ความคิดเห็นที่ 1 ในฐานะผู้เขียนคำนิยม ขอยืนยันว่าผมได้อ่านทั้งเล่มที่เป็นภาษาอังกฤษและต้นฉบับภาษาไทยก่อนตีพิมพ์ ผมไม่ไร้ความรับผิดชอบขนาดหลับตาเขียนคำนิยมโดยไม่อ่านที่แปลแล้วแน่นอน เมื่อได้อ่านความเห็นของบางท่านที่นำตัวอย่างมาแสดงด้วยก็เห็นว่ามีการแปลผิดจริงในหลายแห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อผิดพลาดที่เกี่ยวพันเชิงวัฒนธรรม กล่าวคือ เฉพาะผู้ลึกซึ้งในภาษาและวัฒนธรรมอย่างเต็มที่ด้วยกันเท่านั้นจึงจะแปลได้ถูกต้อง เช่น คนไทยทักกันว่า “กินข้าวแล้วหรือยัง” ถ้าฝรั่งไปแปลเป็นภาษาอังกฤษที่ถูกต้องก็คือ How are you? ไม่ใช่ Have you eaten ? (บางคนก็อาจถกเถียงว่าไม่สมควรแปลอย่างนี้) จากคุณ : วรากรณ์ - [ 3 ก.ย. 47 15:06:31 A:203.156.144.101 X:203.147.0.9 TicketID:071977 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แม้แต่ในพระไตรปิฎกเองก็มีที่แปลผิด เท่าที่จำได้มีตัวอย่างที่อาจารย์เสฐียรพงษ์ วรรณปกเคยยกมา เช่นในตอนหนึ่งมานพน้อยเดินผ่านมา พระพุทธเจ้าถามว่าจะไปเมืองหนึ่ง ไปทางขวานี้ถูกต้องหรือไม่ มานพก็ส่ายหน้า ในพระไตรปิฎกแปลว่ามานพบอกว่าไม่ใช่ทางที่ถูก แต่แท้จริงแล้วเป็นการแปลที่ผิด ที่ถูกคือแปลว่าใช่ เพราะคนที่คุ้นเคยเคยไปอินเดียนั้นจะรู้ว่าการส่ายหน้าของคนอินเดีย (จริง ๆ คือการส่ายหน้าและคอ) นั้นคือใช่ จากคุณ : วรากรณ์ - [ 3 ก.ย. 47 15:07:48 A:203.156.144.101 X:203.147.0.42 TicketID:071977 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อตอนที่เขียนคำนิยมนั้น ผมอ่านเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษจบไปก่อนหน้านั้นนานพอสมควรแล้ว ผมไม่ใช่บรรณาธิการตรวจสอบความถูกต้อง จึงมิได้เอาต้นฉบับและฉบับที่แปลมาวางเทียบกัน ผมอ่านเฉพาะเวอร์ชั่นภาษาไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเช็คตรงที่เกี่ยวกับ concept เศรษฐศาสตร์ ก็เห็นว่าแปลได้สละสลวยและไม่ผิดหลักวิชาผมก็เขียนไปตามความรู้สึกอย่างจริงใจ ผมยอมรับว่าอาจรอบคอบไม่พอที่ไม่ได้เอาสองเล่มมาเทียบกัน เวลาอ่านก็ยังจำพล๊อตเรื่องและ เนื้อหาเศรษฐศาสตร์ที่อยู่ในเล่มภาษาอังกฤษได้ จึงไม่เชื่อว่าผิดพลาดในเวอร์ชั่นภาษาไทย จากคุณ : วรากรณ์ - [ 3 ก.ย. 47 15:09:16 A:203.156.144.101 X:203.147.0.9 TicketID:071977 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ในฐานะผู้เขียนคำนิยม ขอยืนยันว่าผมได้อ่านทั้งเล่มที่เป็นภาษาอังกฤษและต้นฉบับภาษาไทยก่อนตีพิมพ์ ผมไม่ไร้ความรับผิดชอบขนาดหลับตาเขียนคำนิยมโดยไม่อ่านที่แปลแล้วแน่นอน เมื่อได้อ่านความเห็นของบางท่านที่นำตัวอย่างมาแสดงด้วยก็เห็นว่ามีการแปลผิดจริงในหลายแห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อผิดพลาดที่เกี่ยวพันเชิงวัฒนธรรม กล่าวคือ เฉพาะผู้ลึกซึ้งในภาษาและวัฒนธรรมอย่างเต็มที่ด้วยกันเท่านั้นจึงจะแปลได้ถูกต้อง เช่น คนไทยทักกันว่า “กินข้าวแล้วหรือยัง” ถ้าฝรั่งไปแปลเป็นภาษาอังกฤษที่ถูกต้องก็คือ How are you? ไม่ใช่ Have you eaten ? (บางคนก็อาจถกเถียงว่าไม่สมควรแปลอย่างนี้) จากคุณ : วรากรณ์ - [ 3 ก.ย. 47 15:10:55 A:203.156.144.101 X:203.147.0.42 TicketID:071977 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมว่าคนเราคงต้องมีมุทิตาจิตต่อกันบ้างนะครับ อาจารย์หฤทัย ตั้งใจดีที่จะแปลหนังสือเชิงตำราที่แปลกใหม่สู่สาธารณชน น่าอนุโมทนามากกว่ามาสับกัน หนังสือแปลอีกหลายเล่มที่แปลผิดกว่านี้ ไม่เห็นมีใครเอามา “แยกส่วน” กันเลย ถ้าพูดกันอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้เธอแก้ไขให้ถูกต้องในส่วนที่อาจผิดพลาดจริง โลกก็จะน่าอยู่เพราะความรักกัน และสังคมได้อ่านหนังสือแปลดี ๆ ของคนกล้าอีกหลายเล่ม นะครับ วรากรณ์ สามโกเศศ จากคุณ : วรากรณ์ - [ 3 ก.ย. 47 15:12:39 A:203.156.144.101 X:203.147.0.9 TicketID:071977 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เนื่องจากได้มีการวิพากษ์วิจารณ์งานแปลหนังสือ “ดุลยภาพมรณะ” ของดิฉันเป็นในเว็บบอร์ด ว่ามีความผิดพลาดการแปลต่าง ๆ นั้น ดิฉันขอชี้แจงถึงเบื้องหลังการแปลหนังสือเล่มนี้ และวัตถุประสงค์ความตั้งใจในการแปลหนังสือเล่มดังกล่าว ดังนี้ค่ะ ความสนใจในการแปลหนังสือชุดนี้มาจากความประสงค์ของดิฉันที่พบว่าการศึกษาเรียนรู้วิชาเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นของนักศึกษามีความยากลำบากในการทำความเข้าใจ และนักศึกษาส่วนใหญ่จะเบื่อหน่ายและล้มเลิกไปในที่สุด หรือต้องอดทนเรียนให้ผ่านวิชา เพราะเป็นวิชาบังคับ เมื่อดิฉันพบว่ามีวิธีการถ่ายทอดให้ความรู้วิชาเศรษฐศาสตร์ในแนวนวนิยาย ทำให้ดิฉันมีความสนใจและได้จัดหาหนังสือดังกล่าวมาอ่านและศึกษา พบว่าเนื้อหาค่อนข้างสนุก เนื้อเรื่องชวนติดตาม เพราะเป็นเรื่องสืบสวนคดีฆาตกรรมที่อาศัยหลักวิชาเศรษฐศาสตร์เป็นเครื่องมือในการหาตัวฆาตกร อีกทั้งผู้เขียนนวนิยายดังกลาวก็เป็นอาจารย์เศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วไป จากคุณ : หฤทัย - [ 3 ก.ย. 47 15:14:35 A:203.156.144.101 X:203.147.0.42 TicketID:071977 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ดังนั้น ดิฉันจึงมีความคิดว่าอยากจะแปลหนังสือนวนิยายดังกล่าวมาเป็นภาษาไทย เพื่อใช้เป็นหนังสือประกอบการสอน แต่ถ้าจะกระทำการแปลและเผยแพร่เอง ก็เป็นการผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ จึงได้เสนอให้ทางสำนักพิมพ์เดอะเนชั่นบุคส์ ทำการขอลิขสิทธิ์การแปลภาษาไทย เพื่อแปลหนังสือออกมาดังที่ปรากฏอยู่ จากคุณ : หฤทัย - [ 3 ก.ย. 47 15:16:02 A:203.156.144.101 X:203.147.0.42 TicketID:071977 ]

ความคิดเห็นที่ 8 การแปลหนังสือนวนิยายต้องใช้ความพยายามพอสมควร โดยเฉพาะนวนิยายในชุดนี้ เพราะเนื้อเรื่อง ตัวละคร และเหตุการณ์ต่าง ๆ เป็นเรื่องจริงหรือใกล้เคียงข้อเท็จจริงมากที่สุด โดยเฉพาะสถานที่ และบรรยากาศ อารมณ์ ขนบธรรมเนียมประเพณี ซึ่งเป็นวัฒนธรรมตะวันตกทั้งหมด ขณะเดียวกัน เพื่อรักษาสาระเนื้อหาความรู้เศรษฐศาสตร์ที่ผู้ประพันธ์ได้ใส่ไว้ทั้งในการพูดจา อารมณ์ และสถานที่ ของเหตุการณ์ งานแปลนี้จึงต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก และหลาย ๆ ครั้ง ดิฉันต้องค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ได้สาระข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง หรือแม้กระทั่งแนวคิดความรู้ทางด้านเศรษฐศาสตร์ที่ซับซ้อน ก็ได้สอบถามหรือหาคำอธิบายเพิ่มเติมจากตำราหรืออาจารย์ผู้ทรงคุณวุฆิให้ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อยืนยันความชัดเจนและถูกต้องในการแปล จากคุณ : หฤทัย - [ 3 ก.ย. 47 15:17:18 A:203.156.144.101 X:203.147.0.9 TicketID:071977 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อแรกเริ่มแปลหนังสือนี้ ก็พบว่าการแปลหนังสือนวนิยายแบบเอกสารวิชาการ หรือแบบเอกสารราชการ จะนำมาใช้กับงานแปลนี้ไม่ได้ เพราะคำพูด ข้อความ และบรรยากาศเหตุการณ์ไม่สามารถถ่ายทอดให้ผู้อ่านได้เข้าถึงอารมณ์ ได้ ดังนั้น ดิฉันจึงพยายามเอาตัวเข้ากับเหตุการณ์เนื้อเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งในบางกรณี ดิฉันก็ยอมรับว่าอาจคลาดเคลื่อนไปจากหนังสือต้นฉบับอยู่บ้าง แต่ก็เพื่อทำให้เกิดความสนุกสนานและผู้อ่านสามารถติดตามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยที่เรียนรู้เนื้อหาวิชาเศรษฐศาสตร์ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลักของดิฉันเองในการแปลหนังสือชุดนี้ออกมา ดังนั้นผู้อ่าน เมื่อได้อ่านหนังสือแปลเล่มนี้ เหตุการณ์เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างราบรื่น และหลักเศรษฐศาสตร์ที่ถ่ายทอดผ่านตัวละคร เรื่องราวในหนังสือ ก็ถูกต้องทุกประการ จากคุณ : หฤทัย - [ 3 ก.ย. 47 15:18:28 A:203.156.144.101 X:203.147.0.9 TicketID:071977 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ดิฉันยอมรับว่างานแปลของดิฉันอาจไม่ถูกต้องสมบูรณ์ในคำศัพท์ หรือบางสำนวนคำพูดบางส่วน แต่เนื้อหาสาระหลักของหนังสือ ก็ได้รับการแปลและถ่ายทอดไปให้ผู้อ่าน มิได้ผิดพลาดแต่ประการใด ซึ่งเมื่อดิฉันได้แปลเสร็จเป็น ก็ได้รับความกรุณา อนุเคราะห์จากอาจารย์ผู้สอนเศรษฐศาสตร์หลายท่าน ได้อ่านต้นฉบับการแปล ก็มิได้รับการทักท้วงแต่อย่างไร และอาจารย์ท่านเหล่านี้ ก็เคยได้อ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษเดิมมาแล้ว แน่นอนอาจารย์ท่านเหล่านี้ มิได้อ่านแล้วทำการเปรียบเทียบหน้าต่อหน้า คำต่อคำ หรือบรรทัดต่อบรรทัด แต่สนใจการดำเนินเรื่องราว และเนื้อหาสาระความรู้ทางด้านเศรษฐศาสตร์เป็นหลัก งานแปลก็ได้ผ่านบรรณาธิการของสำนักพิมพ์ และผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษา และเมื่อมีข้อสงสัยในสำนวน หรือคำใด ๆ ที่เกิดขึ้น ก็มีการหารือและแก้ไขให้ถูกต้อง ดิฉันจึงมีความเชื่อมั่นว่าหนังสือที่ดิฉันแปล แม้ว่าจะไม่สมบูรณ์ตรงกับต้นฉบับเดิมชนิดคำต่อคำ แต่เนื้อหาและเรื่องราวก็ไม่ได้ผิดพลาดแต่อย่างไร นับตั้งแต่หนังสือได้เผยแพร่จำหน่ายในตลาด ดิฉันยังไม่ได้รับข้อทักท้วงในเนื้อหาความรู้เศรษฐศาสตร์ว่าผิดพลาดหรือบกพร่องแต่อย่างไร หากถ้าหนังสือจะมีข้อผิดพลาดบางจุด บางสำนวน หรือบางคำ ซึ่งเกิดขึ้นได้กับหนังสือทุกเล่ม ดิฉันขออภัยผู้อ่านด้วยความบริสุทธ์ใจ จากคุณ : หฤทัย - [ 3 ก.ย. 47 15:20:10 A:203.156.144.101 X:203.147.0.42 TicketID:071977 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แต่ใคร่ขอเรียนให้ท่านผู้อ่านทราบถึงความตั้งใจจริงของดิฉันที่ทุ่มเทกับงานแปลนี้ เพื่อหวังช่วยส่งเสริมการเรียนการสอนวิชาเศรษฐศาสตร์ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ดิฉันยินดีน้อมรับ รับฟังข้อคิดเห็น หรือคำทักท้วง เพื่อนำมาใช้ปรับปรุงแก้ไขหนังสือให้ดีขึ้นต่อไป แต่การนำข้อผิดพลาดในเรื่องเล็ก ๆ เหล่านี้ แล้วนำมาใช้เป็นเหตุผลทำลายหนังสือเล่มนี้ โดยไม่ได้พิจารณาถึงภาพรวม ว่าหนังสือเล่มนี้มุ่งที่เนื้อหาถ่ายทอดความรู้ทางด้านเศรษฐศาสตร์แก่ผู้อ่าน ย่อมเป็นการกระทำที่ปราศจากเหตุผล และไม่ยุติธรรมเลย สำหรับผู้แปล เช่นดิฉัน หนังสือเล่มนี้ แม้ว่าจะผิดพลาดอย่างไรก็ตาม ก็มิใช่หนังสือที่ ‘ไม่ดี’ ยังคงเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาสาระที่ดี โดยมุ่งสอนนักศึกษาให้เรียนรู้เศรษฐศาสตร์ด้วยความสนุก อย่าเอาความผิดพลาดที่สามารถแก้ไขได้ มาทำลายหนังสือเล่มนี้เลยค่ะ หฤทัย จากคุณ : หฤทัย - [ 3 ก.ย. 47 15:21:52 A:203.156.144.101 X:203.147.0.9 TicketID:071977 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ค่ะ อาจารย์ไม่ใช่นักแปล ไม่ได้มีหน้าที่ตรวจแก้ค่ะ เรื่องตรวจแก้เป็นความผิดของบรรณาธิการค่ะ ที่สงสัยตอนนี้ก็คือ อาจารย์หฤทัย เก่งภาษาอังกฤษเหมือนในคำนิยมเหรอคะ??? แล้วอาจารย์ท่านเก่งภาษาไทยพอที่จะถอดความหนังสือเล่มนี้ให้สละสลวยกลมกลืนหรือเปล่าคะ? ถ้าต้องการถ่ายทอดแต่ concept ทางเศรษฐศาสตร์ให้ถูกต้อง ก็ไปเขียนตำราเถิดค่ะ ถ้าจะเอาแค่นั้น มาแปลนิยายทำไมให้เสียอรรถรสล่ะคะ? ในฐานะผู้แปลหนังสือ นี่ถือว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้วหรือยัง? กับการแปลผิด แปลขาด แปลเกิน เนื้อความเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์อาจครบถ้วน ตรงกับที่อาจารย์วรากรณ์ได้อ่านจากต้นฉบับ แล้วเนื้อความที่เป็นหัวใจสำคัญของหนังสือ "นวนิยาย" ล่ะคะ คนไทยไม่มีโอกาสเสพเหรอคะ? เหมือนที่คุณนกข. บอก จะเขียนคำนิยมทั้งที เขียนอ้อมๆ ก็ได้ค่ะ บอกว่าอาจารย์เก่งเศรษฐศาสตร์มาก และสามารถแปลเนื้อความเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ที่สอดแทรกอยู่ได้อย่างไม่ตกหล่น ฯลฯ มีตั้งหลายวิธีนี่คะ อย่างไรดิฉันก็รู้สึกดีขึ้นเยอะ และรู้สึกขอบคุณที่อาจารย์วรากรณ์ มาปรากฏตัวในนี้ค่ะ ยังคงนับถืออาจารย์ค่ะ จากคุณ : ยกผลประโยชน์ให้จำเลย - [ 3 ก.ย. 47 15:23:26 A:20.0.0.155 X:203.146.158.34 TicketID:067782 ]

ความคิดเห็นที่ 13 โอ๊ะ ส่งแล้วถึงได้พบข้อความของอาจารย์หฤทัยค่ะ ดิฉันชื่นชมในเจตนาดีของอาจารย์ค่ะ ด้วยความจริงใจค่ะ เหลือแต่บก. แล้วสิเนี่ย จากคุณ : ยกผลประโยชน์ให้จำเลย - [ 3 ก.ย. 47 15:41:39 A:20.0.0.155 X:203.146.158.34 TicketID:067782 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ติดตามอ่านเรื่องนี้มานานพอสมควร .. และรู้สึกดีใจ ที่ อาจารย์หฤทัย ผู้แปลหนังสือเล่มนี้ ออกมาชี้แจง ในฐานะที่ดิฉันไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้ ทั้งต้นฉบับและฉบับแปล .. คงไม่บังอาจวิจารณ์ถึงประเด็นร้อน เรื่อง ความผิดพลาดในการแปล ที่หลายๆ คนให้ความสนใจอยู่ แต่ ดิฉันเห็นด้วยกับอาจารย์หฤทัยที่ว่า "หนังสือเล่มนี้ แม้ว่าจะผิดพลาดอย่างไรก็ตาม ก็มิใช่หนังสือที่ ‘ไม่ดี’ ยังคงเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาสาระที่ดี โดยมุ่งสอนนักศึกษาให้เรียนรู้เศรษฐศาสตร์ด้วยความสนุก อย่าเอาความผิดพลาดที่สามารถแก้ไขได้ มาทำลายหนังสือเล่มนี้เลยค่ะ" ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์ตรวจสอบ และ แก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นให้แล้วเสร็จโดยเร็วนะคะ จากคุณ : แม่มดพันปี - [ 3 ก.ย. 47 15:42:31 ]

ความคิดเห็นที่ 15 "หากถ้าหนังสือจะมีข้อผิดพลาดบางจุด บางสำนวน หรือบางคำ ซึ่งเกิดขึ้นได้กับหนังสือทุกเล่ม" เค้าผิดพลาดกันเป็นพันที่กันทุกเล่มเลยเหรอคะ ในจำนวนหนังสือแค่ สองร้อยกว่าหน้า แล้วบางคำมันก็ไม่น่าผิดเลยจริง ๆ แต่ก็เพิ่งทราบเหมือนกันว่ามันควรจะเป็นเรื่องธรรมดา ตอนแรกก็นึกเห็นใจอาจารย์เหมือนกันนะคะ แต่พอเห็นคำแก้ตัวแบบนี้เหมือนไม่ค่อยยอมรับอะไรเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยอาจารย์ก็มีความตั้งใจจริง ที่อยากให้คนไทยได้อ่านหนังสือเล่มนี้กัน ก็ขอขอบคุณค่ะอย่างน้อยตัวดิชั้นเองก็ได้ความรู้ใหม่ ๆ เยอะจากคำศัพท์ที่อาจารย์พยายามเปลี่ยนความหมายมัน จากคุณ : 2nd degree murder - [ 3 ก.ย. 47 15:52:09 A:69.107.126.175 X: TicketID:061420 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอโทษนะคะ ใช่อาจารย์วรากรณ์ และ อ.หฤทัยตัวจริงหรือเปล่าคะ ไม่แน่ใจค่ะ พอดีเห็นใช้บัตรผ่าน ID เดียวกัน หรือว่าฝากใครมาโพสต์ จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 3 ก.ย. 47 15:59:29 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นด้วยกับ #15 ขอตัวไปเขียนก่อน แบบว่า อ่านแล้วอึ้ง จากคุณ : มโนสำนึกน่ะมีไหม? - [ 3 ก.ย. 47 16:08:47 A:203.113.51.104 X: TicketID:000836 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอถามอะไรหน่อยนะคะ ที่คุณแปลว่า second degree murder เป็น ฆาตกรรมสองศพเนี่ย จัดว่าเป็นความผิดพลาด "เชิงวัฒนธรรม" ไหมคะ อย่างคำว่า "dusk" แปลเป็น "ปัดฝุ่น" เนี่ย มันวัฒนธรรมตรงไหนคะ หรือวัฒนธรรมบ้านเราทำอาหารเสร็จต้องปัดฝุ่น แต่วัฒนธรรมฝรั่งทำอาหารเสร็จตอนโพล้เพล้แล้วก็กิน ไม่ต้องปัดฝุ่นแบบบ้านเรา ??? จากคุณ : Cinx - [ 3 ก.ย. 47 16:10:45 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ค่ะ มารอดูการ"แก้ไข"ค่ะ.. จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 3 ก.ย. 47 16:14:31 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ใช่ไม่ใช่ แต่ก็ขอบอกว่า เห็นเลือดออกซิบๆเลย อิอิ... I am sorry? เนี่ยนะ คือวัฒนธรรม (แบบต้องเรียนรู้กันเลย) เด็กประถมยังรู้กันเลยครับ.. ถ้าหากว่าแค่สำนวนนิดๆหน่อยๆของภาษาอังกฤษยังไม่รู้(ไม่ใช่ศัพท์เศรษฐศาสตร์ด้วยซ้ำ) ก็อย่าริไปรับงานมาแปลเลยครับ.. เล่นแปลภาษาอังกฤษแบบ ตรรกะ .. โปรแกรมแปลไทยก็ทำได้ครับ.. ไม่น่าเชื่อว่าจะพลาดในประโยคที่ได้ยินมาบ่อยหรือคุ้นหูจริงๆ อีกอย่างนึง การบอกว่าไม่ได้อ่านเทียบกันทั้งสองอัน เลยไม่รู้... ฟังขึ้นแล้วเหรอครับ กับการที่จะมาเป็นนายประกันให้คนอื่น.. กล้าเขียนคำนิยม ก็ต้องกล้าเสี่ยงกับความผิดพลาดของคนแปลสิครับ... ถ้าไม่อยากเสี่ยง ก็อ่านให้ดี ก่อนมาเขียนคำนิยมเค้า จากคุณ : กรณีตัวอย่าง - [ 3 ก.ย. 47 16:16:17 A:61.90.78.118 X: TicketID:068533 ]

ความคิดเห็นที่ 21 และคำถามก็คือว่า TicketID:071977 จะใช่อาจารย์ทั้งสองท่านตัวจริงหรือเปล่า.. ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไป จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 3 ก.ย. 47 16:16:24 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าใช่อาจารย์ทั้งสองจริงๆ ก็ต้องขอถามว่า เอาสีข้างเข้าแถกแบบนี้ เจ็บมากมั้ยฮะ แล้วไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ กับการแสดงความเห็นแบบหน้าด้านๆแบบนี้ คุณนกข.เค้าไม่ได้จับผิดคุณเลย มันเป็นสิ่งที่คนที่ได้อ่านต้นฉบับ แล้วมาอ่านเทียบกับที่คุณแปล เห็นได้ชัดๆอยู่ ข้อผิดพลาดเป็นพันที่นั้น ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แถมเป็นข้อผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัย I'm sorry? ฉันเสียใจเหรอ??? โอ้ พระเจ้า เด็กม.ปลายยังรู้เลยว่ามันแปลว่าอะไร คุณวรากรณ์ ไม่ต้องเอาเรื่องมุทิตาจิตมามั่วนิ่มเลย มันคนละเรื่องกัน คุณขายงานห่วยๆมาให้คนอ่าน พอมีคนจับได้ คุณต้องยอมรับความจริงสิ ไม่ใช่มาแก้ตัวแบบขอไปทีแบบนี้ ไม่ทราบคิดนานมั้ยเนี่ยกว่าจะพิมพ์จบ คุณหฤทัย ที่คุณพูดว่า อย่าเอาความผิดพลาดที่แก้ไขได้มาทำลายหนังสือเล่มนี้เลย คุณนั่นแหละ ที่เป็นคนทำลายหนังสือเล่มนี้ ไม่ใช่คุณนิลกังขาหรือใครทั้งนั้น คุณเองนั่นแหละ คุณที่เป็นถึงอาจารย์ มีคนนับถือมากมายนั่นแหละ ที่ทำลายงานเขียนดีๆจนป่นปี้แบบนี้ แล้วคุณยังจะหน้าด้านโทษคนอื่นอีกเหรอ ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันไม่กล้าไปสอนใครอีกแล้วล่ะ จากคุณ : หาเช้ากินเที่ยง - [ 3 ก.ย. 47 16:18:14 A:203.121.135.53 X: TicketID:067717 ]

