CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    วิธีทำ TOEFL ให้ถึง 600 แบบไม่ยากเกินไป

    TOEFL 600 อาจไม่ยากเกินไป คนที่ได้ประมาณ 570 - 580 คงรู้สึกว่ายากมากที่จะให้ได้ 600 ถึงแม้จะขาดไม่กี่คะแนน อยากจะแบ่งปันวิธีทำให้ได้ครับ โดยแบ่งเป็นส่วนๆ นะครับ เพื่อคนที่หวัง 550 ด้วยครับ..

    1. Listening - ส่วนนี้ต่อให้เรียนที่ไหนในระยะเวลาสั้นๆคงไม่สามารถ เพิ่มคะแนนให้มากได้ แต่ฝึกได้โดยฟังเพลงหรือหนังเยอะๆ การลงเรียนตามที่เรียนตามสถาบันต่างๆ ตั้งแต่ระดับ international เช่น Kaplan หรือ Princeton หรือ ระดับชาติ เช่น อ.สงวน หรือ BB&C ก็ช่วยไม่ได้มากในระยะเวลาอันสั้น เช่น เรียน 2 เดือนก่อนสอบ แต่สิ่งที่ได้จากสถาบันเหล่านี้ คือ เทคนิคในการตัด choice เช่นเสียงคล้าย อันนี้ต้องศึกษากันเองนะครับ หาหนังสืออ่านเองได้ เทคนิคเหล่านี้ ช่วยได้จริงเวลาฟังไม่เข้าใจ แล้วต้องเดา ถ้าฝึกอย่างพอเพียงจะได้คะแนนประมาณ 23 - 24 ซึ่งพอระดับ 550 แต่ถ้าจะให้ได้ 600 ต้อง..
    ฝึกสมาธิครับ !! ปัญหาอยู่ที่การจำเรื่องราวของบทสนทนายาวๆ ไม่ได้ ไม่ใช่คุณฟังไม่ออก นะครับ แค่จำไม่ได้ ฉะนั้น สมาธิที่ นิ่งๆช่วยได้มาก (ประสบการ์ณตัวเอง) เพื่อนผมที่ได้ listening 30 เต็มฝึกเพิ่มเติมโดยการฝึกฟังในสถานที่ ที่เป็นธรรมชาติไม่เงียบสงัดเหมือนในห้องสอบ ก็ช่วยได้อีกทางหนึ่งครับ

    2. Grammar - ถ้าพื้นฐานไม่แม่นจริง ยังใช้ความรู้สึกในการตอบข้อสอบอยู่ ประมาณว่า "คุ้นๆ" ลงเรียนเพิ่มเถอะครับ ผมเคยมั่นใจใน grammar ตัวเองแต่มาเห็นคะแนนตอนสอบแล้ว grammar กลับน้อยสุดเลยครับ เลยตัดสินใจเรียน คุณควรจะตอบ grammar ที่ถูกได้ว่าควรจะอยู่ในรูปไหน TOEFL ทดสอบ grammar ในเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆกันครับ ที่เรียนมีหลายที่ดีครับ ไม่อยากแนะนำจะกลายเป็นการโฆษณาไป ทำแบบฝึกหัดเรื่องที่ออกบ่อยๆ เยอะๆ ครับ ช่วยได้จริงๆ grammar ไม่ยากเกินความสามารถคนไทยจริงๆ ครับ ฝรั่งบางคนรู้ grammar สุ้เราไม่ได้เลยครับ เพราะเขาอาศัยว่าใช้ทุกวัน ไม่ศึกษาเหมือนเรา ถ้าทำได้ คะแนนช่วงสูง ก่อนรวม Writing น่าจะประมาณ 27 - 29

    3. Reading - ที่สำคัญคือ คำศัพท์ ซึ่งต้องสะสมแต่เด็กแต่ไม่จำเป็น ถ้าสามารถเดาความหมายจากรูปประโยค หรือคำศัพท์ข้างๆ ได้ ฝึกง่ายๆด้วยการ อ่านคอลัมน์ภาษาอังกฤษวันละ 1 คอลัมน์ให้ชินตา ไม่ต้องเข้าใจทั้งหมดแต่ทำให้เราคุ้นกับการอ่าน ทำให้อ่านเร็วขึ้น เทคนิคที่ผมใช้ในการสอบคือ อ่านคำถามก่อนอ่านเนื้นความทำให้ เซฟเวลาในการทำพอสมควร (ทำตั้งแต่สมัยเป็น paper-base)สำหรับคนที่มีปัญหาทำข้อสอบไม่ทัน การทำแบบฝึกหัดเยอะๆ ยังช่วยได้เสมอ คะแนนส่วนนี้โดยส่วนตัวผมว่าพัฒนายาก ผมอยู่ในช่วง 24 - 25 ตลอด อันนี้คงต้องหวังคำแนะนำจากคนอื่น อะ ครับ ผมระลึกเสมอว่า Reading ของ TOEFL คำตอบอยู่ใน passage ทั้งหมด ง่ายกว่า GMAT ล้านเท่า รู้สึกตลอดว่าทำได้ทั้งหมด แต่คะแนนไม่ขึ้น =(

    4. Writing - เป็นผลของ grammar ถ้าเข้าใจจริงก็เขียนถูก grammar ผมว่าถ้า grammar แม่นจริงคะแนนระดับ 550 จะอยู่ประมาณ 3.5 - 4.0 ถ้าจะเพิ่มก็ต้องเพิ่มความสวย และน่าดึงดูดของการเขียน เช่น เชื่อมประโยคด้วยสันธาน หรือ ใช้ adj / adv ขยาย ไม่ใช้คำศัพท์ซ้ำกัน และอื่นๆ อีกมากมาย คงต้องอาศัยการฝึกฝนและหาอ่านเทคนิคต่างๆ จากหนังสือ ผมคิดว่าคะแนนจะขยับได้เป็น 4.5 - 5.0

    สรุป.. ผมคิดว่าคนที่จะขยับจาก 570-590 ให้ได้ 600 นั้นเน้นที่ listening ดีกว่าครับ เพราะฝึกเพิ่มแค่สมาธิ ถ้า listening โดดได้ถึง 27 - 28 TOEFL 600 ก็แค่เอื้อมคับส่วนอื่น ยืนที่ 24 - 25 เกินชัวร์ครับ

    สุดท้ายครับ แนะนำการตั้งความหวังนิดนึง ตั้งให้สูงกว่าที่หวังครับ อยากได้ 550 ตั้งที่ 600 อยากได้ 600 ตั้งที่ 620 - 630 เหมือน projectile ในวิชาฟิสิกส์ครับ "Aim High" ครับคนส่วนใหญ่ไม่ได้อย่างที่ตั้งความหวังไว้หรอกครับ เพื่อไว้นิดนึงมันจะหล่นมาพอดีที่คุณต้องการครับ

    โชคดีครับ

    คนไทยเก่งกว่าฝรั่งแน่นอนครับ =) มีอะไรคุยกันได้ครับ ที่ viperbkk@yahoo.com

    จากคุณ : ไม้สอง - [ 7 พ.ย. 47 21:36:31 A:10.153.20.15 X:203.107.217.194 TicketID:019540 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป