ความคิดเห็นที่ 1 ระหว่างยื่นให้แฟนถามว่าเชื่อใจยูได้ไหม เขาบอกว่าทำไมจะไม่ได้ แฟนก็เลยบอกว่างั้นให้คิตเดินตามมันไปในร้านได้ไหม ปากบอกว่าได้ แต่ตัวเดินลิ่วไปเลย ทิ้งท้ายบอกให้ไปเอาทีวีหลังร้านประตูที่ 3 เดี๋ยวจะไปริงราคาและที่อยู่ให้ก่อน แฟนก็โอเค (คิตก็นึกว่าแฟนรู้ซะอีกว่ามีประตู 3 ด้วย เพราะเห็นโอเค ) ในใจคิตก็เชื่อที่แฟนบอกว่าเขาเป็นพนักงานเบสบายด้วย เลยไม่ได้ลง ปรากฏพอขับไปหลังร้านไม่เห็นมี คิตก็บอกเคนว่าเราโดนแล้ว เราก็เลยเดินเข้าไปในร้านต่อ ไม่เจอแม้แต่เงา ถามพนง มีคนชื่อนี้หรือเปล่า เค้าก็บอกว่าไม่มี ในที่สุดรู้ว่าโดนก็เลยแจ้งตำรวจ กล้องวิดีโอในร้านก็จับภาพไม่ได้เพราะเค้ามัวแต่ซูมดูในร้านไม่ได้ถ่ายแถวประตู คืนนั้นก็เลยได้แต่ทำเรื่องแจ้งแล้วก็กลับบ้าน แถมคนๆ นั้นนี่แต่งตัวเครื่องแบบพนักงานด้วยนะคะ เบอร์มือถือของเขานี่ก็โทรติดต่อไม่ได้อีกเลย อ้อยเข้าปากช้างไปแล้ว เลยได้แต่แจ้งเรื่องและถือว่าติดหนี้ค้างกันชาติก่อนไป ฟาดเคราะห์ไปละกัน แล้วเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นที่เบสบายสาขานี้มาก่อนหน้านี้ 5 เดือน แต่เป็นคนละแก็งค์กันค่ะ แต่ก็จับไม่ได้เหมือนกัน จากคุณ : Kitty_PoPo - [ 24 ม.ค. 48 06:01:44 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องที่ 2 เหตุการณ์เมื่อวานค่ะ  วันนี้ตอนเที่ยงลงไปของที่รถ ปรากฏว่ารถแฟน(รถกระบะ) ถูกคนทุบหน้าต่างตรงแคปแตก คิตว่าคงทุบจะเอากระเป๋าที่ใส่โน๊ตบุ๊ค เพราะคงคิดว่ามีโน๊ตบุ๊คหรือไม่ก็ของมีค่าอยู่ในนั้น เพราะเห็นกระเป๋าถูกเปิด แต่คงเปิดได้ไม่สะดวก เปิดแต่ข้างบนเอา ทีนี้ด้านบนคงเห็นแต่พวกซองจดหมาย แล้วก็สะเกลอันเล็ก เลยนึกว่าไม่มี โชคดีที่ไม่เปิดข้างใน เพราะกระเป๋านั้นเคนใส่พวกจิวเวอรี่ไว้เต็มเลยค่ะ แต่ทีนี้มันหนัก เราตั้งกระเป๋าแนวตั้ง น้ำหนักเลยถ่วงไปตรงก้นกระเป๋าหมด โชคดีที่ไม่มีอะไรหาย หรือถูกขโมย นี่เกิดที่หน้าอพาร์ทเม้นท์ตรงห้องแถวที่อยู่นะคะ แฟนกับคิตคาดว่าคงเป็นพวกพี่เม็ก แถวนี้แหล่ะค่ะ ไม่ใกล้ไม่ไกล เพราะกระจกมันสีชา แล้วมาเจาะจงรถคิตยังกับรู้ คิดว่าคงแอบเห็นมาหลายวันแล้ว ไปแจ้งฝ่ายแมเนจเม้น ผจก ก็บอกให้แจ้งตำรวจ เขาไม่รับผิดชอบ (มันก็ถูกที่เราควรแจ้ง แต่พูดปัดความรับผิดชอบแบบนี้ มันน่าคิ๊กฮีสแอสจังเลยค่ะ) ที่จริงเราไปแจ้งเขาก็เพราะจะได้สอดส่อง ดูแลบ้าง ไม่ใช่ให้เกิดขึ้นแบบนี้ซ้ำซาก ซึ่งเมื่อหลายเดือนก่อน ก็มีพวกเม็กซิกัน จะมางัดห้องคนที่นี่อีก โชคดีมีคนอยู่บ้าน เลยโทรเรียกตำรวจ ตอนเที่ยงด้วยนะคะ อ้อ ที่ฝ่ายแมนเนจเม้นท์ที่เขาบอกว่าไม่รับผิดชอบเรื่องซีเคียรริตี้นี่ (และไม่ทำเป็นระบบป้องกัน) เพราะกลัวหากผิดพลาด กลัวจะถูกคนซู เอาน่ะค่ะ เลยถือว่าฟาดเคราะห์ไปอีกรอบ แต่ก็ไม่ได้แจ้งความไป เพราะไม่ได้เสียของมีค่าไป และติดปัญหาเรื่องที่ยังไม่ได้เปลี่ยนป้ายทะเบียนไป ถ้าใครเคยมีประสบการณ์มาแบ่งและแชร์ประสบการณ์กันก็ได้ค่ะ จะได้ระมัดระวังกันป้องกันไว้บ้างก็ยังดี จากคุณ : Kitty_PoPo - [ 24 ม.ค. 48 06:03:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตอนเข้าไปในรถไปเอาของ ยังไม่ได้สังเกตุ ไม่ได้เอะใจ (ตอนนั้นยังคิดว่ารถเราทำไมมันสว่างกว่าเดิมจัง หุหุ) จากคุณ : Kitty_PoPo - [ 24 ม.ค. 48 06:05:47 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ทั้งบานนี่เหลืออยู่เท่านี้ค่ะ จากคุณ : Kitty_PoPo - [ 24 ม.ค. 48 06:07:08 ]

ความคิดเห็นที่ 5 และทิ้งเศษส่วนไว้ให้ดูต่างหน้า จากคุณ : Kitty_PoPo - [ 24 ม.ค. 48 06:08:03 ]

ความคิดเห็นที่ 6 รูปสุดท้าย เห็นแล้วช้ำใจ จากคุณ : Kitty_PoPo - [ 24 ม.ค. 48 06:10:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องที่คล้ายกับกรณีของคิตนี่เคยเกิดขึ้นบ่อยๆ ค่ะ ก่อนหน้านี้ เจ้าของร้านอาหารที่ตัวเองเคยไปทำงานด้วย ก็เจอคล้ายๆ กัน เพราะเขาได้วางซองเอกสารสีเหลือง ซึ่งใส่พวกเอกสาร บิลค่าใช้จ่าย ซองตุงเชียว ทิ้งไว้ในรถ ตอนไปตีกอล์ฟ  พอกลับมาก็เจอบริการทำความสะอาดกระจกแบบเดียวกับที่ตัวเองเจอค่ะ อันนี้ที่ San Antonio ค่ะ ถ้าเป็นไปได้ทุกครั้ง อย่าได้ทิ้งของไว้ในรถค่ะ เรื่องขโมยรถนี่ก็ควรระวังไว้บ้างก็ดี เพราะแม่แฟนก็เคยถูกขโมย (โตโยต้าแคมรี่ค่ะ)  ตำรวจไปเจอก่อนข้ามไปเม็กซิโกค่ะ จากคุณ : Kitty_PoPo - [ 24 ม.