ความคิดเห็นที่ 1 ขอบอกคำเดียว ว่า ในฐานะคนเป็นแม่มีลูกเล็ก เป็นเหมือนคุณเลยค่ะ ไม่ชอบมากๆคนแปลกหน้า ถึงคนในครอบครัวก็เถอะไม่ชอบให้มาหอมมาจูบลูกเรา ยิ่งคนไทยชอบจูบชอบหอมเด็ก ชอบมาอุ้มด้วย ฝรั่งเขาจะมี ดิสแทนซ์ มีสเปซบ้าง ไม่รู้ว่าเขารูกันไหมว่ามันอาจเป็นการแพร่เชื้อโรคให้เด็กด้วยเวลาเขามาจูบเด็ก ยก ตัวอย่าง หากใครเป็นโรคเริมที่ปากมีเชื้อแล้วทำให้เด็กติดได้และโรคนี้ไม่หายด้วย หอมลูกเราแถวหน้าแถวปาก ดิฉันก็คงไม่ชอบ ยิ่งเด็กเล็กๆผิวบางจะตายไป คุณต้องใจแข็งด้วย ยิ่งกะคนไม่รู้จักต้อง เซย์โน เพื่อลูกเอง มาขออุ้มก็ไม่ต้องให้ มาหอมฟอดเลยยิ่งไม่ชอบ เดี๋ยวมาคุยต่อนะคะ คิดว่าแม่ๆหลายคนคงรู้สึกเหมือนๆกัน จากคุณ : BFR - [ 17 ม.ค. 48 14:06:46 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มาเม้าท์ต่อค่ะ ตะกี้แอบไปสวีทกะเจ้าตัวเล็กมาอุตส่าห์นั่งดูหนังด้วยกันดีๆๆ พ่อเจ้าประคู๊ณของดิฉัน ทั้งฉี่ทั้งอึเลยค่ะ ... จริงอย่างที่คุณคหที่สองว่าค่ะ ดิฉันน่ะใจแข็งแถมดุตลอดแต่แม่ดิฉันสิค่ะ ก็เข้าใจค่ะว่านิสัยคนไทยไม่ถือสาไม่ว่าไรก็ได้แต่เดินหนี..แต่ดิฉันไม่ค่ะ อย่างเมื่อเช้าน่ะค่ะสดๆๆร้อนๆๆ น้าดิฉันอุ้มเจ้าตัวเล็กยืนอยู่หน้าบ้าน ..คือบ้านเป็นห้องแถวน่ะค่ะ อยู่ๆก็มีผุ้หญิง เดินมาจับมือเจ้าตัวเล็ก อ่อ ดิฉันก็เห็นน่ะค่ะก็ไม่ว่าไรอยุ่ๆๆหล่อนหอมแก้มเลยอ่ะ เอ๊า....ดิฉันเลยถามว่า อ่อ นี่ใครเนี้ย หล่อนก็ทำหน้ายิ้มเฉยๆๆ เห่ยดิฉันกะจะเดินไปถามอะไรเนี้ยย๊ะ...ดีแม่ของดิฉันรู้ดิฉันใจร้อนเลยแกล้งบอกให้พาตัวเล็กไปกินนม ..โหย เลือดขึ้นหน้า ใครฟร่ะอยู่ๆๆ มาหอมเฉยเลย...พาลูกไปล้างหน้า ล้างตา ล้างมือ..อย่าหาว่ากะแดะเลยค่ะ แต่หวงลูกจริงๆๆ ดิฉันก็โมโหบ่นๆๆ ใครๆๆน่ะแม่ แม่ดิฉัน อ่อ อย่าไปถือสาเลยเค้าเป็นคนงานร้านข้างๆน่ะ เราก็เอ๊า แล้วไงอ้า...แม่ดิฉันก็พูดตามประสาคนไทยน่ะค่ะ เค้าเอ็นดูเด็กเค้าเห็นเด็กมันขาวอวบน่ารักก็อยากจับอยากหอม ... โหคุณดิฉันน่ะ เถียงกับแม่อ่ะ ว่าอ่อก็คิดแบบนี้อ่ะดิ เด็กติดเชื้อไรขึ้นมาก็มานั่งโทษเวรกรรม ... เฮ้ยกลุ้มใจ ดิฉันก็เข้าใจนิสัยคนไทยน่ะค่ะ แต่แบบนี้ไม่ไหวอ่ะ เคยอุ้มไปทานไก่ทอดมีแบรนด์น่ะค่ะ (ไม่บอกน่ะค่ะว่ายี่ห้อไร) คุณผู้จัดการ ปราถนาดีมาก พาพนักงานเดินมาบอกว่าให้พนักงานเค้าอุ้มลูกให้ไม๊ เราจะได้กินไก่กับแฟนเราได้สะดวก เฮ้ย....เรื่องกินไม่ได้สำคัญกับฉันมากไปกว่าลูกฉันน่ะย๊ะ..