ความคิดเห็นที่ 1 ไปเมืองไทยเกือบสามเดือน เที่ยวเล่นสนุกสนานบานตะไท..พอกลับมาก็ป่วยเลย เพราะมาเจอกับอากาศที่มีทั้งลมและฝน กว่าจะโงหัวลุกขึ้นมาทำธุระได้ก็กว่าสองอาทิตย์ วันหนึ่ง..ว่างๆมามานั่งดูรายการใช้จ่าย เพราะจะต้องทำภาษีด้วย..ปรากฏว่าเจอสิ่งประหลาด นั่นคือ มีรายการเรียกเก็บเงินจาก  galleria USA  และ simpleescape ตั้งแต่เดือน กันยายน มาเรื่อยทุกเดือน โดยไอ้สองบริษัทบ้านี่ ดึงเงินไปคนละ $ 19.95  ต่อเดือน ทีนี้เนื่องจากฉันไม่อยู่ เพราะอยู่เมืองไทยจึงไม่เคยดู statement ของธนาคารเลย ไอ้สองบริษัทนี่เลยได้ใจหนัก ในเดือน มกราและกุมภา..เรียกเก็บเงินถึงสองครั้ง เท่ากับ 19.95 x 4   สรุปว่า ทั้งหมด สองบริษัทนี่ "ฟัน" เงินจากบัญชีฉันไปถึง สามร้อยกว่าเหรียญ...!! จากคุณ : WIWANDA - [ 25 ก.พ. 48 05:57:14 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ในรายการที่ที่เอาเงินไป..โชคดีที่ มีเบอร์โทรศัพท์หมายเลข 800 ทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า   จึงใช้ความพยายามถึงสองวันกว่าจะติดต่อได้ มันว่า..เพราะฉันได้เข้าร่วมโครงการ discount สินค้ากับมัน.. ฉันก็โวย เพราะไม่เคยเข้าร่วมอะไรที่ไหน..ไม่เคยลงนามในเอกสารให้คนมาเอาเงินไปจากแบงค์ง่ายๆแบบนั้น ทั้งโวย..ทั้งขู่..ทั้งปลอบ  บริษัทหนึ่ง คืนมาให้เกือบหมด (ขาดไปหนึ่งงวด) อีกบริษัทหนึ่ง คืนมาแค่สองงวด ฉันรีบไปแจ้นไปธนาคาร..เพื่อไปรายงานว่าอะไรได้เกิดขึ้นกับบัญชี   เจ้าหน้าที่บอกว่า อาจจะย้อนหลังๆไป dispute ให้ได้ 60 วัน มากกว่านั้นคงทำไม่ได้   นอกจากเราต้องติดต่อไปที่บริษัทนั่นเอง.. ปรากฏว่า..โทรกลับไป..ไม่มีใครรับสาย แบบประเภทให้กดหนึ่ง กดสอง อะไรเทือกนั้น และเมนูที่มันให้มาไม่เกี่ยวอะไรกับเราเลย..ในเรื่องที่จะขอเงินที่เหลือคืน ก็เลยค้นหาดูชื่อบริษัทในเน็ทดู..โอ้โห เจอเต็มๆ..นี่เลย.. จากคุณ : WIWANDA - [ 25 ก.พ. 48 06:00:05 ]

ความคิดเห็นที่ 3 Category: Corrupt Companies Submitted: 1/28/2005 12:45:52 AM Modified: 1/28/2005 11:28:14 PM Simpleescape There appears to be no way to contact simpleescape to find out what the charges are for, on my debit card 800-3 Internet *Consumer Suggestion ..Credit vs debit cards Company Simpleescape Address: IK9simpleescape 800-3 Internet U.S.A. Phone Number: Fax:   For approximately 6 months Simpleescape and a company called Galleria(which may be related) have made charges to my debit card. I do not know what these charges are for, and cannot find any means of contacting these people. The charges total approximately 0.00. There may be more. In your editor's report, it was mentioned that their advice was directed to credit card charges. Mine is a debit card. Does this make any difference in the handling of this situation? Thank you. Jack Rio Vista, California U.S.A. ก็เลยอยากจะมาเตือนๆเพื่อนต่างแดนน่ะค่ะ..