ค. 48 06:16:34 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พี่งคุยกับแฟนเมื่อกี้นี่เองค่ะเรื่องเอาของมีค่าไว้ในรถ เราสองคนไม่เคยเอาของมีค่าไว้ในรถเลย notebookนี่ลงรถไปไหนก็เอาไปด้วย พี่แกจะสะพายตลอดไม่กลัวหนัก จากคุณ : SFO-CNX - [ 24 ม.ค. 48 06:32:56 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ฟาดเคราะห์อีกรอบแล้วน้องเอ้ยยย....( ค่าซ่อมกระจกไง แหะๆ ) แกรี่ก็เตือนพี่เสมอนะ เวลาลงจากรถ อย่าทิ้งของมีค่าไว้ในรถ หรือแม้แต่กระเป๋าผ้าอ้อมลูก แกยังไม่อยากให้ทิ้งไว้เลย เพราะไรรู้ป่าว...แกบอกว่า มันล่อตาผู้ร้าย  มันจะคิดว่า อาจจะมีเงินอยู่ในนั้น เป็นเหตุให้งัดแงะรถเข้ามาเอาได้  ทางที่ดี ให้ถือติดตัวไปด้วย ( กระเป๋าผ้าอ้อมก็เหอะ )  แต่อ่ะแหละ พี่ก็( แกล้ง ) ลืมทิ้งไว้บ่อย ๆ  ต่อไป คงต้องระวังตัวมากขึ้นแล้วจ้ะ ขอบใจที่เอามาเล่าสู่กันฟังนะ ( จะได้ระวังตัวมาก ๆ ขึ้น ) จากคุณ : gw - [ 24 ม.ค. 48 07:20:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เสียใจด้วยค่ะอิ๋น อยู่เมืองใหญ่ๆนี่น่ากลัวเเบบนี้เเหละค่ะ ขนาดเมืองที่ที่ทำงานของพี่ตั้งอยู่ไม่ใหญ่เท่าเเถวเเอตเเลนต้า ยังมีเรื่องขโมยของกลางวันเเสกๆเเบบนี้เลยค่ะ คือสถาบันที่ทำงานของพี่มีอุปกรณ์เทคโนโลยี่เยอะไงคะ อย่างอุปกรณ์ในห้องเรียนที่เราเรียกว่า smart classroom นี่ ห้องนึงๆราคารวมกันห้องละครึ่งล้าน โดนมือดีเข้าไปงัดเอา keyboard เอากล้องที่ต่อไปที่ LCD projector เเผนกคอมพิวเตอร์ที่พี่คุมอยู่ มีคนยกเอา CD writer ไปเฉยเลย smart classroom มีอยู่ 8 ห้อง ทุกห้องถูกงัดเอาไปห้องละอย่างสองอย่าง ขนาดทีวีขนาด 21 นิ้ว mount อยู่บนกำเเพง ยังโดนงัดเอาไปเลยค่ะ laptop หรือ LCD projector ของใครทิ้งเอาไว้ในห้องทำงาน จะถูกยกไปเฉยเลย ขนาดติดตั้งกล้องเอาไว้เเทบจะทุกจุดเเล้ว (นอกจากห้องน้ำ) เวลาของหายเเต่ละที เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเอาเทปมานั่งดูกันตาเปียกตาเเฉะ ก็ยังจับไม่ได้ เพราะสถานศึกษานี่นักศึกษาสะพายกระเป๋ากันเเทบทุกคน ใครขโมยของเเล้วเอาใส่กระเป๋า ไม่มีใครรู้หรอกค่ะว่ามีอะไรในกระเป๋าบ้าง เรื่องของในรถนี่ มีคนพูดให้ฟังบ่อยๆ ว่าอย่าทิ้งอะไรไว้ในรถ พี่ยังไม่เคยกล้าทิ้งอะไรเอาไว้ในรถเลยค่ะ ถ้าจำเป็นต้องทิ้งอะไรที่มีค่าไว้ในรถจริงๆ ก็จะเอาเสื้อหนาวหรืออะไรสักอย่างคลุมเอาไว้ เมืองที่พี่อยู่เป็นเมืองเล็กๆ ไม่ค่อยมีเรื่องลักขโมย เเต่วันไหนที่พี่ต้องเเวะไปที่ทำงานในวันเสาร์อาทิตย์ ต้องจอดรถเอาไว้ให้มองเห็นจากหน้าต่างห้องทำงานได้ เพราะวันหยุดที่ทำงานไม่มียาม เเถวที่ทำงานมันอยู่กลางเมือง มันไม่สงบเเละปลอดขโมยเหมีอนที่บ้าน คืออยู่บ้านนอกเสียหลายปี จนเคยชินกับความปลอดภัย ก็เลยกลายเป็นคนหวาดระเเวงเมืองใหญ่ๆน่ะค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 24 ม.ค. 48 07:32:05 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คิต พี่ตุ๊กนะ น้องมะติ้วสบายดีนะจ๊ะ เราไม่ได้คุยกันนานนะนี่ อีกอย่างคอมพี่เพิ่งหายป่วย ทิ้งให้มันป่วยไปหลายเดือนเลยอะ แถมบัตรผ่านพันทิบของพี่หมดอายุขัย เพิ่งขอใหม่วันนี้หลังจากได้อ่านทู้ของคิต +พอดีมีเวลาว่างวันนี้ พออ่านเรื่องที่คิตเล่าแล้ว น่ากลัวนะ แถวที่พี่อยู่นี่ก็มีเรื่องอย่างนี้เหมือนกัน แต่รถพวกเรายังไม่โดนอะ ตอนย้ายมาแรกๆได้อาทิตย์เดียว เพื่อนบ้านพี่โดนงัดรถทุกคันเลยอะ แต่รถเราไม่โดนคงเพราะมีสัญญาณกันขโมยมั๊ง พี่จะย้ายบ้านอีกแล้วละเพราะไม่อยากอยู่แถวนี่ พวกเม็กเยอะเหมือนกัน เมื่อวันก่อนแฟนพี่เพิ่งเล่าให้ฟังว่า เค้าไปอ่านเว็ปไซด์หนึ่งเข้า รู้สึกเศร้าใจที่แคนตั๊นที่จอร์เจีย เมืองที่เค้าโตมาตั้งแต่เล็ก ตอนนี้ เป็นเมืองที่ hate groups เยอะมากๆๆ มันไม่เกี่ยวกะประเด็นงัดรถหรอกนะ แฮะๆๆ แต่คิดให้มันเกี่ยวก็เกี่ยวนะ เพราะคนหลายพวกหลายความเชื่อ แก๊งก์นั้น แก๊งก์นี้ พูดเรื่องจอดรถไว้หน้าบ้านแล้ว มีใครไหมที่ไม่ล๊อครถตัวเอง พี่เพิ่งเคยเห็นบ้านปู่กะย่าลิโจที่จอร์เจียนี่แหละ เราก็ไม่กล้าบอก+ถามเค้านะ แกจอดรถกี่คันไว้ที่บ้าน ไม่เห็นล๊อครถเลยนะ แล้วอยู่มาเป็นสิบปีแล้วไม่เคยโดนเรื่องอย่างนี้เลย เออ แต่บ้านแกอยู่ในป่าอะนะ ที่เล่ามาก็ให้ระวังให้มากขึ้นนะ พี่เป็นพวกอะเลิืร์ทเกินเหตุจนเป็นคนขี้กลัวอะ นี่ขอเบอร์โทรอีกทีได้ไหมน้อง พี่ไม่ทันได้เซฟไว้ในเครื่องจ้า คิดว่าตอนนี้คิตคงย้ายไปอยู่ในเมืองใช่ไหม ยังไงก็ระวังหน่อยนะจ๊ะ ฝากหอมแก้มมะติ้วตี๋น้อยด้วย ไม่ได้เห็นนาน คงโตทันพี่ลิโจแล้วแน่ๆๆ จากคุณ : T_UK_KY&LIJO - [ 24 ม.