าจะดี พอมาถึงช่วงแรกๆ จะได้มีที่อยู่ แล้วพอตั้งตัวได้ มีเพื่อนมีฝูงแล้วตอนหลังจะย้ายไปเช่าบ้านอยู่เองก็ทำได้ 3) ส่งใบสมัครทุนสำหรับนักเรียนต่างชาติ ในกรณีที่มหาวิทยาลัยมีทุนให้สมัคร และเตรียมตัวสมัครทุนอื่นๆ ที่สนใจ 4) ถ้าตั้งใจว่าจะสมัครเรียนคอร์สภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมตัวก่อนมหาวิทยาลัยเริ่มเปิดเทอม ก็ควรจะรีบส่งใบสมัครเช่นกัน 5) อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับวันเปิดเทอม แล้วเริ่มคิดว่าจะเดินทางไปอังกฤษวันไหน จะได้จองตั๋วเครื่องบินกับบริษัททัวร์ตั้งแต่เนิ่นๆ และจะได้เลือกสายการบินและเลือกที่นั่งได้ตามใจชอบ เช่น ที่นั่งริมทางเดิน ถ้าชอบลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆ หรือที่นั่งริมหน้าต่าง ถ้าชอบดูวิวตอนเครื่องบินบินขึ้นฟ้า ถ้าจองช้าจะต้องเข้าคิวอยู่ใน waiting list ซึ่งไม่แน่ว่าจะได้ตั๋วหรือเปล่า -- แต่เท่าที่เราเคยเจอมา ประมาณสองอาทิตย์ก่อนวันเดินทางที่เราจองไว้ บริษัททัวร์ที่เราเคยขอเข้าคิวไว้ มักจะโทรมาบอกกันใหญ่ว่าได้ตั๋วแล้ว ซึ่งป่านนั้นเราก็ได้ตั๋วจากบริษัทอื่นตั้งนานแล้ว ที่เป็นแบบนี้คงเพราะมีคนยกเลิกตั๋ว หรือมีคนจองไว้แต่ไม่ได้มาเอาตั๋ว แต่ทางที่ดี อย่าเสี่ยงรอจนใกล้จะเดินทางแล้วค่อยจองตั๋วเครื่องบิน เพราะช่วงที่ใกล้เปิดเทอมจะหาตั๋วยากมากๆ โทรไปถามบริษัทไหนก็ตั๋วเต็มหมดแล้ว และถ้าหาตั๋วไม่ได้ อาจจะต้องยอมจ่ายแพงมากๆ เพื่อให้เดินทางมาทันเปิดเทอม 6) ไปขอพาสปอร์ตและทำวีซ่า จะเขียนรายละเอียดในตอนต่อๆ ไปเรื่องการเตรียมตัวมาเรียน 7) เตรียมฝึกภาษาอังกฤษ และเตรียมซื้อของที่จำเป็นต้องเอาไปใช้ที่อังกฤษ จะเขียนอธิบายต่อไปเช่นกัน จากคุณ : Aoyama - [ 16 เม.ย. 47 08:47:36 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าต้องการเลื่อนไปเรียนในปีถัดไปจะได้ไหม??? หลายคนอาจจะมีความจำเป็นต้องเลื่อนไปเรียนในปีถัดไป (deferral) ถ้าเป็นอย่างนั้นก็สามารถขอเลื่อนกับทางมหาวิทยาลัยได้ อาจจะใช้วิธีใดวิธีหนึ่งดังต่อไปนี้ 1) ในแบบฟอร์มตอบรับเข้าเรียน อาจจะมีช่องให้กรอกว่าต้องการเลื่อนไปเรียนในปีถัดไป ถ้ามหาวิทยาลัยมีฟอร์มแบบนี้ให้ ก็กรอกแบบฟอร์มแล้วส่งกลับไปให้มหาวิทยาลัยได้เลย 2) บางมหาวิทยาลัยไม่มีช่องให้กรอกเลื่อนไปเรียนปีถัดไป เราก็ต้องเขียนจดหมายไปที่ admission office (ดูที่จดหมายตอบรับ แล้วส่งจดหมายไปให้เจ้าหน้าที่ที่เขียนจดหมายตอบรับมาให้เรา) ให้เหตุผลว่าทำไมเราจึงขอเลื่อนไปเรียนในปีถัดไป เราเคยขอเลื่อนไปเรียนในปีต่อไปเหมือนกัน