ว่าการหากินแบบนี้มีเยอะมาก..ต้องระวังตัว ระวังกระเป๋ากันหน่อย.. จากคุณ : WIWANDA - [ 25 ก.พ. 48 06:01:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 และคำตอบกลับมาจากผู้รู้ในเวบ เกี่ยวกับเรื่องนี้.. EDitor's Suggestions on how to get your money back! HERE IS WHAT RIP-OFF REPORT SUGGESTS YOU DO: Go to your bank within 60 days of the charge, or as soon as you know about the charge, don't delay, and tell them that there has been fraudulent activity within your account. Explain that you wish to file a dispute, and demand that they assist you in accordance with Federal Regulation E. According to the majority of victims interviewed by Rip-off Report, those who immediately called their banks to dispute the charges did not get very far. Many victims got the following responses from their banks: “we could not do anything for you” or “you waited too long; it has been more than 60 days”. If the bank is says that you have waited too long, explain to them how you called their 800 number as soon as the charges were found, and were told by the bank that nothing could be done. Remind the bank that they failed to assist you properly at the 800 #, and instead, provided you with an inadequate explanation of your right to dispute. Tell the bank that it's their fault time has expired, and since they gave you the wrong info to begin with, they will just have to deal with it, take the loss and reverse the charges. Tell them the truth; this was unauthorized and your account was NOT to be charged! Keep emphasizing how you never authorized anything! Direct them to the hundreds of victims reports that were filed on Rip-off Report.com. And if you're at the bank, walk them over to their computer and make them go to this site! If you are on the phone with them, tell them you will wait while they access this site! Either way, be persistent! DO NOT TAKE NO FOR AN ANSWER! Let them know nicely, that you were advised to Report them (the Bank) and this situation to the Banking Commission in your state. Since each state has a different name for the agency/controller over banks, find that name before you call or get to the bank so you can throw it in their face. The more knowledgeable you appear to be, the further you will get. And just continue to demand the Federal Regulation E form! The bank CAN, MUST and WILL reverse the charge! But, you must be persistent; ask to speak to the supervisor or the area