ความคิดเห็นที่ 1 อ่านประโยคสุดท้ายที่ว่าอยากไปจริงๆแล้วสงสัย คุณจะมาทำอะไรแน่ เท่าที่เห็่นมาคนที่จะต้องมาให้ได้นี่จะมาหาแฟนทุกที ถ้าจะมาเรียนจริงๆ ช่วยบอกรายละเอียดหน่อยว่าจะมาเรียนอะไร เช่น เรียนภาษา,เรียนป.ตรี ฯลฯ การเตรียมเอกสารและเงินในบัญชีใช้ไม่เหมือนกันครับ จากคุณ : Q - [ 12 ก.ย. 47 07:34:31 A:216.41.122.98 X: TicketID:009272 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไปเรียนค่ะ เรียนภาษาแล้วก้อต่อปริญญาตรีค่ะ ที่อยากไปเรียนอยากไปมาหลายปีแล้ว แต่เพิ่งมีโอกาสก้อตอนนี้ค่ะเลยอยากไป อยากพูดภาษาอังกฤษได้ค่ะ อยากพูดได้แบบฝรั่งค่ะ จากคุณ : จอย - [ 12 ก.ย. 47 07:57:33 A:61.90.45.5 X: TicketID:069095 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าหลักฐานเราไม่พอที่จะยื่นวีซ่านักเรียน เราจะได้ยื่นวีซ่าท่องเที่ยวแทน แล้วเป็นโรบินฮู้ด ถ้าคุณอยากเรียนถึงขนาดนั้นจริง ทำไมยอมเป็นโรบินฮู้ด ล่ะคะ อย่างนั้นคุณก็ไม่มีโอกาสเรียนน่ะสิ จะเรียนได้ไงถ้ามาวีซ่าท่องเที่ยว ภาษาอังกฤษไม่ได้พูดกันแต่ในอเมริกานะคุณ สิ่งสำคัญในการขอวีซ่าคือ ข้อผูกพันกับถิ่นที่อยู่ ไม่ว่าเงินเท่าไหร่ หากคุณไม่มีข้อผูกพันกับบ้านเกิด จะวีซ่าท่องเที่ยว หรือนักเรียน เขาก็ไม่ให้ทั้งนั้นแหละ แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 47 08:43:20 จากคุณ : mrs.night owl - [ 12 ก.ย. 47 08:41:26 ]

ความคิดเห็นที่ 4 -เราอยากไปจริงๆ ถ้าหลักฐานเราไม่พอที่จะยื่นวีซ่านักเรียน เราจะได้ยื่นวีซ่าท่องเที่ยวแทน แล้วเป็นโรบินฮู้ด อันนี้พูดจริงพูดเล่นครับ? ไปเป็นโรบินตู๊ดเนี่ย? : O~ ข้อความของคุณมีนัยสำคัญบางอย่างนะครับ...... ทำไมใครๆถึงคิดว่าการไปอเมริกาจะทำให้ชีวิตดีขึ้น? จริงๆแล้วมันดีแบบที่ทุกคนฝันหรือเปล่าเนี่ย? มีใครตอบผมได้บ้างครับ? จากคุณ : worldclass loser - [ 12 ก.ย. 47 10:08:27 A:221.128.107.208 X: TicketID:068493 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นด้วยกับคุณ mrs.night owl  นะคะ ว่าอย่าไปเป็นโรบินฮู๊ดเลยค่ะ ชีวิตโรบินฮู๊ดที่เมริกาไม่ใช่ง่าย ๆ แล้วเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว จะลำบากค่ะ หันหน้าไปพึ่งใครก็ไม่ได้ ญาติพี่น้องก็ไม่มี แล้วถ้าอยากจะกลับเมืองไทยก็กลับมาอเมริกาไม่ได้อีก เพราะจะโดน Black List ห้ามเข้าประเทศหลายปี ถ้ายังไม่พร้อมจริง ๆ ก็อย่าเพิ่งไป หรือว่าเบนเข็มไปประเทศอื่น เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ซึ่งก็ใช้ภาษาอังกฤษเหมือนกันค่ะ โดยส่วนตัวคิดว่าไปเรียนที่ไหนก็เหมือนกัน ไม่จำเป็นจะต้องเป็นอเมริกาหรอกค่ะ ภาษามันขึ้นอยู่กับตัวเราและการฝึกฝนต่างหาก ส่วนเรื่องวีซ่า ที่ถามว่าคุณน้าเป็นสปอนเซอร์แต่ละคนนามสกุล จะได้หรือไม่ ตอบว่าได้ค่ะ แต่ต้อง เตรียมคำตอบไปด้วยนะคะ ว่าทำไมคุณน้าถึงส่งเสียเรา  แล้วหลักฐานทางด้านการเงินของคุณน้าก็สำคัญ ถ้าคุณน้ามีสตางค์เยอะ ก็ขอรวมไปถึงปริญญาตรีเลย