ความคิดเห็นที่ 23 "ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อผิดพลาดที่เกี่ยวพันเชิงวัฒนธรรม กล่าวคือ เฉพาะผู้ [b]ลึกซึ้ง[/b] ในภาษาและวัฒนธรรมอย่างเต็มที่ด้วยกันเท่านั้นจึงจะแปลได้ถูกต้อง" I am sorry? ... ลึกซึ้งตรงไหนมิทราบครับ จากคุณ : กรณีตัวอย่าง - [ 3 ก.ย. 47 16:18:14 A:61.90.78.118 X: TicketID:068533 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เป็นคำชี้แจงที่ไม่น่ารักเลยค่ะ แค่แปลเนื้อหาทางเศรษฐศาสตร์ถูกต้องก็เพียงพอแล้วที่จะขายเป็นนิยายแปลหรือคะ ต่อไปตลาดหนังสือแปลจะเกิด lemons problem มั้ยคะ ท่านรู้ของท่านว่างานแปลมีคุณภาพเหมาะสมราคาหรือไม่ แต่ผู้ซื้อไม่ทราบด้วย เรากำลังรอดูการดำเนินการและรอซื้อฉบับปรับปรุงอยู่ค่ะ จากคุณ : คุณภาพของคนอยู่ที่ผลของงาน (caffe latte) - [ 3 ก.ย. 47 16:22:43 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านคำชี้แจงอีกรอบ ก็พบว่า็ไม่มีคำว่า "ขอบคุณ" ถึงคุณ นกข หลุดมาแม้แต่คำเดียว แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 47 16:29:33 จากคุณ : caffe latte - [ 3 ก.ย. 47 16:28:26 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สังเกตว่า มีเป้าหมายอยู่สามประเด็น 1. เอาตัวเองรอดก่อนอันดับแรก ว่าอ่านแล้ว แต่อ่านไม่หมด บลาๆๆๆ 2. แก้ตัวให้คนแปล .. เล่นบทขอความเห็นใจ+น่าสงสาร มีการกล่าวคำว่า "มุทิตาจิต" หวังเอาธรรมะเข้ากล้อมแกล้ม แต่ "มุทิตา" มันคือการยินดีเมื่อคนอื่นได้ดีไม่ใช่เหรอครับ งานนี้เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ไม่ใช่ ยินดีเมื่อคนอื่นได้มั่วนะครับ 3. ชี้ความผิดคนอื่น เพื่อเบี่ยงเบนความผิดตัวเอง ... โดยการโบ้ยไปที่หนังสืออื่น ว่าแปลผิด ทำไมไม่ว่ามั่ง .. เหมือนสมัยเด็กๆเลยครับ ทำไรแล้วโดนครูจับได้ ก็ฟ้องว่าไอ้โน่น ไอ้นี่ก็ทำ หวังลด หรือเบี่ยงเบนความผิดตัวเอง ส่วนหนังสือที่แปลไม่ได้เรื่องเล่มอื่นๆ เห็นมานานแล้ว แต่ไม่ใช่ไม่ว่าครับ.. แต่บอกกล่าวกันในวงการนักอ่านหนังสือแปลกันอยู่เนืองๆ ก่อนตัดสินใจจะซื้อมาอ่าน .. และนี่คือหนูตัวใหญ่ที่สุด (ขอยืมคำพูด ฮัตโตริ ฮันโซ หน่อย) จึงเหม็นที่สุดด้วย จึงสมควรกำจัดอย่างโดยเร็ว ก่อนใครเพื่อนนะขอรับ อะคึ อะคึ อะคึ จากคุณ : กรณีตัวอย่าง - [ 3 ก.ย. 47 16:31:41 A:61.90.78.118 X: TicketID:068533 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เอ่อ ได้อ่านคำชี้แจงแล้ว ไม่แน่ใจจริงๆว่าเป็น อ. ทั้ง 2 ท่านหรือไม่ แต่เหตุผลที่แถลงมา อ่านแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะได้ผ่านการพิจารณา วิเคราะห์ข้อผิดพลาดของงานแปลชิ้นนั้นแล้ว ดิฉันจะเสียใจ และผิดหวังมาก ถ้าเป็นตัวท่านจริง มิบังอาจจะวิจารณ์คำอธิบายของท่านใดๆ เพราะได้ประจักษ์แก่ใจแล้ว สิ่งที่ทำได้คือ ทอดถอนใจ และเร่งพัฒนาการเรียน การสอนภาษาอังกฤษให้แก่ลูกหลานต่อไป อย่างน้อยเค้าจะได้มีปัญญาหาต้นฉบับมาประดับความรู้ของเขาเอง ดีซะอีก สงสัยก็ค้นคว้าเปิด ดิคเอง ดีกว่าต้องมาพึ่งพาหนังสือแปล จากผู้แปลที่ขาดความรับผิดชอบในวิชาชีพ ที่นี่เป็นเพียงชุมชนเล็กๆ แต่ก็เป็นแหล่งความรู้ให้ดิฉันได้เปิดหู เปิดตา การติติงของผู้อ่านทั้งหลาย ดิฉันนับถือ โดยเฉพาะจากคุณ นกข. และคุณ Wiwanda ในสังคมไทยต้องการคนแบบนี้ เพราะคนส่วนมาก เห็นอะไรไม่ถูกไม่ควรก็มองว่าธุระไม่ใช่ ไม่อยากมีเรื่อง เสียเวลาเขา ไม่อยากพิมพ์ต่อไปแล้ว แต่ขอติดตามอยู่เป็นคลื่นใต้น้ำ ติดตามต่อไป หนังสือต้นฉบับน่ะค่ะ มันดีอยู่แล้ว ไอ้ที่มันเสื่อมน่ะ เพราะมีคนไปบิดเบือนต้นฉบับเพราะความชุ่ยตังหาก ด้วยความเคารพ จากคุณ : แม่ลูกหนึ่ง - [ 3 ก.ย. 47 16:34:57 A:202.183.130.237 X: TicketID:058239 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ไม่น่าจะใช่ตัวจริงอย่างที่คุณผู้สาวเมืองยศ ตั้งข้อสังเกตไว้ ทุกกระทู้ใช้บัตรผ่านใบเดียวกัน IP address ก็เกือบจะเป็น address เดียวกัน แถมยังมีสลับไปสลับมาระหว่าง 0.9 กับ 0.42 ด้วย เวลาที่โพสก็ต่อเนื่องจนชวนให้น่าสงสัย จขกท วรากรณ์ สามโกเศศ - [ 3 ก.ย. 47 15:05:21 A:203.156.144.101 X:203.147.0.9 TicketID:071977 ] คคห ๑ วรากรณ์ - [ 3 ก.ย. 47 15:06:31 A:203.156.144.101 X:203.147.0.9 TicketID:071977 ] คคห ๒ วรากรณ์ - [ 3 ก.ย. 47 15:07:48 A:203.156.144.101 X:203.147.0.42 TicketID:071977 ] คคห ๓ วรากรณ์ - [ 3 ก.ย. 47 15:09:16 A:203.156.144.101 X:203.147.0.9 TicketID:071977 ] คคห ๔ วรากรณ์ - [ 3 ก.ย. 47 15:10:55 A:203.156.144.101 X:203.147.0.42 TicketID:071977 ] คคห ๕ วรากรณ์ - [ 3 ก.ย. 47 15:12:39 A:203.156.144.101 X:203.147.0.9 TicketID:071977 ] คคห ๖ หฤทัย - [ 3 ก.ย. 47 15:14:35 A:203.156.144.101 X:203.147.0.42 TicketID:071977 ] คคห ๗ หฤทัย - [ 3 ก.ย. 47 15:16:02 A:203.156.144.101 X:203.147.0.42 TicketID:071977 ] คคห ๘ หฤทัย - [ 3 ก.ย. 47 15:17:18 A:203.156.144.101 X:203.147.0.9 TicketID:071977 ] คคห ๙ หฤทัย - [ 3 ก.ย. 47 15:18:28 A:203.156.144.101 X:203.147.0.9 TicketID:071977 ] คคห ๑๐ หฤทัย - [ 3 ก.ย. 47 15:20:10 A:203.156.144.101 X:203.147.0.42 TicketID:071977 ] คคห ๑๑ หฤทัย - [ 3 ก.ย. 47 15:21:52 A:203.156.144.101 X:203.147.0.9 TicketID:071977 ] จากคุณ : Ronachai (amscmu) - [ 3 ก.ย. 47 16:38:45 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เรียน อาจารย์ทั้ง 2 ท่านที่นับถือ (ผมจะสมมติก่อนว่า เชื่อใจว่าเป็นท่านทั้ง 2 ตัวจริง เพราะผมไม่รู้จะพิสูจน์อย่างไร และถ้าจะรอพิสูจน์ก่อน ผมก็ไม่ได้คุยกับอาจารย์อย่างที่อยากจะคุย) อาจารย์คงจำผมได้ ผมเองเป็นผู้เขียนอีเมล์ไปเรียน อ. วรากรณ์ และ อ. หฤทัย ตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่อง เมื่อผมปรับทุกข์ไปในฐานะนักอ่าน อย่างน้อยผมยินดีที่อาจารย์ทั้ง 2 ท่านได้ออกมาแสดงท่าทีเรื่องนี้ ในที่สุด แม้ก่อนหน้านั้นอาจารย์จะไม่ยอมชี้แจงตอบอะไรผมเลยก็ตาม ถ้าถือตามวิชาเศรษฐศาสตร์ที่ผมได้เรียนนอกห้องเรียนทั้งจาก อ. วีรกรและ ศ. สเพียร์แมน คงอธิบายได้ว่า ก่อนหน้านี้ อาจารย์อาจเห็นหรือคำนวณว่า ต้นทุนและกำไรที่เกิดจากการนิ่งเฉย ไม่สนใจผมนั้น หักกลบลบกันแล้ว ยังได้กำไร เลยเฉยเสีย แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป ต้นทุนจากการนิ่งเฉยกลายเป็นมากกว่ากำไร อาจารย์ทั้ง 2 ท่านจึงเปลี่ยนท่าที นี่เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ว่า ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์เป็นเรื่องที่อธิบายพฤติกรรมของคนได้จริง รวมทั้งพฤติกรรมของนักเศรษฐศาสตร์ด้วย ผมขอแสดงความเห็นด้วยอีกเช่นกัน ว่าต้นฉบับหนังสือเล่มนี้ดีจริงๆ แต่ก็เพราะอย่างนั้นแหละ ผมจึงเสียดายมาก ที่การถ่ายทอดเป็นภาษาไทยไม่ให้ความยุติธรรมแก่ต้นฉบับ ถ่ายทอดออกมาผิดเพี้ยนไปมาก อ. วรากรณ์ดูเหมือนจะมีสำเนียงโกรธนิดๆ ถ้าผมฟังไม่ผิด ว่าทำไมจะต้องจ้องจับผิดกันนักหนากับเล่มนี้เล่มเดียว ชำแหละกันขนาดนั้น ผมก็เรียนอธิบายอีกทีว่า เมื่อผมซื้อหนังสือนี้มานั้นเดิมไม่เคยคิดจะซื้อมานั่งจับผิดเลย และซื้อด้วยความศรัทธา อ. วรากรณ์เองด้วยส่วนหนึ่ง และทึ่งที่มีผู้เขียนอธิบายเศรษฐศาสตร์เป็นนิยายนักสืบด้วยอีกส่วนหนึ่ง ต่อเมื่อผมเอามาอ่านแล้วรู้สึกกระตุกๆ ในภาษาไทยที่ใช้มากขึ้นเรื่อยๆ บางที่ผมหลับตาเห็นประโยคภาษาอังกฤษลอยออกมาได้เลยและนึกรู้เลยว่าผู้แปลเข้าใจผิดอย่างไร (แม้ว่า อ. วรากรณ์ก็ว่าท่านก็อ่านแล้วไม่เห็นรู้สึกผิดปกติตรงไหนก็ตาม) ผมจึงลองไปหาภาษาอังกฤษมาอ่านเทียบดู แล้วจึงพบด้วยความช็อค (ผมจะไม่ล้ออาจารย์หฤทัยอีกละครับ คำนี้) ว่ามันมีที่ผิดมากมายก่ายกองเยอะกว่าที่ผมคาดไว้ มากๆ ในส่วนของการแปลทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ ผมไม่อาจเสนอตัวเป็นผู้ตัดสินได้ว่าที่แปลไว้ถูกผิดอย่างไร อันที่จริงผมเชื่อว่าคงจะถูก แต่ผมขอเรียนอาจารย์ทั้งสองท่านไว้ด้วยความเคารพว่าสินค้าหนังสือนั้นอาจจะมีอรรถประโยชน์ต่อผู้อ่าน หรือนักอ่านบางคน อย่างน้อยก็ผม ผิดจากสินค้าตัวอื่นต่อผู้บริโภคในตลาดอื่นๆ เพราะนักอ่านนั้นเสพวรรณศิลป์ด้วย ไม่ได้เสพแต่ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ (นั่นคือสิ่งที่ อ. วรากรณ์/วีรกรทราบดี และได้กรุณาถ่ายทอดวิชาเศรษฐศาสตร์ที่ยากๆ ออกมาเป็นภาษาที่คนทั่วไปอ่านรู้เรื่องตลอดมา และผมก็ได้อาศัยตามอ่าน แต่ที่อาจารย์อ้างว่างานชิ้นนี้ของ อ. หฤทัยก็ทำหน้าที่นั้นได้อย่างดีเลิศด้วยั้นผมไม่อาจเห็นด้วยได้ครับ) แต่วรรณศิลป์หรือความสละสลวยทางภาษาเป็นอะไรที่ชั่งตวงวัดคำนวณเป็นตัวเลขได้ยาก เป็นเรื่องที่ค่อนข้างขึ้นกับบุคคลหรือ subjective เพราะเหตุนั้นจึงเป็นไปได้ที่งานชิ้นเดียวกัน ผมอ่านแล้วกระตุกไปตลอดเล่ม แต่อีกคนหนึ่งหรือหลายคนอ่านแล้วรู้สึกเฉยๆ สบายดี ดังนั้นถ้าผมอยากจะบ่น ผมจึงจำเป็นต้องให้การอุทธรณ์ร้องทุกข์ของผมมีนำ้หนักสักหน่อย หรือถ้าจะให้ดีก็ให้ออกมาเป็นรูปที่นับได้ ผมจึงลองนั่งประมาณที่ผิดเท่าที่ผมจะมีความรู้ไปถึง นับได้ ... จำนวนที่ผมนับไว้นั่นแหละครับ อย่าพูดถึงอีกให้แสลงใจกันเลย ที่ใช้คำว่าประมาณก็เพราะว่า ที่แปลผิดบางที่เห็นชัดเจนว่าแปลผิด ก็ไม่มีปัญหา แต่บางที่ยังก้ำกึ่ง ผมก็นั่งอ่านทั้งเล่ม นับเอาได้จำนวนขึ้นมาจำนวนหนึ่ง เป็นพื้นฐานที่จะพอให้เห็นภาพคร่าวๆ แล้วว่า มันต้องมีอะไรผิดปกติจริงๆ ที่ตรวจสอบได้ ขนาดผมทำอย่างนี้ไว้เป็นหลักฐาน ยังมีคนไม่ค่อยเชื่อถือผมเลย หรือบางคนก็ว่า "ผิดนิดหน่อยควรอภัยกัน" แต่เมื่อคนที่พูดเช่นนั้นเห็นว่า ผมได้ลุกขึ้นมานับอย่้างละเอียด ทำให้เห็นภาพว่ามันไม่ผิดนิดหน่อยนะ ก็มีคนตั้งข้อสังเกตสงสัยไปอีกทางว่าทำไมผมจึงจ้องจะจับผิดมากนัก? แปลว่าถ้าผมไม่มีอะไรที่เป็นหลักเป็นฐานชัดๆ ก็จะมีผู้พร้อม dismiss ผมว่าไม่น่าเชื่อ และถ้าผมมีอะไรที่อดตาหลับขับตานอนหาหลักฐานนับกันให้ดูชัดๆ ก็จะมีผู้พร้อมที่จะ dismiss ว่าผมจ้องจะจับผิดโดยมีวัตถุประสงค์แอบแฝง ผมขอเสนอคำอธิบายว่า จะเป็นไปได้ไหมครับที่ผมทำงานนี้โดยไม่ได้ประโยชน์อะไรแก่ตัวขึ้นมา เพียงเพราะผมอยากเห็นความถูกต้อง? ใครจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่นั่นแหละคือเหตุผลจริงๆ ของผม ผมยังยืนยันอยู่เหมือนในอีเมล์ของผมที่มีไปยังอาจารย์ทั้งสอง ว่า ผมไม่มีเจตนาร้ายเป็นส่วนตัวกับท่านเลย เพราะผมไม่รู้จักอาจารย์หฤทัย ผมไม่รู้จักอาจา่รย์วรากรณ์ด้วย เคยมีแต่ความชื่นชมอยู่ห่างๆ แล้วผมจะไปทำร้ายทั้งสองท่านเพื่ออะไร nothing personal แต่ผมรักภาษาไทยของผมครับ อันนี้ไม่ทราบจะอธิบายด้วยทฤษฎีอรรถประโยชน์ได้รึเปล่า? จากคุณ : อภิรัตน์ (นิลกังขา) - [ 3 ก.ย. 47 16:40:53 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เอ่อ ... เท่าที่อ่านในกระทู้ที่แล้ว ที่คุณ นกข. ว่าไว้ บางเรื่องที่แปลผิดเนี่ย ทำให้ความหมายเพี้ยนไปเหมือนกัน ไม่ใช่เหรอคะ ถ้าผิดขนาดความหมายเพี้ยนที่คงไม่งาม แน่ค่ะ ... และ จากข้อที่ว่า คุณภาพในการแปล ของแต่ละบท ไม่เท่ากัน ไม่สม่ำเสมอ จะว่ากระไรคะ สุดท้าย ... คุณขอโทษ เราให้อภัย แต่คุณอ่านข้อกล่าวหาทั้งหมดครบแล้วหรือยัง ข้อกล่าวหาที่อยู่ใน pantip นี่นะคะ เพราะดูจากคำแก้ตัวของคุณทั้งคู่ ดูเหมือนคุณอาจจะได้รับการติดต่อจากใครสักคนว่าเรื่องของคุณมาเป็นประเด็นร้อนที่นี่ แล้วคุณจึงเปิด Mail ของคุณ นกข. อ่าน แล้วมาตอบเลย ใช่หรือเปล่า ... จากคุณ : Jekyll - [ 3 ก.ย. 47 16:43:10 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เขาอาจจะใช้คอมเครื่องเดียวกันมั๊ง เพิ่งจะสมัครเป็นสมาชิกเว็บวันนี้ จากคุณ : ** - [ 3 ก.ย. 47 16:43:57 A:61.91.152.61 X: TicketID:072002 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ชอบความเห็นที่ 27 จังเลย คนที่เรียกตัวเองว่าอาจารย์สองคนนั้น คงคิดว่าปิดหูปิดตาคนอ่านได้ (ก็มันซื้อหนังสือแปลมาอ่านแล้วนี่ มันจะรู้ได้ไง ว่าเราแปลผิดแปลถูก ในเมื่อมันไม่ได้อ่านต้นฉบับ) คนสมัยนี้เค้าไม่โง่นะ คุณลุงคุณป้าขา เค้าไม่โง่ ยิ่งอ่านยิ่งโมโห ขอใส่อารมณ์หน่อย ตามกระทู้เรื่องนี้มาตั้งแต่วันแรก มาเจอแบบนี้ รับไม่ได้ อารมณ์เสียจริงๆ อยากจะกระทำการฆาตกรรมสองศพวุ๊ย (murder in the second degree) I'm so pissed off!!! (ไม่ได้แปลว่าปวดฉี่นะจารย์) จากคุณ : หาเช้ากินเที่ยง - [ 3 ก.ย. 47 16:44:03 A:203.121.135.53 X: TicketID:067717 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อย่างแรก ตัวเลขตรงท้ายเปลี่ยนไป .. ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ.. เป็น random IP ของ ISP ที่คนโพ้สใช้ .. ตัวเลขท้ายจะเปลี่ยนไปแต่ละครั้งที่โพ้สได้ครับ ไม่เชื่อ ใครที่ใช้เน็ต TOT (ยกตัวอย่างเฉยๆ) ลองโพ้ส ต่อๆกัน ห้าครั้งดิครับ เลขตัวหลังจะ random ไปเรื่อย อย่างที่สอง ผมเชื่อว่า ข้อความทั้งหมดถูกพิมพ์ เตรียมมาก่อน ในโปรแกรมพิมพ์ครับ เช่น Word, NotePad.. เพราะสังเกตุจะเห็นว่า คห.4 กะ คห.1 ซ้ำกัน .. เกิดจากการสับสนเวลา copy & Paste ครับ .. ซึ่งไม่น่าแปลกว่าเวลาคลิกส่งเวลาจะติดๆกัน เพราะเค้าพิมพ์เตรียมมาก่อนไว้แล้ว น่าจะเป็นคนๆเดียวกัน .. แต่เรื่องว่าใช่อาจารย์ตัวจริงหรือไม่ .. อันนี้ไม่ยืนยันครับ เวลาใกล้เคียงก จากคุณ : กรณีตัวอย่าง - [ 3 ก.ย. 47 16:58:17 A:61.90.78.118 X: TicketID:068533 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ความจริงก่อนที่คุณจะเอาเรื่องนี้มาโพสต์ในเว็บจนกลายเป็นประเด็นสาธารณะไปซะแล้วนี่ น่าจะเอาข้อจับผิดของคุณเดินตรงดิ่งไปที่สำนักพิมพ์ก่อนนะ จากนั้นหารือกันว่าจะแก้ไขรับผิดชอบยังไง ถ้าไม่มีใครรับผิดชอบก็ส่งเรื่องไปยังเจ้าของลิขสิทธิ์ซะเลย ทีนี้เรื่องจะได้ใหญ่สมใจ แล้วก็หาเหตุให้มีการตรวจสอบและยกระดับงานแปลในบ้านเรา ให้เรื่องทุกอย่างจบลงอย่างสง่างาม แต่แบบนี้สุดท้าย ควันก็จางหายไป อีหรอบเดิม ตามเคย แต่อ่านคำชี้แจงของคุณนักแปลแล้ว ฟังไม่ดีเลย และงานแปลของคุณนี่อยู่ในระดับไมน่าให้อภัยเลยด้วยซ้ำ First Class of (Liturature) Murder ชัด ๆ (ใช้คำถูกเปล่าหว่า) แต่ที่สำคัญที่สุด ก็เจ้าคนที่เป็น บก. และ สำนักพิมพ์นั่นต่างหากที่ต้องรับผิดชอบ จากคุณ : Zax - [ 3 ก.ย. 47 16:59:31 A:61.91.152.61 X: TicketID:072002 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ต่อนะครับ กับคำชี้แจงของ อ. วรากรณ์และ อ. หฤทัย ที่ว่าเท่าที่แปลมายังไม่มีที่ผิดตรงที่เกี่ยวกับวิชาการสาขาเศรษฐศาสตร์ (หรือที่ อ. หฤทัยอาจเรียกว่า "วินัยทางเศรษฐศาสตร์" อย่างที่เรียกไว้ในเล่ม โดยคนแปลจะเป็นอาจารย์หรือไม่ก็ตาม แปลคำว่า discipline พลาดไปหน่อย) ผมก็คงยอมรับ ก็ผมไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าเราไม่เอาตัวอย่างสนุกๆ ที่เป็นโจ๊กที่ผมยกมาก่อนแล้ว (เช่นการกลืนลูกเชอรี่ทั้งเม็ดแล้ววางแก้วไว้ ...) หรือที่มี "บริบททางวัฒนธรรม" เอาแต่ที่เป็นเนื้อเป็นหนังทางวิชาการจริงๆ ผมก็ขอติงว่า สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรื่องนี้อ่านสนุกขึ้น แล้วก็ยากขึ้นด้วย และทำให้ยิ่งแปลยากขึ้นอีก ก็คือ interplay หรือการถกเถียงวิจารณ์แคะไค้วิชาเศรษฐศาสตร์โต้กันไปมา จากมุมมองของนักวิชาการต่างสาขาวิชา (หรือ อ. หฤทัยจะเรียกว่า "วินัยคนละอย่าง" ก็ตามใจ - อ. วรากรณ์ครับ อาจารย์แน่ใจจริงหรือครับว่าอ่านฉบับแปลผ่านตรงนี้ เห็นคำว่า "วินัยๆๆ" แล้วอาจารย์ไม่สะดุดหูเสียเลย ?) สังคมศาสตร์เป็นวิทยาการที่สลับซับซ้อนเกี่ยวพันกัน มีพี่น้องแตกแขนงเยอะแยะ รวมทั้งเศรษฐศาสตร์ด้วย รัฐศาสตร์ (ที่ผมเรียนมา) ก็ด้วย รวมทั้งจิตวิทยา สังคมวิทยา อาชญวิทยา... แต่เศรษฐศาสตร์เป็นสังคมศาสตร์สาขาทีี่พิเศษ คือมีลักษณะหรือกล่าวอ้างว่ามีลักษณะเป็นวิทย์มากกว่าสังคมศาสตร์บางสาขา เช่นรัฐศาสตร์ของผม คำนวณได้ตามตัวแบบ   ข้อถกเถียงหรือความคิดในใจของกรรมการแต่ละคนในคณะกรรมการเลื่อนตำแหน่ง จากแต่ละสาขาวิชา ที่มีต่องานวิจัยเศรษฐศาสตร์ของนายกอสเซ่น รวมทั้งข้อคิดเห็นของกรรมการที่เป็นนักเคมี คือสายวิทยาศาสตร์ด้วย จึงน่าตื่นเต้น น่าตามอ่านว่าเขากล่าวหาเศรษฐศาสตร์อย่างไรและ ศ. สเพียร์แมนซึ่งเป็นโฆษกของวิชาเศรษฐศาสตร์ได้ชี้แจงแก้ตัวให้วิชาของอาจารย์อย่างสวยงามยังไง แต่การแปลของ อ. หฤทัย ไม่สามารถถ่ายทอดการถกเถียงตรงนั้นได้ดีเลยครับ พอจะฟังเป็นวิชาการกว่าตัวอย่างพวก "ไอแอมซอรี่" ไหมครับอาจารย์ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผมยินดีที่อาจารย์ทั้งสองออกมาชี้แจง และขอใ้ห้แก้ไขงานแปลใ้ห้เรียบร้อยตามความรับผิดชอบของท่านนะครับ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 47 18:09:47 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 47 17:03:44 จากคุณ : นกข. (นิลกังขา) - [ 3 ก.ย. 47 17:02:26 ]

ความคิดเห็นที่ 36 203.156.144.101 (IP Address) Rights restricted by copyright. See http://www.apnic.net/db/dbcopyright.html Registrant: Webster University Address: Bangkok Corporate of Jasmine Internet (Thailand)Co.,Ltd. Country: TH Administrative, Technical Contact: NOC Jasmine Internet (noc@ji-net.com) 200 Moo 4, 8th Fl., Cheangwathana RD., Pakkred Sub-District, Pakkred, Nonthaburi 11120 Phone: +66-02-502-3765 Fax: +66-02-502-3793 Information Source: Asia Pacific Network Information Center จากคุณ : กรณีตัวอย่าง - [ 3 ก.ย. 47 17:12:19 A:61.90.78.118 X: TicketID:068533 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ผมไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ครับ ดังนั้นจึงไม่สามารถออกความเห็นเกี่ยวกับคุณภาพของ "ชิ้นงาน" หนังสือได้ว่ามีสภาพที่บกพร่อง หรือดีพร้อม มากน้อยเพียงไหนอย่างไร แต่อย่างไรก็ตามด้วยความเคารพ อ.วรากรณ์ สามโกเศศ ที่ได้เขียนหนังสือ "โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี" ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ผมได้สนใจศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์เป็นอย่างดี จึงใคร่ขอแสดงความคิดเห็นบ้างเล็กน้อย ก่อนอื่นเท่าที่อ่านดูข้อมูลตามที่มีผู้ทักท้วง "การแปล" หลายท่าน ก็ค่อนข้างเห็นด้วยว่า หนังสือเล่มนี้คงมีที่แปลผิดพลาดพอสมควร ซึ่งน่าจะอนุมานได้ว่าผู้แปลคงไม่คุ้นเคยกับ "วิธีคิด" และ "สำนวน" ของฝรั่ง อีกทั้งความชำนาญของเรื่องการแปล วรรณกรรม และตำรา นั้นก็ค่อนข้างใช้ทักษะที่แตกต่างกัน โดยเนื้อหาด้านวรรณกรรมนั้นคงต้องใช้ทักษะทางด้านภาษาและการเข้าใจทางวัฒนธรรมของผู้เขียนตามสมควร ผมเองก็เห็นด้วยที่ว่าผู้แปลพึงต้องระมัดระวังรักษาคุณภาพของงานแปลเป็นอย่างดี (ดังที่อาจารย์ ส ศิวรักษ์ เคยพูดถึงในเรื่องการแปลหนังสือ) แต่สิ่งที่เรามองข้ามไปไม่ได้ก็คือ ทุกวันนี้บ้านเรายังขาดผลงานแปล งานเขียนจากต่างประเทศที่น่าสนใจอีกมาก สำหรับคนที่ไม่มีปัญหาในการอ่านต้นฉบับภาษาต่างประเทศก็คงไม่เดือดร้อนอะไร แต่สำหรับคนที่อ่านภาษาต่างประเทศไม่ได้ก็มีอยู่ไม่น้อย ครั้นจะรอให้ผู้แปลที่มีคุณภาพ (ซึ่งก็คงมีอยู่ไม่มาก) มาแปลงานแต่ละชิ้น เราก็คงไม่มีหนังสือจากต่างประเทศที่น่าสนใจได้อ่านเท่าใดนัก อาจารย์ทั้งสองท่านได้ออกมาส่งสารให้ทราบแล้ว (ในที่นี้ผมขอเชื่อว่าเป็นตัวจริงไว้ก่อน) จะไอพีเดียวกันก็ไม่แปลก เพราะถ้าคนที่เข้าใจผู้ใหญ่ก็จะทราบเสียหน่อยว่า นี่อาจเป็นการวานให้คนอื่นมาส่งข้อความนี้อีกที ข้อความก็บอกได้ชัดเจน ยอมรับถึงความผิดพลาด (ในแง่วรรณกรรมบ้าง) ซึ่งผมคิดว่าในครั้งต่อไป อาจารย์ผู้แปลคงจะได้ระมัดระวังตัวในการนำเสนอเนื้อหามากขึ้น (แต่อย่าถึงกับไม่กล้านำเสนอผลงานอีกต่อไปเลยครับ) ในเมื่อเข้าใจทางฝ่ายอาจารย์ผู้แปลแล้ว ผมก็อยากจะตำหนิสังคมไซเบอร์เสียหน่อยว่า การใช้กระแสมาตำหนิอาจารย์ทั้งสองท่านเช่นนี้ ผมไม่แน่ใจว่าจะทำไปเพื่ออะไร ถ้าคุณเขียนในลักษณะวิจารณ์และชี้จุดบกพร่องที่พบ ซึ่งก็น่าจะเพียงพอและดูมีวุฒิภาวะด้วย และผมคิดว่าผลลัพธ์ก็คงเหมือนกัน แต่ลักษณะแบบนี้คล้ายจะบีบคั้นเหมือนไม่ให้มีที่ยืน ไม่ทราบว่าต้องการอะไรลึกๆหรือต้องการชี้นำอะไรหรือเปล่าครับ จากคุณ : bucky_m - [ 3 ก.ย. 47 17:22:21 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ผมจะพยายามทำใจให้เชื่อว่าคุณ Bucky M แสดงความเห็นด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่หน้าม้าใครมานะครับ และจึงขอเรียนข้อเท็จจริงอีกที (ไม่ทราบต้องเรียนอีกกีครั้ง) ว่า เพราะตอนนั้นผมเคารพอาจารย์วรากรณ์เหมือนคุณนี่แหละ ผมจึงได้ติดต่อเงียบๆ ไปยังอาจารย์กับอาจารย์หฤทัยก่อนเลย ผมหวังว่าอาจารย์ที่ผมศรัทธาจะทำอะไรที่สมกับที่ผมศรัทธาอยู่ จะมาช่วยกันแก้ปัญหาอย่างไรผมก็ยินดีรับใช้อาจารย์ แต่อาจารย์ทั้ง 2 ไม่ยอมตอบผม ผมส่งอีเมล์ถึง อ. วรากรณ์ 7 ครั้ง เป็นอีเมล์รายวันกระตุ้นเตือนอาจารย์เท่าไหร่ๆ ก็ไม่ตอบ ผมทำแล้วครับ ให้โอกาสแล้วโดยไม่จำเป็นต้องมาพึ่งกระแสสังคมวงกว้าง ทั้ง 2 ท่านไม่เลือกทางนั้นเอง ดังนั้น คุณ Bucky M ครับ คุณคิดว่าถ้าไม่มีกระแสสังคมในเว็บอย่างที่มีอยู่นี้ อาจจะเป็นไปได้ไหมครับที่เรื่องนี้จะหายเงียบไปเป็นคลื่นกระทบฝั่งก็ได้? ขนาดมีกระแสบีบอยู่อย่างนี้ ผมยังรู้สึกเหมือนกับว่าท่าทีที่ปรากฏส่วนบนของกระทู้นี้ ยังไม่ค่อยเต็มใจ ยังไม่ค่อยเห็นความสำคัญของการชี้ข้อผิดพลาดอยู่เลย ข้อนี้ต้องชม สนพ. เนชั่นบุ๊กส์ ที่ยังกล้าหาญกว่า ออกมายอมรับผิดเร็วกว่า และด้วยท่าทีที่อ่อนน้อมถ่อมตนและรู้สำนึกมากกว่าด้วยซ้ำ ผมเคยรักนับถือใครแค่ไหน ผมก็อกหักและแค้นคนนั้นได้แค่นั้นแหละครับ ถ้าคนนั้นทำตัวให้ผมเห็นว่าไม่น่านับถือ แต่เราอย่าไปพูดกันอีกเลย ผมทำหน้าที่แล้ว สนพ. ก็ขอโทษแล้ว ผู้เกี่ยวข้องเขาก็ "ชี้แจง"แล้ว (ขอไม่เรียกว่าขอโทษ แถมส่วนหนึ่งของคำชี้แจงยังฟังคล้ายๆ เหมือนจะแว้งใส่ผมอีก แต่ผมก็พอใจ ที่อย่างน้อยเขาก็รับรู้ว่าเขาพลาดไป แม้จะแก้ตัวยักเยื้องไปว่าเป็น "บริบททางวัฒนธรรม" อะไรนั่นก็ตาม ไม่รู้ว่าอยากให้ผมเสนอข้อผิดใน "บริบททางวิชาการ" - ที่ไม่ใช่เศรษฐศาสตร์ - ด้วยไหม ผมน่ะรู้ว่าคุณน่วมแล้วนะ และผมก็เหนื่อยแล้ว อยากหยุดแล้ว แต่ถ้าคุณดื้อและพลิกพลิ้วยังงี้ จะให้ผมซัดคุณต่ออีกไหมล่ะ?) จากคุณ : นกข. (นิลกังขา) - [ 3 ก.ย. 47 18:06:10 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ตามประเด็นนี้มาตั้งแต่เช้า อ่านคำแก้ตัวของอาจารย์ทั้งสองแล้วได้แต่ทอดถอนใจ เฮ้ออออ ***แต่การนำข้อผิดพลาดในเรื่องเล็ก ๆ เหล่านี้ แล้วนำมาใช้เป็นเหตุผลทำลายหนังสือเล่มนี้ โดยไม่ได้พิจารณาถึงภาพรวม ว่าหนังสือเล่มนี้มุ่งที่เนื้อหาถ่ายทอดความรู้ทางด้านเศรษฐศาสตร์แก่ผู้อ่าน ย่อมเป็นการกระทำที่ปราศจากเหตุผล และไม่ยุติธรรมเลย สำหรับผู้แปล เช่นดิฉัน*** แล้วการที่อาจารย์แปลงานออกมาวางขาย ทั้งๆที่ผิดเป็นกว่าพันแห่งนี่ อาจารย์คิดว่า "ยุติธรรม" สำหรับผู้อ่าน เช่นลูกศิษย์อาจาย์ไหมละคะ? คุณหฤทัยคะ ไม่ต้องแปลกใจค่ะที่การแปล "ต้องใช้ความพยายาม" นักแปลอาชีพบางครั้งยังต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์เลยค่ะ ในการค้นคว้า สอบถาม ทำความเข้าใจ กะอีแค่ "ประโยคเดียว" ดิฉันว่าเราโชดดีมากๆเลยนะคะ ที่อยู่ทันได้ใช้อินเตอร์เน็ต มี dictionary online ให้ใช้ฟรีแทบจะทุกภาษา ทุกสาขา แถมค้นข้อมูลเพื่อเสริมความเข้าใจก็แสนสะดวก แถมยังมีเว็บบอร์ดให้พูดคุยแลกเปลี่ยนได้กับคนทั่วโลก ... หากแปลเล่มใหม่อย่าลืมใช้นะคะ คุณเข้าใจผิดแล้วค่ะ ที่บอกว่าเพราะมันเป็นนิยาย คุณถึงแปลผิด แล้วยิ่งเข้าใจผิดไปกันใหญ่ที่บอกว่าเพราะมันเป็นนิยายเชิงวิชาการ ถึงแปลส่วนอื่นๆผิด แต่ส่วนวิชาการยังถูกต้อง ก็ไม่น่าจะว่ากัน ... ไม่ได้ทำให้หนังสือเสียคุณค่า โธ่ อาจารย์ขา นี่ถ้าเป็นหนังสือประโลมโลก ฉันรักเธอ เธอรักฉัน แค่อ่านเอามัน คนอ่านคงแค่มาวิพากษ์วิจารณ์แล้วก็จบ ไม่ถึงขนาดมานั่งรอให้ "แก้ไขใหม่" หรอกนะคะ แต่นี่เพราะมันเป็น "กึ่งตำรา" คุณหฤทัยพูดเองนี่นะ ว่าจะเอาไปสอนเด็ก ตำราผิดๆถูกๆอย่างนี้น่ะเหรอคะ ที่จะใช้เป็น "เบ้าหลอม" ดิฉันเชื่อมั่นว่า หนังสือวิชาการหรือกึ่งวิชาการ ความถูกต้องแม่นยำ(แม้แต่ตัวสะกดการันต์ ต้องสมบูรณ์ค่ะ เห็นผิดต้องรีบแก้) ... แต่ถ้าผิดเป็นพันแห่งแบบนี้ ... ต้องบรรณาธิการใหม่เท่านั้นค่ะ ... คุณพูดเองอีกเช่นกัน ว่าเป็นความผิดพลาด "ที่แก้ไขได้" เราจะรอดูค่ะ ยังอยากฟังคำแถลงของบ.ก.นะคะ ... เอ้อ ดิฉันขอบคุณคุณนิลกังขาแทนก็แล้วกันนะคะ ขอบคุณค่า จากคุณ : กระเจี๊ยบ - [ 3 ก.ย. 47 18:07:41 A:203.113.36.14 X: TicketID:072021 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ความรู้ภาษาอังกฤษของคนเราไม่เท่ากัน คนที่รู้ภาษาอังกฤษไม่มากพอ แต่มีความตั้งใจดีอยากแปลอะไรดีๆ ในภาษาต่างด้าวให้คนไทยรู้ ก็ควรได้รับคำชมเฉพาะในส่วนที่เป็นความตั้งใจดี แต่ส่วนที่ผิดพลาดผมก็ยังเห็นอยู่ว่า ต้องยอมน้อมรับการตำหนิ อย่าบิดประเด็นครับ คนอีกคนหนึ่ง ที่เห็นว่าการสอนเศรษฐศาสตร์ที่เข้าใจยาก ให้เข้าใจง่ายขึ้นเป็นสิ่งดี ควรให้กำลังใจกันที่มีคนพยายามแปลให้เศรษฐศาสตร์สนุกขึ้น ดีใจที่มีความพยายามเช่นนั้น ก็ให้กำลังใจกันไปเฉพาะในส่วนนั้นสิครับ แต่มีความจำเป็นใดหรือ ที่จะต้องเขียนคำนิยมเช่นนี้ ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่แม้ผมไม่เอามาโพสต์ ก็ปรากฏเป็นตัวอักษรอยู่แล้วในคำนิยมของ "เศรษฐศาสตร์ฆาตกรรม" "...เมื่อได้อ่านบทแปลของหนังสือในชื่อ เศรษฐศาสตร์ฆาตกรรม แล้ว ความรู้สึกดีใจก็ลดลงไปเล็กน้อยเพราะถูกแทนที่ด้วยความตาร้อน เพราะผู้แปล คือ อาจารย์หฤทัย มีนะพันธุ์ แปลได้สละสลวย มีอรรถรส... ...สามารถอ่านได้อย่างเข้าใจทั้งเล่มโดยไม่ต้องแบกกระไดมาช่วยอ่าน..." และคำนิยม ใน ดุลยภาพมรณะ "...อาจารย์หฤทัย มีนะพันธุ์ แปลได้อย่างสละสลวย รักษาความเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะเป็นอาจารย์สอนเศรษฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยแล้ว ยังเป็นผู้รักและมีควา่มสันทัดในภาษาอังกฤษอีกด้วย..." ผมขอคัดมาเพียงแค่นี้แหละครับ ไม่มีความเห็น โลกนี้ไม่มีอะไรฟรีครับ ใครที่เขียนอะไรไว้ แปลอะไรไว้ ก็รับไปเองแล้วกัน แล้วอย่าบิดประเด็นเป็นว่าผมมีวัตถุประสงค์แอบแฝง หรือพยายามแกล้งทำลายหนังสือนี้ล่ะ ผมขอร้อง เบื่อ - จากคุณ : อกหัก (นิลกังขา) - [ 3 ก.ย. 47 18:35:35 ]