ค. 48 08:02:34 A:139.55.18.48 X: TicketID:049537 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อยู่เมกานี่ห้ามเด็ดขาดเลยค่ะ เรื่องทิ้งของไว้ในรถเนี่ยะ ถึงแม้ว่ารถจะเน่าแค่ไหนก็ตาม มันทุบเอาหมดแหละค่ะ คือ ห้ามทิ้งอะไรไว้ในรถเด็ดขาด กระเป๋าทุกชนิดห้ามเลย ถึงแม้ขนาดไปจอดไว้ในย่านที่คิดว่าปลอดภัยก็ยังไม่ปลอดภัยอยู่ดี พี่ชาย เคยจอดรถทิ้งไว้หน้าบ้านแถวถนน Castro ที่ San Francisco ทิ้งกระเป๋ายิม เน่าๆ มันยังทุบเอาไปเลย ถามว่ามีอะไรอยู่ข้างใน เค้าบอกมี รองเท้า sneaker กะ ชุดไปยิมที่ยังไม่ได้ซัก มันยังเอาเลยค่ะ อีกที จอดรถ MR2 รุ่นใหม่ไว้ใต้ถุนบ้านโล่งๆ แล้วรถมันเป็น soft top คนร้ายมันกรีดเลยค่ะ แต่ในรถก็ไม่มีอะไรนะ มีแต่ CD เพลง มีเพลงทั้งไทยทั้งฝรั่ง มันยังเอาเลยยยยย ยังนึกว่า มันเอา CD เพลงไทยไป จะฟังรู้เรื่องเหรอวะ เพราะมันเป็น CD เพลงไทยเดิม 5555 ยังแซวกันเลยว่า เดี๋ยวมันเอาไปฟังแล้วโมโห เพราะฟังไม่รู้เรื่องแถมน่ารำคาญ มันจะกลับมาทุบรถอีกป่าววะเนี่ยะ จากคุณ : Scooterella - [ 24 ม.ค. 48 08:36:11 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เคยโดนเหมือนกันค่ะ ตอนมาอเมริกาใหม่ ๆ ขับรถตู้ไปขายของที่โอไฮโอค่ะ จำเมืองไม่ได้อยู่ไม่ไกลจากคลิฟแลนเท่าไหร่ค่ะ ไปดูหนังกัน จอดรถตู้ไว้และลืมกระเป๋าสะพายไว้ในรถ เพราะตัวเองมีกระเป๋าแบบคาดเอวด้วย พอดูหนังเสร็จออกมา เห็นเศษกระจกเต็มไปหมด และหันขึ้นไปดูมันทุบกระจกค่ะ ใจเสียมากเลย ไม่เสียเงินอะไรไปเพราะอยู่ในกระเป๋าคาดเอว แต่เสียเอกสารพวกใบขับขี่สากล และที่เสียดายมากคือทอกกิงดิคชันนารีค่ะ และเสียเงินค่าซ่อมกระจก ไม่รู้ว่าประกันเสียให้หรือเปล่า เพราะเป็นรถบริษัทค่ะ อุทาหรณ์ก็คือ อย่าทิ้งอะไรไว้ในรถค่ะ มันเป็นที่ล่อตาล่อใจ ตัวเองไม่ได้ทิ้ง แต่หลงมาแก่หน้าแก่หลังค่ะ (แก่มาหลงหน้าหลงหลังค่ะ) จากคุณ : BW - [ 24 ม.ค. 48 08:40:27 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อ่านแล้วกลัวเลย เรื่องทุบรถนี่ เพราะตัวเองไปไหนชอบทิ้งกระเป๋าสะำพายไว้ในรถ คือขี้เกียจถือ เอาไปแต่กระเป๋าตังค์ แต่นี่เกิดโดนทุบไม่คุ้มเลย notenook ของบริษัทก็ชอบทิ้งไว้ที่นั่งข้างคนขับ มาอ่านๆแล้วเสียวเลย เดี๋ยวไปดูมีทิ้งอะไรไว้อีกมั่งค่ะ น้องคิต คิดว่าฟาดเคราะห์ไปล่ะกันต่อไปขอให้เจอแต่สิ่งที่ดีๆนะคะ จากคุณ : pixp - [ 24 ม.ค. 48 09:00:25 ]

ความคิดเห็นที่ 15 รถแฟนเราจอดอยู่หลังบริษัท เพื่อนเพื่อนเค้าก็จอดใกล้ใกล้กันอ่ะ วันนึงเลิกงานออกมาก เค้าก็ขึ้นนั่งจะขับรถกลับบ้าน ก็ไม่ได้ดูอะไร ไม่รู้ตัว เห็นที่นั่งข้างข้างทำไมมีอะไรขาวขาวหว่า พอเอื้อมมือไปจะเปิดเพลง แค่นั้นแหละ แฟนเราวาบเลย มันทุบกระจกเอาเครื่องเล่นซีดีไป แถมลำโพงด้านหลังอีก ทั้งชุดเลยอ่ะ เซ็งเลย เพราะต้องเปลี่ยนกระจกรถเองด้วย แถมตอนใส่เครื่องเล่นตัวใหม่นี่ใส่แค่ตัวละร้อยกว่าเอง ตอนนั้นตำรวจมาก็ทำไรไม่ได้ มีอีกเพิ่งเกิดเมื่อเดือนที่แล้ว นายเรากลับไปเมืองจีน แล้วทิ้งรถฟอร์ดแวนไว้ที่คอนโด โดนขโมยล้ออ่ะ ล้อเพิ่งเปลี่ยนสองล้อหน้ามาด้วย แบบยกไปทั้งล้อเลย แล้วเอาก้อนหินมาวางไว้แทน แฟนนายกลัวมากว่าคืนนั้นมันจะมาเอาอีกข้าง เลยแจ้งตำรวจ ตำรวจไม่รับแจ้งคะ ให้ไปแจ้งบนเนตเพราะถือว่าเป็นเคสไม่ร้ายแรง เราก็มานั่งงงกันว่า เออ ตำรวจสมัยนี้ทำงานสบายกันจัง เรานี่ก็โรคจิตเหมือนกัน เวลาลงรถนี่จะกดล็อกแล้วล็อกอีก จนมันดังปิ๊บปิ๊บแหละ ถึงมั่นใจว่าล็อคแล้ว ก่อนจะย้ายมาคอนโดนี้ เคยลืมล็อครถ แล้วลืมหมุนกระจกขึ้นด้วย ทั้งคืน หลายครั้งเลยอ่ะ แต่ไม่เป็นไร แต่พอย้ายมานี่ยังไม่ถึงทิตย์เลย รถที่จอดข้างหลังเราโดนขโมย เราเลยเป็นโรคจิตนับจากนั้นมา จากคุณ : blueprint - [ 24 ม.