ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ลักษณะเฉพาะของภาษาเพลงคือ มันเป็นกวีอยู่ในตัว บวกกับความจริงที่ว่า เพลงแต่ละเพลงมักมีความเป็นส่วนตัวของผู้แต่งรวมอยู่ด้วย ซึ่งทำให้บางทีเราอาจไม่มีวันเข้าใจมันเลย verse แรกเป็นการ set the mood โยนภาพๆนึง เพื่อดึงอารมณ์หม่นเศร้าได้ทันที Went out on a limb. - limb คือสถานที่ๆเป็นส่วนต่อเติม อาจเป็นสวน หรือสิ่งก่อสร้างอะไรสักอย่าง Gone too far.- ออกมาไกลเหลือเกิน (ไกลในที่นี้ มันสะท้อนระยะทางภายในจิตใจ) Broken down at the side of the road. Stranded at the outskirts and sun's creepin' up. broken down ก็คือรถเสีย (แต่ใครจะรู้ รถในที่นี้เป็นสัญลักษณ์ของการเดินทางต่อไป รถเสีย ก็คือ ชีวิตหรือจิตใจที่ไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ เพราะปัญหาเรื้อรังบางอย่าง) stranded- ตกที่นั่งลำบาก/ outskirts-ขอบๆของอะไรสักอย่าง ชานเมือง Sun is creeping up. ดวงอาทิตย์ค่อยๆเลื่อนตัวขึ้นทีละนิดๆ (แสงสว่างกำลังมาทีละนิด) Baby's in the backseat- เด็กทารกบนที่นั่งด้านหลังรถ Still fast asleep- ยังคงหลับนิ่ง (fast sleep เป็นสำนวนแปลว่าหลับลึก) Dreamming of better days -ฝันถึงวันที่ดีกว่า I don't want to call you but you are all I have to turn to. ชั้นไม่อยากที่จะเรียกเธอ แต่เธอเป็นทั้งหมดที่ชั้นจะหันไปหาได้ What do you say when it's all gone away. เราจะพูดอย่างไรได้ ในเมื่อทุกอย่างได้สูญเสียไปหมดแล้ว Baby, I didnt' want to hurt you. เด็กน้อย ชั้นไม่ต้องการที่จะทำร้ายเธอเลย Truth spoke in whisper will tear you apart. เพราะว่า ความจริงที่ถูกกระซิบเพียงแผ่วเบา มันอาจฉีกกระชากเธอออกเป็นชิ้นๆได้ No matter how hard you resist it. ไม่ว่าเธอจะปฏิเสธมันอย่างไรก็ตาม (ความจริงนั้นยังคงทำให้เธอเจ็บปวดอยู่ดี) It never rains when you want it to. ฝนไม่เคยตก....ในยามที่เธอต้องการสายฝนหล่นพรำเพื่อปลอบประโลม You humble me ,Lord I'm on my knees empty. Please ,please forgive me. humble แปลตรงๆว่าการถ่อมตัว แต่ในอีกความหมายหนึ่งคือ เวลาที่มนุษย์ พบกับความพ่ายแพ้ ล้มเหลว ความเจ็บปวด ผิดหวัง และทรมาน ถ้าโชคดีพอ อาจทำให้เรียนรู้บทเรียนที่ว่า จริงๆแล้ว มนุษย์มีพลังอำนาจน้อยเหลือเกิน ทุกอย่างในชีวิตไม่สามารถกำหนด หรือทำให้มันเป็นได้ ความรู้สึกที่ว่า มีพลังอำนาจอะไรสักอย่างที่ศักดิ์สิทธิ์และอยู่เหนือการควบคุมของมนุษย์ นี่คือความหมายของ humble ในที่นี้ ซึ่งถ้าจะแปลเป็นคำๆเดียวน่าจะใช้คำว่า สำนึกผิด Lord คือพระเจ้า You humble me ,Lord- พระเจ้า ในที่สุด ท่านก็ทำให้ชั้นสำนึก I'm on my knees empty ชั้นคุกเขาลงอย่างต่ำต้อย ไร้ค่า Please, please forgive me โปรดยกโทษให้ชั้นด้วยเถิด Baby Teresa got your eyes. (เด็กทารกคนนั้นชื่อ Teresa ) เทเรซ่า ได้รับดวงตาของท่าน I see you all the time. ชั้นเห็นท่าน(พระเจ้า)ทุกครั้งที่ชั้นมองไปที่ดวงตาของเทเรซ่า