ความคิดเห็นที่ 43 คุณคนเก่าคนแก่ครับ ผมสัญญาแล้วว่าจะให้สิ่งที่ผมรวบรวมแล้วนี้ แก่ สนพ.เนชั่นบุ๊กส์ เมื่อเขาขอมา เขาก็ติดต่อขอมาแล้ว และผมยินดีส่งให้ ทางไปรษณีย์ เพราะสิ่งที่ผมทำคือ อ่านไปก็ติ๊กไปในเล่มเลย ไม่ได้พิมพ์ลงไฟล์ ก็ถ่ายสำเนาแล้ว เตรียมส่งแล้ว ถ้าเขาเอาไปแก้ ตามที่ผมติง ผมอาจจะต้องขอให้คุณ คนเก่าคนแก่ รอให้เขาพิมพ์ฉบับแก้ไขออกมาแล้วลองเทียบดู ดีไหมครับ หรือถ้าใจร้อน อาจจะหา Fatal Equilibrium ต้นฉบับแล้วทำอย่างผมคือลงนั่งอ่านเทียบเองก็ได้ อาจได้จำนวนมากกว่าหรือน้อยกว่าที่ผมหาเจอก็ได้ แต่ผมเชื่อว่าประมาณๆ นี้แหละครับ ที่ไม่เป๊ะ เพราะหลายที่มันก้ำกึ่ง (แต่เอาละ สมมติว่าผมมีอคติหรือความไม่รู้ก็ตาม นับที่ผิดเกินเลยไป 300 ที่ ที่แปลผิด 700 ที่ใน 279 หน้ามันก็มากอยู่ดี) มันมีหลักฐานเป็นตัวหนังสือทั้งไทยทั้งอังกฤษหราอยู่ ใครตรวจก็เห็นเอง เป็น ปัจจัตตังเวทิตัพโพวิญญูหิ เหมือนคาถาสรรเสริญพระธรรมคุณ (ผมก็อ้างคำพระได้ครับ) คือเป็นสิ่งที่วิญญูชนพึงรู้ได้เองเฉพาะตัว (แต่ผู้มิใช่วิญญูชนอาจรู้ได้ไม่เหมือนวิญญูชนก็ได้?...) แต่คุณจะให้ผมเอามาโพสต์ลงจริงๆ หรือ? ทั้ง 1072 แห่งน่ะนะครับ? ผมสงสัยว่า คุณไม่รู้สึกว่าคุณคนแปลเขาน่วมเต็มทีแล้วหรือครับ? ผมออกเห็นด้วยกับท่านผู้เขียนคำนิยม ว่าบางทีเราก็ต้องมีมุทิตาจิต กรณีนี้ผมคิดว่าท่านตั้งใจหมายถึง เมตตา กรุณาจิต มากกว่า และไหนๆ จะคุยกันเรื่องพรหมวิหารธรรม 4 แล้ว ธรรมะข้อที่ผมเห็นว่าควรใช้ในกรณีนี้ คือ อุเบกขา ต่างหาก เราควรอยากให้ผู้อื่นเป็นสุข นั่นเมตตา เมื่อเราเห็นผู้อื่นมีทุกข์ ควรอยากช่วยเขาให้พ้นทุกข์ นั่นกรุณา เมื่อเราเห็นคนอื่นเขาได้ดี ไม่ควรอิจฉา ควรร่วมยินดีด้วย นั่นมุทิตา (ทำให้ผมสงสัยว่า อ. วรากรณ์หรือผู้อ้างตัวเป็นท่านข้างบนพยายามจะบอกว่าผมขี้อิจฉาเลยหาเรื่องใส่ร้ายทำลาย อ. หฤทัยรึเปล่า ก็เลยบอกให้ผมเจริญมุทิตาจิตแก้อิจฉา) แต่เมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นและเราต้องแก้ปัญหาโดยไม่เห็นแก่หน้าใคร เพื่อความถูกต้อง เราต้องใช้อุเบกขาครับ กลับมาเรื่องเดิม ผมว่าการยกตัวอย้่างที่ผิดนั้นพอแล้วน่าครับ แล้วผมจะต้องใช้กระทู้พื้นที่อีกเท่าไหร่ก็ไม่ทราบ กว่าจะลงได้หมด ทั้งๆ วิธีที่ง่ายกว่าก็มี คุณอยากให้ผมเอาภาษาอังกฤษมาลง โพสต์เทียบกับฉบับไทย คุณก็ซื้อหนังสือไทยกับอังกฤษเอามาเทียบกันเองได้นี่ครับ จากคุณ : นกข. (นิลกังขา) - [ 3 ก.ย. 47 19:04:24 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ใครทำอะไรไว้ ก็คงรู้ตัวเองมังคะ ไม่งั้นคงไม่มีการติดต่อจากสำนักพิมพ์มาหาคุณนิลกังขาหรอก จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 3 ก.ย. 47 19:09:39 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เรียนคุณนิลกังขา ขอบคุณที่มาระบุชื่อผม และถึงกับให้เกียรติสงสัยผมว่าเป็น "หน้าม้า" หรือเปล่าด้วยนะครับ ซึ่งผมก็คงต้องเรียนชี้แจงว่ามิได้รู้จักอาจารย์ทั้งสองท่านเป็นการส่วนตัวแต่อย่างใดทั้งสิ้น ยิ่งไปกว่านั้นหนังสือทั้งสองเล่มที่อาจารย์หฤทัยได้แปล ผมก็ยังมิได้อ่านเลย แต่ผมคงจะไปหามาอ่านให้ได้รู้ในเร็วๆนี้แหละครับ ดังนั้นอย่างที่ได้แจ้งให้ทราบไว้แล้วนะครับ ว่าผมจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์ว่า หนังสือเล่มนี้มีคุณภาพในการแปล ดีมากหรือน้อยแค่ไหนอย่างไร จนกว่าผมจะได้อ่านหนังสือเล่มนี้เสียก่อน แต่ผมอยากให้คุณนิลกังขา ได้รับทราบถึง "ใจความสำคัญ" ในความคิดเห็นของผมที่ได้โพสต์ไปแล้วสักหน่อยหนึ่งว่า สิ่งที่ผมได้ตำหนิไปนั้น ผมมิได้ตำหนิสิ่งที่คุณนำเสนอ เพียงแต่ผมตำหนิว่า การวิพากษ์วิจารณ์นั้นออกจะเป็นการกระทำด้วยอารมณ์ และค่อนข้างเกินเหตุไปเสียหน่อย ยิ่งไม่ต้องนับว่าอาจารย์ทั้งสองท่านก็ได้ออกมายอมรับความผิดพลาดแล้ว แล้วที่แน่ๆ ผมก็ไม่ได้ออกมาตำหนิถึงคุณโดยเฉพาะเสียด้วยนะครับ ผมเพียงแต่เตือนคนในสังคมไซเบอร์โดยรวมเท่านั้นว่า คนที่ไม่คุ้นเคยกับสังคมไซเบอร์ที่อาจจะชาชินกับคำตำหนิคำวิจารณ์ต่อหน้าตรงไปตรงมาแบบนี้ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้ใหญ่ก็มีอยู่ แต่หากถ้าคุณจะรับไป ผมก็จนใจ ระวังตัวนิดนึงนะครับ สิ่งที่คุณโพสต์ออกมามันแสดงถึง ความคิดของคุณค่อนข้างชัดเจนไม่น้อย ผมเคยรักนับถือใครแค่ไหน ผมก็อกหักและแค้นคนนั้นได้แค่นั้นแหละครับ ถ้าคนนั้นทำตัวให้ผมเห็นว่าไม่น่านับถือ ผมเคยเห็นเรื่องแบบนี้มามากแล้วครับ สำหรับคนไซเบอร์ที่ออกมาวิพากษ์ ผู้ใหญ่ที่ท่านไม่ได้คุ้นเคยกับโลกไซเบอร์ แล้วผมก็ไม่แปลกใจอะไรด้วยที่หากผู้ใหญ่หลายๆท่านอาจจะต้องวางเฉยกับการวิพากษ์วิจารณ์แบบนี้ อยากให้คนอื่นเข้าใจเรา เราเองก็ต้องเข้าใจเขาด้วยนะครับ จากคุณ : bucky_m - [ 3 ก.ย. 47 19:59:20 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ในบรรดาสินค้าผลิตภัณฑ์ที่ออกมาจำหน่ายในท้องตลาด ต่างก็มีคุณภาพต่างๆกันไป ดีบ้าง เลวบ้าง มีให้เลือกหา เมื่อผู้ซื้อ พบว่าสินค้าที่ตัวเองซื้อมามันไม่ได้มาตรฐานตามที่ควรจะเป็น สิ่งหนึ่งที่ทำได้คือ นำสินค้าไปคืน และขอรับเงินของคุณคืนมา ซึ่งผู้ขายที่มีคุณธรรม เขาจะยินดีรับคืนสินค้า และคืนเงินให้คุณ โดยที่คุณอาจจะด่าคนขายแถมไปเล็กน้อย ก็พอฟังได้อยู่ โทษฐานที่ทำให้คุณเสียเวลา และเสียอารมณ์ แต่ถ้ายังไม่สาแก่ใจ คุณจะไปตีฆ้องร้องป่าว เพื่อนฝูงประชาชน ไม่ให้ไปซื้อสินค้าตัวนี้ คุณก็สามารถทำได้ ตราบใดที่ไม่ไปรุกรานสิทธิ์ในการขายของผู้ขายโดยสุจริต ยกตัวอย่างเช่น คุณทราบแก่ใจดีว่า นสพ.ยี่ห้อ ก. ห่วยแตก คุณก็สามารถป่าวประกาศเพื่อนฝูงคุณให้ทราบ ว่านสพ.นี้มันห่วยแตก อย่าไปซื้อมัน แต่คุณไม่สามารถเอาระเบิดไปเขวี้ยงสำนักพิมพ์เขา หรือเผารถส่งหนังสือของเขา เป็นต้น แล้วถ้าสินค้านั้นเป็นสินค้าควบคุม ต้องขึ้นทะเบียนก่อน คุณก็สามารถร้องเรียนทางการ หรือแม้แต่แจ้งตำรวจจับ หรือฟ้องศาลเรียกร้องค่าชดเชย ในฐานะเป็นผู้เสียหายก็ย่อมได้ แต่คุณจะไปเรียกร้องให้คนขายหรือผู้ผลิตคลานเข่ามาชี้แจงกับคุณภายใน 7 วัน หรือให้เขาตั้งพานขอขมากราบเท้าคุณ มันเกินไป เขาจะแปลหนังสือห่วยแตกมาขาย มันก็เรื่องของเขา เขาอยากจะขายสินค้าห่วยๆ คุณไม่มีสิทธิ์ห้ามเขา เขาจะไม่รับผิดชอบต่อผลงานห่วยๆของเขา มันก็เรื่องของเขา คนอ่านเขาอาจอยากซื้อไปอ่าน เป็นหนังสือตลกขบขันก่อนนอนก็ย่อมได้ มันเป็นสิทธิ์ของผู้บริโภคที่จะเลือกบริโภค หรือถ้าผู้อ่านไม่ชอบใจ จะเอาหนังสือไปขอเงินคืน ก็ทำได้ หรือจะไปโยนทิ้งประจานหน้าสนพ. ก็ทำได้อีกเช่นกัน ไม่มีกฏหมายข้อไหนบอกว่า งานแปลห่วยๆแล้วจะวางตลาดไม่ได้ จากคุณ : ช่างไฟ - [ 3 ก.ย. 47 19:59:35 ]

ความคิดเห็นที่ 48 คุณความเห็นที่ 32 I'm so pissed off!!! คำนี้แปลว่าอะไรคะ อยากรู้ จากคุณ : ไม่รู้จริงๆ - [ 3 ก.ย. 47 20:25:31 A:203.113.36.10 X: TicketID:012562 ]

ความคิดเห็นที่ 49 To #48 I'm so pissed off!!! --- I'm very angry or I'm furious. จากคุณ : amatuer translator - [ 3 ก.ย. 47 20:35:23 ]

ความคิดเห็นที่ 50 อ่าน คร่าว ๆ มาแล้ว ผมว่า กระทู้ที่ตั้งมาของอาจารย์ทั้งสองคงจะมาเพื่อบอกว่า I'm sorry? ผม (ดิฉัน) เสียใจเรอะ? ผมว่า คุณ นกข ติเพื่อก่อมากกว่า เขาไม่ได้ว่า หนังสือนี้ "ไม่ดี" แต่จะบอกว่า แปลได้ไม่ดีต่างหาก จากคุณ : ป้ายแดง - [ 3 ก.ย. 47 20:36:22 ]

ความคิดเห็นที่ 51 "แต่คุณจะไปเรียกร้องให้คนขายหรือผู้ผลิตคลานเข่ามาชี้แจงกับคุณภายใน 7 วัน หรือให้เขาตั้งพานขอขมากราบเท้าคุณ มันเกินไป" This is perfectly true.... I totally agree and sincerely support this statement krub.... K.NKK has done a good job on whistle blowing to the public..... But it's not your job to squeeze their necks to give you an apology..... Sincerely krub.... :) จากคุณ : amatuer translator - [ 3 ก.ย. 47 20:38:38 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อาจารย์วรากรณ์ยังรักษาความไม่รอบคอบถี่ถ้วน ไว้อีกครั้งหนึ่งในคำตอบนี้ นอกจากไม่อ่านเปรียบเทียบฉบับอังกฤษกับไทย ก่อนให้คำนิยมแล้ว คุณยังไม่อ่านคำทักท้วงของคุณนิลกังขา ให้ถี่ถ้วนอีกด้วย ถ้าอ่านแล้ว คุณจะไม่เอ่ยเรื่องวัฒนธรรมออกมา แต่จะกำชับอ.หฤทัยให้ไปศึกษาภาษาอังกฤษทั่วไปให้มากกว่านี้ และขยันเปิดดิกมากกว่านี้ด้วย จากคุณ : อักษรสีฟ้า - [ 3 ก.ย. 47 20:47:36 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เห็นด้วยอย่างยิ่ง กับคุณนิลกังขาในคห.๔๓ ไม่จำเป็นต้องพิมพ์ให้พวกเราดูหรอกครับ แค่นี้ผิดก็มากจนบอกได้แล้วว่าเป็นผลงานแปลที่แย่มาก ผมในฐานะเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษคนหนึ่ง บอกได้เลยว่าถ้าแปลแบบนี้ยังคงต้องปรับปรุงความสามารถทางภาษาอีกเยอะ ผู้แปลควรจะไปเรียนหลักสูตรการแปลที่มีให้เรียนหลายแห่งได้ในเมืองไทยหากยังต้องการจะเป็นนักแปลที่มีคุณภาพอยู่ ผมคิดว่าผู้แปลโชคดีมากที่สำนักพิมพ์เปิดโอกาสให้แปล ในขณะที่ยังมีนักแปลที่มีคุณภาพอีกมากมายที่ไม่ได้รับโอกาสเช่นนั้น กลับไปศึกษาภาษาอังกฤษใหม่ให้แตกฉาน และหวังว่าในอนาคตคงจะมีหนังสือแปลดีๆ ให้ผู้อ่านได้เสพโดยได้ทั้งความรู้และอรรถรสพร้อมๆกันนะครับ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 47 21:15:22 จากคุณ : กะได - [ 3 ก.ย. 47 20:55:37 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ผมชี้แจงประเด็นของคุณช่างไฟไปแล้ว ในกระทู้คุณน้าวิวันดา เรื่องกราบขอโทษอะไรนี่ ผมไม่คิดว่า สิ่งที่ผมต้องการคือการคลานเข้ามากราบขอโทษผมคนเดียว อย่างที่มีความพยายามจะบิดเบือนเจตนารมณ์ผมไปเช่นนั้น ผมต้องการให้มีการแสดงความรับผิดชอบ และผมต้องการ อย่างแน่วแน่ ให้มีการ "แก้ไขในสิ่งผิด" ผมจึงได้ขอให้อาจารย์รับรู้ ว่ามีปัญหาเกิดขึ้นแล้ว และเตือนอาจารย์ทุกวันๆ เจ็ดวัน ก็เพียงเพื่อให้มีการแก้ไข คนที่ควรได้รับคำขอโทษ คือสาธารณชนคนอ่านหนังสือไทยต่างหาก ไม่ใช่ผม ประเด็นนี้ สนพ. เนชั่นบุ๊กส์เองยังรู้เลย และขอโทษไว้แล้ว ส่วน อ. ทั้งสองท่าน ท่านหนึ่งคือผู้แปลขออภัยไว้นิดหนึ่งแต่ยกเหตุผลหว่านล้อมอีกสารพัด แต่ก็ยังดีที่ยังขอโทษ อีกท่านผู้เขียนคำนิยม อดีตคนที่ผมเคยถือเป็นครู พูดขอโทษไม่ออกจากปากได้ แต่ท่านก็จำเป็นต้องยอมรับว่าเกิดการผิดพลาดของการแปล ยังดีที่ยอมรับไว้หน่อยหนึ่งตรงนั้น ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องมาขอโทษตัวผม เอาพานมาขอขมาอะไรนั่นด้วย แทนที่จะมาเบี่ยงประเด็น discredit ผมกันยังงี้ รีบไปช่วยกันตรวจแก้ที่ผิดให้พิมพ์เสร็จเร็วๆ เถิดครับ จากคุณ : นกข. (นิลกังขา) - [ 3 ก.ย. 47 20:58:30 ]

ความคิดเห็นที่ 55 Discredit Constructive critique You make constructive critique. But you cannot tolerate other criticisms.... What a paradoxical world you live in krub? จากคุณ : amatuer translator - [ 3 ก.ย. 47 21:16:37 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เรียนคุณคนเก่าคนแก่ คุณพูดถึงกระทู้เกี่ยวกับคุณนิติภูมิ ผมจำคุณไม่ยักได้ในกระทู้นั้น แต่ผมจำกระทู้คล้ายๆ กันนั้นได้ลางๆ หลายปีแล้วครับ ไม่ทราบว่าหมายถึงกระทู้เดียวกันรึเปล่า แต่ผมออกจะงงๆ อยู่ ที่คุณยกกระทู้นั้นมา ทำนองขู่ซะด้วยว่าเดี๋ยวจะเป็นเหมือนกระทู้นั้น ? ???? เท่าที่ผมจำได้ ผมเอ็นจอยการแลกเปลี่ยนความเห็นในกระทู้นั้นมาก เพราะแม้ผมจะไม่เห็นด้วยกับคุณนิติภูมิและสาวกคุณนิติภูมิในกระทู้นั้น ผมก็ยินดีรับฟังความเห็นที่แตกต่างจากผม ซึ่งเป็นอะไรที่บางทีผมรู้สึกว่าตัวคุณนิติภูมิขาด ผมได้ยอมรับว่า คุณนิติภูมิรู้อะไรมาก และประสบความสำเร็จในการทำให้สาธารณชนสนใจการเมืองระหว่างประเทศ แต่ที่คุณนิติภูมิรู้นั้น ที่รู้จริงก็มี (และขอบคุณที่เอามาเล่า) รู้ไม่จริงก็มี รู้มาผิดๆ ก็มี บวกกับท่าที (ในตอนโน้น) ของคุณนิติภูมิที่ทำนองว่า ใครเห็นผิดจากแกต้องโง่ เลว แย่ หรือตามก้นตะวันตกไปหมด ก็ยิ่งทำให้น่าหมั่นใส้มากขึ้น แต่โปรดสังเกตว่าผมไม่ได้บอกว่าคุณนิติภูมิผิด 100 % แต่เพียงแค่นั้นสาวกคุณนิติภูมิที่โกรธผมที่ผมไม่ยอมบอกว่าคุณนิติภูมิถูก 100% ็ก็โกรธแล้ว โต้กันไปกันมา เรื่องที่คุณนิติภูมิรู้ไม่จริงแต่เผอิญผมรู้จริงกว่า (ผมเชื่อว่าเรื่องที่ผมไม่รู้แต่คุณนิติภูมิรู้ดีกว่าผม ก็ต้องมีแน่ๆ) เท่าที่ผมจำได้ ผมชนะโต้วาทีกับสาวกคุณนิติภูมิคนนั้น (ไม่ใช่ตัวคุณนิติภูมิเอง ซึ่งผมยังไม่ได้มีโอกาสได้รับเกียรติสนทนาด้วยเลย) อย่างขาวสะอาด TKO เลยครับ ผมจึงนึกไม่ออกว่า คุณคนเก่าคนแก่ยกกระทู้โน้นซึ่งผมเกือบลืมไปแล้วขึ้นมาทำไม? กลับเข้าประเด็น ขอโทษ ทำไมผมต้องเหนื่อยแปะให้คุณคนเก่าคนแก่อ่านด้วยล่ะครับ หลายร้อยจุดเป็นพันจุด อธิบายเหตุผลหน่อยคนดีว่าทำไมพี่ถึงจะต้องทำให้น้อง หรือน้องต้องทำให้พี่ถึงขนาดนั้นจ๊ะ? คุณเป็น สนพ. เนชั่นบุ๊กส์ ? อ.หฤทัย? บก. ชวลิต? สนพ. ต้นฉบับที่เมืองนอก? ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทางอื่น? ผมไม่เห็นเหตุผลว่าผมจะมานั่งเหนื่อยทำยังงั้นทำไมนี่ครับ แต่บังเอิญจริงๆ เมื่อผมถ่ายเอกสาร ดุลยภาพมรณะ (ทั้งเล่ม) ที่ผมกาติ๊กๆ ไว้ทั้งเล่มนั้น ผมนึกยังไงไม่รู้ถ่ายสำเนาไว้สองชุด ทำปกเรียบร้อย เล่มหนึ่งกะจะส่งไปรษณีย์ไป สนพ. เนชั่นบุ๊กส์อย่างว่า เหลืออีกชุดหนึ่ง คุณอยากได้ไหมละครับ แต่ผมขายนะ อย่างน้อย เท่าราคาถ่ายซีร็อกซ์ และผมไม่ส่งให้คุณเปล่าๆ ด้วย คุณบอกมาว่าจะให้ส่งไปไหนแต่ผมต้องขอรับค่าส่งด้วยอีกต่างหากนะครับ ถ้าอยากได้ดุลยภาพมรณะภาษาอังกฤษด้วย อันนี้เผอิญผมไม่มีถ่ายสำเนาไว้ แต่ถ้าอยากได้จริงๆ ผมไปถ่ายสำเนาแล้วขายให้ก็ได้ (รวมค่าส่ง) รึว่าถ้ากลัวผิด กม. ลิขสิทธิ์ ผมหาหนังสือภาษาฝรั่งมาขายต่อให้คุณก้ได้ แต่ต้องคิดค่าหาเพิ่มด้วย เพื่อจะได้เอาไปอ่านประกอบตรงที่ผมติ๊กไว้ เชิญเลย แล้วเมื่อคุณได้ฉบับกระดาษทั้งไทยทั้งอังกฤษและรอยติ๊กของผมหมดแล้วอยู่ในมือ ผมอนุญาตให้คุณค่อยๆ พิมพ์ลงมาแปะโพสต์ได้เลยเอ้า ในนี้ ทั้งพันที่นั่นแหละ อนุญาตครับ แต่ผมไม่เสียเวลาพิมพ์ให้คุณหรอกครับ โธ่... กระทู้โน้นต้นเหตุยังไม่ใช่ผมพิมพ์เอง ยังเป็นคุณน้าวิที่รักของผมเป็นคนแปะในพันทิพเลย ฉะนั้น เรื่องไรผมจะพิมพ์ให้คุณซึ่งไม่ได้เป็นที่รักหนักหนาของผมเล่า? (ผมรู้ตัวว่าผมก็คงไม่ได้เป็นที่รักหนักหนาของคุณเหมือนกัน ... อิอิอิ...) จะเอาไหม? แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 47 21:26:45 จากคุณ : นกข. (นิลกังขา) - [ 3 ก.ย. 47 21:20:00 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เห็นด้วยกับดดห. 45, 46 และ 47 นะคะ เชื่อโดยสุจริตใจว่าคุณนกข มีเจตนาดีแต่อาจจะมีโทสะผสมไปหน่อยหรือเปล่าคะ การส่ง email ไปใครให้ติดๆ กัน 7 วัน (อย่างที่บอกไว้) อาจจะทำให้ผู้รับประสาทเสียและกลัวคนส่ง และข้อความใน email เหล่านั้นอาจจะก่อให้เกิดความลังเลที่อยากจะติดต่อกับคนส่งก็ได้นะคะ และการกำหนดเส้นตายภายใน 7 วันก็ออกจะบีบคั้นไปหน่อยว่าไหมคะ จากคุณ : Pink crystal - [ 3 ก.ย. 47 21:21:34 A:172.17.20.146 X:61.19.199.143 TicketID:071888 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ประเด็นคือ 1. เขาประสงค์จะขายหนังสือแปลห่วยๆ ซึ่งตามกฏหมายแล้ว คุณไม่มีสิทธิ์ไปห้ามเขาขายของห่วยๆ 2. คุณไม่มีสิทธิ์ไปบีบคอข่มขู่เขาให้ต้องกล่าวคำขอโทษภายใน 3 วัน 7 วัน เขาจะรับผิดชอบต่อผลงานห่วยๆของเขาหรือไม่ มันเป็นเรื่องของเขา คุณไม่มีสิทธิ์ไปบังคับข่มขืนใจใคร 3. คุณไม่มีหน้าที่ต้องไปตักเตือนใคร ถ้าหวังดีกับเขา ส่งไปฉบับเดียวก็พอ แค่นั้นเขาก็วิ่งตีนแทบพลิกแล้ว แต่การส่งจดหมายซ้ำๆ พูดแต่เรื่องเดิมๆไปหาเขาทุกวันๆ ฝรั่งเขาเรียก spam mail มันส่อเจตนา 4. เขาไม่มีหน้าที่ต้องตอบจดหมายใคร เขาอยากตอบจดหมายไหน เขาก็คงตอบเอง คุณไม่มีสิทธิ์บังคับข่มขู่ให้เขาต้องตอบจดหมายของคุณ 5. ส่วนเรื่องผลงานห่วยแตก ประชาชนจะเป็นผู้ลงโทษเอง 6. คุณคือผู้เสียหาย คุณมีสิทธิ์เรียกร้องค่าชดเชยความเสียหายจากผู้ขาย แต่คุณไม่ใช่ผู้พิพากษา ดังนั้นคุณไม่มีหน้าที่ต้องลงโทษใคร จากคุณ : ช่างไฟ - [ 3 ก.ย. 47 21:21:41 ]

ความคิดเห็นที่ 59 Dear K.นิลกังขา, You are a superb translator who can litterally perfectly translate stories from one language to another word by word. However, you may not able to "interpret" what are "messages" that someone (in this case; K.Chang Dai) kindly would like to send them to you. Main ideas or whole context are of important than verbatim translation..... in this case, don't you think? แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 47 21:27:31 จากคุณ : amatuer translator - [ 3 ก.ย. 47 21:26:55 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ก็ยังไม่ใช่ประเด็นอีก ผมบอกตรงไหนเล่าว่าอยากให้เขาขอโทษผมในเจ็ดวัน คุณได้อ่านอีเมล์ผมแล้วรึยัง? ผมต้องการให้เขารู้ว่ามีปัญหาเกิดขึ้นแล้ว และขอให้เขามีความรับผิดชอบแก้ไข แล้วต่อมา สนพ. เขาก็แสดงความรับผิดชอบแล้วด้วย เจ็ดวันนั้นเป็นเวลาที่ผมขีดไว้ ไม่ใช่ให้เขาขอโทษผม (เอ๊อ... แปลก พูดเท่าไหร่ก็ไม่พยายามเข้าใจ?) แต่ให้เขาทำอะไรก็ได้ที่แสดงความรับผิดชอบ ไม่ใช่ต่อผม ต่อสังคมโน้น ผมไม่เคยห้ามเขาขายของ แต่มีเพื่อนร่วมเว็บหลายคน ที่เห็นว่า การแสดงความรับผิดชอบของ สนพ. ควรรวมถึงการถอนของออกจากตลาดด้วย ซึ่งจะดีต่อชื่อเสียงทางธุรกิจของ สนพ. เอง เอาละ เราคิดกันคนละโลก ผมไม่ห้ามคุณ และหวังว่าคุณคงไม่มายุ่งกับผมอีก ต่าางคนต่างอยู่จะดีไหม ถ้าคุณว่าไม่ดี ยังจะต่อล้อต่อเถียงต่อ ผมก็ไม่ว่าไง แต่คงเฉยๆ กับความคิดคุณก็เท่านั้นเอง สวัสดีครับ จากคุณ : นกข. (นิลกังขา) - [ 3 ก.ย. 47 21:33:45 ]

ความคิดเห็นที่ 61 OK! That's a deal!! จากคุณ : amatuer translator - [ 3 ก.ย. 47 21:34:47 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ไม่เชื่อหรอกว่าส่งเมล์ไปฉบับเดียว เขาจะวิ่งจนตีนพลิก ร้อยไม่เชื่อ พันไม่เชื่อ ที่เขาวิ่งจนตีนพลิก ก็เพราะโดนแฉต่อหน้าสาธารณชน(กลางเว็บ) ต่างหาก จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 3 ก.ย. 47 21:38:06 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ถ้าคุณวรากรยืนยันอย่างนั้น ขอออกเสียงว่าต่อแต่ไปนี้จะไม่ซื้อหนังสือที่คุณเขียนคำนำ และจะไม่ดูชื่อคนแปลถ้ามาจากสำนักพิมพ์นี้ด้วยซ้ำ เพื่อเป็นไปตามนโยบายประชาชนจะเป็นผู้ลงโทษเอง ดิฉันดันเป็นประชากรนะคะที่ชอบพิพากษาผลประโยชน์ของตัวเองนะคะ จากคุณ : ป้านักอ่าน - [ 3 ก.ย. 47 21:38:21 A:203.151.224.201 X: TicketID:072030 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ประเด็นก็คือ คุณนิลกังขาชี้ให้เห็นหนังสือแปลที่แปลผิดพลาดเล่มหนึ่ง ไม่ใช่พลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ผิดมหันต์ สิ่งที่ดิฉันไม่เข้าใจก็คือ ทำไมมีคนบางคนพยายามไล่บี้คุณนิลกังขา ทั้งที่เขาได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง คือ พยายามบอกไม่ให้คนอื่นตกเป็นเหยื่อคำโฆษณาที่หลอกลวงของผู้ขาย คุณ ๆ ที่เขามาพูดนู้นนี่ พยายามให้คุณนิลกังขา เอาอีเมล์ส่วนตัวมาลงบ้างล่ะ พยายามให้คุณนิลกังขาชี้ที่ผิดบ้างล่ะว่าอยู่ตรงไหนบ้าง ทั้ง ๆ ที่เท่าที่ยกตัวอย่างมันก็เกินให้อภัยแล้ว สำหรับคนที่จะแปลหนังสือขาย ดิฉันอยากรู้ว่าพวกคุณต้องการอะไร หรือต้องการให้คนที่ทำผิดลอยนวล (ฉันถือว่าการแปลโดยไม่ตรวจสอบ เป็นความผิด และยิ่งผิดก็คือคำโฆษณาที่เกินจริง ประเภทชมกันเข้าไป ว่าภาษาดี ทั้งที่จริงมันห่วย) หรือคุณ ๆ แค้นคุณนิลกังขามาแต่ชาติปางก่อน วุ้ย!! ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจว่ามีคนแบบนี้อยู่ด้วย จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 3 ก.ย. 47 21:54:50 ]

ความคิดเห็นที่ 65 นี่ไงครับ ความคิดเห็นที่ #39 ของคุณเอง "แต่อาจารย์ทั้ง 2 ไม่ยอมตอบผม ผมส่งอีเมล์ถึง อ. วรากรณ์ 7 ครั้ง เป็นอีเมล์รายวันกระตุ้นเตือนอาจารย์เท่าไหร่ๆ ก็ไม่ตอบ " "ผมทำแล้วครับ ให้โอกาสแล้วโดยไม่จำเป็นต้องมาพึ่งกระแสสังคมวงกว้าง ทั้ง 2 ท่านไม่เลือกทางนั้นเอง" ประเด็นก็คือ 1. ผู้รับจดหมาย spam mail ของคุณ เขาจะตอบเมล์หรือไม่ มันเป็นเรื่องของเขานะครับ คุณจะส่งไปกี่ร้อยฉบับก็ตาม ถ้าเขาไม่อยากตอบ เขาก็ไม่ตอบ ไม่มีกฏหมายข้อใดระบุว่า ส่งไป 7 ฉบับแล้วไม่ตอบ ต้องโทษจำคุกนะครับ 2. ฟังดูเหมือนประสงค์ร้ายยังไงไม่ทราบนะครับ น้ำเสียงเหมือนจอมนักแฉ ข่มขู่กรรโชกยังไงก็ไม่รู้ ว๊ากกกเพ้ย... ถ้าลื้อไม่ยอมทำตามที่อั๊วะบอก อั๊วะจะเอาไปแฉให้เสียอนาคตเลยนะเว้ย ถ้าผมเป็นคุณ ผมก็แค่เมล์ไปบอกว่า อจ.ครับ ผมพอดีไปเห็นงานแปลของอจ. เข้า ผมขออภัยที่จะต้องกล่าวว่า อจ.แปลผิดเพียบเลยครับ ผมเกรงว่าเรื่องมันจะไปกันใหญ่ ถ้ายังไง อจ.ให้ทางสนพ.เขาเร่งหาทางแก้ไขดีกว่านะครับ มันน้ำเสียงคนละโทนกันเลยนะครับ คุณว่ามั๊ยล่ะ จากคุณ : ช่างไฟ - [ 3 ก.ย. 47 22:02:11 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ข้อ 1 พอฟังขึ้น แต่ข้อ 2 2. ฟังดูเหมือนประสงค์ร้ายยังไงไม่ทราบนะครับ น้ำเสียงเหมือนจอมนักแฉ ข่มขู่กรรโชกยังไงก็ไม่รู้ ว๊ากกกเพ้ย... ถ้าลื้อไม่ยอมทำตามที่อั๊วะบอก อั๊วะจะเอาไปแฉให้เสียอนาคตเลยนะเว้ย แล้วคุณช่างไฟไปเห็นอีเมล์เขาแล้วหรือคะ??? จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 3 ก.ย. 47 22:06:26 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ส่วนในความเห็นที่ #60 ของคุณอีกเช่นกัน "เจ็ดวันนั้นเป็นเวลาที่ผมขีดไว้ ไม่ใช่ให้เขาขอโทษผม (เอ๊อ... แปลก พูดเท่าไหร่ก็ไม่พยายามเข้าใจ?) แต่ให้เขาทำอะไรก็ได้ที่แสดงความรับผิดชอบ ไม่ใช่ต่อผม ต่อสังคมโน้น" อันนี้ก็เหมือนกัน คุณอาศัยอำนาจอันใดในการไปบังคับขู่กรรโชกให้เขาต้องแสดงความรับผิดชอบ? แน่นอนว่า คุณสามารถเรียกร้อง ป่าวประกาศได้ แต่เขาจะออกมาพูดอะไรหรือไม่ ภายใน 7 วัน หรือ 3 เดือน หรือ 5 ปี มันเป็นเรื่องของเขาทั้งสิ้น คุณไม่มีสิทธิ์ ไม่มีหน้าที่อันใด ในการไปขีดเส้นว่า เขาต้องทำอะไรภายในเวลาเท่าไร อันที่จริงเขาจะแสดงความรับผิดชอบหรือไม่ เป็นเรื่องที่ทางสนพ.เขาจะตัดสินใจเลือกเดินเอง ถ้าเขาเลือกผิด คนอ่านเสื่อมความนิยม ธุรกิจเขาก็เจ๊งไป มันก็แค่นั้น คุณได้ทำหน้าที่ของคุณ มันก็จบกันไปแล้ว ปล่อยให้เขาตัดสินใจเลือกอนาคตเขาเองสิครับ ปล. คุณ ผู้สาวเมืองยศ การแปลที่ห่วยแตก ไม่ได้หมายความว่า ผู้แปลนั้น ได้กระทำผิดต่อกฏหมายบ้านเมืองอย่างใดทั้งสิ้น ดังนั้น การที่เขาจะลอยนวลหรือไม่ อย่างไร มันเป็นเสรีภาพของเขาโดยสมบูรณ์นะครับ ลองอ่านข้อบัญญัติในรัฐธรรมนูญดีๆนะครับ จากคุณ : ช่างไฟ - [ 3 ก.ย. 47 22:20:00 ]

ความคิดเห็นที่ 68 คุณ ผู้สาวเมืองยศ ครับ ผมคนนอกครับ ไม่ได้รู้เห็นเมล์นั้นนะครับ แต่จากประโยคข้างล่างนี้ "ผมทำแล้วครับ ให้โอกาสแล้วโดยไม่จำเป็นต้องมาพึ่งกระแสสังคมวงกว้าง ทั้ง 2 ท่านไม่เลือกทางนั้นเอง" ผมจับโทนน้ำเสียงได้ว่า อั๊วะเตือนลื้อแล้วใช่มั๊ยว่าให้ทำตามที่อั๊วะบอก แล้วเป็นไง ลื้อไม่ยอมทำตาม อั๊วะเลยเอามาแฉในที่สาธารณะ เป็นไงล่ะ หน้าซีดปากสั่นตีนพลิกเลยใช่มั๊ย จำไว้ว่าทีหลังอย่าแข็งข้อกะอั๊วะ ว่านอนสอนง่ายแล้วจะโตไวๆ มันฟังหวังดีแต่ประสงค์ร้าย ยังไงไม่ทราบ หรือผมคิดไปเองก็ไม่รู้... จากคุณ : ช่างไฟ - [ 3 ก.ย. 47 22:28:54 ]

ความคิดเห็นที่ 69 โอ้ว... ขออุทานหน่อยนะคะ เรื่องนี้ถูกลากเข้าไปถึงรัฐธรรมนูญได้ไง ใช่ค่ะผิดเรื่องนี้ไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดในด้านจรรยาบรรณและคุณธรรมของท่านผู้แปล คือ ฉันคิดว่าท่านอาจารย์ท่านนั้นน่าจะมีความสำเหนียกในความสามารถของตนนะคะก่อนที่จะทำงานใดให้ปรากฎออกมา ซึ่งในที่นี้คืองานแปลหนังสือ ดิฉันขอลากกลับมาเรื่องจรรยาบรรณจะดีกว่าไหม จรรยาบรรณและคุณธรรมของนักแปลผู้นี้หายไปไหน ส่วนเรื่องอีเมล์ คุณไม่รู้ ฉันไม่รู้ เราก็ไม่ควรเอาเรื่องที่เราไม่รู้มากล่าวหาสิ แหม ถ้ารู้ก็ว่าไปอย่าง เห็นคุณจับผิดเก่งอย่างนี้ (คือจับผิดที่คุณ นกข.เขียน) คุณน่าจะไปหาหนังสือมาอ่าน แล้วช่วยจับผิดหน่อยนะคะ ว่าที่คุณ นกข. เขียนไว้ ไม่ผิดเลย คุณ นกข. ต่างหากที่ช่างหาเรื่องคนแปล คือเอาข้อเท็จจริงมาโต้กันดีกว่าที่จะมาพยายามเบี่ยงประเด็นให้คุณ นกข. กลายเป็นคนผิดแบบนี้ มันตลกบริโภคไปหน่อยค๊า จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 3 ก.ย. 47 22:41:24 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เอ่า.. เอาเข้าไป.. วิชามารพันทิป 101 เริ่มได้.. บทแรกว่าด้วยการไล่ตอด.. ตอดซ้ายตอดขวาตอดหน้าตอดหลัง ( จึ้ย ) ตอดมันเข้าไป ซักวันต้องเฉาตายแน่ๆ จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 3 ก.ย. 47 22:52:44 ]

