ความคิดเห็นที่ 55
เดี๋ยวพรุ่งนี้จะวาดรูปแสดงการวางลิ้นในช่องปากเพื่อออกเสียงกลุ่มเหล่านี้ พร้อมคำอธิบายนะ 1. s, z, c 2. x, q, j 3. sh, ch, zh
หลักนี้เป็นอะไรที่คิดว่าเป็นพื้นฐานแรกที่ผู้เรียนต้องใช้เวลาฝึกและวางลิ้นให้ถูกต้องยามเปล่งเสียง เพราะว่าเสียงเหล่านี้เป็นเสียงที่ เราในฐานะที่ไม่ใช่เป็นคนจีน "ฟังไม่ได้ยิน" เพราะว่า "ไม่เคยได้ยินมาก่อน"
ถ้าใช้หลักสำหรับการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศที่ดิฉันใช้คือ imitate จากนั้น assimilate ขั้นตอนของการ imitate หรือเลียนแบบนั้น ถ้าจะเลียนแบบให้ถูกต้อง ก็ต้องได้ยินก่อน ถ้าเราไม่ได้ยิน (ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ คือไม่ได้ยินความแตกต่าง) เราก็จะเลียนแบบไม่ได้เหมือน เพื่อแก้ปัญหาการไม่ได้ยินนั้น สำหรับดิฉันมีวิธีการเดียวคือ การรู้ตำแหน่งการวางลิ้น การเคลื่อนของริมฝีปากให้ถูกต้อง แล้วเปล่งเสียงออกมา
ฝึกฝนไปสัก 3 วัน ก่อนจะผลีผลามรีบออกเสียง ให้ชินกับการวางลิ้นและริมฝีปากในเสียงต่างๆ นี้
โม้นิดหน่อยว่า อันนี้เป็นการสังเกตจากตัวเองนะ เพราะครูปักกิ่ง (ที่ไม่ใช่ครูหวัง) เขาพยายามอธิบายให้ดิฉันฟังว่า ต้องออกเสียงตัวไหนๆ หนักเบาอย่างไร แล้วดิฉันนำมาสรุปเพื่อการปฎิบัติเอง หลักนี้ดิฉันได้แนะนำเพื่อนชาวสเปนไปด้วยที่เรียนมาระดับหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาการออกเสียงเหล่านี้ ดิฉันใช้เวลาอธิบายเพียง 5 นาทีเท่านั้น ปรากฎว่าเพียงข้ามคืนเท่านั้น วันรุ่งขึ้นก็มาขอบคุณดิฉันเป็นการใหญ่เพราะเขารู้แล้วว่าจะต้องออกเสียงอย่างไร
หลังจาก imitate ได้แล้ว ทีนี้ก็ฝึกฝนๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จนกลายเป็นธรรมชาติ เมื่อไรเห็นตัว pinyin อย่างนี้ก็ออกเสียงอย่างนี้ ลิ้นวางที่ไหน ในที่สุดจะถึงขั้น assimilate ได้ นั่นคือเราออกเสียงได้ดังกับเป็นธรรมชาติของเรา
และจะเริ่มรู้ตัวว่า จากเสียงที่เรา "ไม่ได้ยิน" ในตอนแรกนั้น ตอนนี้เราออกเสียงได้ และเราได้ยินเสียงที่เราเปล่งออกมาเอง ทุกๆ วัน ทุกๆ วัน (ต้องฝึกทุกวันนะ) แล้วในที่สุด เราจะ "ได้ยิน"
อ่านตรงนี้อาจจะสับสน ต้องให้ไปวาดรูปก่อนนะ แล้วจะถ่ายรูปให้ดู จะได้เข้าใจมากขึ้น (ไม่อยากอธิบายการออกเสียง ในกลุ่ม 3 กลุ่มที่พูดถึงเลยทันที เพราะจะทำให้งงมากขึ้น ถ้ามีรูปจะเข้าใจดีกว่า)
ตัวอย่างที่ดีอันหนึ่งคือ เช่นในภาษาฝรั่งเศส ดิฉันไม่ได้ยินเสียงตัว u แต่รู้ว่าต้องทำปากอย่างไรเวลาเปล่งเสียง นั่นคือ ทำปากห่อแบบเวลาจะออกเสียง "อู" แต่ว่าให้ออกเสียงเป็น "อี" ก็จะได้เป็นเสียง u ของฝรั่งเศสออกมา
อ้อ เสียง u นี้ก็ใช้สำหรับภาษาจีนเวลาออกควบ "qu" ใน qu(4) ที่แปลว่า "ไป" นั่นเอง
ถึงแม้จะเพิ่งเริ่มเรียนภาษาจีนอย่างที่คุณรียาและคุณ BFR บอก แต่ว่าดิฉันมั่นใจในหลักที่ใช้นี้ค่ะ เพราะในชั่วโมงเรียน ดิฉันเป็นคนเดียวที่ไม่ต้องถูกแก้ไขการออกเสียง เมื่อเทียบกับคนอื่น แต่คนอื่นในชั้น (ยกเว้นเพื่อนชาวสเปนที่เรียนจบคอร์สไปแล้ว) ไม่มีใครถามดิฉันว่า ทำไมจึงไม่มีปัญหาการออกเสียงที่ใครๆ มักจะสับสน ดิฉันก็เลยไม่มีโอกาสอธิบายให้เขาทราบสักที
พรุ่งนี้มาต่อนะ
จากคุณ :
พธูไทย
- [
วันออกพรรษา 04:15:15
]
|
|
|