ความคิดเห็นที่ 1 จับจุดที่.. อันดับหนึ่งเลย ตัดพวกตัวเลือกต่างๆออกไปจากหัวก่อน แล้วมองย้อนไปในตัวเองให้ลึกมากๆๆๆๆว่า อันตัวตนเราที่แท้จริงนั้น เราต้องการอะไรมากที่สุด คือ ถ้าให้ตอบ 3 ข้อ คำตอบที่อยู่อันดับหนึ่งสำคัญสุด ความอยากเป็นใหญ่เป็นโต ทำงานดีๆ ใครๆก็อยากทั้งนั้น ซึ่งจริงๆแล้ว ไม่ว่าทำอะไรมันมักมีหนทางในแบบนั้นทั้งนั้น เพียงแต่มีค.มุ่งมั่นเพียรพยายาม มุมานะ และยอมทุ่มแค่ไหน เรื่องเรียนเอก ส่วนตัวไม่เห็นด้วย (ยกเว้นได้ทุนเรียน แบบไม่ต้องใช้คืนอย่างนั้น) เพราะเรียนมา ค่าใช้จ่ายกินอยู่ต่อปี ไม่ใช่ถูกๆ เรียนมาแล้วได้ใช้หรือเปล่า ถ้าตั้งใจเป็นนักวิจัย สอนมหาลัย ก็สมควรเรียน แต่ถ้าต้องการทำงานบริษัท ทำธุรกิจ เอกไม่มีค.จำเป็น จริงๆโทก็ไม่จำเป็นด้วยซ้ำ แต่ตามสังคมไทย เรียนโทต่างประเทศไว้ โดยคำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไประหว่างนั้น ว่าเรียนโทยังโอเคกว่าเรียนเอก จริงๆแล้วเรื่องวางแผนต่างๆ เช่น ทำงานบริษัท ทำธุรกิจ และอื่นๆ เอาเข้าจริงๆ บางทีหลายสิ่งหลายอย่างมันก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราตั้งใจ วางแผน ...ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน เพราะฉะนั้น ก็ย้อนกลับมาที่ประโยคแรกข้างบน "เราต้องการอะไรมากที่สุดในชีวิต" ตอบได้ แล้วค่อยวางแผนไปตามนั้น ทำเป็นขั้นๆไป ในกระบวนการ จะมีหลายสิ่งเกิดที่บางครั้งทำให้แผนเปลี่ยน แล้วเราก็ปรับเปลี่ยนไปตามจังหวะและโอกาสนั้น แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 47 23:59:25 จากคุณ : Overseas - [ 9 ส.ค. 47 23:57:21 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สวัสดีครับ จากเงื่อนไขทั้งสามข้อของคุณที่ว่ามา กับทางเลือกที่คุณยกมาให้เลือกภายหลัง ผมคิดว่าคุณเข้าใจผิดเกี่ยวกับการศึกษาต่างประเทศไม่ว่าจะโทหรือเอก การเรียนโทต่างประเทศ*อาจจะ* ทำให้คุณพัฒนาภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น และมีความรู้เฉพาะด้านมากขึ้น แต่สิ่งที่คุณเสียแน่ๆ คือค่าเรียน ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ตลอดจนค่าสูญเสียเวลาและรายได้ที่คุณหยุดทำงานไป ทั้งหมดหลายล้านบาท.... โปรดเข้าใจว่า *คุณไม่จำเป็นต้องจบโทต่างประเทศเพื่อที่จะเปิดบริษัทหรือทำธุรกิจของตัวเอง* พูดก็พูดเถอะ การเรียนโทนั้น ไม่มีความหมายอะไรเลย ต่อความสามารถที่จะกลายเป็นคนรวยได้ ตราบใดที่คุณยังคิดว่าจะทำงานบริษัทเป็นลูกจ้างกินเงินเดือนอยู่ ปริญญาโทก็เป็นแค่ ใบเบิกทางอีกใบหนึ่งที่จะช่วยให้คุณเข้าทำงานในบริษัทเพื่อกลายเป็นมนุษย์เงินเดือนอีกคนหนึ่ง พูดแบบนี้ไม่ได้แปลว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือน จะไม่มีทางรวย แต่จุดสำคัญก็คือ โอกาสรวยมันน้อยมาก และช้า กว่าคุณจะทำงานจนสามารถ cover การลงทุนเพื่อเรียนโทต่างประเทศสำเร็จ คุณก็แก่แล้ว ถ้าคุณต้องการรวย คุณควรเกิบเงินก้อนนั้นไว้ลงทุนอย่างฉลาด โอกาสที่จะประสบความสำเร็จมีมากกว่า ส่วนเรื่องการเรียนต่อเอก ลืมไปได้ ตราบใดที่คุณพูดถึงมันโดยอ้างว่าพ่อต้องการให้เรียน หรือที่บ้านจะส่ง เพราะการเรียนต่อเอก คือการที่คนๆหนึ่งมี passion ที่จะศึกษาศาสตร์แขนงใดแขนงหนึ่งอย่างเฉพาะเจาะจง ซึ่งคนๆนั้นจะต้องมีวินัยทางวิชาการและความรักในเรื่องนั้นๆสูง (แต่ก็มีบ้าง ที่เรียนด้วยเหตุผลอันตื้นเขิน) และที่สำคัญ การจบปริญญาเอก ก็ไม่ได้เป็น factor ที่มีนัยสำคัญต่อการเป็นคนรวยแต่อย่างใด การเปิดบริษัท หรือทำธุรกิจ ไม่ใช่เรื่องของการรู้ทุกอย่าง แต่เป็นเรื่องของการรู้จักคนมากกว่า รู้จักการใช้คน รู้จักการหาคนที่รู้ และเก่งในเรื่องนั้นๆมาดูแลในส่วนๆนั้น และที่สำคัญคือดวง (หรือกรรมเก่า) เช่น ถ้าคุณมีความคิดว่าจะเปิดร้านขายน้ำสมุนไพรชนิดต่างๆ เพราะปัจจุบัน คนหันมาให้ความสนใจ เกี่ยวกับสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติมากขึ้น ตรงนี้คุณไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องสมุนไพรมาก่อนเลยแม้แต่นิดเดียว สิ่งที่คุณต้องการก็คือ... นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ภูมิปัญญาชาวบ้านจากผู้สูงอายุ นักการตลาดผู้คว่ำหวอด เพื่อนคุณบางคนที่รู้จักที่ทำเลดีๆ เพื่อนของเพื่อนคุณที่ทำงานฝ่ายสินเชื่อ น้องสาวของคุณที่เรียนจบบัญชี ถ้าคนเหล่านั้นเป็นคนที่คุณไม่รู้จักมาก่อน ไม่มีปัญหา คุณก็เป็นฝ่ายไปทำความรู้จักกับพวกเขา ก็แค่นั้น พูดให้สั้นๆก็คือ " It's not WHAT you know, it's WHO you know." (ส่วนที่ตามมาคือ How to make use of them. มันก็ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณเอง) สรุป อย่างที่คุณความคิดเห็นที่ 1 บอก ก่อนที่จะตัดสินใจอะไรลงไป คุณควรหาตัวเองให้เจอเสียก่อน คุณต้องการอะไรกันแน่ ถ้าทางบ้านคุณพอมีฐานะอยู่บ้าง และ คุณอยากได้ประสบการณ์การเป็น นักศึกษาในต่างประเทศ เปลี่ยนบรรยากาศชีวิตสักพัก และฝึกภาษาอังกฤษ อันนี้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าคุณต้องการมีเงินมากๆ เพื่อซื้อบ้านหลังใหญ่ ต้องการมีรายได้สูงๆ ต้องการรวย คุณควรเก็บเงินก้อนนั้นไว้ลงทุน และใช้เวลาช่วงนี้ศึกษา หาลู่ทาง เก็บข้อมูลไปเรื่อยๆจนพร้อม ส่วนเรื่องการเรียนต่อเอก ให้ลืมไปได้ก่อนเลยครับ (ถ้าตัวแปร เงื่อนไขของคุณยังเป็นอย่างนี้) ขอให้โชคดีครับ (ถ้ารวยแล้ว อย่าลืมดูแลคนที่ด้อยโอกาสกว่าในสังคมด้วยนะครับ ) จากคุณ : คนไทยในอเมริกาคนหนึ่ง - [ 10 ส.ค. 47 13:11:26 A:141.157.120.156 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 เคยมีคนรวยบอกว่า หากเรายังคงเป็นลูกจ้างเขาอยู่เมื่อไหร่เราจะรวยสักที แค่นี้ล่ะคือคำตอบ เก็บเงิน ล้านบาทไปทำธุรกิจดีกว่า ป เอก ไม่มีส่วนช่วยเลย แต่หาก อยากเป็นอาจารย์ หรือ นักวิจัย ก็ควรไปเรียนต่อเพราะมันจำเป็นที่จะไปเปิดโลกดูชาวโลกบ้างว่าเขาทำวิจัยกันไปถึงไหนแล้ว แล้วเอากลับมาทำให้ประเทศเราทัดเทียมกะเขา แต่หากคำตอบของคุณคือการทำธุรกิจ เราว่าหากพ่อจะขายบ้านให้ไปเรียนต่อ แล้วขาดความรู้ไม่รู้จะไปลงทุนอะไรดี รวบรวมเงินไปเปิด seven ดีกว่านะ ประมาณ 2.4 ล้านบาท รอไม่นานก็คืนทุนแล้ว ความเสี่ยงต่ำ แล้วพอคืนทุนจะไปเรียนไหนก้ไป ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา seven ข้างๆ บ้านยอดขายวันนั้น มากกว่า 50000 บาท คนมาซื้อเหล้าเยอะมาก ลองๆดูนะว่า seven วันๆนึงขายได้เท่าไหร่ นี่คือตัวอย่างของการหาเงิน และหนทางการเป็นเจ้าของธุรกิจ ยังมีปัจจัยอื่นอีกมาก แต่ไม่ขอกล่าว เราเป็นคนนึงที่อยากมีธุรกิจ อยากเปิด seven แต่ที่บ้านครอบครัวจะให้ไปเรียนต่อ ด้วยเงิน 2.4 ล้านเท่ากันเพื่อให้เรียนจบมาเป็นอาจารย์ทำประโยชน์ให้กับสังคม คิดนานมาก เอาเงินไปลงทุนดีกว่าทีจะเอาไปเรียน เราไม่ได้อยากเป็นอาจารย์ หรือว่า นักวิจัย การทำประโยชน์ให้ชาติไม่จำเป็นต้องเป็นอาจารย์เสมอไป ไปเรียนจบมากหากไม่มีทุน เราจะ go on ได้ไง นี่คือทางที่เราเลือก ลองคิดดูนะหากจบแล้วจะมาเป็นลูกจ้างทำงานบริษัท แล้วเมื่อไหร่จะเก็บเงินไปเป็นเถ้าแก่เองได้ล่ะ บอกเลยไม่คุ้ม ถามตัวเองว่าอยากทำอะไร ไม่ต้องจบนอกเราก็รวยด้วยน้ำพักน้ำแรงของเราเอง ไม่มีคำตอบผิดหรือถูก ถามตัวคุณเองดูก่อนว่า goal คุณอยู่ที่ไหน จากคุณ : LMC - [ 10 ส.ค. 47 14:29:37 A:202.28.21.6 X: ]