ความคิดเห็นที่ 68
คุณ Thai woman
There are many R&D Labs in Asia nowadays probably because the less associated costs. It is much cheaper to run R&D Labs in China, India and Singapore.
..
ผมขอแย้งตรงนี้นะครับ เพราะว่าการเข้าไปตั้งฐาน R&D Lab ขึ้นที่ประเทศเหล่านี้ ตามความเห็นที่ 47 ครับ ไม่ใช่เฉพาะ Bill Gates เท่านั้นแต่บรรดาบริษัทชั้นนำต่างๆในสหรัฐอเมริกา ส่วนประเทศแถบเอเชียเพียงแค่มากี่ 10 ปีก็เป็นผู้นำด้านคอมพิวเตอร์จากบริษัทต่างๆ ลองดูตรงนี้ และถ้าเรื่องค่าแรงถ้าถูกกว่าทำไมถึงไม่ไปตั้งที่ยุโรปตะวันออกละครับ ??
-------------------------------------
เพราะว่าส่วนใหญ่ส่วนประกอบทาง Hardware ของคอมพิวเตอร์ 80-90 % ทางฝั่งเอเชียเป็นเจ้าของ ไม่ใช่ทางฝั่งอเมริกา เพราะมีเพียงแค่ CPU AMD กับ Intel และ Harddisk จาก Maxtor และ Seagate.... นอกนั้นเกือบทั้งหมดทางเอเชียเป็นเจ้าของ... ดังนั้นจึงเป็นการเข้าใจผิดอย่างยิ่งครับที่บอกว่าถ้าจะรณรงค์ลดการใช้สินค้าจากอเมริกาก็ต้องงดการใช้คอมพิวเตอร์ เพราะทางเอเชียต่างหากที่เป็นเจ้าของส่วนใหญ่
และจากที่ได้อ่านเพิ่มเติม ส่วนใหญทางด้าน Software ก็เป็นชาวอินเดีย .. โรงงานที่ผลิตชิป AMD ที่เมือง Dresden เยอรมัน และที่มาเลเซีย.. ผมยังแน่ใจว่าทีม R&D ของบริษัททางเทคโนโลยีทีมีเหลืออยู่ทางฝั่งอเมริกานั้นมีคนเอเชียคอยกำหนดทิศทางเทคโนโลยีแน่นอน... เพราะจากที่ผมทราบฝรั่งส่วนใหญ่ไม่ได้เก่งทางเทคโนโลยีนะครับ (อย่าให้สื่อด้านเดียวฝังหัว) ถ้าจะดูตามมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ผู้ที่เข้าเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ในประเทศอเมริกาจะเป็นเด็กจาก จีน, เวียดนาม, อินเดีย, ยิว... ส่วนคนอเมริกันจะถนัดทางด้านศิลปะและกฏหมายเป็นหลัก... ดังนั้นสินค้าเทคโนโลยีผมแน่ใจว่าที่ยังพัฒนาอยู่ได้ก็ต้องมาจากชาวเอเชียเป็นแรงสำคัญแน่นอนครับ เพราะว่าถ้าจะดูจากรายชื่อสินค้าทางเทคโนโลยี้ที่มาจากคนเอเชียล้วนๆเป็นผู้พัฒนานั้นล้วนเหนือกว่าทางฝั่งอเมริกา ยิ่งตอกยำได้ดีถึงสิ่งที่หลายๆท่านคาดเอาไว้ นั่นคือ
Mainboard : Asus, Gigabyte, MSI, VIA, Shuttle, QDI, Aopen, Abit, Albatron, Chaintech, Fic, Dfi, Soltek, Leadtek, Epox หรือเมนบอร์ดยี่ห้ออื่นๆในระดับโลกทั้งหมดมากกว่า 90 % ทางฝั่งเอเชียเป็นเจ้าของและเป็นผู้นำเทคโนโลยี
ส่วน CPU : Cyrix ถูกซื้อกิจการโดยชาวเอเชียโดยเจ้าของรายใหม่คือ Via Technology จากไต้หวัน, Transmeta จากญี่ปุ่น และทางด้าน Creative Labs ก็เป็นผู้ผลิตซาวน์การ์ดอันดับ 1 ของโลกเจ้าของคือ สิงค์โปร์... Monitor สำหรับคอมพิวเตอร์ ทั้งจาก Sony, Mitsu, Acer, Samsung, NEC, Liyama, Hyndai, Hitachi, LG จากเอเชีย ทางฝั่งสหรัฐมีเพียง Viewsonic ยี่ห้อเดียวเท่านั้น นอกนั้นที่เป็นผู้ผลิตเช่น Dell, compaq จะใช้หลอดภาพที่ผลิตจากเอเชีย ส่วน Philips เป็นผู้ผลิตจากฮอลแลนด์ และ Elsa จากเยอรมัน และไม่ต้องพูดถึงทีวี ทั้งหมด 100 % จากเอเชียครับ
คุณจะเห็นได้ว่าทางด้านอุตสาหกรรมอิเลคโทรนิคส์คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่มาจากเอเชีย.. ทางสหรัฐที่เด่นมีดังนี้ Intel, AMD, Motorola .. ส่วนแผนก Harddisk ปัจจุบัน IBM ได้ถูกขายไปให้ Hitachi แล้ว คงเหลือแต่ Maxtor และ Seagate ปัจจุบันกำลังถูกแย่งตลาดจาก Samsung และ Fujitsu และ Hitachi จากเอเชีย ซึ่งทั้งหมดที่เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับคอมพิวเตอร์ เอเชียเป็นผู้คิดค้นและเป็นผู้นำครับ ดังนั้นทั้งหมดต่อคำถามของคุณ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์มากกว่า 80% ทางเอเชียเป็นเข้าของไม่ใช่หรือครับ !?