แต่ถ้าคิดว่าไม่น่าจะครอบคลุมถึงปริญญาตรี ก็บอกว่าไปเรียนภาษาแค่ปีเดียวจะดีกว่า หมูหวานมีข้อเสนอแนะอีกข้อนึงว่า เห็นว่าทำงานกับบริษัทคุณอา  ทำไมไม่ลองให้บริษัทคุณอาเป็นสปอนเซอร์ เพื่อส่งไปเรียนภาษา แล้วกลับมาทำงานที่บริษัทล่ะค่ะ เพราะจะเป็นการการันตีว่าเราไปเรียนแล้วจะกลับ มาทำงานแน่ ๆ (หลักฐานแสดงความผูกพันกับเมืองไทย)อันนี้ก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งค่ะ คุณจอยลอง List รายการมานะคะ ว่าจะยื่นอะไรบ้าง เผื่อท่านอื่น ๆ จะได้ช่วยดูเอกสารว่าอะไรควรตัดออก หรืออะไรควรจะเพิ่มเติมค่ะ  ข้ออื่น ๆ ที่หมูหวานไม่ได้ตอบ หมูหวานไม่ทราบนะคะ ยังไงเดี๋ยวรอท่านอื่น ๆ มาช่วยตอบค่ะ แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 47 10:14:11 จากคุณ : หมูหวาน - [ 12 ก.ย. 47 10:13:25 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มีน้าอยู่ที่โน่นค่ะ ได้กรีนการ์ดหรือซิติเซ่นน่ะค่ะ น้าเลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็ก คือพ่อแม่แยกทางกัน น้าเป็นคนส่งเราเรียนตั้งแต่เด็กค่ะ เลยอยากไปอยู่ที่โน่นค่ะ -ถ้าไปวีซ่าท่องเที่ยวแล้วไป apply เป็นวีซ่านักเรียนที่โน่นได้มั๊ยคะ จากคุณ : จอย - [ 12 ก.ย. 47 10:20:37 A:61.90.45.5 X: TicketID:069095 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สั้นๆ ไม่ได้ค่ะ จากคุณ : mrs.night owl - [ 12 ก.ย. 47 11:18:45 ]

ความคิดเห็นที่ 8 +sponser จากน้าคนละนามสกุล มีเงิน 5 ล้าน +ใบรับรองการทำงานจากบริษัทอา เงินเดือน 20000+ ค่า คอม เดือนนึงประมาณ 50000 บาท +มีบ้านเป็นของตัวเอง +มีเงินในบัญชีที่จะเอาเข้าวันที่ 20 นี้ 4 แสนบาท +หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ***เคยโดน reject วีซ่า*** จากคุณ : จอย - [ 12 ก.ย. 47 11:22:41 A:61.90.45.5 X: TicketID:069095 ]

ความคิดเห็นที่ 9 หากมีเงินอย่างที่คุณพูดจริงๆ เราไม่ไปนะ เมกา เงินเดือนละ 50000 บาทเป็นเราเราไม่ไปเมกาหรอก อยู่เมืองไทยเรียน อินเตอร์ในไทยดีกว่า มีบ้านมีรถเป็นตัวเองแล้วต้องการอะไรอีกเหรอ เงิน 5 ล้านก็ไม่ใช่ของตัวเองของน้ายิ่งได้ยากเข้าไปใหญ่เลยวีซ่าพ่อแม่แยกทางกันอีก จุดประสงค์คุณคือกะจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมกาเลยเหรอหากใช่ เราว่าคุณลงทุนหน่อยสิที่แสดงให้เห็นว่าคุณอยากจะไปเรียนต่อจริง เช่นไปสอบ TOEFL มา สอบมาหลายครั้งได้คะแนนน้อย จึงตัดสินใจลง course เรียนภาษาที่เมกาดู เราว่าเหตุผลทีเราบอกนี่น่าจะมีน้ำหนักมากกว่า เราว่าคุณไม่ได้วีซ่าจากหลักฐานที่คุณบอกมา คุณจะไปเรียนต่อคุณจะไปขอวีซ่าตอนนี้ยังไม่ได้ I-20 อีกเหรอ คุณดูสับสนในชีวิตคุณนะเราว่า จากหลักฐาน พ่อแม่แยกทางกัน ทำงานเลี้ยงตัวเองมาตลอด มีหลักฐานอะไรที่พอจะบอกได้ว่าคุณไปเมกาแล้วกลับมาเมืองไทย หากคุณเป็นกงศุลมีคนเอาเอกสารอย่างที่คุณบอกมายื่นคุณว่าจะได้ไหม จากคุณ : LMC - [ 12 ก.ย. 47 13:37:10 A:202.28.21.6 X: TicketID:030453 ]

ความคิดเห็นที่ 10 50000 a month, has a car, a house, etc Find a Mr Right , make baby, save money and make around the world tour once later.. English? study at home.. จากคุณ : I-f I were you - [ 12 ก.ย. 47 15:45:14 A:4.8.141.6 X: TicketID:066895 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านไม่เข้าใจกันเหรอคะ ว่าน้าที่ส่งเรียนตั้งแต่เด็กอยู่ที่โน่นเลยอยากไปอยู่ที่โน่นกับน้า - i-20 ได้แล้วค่ะลืมพิมพ์ไปค่ะ คุณน้าเพิ่งส่งมาให้เมื่อ 2 วันที่แล้ว จริงๆก้อคืออยากไปอยู่เลยน่ะแหละ แต่อยากไปแบบถูกต้องคือเข้าแล้วออกได้อย่างสบายใจ ถ้าอยากเข้าไปใหม่ก้อจะได้เข้าไปได้ ที่เข้ามาที่นี่เพื่อมาปรึกษาการขอวีซ่า ไม่ได้ให้มาวิจาร์ณชีวิตว่าเราควรจะทำอะไร เราทำงานบริษัทน้าเราถึงได้เงินเยอะ แต่เราอยากไปเรียนอเมริกาไม่ได้อยากเรียนนานาชาติ ถ้าเราอยากเรียนนานาชาติเราคงไม่เข้ามาขอคำปรึกษาหรอก ที่เราเข้ามาถามเพราะเราอยากได้คำแนะนำจากทุกๆคนว่าเราควรจะทำยังงัย อะไรควรหรือไม่ควรเอาไปยื่น ถ้าไม่รู้ก้อไม่เป็นไร แต่ก้อขอบคุณนะคะที่เสียเวลาเข้ามาโพส จากคุณ : จอย - [ 12 ก.ย. 47 17:09:19 A:61.90.45.183 X: TicketID:069095 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ของผมก็เหมือนคุณครับกำลังจะไปเรียนภาษาประมาณ 8 เดือนถึง 1 ปี ตอนเรียนมหาลัยเที่ยวมากไปหน่อยคับ ยังไม่ค่อยมีความคิด อยู่กับเพื่อนเที่ยวทุกวันแต่ตอนนี้ตั้งใจเรียนแล้ว เริ่มสอบใบรับรองความสามารถด้าน computer & networking จบม.6 มา 4 ปีเรียนมหาลัยมา 2-3ปี แต่ลาออกมาแล้ว วางแผนจะไปเรียน 1 ปีแล้ว ก็เตรียมตัวมาเป็นปี เรียน toefl 6 เดือน writting 1 เดือน trainning computer สาขาที่ถนัดเพิ่มเติมอีก นิดหน่อยแล้วก็ สอบ certified เตรียมขอ visa เพื่อไปเรียนภาษาแล้วมาสมัครทำงานในเมืองไทย ไม่รู้จะได้เปล่านะแต่จะลองดู จากคุณ : tes - [ 12 ก.ย. 47 17:09:57 A:203.151.21.1 X:203.151.8.41 TicketID:010661 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ใจเย็น ๆ ค่ะคุณจอย เท่าที่อ่านดูหลักฐานที่ให้มา ถ้าคุณน้าอยู่ที่โน่นแล้วเป็นสปอนเซอร์ให้ จะเป็นจุดอ่อนใหญ่พอสมควรนะคะ เพราะทางสถานฑูตที่นี่ต้องคิดว่าคุณจอยไปแล้วไม่กลับมาค่ะ คือไม่มีหลักฐานความผูกพันกับเมืองไทยค่ะ ซึ่งถ้าไปอ่านดูกระทู้เก่า ๆ หากเลี่ยงได้ส่วนใหญ่ จะบอกว่าไม่มีญาติหรือคนรู้จักที่อเมริกาค่ะ บอกว่าไปอยู่หอ เพื่อจะได้ตัดปัญหาไปเลย หมูหวานอยากจะแนะนำให้คุณจอยให้ลองเปลี่ยนสปอนเซอร์ดูนะคะ เห็นบอกว่าทำงานกับบริษัทคุณอา ถ้าคุณอาสามารถเป็นสปอนเซอร์ได้ จะดูมีภาษีกว่าคุณน้านะคะ (ให้เป็นสปอนเซอร์แต่เพียงในนาม แต่จริง ๆ แล้วคุณน้าเป็นคนส่งเสียเหมือนเดิมค่ะ) คุณจอยจะต้องทำยังไงก็ได้ ให้ทางสถานฑูตที่นี่ คิดว่าคุณจะไปแล้วก็กลับมาค่ะ จากคุณ : หมูหวาน - [ 12 ก.ย. 47 17:23:22 ]