ความคิดเห็นที่ 71 มาให้กำลังใจคุณนิลกังขา ดิฉันคิดว่าคุณทำสิ่งที่ถูกแล้วค่ะ คุณนิลกังขาไม่ใช่คนที่ทำลายหนังสือเล่มนี้ ไม่ใช่ผู้ที่ทำลายชื่อเสียงของคุณ หฤทัย แต่เป็นผลงานที่คุณหฤทัยผลิตออกมาต่างหาก และผู้ที่ช่วยซ้ำเติมก็คือกอง บก. ที่ไม่ได้สนใจจะตรวจทานงาน ดิฉัน ไม่เชื่อหรอกค่ะว่า อาจารย์ทั้งสอง และกอง บก.จะทำการแก้ไข ถ้าเรื่องมันไม่มาแดง อยู่ในที่สาธารณะแบบนี้ ...ขนาดตอนนี้ ยังไม่เห็นมีการทำอะไร ที่แสดงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้ที่หลวมตัวซื้อหนังสือ(ห่วยๆ) ได้แต่ออกมาพูดลอยๆแค่นั้นเอง จากคุณ : Monti Ta - [ 3 ก.ย. 47 22:54:51 ]

ความคิดเห็นที่ 72 คุณช่างไฟคะ ดิฉันสงสัยว่าทำไมอยู่ๆคุณนิลกังขาถึงได้กลายเป็นคนผิด ทั้งๆที่สิ่งที่เกิดขึ้นคือเขาได้เสียเงินซื้อหนังสือมาเล่มนึง ทั้งสำนักพิมพ์และผู้แปลได้เงินจากเขา เมื่อเขาพบว่างานนั้นน่าจะแปลไม่ถูกต้องเพราะอ่านแล้วข้อความแปลก จนต้องเสียเงินของเขาไปซื้อหนังสือภาษาอังกฤษมาเทียบเคียง แล้วก็พบว่า หนังสือเล่มนี้แปลผิดเยอะมากๆๆ แล้วเขาร้องเรียนไปทางผู้แปล สำนักพิมพ์ และผู้เขียนคำนิยม ดิฉันยังมองไม่เห็นว่าเขาผิดอย่างไร การส่งemail ติดต่อกัน 7 วัน ดิฉันเข้าใจว่าเมื่อไม่ตอบก็ทวงถาม ไม่ให้หนีหายหลบหน้า สำหรับดิฉันขอขอบพระคุณคุณนิลกังขา (นคค) อย่างจริงใจ คุณได้ช่วยเรียกร้องสิทธิ์แทนผู้บริโภค-ผู้ที่ซื้อหนังสือเล่มนี้ทุกคน ที่น่าเศร้าคือแทนที่จะได้รับดอกไม้กลับได้รับก้อนอิฐแทน อย่างนี้แปลว่าอะไรคะ ดิฉันขอกล่าวตรงๆว่างุนงงและสงสัยจริงๆว่าทำไมถึงได้กระหน่ำเข้ามาอย่างนี้ ทำไมคุณช่างไฟ คุณPink Crystal, amatuer translator, และคนเก่นคนแก่ จึงไม่ไปไล่เบี้ยกระหน่ำซ้ำเติมผู้ที่ไม่รับผิดชอบต่องานแปลที่เอาเงินคนซื้อ ล่ะคะ ดิฉันว่าเขาน่าจะกล่าวคำขอโทษ และขอบคุณคุณนิลกังขา อีกทั้งควรเก็บหนังสือเก่าๆให้หมด ถ้าดีกว่านั้นควรให้คนอ่านเอาหนังสือไปคืนได้ด้วย จากคุณ : มีคณา (มีคณา) - [ 3 ก.ย. 47 22:55:49 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ไอ้ประเภทขุดเรื่องเก่ามาหาเรื่อง นี่แมนมาก ๆ เลยนะ แก้แค้นสิบปีไม่สาย คุยเฉพาะเรื่องนี้ไม่ดีกว่าเหรอ หรือหาทางจับผิดไม่ได้ พยายามเบี่ยงประเด็นจริง ๆ อีเมล์ส่วนตัวเขาก็พยายามจะขอดู คุณเป็นใคร?? มีสิทธิ์อะไรขอดูอีเมล์ชาวบ้าน บ้าป่าว คนถูกก็จะตะแบงให้เขากลายเป็นคนผิด เจ๋งจริง ขอเรียนด้วยได้ป่ะ วิชานี้ เหอ ๆ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 47 23:06:13 จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 3 ก.ย. 47 23:03:11 ]

ความคิดเห็นที่ 76 Dear K.มีคณา, I have no intention to attack anyone. My points that I would like to make are; 1. K.นิลกังขา has done a good job in telling us that there were something went really wrong in that book. 2. I cannot give comments on or validate K.นิลกังขา's comments on that book. Because I didn't read through neither the original copy nor tranlated one. 3. Everyone has a right to criticize on one limited boundary. But there is no one can rule that the publisher or translator must give an apology. Sending an e-mail to anyone for seven consecutive days is not a good idea for me..... Personally, that's a harassment krub. In analogy, are you willing to pick a phone from someone calling you with such intention for several times? I would guess that you would not love that, am I right? 4. I gave comments because I have a free will to do so. I am open-minded for both sides of criticisms. I assume that K.นิลกังขา gave constructive criticism to this work. However why he can not stand a comment based on the same direction? 5. I haven't seen ill will in K.Chang Fai's comments, thus I supported his statements. He just was trying to tell K.นิลกังขา that it's now beyond his hands. Let things go and wait for the results.... That is my humble understandings. Sincerely krub :) แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 47 23:27:40 จากคุณ : amatuer translator - [ 3 ก.ย. 47 23:07:21 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ซาละเปา ก็เอาของไม่ดีมาทำ ทำไม่อร่อย แถมบูดด้วย ก็ด่าสิ ด่าตั้งแต่คนทำยันเซเว่นเลยด้วย จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 3 ก.ย. 47 23:07:59 ]

ความคิดเห็นที่ 78 คุณคนเก่าคนแก่น่าจะมีอคติอย่างแรงต่อคุณนิลกังขานะ จากที่ตามอ่านมาน่ะ เห็นชัดเจน แล้วอย่าพาลฟาดหัวฟาดหางด่าคนอื่นที่เขาเห็นแย้งกะคุณว่าเป็นพวกหลงวีรบุรุษอะไรนั่นเลย คนอื่นเขามีวิจารณญาณของเขาเอง คุณนี่มันพวกดันทุรังจริงๆ จากคุณ : 1466dm - [ 3 ก.ย. 47 23:15:06 A:203.146.191.202 X: TicketID:064173 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ช่างไฟเอ๊ย... ดีใจที่คุณชอบเชียร์มวยรองนะ แต่ความผิดมันใหญ่หลวงนัก สนพ.เก็บหนังสือทั้งหมดออกจากท้องตลาดไปแล้ว คุณอาจ ไม่ได้อยู่ในแวดวงหนังสือหนังหาจึงไม่รู้ ความผิดครั้งนี้มัน ถึงขั้นปาราชิกเลยล่ะ อย่าพยายามตะแบงไปเลย วิธีแบบ นี้มีแต่พวก สส.น้ำเน่าใช้พูดในสภาเท่านั้นแหละ แวดวงคน อ่านหนังสือ เขามีสติปัญญามากกว่านั้น ถูไถไปก็ไม่มีประโยชน์ หรอกเพ่ และที่จะให้ไปคัดออกมาทั้งเล่มน่ะ ระวังจะโดนฟ้อง ฐานละเมิดลิขสิทธิ์นะ อย่าไปตกหลุมพรางคุณช่างถู เอ๊ย.. ช่างไฟ หรือคุณเก่าแก่เข้าล่ะ จากคุณ : ช่างอิฐ คนหนุ่ม อิ - [ 3 ก.ย. 47 23:29:34 A:203.156.29.193 X: TicketID:063472 ]

ความคิดเห็นที่ 81 amatuer translatorคะ เข้าใจจุดยืนของคุณแล้ว ขอบพระคุณที่เข้ามาตอบโดยละเอียด เห็นประเด็นที่คุณกล่าวถึง และขออภัยด้วยนะคะที่สงสัยในเจตนาของคุณในการเข้ามาตอบกระทู้อย่างนั้น คนเก่าคนแก่คะ คุณก็เขียนชื่อที่อยู่ของคุณส่งไปให้คุณนิลกังขาสิคะ ตามที่เขาได้ตอบกระทู้คุณไว้ชัดเจนว่า "แต่บังเอิญจริงๆ เมื่อผมถ่ายเอกสาร ดุลยภาพมรณะ (ทั้งเล่ม) ที่ผมกาติ๊กๆ ไว้ทั้งเล่มนั้น ผมนึกยังไงไม่รู้ถ่ายสำเนาไว้สองชุด ทำปกเรียบร้อย เล่มหนึ่งกะจะส่งไปรษณีย์ไป สนพ. เนชั่นบุ๊กส์อย่างว่า เหลืออีกชุดหนึ่ง คุณอยากได้ไหมละครับ แต่ผมขายนะ อย่างน้อย เท่าราคาถ่ายซีร็อกซ์ และผมไม่ส่งให้คุณเปล่าๆ ด้วย คุณบอกมาว่าจะให้ส่งไปไหนแต่ผมต้องขอรับค่าส่งด้วยอีกต่างหากนะครับ ถ้าอยากได้ดุลยภาพมรณะภาษาอังกฤษด้วย อันนี้เผอิญผมไม่มีถ่ายสำเนาไว้ แต่ถ้าอยากได้จริงๆ ผมไปถ่ายสำเนาแล้วขายให้ก็ได้ (รวมค่าส่ง) รึว่าถ้ากลัวผิด กม. ลิขสิทธิ์ ผมหาหนังสือภาษาฝรั่งมาขายต่อให้คุณก้ได้ แต่ต้องคิดค่าหาเพิ่มด้วย เพื่อจะได้เอาไปอ่านประกอบตรงที่ผมติ๊กไว้ เชิญเลย " ถ้าคำไหน ข้อความไหน ประโยคไหน ตรงไหนที่คุณนิลกังขาติ๊กไว้แล้วไม่ทราบว่าผิดอย่างไร ดิฉันว่าคุณนิลกังขายินดีตอบแน่ แต่ถ้าจะให้ถูกต้องจริงๆ ดิฉันว่าคุณควรมาตั้งกระทู้แล้วสำนักพิมพ์ควรเข้ามาตอบ เป็นการแสดงความรับผิดชอบ แก้ไขสิ่งที่ผิดของตัวเอง เพราะสิ่งที่เนชั่นควรทำอย่างยิ่งตอนนี้คือ นั่งแก้ไขงานแปลที่ผิดๆทั้งเล่มโดยเร็ว จากคุณ : มีคณา - [ 3 ก.ย. 47 23:32:05 ]

ความคิดเห็นที่ 82 แค่ด่าเรื่องซาละเปาบูดนี่ แค่รักษาสิทธิของตัวเองนี่ ทั้งบ้า ทั้งโง่ ทั้งเผยกำพืด เลยเหรอ ตลกตะแบงไปเรื่อยเลยนะ แต่ที่แน่ ๆ คำตอบของคุณได้เผยกำพืดคุณออกมาเช่นกัน จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 3 ก.ย. 47 23:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 83 คนบางคนดูจะเหมือนไม่เข้าใจสิทธิของผู้บริโภค มัวแต่เกรงว่าจะบ้า โง่ และเผยกำพืด เลยก็คงต้องโง่ต่อไป จากคุณ : กะได - [ 3 ก.ย. 47 23:32:27 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ใจจริงไม่อยากให้คุณคนเก่าคนแก่ดึงเรื่องราวแต่หนหลังอะไรนั่นมาพูดเลย ถ้ามันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับประเด็นปัจจุบันแล้วก็ละไว้ดีไหมคะ หรือถ้ารู้อะไรอยากจะบอกก็บอกมาเลยดีกว่า คุณเอาแต่เขียนกำๆ กวมๆ เหมือนพวกนักการเมืองพูด หรือพวกนักข่าวเวลาจะเขียนข่าวแบบใส่แต่ชื่อย่อ ก ข ค ง อ่านแล้วอึดอัดค่ะ ส่วนตัวแล้วสนับสนุนคุณนิลกังขา ถึงจะไม่รู้เนื้อหาข้อความในอีเมล์ แต่เชื่อว่าลำพังอีเมล์คงไม่มีทางที่ทั้งทางสำนักพิมพ์ หรือผู้แปลจะสนใจไยดีอะไร ถ้าไม่ีมีกระแสในโลกไซเบอร์อย่างนี้ แต่ถึงแม้จะมีกระแสขึ้นแบบนี้แล้ว ก็คงไ่ม่สามารถทำให้สะเทือนยอดขายของหนังสือได้นัก แต่อย่างน้อยการได้ฟังคำชี้แจงทั้งสองฝ่าย ซึ่งก็เป็นการดีแล้วไม่ใช่หรือคะ จากคุณ : jorjor - [ 3 ก.ย. 47 23:36:29 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ทำนายนะ ความผิดขนาดนี้ บก.ต้องลาออก ถึงจะอยู่รอด อย่างมีเกียรติในวงการได้ มันร้ายแรงมากเลยนะรู้ป่าว หนังสือแปลโดยอาจารย์มหาวิทยาลัย เป็นหนังสือประกอบ การเรียนของนักศึกษา บางแค่ร้อยกว่าหน้า แต่ บก.มืออาชีพ ตรวจพบที่ผิด(รวมทั้งการเรียงพิมพ์ วรรคตอน คำสะกด) กว่า 2 หมื่นแห่ง ก็มีมาแล้ว ใครไม่อยู่ในวงการไม่รู้หรอก จากคุณ : ช่างอิฐ คนหนุ่ม อิ - [ 3 ก.ย. 47 23:40:30 A:203.156.29.193 X: TicketID:063472 ]

ความคิดเห็นที่ 87 แค่นี้ก็รู้แล้วแหละน๊า.. ว่าใครพยายามจะทำอะไร เห็นเกาแกรกกรากมาตั้งแต่กระทู้นั้นแล้ว.. . อ้อ ขอแถมให้คำนึงนะคะ "ละล่ำละลัก"ค่ะ งิงิ จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 3 ก.ย. 47 23:43:20 ]

ความคิดเห็นที่ 89 มาให้กำลังใจคุณนิลกังขาค่ะ และอยากเห็นสำนักพิมพ์ออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วยการหยุดขายหนังสือเล่มนี้ค่ะ จากคุณ : fruko - [ 3 ก.ย. 47 23:46:05 ]

ความคิดเห็นที่ 90 แค่ไปเอาเงินคืน แล้วปล่อยให้คนอื่นตกเป็นเหยื่อต่อไป คิดได้แค่นี้เองเหรอ เห็นแก่ตัวจริง ๆ ขอโทษ มีสติดีอยู่แล้ว ไม่ต้องรั้ง แหม ตะแบง ๆ ๆ ไปเรื่อยจริง ๆ จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 3 ก.ย. 47 23:47:21 ]

ความคิดเห็นที่ 92 นั่นสิคะ ดิฉันก็จำได้ว่ามีคนบ้ามาด่าคนอื่น ยังงี้พวกที่จำได้แต่กระทู้ที่มีเรื่องกันนี่ไม่ธรรมดาค่ะ.. เอ.. หรือจะเป็น.. :-) . จะรีบชิ่งไปไหนละคะ ไม่หาเรื่องมาเกาอีกละคะ จะรอฟังค่ะ ถ้าลงกะกระทู้พรรค์นั้น คุณยังกล้าขุดมาพูดเพื่อที่จะคิดว่าจะทำให้มีคนผงะหงายว่าจำได้ไง หรืออะไรประมาณนั้น ดิฉันก็คงจะต้องขอบอกว่า.. พอเข้าใจตรรกะความคิดคุณแล้วแหละค่ะ อันที่จริงจะเอามาพูดทำไมอ่ะคะ? กระทู้ที่มีคนบ้ามาหาเรื่องดิฉัน??? ขืนยกมาพูด ก็มีแต่คนจะมาเข้าข้าง และเห็นใจดิฉันซะเปล่า? แปลกดีค่ะ อยากให้คนมาเห็นใจดิฉันทำไมคะ? อยู่ดีๆก็จะมีคนเอาเครดิตมาให้ ดีค่ะดี เอิกๆๆๆ วิธีคุณ"คนเก่าคนแก่"เป็นอย่างงี้เองเหรอคะ เที่ยวไปขุดเอากระทู้เก่าๆมาพูดถึง ทำเป็นพูดลอยไปลอยมา หวังว่าคนอื่นเค้าจะตื่นเต้นตาโต จริงไม่จริงรึเปล่าไม่รู้ แทงกั๊กไปก่อนละวะ ยังไงก็สะดุ้งแน่.. โถๆๆๆๆ ไอ้ของเก่าๆแก่ๆนี่มันมีหลายอย่างนะคะ ทั้งพวกเก่าลายคราม กับพวกเก่ากะโหลกกะลา.. . อ้อ กระทู้นั้นรู้สึกดิฉันยังเซฟอยู่นะคะ ถ้าจำมาผิดๆ เจอหลักฐานยันกลับ ระวังจะ"ระล่ำระลัก"ปากคอสั่น แก้ตัวไม่ทันนะคะ อิอิ ไอ้ที่คิดๆว่าจะโยนให้คนอื่น ระวั้งงง ระวังมันจะเข้าตัว ฮ่า แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 47 00:04:41 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 47 00:02:17 จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 3 ก.ย. 47 23:54:27 ]

ความคิดเห็นที่ 93 สำหรับดิฉัน อ่านประเด็นของคุณ ช่างไฟ แล้วหงุดหงิดในใจ ว่าสิ่งที่คุณต้องการคืออะไร จับผิดไปเพื่ออะไร จับผิดไปแล้วได้ประโยชน์อะไร (ต่อสังคมบ้าง) การกระทำของคุณ นกข. จะเป็นการจับผิดนักแปลท่านนั้นหรือไม่ เขาทำตัวเกินขอบเขตอำนาจหน้าทีของเขาหรือเปล่า(ตามรัฐธรรมนูญที่คุณอ้างถึง) ดิฉันไม่ได้สนใจในประเด็นนั้นเท่าไร เพราะมันไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา มันพิสูนจ์ไม่ได้ วัดเทียบไม่ได้ การขุดคุ้ยมีแต่ทำใ้ห้เกิดการโต้แย้งที่หาสาระและประโยชน์อะไรไม่ได้เลยสักอย่าุง แต่ที่ดิฉันยอมรับในการกระทำของคุณ นกข.อย่างหนึ่งคือ การกระทำของเขาได้ช่วยทำให้หนังสือเล่มหนึ่งซึ่งมีจุดผิดพลาดได้มีการแก้ไข ทำให้ผู้อ่านที่ซือไปแล้วได้ประโยชน์ รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่จะรอซื้อฉบับแก้ไขต่อไป สิ่งที่ดิฉันสนใจคือตรงนี้ ส่วนการมานั่งชำแหละว่าคุณ นกข. มีอะไรข้างใน ข้างในการกระทำนั่นหรือไม่ ดิฉันสามารถคิดอ่าน ติดตามเรื่องราว ทำความเข้าใจด้วยตัวเองได้ และคิดว่าคนอื่นๆ ที่เข้ามารับรู้เรื่องราวนี้ก็คงเป็นเช่นเดียวกัน นักแปล คนเขียนคำนิยม สำนักพิมพ์ คุณนกข. เป็นอย่างไร ให้ผู้ที่รับรู้เรื่องราวตัดสินใจกันเอาเองดีกว่าค่ะ จากคุณ : Lastquarter - [ 3 ก.ย. 47 23:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ดิฉันเซฟไว้หมดค่ะ เพื่อจะเป็นหลักฐานมายันกับคนอย่างคุณไงคะ . เล่นเน็ตมาหลายปีดีดัก.. โลกนี้มันอยู่ด้วยหลักฐานค่ะ ไม่ใช่การกล่าวหากันลอยๆ หึหึ จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 4 ก.ย. 47 00:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 96 หลังจากนั่งอ่านมานานก็ขอแสงดความเห็นสักนิดนะคะ คือเห็นด้วยกับการที่ออกมาประท้วงค่ะ อย่างน้อยสำนักพิมพ์ก็จะได้มีความรับผิดชอบบ้าง ไม่ใช่แปลอะไรออกมาก็ไม่รู้ มาให้อ่านกัน หนังสือแปลหลายเล่มเลยล่ะค่ะ ที่อ่านแล้วนั่งมึนๆ ว่ามันเขียนอะไรมาให้ฉันอ่านกันล่ะนี่ บางทีมันมั่วขนาดที่ว่า คนโง่ๆภาษาอังอังกฤษอย่างดิฉัน ยังเดาได้เลยว่ามันมาจากประโยคไหนกัน แล้วยิ่งอ่านบางความเห็นแล้วยิ่งงงค่ะ มันเป็นสิทธิของเขาที่แปลห่วยๆ รู้ว่าไม่ดีก็ไปคืนเงินแล้วก็จบ อ้าว แล้วคนที่จะซื้อต่อไปละคะ คนที่อ่านต่ออีกไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยคนที่เขาไม่เห็นต้นฉบับล่ะคะ แล้วถ้าเกิดเขาเอาไปเล่าต่อ ไปสื่อสารต่อ ข้อมูลที่ผิดๆ มิยิ่งกระจายออกไปอีกหรือคะ ในเมื่อคนอ่านไม่รู้นี่ว่ามันผิด ก็ไม่ได้อ่านฉบับจริง และเชื่อถือความสามารถของผู้แปลว่า แปลได้ถูกต้อง แล้วถ้าเราปล่อยต่อไปอย่างนี้ เราไม่ต้องอ่านมีหนังสือที่แปลผิดๆ แปลมั่วๆไปตลอดเหรอคะ ขอแสดงความเห็นแค่นี้ล่ะค่ะ และขอเป็นกำลังใจให้คุณนิลกังขาค่ะ และจะรอดูความรับผิดชอบของสำนักพิมพ์ค่ะ จากคุณ : จันทร์ฉายแสง (จันทร์ฉายแสง) - [ 4 ก.ย. 47 00:07:48 ]

ความคิดเห็นที่ 97 มาให้กำลังใจคุณนิลกังขาค่ะ จากคุณ : นาริน - [ 4 ก.ย. 47 00:07:50 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ชี้แจงมาเยอะแยะ ติดใจตรงที่ อ.หฤทัย บอกว่า "แต่การนำข้อผิดพลาดในเรื่องเล็ก ๆ เหล่านี้ แล้วนำมาใช้เป็นเหตุผลทำลายหนังสือเล่มนี้" ผิดขนาดนั้น บอกว่าผิดเล็กน้อย โห ไม่น่าเชื่อ ว่าอาจารย์คิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยได้ บอกว่ามีหนังสือแปลอีกหลายเล่มก็ผิด ไม่ตามไปจับผิดคนอื่นมั่ง ทำผิดแล้วยอมรับผิด น่าให้อภัย แต่ถ้าทำผิดแล้ว......อย่างนี้ ไม่น่ารักเลยนะคะ จากคุณ : J..anni - [ 4 ก.ย. 47 00:11:18 A:68.121.182.88 X: TicketID:070785 ]

ความคิดเห็นที่ 100 จริงค่ะ เป็นความจริงที่ว่า อย่าไปไล่ใครให้จนตรอกแบบนั้น นอกจากมันจะไม่ดีแล้ว การไม่เผื่อทางเืลือกอะไรเอาไว้ให้คนอื่นนั้น นอกจากจะไร้มนุษยธรรม แล้ว ต้องหมั่นระวัง มันจะย้อนศรกลับมาบีบรัดคอตัวเองอีกด้วย คุณคงต้องการเตือนคุณนกข. เช่นนี้ แต่ดิฉันก็รู้สึกว่าคุณเองก็ไล่เรียงเอากับคุณนกข.ด้วยการกระทำที่คุณเตือนนั่นด้วยเหมือนกันค่ะ ผลสุดท้ายมันเลยกลายเป็นคุณกระโดดขึ้นเขียงให้ผู้อื่นไล่สับ โต้เถียงกับผุ้อื่นที่ไม่เห็นด้วยกับคุณเหมือนคุณนกข.เลย ว่าไหมคะ จากคุณ : Lastquarter - [ 4 ก.ย. 47 00:18:34 ]

ความคิดเห็นที่ 101 คคห.88 วันนี้น้องสาวไปซื้อหนังสือที่ซีเอ็ด เซ็นทรัลปิ่นเกล้า เวลา 2 ทุ่ม ก็ยังมีวางขายนะคะ น้องสาวก็ถามพนักงานว่าทราบเรื่องที่มีการแปลผิดพลาดมั้ย จะมีการเก็บคืน หรือให้เอาหนังสือมาคืนหรือไม่ คำตอบคือ..ไม่มีอะไรแจ้งมาจากเนชั่นและไม่รับคืน จะคืนได้ถ้าหนังสือมีการพิมพ์หรือเข้าเล่มบกพร่องเท่านั้นคะ สรุป..นี่ขนาดโวยแล้วนะ ทำไมรัฐธรรมนูญถึงไม่อยู่ข้างคนเสียเปรียบบ้างละ ต้องรอให้เจ้งไปเองใช่มั้ย นี่ถ้าไม่มีอินเตอร์เน็ตช่วยเผยแพร่คงจะมีคนอีกเยอะที่ตกเป็นเหยื่อ ขอบคุณคุณ นกข คะ จากคุณ : เฮ้อ. - [ 4 ก.ย. 47 00:18:43 A:218.90.52.197 X: TicketID:066418 ]

ความคิดเห็นที่ 102 "อ้าว แก้ไขข้อความไปเสียแล้ว" นี่หมายถึงใครคะ? ถ้าหมายถึงว่านละก็ ไม่ต้องมาสาดโคลนกันดื้อๆนะคะ อิอิ ถ้าเล่นแฟร์ๆกันจริง ก็น่าจะรู้นะคะ ว่าเป็นการแก้ไขข้อความ เพื่อเพิ่มเติมข้อความ และทำตัวหนา ไม่ได้แก้เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อความ อย่าค่ะอย่า.. อย่าใช้มุกดิสโน่นดิสนี่ ที่มันไปไม่รอดแล้วหน่อยเลย.. ถ้าอยากได้หลักฐาน จะขอพันทิปมาให้นะคะ แต่คงต้องวันจันทร์อังคารนู่นแหละค่ะ จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 4 ก.ย. 47 00:19:02 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ทันอ่านข้อความคุณว่านน้ำค่ะ เป็นการแก้ไขเพื่อเพิ่มเติมข้อความ ของเก่าก็ไม่ได้ลบไป เพิ่มให้คนบางคนหนาวเล่น หุหุ ชักอยากรู้แล้วสิว่าเรื่องเก่านั้นเรื่องอะไร ขออภัยคนอื่นด้วยนะคะ ที่ประเด็นกระทู้เบี่ยง เพราะคนบางคนตะแบงแท้ ๆ ***แก้ไขเพราะพิมพ์ตกคำว่า "อยาก" นะจ้ะ*** แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 47 00:29:15 จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 4 ก.ย. 47 00:28:06 ]

ความคิดเห็นที่ 104 มาให้กำลังใจคุณนิลกังขาด้วยค่ะ กระทู้นี้อ่านแล้วนึกถึงคำโบราณค่ะ "คนดีชอบแก้ไข คนจันไรชอบแก้ตัว" จากคุณ : Cybercat - [ 4 ก.ย. 47 00:33:35 ]

ความคิดเห็นที่ 105 อยากเห็นการ "แก้ไข" มากกว่าคำ "แก้ตัว" นะครับ เข้าใจว่าเจตนาดี แต่ไม่ควรแปลเพื่อการค้าครับ ถ้าความสามารถไม่ถึง จากคุณ : Octo (Octo) - [ 4 ก.ย. 47 00:39:10 ]

ความคิดเห็นที่ 106 พอดีมีหนังสือที่เขียนถึงคุณสมบัติของนักแปลอยู่ในมือตอนนี้ เลยคัดลอกมาให้อ่านกันค่ะ คุณภาพของหนังสือแปล งานแปลที่ดีในความเห็นของผู้สอนวิชาแปล และผู้ปฏิบัติงานแปล เห็นว่าภาษาต้องชัดเจน กระชับความ ใช้รูปประโยคสั้น ๆ แสดงความคิดได้แจ่มแจ้ง ใช้โวหารเปรียบเทียบที่เหมาะสมในแต่ละภาษา และรักษาสไตล์การเขียนของผู้แต่งไว้ ควรมีการปรับแต่งถ้อยคำสำนวนให้เข้ากับสภาพสังคม เพื่อให้เกิดความเข้าใจ และงานแปลที่ดีควรมีเนื้อหาข้อเท็จจริงตรงตามต้นฉบับด้วย คุณสมบัติส่วนตัวของนักแปล -มีใจรักการแปล -รักการอ่าน -มีสมาธิในการอ่าน -มีความรอบคอบ ละเอียดระมัดระวังในการใช้ถ้อยคำและภาษา -มีความมั่นใจในตนเองอย่างสูง -มีจรรยาบรรณของนักแปล -มีปฏิภาณดี -มีความใจกว้าง ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ความสามารถ -สามารถตีความภาษาที่ตนจะถ่ายทอดได้เป็นอย่างดี -มีจินตนาการ สร้างสรรค์คำใหม่ที่เหมาะสม เพื่อมิให้ผู้อ่านเกิดความเบื่อหน่าย -มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ -มีความสามารถในการจัดขั้นตอนในการแปลให้ถูกต้อง เพื่อให้ผลงานมีคุณภาพ ประสบการณ์ -ฝึกฝนการแปลอยู่เสมอ -มีความเชี่ยวชาญในงานหลายสาขา -มีความเข้าใจในระบบงานของหน่วยงานที่ตนปฏิบัติงานแปลอยู่ -เคยได้รับการอบรมทางด้านการแปล -ควรอ่านงานแปลของผู้อื่นมากพอสมควร เพื่อทราบว่างานแปลเหล่านั้นมีจุดดี จุดบกพร่องที่ใดบ้าง ความรู้ -มีความรู้รอบตัวอย่างกว้างขวาง คัดลอกจาก สภาพของหนังสือ ปัญหาในการเขียน แปล วาดภาพประกอบและแนวทางในการพัฒนา เรียบเรียงโดย วรรณี จันทรศิริ ใน รายงานการประชุมวางแผนพัฒนาหนังสือเพื่อสนองการพัฒนาประเทศ 17-19 กันยายน 2529 โดย กรมวิชาการ จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 4 ก.ย. 47 00:48:05 ]

ความคิดเห็นที่ 107 กลัวกระทู้จะถูกเบี่ยงประเด็นมากไปกว่านี้ค่ะ คุณพี่ผู้สาวฯ เอาเป็นว่ารำง้าวสลับฉากให้ดูเล่นคั่นเวลาละกัน ใครอยากรู้จริงๆ เชิญตั้งกระทู้ใหม่ไปอีกกระทู้นึง ข้าพเจ้าจะช่วย"สนอง"ให้สมใจ อี่ๆๆๆ จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 4 ก.ย. 47 01:01:26 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ผมว่าผู้แปลยังไม่เข้าใจดีพอมั้งครับ ว่าแปลนิยายมันต่างจากการแปลตำรา ส่วนที่ทะเลาะ ๆ กัน พอเถอะครับ จากคุณ : Yensid - [ 4 ก.ย. 47 01:04:46 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ตอบตามหัวข้อกระทู้ งานแปลเล่มนี้อัปยสจริงๆครับ มอบกําลังใจคุณ นกข จากคุณ : นักแปลสมัครเล่น - [ 4 ก.ย. 47 01:35:23 A:216.203.142.226 X: TicketID:027949 ]

ความคิดเห็นที่ 110 อิอิ มาแอบขำคนดังบางคน อิอิ จากคุณ : รูปหล่อ_พ่อคนดี - [ 4 ก.ย. 47 01:39:20 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ใจเย็นๆกันหน่อยนะคะ ระวังจะโดนยั่วยุจนเข้าทางเขา ให้กำลังใจคุณนิลกังขา จากคุณ : ขอบังอาจเจ๋อ (นักเขียนไส้แห้งแต่มีพุง) - [ 4 ก.ย. 47 01:58:49 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ผมติดตามสถานการณ์มานานพอควร ยังไม่ได้คำตอบเลยครับว่าที่คุณ นกข.บอกว่าแปลผิดเป็นพันแห่งนั้น ผู้ที่มีชื่อเป็นผู้แปลเห็นว่าอย่างไร ผิดจริงหรือเปล่า หรือยังยืนยันตามฉบับที่แปลและเรียบเรียง อยากทราบแค่นี้แหละครับ ที่มีผู้มาชี้แจงตั้งแต่ คคห.1-11นั้นก็ไม่แน่ใจนักว่าใครตอบครับ ถ้าเป็นผู้แปล ผู้เขียนคำชม และผู้พิมพ์มาตอบ ก็ต้องขอบอกว่า ชี้แจงไม่เป็นที่น่าพอใจ(ของผม)ครับ ซึ่งก็คงไม่สลักสำคัญอะไรนักสำหรับท่าน ถือว่าเสียงนกเสียงกาก็แล้วกัน เรื่องของท่านอื่นๆใครเป็นโจทก์เป็นจำเลยไปไล่เบี้ยกันเอาเอง ผมไม่เกี่ยวอยู่แล้ว ผมตาสีตาสาธรรมดาอยากถามเรื่องหนังสือแปลที่เขาว่ามันแปลผิดเยอะผิดสังเกตเท่านั้นแหละครับ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 4 ก.ย. 47 02:18:31 ]