ค. 48 09:50:38 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แย่จริงๆเลยนะคิต ถือว่าฟาดเคราะห์ไปนะ พี่ขอให้อย่าได้เจอเรื่องร้ายๆแบบนี้อีกนะ ตอนอยู่แอตแลนต้า ก็เคยได้ยินเรื่องแบบนี้เหมือนกัน พี่ที่ร้านไทยเล่าให้ฟังว่า มีเพื่อนคนไทยไปซื้อของที่ร้านจีนแถวไชน่าทาวน์นั่นแหละ ซื้อของเสร็จออกมา เจอคนเอาปืนจี้ให้ไปที่รถ แล้วขับรถไปที่บ้าน ขโมยของ เงินทอง หมดเลย เมืองมันใหญ่นะ แล้วก็คนต่างถิ่นเยอะ ต้องระวังตัว แฟนพี่ไม่เคยปล่อยให้พี่ไปไชน่าทาวน์คนเดียวเลอ สังเกตไหมว่า แถวนั้นจะมีรถตำรวจวิ่งผ่านบ่อยมาก เรื่องของในรถอีก ไม่เคยทิ้งอะไรไว้ทั้งนั้น แฟนบอกว่าขนาดเงินเศษเหรียญอะไรนี่ ถ้ามีเยอะๆ ก็อย่าทิ้งไว้ในรถเด็ดขาด (แกอยู่แอตแลนต้ามาร่วม 20 ปี นะเลยรู้ดี ฮ่าๆๆ) ก่อนนอนจะต้องตรวจประตูบ้านทุกครั้ง ล็อคแน่นหนาดีมั้ย เดี๋ยวนี้ย้ายมอยู่เมืองเล็กสบายใจ บางทีจอดรถไว้ลืมล็อคยังไม่เป็นไรเลยค่ะ (แต่ลืมบ่อยก็ไม่ดีนะ เคราะห์ยามซวยใครจะรู้เน๊าะ) จากคุณ : ปอมปอมเกิร์ล - [ 24 ม.ค. 48 11:38:49 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามาอ่านค่ะ ยังไม่เคยโดนอะไร แต่แฟนก็บอกว่าให้ระวัง ไม่ให้ทิ้งของไว้ในรถ  อ่านจากหลายเหตุการณ์ก็พาลให้นึกถึงว่า เคยได้อ่านหลาย ๆ กระทู้ที่เคยมีคนถามว่า อยู่เมืองไทยหรือเมืองนอกดีกว่ากัน แล้วก็มีคนตอบว่า เมืองนอกมีความปลอดภัยสูงกว่าเนี่ยะ ชักจะไม่แน่ใจแล้วสิค่ะ ขอบคุณมากค่ะที่แบ่งปันให้ความรู้กันค่ะ จากคุณ : ลิปสติค - [ 24 ม.ค. 48 14:22:39 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เฮ้อ อ่านแล้วหนาว ไอ้เรา รถเพิ่งโดนเจาะยาง (คาดว่า เจ้าเดิม) เป็นรอบที่ 3 ที่จริงเราเดาคงเป็นไอ้บ้านที่เราไปจอดหน้าบ้านเค้า แต่ที่จริงมันไม่มีที่ประจำ ใครจะจอดตรงไหนก็ได้ ภายในบริเวณโซนนี้ แต่ก็ถือว่าฟาดเคราะห์ย้ายที่จอด แล้วก็ให้พรมันห่างๆ อีกอย่าง เคยได้ยินมาว่า ขนาดบุหรี่ซองนึงวางหน้าคอนโซลใน แอลเอ ยังโดนทุบ (สมัยนานมาแล้ว) แล้วกระเป๋าจาเหลือเหรอ ฟาดเคราะห์ด้วยกันเน้อ จากคุณ : pop (sivalee) - [ 24 ม.ค. 48 16:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 19 แวะเข้ามาอ่าน น่าเห็นใจจริงๆ แต่ก็นึกว่าฟาดเคราะห์ไปก็แล้วกันค่ะ เดี๋ยวนี้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ไม่ค่อยจะปลอดภัยเสียแล้วซิค่ะ ((ต้องระวังทรัพย์สินของตัวเอง)) เมื่อหลายปีที่แล้ว... ญีปุ่น ถือว่าปลอดภัยมากเลยค่ะ ทิ้งบ้านไว้โดยไม่ต้องล็อคกุญแจก็ได้ ไม่มีขโมยเลย แต่ปัจจุบันนี้ ขนาดแค่ของที่เราเอาใส่ไว้ในตะแกรงหน้ารถ จักรยาน (ประเภทอาหารสด)  ทิ้งไว้แป๊ปเดียวจริงๆ คือลืมซื้อของอย่างอื่น ก็เข้าไปซื้อใหม่ เพราะทุก ๆ คนก็ทำกันประจำอยู่แล้ว จะหิ้วของไปให้หนักทำไม??  กลับมาหายไปเสียแล้วละค่ะ หลังจากนั้นมา ต้องหิ้วพะรุงพะรังติดตัวไปด้วยตลอดเลย  หนักก็ต้องทน ไม่งั้น...เสียตังค์ แล้วต้องกลับไปซื้อของใหม่อีก จากคุณ : เต่าญี่ปุ่น - [ 24 ม.ค. 48 18:02:41 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เคยโดนโขมยรถมาแล้วอ่ะค่ะ ปี 03 ตอนนั้นจีบกะสามีใหม่ๆ ก็มาหาเค้าที่บ้าน เค้าทำกับข้าวให้กิน หวีทหวีมาก พอจะกลับบ้าน เอ๊ะ ฉันจอดรถตรงนี้นิ (ข้างถนน) เลยโทรกลับเข้าไปหาแฟนบอกให้ออกมาด่วน ฉันรถหายไป เซ็งสุดๆเลยที่หวีทก่อนหน้านี้ไม่เหลือเลย ไม่ได้ทิ้งอะไรไว้หน้ารถ แต่มีกระเป๋าเก็บเงินอยู่ท้ายรถ มีอยู่ประมาณ 4-500 ได้รถแถมค่าน้ำมันไปด้วย แจ้งตำรวจเค้า(ทางโทรศัพท์เพราะเค้าไม่ยอมมา..