CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    (กระทู้แตกประเด็น) #### คนที่ชิปของแบบ door-to-door กลับเมืองไทย มีใครต้องเสียเงินเพิ่มเวลาออกของบ้าง??? (2) ####

    แตกประเด็นมาจาก http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H3273975/H3273975.html

    สรุปสิ่งที่เอเจนท์รายนี้อ้างกับเราเพื่อเรียกเก็บเงินเรานะคะ เพื่อนๆ จะได้อ่านง่ายๆ เพราะตอนนี้กระทู้เดิมยาวมาก เผื่อเพื่อนๆ โดนแบบนี้เหมือนกันจะได้รู้ทัน เพราะว่าพนักงานสองรายนี้จะอ้างเหตุผลให้เราจ่ายเงินแต่โดยดี แล้วพอเรารู้ทันหรือยืนยันว่าเราไม่เข้าข่ายที่จะต้องจ่ายภาษีหรือค่าปรับตามที่เขาอ้าง เขาก็จะอ้างเหตุผลอื่นต่อไป

    1. อ้างว่าโทรมาหาเราเพื่อแจ้งเรื่องของที่ส่งมา แต่ไม่มีคนรับสาย พอบอกว่าไม่ได้รับก็อ้างว่าโทรแล้วอีก ถ้าแน่ใจว่าเราไม่เคยปิดมือถือ หรืออยู่บ้านตลอด ไม่มีทางที่โทรมาแล้วจะไม่มีคนรับหลายๆ ครั้งแบบนั้น ก็ให้บอกเขาไปเลย

    หรือถ้าอ้างว่าเขาส่งไปรษณียบัตรมาแล้ว ทำไมเราไม่ได้รับ ก็ไม่ใช่ความผิดเราเหมือนกัน เพราะเขาไม่ได้ลงทะเบียนมาซะหน่อย ถ้าลงทะเบียนมา และเราเซ็นรับไว้ แต่ไม่ติดต่อเขาเป็นเดือนๆ แบบนี้สิถึงจะเป็นความบกพร่องของเรา อีกอย่างนึง ถ้าลูกค้าเงียบหายก็ควรจะโทรตามเรื่อง หรือหาทางติดต่อด้วยวิธีอื่น อย่างกรณีของเรา ตอนที่ส่งของ เราก็ให้ทั้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร อีเมล์ ไว้อย่างละเอียด แล้วทางเมืองไทยก็ยังรู้เมล์เราด้วยซ้ำ แต่ไม่ยอมติดต่อมาเอง

    2. อ้างว่าเราอยู่ที่อังกฤษไม่ถึงหนึ่งปี โดยบอกว่าถ้าเดินทางออกนอกประเทศปุ๊บ กรมศุลจะนับใหม่ทำให้ไม่ถึงหนึ่งปี ถ้าเราอยู่เกินหนึ่งปีจริงๆ ก็ควรจะยืนยันไปเลยว่าให้ไปดูพาสปอร์ต จะได้เลิกอ้างแบบนี้

    3. อ้างว่าของในกล่องที่ชิปมามีของที่ต้องเสียภาษี ถ้าแน่ใจว่าเราไม่มีของที่ต้องสำแดงแน่ๆ ก็ยืนยันไปเถอะค่ะว่าไม่มีๆๆๆ อย่ามาหลอกซะให้ยาก

    4. อ้างเรื่องท่าเรือ พอเราถามว่าทำไมคนโน้นชิปมาพร้อมๆ กันไม่เห็นเค้าโดนชาร์จแบบนี้เลย พนักงานก็อ้างว่าแต่ละท่าเรือมีกฎไม่เหมือนกัน ถ้าเจอแบบนี้ก็ให้บอกว่าเราชิปมาแบบ door-to-door คุณจะเอาของไปลงท่าเรือไหนก็ไม่เกี่ยวกับเราเลย เพราะอัตรา door-to-door น่ะรวมค่าเคลียร์ของไปเรียบร้อยแล้ว


