CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    @@@@ครบสามปีแล้วกับการที่ต้องเปลี่ยนวิถีชีวิต@@@@

    วันนี้ก็ครบสามปีแล้วกับการที่ต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตจาก สาวออฟฟิตในกรุงเทพ มาเป็นแม่บ้านที่อังกฤษ  นึกไปแล้วความรู้สึกในวันนี้กับเมื่อสามปีก่อนมันผิดกับลับตาเลย   จำได้ว่าตอนที่มาอยู่อังกฤษใหม่ๆโพสน์ในกระทู้ห้องแม่บ้าน  ได้รู้จักพี่ๆหลายๆคนที่คอยให้กำลัง  เพราะว่าเราท้อกับชีวิตที่นี่  ชีวิตที่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ  จากที่เคยทำงานวันละเกือบ 24 ชั่วโมง  สาวเวิคกิงวู้เมนท์   สาวมั่นที่มั่นใจในตัวเอง  และภาคภูมิใจในความเป็นตัวเองเสียเหลือเกิน    ต้องมาเปลี่ยนสภาพเป็นนักเรียนโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ  และเริ่มหางานทำตั้งแต่ล้างจาน   ทำความสะอาดบ้าน  กว่าจะได้ เนชั่นเนลอินชัวรัน  นัมเบอร์ และ พัฒนาตัวเองจนทำงานในห้องแล็ปทำฟัน  ชีวิตก็ขึ้นๆลงๆอยู่อย่างนี้  เกือบสองปี  ร้องไห้ก็เยอะ เสียน้ำตาให้กับภาพพจน์ของอดีตที่ยังติดในใจอยู่เสมอ   จนตอนนี้มันเริ่มชินกับวิถีชีวิตที่เราเลือกเดิน   อย่างน้อยๆเราก็ไม่ได้ตัวคนเดียวเรายังมีสามีที่ดีที่เธอยังเสมอต้นเสมอปลาย   มีพี่ๆห้องแม่บ้านที่คอยให้กำลังใจเสมอ  ถึงแม้นว่าจะไม่รู้จักหน้าค่าตากันก็ตาม    เค้าถึงว่าคนไทยอย่างน้อยก็ยังมีน้ำใจให้แก่กันนะ

    วันนี้บทบาทของชีวิตก็เริ่มเปลี่ยนไปอีกครั้ง หลังจากที่พี่ๆบ้างคนทราบบ้างแล้วแล้วเรากำลังจะได้เป็นคุณแม่  (ระยะทางยังอีกตั้งเกือบ 6 เดือนนะ)  ชีวิตในวันนี้มันช่างมีความหมายเสียเหลือเกิน ถึงแม้นจะเพิ่งลาออกจากงาน (เพราะไม่สามารถทำได้ แพ้อยู่ตลอดถึงกับเข้าออกโรงพยาบาลเป็นบ้านหลังที่สอง)  แต่ไม่ได้รู้สึกเศร้าหรือโหยหาที่จะออกไปดิ้นร้น  ไคว้คว้าความสำเร็จ หรือติดกับภาพพจน์ของสาวทำงานอีกต่อไป   มันเป็นความรู้สึกที่ประหลาด วิถีชีวิตที่เคยมี  เคยเป็น  เริ่มเปลี่ยนไป  มุมมองในการมองชีวิตเริ่มกว้างมากขึ้น    พอใจกับชีวิตที่เป็นอยู่  มองกลับมาในมุมที่เราไม่เคยมองเห็น   มองมุมมองความรักที่สามีมีให้  กว้างมากขึ้น  ผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ได้เกิด และเติบโตในประเทศนี้เหมือนกัน  แต่เค้าเข้มแข็ง  และหยัดยืน  เป็นกำลังใจให้เราเสมอมา   ดูแลครอบครัวเราเปรียบเสมือน ครอบครัวเค้าเอง   นึกไปมีแต่เราซะอีกที่เห็นแก่ตัวเอาแต่ใจตัวเอง   และยึดทิฐิเป็นที่ตั้ง ไม่เคยมองกลับไปว่า  เราและสามีไม่ได้แตกต่างกันเลย เพราะเราอยู่ในประเทศที่สองเหมือนกัน (สามีเป็นคนยุโรปค่ะ)

    ไม่เคยสวีท จำไม่ได้แล้วว่าบอกรักสามีครั้งสุดท้ายเมื่อไร  จนวันนี้ ได้บอกและอยากจะบอกกับเค้าอย่างนี้ทุกๆวัน เหมือนที่เค้าพร่ำบอกเราเสมอ  เราเป็นผู้หญิงอีกคนที่โชคดี    เรายืนอยู่ในจุดที่ดีกว่าอีกหลายล้านคนในโลกใบนี้    มีอาหารดีครบทุกมือ  มีรถ  มีบ้าน มีความอบอุ่นจากครอบครัว   แล้วเรายังจะต้องการอะไรอีก     วันนี้กลับมานั่งนึกขำตัวเอง  แต่ก็อดดีใจไม่ได้ที่เราได้ชนะตัวเราเองเสียที   เรียกว่าสามปีที่เคยเสียน้ำตามันไม่ได้สูญเปล่า วันนี้ มันเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่กว่าการชนะอะไรทั้งหมด


    สิ่งหนึ่งที่เป็นพื้นฐานแรงบัลดาลใจให้คิดได้อย่างวันนี้ ก็คงเป็นเพราะเจ้าตัวเล็ก  ที่กำลังจะเกิดมาลืมตาในโลกใบนี้  อานุภาพของคำว่า แม่  มันยิ่งใหญ่จริงๆนะ    เปลี่ยนตัวเราจากคนที่มุมมองแคบๆ  ให้นึกคิดและ รักคนรอบข้างอย่างแท้จริง

    ที่เขียนมาทั้งหมดอยากเป็นกำลังใจให้กับทุกๆคน  ที่ใช้ชีวิตความเป็นอยู่ในต่างแดน   เวลาและยาใจค่ะ  จะเป็นตัวช่วยให้ทุกสิ่งทุกอย่าง  ผ่านไปได้ด้วยดี   ....... เป็นกำลังใจให้และ ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับมิตรภาพที่ดีดีในห้องนี้  ……………………..

    จากคุณ : BAZMARU - [ 2 ส.ค. 47 21:52:39 ]