CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    มีแม่บ้านห้องนี้เคยเจอปัญหาแบบนี้บ้างมั๊ย

    ชอบอ่านห้องนี้เกือบทุกวัน รามาอยู่อเมริกาได้เกือบสองปีแล้ว เครียดตลอด จริงๆ แล้วไม่ใช่เครียดเพระสามี
    เขาเป็นคนดีมากๆ รักและเข้าใจเราตลอด แต่เราเครียดเพราะถูกกดดันจากทางบ้านที่เมืองไทย โดยเฉพาะกับแม่ ทุกครั้งที่โทรกลับบ้าน เราจะต้องโดนสอบละเอียดยิบว่ามีเงินหรือยัง ทำไมไม่หางานทำ ทางบ้านไม่เข้าใจ คาดหวังว่าเราต้องได้งานเหมือนเมืองไทยแต่ ได้เงินมากกว่าเดิมหลายเท่ากว่าที่เมืองไทย

    เราบอกแม่ว่าจะมาหางานเหมือนที่ทำในเมืองไทยมันไม่ได้ เพราะยังไงเราก็สู้เจ้าของภาษาไม่ได้ อย่าว่าแต่งานใน office เลย ขนาดงานจับกัง ถ้าไม่อยู่ในถิ่นที่มีร้านอาหารไทยหรือมีกลุ่มคนไทยอยู่ก็ยิ่งไม่มีหวัง

    เราอธิบายให้แม่ฟังว่า เราเคยถามคนรู้จัก เขาให้เหตุผลว่า งานพวกนี้มี กลุ่มเม๊กซิกันรองรับอยู่แล้วโดยเฉพาะ รัฐที่อยู่ติดกับชายแดนเม็กซิโก ทั้งที่คนกลุ่มนี้จำนวนมากพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่เขาใช้ภาษาสเปน คนเม็กซิกันจำนวนมากที่นี่ ถึงจะไม่มี Green Card หรือแม้แต่จะอยู่อย่างผิดกฏหมาย ก็มีงานทำได้ไม่ยาก เพราะทุกวันนี้ภาษาสเปนเป็นภาษาที่มีบทบาทไม่แพ้ภาษาอังกฤษ

    เราคิดว่าคงจะอย่างนั้น เพราะขนาดที่สำนักงาน INS ที่ San Antonio (เมืองใต้สุดติดกับเม็กซิโก) เจ้าหน้าที่เหน้าตาเม๊กซิกันเกือบหมด ขนาดภาษาที่เขาประกาศในไมโครโฟนยังอังกฤษ บ้างเสปนบ้างเลย

    ทุกวันนี้ เราเองเครียดมากพอแล้ว เพราะความรู้ที่มี ประสบการณ์ทำงานที่สร้างมา เอามาใช้ประโยนช์ที่นี้ไม่ได้เลย งานเราก็เราหาจนหมดกำลังใจแล้ว ไม่ได้เลือกงานด้วย แต่เนื่องจากเรายังไม่มีรถ สอบใบขับบี่ไม่ผ่าน บ้านที่อยู่รถเมล์ก็ไม่ผ่าน งานที่จะหาก็ต้องเป็นงานที่อาศัยรถสามีไปทำงาน แต่ก็หาแล้ว พยายามแล้ว จากประสบการณ์ที่เราเคยเป็นผู้บริหารในเมืองไทย พร้อมปริญญาสามใบ ทั้งตรีทั้งโท เราสมัครตั้งแต่งาน office ไปจน ภารโรง ทำความสะอาดพื้น พี่เลี้ยงเด็ก ผู้ช่วยในครัว ทำสวน ทำความสะอาดบ้าน ....ฯลฯ ไม่มีตอบรับเลยแม้แต่รายเดียว

    แม่บอกว่าถ้าหางานที่นี้แล้วไม่ได้งานดี เงินเดือนดี มีเหลือให้ที่บ้านเป็นหมื่นทุกเดือนเหมือนก่อน ก็ควรจะกลับไปหางานทำเมืองไทย ชวนสามีไปอยู่เมืองไทย แม่บอกว่าเห็นฝรั่งเยอะแยะทำงานเงินเดือนดีๆ ที่เมืองไทย เราก็จะมีงานทำมีเงินด้วย ส่วนน้องสาวบอกว่าถ้าเราหางานรัฐอื่นได้ก็ไปอยู่ที่รัฐนั้นนั้น แล้วค่อยให้แฟนเราไปเยี่ยมเราเป็นครั้งคราว เราอึ้ง ! แต่ละคน..... คิดได้ไงเนี่ย

    เราคิดว่าแม่บ้านห้องนี้คงเข้าใจนะว่าการทำแบบนั้นมันพูดง่าย แต่ในทางปฏิบัติมันเป็นไปไม่ได้ ไหนจะเรื่องกฏหมาย ต.ม. และอื่นๆ เรายิ่งคิดก็ยิ่งเหนื่อย ยิ่งความคิดของน้องสาวเรายิ่งแย่ใหญ่ คนที่บ้านเราไม่มีใครใช้ภาษาได้ ไม่เคยมีความรู้เรื่องของการเข้าออก ต่างประเทศ รวมถึงขั้นตอนต่างๆ ที่เราต้องทำตอนมาที่นี่ เขาคิดอะไรง่ายๆ ไปหมดเลย