    ในที่สุดก็มีข้ออ้างอีกสองข้อที่กำลังเถียงกันอยู่ เพราะถ้าเป็นจริงตามที่เขาอ้าง ก็ไม่ใช่ความผิดเราอยู่ดี ไม่ควรโยนให้ลูกค้าเป็นคนรับผิดชอบความผิดพลาดในการทำงานของเอเจนท์ที่อังกฤษกับที่เมืองไทย ข้ออ้างก็คือ

    1. ทางอังกฤษส่งเอกสาร B/L มาโดยเขียนชื่อผู้รับผิดคน (ไม่ใช่ชื่อเรา) ทำให้ต้องจ่ายเงินค่าเปลี่ยนชื่อใน B/L แล้วบอกให้เราเป็นคนจ่ายเงินค่าธรรมเนียมในการแก้ชื่อ พอบอกว่าไม่ใช่ความผิดเรา ก็ไม่สนใจ บอกแต่ว่าไม่จ่าย ของก็ไม่ออก

    ส่วนเรื่องที่เขาเรียกเก็บค่าเปลี่ยนชื่อเป็นเงินมากกว่าที่กรมศุลเรียกเก็บตั้งเป็นเท่าตัวแบบนี้ (คือที่จริงแค่ 1,000 แต่มาเรียกกับเราถึง 2,500 บาท) ก็กำลังเฉ่งเขาอยู่ค่ะว่าทำไมมาหลอกลวงเรา แต่ผู้จัดการไม่กล้าตอบ บอกว่าจะโทรกลับแต่แล้วก็หายจ้อย เขาคงจะคิดไม่ถึงว่าเราจะหาทางโทรไปตรวจสอบกับนิติกรของสำนักงานศุลกากรที่แหลมฉบัง ซึ่งเป็นท่าเรือที่เรือไปลง

    2. ทางอังกฤษไม่ได้ส่งรายละเอียดเรื่องที่อยู่ของเรามาให้ พอทางเมืองไทยเขียนไปถาม ที่อังกฤษก็ตอบเมล์ช้าเป็นเดือนๆ ทำให้ของค้างอยู่ที่ท่าเรือมาแล้วถึง 3 เดือน แต่เราเพิ่งทราบเรื่องเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แล้วเอเจนท์เมืองไทยก็ยืนยันว่าเราต้องเสียค่า storage ทั้งที่ต้นเหตุคือเรื่องการประสานงานของเขากับที่อังกฤษแท้ๆ ไม่เกี่ยวกับเราสักนิด

    มีข้อสังเกตว่าทีแรกสุด เขาไม่ได้อ้างเหตุผล 2 ข้อหลังนี้ค่ะ แต่กลับไปอ้างเรื่อง 4 ข้อแรก ทำให้เราคิดว่ามันแปลกๆ แหม่งๆ อยู่ ครั้นพอขอดูเอกสารก็ไม่ยอมส่งให้เราดูอะไรสักอย่าง รับปากส่งๆ ไปงั้นแหละว่าเดี๋ยวส่งให้ ขายผ้าเอาหน้ารอดแบบนี้ไปวันๆ เพราะเราโทรไปขอทุกวัน แต่พอผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ก็บอกเราว่าส่งไปให้กรมศุลแล้ว มันน่าสงสัยจริงๆ ว่าทำไมถึงไม่ให้เราดู เอกสารเป็นกรรมสิทธิ์ของเราแท้ๆ เขาเป็นเพียงคนออกของแทนเราเท่านั้น

    แล้วเราจะมาเล่าต่อนะคะว่าเรื่องเป็นไงบ้าง บางทีก็ถอดใจเหมือนกัน ถ้ายอมจ่ายๆ ไปตั้งแต่แรกก็ไม่เหนื่อย ไม่เสียเวลา ไม่เสียเงินค่าโทรข้ามประเทศ โทรข้ามจังหวัดมากมายแบบนี้ แต่พยายามคิดว่าสู้เพื่อความถูกต้อง บริษัทพวกนี้จะได้ได้รับบทเรียนบ้าง เราจะพยายามต่อไปค่ะ

    จากคุณ : happyjiffy - [ 8 ก.พ. 48 02:11:41 A:210.86.214.184 X: TicketID:000067 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป