ความคิดเห็นที่ 1 เป็นเพลงที่น่าสนใจเพลงนึงนะครับ แต่ว่าถ้าจะให้ตอบแบบรวมๆ ผมว่ามันอาจจะยากสักหน่อย บอกก่อนว่า ผมไม่ได้เข้ามาตอบเพราะคิดว่าตัวเองเก่งภาษาอังกฤษ แต่ตอบเพราะว่า ผมเห็นคุณค่าของงานศิลปะ โดยเฉพาะหนังสือ ภาพเขียน และบทเพลง ผมเชื่ออย่างที่หลายๆคนเชื่อว่า แค่บทกวีบางบทก็สามารถเปลี่ยนโลกได้ทั้งโลก และผมไม่กลัวด้วยว่าจะแปลผิด เพราะในสถานการณ์แบบนี้ ทุกอย่างคือการตีความ อย่างที่ทราบกันดีว่า เนื้อเพลงทุกเพลงจะมีลักษณะของความเป็นกวี และความเป็นส่วนตัวของผู้แต่งอยู่ ดังนั้น การแปลหรือการหาความหมายของเพลงโดยไม่อ้างอิงถึงผู้แต่ง หรือ เจ้าของงานแล้ว หลายต่อหลายครั้ง แทบเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ Simply Red ก็คือ นาย Mick Hucknall ซึ่งเป็นหัวหน้าวง ร้องนำและแต่งเพลง (รวมถึงเพลงนี้ด้วย) ปัจจุบันเขาคนนี้อายุ 44 ไม่เคยแต่งงาน และไม่เคยมีลูก เขาโตมาจากการเลี้ยงดูของพ่อแท้ๆของเขา โดยไม่กล่าวถึงแม่ (ข้อมูลจาก internet จำไม่ได้ว่าจากเวปไหน ไม่ simplyred.com ก็คง elektra.com) คำว่า I ในเพลงนี้ก็คือคนๆหนึ่ง ซึ่งคงเป็นผู้แต่งเอง ที่ไม่เชื่อในความรัก ส่วน You ในเพลงนี้ก็คือคนที่เข้ามามีความสัมพันธ์ด้วย You've got it ---อันนี้คงต้องดูเนื้อเพลงทั้งหมด ถึงจะบอกได้ว่ามันแปลว่าอะไร This impossible power ,a strength that I can't see- อำนาจที่เป็นไปไม่ได้ ความแข็งแกร่งที่ไม่อาจมองเห็น There's no way That I can let you go -ผมไม่มีทางที่จะปล่อยคุณไปได้หรอก ( เพราะพลังของอำนาจนั้น) Why did I mistake sex for another sense ทำไมผมถึงสับสนไปเองว่า sex เป็นอย่างอื่นไปได้(love ?) Then wanted someone else to try to tell you no แต่แล้ว ผมกลับต้องการให้คนอื่นบอกคุณว่ามันไม่ใช่ (ผู้ชายคนนี้ไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนนี้รู้ว่า สำหรับเขาแล้ว การมี sex กับเธอ ไม่ได้แปลว่าเขารักเธอ) I think you understand Oh that you've got it -ผมคิดว่าคุณเองก็คงเข้าใจว่า คุณน่ะ มีสิ่งที่ผมต้องการ I try hard but I can't Oh do without it- ผมพยายามแล้ว แต่ทำไม่ได้ ที่จะคบกับคุณโดยไม่มี sex ด้วย ( เดี๋ยวมาต่อครับ แป๊ปนึง) จากคุณ : คนไทยในอเมริกาคนหนึ่ง - [ 30 มิ.ย. 47 10:10:13 A:70.16.18.110 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 (ต่อ) This impossible power Has broken into me- อำนาจลึกลับนั้น ได้เข้ามาครอบครองตัวผมไว้ And stolen all the sense That I had before-มันแย่งเอาสติสัมปัชชัญญะ(สะกดยังไง?) ที่ผมเคยมีไปหมด Why did I just take And never understand -ผมคงได้แต่รับเอาสิ่งดีๆมา แต่คนอย่างผมคงไม่เคยที่จะเข้าใจ The love you've given me Could have learnt me more. -ตอนนั้น ความรักบริสุทธิ์ที่เธอมีให้ น่าจะมีอำนาจมากพอที่ทำให้เธอรู้จักธาตุแท้ของคนอย่างผม What made you think That I'd be true to you- อะไรทำให้คุณคิดว่า ผมน่ะ จะจริงจังกับคุณ I needed to Prove it to myself That I could let you go. ตอนนั้นผมแค่ต้องการพิสูจน์ให้ตัวเองรู้ว่า จริงๆแล้วผมไม่จำเป็นต้องมีคุณ (ผู้ชายคนนี้ต้องการตอกย้ำกับตัวเองว่า เขาจะไม่ลงเอยกับผู้หญิงคนใดคนหนึ่ง) What made you think that I'd be a fool for you -ตอนนั้นน่ะ คุณคิดจริงๆเหรอ ว่าผมจะโง่อยู่กับคุณตลอดไป You knew that I was lying. There was something I was hiding คุณเองก็รู้อยู่เต็มอก ว่าผมโกหก และมีบางอย่างเกี่ยวกับตัวผมที่ไม่ต้องการให้คุณล่วงรู้ จากคุณ : คนไทยในอเมริกาคนหนึ่ง - [ 30 มิ.