ความคิดเห็นที่ 1 กลับเมืองไทยทีไร เพื่อนหมอฟันเฉพาะทางเด็ก จะชอบถามว่า ลูกยังดื่มนมขวดอยู่หรือไม่ ตอนลูกอายุได้ขวบนึง เพื่อนบอกว่า เลิกได้แล้วนะ ถ้าลูกดื่มจากแก้วได้ไม่สำลักแล้ว ก็ควรจะเลิกดูดขวดนมเสีย ส่วนใหญ่คุณแม่ที่เอาใจใส่ลูกเป็นอย่างดีนั้น ก็คงไม่ได้ละเลยสุขภาพช่องปาก และปฎิบัติตามที่หมอฟันหรือหมอเด็กแนะนำเสมอ นั่นคือหลังดูดนมจากขวดก็มักจะดื่มน้ำตาม (หมอบอกไว้) หรือเอาสำลีชุบน้ำเช็ดภายในช่องปาก และพอลูกโต ก็แปรงฟันให้เขา แต่ปัญหาของการดูดนมขวดระยะยาวนานเกินไป คือ มันทำให้เกิดภาวะการกลืนที่ผิดปกติ หรือภาษาทางการแพทย์เรียกว่า "tongue thrust" คือเป็นการกลืนที่ร่างกายปรับให้เข้ากับการดูดนมจากขวด คือ การดันลิ้นออกมาด้านหน้าเพื่อกดให้นมออกมา หรือการดูดจูจุ๊บ (pacifier) ลิ้นก็จะดันออกมาข้างหน้าเช่นกัน ทีนี้ถ้าติดเป็นนิสัยกลืนแบบนี้แล้ว แรงจากลิ้นนี่มันมหาศาลนะ วันๆ นึง คนเรากลืนน้ำลาย หรือกลืนอาหารไม่รู้กี่พันครั้ง คุณลองกลืนน้ำลายเองดูสิคะ ถ้าเป็นภาวะปกติแล้ว ลิ้นจะดันขึ้นไปที่เพดาน ไม่ใช่ไปที่ฟันหน้า ผลตามจากการกลืนที่ผิดปกตินี้ บางทีก็น้อย บางทีก็มาก บางคนฟันหน้าห่าง บางคนถึงขนาดทำให้การพัฒนาของขากรรไกรบน (และรูปร่างเพดานปาก) ผิดปกติ วิธีการแก้ส่วนใหญ่ สำหรับรายที่เป็นน้อยๆ คือการฝึกการกลืนใหม่ โดย การพยายามกระดกลิ้นไปด้านหลังลึกๆ แล้วก็กลืนโดยให้ลิ้นอยู่อย่างนั้น สำหรับรายที่ต้องแก้ไขอย่างมาก ก็มีตั้งแต่ใส่อุปกรณ์กันลิ้น ไม่ให้ลิ้นออกมาข้างหน้า กรณีนี้ ต้องให้หมอฟันตรวจดู และให้คำแนะนำที่เหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ในเด็กที่ดูดนิ้วก็เช่นกัน นอกจากแรงจากลิ้นแล้ว ก็มีแรงจากนิ้วตัวเองที่คอยดันฟันให้เหยินออกมาด้วย อันนี้ลูกตัวเองก็ติดดูดนิ้ว ก็กำลังเฝ้าระวังอยู่ว่า ความถี่จะต้องลดน้อยลง อีกอย่างไม่ทราบว่า ลูกคุณอายุเท่าไรแล้วน่ะค่ะ ถ้าดื่มนมวันละแก้ว หรือดื่มน้อยลง ก็น่าจะลองพยายามให้ของหวานจำพวกผลิตภัณฑ์จากนมต่างๆ เช่น โยเกิร์ต เนยแข็ง ดูนะคะ อย่างโยเกิร์ต 1 กระป๋องนี่เทียบคุณค่าทางอาหารแล้วน่าจะเท่าหรือมากกว่านม 1 ขวด (250 ml) เสียอีกนะคะ อยากบอกว่า ลูกของดิฉันตอนนี้ 3 ขวบ 2 เดือน ก็ทานนมน้อยลงค่ะ แค่วันละ 1 แก้ว ก่อนนอน เขาเป็นคนปฏิเสธนมขวดเองด้วยค่ะ (เลยไม่มีปัญหาเกรงว่าจะกลืนผิดปกติ) แต่จะทานโยเกิร์ตและเนยแข็งเยอะมากๆ เลยไม่กังวลว่าจะได้แคลเซียมไม่เพียงพอ จากคุณ : พธูไทย - [ 14 ก.ค. 47 21:15:48 ]