โดยให้เหตุผลกับทางมหาวิทยาลัยว่า หลังจากส่งใบสมัครมหาวิทยาลัยไปแล้ว เราก็เพิ่งได้งานที่เกี่ยวกับสาขาที่จะไปเรียนพอดี และก่อนหน้านั้นเราไม่เคยทำงานในสาขานั้นมาก่อน ทำให้เราอยากทำงานก่อนสักปี แล้วค่อยไปเรียนปีหน้า ซึ่งเราคิดว่าประสบการณ์การทำงานที่เราจะได้น่าจะเป็นประโยชน์กับการเรียนคอร์สนั้นๆ เพราะทำให้เรามีความรู้จากการทำงานในสาขานั้นๆ เวลาอภิปรายในชั้นเรียน เราก็จะได้แบ่งปันประสบการณ์ที่เรามีให้กับเพื่อนๆ คนอื่น และก็ทำให้เราเรียนได้ดีขึ้นด้วย เพราะได้ทำงานจริงๆ มาก่อน เวลาไปเรียนทฤษฎีก็จะได้เข้าใจบทเรียนได้ดี พอส่งแบบฟอร์มหรือจดหมายไปขอเลื่อนแล้ว หากทางมหาวิทยาลัยยอมให้เลื่อนไปเรียนปีถัดไปได้ ก็จะส่งจดหมายตอบรับมาให้เราอีกฉบับหนึ่ง เนื้อความเหมือนฉบับที่เราเคยได้เกือบทุกอย่าง เพียงแต่แก้ปีการศึกษาและวันที่เริ่มเรียนเป็นปีถัดไป เพื่อให้เราสามารถเอาจดหมายตอบรับนี้เป็นหลักฐานในการขอวีซ่าในปีต่อไปได้ จากคุณ : Aoyama - [ 16 เม.ย. 47 08:48:23 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จะสมัครหอมหาวิทยาลัยแล้ว เลือกหอไหนดี??? หอพักของมหาวิทยาลัยมักจะแบ่งเป็นสองแบบคือ 1) หอแบบจัดอาหารให้ (catered) บางหอก็ไม่มีห้องครัวให้เลย เพราะถือว่านักเรียนไม่ต้องทำครัวอยู่แล้ว หรือถ้ามีครัวให้ก็มักจะเป็นครัวเล็กๆ หน่อย 2) หอแบบให้ทำอาหารเอง (self-catering) มีครัวให้ ต้องใช้ห้องครัวร่วมกับแฟลตเมทคนอื่นๆ เท่าที่เห็น คนไทยส่วนใหญ่ (รวมทั้งเราด้วย) มักจะเลือกหอแบบให้ทำอาหารเองเพราะ 1) จะได้เลือกกินอาหารได้ตามต้องการ วันไหนอยากกินหรือไม่อยากกินอะไร ก็ทำอาหารตามใจตัวเองได้ตามสบาย แล้วจะกินเวลาไหนก็ได้ วันไหนนอกดึก ตื่นสายกว่าปกติ ก็กินสายหน่อย หรือวันไหนอยากอ่านหนังสืออยู่ห้องสมุดนานๆ หน่อย ก็กลับบ้านช้าได้ รู้สึกว่าถ้าเป็นหอแบบที่จัดอาหารให้ด้วย จะต้องกินตามเวลา พอถึงเวลาปุ๊บ ทุกคนก็ต้องจะรีบไปเข้าคิวตักอาหาร ที่เราเคยเห็นก็เพราะที่หอเดิมมีหอของนักเรียนที่ทำอาหารเอง และนักเรียนที่กินจัดอาหารของหออยู่ข้างๆ กัน แต่ไม่เคยเข้าไปลองกินดูว่าอาหารเป็นยังไง คิดว่าถ้ากลับบ้านช้า เค้าคงเก็บอาหารไปหมดแล้ว และอดกินไปตามระเบียบ 2) โดยทั่วไปหอที่ให้นักเรียนทำอาหารกินเอง มักจะคิดค่าเช่าถูกกว่าหอที่มีอาหารให้ด้วย บางที่ก็ถูกกว่ามากหน่อย หรือถ้าคิดค่าเช่าเท่ากัน ก็มักจะได้ห้องใหญ่กว่าหอแบบที่จัดอาหารให้ เราคิดว่าเวลาเลือกที่อยู่ควรจะดูปัจจัยต่อไปนี้ (อันนี้พูดถึงเฉพาะปัจจัยที่เราเลือกได้ตอนสมัครหอ ก็คือมีโบรชัวร์ที่มหาลัยส่งไปให้ที่เมืองไทย