สืบเนื่องจากกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H3124135/H3124135.html
วันนี้อารมณ์ไหนไม่รู้ แต่อยากพูดให้ฟังถึงโรงเรียนภาษา และธุรกิจของพวกเขา แบบถึงกึ๋น ใครได้โผล่มาอ่าน และกำลังหาที่เรียนต่ออยู่ อยากเอาไปปรับใช้หรือเก็บไปคิดดูก็เชิญค่ะ ไม่ว่ากัน
ขอบอกไว้ก่อนว่า กระทู้นี้ตั้งขึ้นมาเพราะเกิดอาการ "ทนไม่ได้" กับเอเย่นต์ต่างๆที่รับจัดการเรื่องวีซ่า รวมไปถึงหาสถาบัน หาบ้านพักให้กับผู้ที่สนใจศึกษาต่อในประเทศอังกฤษ โดยใช้วิธีหากินกับ "ความไม่รู้" ของนักเรียนทั้งหลาย เก็บเงินของคุณไว้ แล้วจัดการเดินเรื่องเองดีกว่า เรื่องง่ายขนาดนี้เอาเงินทองไปให้เอเย่นต์ทำไมกันก็ไม่รู้!!! บางที่ร้ายกว่านั้น มีปัญหาตอนเดินทางมาถึง มันไม่รับผิดชอบอีกตะหาก แต่กลับโยนให้โรงเรียนภาษารับไปเฉยเลย แล้วอีนังโรงเรียนภาษามันไม่ได้จะช่วยเราเท่าไหร่หรอก เพราะมันไม่เกี่ยวกะเค้านี่นา
ช่องทางหากินของโรงเรียนภาษาต่างๆที่เราเห็นกันอยู่ทั่วเกาะอังกฤษนั้น
บะหมี่เห็นว่านี่คือ "ช่องทางทำมาหากิน" ของธุรกิจจำพวกหนึ่งเท่านั้นแหละค่ะ เพียงแต่ไอ้ธุรกิจนี้มันคือธุรกิจสถาบันการศึกษา คนไทยเรามองว่าสถาบันการศึกษาเป็นที่ที่เราต้องเคารพ คงทำอะไรตรงไปตรงมาถูกต้อง มีคุณธรรมในการช่วยเหลือนักศึกษาอย่างเรา แต่ถ้ามองว่ามันคือ "ธุรกิจ" จำพวกหนึ่งเท่านั้นล่ะ? มีทางใดที่เราจะเสียเปรียบเกินไปบ้างหรือเปล่า??? ตานี้มาดูกันว่าเค้าทำอะไรกันบ้าง
ขอออกตัวไว้ก่อนว่า ที่เขียนๆๆๆมาเนี่ยะ คือมาจากประสบการณ์ส่วนตัวในประเทศนี้ ทั้งจากการทำธุรกิจ และติดต่อคนที่นี่ล้วนๆ ไม่เกี่ยวอะไรกับหลักฐานยืนยันใดๆทั้งสิ้น...เพราะงั้น อ่านจบแล้วก็ไปคิดเอาเอง..อย่ามาคาดหวังว่าทุกอย่างเป็นอย่างที่อีนี่มันพล่ามมาทั้งหมด
1. สถาบันเหล่านี้เป็นเพียงสถาบันสอนภาษาอังกฤษสำหรับชาวต่างชาติ และมีคอร์สเตรียมพร้อมสำหรับผู้สนใจจะเรียนต่อในหลักสูตรการศึกษาในประเทศอังกฤษ พูดง่ายๆก็คือ เป็นเพียง "หนึ่ง" ใน "สามพันแปดร้อยห้าสิบหกโรงเรียนครึ่ง" ที่ทำมาหากินกะคนต่างชาติที่อยากมาเรียนภาษาและใช้ชีวิตอยู่ในประเทศอังกฤษ ที่โอเคก็คือเค้ามีคำว่า "คุณภาพ" ห้อยท้ายอยู่กะเค้าเหมือนกัน เวลาจบถึงได้มีใบนู่นใบนี่มาให้ แต่อย่าลืมว่า โรงเรียนที่ทำธุรกิจประเภทนี้ มีอยู่ล้านแปดในเกาะอังกฤษ เพราะงั้น คุณภาพที่โรงเรียนนั้นมี ก็ใช่ว่าที่อื่นจะไม่มี