manager for all the branches in the state. Let the bank personnel know you are meeting with the media later in the day, that you would much rather they do the right thing (as most other banks have) by looking at the complaints and immediately reversing the charge(s) to your account; no matter how long ago it was. Be sure to call the Media if necessary so you are telling the truth. If you have to, be loud (but nice) in front of other customers. If you are just calling by phone, the above tactics should still work. The bank can easily fax or mail to you the Federal Regulation E dispute form. CHARGES TO YOUR CREDIT CARD If the charge was to your credit card (not debit card, check card, or checking account), contact the credit card company as soon as possible to request a dispute form. Consumers usually have a little longer to dispute fraudulent credit card charges (up to 6 months), but it is better to act right away. In this type of situation, credit card disputes are usually successful since fraudulent companies often won't contest the disputed charge. In rare cases, credit card companies will review disputes, but refuse to reverse the charges. If this occurs, complain to a manager and let them know you will be filing a report here. Remember Don't let them get away with it! Make sure they make the Rip-off Report .. The more Reports filed on a Company or individual, the more likely it is that the authorities, media and attorneys will want to take action. And good luck Let us know how you do! ED Magedson – Founder, Rip-off Report.com & Author of www.ripoffrevenge.com EDitor@RipoffReport.com badbusinessbureau.com www.ripoffreport.com ก็จะพยายามไปติดต่อธนาคารใหม่..ในวันพรุ่งนี้   และสาเหตุที่ไอ้บริษัทบ้าพวกนี้เข้าไปในกระเป๋าพวกเราได้  มีหลายทางค่ะ ที่มากที่สุด คือ จากการสั่งซื้อ หรือ รับพวกนิตยสารต่างๆ.. (ข้อนี้..สำหรับฉันแล้ว จริงแน่นอนค่ะ เพราะสั่งหนังสือมาก เยอะแยะไปหมด) จากคุณ : WIWANDA - [ 25 ก.พ. 48 06:09:14 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ความจริง เงินก็ไม่ได้มากมายอะไร แต่มันเป็นอะไรที่ยอมกันไม่ได้ เพราะอย่างนี้เท่ากับถูกปล้นถึงในบ้านเชียว.. แล้วที่เจ็บใจมากนั่นก็คือ..มันจงใจเยาะเย้ยพวกเราเชียวนะ หนอย..ดันตั้งชื่อบริษัทว่า...simpleescape !! มันคิดได้งัยเนี่ยยย..?? จากคุณ : WIWANDA - [ 25 ก.