ถือว่ามาเล่าสู่กันฟังนะคะ การแต่งงานกับชาวต่างชาติ(เอ๊ะเรียกฝรั่ง จะหยาบไหม เดี๋ยวนี้ บางทีคำว่าฝรั่งมันใช้ยากเหมือนกันนะ บางคนเขาฟังแล้วไม่ชอบใจ) และต้องย้ายที่อยู่นั้น ถือว่าต้องการปรับตัวระดับหนึ่ง เมื่อเข้าที่เข้าทางแล้ว ต่อไปก็คิดหางานการทำ วางแผนครอบครัวกันไป แต่เป็นเมียเอ็กซ์แพทอย่างอิฉันนี่สิคุณขา มันดูเหมือนสบายนะ แต่ลำบากใจบรรพบุรุษมากค่ะ
ดูภายนอกก็หรูหราดีนะคะ มี morning coffee ,after lunch tea , cocktail parties สังสรรค์กับแม่บ้านผลัดถิ่นมาเหมือนๆ กัน มีคนรับใช้ มีคนขับรถ มีบ้านอยู่ สปอร์ตคลับ คือมีสิ่งสุขสรรค์ตามใจชอบนั่นแหละค่ะ แต่กลับรู้สึกว่าความเป็นตัวตนของเรา มันกลับยิ่งลดน้อยลงไปทุกที
หางานทำก็ไม่ไ้ด้ เพราะเราถือวีซ่าผู้ติดตาม เกิดโดนจับขึ้นมา ฝาละมีจะพลอยซวยกันไปด้วย การไม่มีงานทำ และไม่มีหวังว่าจะได้ทำนั้น(สอนศิลปะ ที่บ้านอาทิตย์ละสองวัน ดิฉันไม่นับ เพราะเป็นงานอดิเรก) เลยรู้สึกว่า ขอโทษที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษนะคะ lack of identity, self-worth ไม่มีบ้านให้กลับ เพราะดิฉันไม่มีอะไรที่เมืองไทยเลย มันก็ยิ่งทำให้รู้สึกไร้ราก อยู่กับตัวเองจริงๆ ไม่มีใคร พอจะมีเพื่อนคุยกันบ้าง เดี๋ยวเขาก็ย้ายไป หรือไม่ ก็ต้องกลับบ้านปีละสองหนเวลาลูกเขาปิดเทอม บางทีก็นึกกลัวว่า เอ หรือเราจะเป็นเหมือนเสาไฟฟ้าวะ ปิดเปิดตามเวลานาฬิกา ตื่นเช้า เข้านอน วันหนึ่งก็ตายไป ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
พูดคุยกับสามีอยู่เป็นประจำ แต่เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจว่า เรารู้สึกอย่างไร คงได้แต่เห็นใจ และประคับประคองความรู้สึก กันไป
ประเทศที่อยู่นี้ ก็ยิ่งทำให้ไม่มีความหวัง เพราะมันล้าหลังเหลือเกิน จะเก็บเสื้อผ้ากลับบ้าน ไปทำงานเฉิดฉาย ตามปกติเคยก็สงสารสามี เพราะให้เขาอยู่่คนเดียวที่นี่ มีหวังเป็นบ้าแน
บางทีก็คิดว่า คงจะดีหากเราจะเป็นคนไม่คิดอะไรให้มันลึกซึ้ง เอาแค่อยู่สุขสบาย มีกินมีใช้ก็น่าจะพอ แต่ก็อย่างว่า มนุษย์เรามันก็เป็นเสียอย่างนี้ มีไอ้นั่นก็อยากได้ไอ้นี่
ตอนนี้เพื่อกันตัวเองเป็นบ้าไปก่อน หลังจากกลับจากเมืองไทยเดือนกุมภา ว่าะสมัครเรียนซัมเมอร์คอร์ส หนุกๆ IMAGE consultant และถือโอกาสเที่ยวไปด้วย ทิ้งให้สามีอยู่บ้านสักเดือนสองเดือน อันนี้เป็นแผนการเพื่อให้ตัวเอง มีจุดมุ่งหมายในอนาคต ไม่งั้นแย่แน่่ โรคแบบนี้เขาเรียก เอ็กซ์แพทไวฟ์ซินโดรม เขามีบำบัดกันด้วยแหละ สงสัยใกล้แล้วล่ะ
อยากอยู่ ที่บ้านริมทะเลสาปของครอบครัว แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เพราะสามีไม่รู้จะทำมาหากินอะไร ที่นิวยอร์คเพราะเขาเป็นวิศวกรปิโตรเลียม ภาพนี้ถ่ายตอนปลายหน้าร้อน สิงหาที่ผ่านมา เฮ้ออออ อีกที
แก้ไขเมื่อ 09 ธ.ค. 47 08:38:46
แก้ไขเมื่อ 09 ธ.ค. 47 08:26:05