ย. 47 11:46:40 A:70.16.18.110 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 สรุป คือตอนแรกที่ผมอ่านเนื้อเพลง ผมเข้าใจไปอีกทางหนึ่ง ประมาณว่าผู้ชายคนหนึ่งเรียนรู้ และเห็นคุณค่า ของความรักจากผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้ามา และมอบสิ่งนี้ให้ ตามสไตล์เพลงรักมาตรฐานทั่วไป และ you've got it ก็คือ เธอคนนั้นมีความรักที่แท้จริง แต่พออ่านไปทั้งหมด หลายๆรอบ (บุหรี่สองมวน กับกาแฟอีกหนึ่งแก้ว)ประกอบกับไปหาอ่านประวัติของ คนเขียนเพลง( click ลิงค์ไปสองสามอันเจอไวรัส trojan ติดมาอีก-แต่ก็รอดมาได้เพราะมี firewall) ผมถึงเข้าใจอย่างที่ผมแปลไว้ในความเห็นข้างบน ผู้ชายคนที่เขียนเพลงนี้เกิดในราศี Gemini ซึ่งลักษณะทั่วไปของคนราศีนี้คือไม่ชอบที่จะติดอยู่กับอะไรซ้ำๆ เขาโตมาโดยมีพ่อเป็นผู้เลี้ยง และมีผู้ช่วยเลี้ยงที่เป็นผู้หญิงที่ไม่ใช่แม่แท้ๆ ตอนนี้เขาอายุ44 แล้ว ยังไม่เคยแต่งงาน และไม่เคยมีลูก ทั้งหมดนี้ ผมวิเคราะห์ว่าเขาเป็น playboy คนหนึ่ง เขาอาจจะโหยหาสัมผัสของหญิงสาว แต่มันเป็นเพียงความต้องการแค่ชั่วข้ามคืนเท่านั้น เขาเลือกใช้คำว่า the impposible power แทนไอ้เจ้าความรู้สึกพิเศษนั่นเพราะเขาไม่เชื่อในความรัก หรือเขาอาจจะเชื่อ แต่พยายามปฏิเสธว่ามันมีอยู่จริง หรืออาจคิดว่าคนอย่างเขาสามารถอยู่ได้โดยไม่ ต้องการความรักแบบนั้น ( parental fixation?) แต่ในขณะเดียวกัน เขาไม่สามารถปฏิเสธความปรารถนาทางเพศได้ และเขาก็อ้อนวอนให้เธอเข้าใจว่า เธอมีสิ่งที่สามารถเติมเต็มความปรารถนาของเขาได้ I think you understand ,Oh that you've got it เขายังขอความเห็นใจอีกว่า เขาพยายามแล้วนะ แต่เขาไม่สามารถต่อต้านความต้องการนั้นได้ I try hard but I can't,Oh do without it ขอบคุณที่อ่านครับ (คุณเจ้าของกระทู้ ถ้าได้มาอ่านแล้ว โปรดเขียนบอกด้วย สั้นๆก็ได้ คราวที่แล้วผมแปลเพลงไปเพลงนึง เจ้าของกระทู้ไม่เคยกลับมาเลย ผมเลยเสียความมั่นใจไปนิดนึง-แต่ยังดีที่มีท่านอื่นมาอ่านบ้าง) จากคุณ : คนไทยในอเมริกาคนหนึ่ง - [ 30 มิ.ย. 47 12:00:37 A:70.16.18.110 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 ก่อนอื่น ผมขอบอกว่า.. ขอบคุณคุณ"คนไทยในอเมริกา"อย่างมาก สำหรับน้ำใจและเวลาที่ได้มาตอบกระทู้ผม น้อยครั้งครับ ที่กระทู้อันไม่ใช่เรื่องด่วนหรือคอขาดบาดตายอย่างของผมนี่ จะได้รับความสนใจถึงขนาดนี้ ผมคิดไปคิดมา เนื้อเพลงโดยรวมไม่ได้มีคำศัพท์ยากอะไรเลย แต่ทำไมอ่านแล้วถึงไม่แน่ใจว่าตกลงผู้แต่งต้องการสื่ออะไร ทีแรกผมคิดว่า หมายถึงผู้ชายคนหนึ่งไม่เคยคิดจริงจังกับใคร แต่มาแพ้ใจผู้หญิงคนนี้ แต่พออ่านตรง: What made you think that I'd be true to you I needed to prove it to myself That I could let you go What made you think that I'd be a fool for you You knew that I was lying There was something I was hiding ก็เกิดอาการงงขึ้นมาอีก.. จึงได้มาโพสต์กระทู้ถาม และจากที่คุณ"คนไทยในอเมริกาคนหนึ่ง"ตีความไว้ ผมเห็นด้วยครับ แล้วก็ทึ่งด้วยที่คุณให้ความใส่ใจถึงกับขนาดไปอ่านประวัติของ Mick Hucknall เพื่อประกอบการวิเคราะห์ (ดีนะครับ ที่คุณไม่ติด Trojan มาเพราะคลิกดู link เพื่อหาประวัติของ Mick ไม่อย่างนั้นผมคงจะรู้สึกผิดมาก) กระทู้นี้อาจไม่ใช่กระทู้ที่ทุกคนจะคลิกมาดู หรือเป็นกระทู้ยอดนิยม แต่เป็นกระทู้ที่ผมได้เห็นน้ำใจเพื่อนในพันทิปอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก จากที่คุณตอบมานั้น ผมคิดว่านอกจากคุณจะเป็นคนที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษได้ดีแน่แล้ว คุณยังเป็นคนวิเคราะห์อะไรเก่งและลึกซึ้งด้วยอีกครับ ด้วยความขอบคุณอีกครั้ง.. อย่างใจจริง จากคุณ : ตะกั่ว - [ 30 มิ.ย. 47 21:05:30 A:212.219.59.200 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 I agree with u..........wowwwwwwwww จากคุณ : siammeaw (siammeaw) - [ 30 มิ.ย. 47 21:56:06 ]