ความคิดเห็นที่ 14 น้าที่อยู่ที่นี่ค่ะที่จะเป็นสปอนเซอร์ให้ค่ะคุณหมูหวาน ***ขอบคุณคุณหมูหวานนะคะที่ให้คำปรึกษาที่ดีทั้งกะจอยและก้อกะคนอื่นๆด้วย*** จากคุณ : จอย - [ 12 ก.ย. 47 17:32:44 A:61.90.45.183 X: TicketID:069095 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณจอย ผมเข้าใจว่าคุณอยากมาอยู่อเมริกากับน้าแบบถูกต้องตามกฎหมาย โดยมาแบบนักเรียนแล้วค่อยหาทางขยับขยายทีหลัง ตอนแรกผมเห็นคำว่าโรบินฮู้ดก็ไม่อยากจะตอบ แต่พออ่านต่อก็เข้าใจครับ ดูตามหลักทรัพย์และการงานคุณน่าจะมีโอกาศได้visaท่องเที่ยวมากกว่าvisaนักเรียน แต่คุณไปขอvisaนักเรียนมาแล้วถ้าจะไปขอvisaท่องเที่ยวติดๆกันคิดว่าคงจะไม่ผ่าน ผมเห็นด้วยกับความคิดของคุณหมูหวานในความคิดเห็นที่ 5ครับ ขอชมว่าแนะนำได้ดีมาก ส่วนเรื่องที่คุณน้าอยู่ที่นี่นั้นในกรณีของคุณเขาส่งเสียคุณมาตลอดถ้าคุณมีหลักฐานว่าเขา่ส่งเสีย คุณมาผมคิดวา่คงจะไม่เป็นปัญหาอะไร ถ้าคุณน้ามีหลักทรัพย์พอที่จะส่งเรียนป.ตรีจะดูดีกว่าส่งเรียนภาษาครับ ขอเสริมเรื่องป็นโรบินฮู้ดหน่อย เห็นใจครับว่าบางคนเขาจำเป็นต้องทำ ผมเคยเจอโรบินฮู้ด ทำงานร้านอาหารส่งลูกลาวเรียนMBA พอลูกจบก็กลับดัวยกัน นับถือความเสียสละของเขา สมัยก่อนประมานทุกๆสิบปีเขาจะให้พวกโรบินฮู้ดมาลงทะเบียนอยู่แบบถูกกฎหมายกัน แต่ตอนนี้เขากลัวพวกผู้ก่อการร้ายมากคิดว่าคงอีกนานถืงจะมีอีก ทางออกที่สองของโรบินฮู้ดคือแต่งงานกับcitizen จ้างเขาแต่งมักจะถูกหลอก เพราะว่ามันผิดกฎหมายคนดีๆเขาไม่มารับจ้าง จากคุณ : Q - [ 12 ก.ย. 47 22:56:05 A:216.41.121.145 X: TicketID:009272 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตอบคำถามนะคะ... คำถาม... เราเรียนยังไม่จบเพราะเราไปทำงานที่บริษัทอา เราเลยดร๊อปเรียนเอา ไว้ก่อน แต่คราวที่แล้วเราไม่ได้ยื่นว่าเราทำงานอยู่ด้วย เรายื่นแต่เอกสารเรียนอย่างเดียว ตอบ... ไม่เป็นไรค่ะ ยื่นไปได้ค่ะ ขอครั้งใหม่ หาเอกสารเพิ่มเติมไปได้ค่ะ -ถ้าคราวนี้เราเอาเอกสารการทำงานไปยื่นจะเป็นอะไรรึเปล่า เราทำงานที่บริษัท เอาเงินเดือนประมาณ 20000+ค่าคอม ต่อเดือนเราได้ประมาณ 50000 กว่าบาท ทำมา 3 ปีแล้ว แล้วเค้าจะสงสัยมั๊ยว่าทำไมคราวที่แล้วเราไม่ยื่น ตอบ... มันก้อแล้วแต่นะคะว่า คุณเจอ จนท.คนไหน แต่ถ้าคุณมีคำตอบที่สมเหตุสมผล ก้อไม่มีปัญหาค่ะ -เราไม่มีเงินในบัญชีเลย แต่ว่าเราเคยให้พี่ยืมเงินไป 400000 บาท เค้าจะโอนมา คืนเราในวันที่ 20 นี้ก่อนที่เราจะไปยื่นขอวีซ่า เราจะต้องทำงัยที่จะให้เค้าเชื่อว่าเงินนั้นพี่ชายยืมไปจริงๆ ตอบ... ยากค่ะ เงินที่พี่ชายยืมไป ตอบแบบนี้ เค้าคิดแน่ ๆค่ะว่า ปั่นบัญชี โอนเงินเข้ามาตูมนึง เพื่อขอวีซ่า -คนรับรองเราเป็นน้าแต่คนละนามสกุลกัน จะมีปัญหาอะไรรึเปล่า ตอบ... ไม่เป็นไรค่ะ ขอให้แสดงหลักฐานยืนยันที่บ่งบอกว่า คุณกับ สปอนเซอร์มีความสนิทสนม รักใคร่ ผูกพันกันมาก ถึงขนาดที่สปอนเซอร์ยอมส่งเสียเงินให้คุณไปเรียน ด้วยจำนวนเงิน ไม่ต่ำกว่าล้าน... -เราจะมีโอกาสได้วีซ่านักเรียนมั๊ยคะ เราจะต้องแก้ไขอะไรบ้าง ตอบ... เดี๋ยวเราจะสรุปด้านล่างให้ฟังนะคะ กรณี ของคุณ ทั้งจุดอ่อนครั้งที่แล้ว และจุดอ่อนครั้งนี้ ที่จะไปยื่นใหม่ -เราอยากไปจริงๆ ถ้าหลักฐานเราไม่พอที่จะยื่นวีซ่านักเรียน เราจะได้ยื่นวีซ่าท่องเที่ยวแทน แล้วเป็นโรบินฮู้ด ตอบ... อย่าได้เขียน หรือ โพสต์กระทู้แนวนี้อีกนะคะ ว่า จะยื่นท่องเที่ยวแล้วไปเป็นฮู้ด เพราะถ้าทำจริง ๆ มันจะเป็นผลเสียต่อตัวคุณเอง และต่อคนอีกหลายคนที่ตั้งใจจะมาเมกา ที่สำคัญที่สุดคือ การเขียนกระทู้แบบนี้ ดีไม่ดี อาจจะเจอคนที่ ใช้คำพูดรุนแรงต่อคุณได้ อาจจะทำให้ประเด็นของกระทู้เปลี่ยนไป แทนที่คุณจะได้คำตอบที่คุณต้องการ กลับต้องมา เจอคำพูดที่ดูถูก ถากถาง หรือ ต่อว่า รุนแรง จิปาถะมากมาย เราเห็นมาหลายรายแล้วค่ะ เพราะฉะนั้น ถ้าจะคิด จะทำ อย่างไร ไม่ต้อง พูดออกมาค่ะ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวคุณเอง ตัดสินใจด้วยตัวเอง ต่อให้คน เป็นร้อย ต่อว่า คุณขนาดไหน ลงถ้าคนจะไปแบบผิดกฏหมายแล้ว ห้ามยังงัยก้อไม่อยู่ แต่ถ้าคนเรามีสติ รู้ว่า อะไรควรไม่ควร อันนี้ ก้อ แล้วแต่บุคคลไปนะคะ... --------------------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : ข้าวปุ้นจัง - [ 13 ก.ย. 47 01:15:36 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สรุป กรณีของคุณนะคะ รอบแรกไม่ผ่าน เพราะว่า จนท.ไม่เชื่อว่าคุณจะไปเรียนจริงๆ คุณยังเรียนป.ตรีไม่จบ สปอนเซอร์ที่ส่งเสียไม่ใช่คุณพ่อคุณแม่ ไม่มีหลักฐานทางการเงิน ที่แน่นหนาและดีพอ เค้าเลยไม่ให้ อย่าลืมนะคะ ว่า คนที่ไปเรียนภาษาที่เมกา แล้วต่อ ป.ตรี เนี่ย ส่วนใหญ่ จะต้องเป็นคนที่มีฐานะการเงินพอสมควร ลองนึกตามความเป็นจริงนะคะ เรียนภาษาอย่างน้อย 3-6 เดือนต่อด้วยป.ตรีอีก 4 ปี ค่ากินอยู่ สี่ปีครึ่ง บวกกับค่าเทอม สองล้าน ยังเอาไม่อยู่เลยค่ะ แล้ว ที่สำคัญ การมาเป็นนักเรียนที่นี่ เค้าห้ามทำงาน นอกแคมปัส ที่ทำงานร้านอาหารกันโครม ๆ น่ะ แอบ ๆ ทำกันทั้งนั้นค่ะ การขอวีซ่า จนท.มองว่า คุณจะไปเรียนอย่างเดียว ไม่ได้ทำงาน ต้องมีการเงินที่มั่นคงพอ ที่จะส่งเสียคุณให้ไปเรียนได้ โดยไม่ทำงาน เคยมีคนไปสัมภาษณ์คนนึง ดันไปตอบเค้าว่า จะทำงานไปเรียนไป ผล โดน Reject ไปเลย มาดูเอกสาร ที่คุณจะขอไปครั้งนี้นะคะ รอบแรก บอกว่าเป็นนักเรียน ยังเรียนป.ตรี ไม่จบ รอบสองบอกว่า ทำงานแล้ว เงินเดือน + ค่าคอมฯ รวมๆ แล้วเกือบห้าหมื่นบาท เงินเดือนขนาดนี้ ค่าคอมฯขนาดนี้ คุณต้องมีสลิปเงินเดือนไปโชว์ให้เค้านะคะ เพราะใบรับรองการทำงานนั้น ให้บริษัทญาติพิมพ์ให้ได้ ไม่มีปัญหา ถ้าคุณไม่มีสลิปเงินเดือนให้ ต้องมีสมุดบัญชี ที่แสดงยอดเงินเข้าทุกเดือน ถ้าจะบอกว่า เงินเดือน จ่ายเป็นเงินสด จนท. ไม่เชื่อเด็ดขาดค่ะ แค่ ประเด็นของเงินเดือน ถ้าเค้ามองพิรุธปุ๊บ เค้าไม่ออกวีซ่าให้เลยค่ะ แต่ถ้า คุณมีเอกสารของเงินเดือนครบ ตามที่เราบอก ทุกอย่าง ไม่มีปัญหาค่ะ ตัดประเด็น เรื่อง งานการของคุณไป มาพูดถึงสปอนเซอร์ คนละนามสกุลได้ค่ะ แต่ควรจะเลือกสปอนเซอร์ที่อยู่เมืองไทย ทำงานทำการมั่นคง ทำงานบริษัท ไม่ก้อมีธุรกิจเป็นของตัวเอง นำเอกสารทั้งหมดไปยื่น แล้วที่สำคัญ คุณต้องหาเอกสารที่ผูกพันกับ สปอนเซอร์คนนี้ด้วยนะคะ มาพูดเงิน เงินก้อน สี่แสนที่โอนเข้ามา ถ้าคุณไม่มี เงินออมเลย ในขณะที่ มีเงินเดือน ห้าหมื่นบาท มันไม่ makesense ค่ะ จนท.