ความคิดเห็นที่ 113 เรียนอาจารย์วรากรณ์ ขอแยกชิ้นส่วนตามช่องความคิดเห็นนะคะ.. งานแปล "อัปยศ" จริงหรือ ผมได้อ่านความเห็นในเรื่องการแปลหนังสือ Fatal Equilibrium (ของอาจารย์หฤทัย มีนะพันธ์) แล้วด้วยความไม่สบายใจ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงแสดงอารมณ์กันดุเดือด เร่งเร้า กันขนาดนี้กับหนังสือเล่มนี้ ทั้ง ๆ ที่เดือนหนึ่ง ๆ มีหนังสือแปลออกมานับสิบ ๆ หรือร้อยเล่ม **** ถ้าจะให้อ่านระหว่างบรรทัด หมายถึงว่า น่าจะไปจับผิดคนอื่นมากกว่างั้นหรือคะ.. ความคิดเห็นที่ 1   ในฐานะผู้เขียนคำนิยม ขอยืนยันว่าผมได้อ่านทั้งเล่มที่เป็นภาษาอังกฤษและต้นฉบับภาษาไทยก่อนตีพิมพ์ ผมไม่ไร้ความรับผิดชอบขนาดหลับตาเขียนคำนิยมโดยไม่อ่านที่แปลแล้วแน่นอน เมื่อได้อ่านความเห็นของบางท่านที่นำตัวอย่างมาแสดงด้วยก็เห็นว่ามีการแปลผิดจริงในหลายแห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อผิดพลาดที่เกี่ยวพันเชิงวัฒนธรรม กล่าวคือ เฉพาะผู้ลึกซึ้งในภาษาและวัฒนธรรมอย่างเต็มที่ด้วยกันเท่านั้นจึงจะแปลได้ถูกต้อง เช่น คนไทยทักกันว่า “กินข้าวแล้วหรือยัง” ถ้าฝรั่งไปแปลเป็นภาษาอังกฤษที่ถูกต้องก็คือ How are you? ไม่ใช่ Have you eaten ? (บางคนก็อาจถกเถียงว่าไม่สมควรแปลอย่างนี้) ****** เรื่องกินข้าวมาหรือยังนี่ คือการแปลไทยเป็นอังกฤษค่ะ และถ้าฝรั่งเขาจะเอาไปแปลจริงๆก็แปลตรงตัวตามประโยคได้ และเขาจะทำเครื่องหมายทิ้งเอาไว้ พร้อมทั้งคำอธิบายๆเล็กข้างล่าง ว่า เป็นวัฒนธรรมของไทยในการทักทาย อันเปรียบเทียบได้ว่า..สบายดีหรือ? อย่างนี้ซะคะ ผู้อ่านชอบใจเพราะได้เรียนรู้และเิ่พิ่มเครดิตให้กับคนแปลด้วยว่าทำการบ้านมาดี.. มันไม่ใช่ประเด็นนี้..ประเด็นนี้คือ การแปลหาสตังค์ด้วยคุณภาพชุ่ยๆที่ผู้แปลไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่หนึ่งนาทีเพื่อทำการค้นคว้าหรืออ่านทวน..คงไม่ต้องยกตัวอย่างนะคะ..     ความคิดเห็นที่ 2   แม้แต่ในพระไตรปิฎกเองก็มีที่แปลผิด เท่าที่จำได้มีตัวอย่างที่อาจารย์เสฐียรพงษ์ วรรณปกเคยยกมา เช่นในตอนหนึ่งมานพน้อยเดินผ่านมา พระพุทธเจ้าถามว่าจะไปเมืองหนึ่ง ไปทางขวานี้ถูกต้องหรือไม่ มานพก็ส่ายหน้า ในพระไตรปิฎกแปลว่ามานพบอกว่าไม่ใช่ทางที่ถูก แต่แท้จริงแล้วเป็นการแปลที่ผิด ที่ถูกคือแปลว่าใช่ เพราะคนที่คุ้นเคยเคยไปอินเดียนั้นจะรู้ว่าการส่ายหน้าของคนอินเดีย (จริง ๆ คือการส่ายหน้าและคอ) นั้นคือใช่ ***** น่าอับอายมากค่ะ ที่คุณสามารถโยงเรื่องนี้ไปกับเรื่องพระไตรปิฏก ที่ต้องไปแปลผ่านหลายภาษากว่าจะมาถึงประเทศไทย และนั่นก็กว่าสองพันปีมาแล้ว..ผ่านการชำระมาไม่รู้กี่ร้อยครั้ง..ความผิดพลาดย่อมอาจเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ใช่ในกรณีของหนังสือแปลมรณะนี่ที่มีเครื่องช่วยสารพัด   ความคิดเห็นที่ 3   เมื่อตอนที่เขียนคำนิยมนั้น ผมอ่านเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษจบไปก่อนหน้านั้นนานพอสมควรแล้ว ผมไม่ใช่บรรณาธิการตรวจสอบความถูกต้อง จึงมิได้เอาต้นฉบับและฉบับที่แปลมาวางเทียบกัน ผมอ่านเฉพาะเวอร์ชั่นภาษาไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเช็คตรงที่เกี่ยวกับ concept เศรษฐศาสตร์ ก็เห็นว่าแปลได้สละสลวยและไม่ผิดหลักวิชาผมก็เขียนไปตามความรู้สึกอย่างจริงใจ ผมยอมรับว่าอาจรอบคอบไม่พอที่ไม่ได้เอาสองเล่มมาเทียบกัน เวลาอ่านก็ยังจำพล๊อตเรื่องและ เนื้อหาเศรษฐศาสตร์ที่อยู่ในเล่มภาษาอังกฤษได้ จึงไม่เชื่อว่าผิดพลาดในเวอร์ชั่นภาษาไทย ***** สรุปว่า ความผิดนั้นอยู่ที่ บก. ที่น่าจะต้องมีความรับผิดชอบมากกว่านี้..แต่สำหรับคุณ งานนี้นับว่าใช้ได้ งั้นหรือคะ?   ความคิดเห็นที่ 4   ซ้ำ.. ความคิดเห็นที่ 5   ผมว่าคนเราคงต้องมีมุทิตาจิตต่อกันบ้างนะครับ อาจารย์หฤทัย ตั้งใจดีที่จะแปลหนังสือเชิงตำราที่แปลกใหม่สู่สาธารณชน น่าอนุโมทนามากกว่ามาสับกัน หนังสือแปลอีกหลายเล่มที่แปลผิดกว่านี้ ไม่เห็นมีใครเอามา “แยกส่วน” กันเลย ถ้าพูดกันอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้เธอแก้ไขให้ถูกต้องในส่วนที่อาจผิดพลาดจริง โลกก็จะน่าอยู่เพราะความรักกัน และสังคมได้อ่านหนังสือแปลดี ๆ ของคนกล้าอีกหลายเล่ม นะครับ วรากรณ์ สามโกเศศ *****  คุณก็ยังไม่"เก๊ต"อยู่นั่นเอง ว่า ผู้บริโภคต้องการสิ่งที่มีคุณภาพ การแปลผิดเล็กๆน้อยๆย่อมเป็นเรื่องธรรมดา  ขนาดคุณว่าผู้แปลมีความตั้งใจดีมีคุณสมบัติครบถ้วนยังแปลออกมาผิดมากมายขนาดนี้ และอีกอย่างหนึ่งคือไม่ว่าจะเป็นการ"แยกส่วน" หรือ ทั้งเล่ม มันก็ยังผิดอยู่วันยังค่ำ.. จากปากคำของคุณผู้เป็นอาจารย์ที่มีคนนับหน้าถือตา..ข้างบนนี้ ฉันว่า..วงการหนังสือแปลของประเทศไทยคงถึงแก่กาล..ล่มสลาย ไม่มีใครเชื่อถืออีกต่อไปแล้วละค่ะ ขอแสดงความนับถือ วิวันดา แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 47 04:57:23 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 47 04:04:38 จากคุณ : WIWANDA - [ 4 ก.ย. 47 03:47:23 ]

ความคิดเห็นที่ 114 เรียนอาจารย์หฤทัย ขอ"แยกส่วน" ตอบแต่ละช่องความคิดเห็นและถามข้อสงสัยนะคะ ไหนๆอาจารย์ก็อุตส่าห์มาถึงนี่แล้ว.. เนื่องจากได้มีการวิพากษ์วิจารณ์งานแปลหนังสือ “ดุลยภาพมรณะ” ของดิฉันเป็นในเว็บบอร์ด ว่ามีความผิดพลาดการแปลต่าง ๆ นั้น ดิฉันขอชี้แจงถึงเบื้องหลังการแปลหนังสือเล่มนี้ และวัตถุประสงค์ความตั้งใจในการแปลหนังสือเล่มดังกล่าว ดังนี้ค่ะ ความสนใจในการแปลหนังสือชุดนี้มาจากความประสงค์ของดิฉันที่พบว่าการศึกษาเรียนรู้วิชาเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นของนักศึกษามีความยากลำบากในการทำความเข้าใจ และนักศึกษาส่วนใหญ่จะเบื่อหน่ายและล้มเลิกไปในที่สุด หรือต้องอดทนเรียนให้ผ่านวิชา เพราะเป็นวิชาบังคับ เมื่อดิฉันพบว่ามีวิธีการถ่ายทอดให้ความรู้วิชาเศรษฐศาสตร์ในแนวนวนิยาย ทำให้ดิฉันมีความสนใจและได้จัดหาหนังสือดังกล่าวมาอ่านและศึกษา พบว่าเนื้อหาค่อนข้างสนุก เนื้อเรื่องชวนติดตาม เพราะเป็นเรื่องสืบสวนคดีฆาตกรรมที่อาศัยหลักวิชาเศรษฐศาสตร์เป็นเครื่องมือในการหาตัวฆาตกร อีกทั้งผู้เขียนนวนิยายดังกลาวก็เป็นอาจารย์เศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วไป ****** หมายความว่า อาจารย์ได้อ่านไปแล้วจนเข้าใจเนื้อหาทะลุปรุโปร่งจนมองเห็นภาพว่าหนังสือนี้น่าจะถอดออกมาเป็นภาษาไทย เผยแพร่เพื่อความรู้ต่อไป..ใช่ไหมคะ จึงได้ลงมือแปลเป็นภาษาไทย แล้วทำไม..คำๆเดียวกันในแต่ละบทจึงแปลไม่เหมือนกันคะ? แล้วสนุกชนิดไหนของอาจารย์..ที่ฆาตกรได้ถูกพิจารณาให้มีความผิดฆ่าคนตั้งสองศพ..ทั้งๆที่ความจริงแล้วเขาถูกพิจารณาว่า ฆ่าคนหนึ่งคนตายโดยไม่เจตนา. ในเชิงกฏหมายนั่น หมายถึง โทษประหารเชียวนะคะ ไม่ใช่แค่จำคุกอย่างที่ควรจะเป็น หรือนี่คือ ความต่างในวัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่อาจารย์ได้อ้างมา..?? ความคิดเห็นที่ 7 ดังนั้น ดิฉันจึงมีความคิดว่าอยากจะแปลหนังสือนวนิยายดังกล่าวมาเป็นภาษาไทย เพื่อใช้เป็นหนังสือประกอบการสอน แต่ถ้าจะกระทำการแปลและเผยแพร่เอง ก็เป็นการผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ จึงได้เสนอให้ทางสำนักพิมพ์เดอะเนชั่นบุคส์ ทำการขอลิขสิทธิ์การแปลภาษาไทย เพื่อแปลหนังสือออกมาดังที่ปรากฏอยู่ ***** ฉันเชื่อว่า สนพ.คงได้ติดต่ออาจารย์ไปแล้ว อย่างเดียวกับที่ติดต่อคุณนกข.มาเป็นการส่วนตัว ทำให้เกิดอาการ"ไฟลนก้น" ทั้งๆที่อาจารย์มีโอกาสที่จะชี้แจงก่อนหน้านี้แล้ว.. ไม่ทราบว่า..ปัจจุบันยังใช้ประกอบการสอนอยู่หรือเปล่าคะ? ความคิดเห็นที่ 8 การแปลหนังสือนวนิยายต้องใช้ความพยายามพอสมควร โดยเฉพาะนวนิยายในชุดนี้ เพราะเนื้อเรื่อง ตัวละคร และเหตุการณ์ต่าง ๆ เป็นเรื่องจริงหรือใกล้เคียงข้อเท็จจริงมากที่สุด โดยเฉพาะสถานที่ และบรรยากาศ อารมณ์ ขนบธรรมเนียมประเพณี ซึ่งเป็นวัฒนธรรมตะวันตกทั้งหมด ขณะเดียวกัน เพื่อรักษาสาระเนื้อหาความรู้เศรษฐศาสตร์ที่ผู้ประพันธ์ได้ใส่ไว้ทั้งในการพูดจา อารมณ์ และสถานที่ ของเหตุการณ์ งานแปลนี้จึงต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก และหลาย ๆ ครั้ง ดิฉันต้องค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ได้สาระข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง หรือแม้กระทั่งแนวคิดความรู้ทางด้านเศรษฐศาสตร์ที่ซับซ้อน ก็ได้สอบถามหรือหาคำอธิบายเพิ่มเติมจากตำราหรืออาจารย์ผู้ทรงคุณวุฆิให้ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อยืนยันความชัดเจนและถูกต้องในการแปล ****** นี่ละค่ะ อาจารย์คือประเด็นที่เราได้พูดกันมาจนถึงป่านนี้ ว่า ผู้แปลใช้ความอุตสาหะพยายามมากน้อยแค่ไหน ที่จะให้งานนี้ออกมาสู่สายตาของประชาชน และ เป็นวัตถุพาณิชย์ที่คุ้มค่าต่ออัตราแลกเปลี่ยน..เมื่ออาจารย์ได้บอกว่า ใช้ความพยายามอย่างมากมาย รวมไปถึงค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม อีกทั้ง มีการสอบถามอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อยืยยันถูกต้องชัดเจนในการแปล.. อาจารย์กำลังจะบอกพวกเราหรือคะ ว่าในแวดวงของคณาจารย์ที่กล่าวถึง..ไม่มีใครรู้จักวัฒนธรรมตะวันตก ถึงความแตกต่างของ Sherry และ Cherry (มีขายในบ้านเรานะคะ ที่อตก.) และ ออเดิฟ ที่คนไทยรู้จักมานานหนักหนา ไม่ว่าจะพบในงานเลี้ยงหรืองานแต่งงานต่างๆ.. ก็เพราะ"วัฒนธรรม"แตกต่างนี่แหละ ที่คนถึงได้นิยมอ่านเรื่องแปลกันเพื่อจะได้อะไรที่แปลกและใหม่ออกไปจากชีวิตประจำวัน.. อันถือว่าเป็นจุดขาย.. ผู้แปลต้องถ่องแท้และเข้าใจพื้นฐานเป็นอย่างดี ใช่ไหมคะ..? และที่คุณนกข. ได้อ่านไปสะดุ้งไป ก็เพราะ "ความไม่รู้"ของอาจารย์นี่ละค่ะ..คือที่มา ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อแรกเริ่มแปลหนังสือนี้ ก็พบว่าการแปลหนังสือนวนิยายแบบเอกสารวิชาการ หรือแบบเอกสารราชการ จะนำมาใช้กับงานแปลนี้ไม่ได้ เพราะคำพูด ข้อความ และบรรยากาศเหตุการณ์ไม่สามารถถ่ายทอดให้ผู้อ่านได้เข้าถึงอารมณ์ ได้ ดังนั้น ดิฉันจึงพยายามเอาตัวเข้ากับเหตุการณ์เนื้อเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งในบางกรณี ดิฉันก็ยอมรับว่าอาจคลาดเคลื่อนไปจากหนังสือต้นฉบับอยู่บ้าง แต่ก็เพื่อทำให้เกิดความสนุกสนานและผู้อ่านสามารถติดตามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยที่เรียนรู้เนื้อหาวิชาเศรษฐศาสตร์ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลักของดิฉันเองในการแปลหนังสือชุดนี้ออกมา ดังนั้นผู้อ่าน เมื่อได้อ่านหนังสือแปลเล่มนี้ เหตุการณ์เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างราบรื่น และหลักเศรษฐศาสตร์ที่ถ่ายทอดผ่านตัวละคร เรื่องราวในหนังสือ ก็ถูกต้องทุกประการ ******* อาจารย์ยังหวังว่า หนังสือน่าจะยังขายต่อไปใช่ไหมคะ เพราะคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น... ความคิดเห็นที่ 10 ดิฉันยอมรับว่างานแปลของดิฉันอาจไม่ถูกต้องสมบูรณ์ในคำศัพท์ หรือบางสำนวนคำพูดบางส่วน แต่เนื้อหาสาระหลักของหนังสือ ก็ได้รับการแปลและถ่ายทอดไปให้ผู้อ่าน มิได้ผิดพลาดแต่ประการใด ซึ่งเมื่อดิฉันได้แปลเสร็จเป็น ก็ได้รับความกรุณา อนุเคราะห์จากอาจารย์ผู้สอนเศรษฐศาสตร์หลายท่าน ได้อ่านต้นฉบับการแปล ก็มิได้รับการทักท้วงแต่อย่างไร และอาจารย์ท่านเหล่านี้ ก็เคยได้อ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษเดิมมาแล้ว แน่นอนอาจารย์ท่านเหล่านี้ มิได้อ่านแล้วทำการเปรียบเทียบหน้าต่อหน้า คำต่อคำ หรือบรรทัดต่อบรรทัด แต่สนใจการดำเนินเรื่องราว และเนื้อหาสาระความรู้ทางด้านเศรษฐศาสตร์เป็นหลัก งานแปลก็ได้ผ่านบรรณาธิการของสำนักพิมพ์ และผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษา และเมื่อมีข้อสงสัยในสำนวน หรือคำใด ๆ ที่เกิดขึ้น ก็มีการหารือและแก้ไขให้ถูกต้อง ดิฉันจึงมีความเชื่อมั่นว่าหนังสือที่ดิฉันแปล แม้ว่าจะไม่สมบูรณ์ตรงกับต้นฉบับเดิมชนิดคำต่อคำ แต่เนื้อหาและเรื่องราวก็ไม่ได้ผิดพลาดแต่อย่างไร นับตั้งแต่หนังสือได้เผยแพร่จำหน่ายในตลาด ดิฉันยังไม่ได้รับข้อทักท้วงในเนื้อหาความรู้เศรษฐศาสตร์ว่าผิดพลาดหรือบกพร่องแต่อย่างไร หากถ้าหนังสือจะมีข้อผิดพลาดบางจุด บางสำนวน หรือบางคำ ซึ่งเกิดขึ้นได้กับหนังสือทุกเล่ม ดิฉันขออภัยผู้อ่านด้วยความบริสุทธ์ใจ ****** มาถึงตรงนี้แล้ว ฉันเข้าใจในความบริสุทธิ์ใจของอาจารย์ค่ะ แต่จะให้ดี ไหนๆก็งานแปลครั้งนี้ได้กระหึ่มกระจายไปในหลายๆเว็บแล้ว ค่อนข้างดังพอสมควร หมิ่นเหม่ต่อการเสียชื่อเสียง และหลายคนอาจนำไปสอนแก่ลูกศิษย์ถึงการแปลแบบไม่ได้มาตรฐาน อาจารย์น่าจะติดต่อสนพ. จัดการพิมพ์ใหม่ในฉบับแก้ใข ตรวจตราให้ถ้วนถี่..แล้ว ออกจำหน่าย ใครที่ซื้อไปแล้วก็เอามาเปลี่ยน.. ฉันว่า นี่คือสิ่งที่น่ากระทำอย่างที่สุด เงินทองหาใหม่ได้ค่ะ.. แต่ชื่อเสียงนี่ซิคะ..อาจารย์จะต้องอยู่กับมันไปอีกนาน.. ความคิดเห็นที่ 11 แต่ใคร่ขอเรียนให้ท่านผู้อ่านทราบถึงความตั้งใจจริงของดิฉันที่ทุ่มเทกับงานแปลนี้ เพื่อหวังช่วยส่งเสริมการเรียนการสอนวิชาเศรษฐศาสตร์ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ดิฉันยินดีน้อมรับ รับฟังข้อคิดเห็น หรือคำทักท้วง เพื่อนำมาใช้ปรับปรุงแก้ไขหนังสือให้ดีขึ้นต่อไป แต่การนำข้อผิดพลาดในเรื่องเล็ก ๆ เหล่านี้ แล้วนำมาใช้เป็นเหตุผลทำลายหนังสือเล่มนี้ โดยไม่ได้พิจารณาถึงภาพรวม ว่าหนังสือเล่มนี้มุ่งที่เนื้อหาถ่ายทอดความรู้ทางด้านเศรษฐศาสตร์แก่ผู้อ่าน ย่อมเป็นการกระทำที่ปราศจากเหตุผล และไม่ยุติธรรมเลย สำหรับผู้แปล เช่นดิฉัน หนังสือเล่มนี้ แม้ว่าจะผิดพลาดอย่างไรก็ตาม ก็มิใช่หนังสือที่ ‘ไม่ดี’ ยังคงเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาสาระที่ดี โดยมุ่งสอนนักศึกษาให้เรียนรู้เศรษฐศาสตร์ด้วยความสนุก อย่าเอาความผิดพลาดที่สามารถแก้ไขได้ มาทำลายหนังสือเล่มนี้เลยค่ะ หฤทัย ******* เมื่อตะกี้..ว่าสงสารอาจารย์แล้วเชียวนะคะ แต่มาเจอตรงนี้แล้วต้องขอความสงสารนั้นกลับคืน..ขนาดนี้ยังว่าเป็นเรื่องเล็กๆ ที่เอามา"ทำลาย" หนังสือ อาจารย์"ทำลาย"มันด้วยมือของอาจารย์เองค่ะ..จะด้วยตั้งใจหรือไม่ก็ตามที..!! ขอแสดงความนับถือ วิวันดา จากคุณ : WIWANDA - [ 4 ก.ย. 47 04:55:27 ]

ความคิดเห็นที่ 115 เป็นคนหนึ่ง ที่ไม่อ่านหนังสือแปล เวลาไปไทยอ่านหนังสือพิมพ์ไทยก็รีบๆอ่านหาสาระ ให้ถึงจุดไปเลย... หนังสือของนักเขียนไทยสมัยนี้หลายๆคนนี่ไม่สนใจหาอ่านเลย ถ้าท่านผู้นั้น ไม่ใช่นักเขียนตัวยง เป็นพวกที่เพีบงอุปโลกย์ตัวเอง เป็นนักเขียนเรื่องชีวิตจริงที่ไปประสบมา หนังสือไทยเคยอ่านมา 30 ปีก่อน เป็นท่านนักเขียนที่รู้จัก ยังจำได้คือ ทมยันตี (โดยเฉพาะ เรื่อง "คู่กรรม" จำได้ว่า อ่านตอนใกล้จบ ก็ร้องไห้กระซิกๆไป). กฤษณา อโศกสิน และ ที่ใหม่หน่อยในความคิดเรา คุณ รงค์ วงศ์สวรรค์ อ่านหนังสือไทยเรื่องสุดท้ายก่อนมาต่างแดนคือ พล นิกร กิมหงวน (อิ อิ) จากคุณ : JidNince - [ 4 ก.ย. 47 05:20:18 ]

ความคิดเห็นที่ 116 เห็นด้วยกับพี่หวานครับ สมัยที่คนข้างบนเค้าเป็นรองเลขาฯ ผมก็เห็นแล้วว่าเค้าเป็นคนยังไง สงสารอนาคตของชาติที่...ไปเรียนกับเค้านะครับ สำหรับอาจารย์ผู้แปลนี่...ผมไม่เคยรู้จัก แต่ผมคงไม่ให้ลูกหลานไปเรียนด้วยหรอก http://www.utcc.ac.th/faculties/economic/econsweb/lecturer/haruethai/harueedu.htm จากคุณ : T - [ 4 ก.ย. 47 06:13:51 A:130.18.158.221 X: TicketID:005190 ]

ความคิดเห็นที่ 117 "อัปยศ" ...it's really correct word for the work. จากคุณ : NaNoMat^^ - [ 4 ก.ย. 47 06:29:49 ]

ความคิดเห็นที่ 118 แล้วก็ไม่ต้องมาทะเลาะกันให้เสียอารมณ์ ว่าใครคิดอย่างไร ฉันได้ตั้งกระทู้โหวตให้แล้วค่ะ เพื่อ ประเมินความคิดเห็นสำหรับนำไปพิจารณา..เชิญที่นี่ค่ะ.. http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H2994926/H2994926.html จากคุณ : WIWANDA - [ 4 ก.ย. 47 06:35:29 ]

ความคิดเห็นที่ 119 มาขอให้กำลังใจ คุณ นกข. ค่ะ.. ดิฉันยังไม่ได้อ่านทั้งหนังสือต้นฉบับ และตัวหนังสือแปลที่เป็นเรื่องราวอยู่ในขณะนี้ แต่ว่า พอจะนึกภาพออก จากการที่เคยอ่านหนังสือแปลมา และเลิกอ่านไปหลังจากพบกรณีเช่นเดียวกันนี้ ด้วยความผิดหวังในตัวผู้แปล และสำนักพิมพ์ แต่ดิฉันไม่กล้าหาญเพียงพอ ที่จะออกมาร้องเรียนสิทธิ์ของผู้บริโภคอย่างที่คุณนกข.ได้ทำ รวมถึงไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะรวบรวมจุดบกพร่อง และคำผิด ได้อย่างถูกต้องทั้งหมด ขอชื่นชม และขอบคุณ คุณ นกข. ด้วยความจริงใจ รวมถึง สำนักพิมพ์เนชั่น ที่ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค แทนคนที่กำลังจะซื้อฉบับแก้ไขด้วยค่ะ ตามความเข้าใจของดิฉันนั้น อาจารย์ผู้แปลมองการแปล "นิยาย" เป็น"ตำรา" ที่จับจุดเพียงบางประเด็นให้ถูกต้องก็เพียงพอ รวมถึงบุคคลที่อาจารย์ให้ตรวจทานนั้น ก็มิใช่บุคคลที่อยู่ในแวดวงการเขียนหนังสือ แต่เป็นแวดวงวิชาการทางด้านเศรษฐศาสตร์ มิใช่ด้านอักษรศาสตร์ อันเป็นปัจจัยพื้นฐานของ "นิยาย" ในขณะที่ ผู้อ่านอย่างดิฉัน ต้องการ "นิยาย" ไม่ใช่"ตำรา" ผู้แปลหนังสือ จากภาษาต่างประเทศ มาเป็นภาษาไทยนั้น นอกจากจะต้องถอดความออกมาอย่างถูกต้องแล้ว ยังต้องมีความสามารถในการถ่ายทอดความงามทางด้านภาษาอีกด้วย เพราะการแปลหนังสือนั้น เหมือนการเขียน "นิยาย" ซ้อน "นิยาย"..ที่ไม่เปลี่ยน"สาระสำคัญ" ที่อาจารย์อ้างว่าได้สาระดังในหนังสือ และ "อารมณ์"ของหนังสือ ที่ดิฉันไม่ทราบว่า อาจารย์เขียนไว้อย่างไร แต่ดูจากคำผิดที่ยกมา "อารมณ์"ของหนังสือ คงเปลี่ยนไปมิใช่น้อยเลย.. ตัวหนังสือแปลเองก็ขายในเชิงพานิชย์ มิใช่ขายเฉพาะในมหาวิทยาลัย เป็นหนังสือประกอบการเรียนการสอน ดังนั้น ข้อผิดพลาดเหล่านี้ ก็ไม่อาจมองข้ามได้ เพราะไม่ใช่แค่นักศึกษาเศรษฐศาสตร์เท่านั้นที่อ่าน "บุคคลทั่วไป" ก็อ่าน อาจารย์ผู้แปลและผู้เขียนคำนิยมคงลืมประการนี้ไปกระมังคะ ถึงได้เขียนคำแก้ต่างที่อ่านแล้ว "อึ้ง " ออกมาได้ขนาดนี้... ด้วยความนับถือค่ะ.. ปล.กระทู้โดนเบี่ยงประเด็นไปเยอะทีเดียวนะคะ.. จากคุณ : กุ๊กๆ - [ 4 ก.ย. 47 07:07:02 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ยืนหยัดเพื่อความถูกต้องต่อไปครับ อ่านคำชี้แจงของทางท่านอาจารย์ทั้ง 2 ท่านแล้วก็ดีใจครับ..... ที่ผมไม่รู้จักท่านเป็นการส่วนตัว และไม่เคยซื้อหนังสือที่ท่านมีส่วนร่วมมาอ่าน โชคดีของผมจริงๆครับ จากคุณ : mountainfox - [ 4 ก.ย. 47 07:30:41 ]

ความคิดเห็นที่ 121 มาให้กำลังใจคุณนิลกังขาค่ะ ขอให้ยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้องตอ่ไปนะคะ ฝากประกาศไปถึงผู้ที่ทำ จรรยาบรรณ ตกหล่นไว้แถวนี้ ให้รีบมาเก็บกลับคืนไปด้วยนะคะ จากคุณ : อักษรสีฟ้า - [ 4 ก.ย. 47 08:16:30 ]

ความคิดเห็นที่ 122 คำอธิบายของอาจารย์ทั้งสองท่าน แสดงให้เห็นว่า 1 ท่านไม่สนใจความรู้สึกผู้อ่านแม้แต่น้อย ผิดเล็กน้อยก็ยังพออภัย แต่นี่ผิดแทบจะทุกย่อหน้าแบบนี้ มันเกินไป เงินแค่ร้อยกว่าบาทของอาจารย์อาจดูน้อยนิด แต่ถ้าอาจารย์คิดว่าทำขึ้นมาเพื่อให้นักเรียนนักศึกษานิสิตของอาจารย์ ได้อ่าน แสดงว่ากลุ่มเป้าหมายคือนักเรียนที่ยังไม่มีรายได้น่ะสิ ผิดเยอะอย่างนี้อาจารย์ยังกล้าเอาเงินเด็กอีกหรือ ทั้งที่อาจารย์ได้ยัดเยียดให้ความรู้ภาษาอังกฤษผิดๆแก่เด็ก 2 ท่านไม่เคารพคนเขียน เหมือนเอาของเขามาบิดเบือนปู้ยี้ปู้ยำยังไงก็ได้ เพราะเขาไม่รู้ ถือว่าได้ลิขสิทธิืมาแล้วก็แล้วกัน ถ้าเขาอยากให้ความรู้แค่ เศรษฐศาสตร์เขาไม่ต้องเขียนนิยายหรอกค่ะ เขาเขียนตำรา แต่นิยาย อรรถรสมันอยู่ที่ภาษา ว่าเราจะดื่มด่ำกับมันได้แค่ไหน อยู่ๆก็จุกอกขึ้นมาเฉยๆ ยังไงก็ใช้เด็กเป็นบันไดไต่ก็แล้วกันค่ะ พวกเขายังด้อยวิจารณญาณ ทั้งยังไม่อาจหาญแสดงภูมิรู้กับอาจารย์ได้อีกด้วย จากคุณ : masayanari - [ 4 ก.ย. 47 08:21:50 ]

ความคิดเห็นที่ 123 .......คนดีชอบแก้ไขอ้ะนะ........... จากคุณ : timtam_yummy - [ 4 ก.ย. 47 08:25:56 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ตำหนิแต่พองามให้เค้าได้พอจะไปแก้ไขปรับปรุง ไม่ใช่ตำหนิเสียจนหมดกำลังใจทำงาน เมื่อเค้าพลาด ก็พูดเตือนให้เค้าได้รับรู้ อย่าได้ต่อความยาว สาวความยืดเสียจนแสดงให้เห็นว่า กำลังจะเหยียบย่ำให้เค้าไม่ได้ผุดได้เกิดอีก (แค่บอกตามความรู้สึกน่ะ อ่านไปอ่านมา คิดว่า ควรรอดูว่าเค้าจะปรับปรุงหรือไม่ดีกว่า ที่จะมาเอาให้ตายจากสิ่งที่เค้าพลาดไปแล้ว) จากคุณ : ~amily~ - [ 4 ก.ย. 47 09:00:34 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ผมว่าไม่ใช่ตัวจริงมาตอบหรอก แต่เป็นขาประจำผู้รู้จักการหาความสุขในเวปบอร์ดอย่างคราสสิกที่สุด แต่ถ้าเป็นตัวจริงมาตอบ ก็แสดงว่า โง่ มาก ไร้เดียงสา ไม่รู้จัก โลกอินเตอเน็ทเอาซะเลย ซ้ำ ยัง ตอบได้ห่วยบรม แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 47 09:06:25 จากคุณ : appendix - [ 4 ก.ย. 47 09:03:23 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ยังไม่ทันให้โอกาสเค้าได้แก้ไข จะมาโวยวาย ด่าทอให้ได้อะไร จากคุณ : ~amily~ - [ 4 ก.ย. 47 09:05:41 ]

ความคิดเห็นที่ 127 มหาตมะ คานธี รัฐบุรุษของโลกคนนึง เคยกล่าวไว้ว่า ถึงผมจะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณพูด แต่ผมยอมตายที่จะปกป้องไว้ซึ่งสิทธิอันชอบธรรมในการพูดของคุณ ดังนั้น 1. ถ้าถามว่า ทางสำนักพิมพ์ห่วยๆที่นึง จะพิมพ์หนังสือห่วยๆวางตลาด เป็นสิ่งดีหรือไม่ ตอบว่า เป็นสิ่งไม่ดี ถือเป็นการขาดความรับผิดชอบต่อประชาชนอย่างยิ่ง 2. แต่ถ้าถามว่า ถ้า สนพ. ประสงค์จะวางตลาดหนังสือห่วยๆ เขามีสิทธิ์ตามกฏหมายจะทำได้หรือไม่ ตอบว่า เขามีสิทธิ์ตามกฏหมายที่จะทำได้ 3. แล้วคุณ กขคงจฉ. จะประท้วงเรียกร้องให้ สนพ. รับผิดชอบต่อความเสียหายได้หรือไม่ ตอบว่า สามารถเรียกร้องได้ ตามกระบวนการทางกฏหมาย และมาตรการทางสังคมที่เหมาะสม 4. แต่คุณ กขคงจฉ. จะเรียกร้องข่มขู่กดดันให้ผู้แปลต้องตอบอีเมล์ภายใน 7 วัน ได้หรือไม่ ตอบว่า คุณไม่มีสิทธิ์ตามกฏหมาย (อันที่จริงคุณเองจะเข้าข่ายละเมิดกฏหมายด้วยการขู่กรรโชกข่มขืนใจผู้อื่น) 5. แล้วคุณ กขคงจฉ. จะยื่นคำขาดให้ สนพ. ออกมาขอโทษ หรือ ยุติการจำหน่าย ทำได้หรือไม่ ตอบว่า คุณเรียกร้องความรับผิดชอบทางจริยธรรมได้ แต่คุณไม่มีสิทธิ์ตามกฏหมายที่จะกรรโชกข่มขืนใจผู้อื่น เขาจะขอโทษใครหรือไม่ จะถอนหนังสือจากตลาดหรือไม่ เป็นเรื่องที่เขาจะตัดสินใจเอง จากคุณ : ช่างไฟ - [ 4 ก.ย. 47 09:06:32 ]

ความคิดเห็นที่ 128 คุณช่างไฟ คุณไม่ตอบก็ไม่มีใครว่าว่าคุณไม่มีส่วนร่วม ผมว่าทุกวิชาชีพต้องมีจรรยาบรรณ สิ่งที่ผู้ทำ ผู้แปล สำนักพิมพ์ แม้จะไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดจรรยาบรรณอย่างไม่ต้องสงสัย คุณไม่ต้องหาทางมีส่วนร่วมโดยยกประเด็นอะไรที่ไม่เข้าท่ามาตอบก็ได้ อยู่เฉยๆก็ไม่มีใครว่าอะไร อีกอย่าง คุณกล่าวหาว่าเขาข่มขู่ ถามว่าคุณแน่ใจเหรอ ตั้งแต่ผมไล่อ่านมา ก็มีคุณนั่นแหละ ที่จุดประเด็นว่าเขาข่มขู่ เจ้าของเรื่อง หรือใครก็ไม่เห็นมีใครยัดเยียดว่ามีการข่มขู่ หากคุณจะตีความจากส่งที่คุณ กขคงจฉ เขียนข้างต้น ผมว่ามันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ ผมอ่านจากอีกมุม ผมไม่เห็นว่ามันจะหมายความอย่างนั้นได้เลย จากคุณ : นายบุญมาก - [ 4 ก.ย. 47 10:05:42 ]