เลย เซย์โนไป "ดิฉันสามารถทานได้ค่ะ มือนึงอุ้ม มือนึงตักกิน" เข้าใจค่ะว่าเด็กลูกครึ่งอ่ะ น่ารัก แต่แหม่เจอแบบนี้บ่อยๆ ประสาทกินค่ะ ... เมื่อกี้คุณหมอก็ โทร.มาบอกว่า เจ้าตัวเล็กยังมีเชื้อไทฟรอยส์อยู่ คุณขาคิดดูสิค่ะ ลูกเราถ่ายวันไม่รู้กี่หน เบ่งหน้าเขียวหน้าเหลือง น่าสงสารจะตายไป เจอแบบนี้น่ะดิฉันวีนแตกประจำ เหมือนพวกงูจงอาง หวงไข่เล๊ย... จากคุณ : beachstars - [ 17 ม.ค. 48 14:58:36 A:61.91.31.196 X: TicketID:085499 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ดิฉันเข้าใจ คุณจกท. มากค่ะ ถึงดิฉันจะยังไม่มีลูกเป็นของตัวเองก็ตาม แต่จากประสบการณ์ (เก็บตกจากเพื่อนค่ะ) เพื่อนดิฉันเค้าไม่ให้คนอื่นจับเลยน่ะค่ะ ถ้าเป็นคนในครอบครัวก็เถอะ เค้าให้ล้างมือให้สะอาดก่อนทุกครั้ง ให้กอดได้ แต่ห้ามหอมค่ะ เดี๋ยวมาคุยต่อค่ะ จากคุณ : ตัวอ้วนค่ะ (maett) - [ 17 ม.ค. 48 17:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ส่วนตัวเราก็ไม่ชอบนะ เห็นฝรั่งในทีวีบางทีชอบจูบปากเด็กๆ กับหมาก็ยอมให้มันเลียปาก เราเห็นแล้วอึ๋ย ไม่ไหวล่ะ ปากนี่จะว่าไปก็ไม่สะอาดเท่าไรนะ วันๆทานอะไรเข้าไปมั่งไม่รู้ ยกเว้นบางคนที่แปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ(มีด้วยเหรอ) แถมน้ำลายอีก เป็นตัวแพร่เชื้ออย่างดี ลูกเรายังเล็กก็ไม่อยากให้เขาติดเชื้อโรคอะไรพวกนี่นะ ยิ่งพวกไวรัสตับอักเสบบีที่เข้าใจว่าเป็นแล้วหายยาก และติดต่อทางน้ำลาย เราเองพออายุเริ่มมาก รู้มากขึ้น ก็ระมัดระวังตัวมากขึ้นน่ะ จากคุณ : JR roo - [ 17 ม.ค. 48 18:50:30 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เคยอ่านเจอในนิตยสาร หญิงไทยคนหนึ่งแต่งงานกับชาวต่างชาติแล้วย้ายไปอยู่ประเทศเค้า เพื่อนบ้านเธอมีลูกเล็ก  วันหนึ่งเธอเห็นหนูน้อยนั่งเล่นอยู่ในรถเข็น เธอจึงเข้าไปยอกล้อ ด้วยความรักใคร่  แต่พอแ่ม่ของหนูน้อยเธอเห็นเข้า เธอก็รีบพาลูกของเธอกลับเข้าบ้านทันที ประหนึ่งว่าเธอเป็นตัวเชื้อโรค ... กลายเป็นว่า  เธอคิดว่า แหม่มคนนั้นรังเกียจเธอ โดยส่ วนตัวไม่ค่อยเป็นกับเด้กส่วนใหญ่จะเป็นกับสุนัข เห็นไม่ได้ต้องขอเข้าไปลูบ ๆ คลำ ๆ hehe แล้วเค้าจะติดเชื้อหนูมั้ยเนี่ย จากคุณ : Capulet J. - [ 17 ม.ค. 48 18:56:33 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตั้งแต่ลูกเกิดเลยค่ะ หมอฝรั่งนี่แหละเป็นคนถามว่า ที่บ้านมีสมาชิกกี่คน... หมอย้ำว่าให้เฉพาะสมาชิก ภายในบ้านเท่านั้นแตะต้องอุ้มลูก  ดิฉันละทึ่งจริงๆ ค่ะ  แต่อยู่ๆไป ไม่ว่าจะไปไหน ไม่เห็นมีใครอยาก จะหยิบลูกอิฉันไปกอดไปหอมเลยค่ะ เลยไม่มีปัญหา เรื่องนี้  รึลูกเราไม่น่ารัก ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : ปรารถนา - [ 17 ม.