ความคิดเห็นที่ 1 นี่เพิ่งเจอมาสดๆร้อนๆ ไปงานวันเกิดของเพื่อนมาค่ะ แล้วเพื่อนเจ้าของวันเกิดแกไปเพิ่งแต่งงานกับเด็กอายุ 23 ส่วนตัวตานี่อายุ 50 กว่าๆเกือบจา 60 แล้ว พอเจอเรา ตานี่ก็ถามใหญ่เลยว่าเจอกันยังไง เราอยากแต่งงานกับฝรั่งรวยอยู่แล้วใช่ไหม(ถามมาได้) ถามแบบว่าเยอะมาก แล้วแกก็บอกว่าแกรู้จักกับเมียแกได้แค่ 2 อาทิตย์ก็แต่งกันเลย แล้วตอนแต่งแกบอกว่าแกไม่มีสินสอด แต่ทางพ่อแม่เจ้าสาวยกที่ติดให้หลายไร่เลยล่ะ เค้าบอกว่าทางผู้หญิงน่ะรวย ส่วนทางผู้หญิงก็คิดว่าเค้ารวย แต่แกก็เป็นแค่เซลล์ขายรถยนต์ ต่างคนต่างคิดว่ากันและกันรวย เอากันเข้าไป กำมะลอจริงๆ สรุปแล้วก็เลยได้ความว่า ผู้หญิงน่ะนึกว่าพอแต่งปุ๊ปจะได้มาปั๊ป แต่ที่ไหนได้ พอไปสถานฑูต เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องทำเรื่องอีกนาน สามีก็เลยต้องกลับมาที่นี่ ให้เมียรอที่โน่น โทรไปทีไร คุณเธอก็ฟาดงวงฟาดงากับตาแก่นี่ประจำเลย เพราะกลัวว่าแกไม่มารับ และต้องรอนาน เฮ้อ.... จากคุณ : ผัวเมียพอๆกัน - [ 18 เม.ย. 47 11:56:45 A:66.75.144.39 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 อันนี้ไม่เห็นด้วยเลยนะคะ ที่ คิดจะแต่งงานกับฝรั่งเพราะคิดจะหนีปัญหา การที่จะแต่งงาน หรือ การไปอยู่ต่างประเทศเนี่ย มันมีปัญหาทั้งก่อนไป ที่จะต้องอดทนรอ..หรือไปแล้วก็ไม่แคล้ว จะมีปัญหา ส่วนตัว ถ้าไม่ได้รักแฟนจริงๆ ก็คงเลิกคิดไปแล้ว เพราะไม่อยากไปอยู่เมืองนอก อยู่ในที่ๆไม่รู้จักใคร พูดภาษาไทยก็ไม่ได้ ไหนจะเพื่อน ญาติพี่น้อง ก็ไม่มี งานก็อาจจะไม่ได้ทำที่ ดีเท่ากับที่ทำอยู่ทุกวันนี้  คิดแล้วยังเสียดายอยู่เลยที่จะต้องลาออก ฮือ ฮือ แล้วไหนจะปัญหากับการใช้ ชีวิตคู่อีก ขนาดรักกันปานจะกลืน วันนึงมันก็ต้องมีทะเลาะกัน อันนี้เป็นสัจธรรม แต่ถ้าอยู่กันเพื่อเพราะประโยชน์ อันใดก็ตามที่ไม่ได้เกิดมาจากความรักแล้ว ดิฉันไม่สนับสนุนเหมือนกันค่ะ แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 47 12:19:46 จากคุณ : P@und - [ 18 เม.ย. 47 12:18:26 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อ่านแล้วก้ออยากมาแสดงความเห็นบ้าง การที่คุณเจ้าของกระทู้คิดว่าเพื่อนคุณคิดเช่นนี้ไม่ถูก และจะคัดค้านนั้น อันนี้ขอบอกว่า เป็นเรื่องของตัวเค้าเองที่จะตัดสินใจ ไม่มีใครรู้ดีกว่าตัวเค้าเอง ไม่มีใครรู้แน่นอนว่า สิ่งที่เค้าตัดสินใจนั้นจะลงเอยด้วย สุข หรือทุกข์ ไม่มีใครรับรองได้ ฉนั้น ใครๆในโลกนี้ไม่มีสิทธิเกินตัวเค้าเองที่จะเลือกทางเดินของตัวเอง ถ้าเค้าไปได้ดีละคุณ จะไม่เสียใจหรอที่ไปหยุดยั้งเค้าไว้ จะดี เลวเรื่องนี้ ตัวเค้าเลือกเอง โทษใครไม่ได้ จากประสบการณ์ที่ตัวเราองใช้ชีวิตอยู่ ใน ตปท.มา ร่วม 15 ปี แต่งงานกับ ชาวต่างชาติมา และได้เห็นตัวอย่างของเพื่อนๆคนไทยที่แต่งงานมาแล้วนานนับสิบปี หลายๆคนที่เรารู้จัก แต่งงานมีความสุข มีครอบครัวที่สุขสบาย เพื่อนสนิทสองคน แต่งงานกับ หนุ่มกีวี ที่อายุแก่กว่าพ่อของตัวเองซะอีก แต่เค้าก้อมีความสุข ครองรักครองเรือนกันมาสิบกว่าปี ไม่ได้ร่ำรวยอะไร พอมีพอกิน มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน สามียังเจียดเงินให้ส่งกลับไปเลี้ยงพ่อแม่ที่เมืองไทยประจำ ตัวเราเองเคยแต่งงานกับสามีคนแรกที่อายุน้อยกว่าเรารอบนึง แต่ชีวิตก้อไปด้วยไม่รอด แต่พอมาแต่งงานใหม่กับคนวัยไล่เลี่ยกัน ซึ่งขอย้ำว่าไม่รวยนะคะ เราก้อมาช่วยกันสร้างฐานะ ช่วยกันทำงานจนเริ่มมั่นคง มีความสุขเข้าอกเข้าใจกันพูดอะไรก้อปรึกษาหารือกัน และเชื่อไหมว่าเรารู้จักกันทางเน็ต แค่ สองอาทิตย์ ก้อตัดสินใจมาใช้ชีวิตร่วมกัน และไม่ผิดหวังเลย ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตอย่างพอเพียง มีงานช่วยกันทำมีเงินแบ่งกันใช้ แถมเลี้ยงดูส่งเสียลูกเราและแม่เราอีกด้วย สรุปแล้ว การจะแต่งงานใหม่กับใคร ชาติไหน เหตุผลที่ไหนของโลกไม่แปลกไม่แตกต่างกันนักเลย ข้อสำคัญ การรู้เขารู้เรา รู้จักเพียงพอ นั่นคือรากฐานสำคัญที่จะพยุงเราให้มีชีวิตที่เป็นสุข อย่าถือเอาว่าเราต้องการจากเขาเท่านั้นเท่านี้ มองย้อนตัวเองว่าเราให้อะไรเขาได้บ้างเพื่อตอบแทน มีหลายๆคนที่ผิดหวังชีวิตมาจากสามีคนไทย แต่งงานกับ ฝรั่งทางนี้ แล้วพาลูกที่เมืองไทยมาอยู่ด้วย เค้าก้อประสบความสำเร็จ ลูกๆได้เรียนจนจบสูงๆ ฉนั้นการจะไปแยกแยะเอาว่าแต่งกะฝรั่งไม่ได้ดีเสมอไป เป็นการไม่ยุติธรรม แล้วแต่งกะชาติไหนๆละก้อเช่นกัน ฝรั่ง ไทย จีน แขก ก้อคือคนเช่นกัน มีขาว ดำ ดี เลว จนบ้างรวยบ้าง พอมีบ้าง อยู่ที่แต่ละบุคคลจะรู้จักแยกแยะและรู้วิธีครองรักครองเรือนของตนให้ได้ตลอดรอดฝั่ง แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 47 13:36:11 จากคุณ : สะไภ้ออสซี่ (จิงโจ้/ออสซี่) - [ 18 เม.