พ. 48 06:37:55 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สวัสดีครับพี่วิฯ หายไปนานเลยนะครับ ผมก็ติดตามอ่านกระทู้ของพี่จากที่นี่ตลอดเหมือนกันก็เลยพอทราบว่าพี่วิฯคงยุ่งๆกับเรื่องขายร้านอาหารของพี่ พอกลับมาก็มีเรื่องมาเล่าให้ฟังเลยนะครับ ผมก็เคยเจอเหตุการณ์ทำนองเดียวกับพี่มา 2-3 หน แต่ก็ดีที่ Online เข้าไปตรวจสอบดูบัญชีที่ใช้อยู่อาทิตย์ละหลายหนพอเจอรายการไหนที่เราไม่เคยไปซื้อของหรือทำธุรกรรมอะไรด้วยกับเค้าก็รีบ dispute Online กับธนาคารของเราทันที ธนาคารจะจัดการกับเรื่องนี้เร็วมากและก็คืนเงินให้เราก่อนทันทีแต่ก็บอกว่าคืนชั่วคราวก่อนขอเวลาตรวจสอบเรื่อง 90 วัน อีกสักประมาณไม่เกินอาทิตย์ก็จะมีเอกสารส่งมาให้เราเซ็นต์ชื่อยืนยันว่าเราไม่ได้ซื้อของหรือใช้บริการในรายการนั้นๆจริงและให้ส่งกลับ แต่ข้อเสียก็คือ Check(debit) Card เราจะถูกยกเลิกทันทีเพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีไปใช้อีก ทำให้เราต้องรอ Check Card ใบใหม่ที่ธนาคารจะส่งมาให้ภายใน 10 วัน ถึงว่าอยู่อเมริกานี่ต้องคอยสอดส่องดูแลไม่ว่าจะเป็นบัญชีของเราหรือแม้กระทั่งโฆษณาประเภทส่งเช็คจ่ายชื่อเรามาล่อให้ติดกับ และอื่นๆอีกเยอะ อยู่ตลอดเวลา มิฉะนั้นแล้วก็จะต้องมาคอยตามเรื่องที่เสียทั้งเวลาและอารมณ์ ยังไงก็ผมเชื่อว่าพี่คงติดตามได้คืนหมดแน่ครับ และขอให้พี่มีสุขภาพแข็งแรงตีกอฟล์ได้เหมือนวีเจฯ แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 48 07:13:31 จากคุณ : KY_2003 - [ 25 ก.พ. 48 07:12:00 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่หายไปไหนหรอกค่ะ คุณ KY_2003 แต่เวลามีแป๊บเดียว แค่อ่านได้ แต่ไม่ค่อยมีเวลาเขียน เพราะว่าไปเขียนเรื่อง ในห้องประวัติศาสตร์แบบติดลมน่ะค่ะ.. อ้อ.เอามาฝากด้วย ถ้าสนใจเรื่องแบบนี้นะคะ.. กระทู้เรื่อง.......เชลย http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K3301494/K3301494.html http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K3305864/K3305864.html เรื่องตีกอล์ฟ...5555555 เหมือนคนบ้าเลยจิงจิ๊งง... เพราะที่เมืองไทย เล่นซ้า...37 สนาม น้องๆในพันทิบส์เป็นคนพาไปทั้งนั้นละค่ะ..ทุกคนน่ารักมาก ไม่เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อยที่ต้องมาดูแลคนแก่.. จากคุณ : WIWANDA - [ 25 ก.พ. 48 07:19:32 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถึง พี่ wiwanda ค่ะ ติดตามงานเขียนของพี่  อ่านทีไรก็ประทับใจมาก  ดีใจที่วันนี้ เปิดพันทิพ แล้วเจอพี่ในกระทู้  ขอบอกว่าดีใจจริงๆ ค่ะ จากคุณ : potey2003 - [ 25 ก.พ. 48 08:42:07 ]

ความคิดเห็นที่ 9 /\ ll ll ll ll ช่าย..ย...ย   แก่มากเลย.......... อิ อิ อิ จากคุณ : Uncle Tee - [ 25 ก.พ. 48 08:45:32 ]

ความคิดเห็นที่ 10 /\  /\  /\  /\  /\  แก่เท่าๆกับเราเลย..!! จากคุณ : WIWANDA - [ 25 ก.พ. 48 09:15:50 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แหม..