แฟนบอกว่าไม่มีเลือดตำรวจไม่มาหรอก)ก็ถามรายละเอียดรถ ทะเบียน(พอจำได้เลาๆ) เลขตัวถัง อันนี้ใครจะไปจำได้ ก็บอกไปว่า รถมันไม่อยู่จะไปอ่านที่ไหนมาให้เล่า ผ่านไป 1 อาทิตย์ (ก่อนจะกลับเมืองไทยอีก 1 อาทิตย์) มีจดหมายมาที่บ้านบอกว่า รถคุณจอดอยู่ที่อิมพาวพาคกิ้ง มาจ่ายเงินแล้วเอารถไป ในกระดาษบอกสภาพรถด้วยว่า โอเคแต่ขับไม่ได้ งงและไม่อยากเดาว่าเกิดอะไรขึ้นกะรถเรา ว่าแต่รถฉันหายทำไมต้องไปจ่ายตังด้วย ก็ต้องไปเพราะยิ่งทิ้งไว้นานเค้าคิดเพิ่มเป็นรายวัน เลยไปดู ก็ปรากฏว่า หม้อน้ำทั้งชุด ฝากระโปรง ไฟหน้า และอื่นๆ หายไป ของข้างในไม่ต้องเดา มองรถด้วยความทึ่ง เอาออกมาซ่อมจะคุ้มไหม กลับออกไปพาช่างซ่อมรถไปดูสภาพว่ามันคุ้มที่จะเอาออกมาไหม เพราะต้องเสียค่าเอาออก 400 +ค่าซ่อม ถ้าซื้อใหม่(มือ 2)ถูกกว่าก็จะทิ้งไป ช่างบอกว่า เอาออกมาดีกว่า ถ้าไม่เอา เค้าจะซื้อต่อเองก็เสียค่าซ่อมไป 1500 ก็เลยเก็บไว้ใช้ กลับมาอ่านจดหมายที่ทางที่เก็บรถมันส่งมา เค้าเจอรถ 3 ชม หลังจากรถหาย แต่ใช้เวลา 1 week ที่จะบอกให้เราไปเอารถ ทำให้เราเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก 300 ค่าเก็บรถ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ถือว่าฟาดเคราะห์ไป ยังดีที่ได้กลับมาก่อนกลับเมืองไทย ไม่งั้นต้องรอจนกว่าจะกลับมาก็พอดี มันคิดเป็น 100 เท่าเลย ยังค่ะ ยังไม่หมด กลับมาจากเมืองไทยก็ใกล้คริสมาส ก็ซื้อของขวัญของแฟนแล้วแอบไว้ท้ายรถ (อีกแล้ว) ไปจอดรถแถวที่เดิม(อีกแล้ว) มาที่รถอีกที เอ้ะ ทำไมท้ายรถเปิด อยากจะร้องไห้ ของขวัญหายไป แต่รถยังอยู่เพราะคราวนี้ lock พวงมาลัยไว้ด้วย ก็เออช่างมัน รถยังอยู่เว้ย แต่ต้องตาเหลือกไปซื้อของขวัญมาใหม่ ลืมบอกค่ะ อยู่ LA ละก็เป็นรถ honda ยอดนิยมด้วย เฮ้อ!(พิมพ์ยาว เหนื่อยแทนคนอ่านค่ะ) จากคุณ : ทูกี้ (ทูกี้) - [ 24 ม.ค. 48 18:02:57 ]

ความคิดเห็นที่ 21 โห..ถือว่าฟาดเคราะห์อ่ะเน๊าะ((แต่..ฟาดบ่อยไปนิดนะเธอ...ไปทำบุญหน่อยดีมั๊ยคะคุณคิต)) แอนนี่เคยเจองัดรถนะ...แต่แบบ...โจรที่มันงัดนี่ไม่ค่อยใจร้ายเท่าที่มาขโมยของคิตอ่ะ ของแอนนี่นี่แบบ...งัดแบบโปรมาก...แล้วก็ถอดเครื่องเสียงในรถไป...ที่เล่นซีดีอ่ะ.. แบบ...ถอดไปจัดการเก็บสายไฟอะไรรวบไว้ให้อย่างเรียบร้อยด้วยนะ...เป็นโจรที่มีระเบียบมาก... รถที่งัดนี่ก็แทบไม่รู้เลยว่างัดเข้ามา....ก็ไม่ได้แจ้งความอะไรนะ...แต่ที่เจ็บใจที่สุดนี่ดิ่.. นะ...คืนถัดมา..มันกลับมาฟ่ะ...กลับมาเอาสปีคเกอร์กะซับวูฟเฟอร์ในรถไปอ่ะ...เซ็งเร่ะ...ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : maebannannie - [ 25 ม.ค. 48 00:07:26 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านที่หลายๆคนเล่าที่เคยเจอมาเเล้วเห็นใจเลยค่ะ เคยมีคนที่เคยโดนขโมยของพูดให้ฟังว่ามันรู้สึกเหมือนถูก rape ถ้าโดนเข้ากับตัวเองเเบบจังๆ คงรู้สึกเเบบนั้นจริงๆ คือมันคงรู้สึกเหมือนว่า space ของเราถูกรุกราน อย่างนั้นน่ะค่ะ อ่านที่เเอนนี่พูดถึงถูกงัดเครื่องเสียงในรถ เรื่องนี้ก็เคยเจอกับตัวเอง เเต่ตอนนั้นไม่รู้สึกเดือดร้อนเท่าไหร่ ตอนนั้นเป็นนักเรียน เลิกงานก็เเวะไปหาเพื่อนที่ไม่สบายอยู่ที่อพาร์ตเม้นท์ของเขา รถที่ใช้ตอนนั้นก็เป็นรถเก่าบุโรทั่ง เพราะมีปัญญาซื้อได้เเค่นั้น คือซื้อต่อมาจากเพื่อนที่เขาเรียนจบเเล้วกลับเมืองไทย ตอนที่ซื้อก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเครื่องเสียงที่ติดมากับรถนั่นใช้ได้หรือเปล่า เเล้วก็ไม่เคยลองใช้ด้วย ปรากฎว่าคืนนั้น ไปจอดอยู่ที่อพาร์ตเม้นท์เพื่อน พอกลับลงมาก็ขับรถกลับอพาร์ตเม้นท์ของตัวเองโดยไม่รู้ว่ารถถูกงัดไปเรียบร้อยเเล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นก็ขับรถไปรับเพื่อนคนเดิมนี่เเหละค่ะ เพื่อพาเขาไปหาหมอ เพื่อนลงมาเห็นรถเเล้วชี้ให้ดูว่าถูกงัดเอาเครื่องเสียงไปซะเเล้ว ตัวเองยังไม่รู้เลยนะคะ เพราะรถมันโกโรโกโรคจนดูไม่ออกมาอะไรผิดปกติไปจากเดิมบ้าง (คือทุกอย่างในรถมันผิดปกติไปหมดน่ะค่ะ) พอเพื่อนชี้ให้ดู ถึงได้เห็นว่ามีช่องโหว่อยู่ที่ console รถจริงๆด้วยเเฮะ เเต่ก็ไม่รู้สึกเดือดร้อน เพราะเครื่องเสียงนั่นมีไว้ก็ไม่ได้ใช้อยู่เเล้ว อีกครั้ง เลิกงานเดินกลับอพาร์ตเม้นท์ ตอนนั้นยังไม่ได้ซื้อรถ ฝนตกด้วยค่ะ ยังจำได้เลยว่า 4 ทุ่มเเล้วด้วย ก่อนจะออกจากที่ทำงาน ตอนนั้นทำงานในมหาวิทยาลัย หัวหน้างานถามว่าให้ใครเดินไปส่งดีมั้ย ด้วยความอวดดี เพราะเดินไปเดินมาที่ถนนสายนั้นบ่อยจนไม่คิดถึงอันตราย ก็บอก manager ว่าไม่ต้องหรอก เดินไปเองได้ ช่วงจาก campus ไปอพาร์ตเม้นท์ ต้องเดินผ่าน 7/11 เห็นมีผู้ชายคนดำคนนึง ใส่เสื้อโค้ตเเบบกันฝนยืนอยู่ ก็ไม่ได้คิดอะไรนะคะ เดินต่อไปซักพัก ถึงได้สังเกตเห็นว่าผู้ชายคนนั้นเดินตามมา ฝนตกปรอยๆด้วยนะคะตอนนั้น เเถมดึกเเล้ว ไม่มีคนอื่นเดินอยู่เเถวนั้นเลย