ค. 48 22:50:22 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แวบมาคุยค่ะ คุณเจ้าของกระทู้ มีอยู่ที  (มาร่วมแชร์)ด้วย ตอนลูกเล็กๆ ไม่กีเดือน (วัยกำลังน่ารักสำหรับคนอื่นมั้งคะ ลูกเราๆยังอยากหอมเลย แต่ดิฉันก็ระวังนะ หากตัวเองเป็นหวัด ไม่สบายนี้ก็จะห่างๆเขา) เคยไปเที่ยวพัทยากัน(ถ้าจำไม่ผิด) เผลอ แป้บเดียวมีคนมาหอมฟอด ตอนนั้นโกรธมาก คนที่ไม่รู้จักเลยแม้แต่นิดเดียว คุณCapulet ประเทศนั่นคือฝรั่งเศสหรือเปล่าคะ อิอิอิ พอดีเพื่อน (ที่อยู่ฝรั่งเศสด้วยกัน) เคยเจอเหมือนกันค่ะ เขาบอกว่างง  เล่นๆได้แต่อย่าไปจับเขา พ่อแม่เขาไม่ค่อยชอบ ก็จริงนะคะ คนเราจับอะไรมากินอะไรมาก็ไม่มีใครรู้ เป็นโรคอะไรมาก็ไม่มีใครรู้อีกเช่นกัน แต่ว่าจะให้เลื้ยงเด็กอยู่ในที่ครอบก็ไม่ได้อีกเช่นกัน คงต้องหาความพอดีมั้งคะ เฮ่อ ตอนนี้ลูกสาวโตแล้ว 3 ขวบ เขาไม่ยอมให้ใครมาจับ มาหอม เว้นแต่คนในครอบครัว และพ่อแม่ ก็ดีไปอย่างค่ะ นี้ก็เฝ้าสอนเขาว่า ลูกอย่าไปหอมคนที่ไม่รู้จักนะ หรือใครที่ทำท่าจะหอม เราก็เปลี่ยนสถานการณ์เป็นว่า "เชคแฮนด์พี่เขาสิ " อะไรแบบนี้แล้วกัน หรือตอนลูกเล็กๆก็ จะรีบออกตัวไว้ก่อนว่า "พ่อเด็กเขาไม่ชอบให้ใครมาหอม มาจูบ" (อันนี้เป็นความจริง) หรือไม่ก็ถ้ากับคนไทยก็ทำเป็นพูดลอยๆไว้ก่อน อย่างน้อยคนอื่นที่เขาไม่รู้เรื่องก็จะได้ทำตัวถูก "ปกติแล้ว ฝรั่งเค้าไม่ชอบ ( หรือ ไม่ก็ เขาถือกัน ว่าไม่ให้ทำ) ให้คนอื่นมาจับ มาหอมลูก ยิ่งคนไม่รู้จักยิ่งแล้วใหญ่" ก็ค่อนข้างได้ผลนะคะ ยิ่งอธิบายไปด้วย คนเขาก็จะได้ตระหนักว่า อ้อ มันเป็นแบบนี้นี่เอง กันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ จากคุณ : BFR - [ 17 ม.ค. 48 22:50:31 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แห่กๆๆ แอบแว่บคุณลูกตอนเค้าหลับมาเข้าสมาคม อิๆๆ... ยังมีเม้าท์ต่อน่ะค่ะ คุณๆขา ก็เจ้าลูกชายดิฉันสิค่ะ นอกจากเธอยังเป็นทารกตัวน้อยๆๆ แค่ สี่เดือน แถมยังขี้เล่นอีกต่างหาก ใครเข้ามาเล่นด้วยก็ดันหัวเราะ ต่อกะสิก กะเค้าอี๊ก ดู๊ ดู ความทะลึ่งของเด็กๆๆ น่ะค่ะ .. เราคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ดีใจลูกเราสดใสร่าเริง ก็เลยกลายเป็น แม่เหล็กดูดผุ้คนเข้ามาเล่นด้วย เวลาไปเดินตามห้างน่ะค่ะ ดิฉันจับเจ้าลูกชายใส่เป้ของเค้าแล้วเดินจับสองมีเค้าตลอดไม่ให้อม ไม่ให้ใครจับด้วย เวลามีคนยื่นมือมาจับดิฉันจะเดินเร็วมากกก... จนแฟนขำ เค้ารู้ว่าเราหวงลูกอ่ะ ..