เดี๋ยวจะว่าพอมาถึงก็บ้าน้ำลายเลย แต่ถ้าไม่คุยแล้วเหมือนจะอกแตกตาย เชื่อไหมคะว่าอยู่เมืองไทยไม่มีเวลาดูทีวีเลย นอกจากข่าวสึนามิ นอกนั้นก็กลับดึก ไม่มีโอกาส.. พอกลับมา ก็ไล่ดูรายการทั้งหมด เพราะชอบเรื่อง วาไรตีส์โชว์ กับเชิญแขกคนดังมาคุย.. ได้แง่คิดหลายเรื่องหลายมุมดี.. แต่เรื่องนี้ที่จะเล่าต่อไปนี้  เป็นเรื่องที่พยายามเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ.. คือว่า เขาเอาแม่ของนักร้องดังคนหนึ่งมาออกรายการ ตัวแม่ก็อดีตคือนักร้องเพลงเหนือ ที่เคยแต่งงานกับฝรั่ง จนไปอยู่ด้วยกันที่เมืองนอก.. มีลูกชายหญิงน่ารักสองคน ตัวเองก็บอกว่า ทุกอย่างราบรื่นดี..แต่เนื่องจากไม่ชอบไปไหน ชอบอยู่กับบ้าน สามีชวนไปไหนก็ไม่ไป..เพราะถือว่า มีลูกก็ต้องวุ่นอยู่กับการเลี้ยงลูก ดูแลบ้าน.. จากนั้น..สามีเปลี๋ยนไป๋..ทะเลาะกันบ่อยๆ (อันนี้ ขอตอบได้เลยว่า การแต่งงานกับฝรั่งนั้น คือการที่เราต้องเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน รสนิยมต้องกัน  ไปไหนก็ต้องไปด้วยกัน ฉะนั้น ถ้าเราแยกตัวออกมาโดดเดี่ยว ก็มักจะมีปัญหาว่า..คุยกันไม่รู้เรื่อง) จากคุณ : WIWANDA - [ 25 ก.พ. 48 09:24:39 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มาถึงตอนนี้ การคุยแบบสะเทือนใจก็ได้เกิดขึ้น..คือ เธอว่า ทะเลาะกัน..ผู้ชายด่าว่า "BITCH" โอ้..แม่เจ้า เธอเจ็บแค้นมากต่อการด่าครั้งนี้ ถึงขนาดเอาไปเขียนกลอนที่แสดงออกถึงความชอกช้ำสุดจะทน. กลอนเริ่มด้วย..ภาษาอังกฤษที่ว่า Bitch....................you said !!!! จากนั้นก็เป็นกลอนภาษาไทยที่ไม่มีความสัมผัสอีก เพียบบบบ..นับได้หลายๆหน้า เธอเล่าด้วยความเคียดแค้นมาก ในเรื่องการถูกด่าว่า bitch จนเป็นเหตุที่มาของการหย่าร้าง หอบลูกเต้ากลับมาเผชิญโชคที่เมืองไทยต่อไป.. แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 48 21:14:45 แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 48 09:31:48 จากคุณ : WIWANDA - [ 25 ก.พ. 48 09:30:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 และเธอได้เปิดร้านอาหารที่เมืองเหนือนั่น..ร้องเพลงบ้าง และต่อมาก้ได้ไป"ปิ๊ง" กับชายที่มีครอบครัวแล้ว.. เธอว่า..เขาไม่ใช่คนหล่ออะไรเลย แต่พูดกันรู้เรื่อง เพราะมีอารมณ์ศิลปเช่นกัน เธอใช้คำว่า..เพราะคุยกันรู้เรื่องในเรื่องของกวี อย่างสุนทรภู่ และเจ้าฟ้ากุ้ง.. เลยเออออห่อหมก ร่วมหอลงโรงไปในฐานะภรรยาเก็บ.. ต่อมา..ผู้ชายเกิดหน่ายแหนง ไม่มาผูกสมัครรักใคร่เช่นเดิม คงเห็นว่าไปกันไม่ได้  จึงขอเลิก.. เธอว่าเธอเสียใจจนแทบเป็นบ้า..เหม่อลอย คราวนี้เขียนกลอนอีกแล้ว..และด้วยความเจ็บช้ำ เธอเปรียบเทียบว่า..การถูกบอกสลัดรักครั้งนี้ เหมือนโดนเหยียบด้วย"ส้นตี............" (ออกอากาศแบบเต็มๆเลยนะคะ) พิธีกร ก็สะดุ้งเมื่ออ่านไป..ถามเธอว่า ทำไมต้องใช้คำรุ่นแรง  เธอว่า..คำว่า "ตี.." ในภาษาเหนือนั้น ไม่ได้หยาบคายอย่างที่คิด คืออุปมาว่า เป็นภาษาไทยดั้งเดิมเชียว จากคุณ : WIWANDA - [ 25 ก.พ. 48 09:40:47 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ฉันนั่งดูไป..งงไป.. ถ้าเธอทราบว่าภาษาไทยนั้น คำบางคนไม่ใช่คำหยาบคายอะไร ทั้งๆที่มันขัดหู..ทำไมไม่คิดว่า คำว่า bitch ของฝรั่งก็ไม่ถือว่าจะต่ำช้าถึงขนาดต้องทำให้ครอบครัวแตกแยก.. ใครๆเขาก็พูดกันทั้งนั้น ฝรั่งน่ะเวลาทะเลาะกับเมียละก้อ bitch อย่างโง้น bitch อย่างงี้เชียว.. แต่พอวันวาเลนไทน์มาถึง ก็เห็น ไอ้พวก husband of the bitch ทั้งหลายนี่  วิ่งหาซื้อของขวัญมากำนัลนังหมาดุที่บ้านกันจ้าละหวั่น.. หรือใครว่าไม่จริงคะ....??? จากคุณ : WIWANDA - [ 25 ก.พ. 48 09:46:32 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สวัสดีค่ะป้าแวนด้า เคยเห็นป้า post ทีห้องอื่นด้วย ดีใจที่กลับมาอีกค่ะ คือว่าอยากอ่านพวกกระทู้เก่าๆ เกี่ยวกับไวน์แล้วก็เรื่องที่ต่อสู้กับทนายอเมริกาน่ะค่ะ ไม่ทราบจะหาอ่านได้ี่อีกที่ไหนคะ พอดีลืม save ไว้น่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ศรีธนา - [ 25 ก.พ. 48 10:44:34 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีค่ะ เป็นสมาชิกใหม่ค่ะ ดีใจจังที่ได้อ่านเรื่องดี ๆ อยู่แต่เมืองไทยค่ะ ไม่เคยไปเมืองนอกหรอก แต่ก็ชอบค่ เลยเข้ามาที่นี่บ่อย ๆ อ่านข้อมูลสะสมไปเรื่อย  ดีใจที่ได้อ่านข้อความของคุณ WIWANDA ค่ะ จากคุณ : channy (channy211) - [ 25 ก.พ. 48 11:02:08 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มานั่งรออ่านป้าวิฯ แถวหน้าสุด ขนมน้ำดื่ม พร้อมแล้วค่า จากคุณ : Autumn Leaves - [ 25 ก.พ. 48 11:08:27 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ป้า นอนก่อนนะ พรุ่งนี้จะมาอ่าน งิงิ  เรื่องไม้กอล์ฟจะฝากขายก็เมลมาเด้อ เมลเดิม จากคุณ : Adore - [ 25 ก.พ. 48 11:37:15 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อู้วว ไม่ได้แล้ว ตอนนี้สั่งซื้ออเมซอน ตลอดเรย  เดี๋ยวต้องไปเช็คมั่งแล้วว่า จ่ายไรไปมั่ง  เสียวหลัง ค่ะ จากคุณ : เกือกซ่าสีชมพู - [ 25 ก.พ. 48 18:38:20 ]

ความคิดเห็นที่ 20 หนูก็ไม่คิดว่า b1tch เป็นคำหยาบ ถึงบางคนจะคิดว่ามันไม่ใช่คำหยาบ แต่ถ้าคนที่เรารักพูดคำที่ทำให้เราเสียใจทั้งๆที่รู้ว่าพูดแล้วเราจะเสียใจ ถึงจะเป็นคำว่า hello ก็ไม่น่าจะพูดนี่นา หนูมีคนสนิทที่คบกันอยู่ เขาพูดแต่คำที่ทำให้หนูเสียใจ ทุกทีพอเขาเริ่มประโยคแบบนี้ "don't take it personal but ... " หนูก็รู้เลยว่าจะมีคำที่ทำให้เสียใจตามมา เลยบอกเขาว่า if it's not really necessary or if you don't really really have to let me know, anything you're gonna say that starts of with 'don't take it personal' you can just save it. because i do take it personal. and it hurts". เขาก็ยังพูด ไม่เคยเปลี่ยน เป็นอย่างเนี้ย มาเรียกหนูว่า b1tch ยังดีกว่าเลย จากคุณ : .. - [ 25 ก.พ. 48 19:19:00 A:68.144.100.217 X: TicketID:007997 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ด้วยๆๆ เพิ่งเข้ามากระทู้ไกลบ้าน ชอบจัง... สรุปแล้ว มีแฟนฝรั่งดีมั้ยอ่ะคะ...??? กำลังตกอยู่สถานการณ์นั้นพอดี...