รถก็ไม่มีผ่าน คงเป็นเพราะฝนตกเเบบนั้น ไม่มีใครอยากออกนอกบ้าน ชักใจไม่ดีเเล้วสิ ก็เลยล้วงกระเป๋าหยิบเอากุญเเจอพาร์ตเม้นท์มาถือเตรียมไว้ ช่วงที่หยิบกุญเเจนั่นเเหละค่ะ ผู้ชายคนนั้นกระชากกระเป๋าไปเลย ก็ตกใจเเหละนะคะที่ถูกกระชากกระเป๋า เเต่อีกใจก็โล่งใจที่เขาเอาไปเเต่กระเป๋า คือกลัวว่าเขาจะทำอย่างอื่นมากกว่า เเต่หลังจากกระเป๋าหายหรือถูกขโมยกระเป๋านี่มันน่าเบื่อตรงที่ต้องเเจ้งบริษัทบัตรเครดิต เเจ้ง DMV เรื่อง driver's license หาย เเจ้งตำรวจ เเจ้งอะไรต่อมิอะไรอีกเยอะเเยะ มันน่าเบื่อตรงนั้นเอง จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 25 ม.ค. 48 00:50:25 ]

ความคิดเห็นที่ 23 USA น่ากลัวจัง อ่านแต่ละท่านเล่า สยองงง (แต่ก็อยากไปเที่ยวค่ะ) จากคุณ : Autumn Leaves - [ 25 ม.ค. 48 01:19:13 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุณคิตนับจากนี้ไปขอให้มีแต่สิ่งดีๆที่เป็นมงคลเข้ามาในชีวิตนะค่ะ และขอบคุณที่นำประสบการณ์มาแบ่งปันจะได้ระมัดระวังและรอบคอบมากขึ้นค่ะ จากคุณ : Wi & Chaze - [ 25 ม.ค. 48 01:43:03 ]

ความคิดเห็นที่ 26 น้องคิต..พี่อ่านแล้วน่ากลัวจังเลย ถือว่าฟาดเคราะห์(ใหญ่)ไปนะคะน้องคิต กระจกรถแพงด้วยน่ะ ต่อจากนี้ไปขอให้เจอแต่สิ่งที่ดีๆเข้ามานะคะ ถึงแม้ที่แคนาดา เหตุการณ์อันตรายมีไม่มากเท่าอเมริกา อยู่แบบปลอดภัย แต่พี่และครอบครัวก็ยังรอบคอบนะน้องคิต ยิ่งพี่ร้อบนี่ ไม่ต้องพูดเลย คิดหน้าคิดหลังมากกว่าพี่อีก อิอิ..เค้าเตือนพี่เสมอๆเลย เวลาขับรถไปไหนคนเดียว ให้ระวังเรื่องการลืมของไว้ในรถ ยิ่งเป็นของมีค่า นี่ให้จำใส่ใจไว้เลย เพราะถึงแม้เราคิดว่าคงไม่เกิดขึ้นกับเรา แต่หากวันใดวันหนึ่งอาจจะเกิดขึ้นกับเราได้สักวัน..น้องคิตยังโชคดีที่จิวเวอร์รี่ยังอยู่ครบ บางครั้งเวลาพี่ไปไหนด้วยกันทั้งหมด อย่างช้อปปิ้ง พี่ร้อบเค้าจะคอยบอกพี่ว่าต้องเอาสัมภาระลูกๆในกระเป๋าใหญ่ไปด้วยเสมอ ห้ามลืมเลย เค้าจะเช็คแทนพี่ด้วยหละ ส่วนพวกของมีค่ามากๆนี่ พี่เอาเก็บไว้ในกล่องที่บ้านไว้เลยจ้ะ มันอุ่นใจและปลอดภัยด้วย ส่วนมือถือพี่ก็เก็บไว้ในกระเป๋าสะพายติดตัวตลอดนะคะถ้าไปไหนมาไหน ...ขอบคุณน้องคิตนะคะที่นำประสบการณ์ที่มีประโยชน์มาเล่าสู่กันนะคะ.. จากคุณ : tiktoth - [ 25 ม.ค. 48 03:50:39 ]

ความคิดเห็นที่ 27 โห สองงานรวดเลยหรือคิต เรื่องเบสบาย มันเป็นเรื่อง ที่ต่อไปเราระวังได้ แต่เรื่องรถโดนงัด แงะ หรือว่าโดนขโมย แทบจะระวังไม่ได้เลยนะ เคสของพี่รถหายค่ะ จอดไว้ที่สถานีรถไฟ ใกล้บ้าน จำไม่ได้แล้วว่าทิ้งกุญแจคาไว้ท้ายรถหรือเปล่า (แฟนค่ะ) อีกสองสามวันตำรวจก็เจอรถ ของที่หายไปก็แว่นกันแดด ราคา 99 บาท มาบุญครอง เสียดายมากใส่สวยด้วยนะ แต่แถวบ้านจัดว่าปลอดภัย จอดรถโดยไม่ได้ล๊อคทั้งคืน แต่ไม่ถึงกับขนาดทิ้งกุญแจ   ตัวโจรนี่มาจากเมืองฮ่วยๆ ใก้ลชายแดนเมืองพี่ค่ะ ขนาดตำรวจรู้ว่าต้องไปตามหารถหายแถวไหนอ่ะ จากคุณ : ปรารถนา - [ 25 ม.ค. 48 04:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 28 I'm so lucky for never have anything like that happen to me.  I parked my car in my condo parking lot unlock with window down so many time.   Someone must be looking out for me.  Anyway, sometime, I went to supermarket or gym and left my wallet in clear view in the front seat 30 mins later the wallet still there and door was never lock.  I'm so use to leave my car unlock.   I will have to be more careful from now on. จากคุณ : me_here - [ 25 ม.ค. 48 04:35:07 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เพื่อนโดนงัดรถบ่อยมากค่ะ โดนเอาแอร์แบกไป แล้วก็เครื่องเสียง จนเค้าใช้วิธีถอดเครื่องเสียงขึ้นบ้านด้วยทุกวัน แล้วก็ไม่ล๊อครถ ใครจะเปิดเชิยเลย ถือว่าไม่มีอะไรให้เอา เค้าบอกว่าเคยทำถึงขนาดที่ว่าเอาป้ายมาเขียนติดไว้ว่ารถคันนี้ไม่มีเครื่องเสียง คนร้ายจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาทุบ แล้วเจ้าของก็จะได้ไม่เสียเวลามาซ่อมรถด้วยค่ะ เหตุเกิด ณ บรูคลิน ยูเอสเอ จากคุณ : ...kiki... - [ 25 ม.