ความคิดเห็นที่ 6 O_O Wow Wow Wow O_O "จากที่คุณตอบมานั้น ผมคิดว่านอกจากคุณจะเป็นคนที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษได้ดีแน่แล้ว คุณยังเป็นคนวิเคราะห์อะไรเก่งและลึกซึ้งด้วยอีกครับ" I couldn't agree with you more :) จากคุณ : TGIF! - [ 30 มิ.ย. 47 22:44:36 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณมากครับ ดีใจมากเลย จากคุณ : คนไทยในอเมริกาคนหนึ่ง - [ 1 ก.ค. 47 07:36:13 A:141.157.117.88 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 You're great! I like this song, too..for a long time..and I'm one of Simply Red fans, even though I can't say I totally understand his songs!! I like your take on that song ,but so far I got the song differently..perhaps because the music is sweet and soft...it sounds like Mick is saying he's been more into sex lately..but somehow this person comes along and he is so attracted by him/her. The hook (in a fade-out..almost like a whisper) at the end of the song sings "wanna let you know that I need you so...", so I kinda think that perhaps, if the playboy theory is right, he probably wants to quit living life that way ! But this song clearly shows he's confused and afraid. He knows his fault, but sounds to me like he admits he can't change ( not that he didn't want to). My observation might sound superficial, but considering the main themes of Simply Red songs,one can see how Mick has an interesting point of view about love..it's something like love is something you can't live with, yet can't live without. His songs can be quite contradictory sometimes, like "Love Has Said Goodbye Again".., supposed to be sad but the lyric is so hopeful and the beat is fun and cheerful. Or "Never Never Love" that sings.."so now we've got our independence..what are we gonna do then?" Or "Fairground" which sounds more like a playboy's anthem to me, "and I love the thought of coming home to you..even if I know we can't make it..yes I love the thought of giving hope to you..just a little ray of light shining through." The most complex song to me seems to be "Say You Love Me" It seems love is there, but you can't be sure who loves who! Also, Brit songs have this thing about lyrics (perhaps it's just the language problem on my part). Take Wet Wet Wet for example, the whole "Cold Cold Heart" song says as if he doesn't care for the girl and definitely not gonna take her back. But at the end of the song...again in the fade-out manner, he sings.."Gonna tell the world I love her..I'm gonna tell the world I love her." The whole thing is that he's trying to fight the temptation of having her back..and finally..at the very last seconds of the song..you know he's been saying things he doesn't mean! So, I'm suggesting that sometimes..with the Brit pops, the lyrics can be very tricky. I thank Khun Kon Thai Nai America Kon Nung for offering another interpretation. Your comments have always been very useful and thought-provoking to me. Look forward to hearing more from you. For now, I will go play my Simply Red collection , light my cigarette, and see if I can give you guys any more thoughts! จากคุณ : Mike - [ 1 ก.