2. โรงเรียนในลักษณะนี้ รายได้หลักของเค้ามาจาก ค่าลงทะเบียนของนักเรียน และ ค่าธรรมเนียมขอต่อวีซ่าในกรณีที่เราให้โรงเรียนจัดการให้ หลังจากที่คอร์สแรกได้จบลงพร้อมกับระยะเวลาของวีซ่าที่หมดลงด้วย
ส่วนรายได้เสริม ก็มาจากการ จัดหาที่พักให้นักเรียนที่เพิ่งมาถึง (เพราะพอมันมาถึงกันแล้วส่วนใหญ่ก็ไปหาที่อยู่เองเป็นอิสระกว่า) ซึ่งความเป็นจริงก็คือ เค้าได้ค่านายหน้าจากบ้านเหล่านั้น กับการที่หานักเรียนเข้าไปพัก อาจจะถามต่อว่า ทำไมโรงเรียนเหล่านี้จะมีส่วนได้ส่วนเสียตรงนี้ด้วยล่ะ? ก็ขอตอบชัดๆเลยตรงนี้ว่า คนที่อยากเอาห้องว่างในบ้านตัวเองไปปล่อยเช่า ส่วนมากเป็นพวก Home owner ก็คือซื้อบ้านอยู่เอง ยังผ่อนมอร์เกจอยู่หัวโต ก็เลยอยากได้คนมาพักด้วยแบบชั่วคราว แล้วอีกอย่าง นักเรียนได้รับการยกเว้นภาษีโรงเรือน (Council Tax) เค้าก็เลยอยากได้พวกเราไปพักกันนักหนา อีนังโรงเรียนมันก็กินค่านายหน้าไปเปรมพุง แถมนักเรียนยังชมอีกว่า แหมตัวเอง บริการดี๊ดีนะฮ๊า...
3. ขณะนี้ที่เห็นๆกันอยู่ ก็คือโรงเรียนภาษาต่างๆ เริ่มจะมีบริการเสริมต่างๆให้นักเรียนเลือก แบบ Full Options มีการหามหาวิทยาลัยให้ สำหรับผู้ต้องการเรียนต่อระดับปริญญาตรี โท หรือแม้กระทั่งเอก แต่อันนี้ยกผลประโยชน์ให้จำเลย เพราะค่าเรียนนั้นก็อย่างที่รู้ๆกันว่า เริ่มตั้งแต่ปีละ 3000- 14000 ปอนด์ แพงหูปริอยู่แล้ว ไอ้การที่โรงเรียนภาษาจะมาฟันค่านายหน้าอีกนั้นจึงทำได้ยาก...เค้าเลยใช้วิธี ติดต่อกับมหาลัยนั้นๆ เอาค่าคอมมิชชั่นเป็นเปอร์เซ็นต์ คิดเปอร์เซ้นต์กันจากจำนวนเงินค่าลงทะเบียนที่เราต้องจ่ายให้มหาลัยนั้นๆ ทีนี้ถ้าไปที่ไหนแล้วมันแนะนำจั๊งว่ามีให้เลือก 3 ที่นะในสาขาที่เราอยากเรียน แล้วก็เชียร์จั๊ง...ว่าดีนักดีหนา ที่อื่นอุบาดหมด 3 ที่นี้ดีที่สุด อยากจะให้เราลงทะเบียน ก็ไม่ต้องแปลกใจเลย มันเป็นเพราะเค้ามีดิวกับมหาลัยเหล่านี้ไว้ ถ้าเราผ่าไปสมัครมหาลัยอื่น เค้าก็ไม่ได้เปอร์เซ็นต์จากค่าเรียนเราหน่ะสิ!!!
จากคุณ :
@บะหมี่เกี๊ยวหมูแดง@ 
- [
21 พ.ย. 47 06:03:06
]
@@@ความเป็นจริงของสถาบันสอนภาษาในอังกฤษ (กระทู้นี้แอนตี้เอเจ้นท์เรียนต่อต่างประเทศ ไม่ชอบ อย่าคลิก)!!!@@@