ค. 48 06:15:56 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อ่านของแต่ละคนแล้วน่ากลัวจังเลยค่ะ แถวบ้านพี่นะคิต ตั้งแต่พี่มาอยู่ยังไม่เคยได้ยินเรื่องราวอะไรอย่างนี้เลยนะ ถือว่าเมืองที่พี่อยู่นี้เป็นเมืองที่สงบสุขนะคิต เมืองไม่ค่อยสวย แต่ก็ไม่มีผู้ร้ายชุกชุม ยังไงพี่ก็จะไม่ประมาทจ๊ะ ได้มาอ่านอย่างนี้มันกลัว มีอยู่วันหนึ่ง พี่ออกบ้านไปส่งเจนนี่ที่โรงเรียน ตอนปิดประตูโรงรถพี่จะใช้รีโมทกดปิดเปิดใช่ป่ะ วันนั้นไม่รู้ทำไมมันค้าง ประตูเด้งกลับเปิดอ้าซ่า ประตูนี้ก็สามารถเข้าไปเปิดประตูตัวบ้านได้ด้วย (เข้าใจนะ) พี่ไปส่งลูก แล้วก็เลยไปช้อปปิ้งสักสองชั่วโมงกว่าได้ กลับมาบ้านตกใจ ประตูเปิดอ้าอยู่ แต่บ้านก็สงบปลอดภัยดีค่ะ.. นึกได้..จะว่าไม่มีเลยก็ไม่ได้ มีอยู่ครั้งนึง แต่ห่างบ้านพี่หลายไมล์สิบกว่าไมล์ประมาณนี้ พี่ไปเติมน้ำมัน ปั๊มจะมีร้านมินิมาร์ทด้วย..นั่นโดนงัด ฮ่าๆ คนร้ายเอาโซ่ผูกติดกับรถแล้วไปยึดกับตู้เอทีเอ็ม ดึงๆยังไงตู้เอทีเอ็มก็ไม่หลุดตาม คนร้ายโมโหเลยขับรถพุ่งเข้าชนร้านมินิมาร์ท พื้นเป็นรอยยางรถเลยค่ะ..ฮ่าๆ ก็ขำดี อันนี้ผู้ร้ายขี้โมโห.. ..แล้วคิตจะย้ายบ้านอีกเหรอคะ คราวนี้จะย้ายไปไหน จากคุณ : ปูขาเก เซมารู - [ 25 ม.ค. 48 10:17:46 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ง่ะ น่ากลัวจังคิต ขวัญอยู่มาเหมือนพี่ปูเลยคือไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้ แถวบ้านเลย แต่บ้านขวัญมันบ้านนอกอ่ะน่ะ แต่มีครั้งนึง ทิ้งดีวีดี(ยืมจากห้องสมุดอีกต่างหาก)ไว้ในรถ แล้ววิ่งไปทำธุระแป๊บนึง กลับมาดีวีดีหาย แต่น่ะ ตัวเองไม่ได้ล๊อครถเอง แต่ก็ยังดีที่คุณขโมยยังมีจิตใจดีเอาดีวีดีไปคืนห้องสมุดให้ เรื่องทิ้งของมีค่าเหรอ รถขวัญมีแต่ขนมนมเนย 555 (ถึงว่าหน้าบานเอ๊า บานเอา) แต่ต่อไปต้องล๊อครถบ่อยๆล่ะ กันไว้ก่อนเนอะๆ ถือว่าทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ล่ะกันน่ะคิตตี้ที่รัก (แต่ทำบุญบ่อยก็ไม่ดีเนอะ) ปล. อ่านของคุณเพื่อนคิคิ แล้วน่ากลัวน่ะ แอร์แบกมันยังเอา คิคิ เธอไปบอกเพื่อนเธอสิว่า ทำป้ายติดว่า แอร์แบกไม่มีแล้ว แต่แจกฟรีโกสเซอรี่แบก แหมพวกโจรนี่น่ะ มันจริงๆเลย จากคุณ : อบาคัส - [ 25 ม.ค. 48 22:25:42 ]

ความคิดเห็นที่ 32  พี่ติ๊ก เสียแค่กระจกไปก็ยังโอเคหน่อยค่ะ ไม่เจ็บใจเท่าตอนถูกหลอกตังค์ อันนั้นนี่เคนกับคิตไม่อยากจำ พยายามทำใจลืมกัน เสียดายเงิน ฮ่าๆ แต่ก็ยังดีที่ถูกหลอกแค่เงิน  พี่แจง โจรพวกเนี่ยนี่เล่นโกอะราวเลยแฮะ แว่นตาหายไปอย่างเดียวเองเหรอคะพี่แจง เล่นขโมยขอยืมขับหรือคะนั่น แต่ก็โชคดีที่ได้รถคืนนะคะพี่แจง คิตก็เคยถูกตำรวจเรียก สงสัยว่าคิตเป็นเจ้าของรถ คือง่ายๆ ไปขโมยรถเค้ามาหรือเปล่า ... (แหม มานั่งคิด หน้าตาเราเหมือนโจรขนาดนั้นเชียว)  คุณ me_here  โชคดีแล้วค่ะที่ไม่เจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่ก็อย่าประมาทเป็นดีที่สุดค่ะ  โดนขนาดของเพื่อนคิคิ โจรพวกนี้นี่ไม่ไหวจริงๆ สงสัยอยู่แถวระแวกบ้านเดียวกับเพื่อนหรือป่าวคะ มาได้บ่อยๆ (หรือคนละแก๊งค์) น่าจับเอาเข้าคลาสศึกษาธรรมให้หมด  พี่ปู แล้วตกลงจับโจรขี้โมโหได้ไหมคะ  กะปล้นตู้เอทีเอ็มเลย (เอาง่ายๆ จังนิ)  คิตเคยอยู่เมืองเล็กๆ เคยลืมล็อกประตู ปิดประตูไม่สนิทก็มี ลืมล็อกรถก็มี แต่ไม่เคยมีปัญหาเหมือนกันนะพี่ปู พึ่งมาโดนตอนมาอยู่ที่นี่ คิตย้ายมาที่ใหม่ได้ประมาณ 2 เดือนกว่าแล้วค่ะ เคนถูกย้ายมาอยู่ที่ไชน่าทาว์น เลยมาเช่าอพาร์ทเม้นท์แถวนี้ ตอนแรกไปดูในตัวไชน่าทาว์น เห็นสภาพแล้วรับไม่ไหว ไม่น่าอยู่ เลยเลือกไกลออกมานิด  สภาพก็โอเคหน่อย ดีกว่าที่ไปดูมาเยอะ เลยเลือกอยู่  แต่ว่าถ้าหมดสัญญาเช่าปลายปีนี้ เคนกับคิตคงย้ายออกอ่ะค่ะ พอมาอยู่แล้วเห็นระบบอะไรๆ ที่นี่แล้วเปลี่ยนใจ กะย้ายออกไปอยู่ที่ไกลไชน่าทาว์นหน่อย  เคยไปดูมาแล้วแต่ห่างจากแถวนี้ 20 กว่าไมล์ ตอนนั้นเลือกที่นี่เพราะใกล้ที่ทำงานเคนดีค่ะ  ขวัญ ใครได้รถตัวเองนี่ไม่อดตายแน่ๆ นะ แต่คุณโจรนี่น่ารักจริงๆ มีการเอาดีวีดีไปคืนห้องสมุดให้ด้วย (น่ารักแบบนี้มาเป็นขโมนขโจรทำมั้ย) เวลาไปไหนมาไหน ล็อกรถไว้เลยกันพลาด อย่าลืมเอาของติดตัวไปด้วย กันเหนียวนะจ๊ะ จากคุณ : Kitty_PoPo - [ 26 ม.ค. 48 00:08:48 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เราก็เก็บหมดค่ะ แว่นตา เศษเหรียญ เสี้อโค้ด ฯลฯ ต้องเก็บแอบให้หมด เพราะเพื่อนเคยโดนทุบเพราะวางซองบุหรี่ไว้บนเบาะ เอาไปแต่บุหรี่ค่ะ พวกเครื่องเล่น cd อะไรต่าง ๆ อยู่ครบ สงสัยพวกขี้ยาตัวจริง จากคุณ : J..anni - [ 26 ม.ค. 48 02:08:01 A:68.121.234.67 X: TicketID:070785 ]