ตรงนี้น่าสงสัยว่า ทำไมใช้ชื่อเด็กว่าเทเรซ่า ซึ่งเป็นชื่อของนักบุญ When she asks about her daddy-เวลาที่หนูน้อยเทเรซ่า ถามถึงพ่อของเธอ I never know what to say -ชั้นไม่เคยรู้ว่าจะตอบเธออย่างไร Heard you kicked the bottle And helped to build the church. You carry an honest wage. Is it true you have someone keeping you company? ตรงนี้ผมรู้สึกว่า you ที่พูดถึงอาจไม่ใช่หนูน้อยเทเรซ่า แต่อาจหมายถึงนักบุญเทเรซ่ามากกว่า ซึ่งผมไม่มีความรู้เกี่ยวกับนักบุญท่านนี้ ก็เลยไม่สามารถพูดอะไรได้ เอาเป็นว่า ตามความเข้าใจของผม I heard you kick the bottle-ชั้นได้ยินเสียงเธอเตะขวดนม (ตอนนี้ยังพูดถึงหนูน้อยเทเรซ่าอยู่) and helped to build the church. ตอนนี้พูดถึงแม่ชีเทเรซ่าแล้ว (เพราะว่า helped เป็น past tense หนูน้อยเทเรซ่าคงไม่เคยไปสร้างโบสถ์ให้ใครที่ไหนได้) หรือถ้ามองอีกแง่หนึ่ง หนู่น้อยเทเรซ่า คือเด็กทารก ผู้บริสุทธิ์ เป็นผู้ที่สร้างโบสถ์วิหาร ขึ้นในจิตใจของผู้หญิงที่เป็นแม่ ทำให้เข้าใจความหายของชีวิต และเชื่อในพลังบริสุทธิ์ carry on- ดำเนินต่อ ทำต่อ honest wage- ภาระอันบริสุทธิ์ ปราศจากความแคลงใจ keeping company- อยู่เบื้องหลัง อยู่เคียงข้าง You carry an honest wage. Is it true you have someone keeping you company? ประโยคสุดท้ายนี่สวยครับ เธอผู้ซึ่งดำเนินภาระอันบริสุทธิ์ต่อไป จริงหรือ ที่มีใครคนหนึ่งที่คอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอ? มันเป็นคำถามในระดับ spiritual สรุป เพลงนี้พูดถึงผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมีลูกสาว และแยกทางกับคนรัก (หรือคนรักตายจาก) ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เอาเป็นว่าเธอเห็นความบริสุทธิ์ของเด็กทารกที่เป็นลูกแล้วทำให้ เกิดการสำนึกบาป สำนึกผิดกับเรื่องราวผิดพลาดที่ตัวเองทำมา ขอบคุณที่อ่านครับ (พิมพ์จนเหนื่อย it takes so long. หวังว่าเจ้าของกระทู้คงดีใจนะครับ) จากคุณ : คนไทยในอเมริกาคนหนึ่ง - [ 27 มิ.ย. 47 01:35:52 A:70.16.16.219 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 วาว.... จากคุณ : caffe latte - [ 27 มิ.ย. 47 10:58:24 ]

ความคิดเห็นที่ 3 Vow, terrific krub!! จากคุณ : amatuer translator - [ 27 มิ.ย. 47 11:08:02 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เยี่ยมมากๆ นับถือครับ ;-) จากคุณ : dmesg - [ 27 มิ.ย. 47 18:16:25 ]

ความคิดเห็นที่ 5 พ่อของ Norah คือ นักดนตรีชื่อดัง Ravi Shankar ที่ Norah ไม่เคยเห็นหน้าเลยจนอายุ 18 ถึงแม้ลูกไม้จะหล่นไม่ไกลต้น แต่ความสำเร็จทั้งหมดของ Norah นั้นเธอมอบให้ "แม่" และกล่าวว่าเป็นเพราะ"แม่"เท่านั้น ที่ทำให้เธอมีวันนี้ (นอกเรื่องนิดนึง ลองดูปกซีดีของ Shankar ที่ทำเพลงกับลูกสาวอีกคนนึงซิ หน้าแขก แต่เหมือน Norah มากๆ) จากคุณ : admirer - [ 28 มิ.ย. 47 06:39:52 A:24.87.2.210 X: ]