ค. 47 16:52:41 A:165.91.172.167 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 โอ.. คุณคนไทยในอเมริกาคนหนึ่ง "ขอบคุณ"เป็นคำพูดของผมที่ต้องให้คุณต่างหาก หวังว่าคงได้พบคุณอีกในโอกาสต่อๆไปนะครับ คุณ Mike: ขอบคุณที่แวะมาคุยครับ ความคิดเห็นของคุณน่าสนใจเช่นกัน ผมดีใจที่ได้เจอแฟนเพลงของ Simply Red อีกคนหนึ่ง จริงครับ ที่ว่าเพลงของ Simply Red ตีความยาก ไม่ใช่แต่จะเพลงที่ผมยกมาเท่านั้น และดูเหมือนไม่มีเพลงไหนเลยของ Mick ที่บูชาเทิดทูนความรักสุดหัวใจ ช่วงนี้ผมฟัง It's Only Love ซึ่งรวมเพลงรักส่วนใหญ่ของ Simply Red ไว้ ในปกอัลบั้มมีคำนิยมเขียนกล่าวถึงเพลง You've got it ไว้ว่า "achingly tender"'แต่นั่นก็ไม่สามารถบอกได้ว่าหมายถึงความหมายของเพลงหรือทำนอง ครับ.. ผมเห็นด้วยว่ามันเป็นเนื้อเพลงที่สับสนมาก ส่วนตัวแล้วถ้าอิงตามแนวคิดของคุณคนไทยฯที่เราต้องดูประวัติผู้แต่งประกอบ ผมเองเห็นว่านางเอกกับพระเอกในเพลง You've got it คงไม่ได้ลงเอยกันง่ายๆแน่ หรือไม่ก็คงอีกนานเพราะพระเอกยังไม่ได้อยู่ในขั้นที่จะยอมสละความเป็นอิสระของตัวเองได้ทั้งหมด และผมลองอ่านเนื้อเพลง Thank you ดู ก็เหมือนจะมีเนื้อหาทำนองเดียวกัน คือเอ่ยขอบคุณสำหรับ the love of my life แต่ไม่ได้แสดงความซาบซึ้ง เพราะมีบอกว่าต่อว่า like good people should do anyway เหมือนรับรู้ว่ามีความรักดีๆรออยู่ แต่ด้วยอะไรบางอย่างทำให้มันไม่ลงตัว หรือจบลงแบบที่ควรจะเป็น สุดท้ายนี้ ผมเคยอ่านความคิดเห็นของคุณ Mike ในกระทู้กระทู้หนึ่ง มีประโยคหนึ่งที่คุณเขียนแล้วผมชอบมาก ยังเก็บไว้ทุกวันนี้ คือ: "No offense, but are you sure people you THINK you offended were really OFFENDED by you..or they just didn't take your comments seriously, and it was you who keep grudges against them? People can think of themselves as too important to others sometimes....and that's why one can appear "alone against the world." Mike - [ 30 พ.ค. 47 09:20:44 A:4.10.41.169 X: ] ผมคิดว่าคงเป็นคนเดียวกันนะครับ หากไม่ใช่ก็ขออภัยด้วย แต่ถ้าใช่ก็อยากจะบอกว่ามันเป็นข้อคิดที่ดีมากเลยครับ จากคุณ : ตะกั่ว - [ 1 ก.ค. 47 18:16:04 A:212.219.59.200 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 Thank you !!!! Certainly that was from me, the same Mike. I'm just glad you brought this song up so we can have a little bit of music/philosophical talks in here. To me, nothing can be more wonderful than having a chance to learn from other people's ideas and look at things from different perspectives. In my seminar classes, the person who raises the question for the whole class discussion always gets the credit, because he/she encourages others to think and to rethink what's been thought. So when you say this kratoo is not an urgent matter, that's not totally true. There are always people out there who need to be encouraged to think and ask questions. So again, I'm glad you brought this up. Just afraid people will think we're in the wrong room as this music talks go!!! Anyway, let's have more of this!! จากคุณ : Mike - [ 2 ก.ค. 47 10:43:45 A:165.91.173.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 I like what you wrote Khun Mike!!! จากคุณ : Rive Gauche - [ 6 ก.ค. 47 10:13:51 ]