แฮ่ะๆๆ แต่หนูก็เห็นด้วยนะคะที่พี่บอกว่า (อันนี้ ขอตอบได้เลยว่า การแต่งงานกับฝรั่งนั้น คือการที่เราต้องเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน รสนิยมต้องกัน  ไปไหนก็ต้องไปด้วยกัน ฉะนั้น ถ้าเราแยกตัวออกมาโดดเดี่ยว ก็มักจะมีปัญหาว่า..คุยกันไม่รู้เรื่อง) จากคุณ : เก๋ (ยัยเจี๋ยมเจี้ยม) - [ 25 ก.พ. 48 19:50:40 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ ที่เอาเหตุการณ์นี้มาเป็นข้อเตือนใจ...หนูเองก็เช็คบัญชีกับแบงค์อยู่ตลอด กลัวโดนแบบนี้เหมือนกันค่ะ เพราะค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนยาวเป็นหางว่าวเลย :) จากคุณ : tiny - [ 26 ก.พ. 48 00:59:26 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ...ที่เตือนเรื่องบัญชีธนาคาร จากคุณ : JC2002 - [ 26 ก.พ. 48 22:01:25 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ป้าแวนด้าขา หนูมาทักทายด้วยคนค่ะ คือว่าเพิ่งเข้ามาใน นี้ไม่นานน่ะค่ะ  ฝากตัวเป็นลูกหลานด้วยคนค๊า หนูเห็น ด้วยน่ะค่ะกับความเห็นของป้า  นักร้องหญิงที่ป้าพูดถึง น่ะเคยเ็ป็นคนที่ หนูชอบมากเลยค่ะ เพราะเขาเป็นนัก ร้องเหนือที่ร้องเพลงสำเนียงเหนือได้เพราะที่สุด แต่ มาเสียความรู้สึกแล้วก็ช็อก กับการตีแผ่ ชีวิตคู่ในอดีต ด้วยคำพูดที่หยาบคาย ของเค้ามากค่ะ  เคยมีบางคน บอกว่าแม้เราทำดี พูดดีสักร้อยครั้ง แต่ถ้า มีเพียงหนึ่งครั้ง ที่ทำผิด พูดผิด ไปไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตามมันก็ ไม่อาจลบล้างความผิดพลาดอันนั้นได้ บางครั้งเพื่อเงิน (รายได้จากการขายหนังสือของเธอ)  ก็ทำให้คนเราทำ อะไรผิดพลาดได้เหมือนกันน่ะค่ะ จากคุณ : สิปาง - [ 27 ก.พ. 48 01:28:10 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สวัสดีค่ะ น้องๆหลานๆทุกคน   คุณเกือกซ่า กับคุณสิปาง..ยังคิดถึงเสมอค่ะ ไปมาแล้ว ที่ธนาคาร เรียกว่าหมดน้ำลายไปหลายปี๊บ พริ้นต์เอาเอกสารที่คนเขาเอาธุรกิจนี้มาตีแผ่ด้วย ประกอบ ข้อมูล..ทางธนาคารเขาก็แสดงความเสียใจ แต่อย่างเดียวที่จะช่วยได้นั่นก็คือ ให้เรากรอกแบบฟอร์ม ในการที่จะขอ dispute รายการเรียกเก็บเงินที่ย้อนหลังไปได้แค่ 60 วัน.. และทางธราคารจะพยยามติดต่อเกลี้ยกล่อมไอ้บริษัทบ้านั่นให้เรา.. แต่เอาเถอะ..ดีกว่าไม่พยายามอะไรเลย ตอนนี้เลยไม่แน่ใจ ปิดบัญชีนี้ไปก่อน เพราะอย่างนี้เท่ากับว่า ข้อมูลทางบัญชีของเราได้อยู่ในมือของพวกมิจฉาชีพพวกนี้แล้ว หมดสองบริษัทนี่ไป ก็ไม่รู้ว่าจะไปเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทไหนอีก..เสียวง่ะ จากคุณ : WIWANDA - [ 27 ก.พ. 48 01:45:58 ]

ความคิดเห็นที่ 26 คุณศรีธนาคะ.. เรื่องฟ้องทนายอยู่ในคลังกระทู้เก่า ชีวิตต่างแดน มีครบทุกตอนค่ะ.. เรื่องไวน  ไวน์ กับ แถมเรื่องฮิตเล่อร์  เชิญที่นี่ค่ะ.. http://www.geocities.com/drsak/ จากคุณ : WIWANDA - [ 27 ก.พ. 48 01:52:33 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อ้อ..ลืมบอกไปว่า..ถ้าใครอยากฟังเรื่องฟ้องทนายต่อ ก็ ยกมือขึ้นนนนน...................... จากคุณ : WIWANDA - [ 27 ก.