จะมองเป็นผลลบแน่ๆ ว่า ทำงานมาสามปีแล้ว เงินหายไปไหนหมด (เวลาถาม ถ้าเค้าสงสัย เค้าถามจุกจิกสุด ๆค่ะ) ที่สำคัญที่สุด เราเจอมาหลายคนแล้ว ที่เรียนไม่จบป.ตรีแล้วขอวีซ่าไม่ผ่าน... ถ้าคุณยื่นไปว่า คุณทำงานไปเรียนไป เค้าจะมองในด้านลบหน่อยนึงว่า ทำไมถึงต้อง ทำงานไปเรียนไป ทำไมไม่เรียนอย่างเดียวให้จบ.. แต่มีคนนึงที่เรารู้จักเค้าขอวีซ่าผ่าน ทั้ง ๆที่ทำงานมาสองปี ยังเรียนป.ตรีไม่จบ แต่นั่น คุณแม่เค้าเป็นสปอนเซอร์ มีเงินในบัญชี ล้านห้า และเค้ามีเอกสารยืนยันหลายอย่างว่า เค้ามุ่งมั่นที่จะไปเรียนจริงๆ มีการเตรียมตัว ที่เมืองไทย ถึงผ่าน ที่เหลือ ถ้ามีเงินในบัญชีน้อย รวมถึงสปอนเซอร์คนละนามสกุล จนท.คิดแน่ๆค่ะว่า คุณทำงานไปเรียนไป แล้วจะไปเมกา เค้ามองว่า จะไปทำงานไปเรียนไปที่นั่นแน่ ๆ ประเด็นเรื่องญาติที่เมกา สำหรับเรา (ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ) บอกไป ก้อไม่ได้มีผลดี อะไรขึ้นมา เราตัดประเด็นนี้ไป เดี๋ยวจะถูกมองว่า มีแหล่งพักพิงที่เมกา เราบอกว่า เรา อยู่หอพัก จบค่ะ พอบินเข้า INS ก้อไม่ว่าอะไร พอบินเข้าเราก้อไปพักบ้านป้า จบค่ะ ไม่ต้องมานั่งตอบคำถามว่า ญาติที่อยู่เมกาทำอะไร ทำงานอะไร เป็นแฟนหรือเปล่า (มีนะคะ บางคนบอกว่า มาหาเพื่อน แต่เพื่อนเป็นผู้ชาย จนท. ดันเข้าใจว่าเป็นแฟน ลองอ่านกระทู้ด้านล่างดูน่ะค่ะ คนอื่นก้อเจอกรณีนี้ค่ะ) ถ้าคุณจะไปขอวีซ่าครั้งใหม่ เราแนะนำให้เตรียมเอกสารให้พร้อมกว่านี้ค่ะ เพราะเท่าที่คุณเขียนบอกมา ถ้ายื่นอีกที ผล น่าจะเป็นแบบรอบแรกนะคะ หาเอกสารมาปิดจุดอ่อนตัวเองให้หมดนะคะ ยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับสปอนเซอร์ที่เมืองไทย ว่ามีความผูกพันกันมาก ยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเมืองไทยว่า คุณมีสิ่งยึดเหนี่ยวที่นี่ ไปแล้วกลับมาแน่นอน ยืนยันเรื่องฐานะทางการเงินและการงานของสปอนเซอร์ ยืนยันเรื่องฐานะของตัวคุณเอง ด้านการเงินและการทำงาน (การเงินไม่เน้นมากค่ะ เพราะเงินเ ค้าไปมองที่สปอนเซอร์อยู่แล้ว แต่ถ้าคุณยื่นไปบอกว่า มีเงินเดือนห้าหมื่นบาท คุณต้องหาคำตอบ มาตอบคำถามที่จนท.สงสัยให้หมด ให้ได้นะคะ) เอกสารทุกอย่างต้องสัมพันธ์กันหมด มันจะขัดแย้งในตัวของมันเองไม่ได้นะคะ ยกตัวอย่างเช่น มีเงินเดือนห้าหมื่น แต่ไม่มีเงินในบัญชีเลย เงินเพิ่งโอนมา สี่แสน มันขัดแย้งกันน่ะค่ะ ต้องหาเหตุผลมาชี้แจง และอธิบายให้สมเหตุสมผลนะคะ หวังว่า ข้อมูลที่เราให้ไปคงช่วยคุณได้ ไม่มากก้อน้อยนะคะ ^_^ จากคุณ : ข้าวปุ้นจัง - [ 13 ก.