แล้วก็ต้องเลือกหอโดยอ่านรายละเอียดจากโบรชัวร์นั้น ไม่ได้มาเดินหาที่อยู่ด้วยตัวเอง) ที่ตั้ง * เลือกหอที่ใกล้มหาลัย จะได้เดินไปเรียนได้ ไม่ต้องจ่ายค่าเดินทาง ยิ่งถ้าอยู่ในลอนดอน ถ้าประหยัดค่าเดินทางได้ จะทำให้ประหยัดตังค์ไปได้เยอะ * ทำเลของหอ ดูว่าอยู่ใกล้แหล่งที่ไม่ค่อยปลอดภัยหรือเปล่า ชนิดของหอ * เป็นแบบทำอาหารกินเอง หรือว่าแบบที่มีอาหารให้ อย่างที่อธิบายไปแล้วในความเห็นแรก * เป็นหอสำหรับเด็กปริญญาโท หรือว่าต้องอยู่รวมกับเด็กปริญญาตรี ถ้าเลือกได้ ให้เลือกหอที่มีแต่เด็กปริญญาโท เพราะว่าเวลาอยู่รวมกับเด็กปริญญาตรี อาจจะมีปัญหาเรื่องเสียงดัง เด็กปริญญามีเวลาว่างเยอะกว่า อาจจะชอบจัดงานปาร์ตี้ หรือพาเพื่อนมาคุยเล่น หรือเล่นดนตรีบ่อยๆ เวลามาเรียนปริญญาโทมักจะต้องทำรายงานส่งอาจารย์ตลอด ถ้าเจอแฟลตเมทที่ชอบทำเสียงดังก็จะรบกวนสมาธิ ยิ่งถ้าเป็นก่อนสอบ ยิ่งแล้วใหญ่ (อันนี้เราเจอมากับตัวเอง อยู่รวมกับเด็กปริญญาตรีแล้วปวดหัวสุดๆ) สิ่งอำนวยความสะดวก * ห้องน้ำในตัว ถ้ามีก็จะดีมาก เพราะจะได้เป็นส่วนตัวดี ถ้าอยู่แฟลตที่ต้องแชร์ห้องน้ำแล้วเจอแฟลตเมทสกปรก จะปวดหัวและน่าเซ็งมาก ถ้าที่หอไม่มีห้องน้ำในตัวให้ มีอ่างล้างหน้าให้ก็ยังดี จะได้แปรงฟันล้างหน้าในห้องได้เลย สะดวกดี * โทรศัพท์ หอหลายแห่งมักจะมีโทรศัพท์สายในให้โทรติดต่อกับเพื่อนในหอโดยไม่ต้องเสียค่าโทร แล้วก็สามารถรับสายที่โทรมาจากนอกหอได้ บางหอยอมให้โทรออกได้ด้วย แต่ว่าจะคิดค่าโทรศัพท์ตามอัตราของหอ ซึ่งอาจจะแพงหน่อย นักเรียนไทยส่วนใหญ่จะใช้บริการมือถือแบบรายเดือน ซึ่งสามารถโทรออกได้เป็นเวลาตามที่บริษัทกำหนดไว้ เช่น โทรได้เดือนละ 500 นาที (เรียกว่า inclusive minutes) ฉะนั้นเรื่องโทรศัพท์ที่หอจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ถ้ามีก็ยิ่งดี จะได้ใช้โทรคุยกับเพื่อนในหอ หรือเอาไว้รับสาย (เพราะโทรเข้าเบอร์บ้านถูกกว่าโทรเข้ามือถือเยอะ แต่ถ้ามี inclusive minutes ไม่ว่าจะโทรเข้าบ้านหรือมือถือ ก็มักจะไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มอยู่แล้ว) * อินเตอร์เน็ตในห้องนอน เราคิดว่าจำเป็นมากๆ เหมือนกัน เพราะนอกจากจะใช้ค้นคว้าข้อมูลเวลาทำรายงานแล้ว ยังใช้ติดต่อกับเพื่อน และใช้โหลดเพลงโหลดหนังมาดูได้ด้วย ทำให้หายเหงาและหายคิดถึงบ้านไปได้มาก * เครื่องซักผ้า หอส่วนใหญ่จะมีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า แบบหยอดเหรียญให้ บางหอมีเครื่องซักผ้าในแฟลตให้เลย ไม่ต้องหยอดเหรียญ ถ้ามีแบบนั้นก็จะดีมาก เพราะจะได้ไม่ต้องจ่ายตังค์ค่าซักผ้าเพิ่ม * คนทำความสะอาด