มีอยู่ครั้ง พาพ่อแม่แฟน ตัวดิฉันและแฟนแล้วก็เจ้าตัวเล็กไป ทานอาหารที่โรงแรมค่ะ พนักงานสาว เจ้าหล่อน ก็เดินมาโปรยเสน่ห์ จะขออุ้มลูกดิฉันอยู่นั้น ล่ะ ดิฉันก็บอกไปว่าไม่ได้ค่ะ พ่อเค้าไม่ชอบให้ใครมาอุ้มมาจับลูกเค้า... ครั้งแรกไม่สำเร็จ หล่อนมาอีกค่ะ ครั้งที่สอง พี่ๆๆ หนูขออุ้มหน่อยน่ะ น่ะ น่ะ .... อ่อ ดิฉันก็ อ่ะ คุณน้องขา พ่อเค้าไม่ชอบค่ะ อ่ะ หล่อนก็เดินหนีไปทำงานต่อ สักพักมาอีก...พี่ค่ะหนูอยากอุ้มจิงๆๆ อ่ะ อยากเอาน้องไปอวดพวกในครัวน่ะค่ะ ... เฮ่อ..... ลูกฉันเป็นของเล่นไงฟร่ะจะมาอุ้มไปอวดคนโน่น คนนี้ ดิฉันเลยโมโห อ่อ น้องค่ะ อุ้มไม่ได้ค่ะ (ดิฉันรักษามารยาทสุดๆๆ แบบสุดจะทน) หล่อนทำหน้าแบบว่าโกรธมากก แล้วเดินหนีไปเลยค่ะ .... แหม่คนสมัยนี้ สมัยก่อนตอนที่ดิฉันยังไม่มีลูก ก็ไม่เคยคิดจะไปจับมือถือแขนหรือ จุจู๊บ ลูกใครเล๊ย ให้ตายเหอะ ...ไงมามีลูกเป็นของตัวเองดันมาเจอแบบนี้ อีก คิดในแง่ดี อ่อ ลูกเราน่ารัก เอาน่ามีคนรักดีกว่ามีคนเกลียด ... ช่วงนี้ ดิฉันเลยอาศัยอาการใช้หน้ากาก เอา ... สะตอเบอรี่ เข้าไปแล้วก็ ฉากหนี เท่านี้ ก็รักษาลูกน้อยเอาตัวรอดเป็น ยอดดี เอย....อิๆๆ จากคุณ : beachstars - [ 17 ม.ค. 48 23:13:38 A:61.91.31.38 X: TicketID:085499 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นดิฉันก็ไม่ให้อุ้มหรอกค่ะ ต่อให้เป็นคนรู้จักก็เถอะ ไม่ให้จับด้วยล่ะ ใครจะว่ายังไงก็ช่าง อย่างคุณเบญว่า ต้องอ้างว่าพ่อเขาไม่ชอบให้ใครมาจับ เดี๋ยวติดเชื้อโรค เพราะเด็กเกิดที่ต่างประเทศ ภูมิคุ้มกันต่อโรคไม่เหมือนเด็กที่อยู่ในเมืองไทย เพราะเชื้อโรคต่างชนิดกัน แม่ดิฉันก็ท่าทางจะเข้าใจดี แต่ไม่รู้ท่านจะทำได้ไหม แต่จะว่าไปก็แปลกดีนะคะ คนไม่รู้จักเข้ามาหอม ว้าย ดิฉันไม่เคยเจอเลยค่ะ หมอของลูกดิฉันให้เช็คดูที่เวบไซต์ของ Center of Disease Control ก่อนออกเดินทางกลับประเทศไทยให้ไปฉีดวัคซีน กันไข้ typhoid ดิฉันก็พาลูกไป แต่หมอที่ศูนย์วัคซีนบอกว่าลูกดิฉันยังไม่ถึงสองขวบ ยังให้ฉีดไม่ได้ ก็เลยได้ฉีดแต่กัน ไวรัสตับอักเสบ A (Hepatitis A) มาให้ หวั่นๆจังเลยค่ะกลัวลูกเป็นไทฟอยด์เหมือนลูกเจ้าของกระทู้ เพิ่งสี่เดือนแท้ๆ น่าสงสารจังเลยหนูน้อย (ลูกดิฉัน 18 เดือนค่ะ) ดิฉันตลกพนักงานเสิร์ฟอาหารของโรงแรมที่คุณไปทานอาหารจังค่ะ ตื๊อเก่งจริงๆ ลูกคุณคงจะน่ารักจริงๆน่ันแหละ ถึงได้อยากอุ้มกันนัก จากคุณ : yinnerella - [ 18 ม.