ย. 47 01:21:09 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อันนี้ เป็น เอกสารคร่าว ๆที่คุณควรจะเตรียมไปขอวีซ่านะคะ ------------------------------------------------------------------------------------ - เอกสาร สำหรับผู้ที่จะไปขอวีซ่า 1. พาสปอร์ต 2. รูปถ่าย 3. ใบคำร้องขอวีซ่า 4. ทรานสคริปต์ (ของป.ตรี กับ ป.โท (ถ้ามี)) 5. I-20 6. ใบรับรองการทำงาน 7. สมุดบัญชี ชื่อคุณเอง จะมีมาก มีน้อยไม่เป็นไรค่ะ เพราะ เค้าจะเน้นหนักไปที่ บัญชีของสปอนเซอร์อยู่แล้วนะคะ (ออมทรัพย์ หรือ ประจำ) 8. Recommend Letter จากเจ้านาย (อันนี้มีหรือไม่มีก้อได้ค่ะ ของเรามีน่ะค่ะ เจ้านายเราเขียนให้ประมาณว่า ทำงานดี ไปเรียนจบกลับมาแล้ว จะโปรโมทตำแหน่งให้ประมาณนี้น่ะค่ะ หลักฐานตัวนี้ สำหรับเรา เรามองว่า เป็นหนึ่ง ในหลักฐานที่บ่งบอกว่าไม่ละทิ้งถิ่นฐานเดิม คือ เรียนจบแล้วมี บริษัทรออยู่ มีงานรออยู่ ทำให้เรากลับเมืองไทยแน่นอนน่ะค่ะ) 9. ใบเสร็จ คอร์ส สอนภาษา หรือ ผลโทเฟล จีแมท ที่เมืองไทย เป็นเอกสารอีกตัวนึงที่แสดงเจตนารมณ์ต่อ จนท.ว่า คุณได้มีการเตรียมตัว ก่อน ที่จะมาเรียนอเมกา ไม่ว่า คุณจะมาเรียนภาษาหรือ ป.โท ที่เมกา ควรจะมีการเตรียมตัวก่อน สังเกตุได้ว่า หลายคนที่ไปสัมภาษณ์ จนท.จะถามว่า คุณได้เรียนภาษาที่เมืองไทยก่อนไปหรือไม่ 10. เอกสารอื่น ๆ ที่บ่งบอกว่ามีความผูกพันกับเมืองไทย เช่น ถ้ามีชื่อในคอนโด หรือ ใบทะเบียนการค้า หุ้นต่าง หรือแม้กระทั่งรูปถ่ายกับ ครอบครัว แต่เอกสาร ในข้อแปดนี้ จะมีหรือไม่ก้อได้นะคะ แล้วแต่คน แล้วแต่กรณีไปค่ะ ---------------------------------------------------------------------------------- เอกสาร สำหรับสปอนเซอร์ (กรณี สปอนเซอร์คนละนามสกุล) 1. ใบรับรองการทำงานของสปอนเซอร์ (กรณีสปอนเซอร์ทำงาน บริษัท) 1.1. กรณี สปอนเซอร์ทำงานเป็นข้าราชการให้ นำใบรับรองการทำงาน และ บัตรข้าราชการ ไปยื่นด้วยค่ะ ทนายความ ก้อเช่นกันค่ะ นำบัตรประจำตัว ทนายความไปด้วยค่ะ 1.2 กรณี สปอนเซอร์ประกอบธุรกิจเป็นของตัวเอง เช่น เปิดบริษัท ห้างร้าน กรณีนี้ ให้นำใบทะเบียนการค้าไปด้วยนะคะ ในนั้นต้องมีชื่อของ สปอนเซอร์คุณ หรือ ถ้าเปิดเป็นห้างร้าน เช่น ร้านขายของชำ ร้านกาแฟ ร้านถ่ายรูป ให้ถ่ายรูป หน้าร้านไปด้วยค่ะ (ยืนยันว่า มีกิจการจริงนะคะ) 2. Financial Statement จาก ทางธนาคาร เอกสารชิ้นนี้คือ สปอนเซอร์เจ้าของบัญชี จะต้องไปที่ธนาคาร แล้ว ให้จนท.ออกเอกสารตัวนี้ให้น่ะคะ จนท.จะขอ สำเนาพาสปอร์ต ของคุณไปด้วยน่ะค่ะ เอกสารตัวนั้น จะบ่งบอกว่า เจ้าของบัญชีมีเงินในบัญชีจำนวนกี่หลัก และ เอกสารชิ้นนี้ขอเพื่อส่ง คุณXXXX นามสกุล XXXX ไปเรียนต่อที่ประเทศอเมริกา 3. สมุดบัญชี ของสปอนเซอร์ (ออมทรัพย์ หรือ ประจำ) กรณีส่งเสียไปเรียน ต้องครอบคลุม ค่าใช้จ่าย กินอยู่ และค่าเล่าเรียนนะคะ (จากข้อมูลที่เราเก็บมา ไม่ควรต่ำกว่า ล้านต้นๆ นะคะ) 4. หนังสือรับรองความสัมพันธ์ เอกสารตัวนี้คือ ข้อความที่เขียนบอกว่า สปอนเซอร์เรา ชื่อนี้ นามสกุลนี้ ทำงานตำแหน่งนี้ มีความประสงค์ที่จะ ส่งเสีย คุณคนนี้ นามสกุลนี้ไปเรียนต่อ ที่อเมกา ด้วยสาเหตุ (ก้อบรรยาย ว่า คุณกับสปอนเซอร์ ผูกพันกันเช่นไร ทำไม เค้าถึงยอมส่งเสียคุณไปเรียนเมืองนอก ส่งเสียคุณด้วยจำนวนเงินล้านต้น ๆ ) กรณี สปอนเซอร์คนละนามสกุลนั้น เน้นหนักที่ ฐานะทางการงาน และการเงิน และที่ สำคัญที่สุด คุณต้องทำให้สถานทูตเชื่อว่าทำไม คน ๆ นี้ถึงส่งเสียคุณไปเรียน แล้วลูกเค้าล่ะ ครอบครัวเค้าล่ะ คุณกับเค้ามีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นเช่นไร... กรณี คุณพ่อ คุณแม่เป็นสปอนเซอร์ ตัดเอกสารข้อ 4 ไปค่ะ ไม่ต้องมี เพราะยังงัย พ่อแม่ก้อต้องส่งเสียลูกเรียนอยู่แล้ว ด้วยความรัก... จากคุณ : ข้าวปุ้นจัง - [ 13 ก.ย. 47 01:24:37 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ***เป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะคุณข้าวปุ้นจัง แล้วก้อขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นนะคะ*** จากคุณ : จอย - [ 13 ก.ย. 47 01:51:54 A:61.90.45.214 X: TicketID:069095 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มาปรบมือให้คุณข้าวปุ้นจังค่ะ ตอบได้ละเอียดมาก ๆ เลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 47 02:25:50 จากคุณ : หมูหวาน - [ 13 ก.ย. 47 02:23:18 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณข้าวปุ้นจังนี่ใจดีจังเลยคะ ใครมีปัญหาอะไรคุณข้าวปุ้นจังยอมสละเวลาตอบให้ตลอด แถมยังใช้คำพูดสุถาพอ่อนหวานด้วย แอบชื่นชมคะ จากคุณ : เจดา - [ 13 ก.ย. 47 05:48:31 A:24.19.84.144 X: TicketID:068537 ]

ความคิดเห็นที่ 22 case นี้ผมเคยเจอครับ เคยช่วยน้องคนนึงที่ไปเรียนอเมริกา สมัยนั้นผมเองยังเรียนอยู่ที่นั่น คือถ้าไม่จบตรีมาเนี่ย ก็มีปัญหาแล้วล่ะครับ ว่ามัวไปทำอะไรอยู่ ทางโรงเรียนเขาแนะนำว่าควรเรียนให้จบตรีก่อนน่ะครับ เพราะไม่งั้น เวลาไปขอ visa เขาก็อ้างเรื่องนี้เราก็เสร็จ ส่วนเรื่อง sponser เนี่ย อย่าบอกนะว่ามีคนรู้จักที่นั่น ผมเองก็อยู่กับญาติที่ New York ตอนแรกก็ทำ bank statement ที่เมืองไทยครับ พอไปทั้งนั้น ก็ทำใหม่โดยใช้ bank statement ของญาติ ถ้าคิดจะไปเป็น robinhood ทำงานร้านอาหาร ไม่แนะนำหรอกนะ ถ้าได้เงินขนาดนี้ที่เมืองไทยนะ ก็ดีอยู่แล้ว อยู่นั่นไม่ได้ดีเหมือนที่คิดนักหรอกครับ เพื่อนฝูงก็ไม่ค่อยมี เจ็บป่วยทีก็ลำบาก ค่าใช้จ่ายก็เยอะ ถ้าไม่ตั้งใจจะไปเรียนจริงๆก็อย่าดีกว่าครับ จากคุณ : pp - [ 13 ก.ย. 47 12:17:38 A:203.155.152.29 X: TicketID:072960 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุณข้าวปุ้นน่ารักจังเลยครับ keep it up , the World is the better cause of people like you....secret admirer "ที่เข้ามาที่นี่เพื่อมาปรึกษาการขอวีซ่า ไม่ได้ให้มาวิจาร์ณชีวิตว่าเราควรจะทำอะไร " said จอย ชอบครับ เบื่อไอ้พวกวิจารณ์ชีวิตชาวบ้านทั้งๆที่ ไม่เคยรู้จักคนคนนั้นเลย จากคุณ : secret admirer - [ 16 ก.ย. 47 17:23:30 A:203.121.172.120 X: TicketID:073325 ]