บางหอจะมีคนทำสะอาดคอยดูดฝุ่นในห้องให้ และอาจจะมาคอยเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้ประมาณอาทิตย์ละครั้ง ซึ่งเราเห็นว่าไม่จำเป็นเท่าไร เพราะมีเพื่อนเล่าให้ฟังว่า คนทำความสะอาดมาขโมยของเขาไปตอนที่เข้ามาทำความสะอาดห้องให้ เราซื้อเครื่องดูดฝุ่นอันเล็กๆ มาใช้ดูดฝุ่นในห้อง ก็ใช้ดี และไม่แพงมาก ไม่ต้องให้ใครเข้ามาในห้อง ส่วนเรื่องเปลี่ยนผ้าปู เราว่าใช้ผ้าปูของตัวเองคนเดียวรู้สึกสบายใจกว่า เพียงแต่ต้องคอยเอาไปซักเอง แต่ก็ไม่ลำบากอะไร * ของใช้ในครัว เช่น ไมโครเวฟ ถ้ามีให้ก็ดี เพราะจะทำให้ ทำครัวได้สะดวกขึ้นมาก และบางช่วงที่ต้องทำงานเยอะๆ ไม่มีเวลาทำครัว จะได้ซื้ออาหารมาอุ่นกินได้เลย ปัจจัยอื่นๆ เช่น ต้องแชร์หอกับแฟลตเมทกี่คน ก็สำคัญเหมือนกัน เพราะว่ายิ่งแชร์กับหลายคน จะทำอะไรก็อาจจะต้องรอคิว ความเป็นส่วนตัวก็อาจจะน้อยลงด้วย แต่ส่วนใหญ่ทางหอจะไม่ได้เขียนรายละเอียดไว้ในโบรชัวร์ ถ้าถามรุ่นพี่ที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยนั้นๆ ได้ก็จะดี แต่เราก็จะไม่รู้อยู่ดีว่าต้องแชร์แฟลตกับใครบ้าง ก็ต้องเสี่ยงดวงเอาว่าจะได้แฟลตเมทดีหรือไม่ดี จากคุณ : Aoyama - [ 16 เม.ย. 47 08:50:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ตัวอย่างครัวของหอแบบให้ทำอาหารเอง ถ่ายรูปมาจากที่หอของ U of Edinburgh จากคุณ : Aoyama - [ 16 เม.ย. 47 08:52:58 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อีกมุมนึงของครัวเมื่อกี้ จากคุณ : Aoyama - [ 16 เม.ย. 47 08:53:54 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตัวอย่างห้องในหอมหาวิทยาลัยที่ลอนดอน จากคุณ : Aoyama - [ 16 เม.ย. 47 08:57:14 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องการเลือกที่อยู่ เรียบเรียงมาจากที่เราไปตอบกระทู้นี้ : where to stay in london http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H2734739/H2734739.html จากคุณ : Aoyama - [ 16 เม.ย. 47 08:58:18 ]

ความคิดเห็นที่ 8 กระทู้เดียวกันนี้ในห้อง around UK เราไปแปะไว้เมื่อสองสามวันก่อน http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H2762623/H2762623.html ลืมบอกไปว่ากระทู้นี้เป็นตอนต่อจากกระทู้ตอนแรก และกระทู้ชุดนี้เขียนขึ้นสำหรับการเตรียมตัวมาเรียนที่อังกฤษค่ะ http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H2763726/H2763726.html จากคุณ : Aoyama - [ 16 เม.ย. 47 09:02:55 ]

ความคิดเห็นที่ 9 good job จากคุณ : ^_^ - [ 23 เม.ย. 47 12:43:49 A:203.155.83.253 X: ]