ค. 48 01:35:00 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เจอประจำค่ะ ใครมาเล่นด้วยไม่จับตัวไม่เป็นไร แต่พวกที่มาจำมาหอมนี่เลือดขึ้นหน้าเลยค่ะ พยายามหาวิธีกันเอาไว้แล้วแต่สถานการณ์ อย่างเวลานั่งในร้านอาหาร จะเอาลูกไว้ที่นั่งในสุด อย่างโต๊ะที่เป็นบู้ท นี่ก็ให้ลูกนั่งใน carrier แล้ววางไว้ด้านในของบู้ท แล้วเรานั่งข้างนอกกันเอาไว้ พวก waitress เนี่ยก็พยายามจะมาจับนักล่ะ ลูกนั่งข้างในยังไม่วาย พอยื่นมือมาปุ้บเราก็เอามือขวางทันทีเลยค่ะ ทำทีเป็นหยิบขวดพริกไทย หยิบอะไรก็ได้บนโต๊ะที่ทำให้แขนเรากั้นแขน waitress ได้ แล้วมีเหมือนกัน waitress ขออุ้มไปโชว์ในครัว เรานี่งงว่าคิดได้ไงอ่ะ ลูกเธอหรือไงจะเอาไปโชว์ เราก็ตอบไปยิ้มๆว่าไม่ได้ค่ะ สักพักเดินมาอีกค่ะ ขอเหอะ เราก็ไม่ให้อีก ขออยู่สามครั้งเราจ่ายตังค์เดินออกจากร้านเลยค่ะ ไม่ไปอีกเลยร้านนั้น บางทีพลาดท่า บางคนมาไวมากมาถึงหอดฟอด เรานี่เดินหนีทันที แล้วเอาwipeขึ้นมาเช็ดหน้าลูกเรา โกรธจริงจริ้งงงง เดี๋ยวอีกไม่กี่เดือนกลับเมืองไทยนี่ชักกลัวเหมือนกัน แม่ต้องมือไวค่ะ ใครทำท่าจะอุ้มจะจับนี่ดึงลูกหนีทันที ฮะฮะ ดูเหมือน rude นะคะ แต่เพื่อลูกยอมค่ะ จากคุณ : มิมิมิมิมิ - [ 18 ม.ค. 48 02:27:55 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่ชอบเหมือนกันค่ะ จะเครียดมากถ้ามีคนมาหอมแก้มหรือจับๆ เกินเหตุ กำลังรวบรวมความกล้าที่จะบอกพวกเค้าว่า กรุณาอย่าทำอย่างนั้น เพราะตัวเองเป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าว่าใครค่ะ แต่ต่อไปนี้ต้องกล้าแล้วล่ะ เพื่อลูก จากคุณ : แม่ลูกอ่อน - [ 18 ม.ค. 48 02:32:36 A:172.134.7.4 X: TicketID:076829 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อยู่ที่นี่ส่วนมากถ้าเขาจะขอจับ ขออุ้ม เค้าจะถามก่อนว่าขอจับ ขออุ้มได้ไหม บางทียอมให้จับแก้ม แต่อุ้มนี่ก็ยอมกับคนที่รู้จักกันจริงๆ ค่ะ   เวลาไปไหน เห็นเด็กๆ น่ารักดิฉันก็ได้แต่ดูแต่ตา แล้วก็ชมลูกเขา บางทีก็ต้องถามพ่อแม่ว่าขอจับได้ไหม (เมื่อก่อนตอนไม่มีลูกเป็นบ่อยค่ะ) พอมามีลูกเอง ก็เลยเห่อของตัวเอง และเข้าใจเหมือนกัน เดี๋ยวนี้ได้แต่มองชื่นชม แต่ถ้าเจอแบบคุณ จขกท  มาจุ๊บตรงปาก คงไม่ยอมค่ะ จากคุณ : Kitty_PoPo - [ 18 ม.