ความคิดเห็นที่ 129 กระทู้นี้กลายเป็นกระทู้ยอดฮิตของผมไป หลังจากที่ไม่ค่อยได้อ่านกระทู้มานานแล้ว ตามประสาคนที่อยากแปลหนังสือ ดีๆ ให้ คนไทยได้อ่านบ้าง  แต่ด้วยความรู้ด้านภาษา ก็มีไม่มากนัก แต่เรื่องราวที่อยากแปล ก็คงหาคนที่อยากแปล ไม่ค่อยได้ เพราะคงทำเงินไม่ได้ ไม่มีค่าจ้างงานก็ไม่เดินนัก อยากทำให้เสร็จเร็วๆ ก็กลัวว่าผิดพลาด  จะทำให้มีคุณภาพร้อยเปอร์เซ็น ก็คงต้องรออีกหลายปี สุดท้ายก็ยังไม่ได้เริ่มแปลนะ เฝ้ารออ่านแต่กระทู้นี้ อ่านแล้ว หวิว  กังวลว่า จะโดนฟันหากแปลผิด   อย่างไรก็ตาม ก็รู้สึกยินดี ที่มีคนออกมาตรวจสอบ อย่างน้อย ก็จะเป็นการช่วยเตือนใจ ตลอดเวลาว่า ทำงาน ต้องตรวจทานหลายๆ รอบ คุณนิลกังหา คงเป็นชื่อที่ผมต้องจำไว้ตลอด หาก จะริเริ่มหัดแปล เอาไว้เป็นครูถือไม้เรียว คุมข้างๆ ยอมให้ครูตีสักนิด  น่าจะดีกว่าถูก ชาวบ้านรุม ใน ตอนหลัง หากส่งงานไม่ดีออกไป ในฐานะที่เป็นผู้ติดตามกระทู้นี้อย่างใกล้ชิด  และ อ่านความเห็นจากหลายคน  (ผมจะไมเท้าความถึง ประวัติส่วนตัวของผู้โพสต์คนอื่นในอดีต เพราะผมไม่ เคยอ่าน) ผมสนับสนุน บทบาท ของคุณนิลกังหา  ผมคิดว่าเขา คงไม่มี ฮิดเด้นอาเจนด้า   แต่เป็นเพียงอาการอกหัก เล็กน้อย จากการที่อาจารย์ท่านไม่รับฟัง ความเห็น จึงทำให้ต้องใช้นโยบาย เปิดเผยในที่สาธารณะ อาจเปรียบได้กับชนกลุ่มน้อย ที่ต้องการเจรจา กับรัฐ บาล แต่รัฐบาล ไม่ใส่ใจ และไม่สนใจนั่งโต๊ะเจรจาด้วย สุดท้ายชนกล่มน้อย ก็หยิบระเบิดขึ้นมา    ด้วยความตั้ง ใจ หรือไม่ตั้งใจ ก็ตาม   และเรื่องเศร้าๆ หลายเรื่อง ก็เกิดขึ้น ...................... ในประเด็นเรื่องเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ แล้ว หากจะกล่าวอ้างถึง น่าจะเป็นเรื่องของ "สิทธิ" ซึ่งการขยายสิทธิเหล่านี้ อาจไม่ใช่เป็นสิ่งที่ตาย ตัวมากนัก  ขึ้นอยู่กับว่าประชาคมในสังคมนั้นจะ ใช้ หรือ จะ พยายามขยายความไปแค่ไหน เรื่องการแปล  "น่าจะเข้าข่ายในเรื่องของสิทธิผู้บริโภค" ผมไม่แน่ใจว่า จะได้เขียนในรัฐธรรมนูญโดยตรงหรือเปล่า หรือว่า เขียน ในกฏหมายลูกอื่นๆ   แต่โดยสรุปแล้ว ประชาชนมีสิทธิ ที่จะรวมตัวกันเพื่อตรวจ สอบ หรือ ตั้งกลุ่มขึ้นมาตรวจสอบได้ แม้ ในปัจจุบัน จะมี หลายเรื่องที่กฏหมาย ยังไม่ได้เขียนไว้  แต่ถ้าหาก มีการ เคลื่อนไหว ที่เป็นจริงเป็นจัง    ก็อาจจะกลายเป็นตัวกม.ก็ได้ ........... สำหรับกระทู้นี้ ผมคิดว่าผมเข้าใจในเจตนา ของอาจารย์วรากรณ์ครับ ว่า อาจารย์ เน้นในเรื่องสาระหลัก  มากกว่าเรื่องบริบท ดังนั้นงานแปลของอาจารย์หฤทัย จึงไม่ถึงกับผิดมหันต์ ในทัศนะอาจารย์ แต่ที่อาจารย์กำลังได้ยินคือเสียงจากผู้บริโภค ในทัศนะส่วนตัวผมคิดว่า อาจารย์น่าจะกล่าวคำขอบคุณ คุณนิลกังหาและผู้บริโภคที่ให้ความเห็น ผมคิดว่าสมาชิกที่นี่ไม่ได้โกรธเกลียด อาจารย์วรากรณ์ หรืออาจารย์ หฤทัย หรอกครับ   คำขอบคุณสมาชิก อาจจะเป็นทางออก ที่ดีสำหรับอาจารย์ครับ ..และน่าจะเป็นทางออกที่ จะทำให้บรรยากาศร้อนๆ เย็นขึ้นบ้าง ขอแสดงความนับถือ ปล.สุดท้ายผมก็สนับสนุน อาจารย์ ทั้งสองคนในการผลิต งานใหม่ ออกมาอีกครับ หาก อาจารย์วรากรณ์ มีเวลา แก้ชื่อกระทู้หน่อยก็ดีครับ "อัปยศจริงหรือ"  ล่อเป้าไปหน่อยครับ เปลี่ยนเป็น"ขอบคุณสำหรับคำติชม........."ก็น่าจะดี ปล2 " หนังสือแปลอีกหลายเล่มที่แปลผิดกว่านี้ ไม่เห็นมีใครเอามา “แยกส่วน” กันเลย"    ข้อความนี้ ในคำชี้แจงของอาจารย์วรากรณ์ ก็น่าจะลบทิ้งนะครับ    ผมคิดว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะเขียนลงไป อย่างนั้นมันคล้ายๆ กับวิธีการที่สส.ฝ่ายรัฐบาลใช้กับฝ่ายค้าน ยามที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลถูกตรวจสอบ แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 47 14:26:05 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 47 14:15:56 จากคุณ : ยาโมเมะ - [ 4 ก.ย. 47 10:19:07 ]

ความคิดเห็นที่ 130 เห็นด้วยกับความเห็นที่ว่า "คนเราผิดพลาดกันได้ และเรียนรู้กันได้ครับ เวลาผิดพลาดจังๆก็จนตรอก หาทางออกไม่ถูกเหมือนๆกัน" เรื่องผลงาน เราไม่กล้าที่จะวิจารณ์ว่าดีไม่ดีแค่ไหนยังไง เพราะเราก็ไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้มาก่อน ที่สำคัญ ตัวเราเองก็ไม่ใช่คนเก่งภาษาอังกฤษอะไร แต่ก็อยากจะฝากไปบอกคนแปลว่าถึงแม้งานแปลครั้งนี้จะมีข้อผิดพลาด แต่ถ้าคุณทำการแก้ไขปรับปรุงผลงานชิ้นนี้หรือว่าชิ้นอื่นๆต่อไปให้รอบคอบและถูกต้องในอนาคต เราก็จะขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ ไม่มีใครไม่เคยทำผิด แต่เมื่อคุณพลาดไปแล้วและคุณตั้งใจแก้ไข สังคมก็จะอภัยให้คุณค่ะ จากคุณ : bloom - [ 4 ก.ย. 47 10:20:21 ]

ความคิดเห็นที่ 131 ผมคิดว่าอย่างน้อยประโยชน์ที่คุณ นกข ทำให้กับสังคมอย่างชัดเจนก็คือ ทำให้ผู้แปลคนอื่นๆ สำนักพิมพ์ รวมถึงผู้ที่มีส่วนร่วมอื่นๆ ต้องคำนึงถึงคุณภาพของงาน ไม่ใช่คิดว่าผู้อ่าน ผุ้บริโภคไม่มีปากมีเสียง แล้วนี่เองมิใช้เหรอ ที่เป็นประโยชน์หลักอันหนึ่งของสังคมไซเบอร์ เปิดช่องให้มีการสื่อสารระหว่างคนหลายๆคน เพิ่มพลังมวลชน สร้างความเข้มแข็งของผู้บริโภค เป็นกระบอกเสียงและสร้างอำนาจต่อรองให้คนธรรมดาที่ไม่มีโอกาสจะไปเรียกร้องกับใครได้ หากเป็นอย่างนั้น ผมว่าคุณ นกข ได้ทำประโยชน์ให้กับสังคมไม่น้อยทีเดียว ให้กำลังใจครับ จากคุณ : นายบุญมาก - [ 4 ก.ย. 47 10:22:01 ]

ความคิดเห็นที่ 132 คุณช่างไฟคงจะไม่ได้จบกฎหมายมาใช่มั้ยคะ เพราะถ้าคุณจบกฎหมายมา คุณคงไม่แสดงความเห็นแบบนี้ จากคุณ : เสือเหลือง - [ 4 ก.ย. 47 11:03:05 A:202.5.88.143 X: TicketID:056909 ]

ความคิดเห็นที่ 133 คุณนายบุญมาก คงไม่ได้อ่านความเห็นที่ 65 และ 67 ของผมกระมัง เรื่องผิดจรรยาบรรณ มันก็คงผิดอยู่ล่ะครับ แต่แม้กระนั้น ใครก็ไม่มีสิทธิ์ตามกฏหมายจะไปบังคับให้ใครตอบอีเมล์ภายใน 7 วัน หรือต้องถอนหนังสือจากตลาดหรือไม่อย่างไร ประเด็นของผมคือ คุณเรียกร้องเขาได้ (เพราะคุณเป็นผู้เสียหาย) แต่คุณบังคับขู่เข็ญเขาไม่ได้ (เพราะคุณไม่มีอำนาจตามกฏหมาย) ปล. 1 เรียกร้อง แปลว่า เขาจะตอบสนองต่อข้อเรียกร้องหรือไม่ก็ได้ แล้วแต่จิตสำนึกและวิจารณญานของผู้ถูกร้อง ปล. 2 บังคับขู่เข็ญ แปลว่า ถ้าลื้อไม่ทำตามที่อั๊วะว่า อั๊วะจะกระทืบลื้อให้แหลกคาตรีน คุณลองอ่าน ที่คุณ กขคงจฉ. เขียนมา แล้วคุณคิดว่า นั่นคือการเรียกร้อง หรือการบังคับขู่เข็ญ ล่ะครับ ผมเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของคุณ กขคงจฉ. แต่ผมไม่เห็นด้วยกับการขู่เข็ญบังคับขืนใจของคุณ กขคงจฉ. จากคุณ : ช่างไฟ - [ 4 ก.ย. 47 11:11:18 ]

ความคิดเห็นที่ 134 ไปกันใหญ่แล้วนะคะ ยังไงก็ขอแสดงความเห็นตรงที่ว่าถ้าแปลผิดจริง และทำให้เนื้อหาเปลี่ยนก็น่าจะยอมรับฟัง ความคิดเห็นคนอื่นบ้าง หนังสือเล่มหนึ่งก็ราคาไม่ใช่ถูก หากผู้บริโภครู้ว่าของที่ได้มาไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปก็คง แย่นะคะ คิดว่าคุณ นกข คงรู้สึกเช่นนี้ และก็เห็นด้วยว่า อย่างน้อยผู้แปลและบุคคลที่เกี่ยวข้องน่าจะแสดงความรับ ผิดชอบมากกว่านี้ คิดว่างานนี้ติเพื่อก่อ คงไม่ตั้งใจที่จะหัก หน้ากันหรอกค่ะ ใจเย็นๆกันนะคะ ขอให้เรื่องนี้จบลงด้วยดี ค่ะ จากคุณ : jeeziiz (jeeziiz) - [ 4 ก.ย. 47 12:11:34 ]

ความคิดเห็นที่ 135 ถ้าหนังสือเล่มนี้เป็นอาหาร แล้วมันเป็นพิษขึ้นมา เพราะมันด้อยคุณภาพ ทำให้คนกินเข้าไปท้องร่วงถึงตาย คุณคิดว่า ผู้จำหน่ายยังมีสิทธิที่จะวางจำหน่าย อาหารห่วย ๆ อย่างนี้อีกไหม ฉันใดก็ฉันนั้นแหละค่ะ อย่าพยายามตะแบงอีกเลยว่า ถึงหนังสือห่วยก็วางขายได้ไม่ผิดกฎหมาย ที่สำคัญมันไม่ได้บอกไว้ที่หน้าปกนะคะ ว่า....หนังสือแปลสุดห่วย.....ในรอบปี เชิญทดลองซื้อไปอ่านได้ ถ้าสนพ. ผู้แปล ประกาศออกมาโต้ง ๆ อย่างนั้น ดูซิว่า จะมีใครซื้อไปอ่านไหมคะ นี่เห็นชมกันเสียเลิศเลอ อย่างนี้เข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภคไหมคะ ถ้าเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค ก็ต้องถามต่อว่า แล้วมันผิดกฎหมายหรือเปล่า ก็คงต้องไปเปิดดู พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค อีกทีหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ดิฉันในฐานะผู้บริโภคที่หลวมตัวซื้อหนังสือเล่มนี้มา เพราะอ่านคำนิยมของอ.วรากรณ์ ดิฉันคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์ที่จะออกมาเรียกร้องความรับผิดชอบจากผู้เกี่ยวข้องนะคะ จากคุณ : อักษรสีฟ้า - [ 4 ก.ย. 47 12:13:43 ]

ความคิดเห็นที่ 136 มันเป็นเรื่องของจิตสำนึกคนแปล.. ถ้ามือไม่ถึง ไม่เคยเรียนนอก ก็ไม่เห็นมีใครว่า ไม่มีข้อกำหนดว่าคนแปลหนังสือขายได้ ต้องไปเมืองนอกมาอย่างน้อยเท่านั้นเท่านี้ปี.. มีคนแปลดีๆกันเยอะแยะตาแป๊ะขายขวด โดยที่ไม่เคยไปเมืองนอกเมืองนาซักแอะ แต่สิ่งที่เค้ามีคือความรักในงาน ไม่ชุ่ย ไม่มักง่าย ตะก่อนกว่าจะได้ข้อมูลปย.นึง วิ่งเปิดหนังสือ+พจนานุกรม+ปาทานุกรม+เอนซายโคปีเดีย ฯลฯแทบจะโดนล้มทับตาย ไหนจะต้องวิ่งแจ้นไปหาผู้รู้เฉพาะทางอีก สมัยนี้ง่ายสะดวกดายจะตายอย่างที่ใครๆบอก.. คลิกจิ๊กเดียว ได้ข้อมูลมาเป็นหน้าๆแล้ว.. แล้วยังมีหนังสือแปลคุณภาพสุดยอด...(เติมเอง)...เช่นนี้ออกมาได้ ต้องถือว่า.. ทึ่ง.. จริงๆ หุหุ จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 4 ก.ย. 47 12:17:51 ]

ความคิดเห็นที่ 137 ข้อเท็จจริงประการที่ 1- สนพ. ใหญ่แห่งหนึ่ง ผลิตหนังสือแปลที่มีข้อผิดพลาด "ค่อนข้างเยอะ" ดังที่คุณนิลกังขาได้นำมาเป็นตัวอย่าง และหลายคนก็เห็นด้วยว่า เป็นข้อผิดพลาดจริง ข้อเท็จจริงประการที่ 2 - ยังไม่มีการชี้แจงจนเป็นที่น่าพอใจว่าข้อเท็จจริงประการที่หนึ่งนั้น ไม่มีมูล ข้อเท็จจริงประการที่ 3 - อาจไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น ถึงแม้ข้อเท็จจริงประการที่หนึ่งจะเป็นความจริง ข้อเท็จจริงประการที่ 4 - บรรณาธิการไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบในกรณีนี้ได้ แต่ก็คงไม่มีใครยอมลาออกด้วยเรื่องนี้ (อย่าลืมว่าเขาอาจมีลูกเป็นโขยง) ข้อเท็จจริงประการที่ 5 - (ถึงแม้จะขัดกับความรู้สึกเมื่ออ่านกระทู้ของคุณช่างไฟและคุณคนเก่าคนแก่) แต่ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า เราคงไม่สามารถไปบังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ทุกคนเห็นแล้วว่า ถูกต้อง จากคุณ : Occam's razor - [ 4 ก.ย. 47 12:41:17 A:202.5.88.154 X: TicketID:044880 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ตามอ่านกระทู้นี่อยู่ห่างๆมานานแล้วครับ ไม่อยากที่จะเสนอตนเข้ามาให้ถูกด่า..แต่ก็เข้าใจครับว่านี่คือโลกของไซเบอร์..คือที่ๆทุกคนไม่มีตัวตน หากไม่พอใจใครสักคนหรือไปทานข้าวที่ร้านใดและได้รับบริการที่ไม่ถูกใจก็จะเข้ามาโพสท์คำวิจารณ์ และต่อต้านไม่ให้คนไปใช้บริการหรืออุดหนุนที่แห่งนั้นอีก..ผมไม่ได้ว่าใครมีสิทธิที่จะทำอะไรหรือไม่สมควรจะทำอะไร..แต่โลกของไซเบอร์เปิดโอกาสให้คนเล่นเวปบอร์ดที่แทบจะไม่มีตัวตนได้โจมตีธุระกิจหรือบุคคลโดยเอาชื่อจริงมาใช้ บางที่มันก้ไม่ค่อยจะยุติธรรมเลยเหมือนกัน..ผมไม่ได้พาดพิงถึงกระทู้นี้นะครับ แต่เคยเป็นขาประจำของห้องโทรโข่งก็จะเห็นกระทู้แนวโจมตีแบบนี้ทุกวัน..เข้ามาแบบว่าไม่มีตัวตนแค่ใช้นามแฝง.....ผมแค่จะขอออกความเห็นว่า การที่ส่งอีเมล์ไปทุกวันและบอกแกมบังคับให้ออกมาชี้แจงภายในระยะเวลาที่กำหนดให้นั้น ผมว่าจะเกินขอบเขตไปนิดนึงครับ แค่ส่งไปทุกวันนี้ก็เข้าข่าย Harassing แล้วครับ..ถ้าเป็นคุณเจอเมล์ประเภทนี้บ้างคุณจะรู้สึกอย่างไร....ผมออกความเห็นแค่นี้หวังว่าคงจะไม่ถูกด่านะครับ ตอนนี้รู้สึกว่าอารมณ์ของแต่ละคนจะแค้นใจกันเหลือเกิน ประมาณว่าถ้าประหารไม่ได้ก็ต้องเหยียบกันให้จมดินกันไปเลย ปล.. ไม่ได้เข้าข้างใครทั้งนั้นครับ แค่ความรู้สึกจากที่อ่านกระทู้นี้อยู่หลายวันแล้ว จากคุณ : JT. - [ 4 ก.ย. 47 13:20:36 ]

ความคิดเห็นที่ 139 ในฐานะที่พึ่งจะได้เรียนการแปลในเทอมนี้ ทำให้เข้าใจว่าการแปลมันยากมากแค่ไหน ในความคิดของหนู อ.หฤทัยอาจจะบกพร่องตรงที่ผิดในจุดที่ง่ายๆ และเก็บเอาแต่ใจความทางเศรษฐศาสตร์ โดยไม่ได้ใส่ใจในรายละเอียดตรงอื่นๆ ซึ่งเป็นความผิดพลาดอย่างหนึ่งของอาจารย์ เพราะผู้แปลที่ดีนั้นควรจะต้องระลึกอยู่เสมอว่างานที่เรากำลังแปลอยู่นั้นไม่ใช่งานของเรา เป็นงานของผู้อื่นที่เรานั้นเอางานของเขามานำเสนอในอีกภาษาหนึ่ง ซึ่งเราควร(อย่างมาก)ที่จะต้องรักษาสารที่ผู้เขียนต้นฉบับนำเสนอไว้ให้มากที่สุด แต่อย่างไรก็ตามหนูคิดว่างานแปลนั้นเป็นวรรณศิลป์อย่างหนึ่ง ถึงแม้ว่าอ.จะแปลไม่ได้เรื่องเลยก็ตาม เราก็ไม่ควรที่จะนำสิ่งเหล่านี้มาเป็นเครื่องมือประหัตถ์ประหารความรู้สึกของอ.ผู้แปล เพราะแค่นี้หนูก็มั่นใจว่าอ.คงแทบจะกระอักเลือดตายไปแล้ว หนูอยากให้ทุกคนมองถึงเจตนาเป็นสำคัญ และอยากให้นึกถึงสำนวนไทยที่ว่า ไม้ล้มข้ามได้ คนล้มอย่าข้าม จากคุณ : ลูกศิษย์อ.นันนี่ (guayjeng) - [ 4 ก.ย. 47 13:31:08 ]

ความคิดเห็นที่ 140 เห็นด้วยกับคุณช่างไฟครับ.. จากคุณ : ชาเขียว - [ 4 ก.ย. 47 14:06:00 ]

ความคิดเห็นที่ 141 ประเด็น ประเด็น ประเด็น เก็บหนังสือไปด่วน สินค้า defect เอาไปปรับปรุงแล้วค่อยเอามาขายใหม่ ................................ คนดีชอบแก้ไข คนจันไลชอบแก้ตัว (ไม่ได้สะกดผิด แต่เขาไม่ให้แปะคำนั้น ..แต่อยากใช้ เพราะเหมาะสม) จากคุณ : SS (SP700) - [ 4 ก.ย. 47 14:15:30 ]

ความคิดเห็นที่ 142 เท่าที่อ่านมาสรุปก็คือ ท่านอาจารย์ทั้งสองก็ยอมรับใช่ไหมครับว่าท่านผิดพลาดจริงดังเขาว่า? ว่าแต่ เวลาเกิดความผิดพลาดเนี่ย ก็ต้องแก้ไขใช่ไหมครับ ผมอ่านมาแล้วยังไม่เห็นตรงไหนเลยว่าท่านอาจารย์ทั้งสองจะแก้ไขความผิดพลาดนี้เลย มันไม่ใช่สิ่งดีหรอกนะครับที่ปล่อยเอาไว้ทนโท่เหมือนไว้ประจานตัวเองแบบนี้น่ะครับ ผมขอทักท้วงด้วยความเป็นห่วงจริงๆ นอกจากชาวบ้านเขาจะว่าไร้ความรับผิดชอบ ไร้จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ ต่องานของตัวเองแล้ว เขายังอาจจะหาว่าท่านอาจารย์ทั้งสองไม่มีมารยาท ไม่มีความเคารพในบทประพันธ์ดั้งเดิมก็เป็นไปได้นะครับ การแปลที่ทำให้ความหมายเดิมผิดเพี้ยนไป ในฐานะนักเขียน ไม่ว่าใครก็ต้องโกรธมากนะครับ เพราะเหมือนลบหลู่ดูหมิ่น ทำร้ายทำลายเกียรติของผู้เขียน เป็นโทษที่ไม่ดีเลยนะครับ ผมว่าเรื่องราวหนนี้อาจารย์ต้องรีบแก้ไขอย่างด่วนเลยครับ การออกมาชี้แจงก็ดี แต่ว่าแค่พูดว่าน้อมรับผิด แล้วรีบแก้ไขก็น่าจะจบนะครับ เรื่องราวเกิดขึ้นไม่ควรไปต่อความยาวสาวความยืดให้มันเดือดร้อนตัวเองเปล่าๆ ผมเดาว่าแค่นี้ท่านอาจารย์ทั้งสองก็คงจะเสียหน้าพอแรงแล้วใช่ไหมครับ แต่จะปล่อยให้เรื่องมันแดงทนโท่อยู่อย่างนี้ทำไม เสียหายถึงเกียรติยศชื่อเสียงที่อาจารย์สะสมมาเปล่าๆ นะครับ ชื่อเสียงเกียรติยศไม่ใช่ว่าสร้างได้ภายในวันสองวัน ต้องใช้เวลาเป็นปีๆ อดทนทำงานมาตั้งเท่าไหร่ เมื่อรู้ว่าผิดพลาด และได้ยอมรับแล้วก็รีบแก้ไขซะนะครับ ไม่งั้น ความดีที่ทำมาก็รังแต่จะยิ่งเสื่อมถอยลง ไม่ว่าเราจะรู้สึกว่าเราอยู่สูงแค่ไหน ไม่ว่าเราจะรู้สึกว่าเราเจ็บปวด คับแค้น และเสียใจแค่ไหน แต่หน้าที่และความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราได้ทำลงไปก็สำคัญนะครับ คนที่ไม่คำนึงถึงหน้าที่และความรับผิดชอบของตัวเอง คำว่าศรัทธาไม่มีความหมายคู่ควรกับคนคนนั้นเลยครับ จากคุณ : รพินทร์ - [ 4 ก.ย. 47 15:27:28 ]

ความคิดเห็นที่ 143 ตามอ่านมานานแล้วเหมือนกันค่ะ เห็นด้วยว่าหนังสือมันคืออาหารสมอง เอาอาหารคุณภาพไม่ดีมาขายตามท้องตลาด แถมป่าวประกาศว่าคนทำมีชื่อเสียงแค่ไหน ควรลองชิมมากเท่าไร แต่พอของตัวคุณภาพไม่ดีมีคนทักท้วง ก็บอกว่า ไม่ชอบใจก็ไม่ต้องกินสิ ชั้นจะขายของชั้น มีอะไรไหม อย่างนี้ กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคจะมีเอาไว้ทำไมกัน จากคุณ : medicolilith - [ 4 ก.ย. 47 16:15:53 ]

ความคิดเห็นที่ 145 "ความคิดเห็นที่ 108 ผมว่าผู้แปลยังไม่เข้าใจดีพอมั้งครับ ว่าแปลนิยายมันต่างจากการแปลตำรา จากคุณ : Yensid" อ่านความคิดเห็นนี้แล้วเกิดความสงสัย ตกลงการแปลไม่ว่าแปลตำราหรือแปลนิยาย ไม่ได้ใช้หลักการเดียวกันหรือครับคือต้องแปลให้ถูกต้องและไม่ให้เนื้อหาของต้นฉบับเสียหาย ขอให้กำลังใจคุณ นกข ครับ จากคุณ : ขุนเขาแมกไม้ - [ 4 ก.ย. 47 17:40:10 ]

ความคิดเห็นที่ 146 ติดตามกระทู้มานานค่ะ.. ขอมีส่วนร่วมในการให้กำลังใจคุณ นกข. ค่ะ.. คุณมาถูกทางแล้ว ไม่ขัดต่อหลักธรรมนูญแต่อย่างไร.. จากคุณ : รักแม่มากๆ (ชมบอย) - [ 4 ก.ย. 47 18:12:25 ]

ความคิดเห็นที่ 147 เห็นด้วยกับช่างไฟ และคุณชาเขียว จากกระทู้ก่อน ติเพื่อก่อ เพื่อต้องการการปรับปรุงแก้ไข ไม่จำเป็นต้องรุนแรงขนาดนี้ครับ 1 ส่งเมลแจ้ง สนพ คนแปล ว่ามีข้อผิดพลาด 2 โพสแจ้งให้คนทั่วไปรู้ แค่นี้พอแล้วครับ จริงๆ แล้วแค่โพสแจ้งให้คนทั่วไปรู้ ก็เป็นการประจาน สนพ คนแปล ไม่ให้ได้ผุดได้เกิดแล้วครับ จากคุณ : Rapeman - [ 4 ก.ย. 47 19:06:58 ]

ความคิดเห็นที่ 148 คุณช่างไฟ คำพูดในคห127 ไม่ใช่คานธีนะ แต่รู้สึกว่าจะเป็น ฟรังซัว วอลแตร์ จากคุณ : เบื่อคนเบี่ยงประเด็น - [ 4 ก.ย. 47 19:13:59 A:203.146.191.201 X: TicketID:064173 ]

ความคิดเห็นที่ 149 thank you นกข จากคุณ : draob - [ 4 ก.ย. 47 19:14:23 ]

ความคิดเห็นที่ 151 อ่าน ๆ ดูทั้งหมดก็เห็นแล้วว่า คนที่นี่ ชักยังไง ๆ เค้าผิด เค้าพลาด ก็ตำหนิ บอกเค้าถึงข้อผิดพลาด เค้าจะแก้ไข หรือไม่ เค้าทำเอง คุณได้บอกไปด้วยความหวังดีแล้ว ก็รอดูไปดิว่า เค้าจะแก้ไขหรือไม่ เห็นด่ากันจัง คนดีชอบแก้ไขฯ อะไรเนี่ยะ ตั้งแต่กระทู้เกิดขึ้น คุณถามตัวเองยังว่า ได้ให้โอกาสเค้าแก้ไขรึยัง ไม่ใช่เค้าเฮไหน ก็เฮตามกันไป ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย งานเขียนอะนะ เราไม่ได้อ่าน แต่งานเขียนก็เหมือนอาหาร บางคนกินแล้วก็ว่าดี บางคนกินก็ว่าไม่ดี เราไม่อ่าน เราเลยไม่รู้ว่า ถ้าเราอ่านจริง ๆ แล้ว จะดีหรือไม่ดี แต่เมื่อผู้ใหญ่ที่มีความรู้บอกว่าไม่ดี และไม่ดีตรงไหน ทางสนพ.และผู้แปล ออกมารับรู้ ก็ดูกันต่อไป ว่าจะเกิดอะไร ไม่ใช่มาโวยวายให้มันได้อะไรขึ้นมา โวยวายกันทำไม ด่าเค้ากันมากมาย ยังกะเค้าไปทำลายชีวิตใครแน่ะ อ้อ นี่ไม่ใช่คนทางสนพ. ไม่รู้จักอ.ที่แปล แต่อ่านทู้นี้มาหลายวันแล้ว มันรู้สึกว่า ทำกันเกินไปรึป่าว จากคุณ : ~amily~ - [ 4 ก.ย. 47 20:33:09 ]

ความคิดเห็นที่ 152 ครับ ว่างๆก็หาบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาอ่านประเทืองปัญญาบ้างก็ดีครับ จะได้รู้ว่า ประชาชนชาวไทย มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรบ้าง มีเสรีภาพที่จะทำอะไรบ้าง จะได้ไม่ไปก้าวก่ายสิทธิ์คนอื่น หรือละเมิดเสรีภาพของผู้อื่น ส่วนเรื่องจะเรียกร้องหาจริยธรรมของผู้อื่น คุณสามารถทำได้ แต่เขาจะตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของคุณหรือไม่ มันเป็นเรื่องแล้วแต่จิตสำนึก และวิจารณญานของเขา ซึ่งถ้าเขามีความรับผิดชอบต่ำ เขาอาจจะนิ่งดูดายไม่ทำอะไรเลยก็เป็นได้ เพราะกฏหมายเองก็ไม่ได้มีบทลงโทษในเรื่องนี้ แล้วถ้าคุณคิดว่าคุณเสียหายทางแพ่งจากกรณีนี้ คุณสามารถฟ้องร้องตามกระบวนการยุติธรรมได้ ทุกคนอยู่เท่าเทียมกันตามกฏหมายครับ จากคุณ : ช่างไฟ - [ 4 ก.ย. 47 20:37:36 ]

ความคิดเห็นที่ 153 ดีจังที่เราไม่ชอบอ่านหนังสือแปล ถ้าจะซื้ออ่านคงซื้อต้นฉบับ อ่านที่คุณนกข.เขียนแล้วก็อ่านไปขำไปไม่น่าเชื่อว่าจะแปลได้หลุดโลกขนาดนี้ ผิดตั้งพันกว่าแห่ง ขอโน๊ตชื่อสองอาจารย์นี้ไว้ละกัน ถ้าแปะอยู่บนหนังสือเล่มไหนจะได้บอกคนรู้จักว่าอย่าซื้อ จากคุณ : 55*66 - [ 4 ก.ย. 47 20:57:22 A:82.141.53.43 X: TicketID:018297 ]

ความคิดเห็นที่ 154 ค่ะ พี่เก่งจัง พี่รู้กฎหมายดี๊ดี เอะอะ อ้างรัฐธรรมนูญไว้ก่อน คนอื่นมันโง่ ไม่รู้จักเอารัฐธรรมนูญมาอ้าง แหม ตั้งแต่อ่านมานี่ ฉันก็ยังไม่เห็นคุณ นกข. เขาบอกเลยว่างานแปลเรื่องนี้ผิดกฎหมายข้อไหน พี่ก็ช่างลากให้ไปถึงรัฐธรรมนูญได้ เก่งซะไม่มี!! จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 4 ก.ย. 47 21:36:27 ]

ความคิดเห็นที่ 155 ถูกกฎหมาย แต่ไร้ศีลธรรม จริยธรรม ขาดจรรยาบรรณ เจ๋งค่ะ ขอให้คนแบบนี้เจริญ ๆ นะคะ ชาติจะล่มจมทางศีลธรรมก็ช่างมัน จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 4 ก.ย. 47 21:38:34 ]

ความคิดเห็นที่ 156 แล้วถ้าคนที่ไม่ได้เล่นเน็ต ไม่เคยเห็นกระทู้เหล่านี้ จะทราบมั้ยน้อว่าต้องนำหนังสือไปเปลี่ยน หุหุ เป็นกำลังใจให้คุณนิลกังขาค่ะ และขอบคุณที่เปิดประเด็นให้กับผู้บริโภคอย่างพวกเรา จากคุณ : nyx (nyx) - [ 4 ก.ย. 47 21:41:09 ]

ความคิดเห็นที่ 157 คุณๆที่กำลังคิดว่าทำแบบนี้ไม่ผิดรัฐธรรมนูญ และไม่ผิดกฏหมายมาตราใดๆ กรุณาอย่าลืมว่า ประเด็นสำคัญคือ หนังสือเล่มนี้แปลผิดอย่างเลอะเทอะไปหมด ผิดขนาดนี้ สนพ.ก็ยอมรับแล้วว่าผิด ก็ยังวางขายอยู่โดยมีคำโฆษณา คำนิยมของอ.วรากรณ์หราอยู่ในเล่ม อย่างนี้ไม่ได้ถือเป็นการหลอกลวงผู้บริโภคหรอกหรือคะ ขอเป็นกำลังใจให้คุณนิลกังขา และขอสนับสนุนให้แจ้งต่อผู้เขียนต้นฉบับภาษาอังกฤษด้วยค่ะ จากคุณ : นนทิรา - [ 4 ก.ย. 47 21:50:09 A:81.62.71.26 X: TicketID:000676 ]

ความคิดเห็นที่ 158 เบื่ออีช่างไฟจริงๆ พยายามลากเข้าประเด็นการละเมิดสิทธิอยู่นั่นแหละ คล้ายๆเหมือนกับเป็นคนขวางโลกสําคัญตัวผิดอยู่เนืองๆจะเห็นได้ว่ากระทู้ไหนที่ได้รับความสนใจก็จะพยามมีส่วนร่วมโดยการฉีกประเด็นหรือเสนอความคิดที่แตกต่างคนส่วนใหญ่ อย่างกระทู้นี้เป็นตัน พยายามโยงเข้าเรื่องละเมิดสิทธิระหว่างคุณนกข กับผู้แปลไปได้ แล้วไม่ทราบว่าคุณนกข กล่าวข้อความไหนที่คุณช่างไฟเห็นว่าเป็นการข่มขู่กรรโชกซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้เสียหายในกรณีนี้??? สิ่งที่คุณกล่าวหาเขาอยู่มันก็เหมือนกับการที่คุณแปลข้อความคุณนกข แล้วใช้ความนึกคิดของตัวเองตีความว่าเป็นการข่มขู่ เมื่อไม่นานมีกระทู้หนึ่งช่วยหาคนแปลอีเมล์ที่ทาง Paypal ส่งมา คุณช่างไฟก็อยากแสดงส่วนร่วมแบบมั่วนิ่มโดยไม่ได้ลืมหูลืมตาแม้นกระทั้งอ่านอีเมล์อันนั้นสักนิด บอกเจ้าของกระทู้ว่าเป็นเมล์ธรรมดาที่เขาแจ้งมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับ Policy แปลมั่วๆแบบนี้สงสัยจะคุ้นเคยกับผู้แปลหนังสือเล่มนี้เป็นอย่างดี จากคุณ : idoit phd cambridge - [ 4 ก.ย. 47 22:43:44 A:66.69.132.22 X: TicketID:027949 ]

ความคิดเห็นที่ 159 เรื่องกฎหมายผมเองก็ไม่สันทัดนัก แต่ผมรู้สึกว่าแบบนี้มันเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภคอยู่พอสมควร ความเสียหายเกิดขึ้นมั๊ย ดูแล้วก็เห็นว่าเกิดขึ้นจริง แต่ถ้าถามว่าจะให้เจ้าตัวไปฟ้องร้องเอาเงินคืน ทุนทรัพย์ในคดีก็คงจะร้อยกว่าบาท ถามว่าร้อยกว่าบาทเป็นประเด็นในเรื่องนี้มั๊ย ทุกคนคงเห็นว่าไม่ใช่ ผมไม่ทราบว่าทุกท่านเห็นว่าประเด็นมันอยู่ตรงไหน ส่วนตัวผมเห็นว่ามันอยู่ตรงที่หลอกลวงประชาชน ของห่วยเอามาหลอกว่าเป็นของดี แบบนี้มันไม่น่าจะถูกต้องนะครับ แบบนี้คงไม่ต้องคิดถึงเรื่องผู้เสียหาย ผมก็ไม่ใช่ผู้เสียหาย ผมไม่ได้ซื้อหนังสือเล่มนั้น แต่เมื่อผมทราบข้อเท็จจริงว่ามันแปลผิดมากขนาดนั้น ผมก็อยากจะเตือนคนอื่นเช่นกัน ผมว่าในบางครั้งกฎหมายใม่ใช่สิ่งที่ยุติธรรมที่สุด บางครั้งไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด เราจึงเห็นการแสดงออกทางด้านอื่นที่ไม่ใช่กระบวนการทางกฎหมายอยู่บ่อยครั้ง เช่นเดียวกับกรณีนี้ หากจะไปฟ้องให้ถอดหนังสือออกจากตลาด คงใช้เวลานานพอสมควร ระหว่างนั้น หนังสือจะขายไปอีกเท่าไหร่ และผู้บริโภคที่ไม่รู้เรื่องราวจะต้องเสียหายอีกเท่าไหร่ คุณนกข.ออกมาปกป้องผลประโยชน์ของผู้อ่านผมเห็นว่าเป็นเรื่องดี ถามว่าแกมีหน้าที่ทำแบบนี้ไหมก็เห็นว่าไม่ใช่ เวลาที่เสียไปกับการตรวจสอบทั้งหมดนี้คงมากอยู่ ต้องขอโทษ แต่ว่าถ้าแกเอาเวลาทั้งหมดไปนั่งขอทานอาจจะได้เงินมากกว่าค่าหนังสือไปแล้ว ไม่ต้องไปฟ้องเอาก็ได้ แกจะวิจารณ์เสียดสีไปเสียหน่อยก็ไม่น่าจะผิดนัก อาจจะด้วยว่าแกเป็นคนมีสไตล์การเขียนแบบนั้น แกจะส่งจดหมายเร่งให้กลุ่มบุคคลนั้นตอบ 7 ฉบับ ก็อาจจะด้วยว่าแกอยากได้คำตอบจริงๆ มองกลับกันก็เห็นว่าไม่น่าจะผิดกฎหมายยังไงที่แกส่งไป7ฉบับ เทียบกับกลุ่มคนที่เอาหนังสือห่วยมาหลอกขายก็คงเห็นชัดว่าใครเป็นคนผิดกว่า หนังสือห่วยมีมากมายในตลาด ถามว่าทำไมมาจิกแต่เล่มนี้ ขอถามกลับว่าแล้วทำไมไม่มีใครจิกเล่มอื่น ทุกคนอ่านแล้วก็ผ่านไป รู้ว่าผิดอาจจะหัวเราะในใจแต่ก็ให้เรื่องนั้นมันผ่านไปตามเวลา หนังสือที่ห่วยๆก็ขายกันต่อไป เพราะคนไม่รู้มากกว่าคนที่รู้ และคนที่รู้เขาก็ไม่ทำอะไรกับมัน ทุกคนมีภาระหน้าที่ ใม่ใช่ทุกคนที่จะต้องเสียเวลามาจับผิดหนังสือให้คนอื่นดู เป็นผมผมก็อาจจะไม่ทำ อันนี้ผมนับถือคุณนกข.และขอบคุณมา ณ ที่นี้ ทุกๆอย่างต้องมีจุดเริ่มต้นทั้งนั้น อยู่ที่ว่าจะเริ่มตรงไหน แต่คงไม่ใช่ทั้งหมดในคราวเดียว ในสายตาผม หนังสือเล่มนี้ก็ดวงแตกพอสมควรที่ดันมาผ่านตาคุณนกข.เข้า การที่คุณนกข.จิกให้ถึงที่สุดมันก็ดี จะได้มีกรณีตัวอย่างให้เห็น ไม่ใช่ว่าขอโทษแล้วก็จบ พอคนลืมก็ตั้งหน้าตั้งตาแหกตาประชาชนต่อไป ผมเห็นด้วยที่จะแจ้งเจ้าของผลงานครับ ผมเห็นว่ากรณีของหนังสือนี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาคุณภาพหนังสือแปลของไทยให้ดีขึ้นก็เป็นได้ ในส่วนที่ท่านอาจารย์ทั้งสองออกมาชี้แจงนั้นผมก็ชื่นชม แต่เห็นว่าไม่ค่อยมีน้ำหนักสักเท่าไหร่ การที่เห็นว่าของบางอย่างดี อยากจะให้คนอื่นได้มีส่วนร่วมรับรู้นั้นเป็นเรื่องดี ผมยกย่อง แต่การที่ไม่รู้ศักยภาพของตัวเองแล้วยังดึงดันทำ ผมเห็นว่าเลินเล่อไปสักหน่อย ท่านอาจารย์ทราบว่าท่านเชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ แต่ก็รู้ตัวว่าไม่แตกฉานในด้านอื่น เช่นวัฒนธรรมตะวันตก เมื่อทราบว่าตัวเองไม่สันทัดในด้านใด การที่จะหาผู้แปลร่วมอีกคนมาช่วยตรวจในด้านนั้นน่าจะเป็นการดีกว่านะครับ ส่วนท่านอาจารย์อีกท่านนั้นผมเห็นว่ายังไงก็ไม่น่าจะแก้ตัวขึ้น เพราะชมเชยอย่างเกินไปจริงๆ ที่ผิดที่สุดก็คงเป็นบก. ที่ปล่อยให้งานแบบนี้ออกมาขายได้ ท่านรู้ว่าห่วยแต่ยังจะดื้อขายรึเปล่าก็ไม่ทราบ และที่สุดคือสำนักพิมพ์ที่ยังไม่แสดงการรับผิดชอบที่ดีกว่านี้ เป็นต้นว่าการเก็บหนังสือออกจากตลาด แบบนี้มันเข้าทีว่า คนรู้ก็เอามาเปลี่ยน คนไม่รู้ก็เสียโง่กรูไปแล้วกัน แบบนี้มันไม่น่าจะถูกนะครับ จากคุณ : Ganz - [ 4 ก.ย. 47 23:19:34 ]

ความคิดเห็นที่ 160 คุณ คคห.150 ถ้าคุณคิดได้แค่นี้ผมก็สงสารคุณจังครับ..ผมเข้ามาออกความเห็นแค่กระทู้เดียวก็โดนเข้าข่ายหาว่าโดนส่งมาจาก นสพ ไปเสียแล้ว ผมไม่มีเวลาพอที่จะนั่งอ่านหนังสือเป็นเล่มๆ และก็ไม่รู้จักผู้เขียนสักคน..แต่ผมก็ไม่จำเป็นจะต้องมานั่งอธิบายหรืออะไร ..เคยจำได้ว่าอ่านผ่านที่ไหนมาสักแห่งหนึ่งนานแล้วว่า "การออกความเห็นที่ดีที่สุดก็คือความเห็นที่ผู้รับฟังต้องการจะได้ยิน" ประมาณว่าถ้าได้ยินสิ่งที่ตนอยากจะได้ฟังก็ชอบและชมเชยผู้ออกความเห็นตนนั้น แต่ถ้าเป็นสิ่งที่ตนเองไม่อยากจะได้ยิน ก็จะลืมตัวแสดงการต่อต้านออกมาประมาณว่านั่งแทบจะไม่ติดเลย..จิตวิทยาครับ.. ก็อย่างที่คุณบอกว่าไปดีกว่านั่นแหละ แต่คุณก็ทนไม่ได้ต้องกลับเข้ามา"ต่อให้จบ".....ผมยืนยันอีกทีว่าผมไม่รู้จักใครทั้งนั้นในบอร์ดนี้ นอกจากแค่ "นามแฝง" และก็แค่สงสารผู้ที่ถูกโจมตีอยู่ขณะนี้แหละครับ..นี่แหละครับโลกไซเบอร์ที่ทุกคนไม่มีตัวตน เป็นเหมือนดาบสองคมครับ ..เป็นที่ๆทุกคนเข้ามาศึกษาหาความรู้ หรือแลกเปลี่ยนความเห็นความรู้..แต่ถ้าใช้ไม่ถูกทางก็สามารถทำลายใครก็ได้ในระยะเวลาสั้นๆ...ปรติผมจะอยูห้องTechครับ จะช่วยเหลือผู้เดือดร้อนหรือบางที่ก็ไปขอความช่วยเหลือเอง และจะหลีกเลี่ยงการออกความเห็นในกระทู้แบบนี้ครับ..แค่อันนี้เป็นอันแรก ประมาณว่า ยื่นจมูกเข้ามาก็โดนกัดเสียแล้ว ผมเข้ามาห้องไกลบ้านก็มาอ่านและตอบคำถามเท่าที่รู้ ก็เห็นกระทู้แนวโจมตีแบบนี้ครั้งแรกครับ เรียกว่ากระทู้เกี่ยวพันถูกตั้งขึ้นมาเพื่อโจมตีเพิ่มชนิดเอาให้ไม่ต้องไปเกิดอีกเลย เดินไปไหนก็คงต้องเอาปี๊ปคลุมหัว มันถึงจะสะใจประมาณนั้น บางกระทู้อ่านแล้วก็พอได้ใจความ..บางกระทู้เห็นแค่คารมฝีปากก็พอจะนึกภาพคนเขียนออกครับ กลัวเลย จากคุณ : JT. - [ 4 ก.ย. 47 23:30:22 ]

ความคิดเห็นที่ 161 ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นประเด็นร้อนแรงได้ขนาดนี้ เราไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย แต่คุณภาพของงานโดยรวม ถึงขนาดอ่านแล้วไม่ได้ใจความเลยหรือสื่อสารอะไรไม่ได้เลย หรือเปล่าคะ ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ภาษาอังกฤษไม่แตกฉานพอที่จะอ่านนิยายภาษาอังกฤษให้เข้าใจทั้งเล่มได้ จึงยินดีที่จะซื้อหนังสือแปลสักเล่ม ถึงแม้จะรู้ว่าคุณภาพมันห่วย  เพราะคิดว่าดีกว่าไม่ได้บริโภคความรุ้อะไรเสียเลย ขอบคุณ นกข. ที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภคอย่างดิฉัน อย่างน้อยก้อได้รู้ว่าคุณภาพของสิ่งที่เราจะบริโภคเข้าไปเป็นอย่างไร แต่รู้สึกว่าความเห็นของทุกคนในนี้ดูจะรุนแรงไปสักนิด สำรับความผิดพลาดของท่านผู้แปล  ซึ่งมีเจตนาดี ที่จะแปลหนังสือภาษาอังกฤษดีๆ สักเล่ม ให้คนไทยได้อ่านกัน ถึงแม้จะผิดพลาดเยอะไปหน่อย  จะคาดคั้นเอาเป็นเอาตายกับเขาเลยเหรอคะ ถ้าดิฉันเป็นคนหนึ่งซึ่งรักอยากจะแปลหนังสือที่ดิฉันชอบให้ทุกคนได้อ่าน คงคิดหนักค่ะว่าถ้าเกิดผิดพลาดขึ้นมาบ้าง จะถูกสับเละแบบนี้หรือเปล่า เห็นทีคงต้องล้มเลิกความตั้งใจ เพราะคิดว่าตัวเองคงรับคำวิจารณ์รุนแรงบนโลกcyberนี้ไม่ไหวล่ะค่ะ  ทำอย่างกับจะฆ่าจะแกงกัน   จะบีบคั้น หรือประจานกันจนไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดกันเลยเหรอคะ หนังสือเล่มนี้เป็นกึ่งนวนิยายไม่ใช่เหรอคะ  ถึงคุณภาพจะไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็น แต่บริโภคเข้าไปใช่ว่าจะตายวันตายพรุ่ง  ยังไงก้อคงได้ประโยชน์บ้าง ดีกว่าไม่ได้รับอะไรเข้าไปในสมองเสียเลย ส่วนเรื่องคำนิยม  คนที่เขียนเขาอาจจะพึงพอใจในงานลักษณะนี้จริงๆ ก้อได้  ถ้าเค้าเห็นว่าดีเขามีสิทธิ์ที่จะเขียนชมหรือเปล่าคะ   แล้วถ้าเค้าสุ่มสี่สุ่มห้าเขียนไป ก้อถือเสียว่าเหมือนเป็นการโฆษณาอย่างเหนึ่งก้อแล้วกัน ถือเสียว่ามันเป็นสิ่งที่เหมือนกับโฆณาสินค้าของดารานักร้องนั่นแหละล่ะค่ะ  คุณเชื่อหรือคะว่าทุกคนเค้าใช้สินค้านั้นจริงๆ วรรณกรรม ต่างกับอาหารนะคะ บริโภคของคุณภาพไม่เต็มตามโฆษณาคงไม่ถึงกับป่วย หรือ ตายหรอกค่ะ  อย่างดีก้อแค่เพิ่มปริมาณขยะในสมอง ถ้าเป็นอาหารบูดเน่าเสีย ไม่มีคุณภาพ เต็มไปด้วยเชื้อโรคก้อว่าไปอย่าง อย่างงี้ถือว่าเป็นอันตรายแค่ผู้บริโภคจริง อย่างต้องมีบทลงโทษให้เด็ดขาด จะสนับสนุนเต็มที่ให้รบรา ฆ่าฟันกันให้ตายไปข้างนึง ท้ายนี้ดิฉันเคารพในสิทธิของท่านผู้แปลค่ะว่า ท่านมีสิทธิที่จะออกมาขอโทษผู้อ่านหรือไม่ก้อได้ แต่เมื่อมีผู้ติติงมา หากท่านเห็นว่าท่านมีข้อบกพร่องจริง และยอมรับว่ามันสมควรได้รับการแก้ไข ก้อควรน้อมรับความเห็นและแก้ไขไปเถอะค่ะ เพราะผู้บริโภคก้อย่อมอยากได้สิ่งที่คุ้มค่าที่สุดกับเงินที่เสียไป แต่ถ้าท่านไม่ยอมรับ คุณๆทั้งหลายจะไปบังคับท่านได้ด้วยสิทธิอะไร มาตรฐานจริยธรรมของแต่ละบุคคล  อาจจะไม่เท่ากัน จะบังคับให้ท่านคิดเหมือนคุณได้หรือคะ อันนี้วิจารณ์ด้วยความเห็นอย่างเป็นกลางนะคะ ไม่ได้เป็นหน้าม้าของใคร และไม่ได้เข้าข้างใครด้วย แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 47 23:51:32 จากคุณ : อ้วนล่ำดำเตี้ย - [ 4 ก.ย. 47 23:38:20 ]

ความคิดเห็นที่ 162 คุณช่างไฟครับ ไม่ทราบว่าทำอย่างไรจึงจะเรียกว่า "การขู่เข็ญบังคับขืนใจ" ครับ ช่วยยกตัวบทกฎหมายให้ผมเข้าใจนิดนึงได้ไหมครับ พอดีไม่ได้จบกฎหมายมา จากคุณ : :-P (:-P) - [ 4 ก.ย. 47 23:52:56 ]

ความคิดเห็นที่ 163 เข้าเรื่องหัวกระทู้ดีกว่าครับ ผมเองไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้หรอกครับ แต่ถ้ามันแปลผิดพันกว่าที่จริง ๆ ถือว่ารับไม่ได้ กับคำนิยม และการโฆษณา ตามที่กล่าวอ้างไว้อย่างเลอเลิศ ตรงนี้ ก็เข้าข่ายหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อ และถ้าหากทางสำนักพิมพ์ยังปล่อยให้หนังสือที่มีการแปลผิดพลาดมากขนาดนี้วางขายต่อไป ก็ถือว่าเป็นการไร้ความรับผิดชอบอย่างมาก ส่วนที่มีคนมาอ้างว่า เป็นสิทธิของเขาที่จะวางขาย ตรงนี้ละครับที่เป็นประเด็น ... อย่างผม เมื่อทราบว่าหนังสือนี้ มีข้อบกพร่อง ผมย่อมไม่ซื้อแน่นอน แต่ผู้ที่ไม่ทราบล่ะครับ ถ้าเขาเชื่ออย่างบริสุทธิใจตามคำกล่าวอ้างไว้ ว่าหนังสือนี้ดีจริง แล้วนำไปประกอบการเรียนเศรษฐศาตร์โดยเชื่ออย่างผิด ๆ ว่าถูกต้อง อะไรจะเกิดขึ้นล่ะครับ เขาเหล่านั้น จะไม่เข้าใจอย่างผิด ๆ ไปด้วยหรือเปล่า แล้วใครจะรับผิดชอบ เพียงแค่การแปลประโยคง่าย ๆ ยังผิดเลย แล้วผมจะมั่นใจได้อย่างไรว่า เนื้อหาที่เกี่ยวกับหลักเศรษฐศาสตร์ จะถูกต้อง เอาเป็นว่า ถ้าสำนักพิมพ์จะรับผิดชอบอย่างจริงใจ ก็ควรจะเก็บหนังสือคืน แล้วพิมพ์ใหม่โดยแก้ไขให้ถูกต้อง ผิดก็คือผิด ไม่ควรมาแก้ตัว ควรแก้ไขมากกว่า จากคุณ : ป้ายแดง - [ 4 ก.ย. 47 23:59:13 ]

ความคิดเห็นที่ 164 ไม่เคยอ่านเล่มนี้ ถ้าทีมผู้ผลิตยอมรับว่าพลาดไปแล้วจริงๆ ก็ไม่น่าจะตะแบงขายต่อ ย้ำ!! ถ้ายอมรับว่าผิดพลาดแล้ว อย่าตะแบงขาย ว่าแล้วก็จะไปหาทั้งฉบับภาษาอังกฤษและฉบับแปลภาษาไทยมาอ่านประกอบกัน แต่จะจัดไว้ที่หมวดตลกขบขัน และเมื่อวันหนึ่งข้างหน้าเมื่อผมกลายเป็นอาจารย์สอนการแปล ผมจะใช้หนังสือคู่นี้ให้เป็นตัวอย่างการแปลที่ผิดพลาด และนักศึกษาไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง ในแง่นี้ ทั้งสำนักพิมพ์ ผู้แปล ผู้เขียนคำนิยม จะได้รับทั้งชื่อเสียงและเงินทองไปมากๆและยาวนาน จากคุณ : To be, or not to be. - [ 5 ก.ย. 47 00:02:47 A:203.107.205.68 X: TicketID:000737 ]

ความคิดเห็นที่ 166 ตอบหัวข้อกระทู้ว่า อัปยศจริง จากคุณ : KTR - [ 5 ก.ย. 47 00:08:01 ]

ความคิดเห็นที่ 167 คุณ ~amily~ คะ ไม่ทราบว่าคุณได้อ่านนครบหมดหรือเปล่า..หนังสือนี้เป็นหนังสือที่ใช้ประกอบการสอนวิชาเศรษฐศาสตร์ค่ะ (ผู้แปลก็บอกมา) นั่นหมายความนักเรียนนักศึกษาในวิชานี้ต้องซื้อมาอ่านนะคะ โดยแฝงอรรถรสของนิยายสืบสวนเข้าไปด้วย (ต้นฉบับเขียนโดยศาตราจารย์สองท่าน) คุณนกข.ไม่ได้เอาส่วนที่ผิดในเชิงวิชาการมาให้พวกเราดู เพราะ เอาแค่คำง่ายๆมาให้ เพื่อละไว้ในฐานที่เข้าใจว่า ตรงส่วนสำคัญก็มีผิดอีกมากมายจนผิดเพี้ยนไปจากต้นฉบับเดิม.. และคุณทราบไหมคะ ว่า ถ้า ทางต้นลิขสิทธิ์ทราบว่าเอาของเขามาแปลผิดๆเพี้ยนๆจนหมดรูปขนาดนั้น.. เขามีสิทธิ์ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ค่ะ..ตรงนี้คือทางสำนักพิมพ์ที่ต้องรับผิดชอบ รับรองเลยค่ะ คราวนี้ได้อับอายเขาทั่วแน่ๆ จากคุณ : WIWANDA - [ 5 ก.ย. 47 00:38:20 ]

ความคิดเห็นที่ 168 เพื่อความกระจ่างเพิ่มเติม..ขอลอกข้อความจากกระทู้โน้นมาให้อ่าน กฏบัตรสากลว่าด้วยหนังสือ (Charter of the book) เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 1971 มีทั้งหมด 9 มาตรา แต่ขอยกข้อความบางตอนมาคือ มาตรา 1 ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการอ่าน 'สังคมมีหน้าที่กระทำทุกอย่างเพื่อให้แน่นอนว่า ทุกคนมีโอกาสที่จะได้ รับประโยชน์จากการอ่าน เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ของโลกยังอ่าน หนังสือไม่ออก จึงไม่อาจเข้าถึงหนังสือได้ รัฐจึงมีหน้าที่ช่วยขจัดการไม่รู้ หนังสือให้หมดไป---' มาตรา 2 หนังสือเป็นสิ่งจำเป็นต่อการศึกษา '---จำเป็นต้องมีการปรับปรุงคุณภาพ และเนื้อหาของหนังสือเพื่อการศึกษา ในทุกๆ ประเทศในโลก การผลิตหนังสือเรียนในภูมิภาคของโลกจะมีส่วน ช่วยผู้จัดพิมพ์ในแต่ละประเทศ ให้เพิ่มพูนคุณภาพหนังสือเรียนและ'หนังสือ ทั่วไป' เพื่อการศึกษาให้ได้มาตราฐานตามต้องการ หนังสือทั้งสองประเภทนี้ เป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับห้องสมุดโรงเรียน และสำหรับขจัดความไม่รู้' มาตรา 3 สังคมมีหน้าที่พิเศษในการสร้างสรรค์สภาวะที่เอื้ออำนวยให้ นักเขียนมีโอกาสร้างงานของตนได้เต็มที่ 'ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ระบุว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับความ คุ้มครองทางจิตใจและผลประโยชน์ทางวัตถุ ซึ่งจะได้จากผลงานของเขาใน ทางวิทยาศาสตร์ วรรณกรรม หรือ ศิลปกรรม ความคุ้มครองนี้ควรให้แก่ ผู้แปลด้วย เพราะว่าผลงานของเขา(หรือเธอ) เปิดขอบฟ้าให้แก่หนังสือ ผ่าน กำแพงภาษาออกไปได้ ทำให้ผู้เขียนได้พบกับผู้อ่านนอกเขตพรมแดนประเทศ ของเขาได้ เนื่องจากว่าทุกประเทศมีสิทธิจะแสดงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ของตน รักษาไว้ซึ่งความหลากหลาย ซึ่งจำเป็นต่ออารยธรรม ประเทศต่างๆ จึงควรสนับสนุนนักเขียนให้ทำหน้าที่สร้างสรรค์ และควรส่งเสริมนักแปลเพื่อ เปิดโอกาสให้คนจำนวนมากได้เข้าถึงความเจริญทางปัญญา อันสะสมอยู่ใน วรรณกรรมของแต่ละภาษา รวมทั้งในภาษาที่มีผู้ใช้น้อย' เอาแค่นี้นะ อยากบอกว่า นานาชาติให้การยกย่องนักแปลเสมอด้วยนักเขียน ดังนั้นงาน แปลจึงมีเกียรติและศักดิ์สิทธิ์ หนังสือไม่เหมือนกับหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร ที่อ่านแล้วก็ทิ้งไป หนังสือเล่มนั้นๆ จะอยู่คู่โลกไปอีกเป็นร้อยเป็นพันปี อยู่ใน ห้องสมุด และอยู่ตามบ้าน จะมีคนอีกหลายรุ่นหยิบไปอ่าน และเข้าใจผิดไปอีก นานแสนนาน แล้วใครจะเป็นผู้ไปแก้ความเข้าใจผิดนี้ให้เขา ดังนั้นการทำ หนังสือผิดๆ จึงเป็นความรับผิดชอบที่สาหัสยิ่งในทางจริยธรรม ผู้แปลยังมือใหม่และไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ ไม่ควรนับจะต้องรับผิดชอบเต็มที่ แต่ บก.ซึ่งมีอาชีพนี้ และรู้ดีถึงสิ่งเหล่านี้ ได้ละเลยหน้าที่ของตนอย่างเลวร้าย สมควรแสดงความรับผิดชอบออกมา ให้สมกับที่เป็นมืออาชีพจึงจะถูกต้อง สำหรับผู้เขียนคำนิยม ไม่ได้มีความหมายอะไรมากนักต่อคุณค่าของหนังสือ จากคุณ : อย่าคิดน้อยๆ - [ 4 ก.ย. 47 11:08:07 A:203.156.29.64 X: TicketID:063472 ] ขอขอบคุณ คุณ อย่าคิดน้อยๆ มา ณ.ที่นี้ด้วยค่ะ จากคุณ : WIWANDA - [ 5 ก.ย. 47 00:42:36 ]

ความคิดเห็นที่ 169 เห็นด้วยกับคุณGanz.. "ถ้า"เป็นอาจารย์ทั้งสองท่านจริงๆ ที่มาตั้งกระทู้ชี้แจง( ขอโทษ? )เช่นนี้จริงๆ ก็.. ก็ไม่แปลกอะไร ที่จะปล่อยงานเช่นนี้ออกมาชมโลก หุหุ . คุณWIWANDA .. เหนื่อยหน่อยนะคะ บางคนเขาเฮไหน ก็เฮตามกันไป ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย.. อ่ะค่ะ งิงิ อั้ยยยยย ยัยว่านน้ำ ให้มันได้ยังงี้สิเนี่ย.. หล่อนน่ะ.. แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 47 01:00:47 จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 5 ก.ย. 47 00:56:08 ]

ความคิดเห็นที่ 171 อืมม... แค่รู้สึกถึงความ "ไม่พอดี" ใน action เท่านั้นล่ะครับ จากคุณ : ชาเขียว - [ 5 ก.ย. 47 04:13:00 ]

ความคิดเห็นที่ 172 แล้วความพอดีใน action แบบของคุณชาเขียวเป็นงัยค่ะ? ถ้ากรณีเกิดขึ้นในอเมริกาเช่นไป Barns & Noble ซื้อหนังสือห่วยๆเล่มหนึ่งอ่านแล้วไม่พอใจดิฉันยังเอาไปคืนได้ แต่เหตุการณ์นี้เกิดในเมืองไทยอย่าว่าแต่คิดที่จะเอาหนังสือไปคืนเลยค่ะจนป่านนี้ทางสํานักพิมพ์ยังไม่แสดงความรับผิดชอบที่เป็นรูปธรรมขึ้นมา แล้วแบบนี้หรอค่ะที่พวกเรามาเรียกร้องจนเป็นความไม่พอดีในสายตาคุณชาเขียว? จากคุณ : ชาดําเย็น - [ 5 ก.ย. 47 05:24:12 A:66.69.132.22 X: TicketID:027949 ]

ความคิดเห็นที่ 173 แล้วพวกที่อ่านหนังสือไทยไม่แตกฉานทั้งหลาย ที่พูดเป็นตุเป็นตะว่า คุณนกข. ขีดเส้นให้อาจารย์ทั้งสองตอบในเจ็ดวันนั้น.. อ่านยังไงคะ คุณนกข.เธอพูดอย่างนี้ตรงไหน..?? ฉันลอกมาจากเว็บปิดที่เราคุยเรื่องนี้กันอยู่.. มีตอนหนึ่ง ที่ คุณนกข.ได้บอกว่า เจ็ดวันแล้ว ยังไม่ได้รับเมล์ตอบ นั่นคือการคุยกันระหว่างเรากันเองค่ะ.. ที่เอามาโพสต์ให้ดู เพื่อให้ทราบว่า พยายามติดต่อแล้ว..แต่ไม่ได้ผล ฉันขออนุญาตคุณนกข. เพื่อที่จะเอามาโพสต์ในพันทิบส์ แต่.. เธออยากให้คอยสักอาทิตย์หนึ่ง..เผื่อว่า ทางโน้นจะสนใจติดต่อกลับมา เพื่อขอดูหลักฐานว่าผิดที่ไหน และ อย่างไร.. เมื่ออาทิตย์หนึ่งผ่านไป..ฉันก็เอามาโพสต์เพราะเห็นว่าสมควรต่อเวลาที่จะ"เปิดโปง"ซะที.. ยิ่งนานวัน ก็จะมีประชาชนหลงผิดซื้อเข้าไปที เพราะการโปรโมท นั้นค่อนข้างยิ่งใหญ่แบบไม่ธรรมดา.. เรื่องก็เป็นแบบนี้ละค่ะ.. หรือไม่เข้าใจก็กลับไปอ่านใหม่ ตั้งแต่ต้น... จากคุณ : WIWANDA - [ 5 ก.ย. 47 07:37:12 ]

ความคิดเห็นที่ 174 คุณ JT. ครับ ประเด็นแรก ผมว่ากระทู้แบบนี้ไม่ใช่กระทู้โจมตีนะครับ แต่เป็นกระทู้เตือนภัยหนังสือที่แปลมาไม่ดี ประเด็นที่สอง กระทู้นี้ตั้งมาโดยผู้ที่อ้างชื่อว่าเป็นอาจารย์ผู้แปลและอาจารย์ผู้ให้คำนิยมทั้ง 2 ท่านนะครับ จากคุณ : :-P - [ 5 ก.ย. 47 08:06:56 ]

ความคิดเห็นที่ 175 สวัสดีค่ะ ป้าวิ หนูยอมรับค่ะว่าได้อ่านในส่วนที่นำออกมาว่าแปลผิดตรงไหน ได้ความรู้ในเรื่องของภาษาดีค่ะ และก็ได้อีกมุมมองว่า หนังสือแปลในเมืองไทยเป็นเช่นไร ตัวหนังสือดังกล่าวนี้ ไม่ได้อ่านทั้งเล่มแปลและไม่แปลค่ะ แต่บอกตามตรงค่ะว่า ในส่วนหนึ่ง กับบางความคิดเห็น รู้สึกว่าจะซ้ำเติม ว่ากล่าวอย่างรุนแรงเสียจนเหมือนว่า ทางสนพ. ผู้แปล มีเจตนา หรือทำเรื่องเสียจนให้อภัยไม่ได้ เรื่องดังกล่าว หนูมองว่าแก้ไขได้ แต่เราจะไปกำหนดว่า ทางสนพ. จะแก้ไขอย่างไรไม่ได้ เพราะส่วนนี้ เค้าตัดสินใจเอง ซึ่งหากเค้าตัดสินใจจะแก้ไขแบบไหนแล้วไซร้ ก็เป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือและความอยู่รอดของเค้าเอง หากเค้าคิดจะปล่อยเลยตามเลย ไม่แก้ไข มันเป็นเรื่องของเค้า แต่ต่อไปในอนาคต เค้าจะอยู่รอดหรือไม่ เรา ๆ นี่แหละค่ะ เป็นผู้ตัดสิน เราไม่พอใจที่เค้ายังปล่อยงานชุ่ย ๆ ออกมา เราก็ไม่ต้องซื้อ บอกปากต่อปาก ว่าสนพ.นี้ไม่มีความน่าเชื่อถือ ไม่มีการพัฒนา มีการติ ทักท้วง แต่ไม่สนใจ ไม่มีความรับผิดชอบ แต่ถึงตรงนี้ หนูขอยืนยันค่ะว่า เราควรจะรอดูว่า ทางสนพ.จะมีการแก้ไขอย่างไรกับการติติง ทักท้วงในครั้งนี้ จะไปด่า ว่ากล่าวเค้า ในที่นี้ มันก็ไม่ได้ช่วยให้คนภายนอก ที่ไม่ได้เล่นเนต ได้รู้ข้อเท็จจริงเท่าไหร่ หากคิดว่า ทางสนพ.ไม่สนใจกับการติติงครั้งนี้จริง ทำเรื่องอย่างเป็นทางการดูสิคะ ทำให้เป็นเรื่อง ให้ทางต้นฉบับรับรู้ก็ดีค่ะ จะได้เป็นบทเรียน และต่อไปจะได้รีบแก้ไข ตรวจสอบ เมื่อมีการทักท้วง คห.ของหนูข้างบน แค่อ่านบางความเห็นแล้วรู้สึกติด ๆ ขัด ๆ กับบางคห. ซึ่งตรงนี้ไม่ขอพาดพิงค่ะ เห็นด้วยค่ะว่า เราคือผู้บริโภค ซึ่งแต่ก่อนถูกเอาเปรียบมาอย่างมากมาย และนี่ก็ถึงเวลาแล้วที่ผู้บริโภคควรจะปกป้องสิทธิของตนเอง แต่ส่วนหนึ่ง (หนูคิดเอง) คิดว่า ผู้ผลิตคงไม่คิดจะเอาเปรียบเหมือนกันหมดหรอก แล้วที่มาตอบนั้น ก็ไม่แน่ใจว่า ใช่ผู้แปลหรือผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ จริงรึป่าว แต่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะต้องมีการแก้ไข และก็ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะต้องด่าทอกันอย่างไม่ให้โอกาสกันค่ะ ด้วยความเคารพค่ะ (หนูอาจเขียนวนไปเวียนมา แต่ก็พยายามจะบอกในสิ่งที่อยากจะบอกค่ะ) จากคุณ : ~amily~ - [ 5 ก.ย. 47 08:30:24 ]

ความคิดเห็นที่ 176 เพิ่มเติมนิดนึงค่ะ หนูออกจะเห็นใจสนพ.นิดนึง ตรงที่โดนโจมตีเสียเยอะ เพราะว่า หนูคิดว่า คนเราย่อมเรียนรู้จากการผิดพลาด เมื่อผิดพลาดแล้ว ควรให้โอกาสในการแก้ไข เหมือนตอนหนูมาตปท.ใหม่ ๆ ภาษาไม่กระดิก แต่พอได้เรียนรู้จากความผิดพลาด มันก็พัฒนาได้นี่คะ คิดว่าจะร่วมด้วยช่วยกันพัฒนาให้มีความผิดพลาดน้อยที่สุด จนกระทั่งไม่มีเลย ซึ่งต้องค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป หรือว่า..... ใครทำผิดพลาดแล้ว ไม่ต้องทำมาหากินด้านนี้ไปเลย (ความคิดออกจะแคบไปหน่อยค่ะ ยังไงก็ขอความรู้ด้วยค่ะ) จากคุณ : ~amily~ - [ 5 ก.ย. 47 08:46:58 ]

ความคิดเห็นที่ 177 ขอออกนอกเรื่อง จากความเห็น ๑๗๒ ที่อ่านหนังสือแล้วไม่ชอบก็เอาไปคืนได้ สินค้าอื่นๆในอเมริกาก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันครับ หรือไอ้ที่ไม่ดีจริงบริษัทเขาจะเรียกคืนไม่เว้นแม้กระทั่งรถยนต์ มีครั้งหนึ่งไปดูหนังเรื่อง I Dream of Africaกับเพื่อนฝรั่ง ดูไปดูมาสักครึ่งชั่วโมงก็หันไปส่ายหน้ากับเพื่อนว่าหนังแบบนี้ทำออกมาได้อย่างไร เพื่อนฝรั่งก็เห็นด้วย พาเราออกมาจากโรงแล้วไปตรงช่องขายตั๋วบอกเขาว่าไม่ดูแล้วหนังไม่ดี รู้มั้ยครับว่าเกิดอะไรขึ้น เขาขอโทษ!! และคืนเงินแถมยังให้ตั๋วฟรีไว้ดูเรื่องต่อไปด้วย เราเองนี่ทึ่งมากเกิดมาไม่เคยคิดว่าจะทำแบบนี้ได้ ถ้าอยู่เมืองไทยก็คงต้องทรมานทนดูหนังไปจนจบ หรือเดินตัวลีบหน้าเศร้าออกจากโรงก่อนหนังจบ แล้วรำพึงกับตัวเองว่า โง่อีกแล้วเราให้โดนหลอกซื้อตั๋วมาดูหนัง "ห่วยๆ" อีกจนได้ เมืองไทยถึงแม้ยังไม่ก้าวไกลในเรื่องสิทธิของผู้บริโภคที่พึงจะได้รับเท่าเทียมกับอเมริกา แต่ผมก็ภูมิใจที่เห็นสิ่งต่างๆ เริ่มดีขึ้น ผู้บริโภคเริ่มรักษาสิทธิ์ของตนเอง ไม่เอาความคิดเรื่อง "ช่างมันเถอะ แค่นี้ก็ดีแล้ว" ที่คนไทยเคยชอบคิดกันมาใช้ ที่สำคัญคือสังคมไซเบอร์ในเวลานี้ที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงอย่างดีให้ทุกคนทราบข่าวสารในวงกว้าง ภายในเวลาอันรวดเร็ว ขอบคุณคุณนิลกังขาครับ คุณวิวันดา และทุกๆคนที่ช่วยกันพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภคครับ หวังว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะก่อให้เกิดมิติใหม่ในวงการแปลหนังสือไทย หนังสือที่แปลแบบสุกเอาเผากินคงจะเกิดได้ยาก จรรยาบรรณ หน้าที่ และความรับผิดชอบของผู้แปล บรรณาธิการ และผู้เกี่ยวข้องคงต้องมีการทบทวนกันขนานใหญ่ จากคุณ : กะได - [ 5 ก.ย. 47 09:13:09 ]