    ตอนเราแต่งงานที่เมืองไทยเราก็จัดแจงเองหมด เราอยากให้พ่อแม่ให้เกียรติิสามีเราในฐานะที่เขาเป็นสามีของลูกสาว เป็นลูกเขย มากกว่าที่จะมุ่งมั่นเอาความคิดผิดๆจากที่ไหนก็ไมนรู้ว่าการแต่งงานกับฝรั่งต้องมีเงินมาให้เป็นถุง เป็นถัง ต้องมาสร้างบ้านใหม่ให้ เราคิดว่า พ่อแม่เราก็มีบ้านเป็นของตัวเองแล้วคนละหลัง จะไปเอาอะไรอีก !!

    เราไม่รู้ว่าพ่อแม่เราไปยึดความคิดบ้าๆ นี้มาจากที่ไหน
    เราไม่เข้าใจว่า ทำไม พ่อแม่เราชอบเอาคำพูดชาวบ้านมาเปรียบเทียบกับเราว่า หลานสาวญาติคนข้างบ้านอยู่ต่างจังหวัด เรียนจบ ม.3 ก็แต่งงานกับฝรั่ง เขารวยซื้อบ้านให้พ่อแม่ หลังใหญ่ แต่เราความรู้สูงกว่า กลับไม่มีอะไรให้เขาเลย เราไม่รู้จะตอบยังไง ได้แต่โมโหว่าทำไมเอาเราไปเปรียบเทียบ แบบนั้น..

    แฟนเรากลับมานั่งปลอบใจว่าอย่าไปเก็บมาใส่ใจเพราะเราไม่ได้อยู่กับแม่ แต่เราอยู่กับเขา เขาไม่เคยคาดหวังให้เราออกไปทำงานนอกบ้าน หรือหางานทำ เขากลับภูมิใจที่เขาเลี้ยงเราได้ถึงไม่มากแต่ก็ตามอัตภาพ ซึ่งเราก็ยอมรับเพราะตรงนี้เราไม่เคยได้จากแม่เลย

    ทุกครั้งที่โทรคุยกับแม่แต่ละที เขาไม่ถามทุกข์สุก ถามแต่เรื่องเงิน แล้วยังขอให้เราซื้อเครื่องสำอาง น้ำหอม ยี่ห้อดังๆ ไปให้แกกับเพื่อนตอนกลับบ้าน เราไม่มีเิงิน แล้วสามีเราก็มนุษย์เงินเดือนเหมือนกัน แม่สามียังทำงานงกๆ ทุกวัน เราคงไม่กล้าไปขอสามีเอาเงินมาให้แม่เราเอง เพราะแม่เราต้องการเงินหลายหมื่น ถึงหลักแสนไม่ใช่แค่หลักพัน ทุกวันนี้คิดถึงคนที่บ้านแต่ไม่อยากเจ็บซ้ำแล้วซ้ำอีก เลยไม่โทรกลับบ้านเลย

    ตอนนี้เราเครียดเพราะรู้สึกตัวเองผิดที่ให้ในสิ่งที่แม่ต้องการไม่ได้ เราเองก็จนปัญญา ใจหนึ่งก็เชื่อที่สามีปลอบ แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าแม่พูดถูก เราควรจะกลับไปเมืองไทยหางานทำเหมือนเดิม ดีม๊ย แต่พอนึกนึกสามีแล้วทำใจไม่ได้ เราควรจะทำยังไงดี มีแม่บ้านห้องนี้เคยเจอปัญหาแบบนี้บ้างมั๊ย ทำยังไง ชว่ยแนะนำหน่อย

    ตอนนี้กินยานอนหลับทุกวัน อยากให้ลิมๆ เรื่องที่บ้าน แต่พอตื่น ก็คิดตลอดว่า เราเป็นคนไม่ดี อกตัญญู เพราะเราไม่ให้เงินที่บ้านทุกวันนี้เราก็เลยหางานทำไม่ได้ คิดวกไปวนมากอยู่แบบนี้ นี่ล่าสุดแม่บอกว่าอยากให้เราเอาลูกสาวของน้องชายเราอายุ 2 ขวบ มาอยู่กับเราที่อเมริกา จะได้เรียนที่นี่ ตั้งแต่เรามาอยู่ที่นี่จะสองปี ไม่เคยมีจดหมาย โทรศัพท์จากน้องชายเราถามทุกข์สุขเราเลย แล้วพอแม่พูดกับเราแบบนี้เราพูดไม่ออก

    จากคุณ : Mrs. Depress - [ 22 ก.ค. 47 03:58:43 A:4.231.135.189 X: ]