ค. 48 03:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พอดีเลยค่ะ กำลังเซ็งกับเรื่องนี้อยู่พอดี ลูกเกือบหนึ่งขวบแล้วเวลาออกไปเที่ยวนอกบ้านก็จะไปแถวสวนที่มีต้นไม้ และธรรมชาติ ไม่เคยพาไปแถวห้างสรรพสินค้าเพราะเรื่องนี้แหละ(คุณหมอเตือนถ้าไม่จำเป็นอย่าไปเลย) ยังมีคนชอบมาทักและอยากจับแก้มอยากหอม ส่วนมากเวลาไปข้างนอกเราจะไม่ค่อยมองใคร ถ้าไม่งั้นคนชอบมาคุยและอยากจะจับแก้มลูก เราจะเดินจ้ำๆไปเลย ส่วนที่บ้านถ้ามีใครมาจะให้ล้างมือก่อน ตอนที่ลูกเกิดแรกๆจะให้ถอดร้องเท้าด้วย แต่เดียวนี้ทำบ้างไม่ทำบ้างเบื่อต้องมานั้งพูดปากเปียกปากแฉะ บางคนครั้งเหยียบขี้หมามาเหม็นเต็มบ้านเลย ยิ่งที่นี้ช่วงนี้โรคท้องเสียกำลังระบาดเลย คุณหมอก็เตือนบ่อยๆว่าเวลาไปข้างนอกให้ล้างมือทุกครั้งตอนเข้าบ้านและตอนทำอาหาร เราหนะทำแน่นอนอยู่แล้ว ไม่ได้หวงลูกหรอกนะแต่เวลาลูกไม่สบายใครที่ทรมานไม่ได้หลับได้นอนต้องนั้งเฝ้าลูกทั้งคืน มีอยู่ครั้งหนึ่งลูกไม่สบายต้องไปนอนที่โรงพยาบาล ที่นั้นเค้าจะมีพี่เลี้ยงไว้คอยดูแลเด็กเวลาพ่อแม่ไม่อยู่ พอดีกลับไปเอาของใช้ที่บ้าน พอมาที่โรงพยาบาลอีกทีเห็นพี่เลี้ยงคนหนึ่งกำลังหอมฟัดลูกใหญ่จูบบริเวณครึ่งปากครึ่งแก้ม พอเห็นเรามาก็พูด "เอ๊ามาแล้วเหรอ" แล้วเค้าก็แย้ม เท่านั้นแหละดิฉันจะเป็นลม ฟันเนี้ยสกปรกมากเลยขี้ฟันเคลือบเติมเลยดูเหมือนไม่เคยแปรงฟันเลยตั้งแต่เกิด แถมเหมือนเป็นโรคเหงือกบวมอักเสบอีกต่างหาก ดิฉันแทบจะร้องไห้เลยหันไปพูดกับสามีว่า "คุณๆ ดูฟันเค้าสิ "(พูดภาษาไทย)สามียิ้มแล้วตอบว่า "อย่างนี้ลูกเรามีภูมิคุ้มกันโรคแล้วแน่เลย" จากคุณ : Morgan (Morgan de toi) - [ 18 ม.ค. 48 04:31:21 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อ่านกระทู้นี้แล้วตรงใจมาก ตอนแรกนึกว่าตัวเองจะเป็นคนเดียวซะอีก ตั้งแต่มีลูกเนี่ย เกิดอารมณ์แบบเจ้าของกระทู้บ่อยค่ะ คนนอกที่ไม่รู้จักดิฉันก็อาศัยเดินหนี ทำเป็นอยู่ในอารมณ์รีบสุดๆ ให้เค้ารู้ว่าเราไม่อยากหยุดให้เค้าเล่นกับลูกเรา แต่มามีปัญหาสุดๆ เมื่อเร็วๆ นี้กับเพื่อนรักของสามี จะว่าไปเค้าทั้งคู่ก็เป็นเพื่อนรักของตัวเองด้วย คบกันมานาน ช่วยเหลือกันมาทุกอย่าง ผู้ชายเป็นคนอังกฤษ ภรรยาเป็นอิตาเลี่ยน ที่บ้านเค้ามีหมาตัวโตมากๆ ตัวนึง เค้าทั้งคู่รักหมาตัวนี้มากๆ พอกับลูกชายคนเดียวของเค้า (อันนี้เค้าบอกเอง) หมาตัวนี้นอนบนเตียงกับเค้า นั่งบนโซฟา เล่นของเล่นทุกอย่างรวมกับคน เมื่อก่อนไปทานอาหารที่บ้านเค้า บ่อยครั้งที่หยิบพิซซ่ามากัดแล้วเจอขนน้องหมา แต่ก็พยายามทำใจ เพราะตัวเค้าอยู่กันทุกวันจนชิน อีกอย่างเค้ารักของเค้ามากๆ รู้ว่าเราไม่ควรแสดงกริยารังเกียจ แต่มาตะบะแตกตอนมีลูก เมื่อนเดือนก่อน แวะไปเยี่ยมเค้าครั้งแรก ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกดีใจมาก ไปถึงก็กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับเจ้าลูกชายกันใหญ่ เราก็น่า... ลุง ป้า เค้ารักหลาน แต่มีอาการค่อนข้างระแวงน้องหมาขึ้นมาตะหงิดๆ สักพัก ได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจกันทั้งบ้าน พอเราไปดู เค้าก็บอก ดูสิเนี่ย น้องหมาเค้าชอบอันดา เลียมือใหญ่เลย เราเห็นหมาตัวโตๆ เลียลูก ซ้ายทีขวาที ก็เริ่มฉุน รีบไปเอา baby wipe มาเช็ดมือ ช่วงนี้ลูกเริ่มดูดนิ้วด้วย แย่จริงๆ เลยเจอแบบนี้ เลยเอาลูกมาอุ้มซะเอง สักพักนึงภรรยาเค้าก็เดินมา บอกจะช่วยอุ้ม เพราะเห็นเราเหนื่อย เราก็เกรงใจ ไม่รู้จะขัดยังไง เลยต้องยอมอีก เค้าก็อุ้มอันดานั่งโซฟาใกล้ๆ เรา น้องหมาก็มานั่งเอาคางเกยเจ้าของด้วยความอิจฉา เธอก็เอามือลูบหัว ลูบหน้าด้วยความเอ็นดูน้องหมา แล้วดิฉันก็ได้ยินเสียง จ๊วบๆๆๆ ดังมาจากอันดา พอหันไป โอ๊ย จะเป็นลม เธอเอาหัวแม่โป้งของเธอยัดเข้าไปให้อันดาดูดค่ะ เด็กเค้าเพิ่งเรียนรู้ คว้าอะไรได้ก็เข้าปากหมด แม้แต่มือที่เพิ่งลูบห้วหมามาเมื่อสักครู่นี้ เค้าก็ไม่สน ดิฉันเห็นแล้วอยากร้องไห้ ทนไม่ไหวแล้ว เดินไปบอกสามี จะกลับบ้าน ไม่อยู่แล้ว สามีก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร มาเล่าให้ฟังในรถ เค้าบอกว่า ทีหลังถ้าเห็นใครทำอะไรแล้วเราไม่พอใจ บอกเค้าไปเลย ไม่ต้องเกรงใจ  เฮ้อ...พูดง่าย แต่นิสัยเรามันไม่ใช่แบบนั้น ยิ่งเพื่อนคบกันมาเป็นสิบปี มันพูดไม่ออก เค้าเองก็แก่กว่าเราสิบกว่าปี ทำไมเค้าคิดเองไม่ได้ก็ไม่รู้ สรุปดิฉันมาช่วยบ่นอีกคนค่ะ แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 48 06:37:52 จากคุณ : แอ๊ด (I-am-Anda) - [ 18 ม.ค. 48 06:35:55 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่ชอบค่ะ ยิ่งเข้ามาจูบมาหอมอย่างนั้น เด็กเล็กต้องยิ่งควรระวังคะ คิดว่าอย่างเราคนเป็นแม่ไง ก็ดีใจเมื่อมีคนมาชมว่าลูกเราน่ารัก แต่ทำอย่างนั้น โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าเกินไปคะ จากคุณ : aerts (aerts) - [ 19 ม.