ย. 47 13:09:44 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คุณเดือดร้อนแทนเพื่อนคุณ เพราะการกระทำของเขาเหมือนกับการลดศักดิ์ศรีของความเป็นหญิงไทย ที่ส่วนมากมีความคิดแบบนั้นกันมากกว่านะ คิดว่าคุณไม่ต้องการให้เขาเป็นหนึ่งในหญิงไทยแบบนั้น คุณจึงเดือดร้อนใจแทนเขา ก็ไม่ผิดอะไรที่เขาจะมีความคิดแบบนั้น เขาบอกคุณตรงๆเลยแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ ยังดีกว่าหาจับฝรั่ง แล้วอ้างสาเหตุอื่นๆ 108/1900 กลบเกลื่อนเจตนาแท้จริงที่แฝงลึกๆ คุณไม่สามารถห้ามความตั้งใจเขาได้ จนกว่าเขาเองได้ประสบกับตัวเอง และไม่เสมอไปที่จะล้มเหลวไปทุกคู่ ปล่อยให้เขามีความหวังบ้าง ยังดีกว่าไม่มีเลย และคุณเป็นเพื่อนเขา ถึงไม่ชอบใจความคิดของเขาก็ตาม คุณคงทำได้แต่ช่วยเหลือเขาด้วยการเป็นผู้รับฟังที่ดีบ้าง ในช่วงที่เขาต้องการสักคนหนึ่งที่เขาสามารถไว้ใจพอควรที่จะสามารถระบายความอัดอั้นตันใจต่างๆ จากคุณ : ฝันที่อาจเป็นจริง - [ 18 เม.ย. 47 14:04:07 A:68.237.200.14 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 ชีวิตเป็นของเขานะคะ เขาโตจนมีลูกคนหนึ่งแล้ว เขามีสติปัญญาคิดได้เองค่ะ หากเขาจะเลือกทางเดินแบบนั้น คุณไม่มีสิทธิ์ไปห้าม และไม่มีประโยชน์ที่จะไปกลุ้มใจแทนเขา คุณต้องให้เกียรติและเคารพในการตัดสินใจของเพื่อนคุณค่ะ ไม่ว่าการตัดสินใจนั้นจะถูกหรือผิดในสายตาคุณก็ตาม มันเป็นชีวิตของเขา ไม่ใช่ชีวิตของคุณ จากคุณ : หมูแดงจ้ะ - [ 18 เม.ย. 47 14:14:23 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ที่ไหน ๆ มันก็ไม่มีชีวิตที่ สุขสบาย เหมือนอยู่ในสวรรค์ หรอก โลกมนุษย์นี้ ทุกข์ กับ สุข มันของคู่กัน และเวลา ดึกดื่นค่อนคืน เขาร้องไห้ หรือมีปัญหา เพื่อน ไม่ได้ ตามไปปลอบใจทุกครั้งไป ให้เขา ดำเนินชีวิตตาม ครรลองของเขาเองเถิด คุณในฐานะ เพื่อนที่ดี ก้อ ส่งแรงใจ ให้เขาพบในสิ่งที่ดีงาม น่าจะดีนะคะ........... จากคุณ : พิพพ์ - [ 18 เม.ย. 47 15:09:44 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ..ถ้าเขาเลือกที่จะเดินทางนั้น คนอื่นคงไม่มีสิทธิไปห้ามเค้าหรอกค่ะ คุณคงได้แต่เป็นกำลังใจให้ อฺธิษฐานขอให้เค้าพบแต่สิ่งที่ดีๆ ในชีวิตเท่านั้นเอง .. จากคุณ : อ้วน...อ้วน - [ 18 เม.ย. 47 15:23:40 A:202.129.24.68 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 Is that farang male a person? If the answer is YES then there should not be any problems. Man is always man whatever nationality he may be. จากคุณ : genf - [ 18 เม.ย. 47 19:18:44 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ชีวิตมันเป็นของใครของมันนะคะ อย่าไปกลุ้มแทนเขาเลยค่ะ เป็นเพื่อนสนิทกันขอให้เคารพในการตัดสินใจของเพื่อนดีกว่าค่ะ จากคุณ : Regenbogen - [ 19 เม.