PANTIP.COM : H3154479 อยากทราบว่าจบกฎหมาย สามารถทำงานอะไรได้บ้าง???? []

ความคิดเห็นที่ 7

คนที่บอกให้น้องฟังนี่ก็แปลกนะ ที่บอกว่ากฎหมายไม่ค่อยประยุกต์ใช้ได้ จริงๆ มันใช้ได้กับแทบทุกเรื่องเลย เพราะแค่เราตื่นมา ก้าวออกจากบ้านก็อยูใต้กฎระเบียบต่างๆ เต็มไปหมดแล้ว ส่วนที่ถามว่ารุ่งยากหรือไม่นี่ มันก็เริ่มตั้งแต่น้องคิดแล้วหละครับ จริงๆ อยู่ที่กฎหมายเป็นสาขาที่คนเรียนเยอะ เพราะมหาลัยเปิดก็มีสอนเต็มไปหมด แต่ก็อย่างที่ตอบไปแล้วว่างานที่ทำได้ก็มีเยอะเช่นกัน ถ้าหวังขนาดที่ว่าจะเป็นพาร์ทเนอร์ในสำนักงานกฎหมาย มีรายได้เดือนละสองสามล้าม มันก็ยากอยู่แล้ว เพราะยอดปิระมิดมันเล็กนิดเดียว พี่ว่าอย่าเพิ่งมากังวลเรื่องนี้เลย ถ้าเราพยายาม มีวินัย และวางแผนให้ดีตั้งแต่ต้นมันก็เป็นไปได้นะ ถ้าน้องยังเอ็นท์อยู่ ก็พยายามเข้าจุฬา ธรรมศาสตรื ให้ได้ เพราะอย่างน้อยมันก็เป็นรากฐานที่ดีให้น้องได้ระดับหนึ่ง

สำหรับสาขากฎหมาย ยังไงก็ต้องยอมรับอยู่อย่างหนึ่งว่าต้องถ้าไม่ได้ต่อปริญญาโทต่างประเทศ ก็จะรุ่งยาก เป็นค่านิยมมาแต่โบราณแล้ว โดยเฉพาะถ้าทำงาน Law Firm ฝรั่ง ยังไงก็ต้องไป และไปมหาลัยที่ดีๆ ก็สำคัญ จะมีก็แต่สายผู้พิพากษาอัยการสายเดียวที่การจบต่างประเทศไม่สำคัญ สำคัญที่คะแนนสอบเข้ามากกว่า

ถ้าถามว่าทำไมต้องไปเรียนต่อเมืองนอก กฎหมายเราก็ใช้กฎหมายไทย ไปเรียนกฎหมายต่างประเทศทำไม ก็ตอบได้ว่า กฎหมายทุกฉบับของเรามีแม่แบบความคิดเป็นกฎหมายต่างประเทศทั้งสิ้น ฉบับไหนมาจากประเทศไหนก็ต้องไปค้นดูกัน เว้นให้เรื่องเดียวคือกฎหมายครอบครัว ที่เป็นไทยแท้แต่โบราณ ฉะนั้นถ้าเราเข้าใจตัวแม่แบบความคิดแล้ว การจะเข้าใจกฎหมายบ้านเราให้ลึกซึ้งก็จะง่ายมาก

จริงๆ การไปเรียนกฎหมายเมืองนอกจะมีสองแบบด้วยกัน แบบแรกคือไปเรียนกฎหมายบ้านเค้าเลย เช่นกฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายปกครอง กฎหมายอาญา กฎหมายสัญญา ทรัพย์สิน ห้างหุ้นส่วนบริษัท ฯลฯ ซึ่งต่างจากกฎหมายบ้านเรามาก เรียนมาก็เอามาใช้ตรงๆ ไม่ได้ แต่ที่ไปเรียนกันก็เพื่อจะไปดูว่าในเรื่องเดียวกันนี่ โลกกว้างเค้ามองปัญหาอย่างไร เช่นเรื่องเดียวกันแท้ๆ กฎหมายไทยมองว่าเป็นละเมิด กฎหมายอังกฤษมองว่าเป็นเรื่องผิดสัญญา เรียนแล้วก็ทำให้หูตาเรากว้างไกลขึ้น ทำให้เราเข้าใจกฎหมายไทยที่ไปลอกเค้ามาได้ดีขึ้น หรือเพื่อไปดูว่ากฎหมายเรื่องนั้นเรื่องนี้ของชาวโลกนี่เค้าพัฒนาไปถึงไหนแล้ว เค้าไปอวกาศกันแล้ว เรายังหักร้างถางพงกันอยู่เลย เช่นกฎหมายห้างหุ้นส่วนบริษัทไทย เหมือนกับกฎหมายอังกฤษฉบับปี 1940 กว่าๆ เปี๊ยบ แต่ตอนนี้อังกฤษเค้าใช้ฉบับปี 1985 แล้ว กฎหมายเราวิ่งตามเค้าอยู่เกือบสี่สิบห้าปี เรียนแล้วก็จะได้เอามาใช้พัฒนาปรับปรุงกฎหมายเราให้ดีขึ้น

กฎหมายอีกพวกที่เรียนกัน ก็คือกฎหมายที่มีลักษณะเป็นสากล หรือกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ หลักเกณฑ์พวกนี้จะคล้ายๆ กันเกือบทุกประเทศ เรียนมาแล้วก็แทบจะใช้ได้เลย เช่นกฎหมายระหว่างประเทศคดีเมือง คดีบุคคล การค้าการลงทุนระหว่างประเทศ ภาษีระหว่างประเทศ กฎหมายเศรษฐกิจ กฎหมายที่เกียวกับธุรกรรมทางธุรกิจต่างๆ เป็นต้น กฎหมายทางนี้คนไทยเรียนเยอะ เรียนแล้วก็ทำงานได้ทั้งเอกชนทั้งราชการ

ที่น้องถามว่าเรียนมาจากต่างประเทศแล้วจะได้รับการยอมรับไหม ก็ตามที่บอกไปว่ามันกลับกัน ถ้าไม่จบโทต่างประเทศนั่นสิ จึงจะลำบาก แต่ถ้าน้องหมายถึงการไปเรียนตรีกฎหมายที่ต่างประเทศแล้วกลับมาทำงานเมืองไทย ก็เป็นความจริงที่ว่าจะทำงานได้จำกัดมากๆ เพราะวิชาชีพกฎหมายเป็นวิชาชีพหวงห้ามสำหรับคนต่างชาติ ในทางปฏิบัตินอกจากวัดที่สัญชาติแล้ว คนที่จะสอบเนติบัณฑิต และสอบตั๋วทนายได้ ต้องจบปริญญาตรีกฎหมายในเมืองไทยเท่านั้น ถ้าไปเรียนตรีมาจากนอกก้จะว่าความ หรือเป็นผู้พิพากษาอัยการไม่ได้เลย ทำได้แค่เป้นที่ปรึกษากฎหมายเท่านั้น ซึ่งพี่เห็นว่าแม้ในงานที่ปรึกษากฎหมายเองก็ยังลำบาก เพราะการจะเข้าใจและใช้กฎหมายจะต้องมี context ที่ถูกต้อง ถ้าไม่เคยฝ่านการเรียนในบ้านเราเลย มุมมองประเด็นกฎหมายก้จะเพี้ยนไป ทำให้ทำงานเมืองไทยได้ลำบาก เท่าที่เห็นส่วนใหญ่เด็กที่จบตรีกฎหมายไม่ว่าจะเป้น LL.B. จากอังกฤษ หรือ JD จากอเมริกา ถ้าไม่ทำงานที่นั่นเลย ก้จะข้ามไปทำงานสายอื่นมากกว่า เช่นเป็นทูต หรือได้ทุนเข้ากระทรวงทำงานเฉพาะด้านไปเลย

พี่ว่าทางที่ดีที่สุดก้คือเข้าจุฬา ธรรมศาสตร์ให้ได้ ตั้งใจเรียนฟันฝ่าเอาเกียรตินิยม แล้วก้ทำงานสักสองปี แล้วไปต่อ LL.M. สักสองใบ รับรองรุ่ง ถ้าอยากรู้อะไรเพิ่มอีก เมลล์มาคุยกันได้ที่ airtweetybird@hotmail.com
แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 47 00:43:13

จากคุณ : Lawเก้อ - [ 4 ธ.ค. 47 00:38:01 ]