ยังไม่รวมถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงและอุปกรณ์ดิจิตอลอีกมากมาย ซึ่งทางสหรัฐชอบอ้างตัวว่าเป็นเจ้าเทคโนโลยี หรือแม้กระทั่งทางฝั่งยุโรปเอง แต่กลับแทบจะไม่มีสินค้าที่มีคุณภาพออกมาแข่งกับทางเอเชียได้เลยเช่น
กล้องดิจิตอล : จาก Nikon, Casio, Canon, Fuji, Pantex, Sony, Olympus, Toshiba, Minolta ทั้งหมดจากเอเชีย มีเพียง 2 ยี่ห้อเท่านั้นจากสหรัฐคือ HP และ Kodak ซึ่งคุณภาพไม่สามารถเทียบชั้นได้กับเทคโนโลยีจากเอเชีย ยังไม่รวมถึงกล้องแบบธรรมดา 35mm ซึ่งก็จากเอเชียทั้งหมดเช่นกัน, Flatbed scanner ผู้นำก็คือ Epson ซึ่ง Hp ก็ไม่สามารถ scan ภาพออกมาได้ดีเท่า เช่นกันกับ Printer ที่ Epson เป็นผู้นำทางด้านคุณภาพของภาพ Output ที่ได้รับ, Video card เกือบทั้งหมดก็มาจากเอเชีย (ผู้ผลิต Board) ส่วนผู้ผลิตชิป Nvidia นั้น ถึงแม้จะเป็นบริษัทอเมริกัน แต่ CEO (ประธานคณะผู้บริหารสูงสุด) ก็เป็นชาวเอเชียอีกเช่นกัน... ATI จากแคนาดา และ S3 ที่ถูก Via จากไต้หวันซื้อไปอีกเช่นกัน
โทรศัพท์มือถือ : ข้อนี้ถือว่าทางฝั่งยุโรปพอจะมีสินค้าเทคโนโลยีออกมาบ้าง นั่นคือมาจาก Nokia (ฟินแลนด์), Sony-Ericsson (เอเชีย-ยุโรป) Siemens (เยอรมัน) Alcatel (ฝรั่งเศษ) Sendo (อังกฤษ) Philips (ฮอลแลนด์) และ Motorola เพียงรายเดียวจากอเมริกา แต่ถ้าจะสังเกตให้ดีช่วงหลังๆที่ผ่านมาทางผู้ผลิตเหล่านี้ประสบปัญหาทางด้านคุณภาพในการผลิต ล้วนหันมาตามเทคโนโลยีจากเอเชีย ทั้งด้วยเหตุผลทางด้านการตลาดและทางเทคโนโลยี ทางฝั่งเอเชียเช่น Panasonic, Sony, Samsung, Nec, Trium, LG, Sharp...
ยังรวมถึงอุปกรณ์อิเลคโทรนิคส์อีกมากมาย พวกเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆส่วนใหญ่ล้วนมาจากเอเชีย มีจากสหรัฐเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และแทบจะไม่มีเลยจากยุโรป (มีเพียงbrand ท้องถิ่น)
จากคุณ :
Start now
- [
13 ก.ย. 47 12:56:45
]
|
|
|