ย. 47 01:06:03 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เค้าคงจะคิดเหมือนคนไทยหลาย ๆคน ที่คิดว่า ฝรั่งรวย มีสตังค์ ทั้ง ๆ ที่ไม่ว่าคนชาติไหน เค้าก็ต้องทำมาหากินกันทั้งนั้น...เค้าอาจจะมีเงินถ้าอยู่ในเมืองไทย แต่ถ้าอยู่ที่บ้านเค้า ...ก็ต้องดูอีกที ว่ามีสตังค์มาก สตังค์น้อย ....ทำมาหากินอะไร เพราะคนเราต้องกิน ต้องใช้ค่ะ...มีกิน บางทีไม่มีเก็บ.. เหมือนที่คุณพูด ชีวิตมันไม่ได้สวยหรู...แต่ถ้าเพื่อนคุณคิดอย่างนั้น คุณคงไม่มีทางเปลี่ยนความคิดเค้าได้ค่ะ ....ก็หวังว่าเค้าคงจะโชคดี เจอคนรักจริง...และไม่ลำบาก ถ้ามาอยุ่ต่างบ้านต่างเมือง.... ....อันนี้เป็นความคิดนะคะ ว่า ถ้าเราอยากได้อะไรจากคนอื่น เราก็ต้องเป็นแบบที่เค้าอยากได้กลับค่ะ... ถ้าเราอยากได้คนดี เราก็ต้องเป็นคนดี ถ้าอยากได้ คนมีความรู้ความสามารถ เราก็ต้องเป็น ถ้าอยากได้คนเก่ง เราก็ต้องเก่ง... อยากได้คนหล่อ เราก็ต้องสวย อยากได้คนรวย....อันนี้มันไม่แน่ เราอาจจะไม่รวย..ถ้าเราโชคดี......ก็อาจจะเจอ แต่คงจะน้อยมาก...เพราะเราไม่ใช่ปุ๋ย... คนชาติไหนก็คงเหมือนกัน...ข้อย้ำว่าเหมือนกันค่ะ....มันขึ้นอยุ่ที่ตัวเราเอง..เป็นคนกำหนด ...เราเลือกได้... จากคุณ : TMB - [ 19 เม.ย. 47 06:32:11 A:210.84.35.61 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณมากๆทุกคนค่ะ ดิฉันกังวลก็เพราะว่ามันเข้าลักษณะการแต่งงานเพื่อธุรกิจ ถ้าชีวิตมันไม่มีทางเลือกแล้วก็ว่าไปอย่าง แต่ไอ้การที่ไปหวังพึ่งคนอื่นให้เลี้ยงเรา เลี้ยงลูกเราน่ะ ถ้าไม่รักกันจริงใครเขาจะมาทำให้ จริงมั้ยคะ ดิฉันไม่รังเกียจหากเขาพบกัน รักกัน ตกลงใช้ชีวิตร่วมกัน แต่ไม่ใช่ว่ามาเริ่มจากอยากหาคนช่วยส่งเสียเลี้ยงดูลูก อะไรทำนองนี้ คนโชคดีก็คงมี แต่ดิฉันคิดว่าคนโชคร้ายคงไม่ได้มีน้อยไปกว่าอย่างแน่นอน แต่สุดท้ายชีวิตก็เป็นการตัดสินใจของเขา อย่างที่คุณหมูแดง คุณอ้วน และคุณregenbogen ว่าไว้ เราคงแค่บอกให้เขารู้สิ่งที่เราคิด และก็ได้บอกไปแล้วด้วยน้ำตาของเรา ตอนนี้เขายังไม่ตัดสินใจ เราได้แต่อวยพรให้เขาโชคดี จากคุณ : anjing - [ 19 เม.ย. 47 10:18:15 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ดีแล้วค่ะ น้อง anjing แต่พี่ขอบอกว่าน้องเป็นเพื่อนที่น่ารักมากๆค่ะ เพื่อนของน้องเป็นคนโชคดีมากที่เขามีเพื่อนที่รักและเป็นห่วงเขามากอย่างนี้ นี่เขาจะรู้ตัวหรือไม่ก็ไม่ทราบนะคะ จากคุณ : Regenbogen - [ 20 เม.ย. 47 01:59:40 ]