ค. 48 00:54:11 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีงามๆแบบไทยนึงครั้ง กับทุกๆความเห็นของคุณแม่บ้านที่นี่ค่ะ เรื่องเม้าท์ของลูกๆๆ นี้สนุกดีน่ะค่ะคงเป็นเพราะคนเป็นพ่อ เป็นแม่ น่ะค่ะ ทั้งรักทั้งหวง ทั้งเห่อลูก อิๆๆ ตอนนี้ลูกชายดิฉัน ยังมีเชื้อไทฟรอยส์อยู่ค่ะ แต่ว่าอาการไม่ได้หนักหนาอะไร ตามตำรา โบราณของไทยคุณแม่ดิฉันว่า เด็กกำลังยืดตัวค่ะ มียาอะไรก็ให้กินไป สักพักก็จะหายไปเอง ส่วนคุณหมอบอกว่า เชื้อตัวนี้ไม่ร้ายแรงอะไร แต่จะหายยาก...ดิฉันเป็นคุณแม่มือใหม่ใจร้อนก็พยายามดูแลเค้าอย่างดีที่สุดค่ะ...ส่วนเรื่องวัคซีนน่ะค่ะคุณyinnerella ตอนแรก ดิฉัน ก็ฉงนใจค่ะ ว่าอ่ะ มันมีวัคซีนนิหว่าทำไมเราไม่ให้หมอฉีดให้ลูกฟร่ะ โง่จิง ..แต่พอไปถามคุณหมอท่านก็บอกว่า ฉีดไปมันไม่ได้ผลสักเท่าไร สิ่งที่สำคัญคือเรื่องความสะอาดน่ะค่ะ...ตอนนี้เจ้าลูกชายเริ่มทานอาหาร เสริมแล้ว เนื้อตัวดูรัดและแข็งเป็นมัด มากกว่าอาทิตย์ที่แล้วที่เนื้อตัวของเค้า ค่อนแข็งเหลว ... เด็กน่ะค่ะยังเล็กภูมิคุ้มกันน้อยมาก .. ตอนนี้ก็มีอีกปัญหานึง คือ เวลาลูกนอนตอนกลางคืน ใช่ไมค่ะ เค้าจะหายใจ ขัดน่ะค่ะ เวลากินนมดิฉัน ก็จะมีเสียง ครืด คราด แบบม้า เลย อิๆๆ กินๆๆ ไปสักพักจะ สำลักนม เห็นแล้วสงสาร ใช้น้ำเกลือหยอด ก็แล้ว ยาหยอดจมูกสำหรับ ทำให้หายใจคล่องก็แล้ว ยังไม่ดีขึ้นเลยค่ะ คุณแม่บ้านมีเคล็ดลับ อะไรช่วยชี้แนะด้วยเถอะค่ะ... ตอนนี้หมดเวลาเม้าท์แล้วค่ะ ว่างๆจะมาเม้าท์ใหม่น่ะค่ะ แอบไปเก็บความรุ้เรื่องลูกต่อ แล้วมีอะไรดีๆๆ จะมาแชร์ให้แม่บ้านที่ท่านค๊า... จากคุณ : beachstars - [ 19 ม.ค. 48 02:31:25 A:61.91.31.158 X: TicketID:085499 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามาแจมค่ะ แม่ของสามีเลี้ยงสุนัขอย่างกับเลี้ยงลูกคนเล็กทุกประการ เคยไปกินอาหารแล้วเจอขนหมาในอาหาร น้ำ นั่งโซฟาก็ขนติดเต็มตัวเรา เค้าเคยไปเยี่ยมเราที่บ้านและปล่อยให้หมาเดินเล่นทั่วบ้านเรา เราเลยบอกกับสามีว่าว่าถ้าแม่เธอไปเยี่ยมเราที่บ้านเอาหมาไปได้แต่เราไม่ชอบให้หมาเดินไปทั่วบ้าน แค่นี้จริงๆนะ แต่หลังจากมีลูกก็ต้องกลุ้มทุกครั้งที่ไปบ้านแม่สามีค่ะ เค้าปล่อยให้หมามาดม มาเลียลูกเรา เรางี้แทบจะกรี้ด..เค้าว่าต้องปล่อยให้มันดมมันจะได้คุ้น อ้าววว...เคยคุยกับแม่สามี เธอบอกว่าอาบน้ำครั้งสุดท้ายให้หมาเมื่อ5เดือนก่อน แป่ววววว...เราอึดอัดมากๆไม่รู้จะทำยังไงดี เฮ้อ...นี่กำลังจะพาลูกกลับไปเมืองไทย ไม่รู้ว่าจะต้องไปเจออย่างหลายๆคนเล่าหรือเปล่าค่ะ กลุ้มเลย ลูกเราชอบดูดนิ้วด้วย กลัวติดเชื้อโรคกลัวสารพัดค่ะ เฮ้อ..อีกที จากคุณ : Mamm - [ 21 ม.ค. 48 09:28:49 ]