ความคิดเห็นที่ 34 แถวบ้านตอนนี้ยังไม่มีปัญหาเรื่องโจรผู้ร้ายนะค่ะ เคยเปิดประตูโรงรถอ้าซ่าค้างคืนหลายที ( แบบว่า พ่อบ้านลืมสำรวจก่อนขึ้นนอนอ่ะค่ะ )  รถสามีก็จอดที่ไดรฟ์เวย์ทุกวัน ไม่ได้ล็อค  แต่บ้านอื่นเป็นอย่างนี้หรือเปล่าไม่แน่ใจ  ( เป็นเพราะบ้านมันอยู่ติด ๆ กันหรือเปล่าก็ไม่รู้ เลยไม่มีอะไรเกิดขึ้น )   อ่านเรื่องพี่ปอมเล่าแล้ว ขนลุก เหอๆ...ทีนี้คงเชื่อที่สามีเตือนแล้วล่ะพี่  เค้าเตือนว่าอย่าไปแถวนั้นคนเดียว มัน อตร  ( หนูก็ยังแอบ ๆ ไปบ้าง  ไปซื้อของกินอ่ะแหละ )  ต่อไป ไม่กล้าเลี้ยวววว... ตุ๊กจ้ะ เข้ามาอ่านอีกเปล่าเนี่ย  อ่านที่ตุ๊กเขียนแล้ว เราพอจะนึกออกนะ  เรื่อง hate groups อะไรเนี่ย  เมื่อหลายเดือนก่อน มี hate crime ด้วย  นักเรียนไฮสกูล จับคุณเม็กฯ ขึ้นรถ แล้วก็เอาไปทำร้ายร่างกายน่ะ เป็นเรื่องราวออกทีวีเลยล่ะ  ตอนนี้เราว่า แคนตั๊นมีปัญหาเรื่องคนต่างด้าวมากกว่า  คือ คนมาอยู่แบบผิดกฏหมาย ( เยอะมาก ) แล้วทำผิดกฏหมายด้วย   สองเดือนก่อน คุณเม็กฯ มาอยู่แบบผิดกฏหมาย ขับรถขณะเมาเหล้า ไปชนรถของย่าหลาน หลานเสียชีวิตคาที ย่าเสียชีวิตทีหลัง  หลานอีกคนปลอดภัย แล้วคิดดู คนเหล่านี้มาประท้วง อยากให้ทางซิตี้ออกใบขับขี่ให้พวกเค้าน่ะ เค้าบอกว่า พวกเค้าจะได้มีไอดีไง   เอ้ย...เข้าเมืองก็ผิดกฏหมาย ยังจะมาประท้วงเอาไรอีกฟระ ( โทษที มาบ่นทู้น้องคิตอ่ะ แหะๆ  คุยแล้วติดลม ) จากคุณ : gw - [ 26 ม.ค. 48 08:22:47 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คุณ J..anni  พวกโจรนี่ไม่กลัวได้ไม่คุ้มเสียจริงๆ ค่ะ ทุบเอากันง่ายๆ แต่ยังดีที่เอาบุหรี่ไปอย่างเดียว อย่างอื่นไม่เสียหายนะคะ ยกเว้นอย่างเดียว เราต้องเสียค่าซ่อมนี่สิ คิตไม่แจ้งประกัน ยอมเสียเองค่ะ (ค่าดีดั๊ก 500 ซ่อมเอง 100-200 เองค่ะ) พี่หล้า แถวบ้านพี่หล้าเป็นแบบ crime watch ให้กันระหว่างเพื่อนบ้าน(หรือป่าว)  ช่วยได้เยอะเลยค่ะ แต่พวก hate crime  นี่น่ากลัวจริงๆ  ส่วนมากเห็นแต่ racism แต่เรื่องขับรถนี่ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ทำไมคนชอบบีบแตรไล่กันจริงๆ คิตโดนแถวนี้บ่อย ขับช้า หรือบางทีจะเลี้ยวซ้ายรอสัญญาณหน่อย เลี้ยวไม่เร็วทันใจก็เอาแล้ว ใจร้อนกันจิง จิ๊ง จากคุณ : Kitty_PoPo - [ 27 ม.ค. 48 06:12:59 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คิต พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าดูให้กันหรือเปล่า  แต่เท่าที่อยู่มาสามปีกว่า ๆ ก็มีแค่เนเบอร์ข้างบ้าน เคยฝากบ้านไว้ เวลาเค้าจะไปต่างจังหวัดน่ะ แค่บอกเราว่า เค้าจะไปต่างจังหวัดนะ สามสี่วัน อะไรก็ว่าไป  แค่นั้นเอง เรื่อง hate crime ก็คิดว่าน่ากลัวเหมือนกัน  เล่าให้สามีฟัง (เรื่องที่ตุ๊กเล่าอ่ะจ้ะ)  สามีพี่ดันถามคืนว่า แล้วเวลายูไปไหนต่อไหน เห็นใครมองยูแปลกๆ บ้างไหม  เออ..ไม่มีแฮะ....แกว่าที่นี้ไม่มีคนพวกนี้อยู่เยอะหรอก มันมีบ้างแต่ที่ไหน ๆ มันก็มีอ่ะนะ จะมีมากหรือน้อยแค่นั้นเอง เรื่องขับรถ แถวบ้านพี่ก็มีบ้าง ประเภทบีบแตรน่ะ แต่ไม่เห็นบ่อย ๆ หรอก  มันเป็นเรื่องธรรมดา ที่แถวโน้นจะมีเยอะ คนจากหลายประเทศน่ะคิต  สามีพี่เวลาไปตลาดเอเซียทีไร แกบอกไว้ก่อนเลยว่า ต้องระวังมาก ๆ เพราะแกเคยเจอประเภท อยู่ดี ๆ ก็จอดดื้อ ๆ กลางไฮเวย์นั่นเลย ประมาณว่า ป้าแกหาร้านอยู่ หาไม่เจอก็จอด ( กลางทางเลยนะ )  รถวิ่งตามหลัง เหยียบเบรคกันแทบไม่ทัน สามีพี่เอง ก็เคยบีบแตรใส่คนอื่นน่ะ ฮ่าๆๆ คือ แบบว่า ไปเขียวแล้ว คันหน้าก็ไปแล้ว แต่ลุงแกยังนั่งหลับอยู่  บีบแตรปลุกก็แล้วนะ ไม่ยอมตื่น ฮ่วย...( คนแก่ขับรถน่ะ )  อีกราย คนแก่อีกน่ะแหละ ไฟเขียวนะ แต่ป้าแกหยุดรถอ่ะ มองซ้าย มองขวา ( มันเป็นสี่แยก ) เราก็ ฮ่วย ... มันบล๊อคจราจรไง จากคุณ : gw - [ 27 ม.ค. 48 08:04:33 ]