ความคิดเห็นที่ 178 วันนี้มีเวลาก็เลยแวะมาที่นี่อีก ก็เลยพบกระทู้ต่อเนื่อง เรื่องราวค่อนข้างจะ Hot กว่ากระทู้เดิมมาก เพราะกระทู้แรกคนส่วนมากมีความเห็นเหมือนกันหมด คือโจมตีท่านอาจารย์กันอย่างเต็มที่ ก็เลยไม่ต้องมีการถกเถียงกัน ขนาดผมเพียงเข้าไปออกความเห็นนิดหน่อยไม่เห็นด้วยกับการรุมโจมตีท่านอาจารย์อย่างเกินเหตุ คนส่วนมากจะแย้งผมทันที บางคนคิดอะคติสังหรณ์ไปว่า ผมคงเป็นหน้าม้าหรือมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อยู่ด้วย ผมก็ไม่คิดจะไปโต้แย้งให้เสียเวลาผมเปล่าๆ ผมคิดว่าคนบริสุทธิ์ใจ มีจิตใจเมตตาเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน รู้จักให้อภัยกันบ้าง จะทำให้ตัวเองมีความสบายใจและมีความสุขมากกว่า เท่าที่อ่านดูกระทู้นี้ ผมมีความเห็นว่า 1. ทุกคนมีความเห็นว่าท่านอาจารย์ทำงานแปลชิ้นนี้ผิดผลาดมาก ควรจะรีบแก้ไขโดยด่วน ทางสำนักพิมพ์ก็ควรจะยอมรับของคุณภาพไม่ได้มาตรฐานคืน 2. คุณนิลกังขาทำหน้าที่ Consumer Report อย่างเต็มที่ คุณเป็นคนมีความรู้ความสามารถทางด้านภาษาอย่างแตกฉานจริงๆ ซึ่งเป็นเรื่องน่ายกย่อง ผมคิดว่าถ้าคุณ handle the situation ได้ดีกว่านี้หน่อย แบบเดินสายกลาง อย่าทำให้ผู้ผิดพลาดเสียหน้าจนเกินไป คุณจะเป็น Hero ทันทีในเรื่องนี้ 3. ท่านผู้ทรงวุฒิหลายๆท่านที่เขาออกมาแสดงความคิดเห็นขัดแย้งกับวิทีการ handle the situation ของคุณนั้นเขาก็ make a good points เหมือนกันนะครับ คนเราไม่มีใคร Perfect หรอกครับ ผมว่าพวกเรามาใจเย็นกันหน่อย อย่าให้ถึงกับทะเลาะเบาะแว้งกันมากไปกว่านี้เลยครับ เราอาจจะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันบ้าง 4. ผมคิดว่าคนส่วนมากใน web นี้ยังไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ด้วย ถ้าเราคิดว่าเป็นหนังสือห่วยมากไม่คุ้มค่าเงิน อ่านแล้วจะหงุดหงิด ก็อย่าไปซื้อ และถ้าไม่ชอบผลิตภัณฑ์ของสำนักพิมพ์นี้ เราก็อย่าไปอดหนุนเค้า คนส่วนมากในนี้ก็เป็นคนมีความรู้กันทั้งนั้น อยากอ่านก็อ่านต้นฉบับเสียเลยดีกว่าครับ 5. หนังสือเรื่องนี้กลายเป็นข่าวครึกโครมอยู่ ผมคิดว่าอาจจะกลายเป็นผลตรงข้าม คือยิ่งทำให้กลายเป็น Best Seller มากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก เพราะคนที่เขาไม่ได้คิดอ่านแต่แรก กลับอยากลองอ่านดู จะได้เห็นดำเห็นแดงไปเลยว่าจริงเท็จอย่างกิตติศัพท์ที่ฉาวโฉ่หรือไม่ 6. ผมว่าคนเราให้อภัยซึ่งกันและกันก็ดีนะครับ จะได้ไม่มีเรื่องกังวลใจ ไม้ล้มข้ามได้ แต่คนล้มอย่าข้ามครับ อย่า Post ข้อความตอนมีโทษะครับ 7. ถ้าความคิดเห็นของผมไม่ถูกชตาใคร ผมก็ขอประทานโทษด้วยนะครับ แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 47 09:41:28 แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 47 09:39:57 จากคุณ : Benz (BenzSiam) - [ 5 ก.ย. 47 09:32:43 ]

ความคิดเห็นที่ 179 ตอบคุณป้า WIWANDA ในความเห็นที่ 173 นะครับ คุณป้าคงลืมอ่านความเห็นที่ 39 ในกระทู้นี้แหละครับ ที่โพสมาว่า "เพราะตอนนั้นผมเคารพอาจารย์วรากรณ์เหมือนคุณนี่แหละ ผมจึงได้ติดต่อเงียบๆ ไปยังอาจารย์กับอาจารย์หฤทัยก่อนเลย ผมหวังว่าอาจารย์ที่ผมศรัทธาจะทำอะไรที่สมกับที่ผมศรัทธาอยู่ จะมาช่วยกันแก้ปัญหาอย่างไรผมก็ยินดีรับใช้อาจารย์ แต่อาจารย์ทั้ง 2 ไม่ยอมตอบผม ผมส่งอีเมล์ถึง อ. วรากรณ์ 7 ครั้ง เป็นอีเมล์รายวันกระตุ้นเตือนอาจารย์เท่าไหร่ๆ ก็ไม่ตอบ ผมทำแล้วครับ ให้โอกาสแล้วโดยไม่จำเป็นต้องมาพึ่งกระแสสังคมวงกว้าง ทั้ง 2 ท่านไม่เลือกทางนั้นเอง" นี่แหละครับ สิ่งที่คุณป้าอยากอ่าน ตกลงว่า"แตกฉาน"แล้วนะครับ ผมเห็นด้วยกับการที่จะมีการแจ้งให้ทางผู้แปลได้ทราบถึงข้อผิดพลาดนั้น และเล็งเห็นถึงความปรารถนาดีของผู้แจ้งที่ต้องการให้ผู้แปลได้รู้ว่าผลงานที่แปลออกไปนั้น มีข้อบกพร่อง แต่ผมไม่เห็นด้วยที่ผู้แจ้งจะกระหน่ำอีเมล์ซะ 7 วัน 7 ฉบับ และคาดคั้นให้ผู้แปล ที่ผู้แจ้งเรียกขานว่า"อาจารย์"โดยไม่กระดากปาก ต้องตอบอีเมล์นั้น ซึ่งกาลต่อมาก็ปรากฏโดยแจ้งชัดว่า อจ.ผู้แปลนั้น ไม่ได้ตอบสนองต่อ"ข้อเรียกร้อง" ของผู้แจ้งตามที่ใจหวัง ดังนั้นผู้แจ้ง ก็เลยร่วมมือกับบุคคลอื่น ทำการกระหน่ำเสียเละ ด้วยมือตัวเอง ซึ่งผมเห็นว่า ออกจะเป็นการกระทำที่ผิดวิสัยการเรียกร้องหาจริยธรรมตามปกติของสามัญชนทั่วไป เพราะมันดูคล้ายๆ มีการเรียกร้องให้บุคคลนึงทำอะไรบางอย่าง แล้วพอไม่ได้อย่างใจ ก็เลยกระหน่ำเสีย ทำให้หลายๆคน ก็ตั้งข้อสงสัยว่า มีรายการ hidden agenda อะไรหรือไม่ นี่คงไม่เรียกว่าเป็นการเตือนด้วยความหวังดีเป็นแน่แท้ ปล. ผมไม่ขัดข้องใดๆที่จะมีการช่วยกันกระพือกระแสอะไร เพราะผมไม่มีส่วนได้เสีย หรือเกี่ยวข้องใดๆกับหนังสือเล่มนี้ในทางใดทั้งสิ้น ผมเพียงแต่อยากจะติงว่า สิ่งที่กำลังทำนั้น มันเริ่มล้ำเส้นของการเรียกร้องหาจริยธรรม โดย"สุจริตใจ" แล้วครับ แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ถ้าบุคคลใดประสงค์จะมีการดำเนินการลักษณะนี้ต่อไป ก็เป็นเรื่องของบุคคลนั้น ผมไม่มีสิทธิ์ในการห้ามใครแต่อย่างใด ขอเชิญดำเนินการตามสะดวกครับ จากคุณ : ช่างไฟ - [ 5 ก.ย. 47 09:48:31 ]

ความคิดเห็นที่ 180 "อย่าทำให้ผู้ผิดพลาดเสียหน้าจนเกินไป คุณจะเป็น Hero ทันทีในเรื่องนี้" ??? ไม่ทราบว่าจะตีความว่าอย่างไรดีครับ ผู้บริโภคจำเป็นต้องรักษาหน้าผู้ผลิตที่เอาเปรียบด้วยหรือครับ แล้วคุณนิลกังขาเขาต้องการเป็นฮีโร่จริงหรือ ผมว่ามันเป็นคนละประเด็นนะครับ จากคุณ : กะได - [ 5 ก.ย. 47 09:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 181 ถึงคุณ ~amily~ ข้อความของคุณอ่านแล้วน่ารักมากครับ ขอชมด้วยความจริงใจครับ (ไม่ได้จีบนะครับ) จากคุณ : Benz (BenzSiam) - [ 5 ก.ย. 47 09:57:35 ]

ความคิดเห็นที่ 182 เท่าที่อ่าน คุณนิลกังขาก็เคยแจ้งความจำนงว่าทางสำนักพิมพ์ได้รับรู้และกำลังจะดำเนินการแสดงความรับผิดชอบแล้วจึงคิดว่าจะหยุดเรื่องนี้ชั่วคราวเพื่อให้โอกาสแก้ไข แต่ที่ประเด็นในกระทู้ยังไม่จบเสียทีก็เพราะมีบางท่านเข้ามาตำหนิว่าคุณนิลกังขาทำเกินเหตุ (ซึ่งก็ไม่เห็นว่าเกินตรงไหนเลย ในเมื่อติดต่อกันโดยตรงไปแล้วยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ถ้าปัญหาไม่ได้ออกสู่สายตาสาธารณชนเช่นนี้ คิดหรือว่าจะมีการแก้ไขเกิดขึ้น หรือคิดว่าฉันรอดตัวคนเดียวก็พอ คนอื่นที่ไม่รู้ก็ซวยไปแล้วกัน) อีกทั้งทางผู้เกี่ยวข้องทั้งสองออกมาให้คำอธิบายที่ยังไม่เป็นที่น่ายอมรับของหลายๆท่าน เรื่องก็เลยไม่จบ พอต่อความกันไปมา เลยกลายเป็นว่าคุณนิลกังขากลับโดนข้อหาเพิ่มเติมว่าทั้ง "ข้าม" ทั้ง "เหยียบ" คนล้มจนจมดิน "ทำลายกำลังใจ" และ "ไม่ให้โอกาส" แก่ "ผู้ที่รู้ตัวว่าผิดพลาด" ไปซะแล้ว เป็นอย่างนั้นไป เหอๆๆๆ จากคุณ : nyx (nyx) - [ 5 ก.ย. 47 10:33:13 ]

ความคิดเห็นที่ 183 เห็นด้วยอย่างยิ่งกับความเห็นที่ 175 ของคุณ ~amily~ ค่ะ จากคุณ : bloom - [ 5 ก.ย. 47 10:50:56 ]

ความคิดเห็นที่ 184 เรียนคุณช่างไฟ.. คุณใช้คำว่า "กระหน่ำ" "ขู่เข็ญ" ในการแสดงความคิดเห็น..ทั้งๆที่ คุณนกข. เรียนอาจารย์ไปด้วยคำสุภาพและศรัทธาว่า มีคำผิดที่พบและเสนอความช่วยเหลือ ชี้แจง..และต่อมาก็เรียนให้ทราบรายวัน ว่า พบคำผิดเพิ่มขึ้นในทุกบท ซึ่งเป็นการรายงานจากแฟนหนังสือว่า หนังสือเล่มนี้"มีผิดมาก"ขอรับ เพียงแต่คุณ นกข.ไม่ได้บอกรายละเอียดให้พวกเรารู้เท่านั้นว่า มีคำใดบ้าง ..แต่เท่าที่ทราบก็หนักหนาสาหัสเอาการ มิได้ข่มขู่หรือยื่นโนติ๊สแต่อย่างใด.. แต่ต่อมา..คุณนกข.ก็ต้องพบกับความหงุดหงิดนิดหน่อยเป็นธรรมดา ที่ทางผู้รับไร้มารยาท..ไม่ตอบกลับหรือแม้แต่ขอบคุณสักคำ (ทั้งๆที่ มีชื่อและตำแหน่งการงานทางราชการ) จึงมาปรับทุกข์กับพวกเรา..ในเว๊บปิด หลายคนได้แสดงความคิดเห็นให้คุณนกข.ส่งจดหมายโดยตรงไปที่สนพ. เลิกหวังที่จะได้รับคำตอบจากผู้แปล.. ฉันเองละค่ะ ที่ขอมาลงกระทู้ที่นี่..โดยตัดความคิดเห็นของคนอื่นออก เพื่อไม่ให้เป็นการนำทาง.. ไม่ใช่เพราะ "อยากดัง" อย่างที่มีบางคนได้ถือโอกาสจาบจ้วงมา แต่..คุณทราบไหมคะ..ว่าคนเรานั้นมีหลายประเภท บางคน เห็นว่า เงินเพียงเล็กน้อยร้อยกว่าบาท จะเอาอะไรกันนักหนา บางคน เห็นว่า สงสารอาจารย์ ต่อไปจะทำมาหากินอะไร บางคน เห็นว่า สังคมของเราทุกวันนี้มันก็แย่อยู่แล้ว เราจะถูกเอารัดเอาเปรียบจากพวก"คอเสื้อขาว" อีกหรืออย่างไร..? ฉันและคุณนกข. เป็นคนประเภทสุดท้ายนี่ละค่ะ ที่มองเห็นความไม่เหมาะไม่ควร และไม่ควรมองข้ามเลยไป.. ความจริงชาวเน็ทน่าจะขอบคุณในโอกาสนี้เสียด้วยซ้ำ เพราะถ้าไม่มีคุณนกข.มาชี้แนะให้เห็น ถึงความเน่าในขบวนการแปล. เมื่อไหร่พวกเราจะมีโอกาสรู้ได้เล่า จะมีใครอีกกี่คนกัน ที่จะสามารถแจงต้นฉบับออกมาได้แบบนี้.. คุณคงทราบจากคคห. อื่นๆที่อ้างว่า ฉันเป็นคน aggressive เพราะในประวัติเคยฟ้องทนายความจนเป็นข่าวใหญ่โต.. แปลกมั๊ยคะ ที่เขาเห็นว่า การที่ฉันลุกขึ้นมารักษาสิทธิของตัวเอง เป็นการ aggressive (แปลว่า รุกราน ก้าวร้าว) แทนที่จะคิดในมุมกลับกันว่า..ถ้าฉันไม่"สะอาด" ทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง..ฉันจะกล้า"งัด"กับทนายความหรือ? ฉันและคุณนกข. ก็ไม่ได้ชื่อเสียงโด่งดัง เดินไปไหนผู้คนจะมากราบไหว้เสียเมื่อไหร่..นอกจากนามแฝง ก็ไม่มีใครรู้จักใคร ฉะนั้น..ผลประโยชน์ทั้งหมดอยู่ที่ประชาชนชาวบริโภคผู้รักการอ่าน ทั้งสิ้น มีต่อ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 5 ก.ย. 47 11:17:48 ]

ความคิดเห็นที่ 185 มีพุทธภาษิตบทหนึ่งมาฝากค่ะ พึงชมคนที่ควรชม และพึงตำหนิคนที่ควรถูกตำหนิ กรณีนี้ใครชมคนที่ควรจะถูกตำหนิและตำหนิควรที่ควรจะถูกชม ก็ถือเสียว่า คนกลุ่มนั้นเกิดอาการสมองกลับเล้วกันค่ะ จากคุณ : อักษรสีฟ้า - [ 5 ก.ย. 47 11:26:02 ]

ความคิดเห็นที่ 186 ต่อค่ะ.. ทางสนพ. ติดต่อมาเพราะ ทราบดีว่า เขาผิดเต็มประตู ในการที่ไม่ได้ตรวจตราก่อนพิมพ์ เพราะเชื่อใจ บก. บก. ก็ผิดซ้ำซ้อน เพราะ "เชื่อใจ" ในความเป็น"ผู้รู้" ของผู้แปลที่มีตำแหน่งอาจารย์ ถึงระดับ ผศ. คนอ่านก็"เชื่อในเครดิต" ของผู้แปล และ สนพ.ที่จัดว่าแบรนด์เนม ซื้อกันจนติดอันดับหนังสือขายดี..อีกทั้ง มีการโปรโมทคนแปลออกทีวี (ในเครือข่ายเน็ทเวิร์คเดียวกัน) คำนิยม..สุดหรูเริ่ด นี่คือ การทำงานครบวงจร ..ที่มีทั้งการผลิต และจัดขายพร้อมโฆษณา ใช่ไหมคะ? กิจการอย่างนี้ นับวันแต่จะเติบโตไปทุกวัน ตอนนี้มีการแปลภาษาญี่ปุ่นด้วย เพราะ ดีมานด์ ซัพพลาย..ไงล่ะคะ คนอย่างคุณนกข. ก็ต้องเกิดขึ้นสักวันในอนาคต แต่ไม่รู้ว่าเมื่อนั้น เราจะเสียเงินซื้อหนังสือคุณภาพต่ำไปอีกสักเท่าไร.. เรื่องที่คุณว่า ก็อย่าไปซื้อซิ..(ก็ซื้อมาแล้ว) หรือ ไปขอเงินคืน(ในเมืองไทย..มันเป็นไปได้หรือคะ?) ไปฟ้องร้อง (มูลค่าของทรัพย์สินต่ำไปค่ะ เพราะประเทศไทยไม่มีการตีค่าในด้านเสียความรู้สึกให้เป็นสินไหม) ไหนๆเราก็คุยกันอย่างผู้ใหญ่แล้ว..ขอถามคุณสักอย่างหนึ่งเถอะ หวังว่าคุณคงตอบอย่างลูกผู้ชาย..ว่า.. ถ้าสักวันหนึ่ง ลูกชายของคุณ มาถามว่า..เห็นคนกำลังล้วงกระเป๋า ผู้หญิงที่ยืนใกล้ๆ จะให้ผมทำอย่างไรดีครับ สะกิดบอกผู้หญิงให้รู้ตัว..หรือ ทำไม่รู้ไม่ชี้ครับ.. อยากทราบคำตอบว่าคุณจะสอนลูกคุณอย่างไรค่ะ.. นับถือ วิวันดา.. จากคุณ : WIWANDA - [ 5 ก.ย. 47 11:52:10 ]

ความคิดเห็นที่ 187 I'm waiting. จากคุณ : amatuer translator - [ 5 ก.ย. 47 11:53:09 ]

ความคิดเห็นที่ 188 ขอยืนยันว่าคุณนกข ไม่ได้กระทำการใดๆที่ผิดวิสัยการเรียกร้องหาจริยธรรมตามปกติของสามัญชนทั่วไป การที่คุณแปลเจตนาเขาผิดไปก็เป็นเพราะจิตที่บกพร่องของตัวคุณช่างไฟเองนั่นแหละค่ะ จากคุณ : ชาดําเย็น - [ 5 ก.ย. 47 11:54:57 A:66.69.132.22 X: TicketID:027949 ]

ความคิดเห็นที่ 189 ที่มันยังเป็นประเด็นต่อ ก็เพราะมีผู้แจ้งความเคลื่อนไหวมาว่าหนังสือเล่มนี้ก็ยังโปรโมทแล้วก็วางขายอยู่อย่างหน้าตาเฉยเนี่ยแหละ มันถึง"ยังไม่จบ" . ส่งเรื่องไปทางสนพ.ต้นสังกัดฉบับจริง ให้มันรู้ๆไปเลยดีกว่า.. จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 5 ก.ย. 47 12:01:14 ]

ความคิดเห็นที่ 190 ขอบคุณคุณ นิลกังขา ที่เอางานแปลที่ไม่สมประกอบนี้มาตีแผ่ จะได้ไม่หลงซื้อให้เสียอารมณ์ ประเด็นเรื่องอีเมล์ เรียกร้อง ผมว่าคุณนิลกังขาทำถูก ในฐานะผู้บริโภค ที่เสพย์งานแย่ๆ มันก็ต้อง pissed off เป็นธรรมดา แต่ก็พยายามใช้วิธีที่เป็นส่วนตัว ไม่ต้องการที่จะทำลายชื่อเสียงแต่แรก โดยการส่งอีเมล์ไปถึงคนแปล โดยหวังว่า ผู้ผลิตงานนั้นจะออกมารับผิดกับเขาในฐานะผู้ผลิตพึงมีต่อผู้บริโภค แต่เมื่อไม่ได้รับคำตอบ เขาจึงพยายามส่งไปใหม่ เพื่อที่จะให้สิทธิเขาตอบอย่างเป็นส่วนตัวอีกครั้ง แต่เนื่องจากผู้แปลไม่ตอบเป็นการส่วนตัว ไม่ว่าจะ 3 วัน 7 วัน 1 เดือน ผมถือว่าเขาเพิกเฉยต่อการเรียกร้องสิทธิของผู้บริโภคพึงมี ดังนั้นคุณนิลกังขาจึงนำสิ่งที่เขาพยายามบอกออกมาตีแผ่บนเวบสาธารณะ โดยไม่ได้ตั้งใจจะให้ฆ่ากันให้ตายไปข้างนึง แต่ลงให้คนอื่นรับรู้และเห็นด้วยมาช่วยกันเรียกร้องสิทธิผู้บริโภค เผื่อว่ามากเสียงขึ้นแล้วผู้แปลจะออกมารับผิดชอบบ้าง ซึ่งมันก็ work เขาค่อยออกมารับผิดชอบ ยอมตอบข้อท้วงติง ผู้ผลิตที่ดีถ้าผู้บริโภคร้องเรียนต้องรีบตอบกลับให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ผลเสียกระจายไปในวงกว้าง กรณีส่งแล้วไม่ตอบมันก็ต้องเคืองเป็นธรรมดา และต้องหาวิธีใหม่เพื่อจะเรียกร้องสิทธิต่อไป ผมไม่เห็นว่าเขาจะขู่ตรงไหน ต้องการจะฆ่าผู้แปลให้ตายไปจากวงการตรงไหน คนแปลซะอีกที่เลือกจะขึ้นเขียงเองด้วยวิธีนี้ สมมติคุณช่างไฟถอยรถป้ายแดงคันละหลายล้านมา แต่ใช้ไม่กี่เดือนก็เสีย เข้าอู่ ครั้งแรกให้อภัย แต่ถ้า 1 ปีซ่อมไป 4-5 ครั้ง ถามหน่อยจะเคืองไหม จะส่ง email ไปร้องเรียนบริษัทรถยนต์ยี่ห้อนั้นไหม ผมมั่นใจว่าคุณหรือใครก็ต้องทำ และบริษัทนั้นคงตอบกลับมาด้วยความเป็นห่วงในชื่อเสียงตัวเองและสวัสดิภาพของคุณจากการใช้สินค้าไม่สมประกอบของเขาด้วย แต่ถ้าเขาไม่ตอบคุณล่ะ คุณจะอยู่เฉยๆ แล้วสมน้ำหน้าตัวเองที่โง่ซื้อรถบ้านี้มา หรือจะเลือกวิธีอย่างคุณนิลกังขา สิทธิที่จะไม่ตอบอีเมล์---------มี สิทธิที่จะร้องเรียนบนเวบ------มี สิทธิที่คุณจะไม่เห็นด้วย------มี สิทธิที่คุณเห็นด้วย-----------ก็มี จากคุณ : DKO - [ 5 ก.ย. 47 12:18:29 ]

ความคิดเห็นที่ 191 http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H2986483/H2986483.html#29 ความคิดเห็นที่ 239 ลองมาดูว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคอย่างไรบ้าง +++++++++++++++++++++++++++++++++ กฎหมายที่คุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคที่กล่าวไว้ในรัฐธรรมนูญที่สำคัญคือ พระราชบัญญัติ คุ้มครอง ผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541กฎหมายฉบับนี้ได้บัญญัติสิทธิ์ ของผู้บริโภค ที่จะได้รับความ คุ้มครอง ตามกฎหมาย 5 ประการดังนี้ 1. สิทธิที่จะได้รับข่าวสารรวมทั้งคำพรรณนาคุณภาพที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้า หรือ บริการได้แก่สิทธิที่จะได้รับการโฆษณา หรือการแสดงฉลากตามความความเป็นจริง และ ปราศจากพิษภัย แก่ผู้บริโภค รวมตลอดถึงสิทธิที่ จะได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือ บริการอย่างถูกต้อง และเพียงพอที่จะไม่หลงผิดในการซื้อสินค้าหรือรับบริการโดยไม่เป็นธรรม 2. สิทธิที่จะมีอิสระในการเลือกหาสินค้าบริการ ได้แก่ สิทธิที่จะเลือกซื้อสินค้า หรือ รับบริการ โดยความสมัครใจของผู้บริโภค และปราศจากการชักจูงใจอันไม่เป็นธรรม 3. สิทธิที่จะได้รับความปลอดภัย จากการใช้สินค้าหรือบริการได้แก่ สิทธิที่จะเลือกซื้อสินค้า หรือบริการที่ปลดภัย มีสภาพและคุณภาพได้มาตรฐานเหมาะสมแก่การใช้ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือ ทรัพย์สิน ในกรณีใช้ตามคำแนะนำหรือระมัดระวังตามสภาพของสินค้าหรือบริการนั้นแล้ว 4. สิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญาได้แก่ สิทธิที่จะได้รับข้อสัญญาโดยไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจ 5. สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาและชดเชยความเสียหายได้แก่สิทธิที่จะได้รับการคุ้มครอง และ ชดใช้ค่าเสียหาย เมื่อมีการ ละเมิดสิทธิของผู้บริโภคตามข้อ 1, 2, 3 และ 4 ดังกล่าว จาก http://www.swotplus.com/Law/Lawmanu_04.php ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ จะเห็นได้ว่าข้อ๑ และข้อ ๕ นั้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องนี้ทีเดียว จากคุณ : กะได - [ 5 ก.ย. 47 11:21:03 ] ความคิดเห็นที่ 241 อันนี้ก็น่าสนใจครับ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ เริ่มต้นปกป้องสิทธิ์ตั้งแต่วันนี้... ด้วยตัวผู้บริโภคเอง จุดเริ่มต้นของการปกป้องสิทธิ์ของผู้บริโภค ควรที่จะเริ่มต้นจากตัวผู้บริโภคเอง ..... ด้วยการตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่าสินค้าที่ซื้อหรือบริการที่ใช้เป็นประจำในชีวิตประจำวัน ราคาเป็นธรรมหรือไม่ หรือ จ่ายเงินไปคุ้มค่ากับคุณภาพของสินค้าหรือบริการที่ได้รับหรือเปล่า หากผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรม เช่น ราคาสินค้า หรือการบริการนั้นไม่ถูกต้อง ไม่ได้มาตรฐาน อย่ายอมอยู่ นิ่ง หรือ เพิกเฉย ควรเรียกร้องความเป็นธรรม ให้กับตัวผู้บริโภคเอง ด้วยการ สอบถามโดยตรงจากผู้ประกอบการ ให้ตรวจสอบกราคาสินค้าหรือบริการนั้นๆ อีกครั้งหนึ่ง...... หากยังไม่ได้รับการแก้ไขข้อผิดพลาด ควรบอกกล่าวไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการกับเรื่องที่เกิดขึ้น และที่สำคัญอย่าลืมกระจายข่ายบอกต่อๆ กันไปยังผู้บริโภคด้วยกัน เพราะการอยู่รอดของธุรกิจที่มั่นคงยั่งยืนอยู่ที่ "ลูกค้า" หรือผู้บริโภค ไม่มีผู้บริโภค ไม่มีผู้ประกอบธุรกิจ ไม่มีลูกค้า ในยุคการค้าเสรี "จริยธรรมทางการค้า" ก็คือจิตสำนึกที่ดีในการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ มีราคาที่เป็นธรรม มีปริมาณของสินค้าที่สมดุลย์กับราคา ไม่เอาเปรียบและหลวกลวงผู้บิรโภค ไม่โฆษณาเกินจริง เพราะเห็นการณ์ไกลที่ว่า "คนซื้ออยู่ได้ คนขายอยู่รอด มีลูกค้าถาวรดีกว่า มีลูกค้าขาจรครั้งเดียว" รู้แล้วอย่านิ่งเฉย... แลกเปลี่ยนประสบการณ์เล่าสู่กันฟัง... รู้แล้วอย่านิ่งเฉย พบเห็นสินค้าหรือบริการดีหรือไม่ดีอย่างไร ส่งข้อมูล ข่าวสาร แลกเปลี่ยนประสบการ เล่าสู่กันฟัง เพื่อผลประโยชน์ของผู้บริโภคเอง ผู้บริโภคที่เคยซื้อสิค้า หรือใช้บริการแล้วไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบการ ประสบการณ์เหล่านี้ของผู้บริโภคที่เคยประสบมา จะเป็นสิ่งที่มีค่ามากสำหรับผู้บริโภครายอื่นๆ การบอกเล่าประสบการณ์ที่เคยพบให้ผู้บริโภคอื่นได้รับทราบ หรือการฟังประสบการณ์จากผู้อื่นบ้างก็จะเป็นข้อมูลสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคต้องเพิ่มความระมัดระวัง ในการซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากผู้ประกอบการรายนั้นมากขึ้น นอกเหนือไปจากการตรวจสอบสินค้าหรือบริการเบื้องต้นด้วยตัวเองแล้ว อีกหนทางหนึ่งที่ช่วยรักษาสิทธิ์ผู้บริโภคได้ก็คือการรวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสาร ข้อมูลระหว่างผู้บริโภคด้วยกันเอง ทั้งจากการตั้งเป็นชมรมฯ สมาคมฯ หรือการส่งข้อมูลข่าวสารผ่านทางอินเตอร์เน็ต เพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างกัน ก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามเป็นสูตรสำเร็จของ ผู้บริโภคอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยกันรักษาสิทธิประโยชน์ของผู้บริโภคด้วยกันเองได้ จาก http://www.dit.go.th/ne_new/sakonnakorn/consomer.html#thai จากคุณ : กะได - [ 5 ก.ย. 47 11:29:30 ] จากคุณ : PG (pinkandgrey) - [ 5 ก.ย. 47 12:36:07 ]

ความคิดเห็นที่ 193 แม่ของน้องที่ดิฉันรู้จักคนหนึ่ง เป็นนักแปล ทั้งแปลจากภาษาจีนเป็นภาษาไทย และแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย ให้กับสำนักพิมพ์ที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็มีชื่อเสียงพอสมควรแห่งหนึ่ง (ขอไม่ออกนาม เดี๋ยวจะหาว่าโปรโมท สนพ.แห่งนั้น และนักแปลท่านนั้น) เมื่อสองปีก่อน สำนักพิมพ์แห่งนั้นได้พิมพ์วรรณกรรมเยาวชนที่แม่ของน้องคนนี้แปลวางแผง น้องคนนี้คือผู้ทำหน้าที่บรรณาธิการให้แม่ ทั้งตรวจคำผิดและการจัดย่อหน้า ก่อนจะส่งให้บรรณาธิการของสำนักพิมพ์เป็นผู้ตรวจทานอีกครั้ง น้องคนนี้ได้นำหนังสือที่วางแผงแล้วมาเปิดสำรวจดูอีกครั้ง พบว่ามีการจัดหน้าผิดซึ่งเป็นปัญหาเนื่องมาจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ทำให้เมื่อพิมพ์หนังสือออกมา ปรากฏว่ามีเว้นวรรคผิด ตัดบรรทัด ย่อหน้าผิด จำนวนมาก จึงรวบรวมจุดที่ผิดส่งไปให้ทางสำนักพิมพ์ สิ่งที่ทางสำนักพิมพ์กระทำคือ ได้รีบทำการเก็บหนังสือออกจากแผง แล้วพิมพ์จำหน่ายใหม่ ส่วนเล่มที่พิมพ์ผิดที่เก็บกลับไป ได้ยินว่าเอาไปแจกเป็นพวกของแถม นี่คือความรับผิดชอบอันน่าชื่นชมของทั้งนักแปลและสำนักพิมพ์ที่ดิฉันเห็นว่าเป็นตัวอย่างที่ดีค่ะ ^___^ จากคุณ : Linmou - [ 5 ก.ย. 47 13:06:41 ]

ความคิดเห็นที่ 194 ถ้าเกิดว่า ( สมมุตินะค่ะ ) อาจารย์ที่คุณ นิลฯ ส่งอีเมล์ไปหาไม่ได้เปิดเมล์ดูภายใน 7 วันนั้นล่ะค่ะ ถ้าเกิดเธอไปต่างจังหวัด ต่างประเทศแล้วไม่ได้เช็คล่ะ เธอก็เลยไม่ได้ตอบมาให้ทันใจคุณนิลฯ คุณจะพอให้อภัยเธอได้มั้ยค่ะ หรือระหว่างนั้นลองโทรไปถามเธอเลยถึงมหาลัยเลยค่ะ ทางสำนักพิมพ์ออกมาขอโทษแล้วใช่มั้ยค่ะ แต่ไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงอะไร ขอเสนอว่าให้ส่งเรื่องไปที่ สนพ ต่างประเทศเพื่อฟ้องร้องค่าเสียหายเนื่องจากการแปลผิดพลาดค่ะ อย่างที่ความเห็นบนๆบอกมาน่าจะดีที่สุด ทาง สนพ เมืองไทยคงไม่นิ่งนอนใจแน่ๆคราวนี้ ดีกว่ามาเถียงกันไปกันมาที่นี่ เห็นด้วยกับคุณนิลฯ เรื่องออกมาร้องเรียนเรื่องงานแปลค่ะ เพราะว่าการที่เป็นหนังสือกึ่งตำรา น่าจะได้รับการตรวจสอบกันอย่างละเอียดมากกว่านี้ เห็นด้วยกะคุณช่างไปและคุณ amature translator ในเรื่องที่ส่งอีเมล์ติดๆกันไป 7 วัน ว่ามันกระชั้นชิดเกินไปค่ะ ส่งไปครั้งแรกอาจจะรอสักสัปดาห์ ส่งไปครั้งที่สอง รออีกสัปดาห์ ถ้าไม่ได้เรื่อง ส่งไปที่ สนพ เมืองนอกเลย หวังว่าคงไม่โกรธกันนะค่ะ จากคุณ : @-อมยิ้มแก้มตุ่ย-@ - [ 5 ก.ย. 47 14:57:22 ]