พ. 48 01:54:02 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มายกมือคนแรกเลยค่ะ ^^' จากคุณ : น้องแหนมเนือง - [ 27 ก.พ. 48 02:22:30 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ตอบคุณเก๋..(ยัยเจี๋ยมเจี้ยม) เรื่องถามว่ามีแฟนฝรั่งดีหรือเปล่าเนี่ย..ใครก็ตอบไม่ได้ค่ะ นอกจากใจของตัวเอง ตอนที่เราอยู่กับเขา(นอกจากยามหวานแหวว) แล้ว ยังมีความประทับใจอื่นๆอีกไหม เป็นเพื่อนที่ดีของเราได้ไหม (ถ้าไม่คิดว่าเป็นคู่รัก) ที่สำคัญ..คือ เข้าใจกันดีหรือไม่.. จะเล่าให้ฟังเรื่องหนึ่งนะ.. เมื่อสองปีก่อนไปตีกอล์ฟที่เมืองไทยพร้อมกับคณะฝรั่งเจ้าประจำที่วนเวียนกันไปซ้ำๆทุกปี หลายคนในนั้น คือพวกฝรั่งสูงวัยและบางคนก็เป็นโสด (เมียตายมั่ง หย่ามั่ง)  อีกทั้งฐานะดี หลายคนในนี้ไปเมืองไทยก็มีการแอบๆมองหาสาวที่ถูกใจนะ เขาไม่ได้บอกหรอก แต่เรารู้น่ะ.. มีรายหนึ่ง..ไปติดอกติดใจสาวเสิร์ฟค๊อกเทลในโรงแรมที่เราไปพัก ทีนี้มาถึง เรื่องของ culture shock เพราะฝรั่งเนี่ย มักจะชอบทักทายทุกวัน โดยการถามถึงพ่อแม่พี่น้องว่า ครอบครัวสบายดีไหม..(เพราะไม่รู้จะพูดอะไรให้ดีกว่านั้น) สาวก็คงเข้าใจผิด..คิดว่า เขาคงรักและตั้งใจจะเกื้อกูลทั้งครอบครัว ประเภทรักฉันต้อง.... เลยทุกครั้งที่เจอะเจอ เธอจะเล่าถึงแต่เรื่อง แม่ไม่สบาย ยายป่วย หลานสอบตก น้องรถชน.. ล้วนแล้วแต่หดหู่........ ฝรั่งไปเที่ยวด้วยอารมณ์รื่น..ไม่พร้อมที่จะรับฟังปัญหาของชาวบ้าน เลยค่อยหายหน้าไป  เสน่ห์ที่เคยติดใจแต่ครั้งแรก ก็เริ่มเลือนหาย  จนถึงหายจ้อย สาวเธอก็มาปรับทุข์กับฉันน่ะค่ะ บอกว่าไม่ทราบว่า คุณ..โกรธเรื่องอะไร เพราะ ไม่มาคุยด้วยอย่างแต่ก่อน ฝรั่งก็เล่าว่า...ความจริงเขาชอบเธอมากนะ ชอบจนาดที่คิดว่าจะเอาไปเลี้ยงดูเชียว แต่เห็นท่าจะไม่ไหว เพราะเธอ มีปัญหาส่วนตัวมาก เขาอายุมากแล้ว ต้องการคนที่อิสระทั้งกายและเวลาเพื่อที่จะมาทำหน้าที่"เมีย"อย่างสมบูรณ์ แต่ตั้งแต่คุยกันมา..สรุปไว้ว่า ต้องตัดไฟแต่ต้นลม เพราะ She's very unhappy person. ก็ไม่อยากจะบอกให้เธอคนนั้นช๊อคนะ..ว่า สิ่งที่หลุดไปนั่นคือ ทันตแพทย์มือดี จัดอันดับมหาเศรษฐีเชียว !! แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 48 01:55:35 จากคุณ : WIWANDA - [ 27 ก.พ. 48 02:38:57 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อิอิ  อ่านเรื่องฟ้องมาตอนนู้นน..มาพับเพียบฟังต่อค่ะ แหมคุณวิวันดาคะ  ฝรั่งมันก็เห็นแก่ตัวพอกันนะเจ้าคะ มันจะเอาผู้หญิงคนนี้ไปเป็งเมียอย่างเดียวโดยไม่คิดว่าเค้าจะมีครอบครัว  ก็แปลกนะจ้ะ อิอิ    แต่ตาหมอฟันแก่นี่เจอสาวถูกใจอะยังง่ะ  เดี๋ยวจะได้ไปสมัคร อิอิอิ แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 48 10:26:54 แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 48 10:23:27 จากคุณ : เกือกซ่าสีชมพู - [ 27 ก.พ. 48 10:23:04 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ป้าแวนด้า ขา เข้ามาอ่านกระทู้อีกรอบ  พอดีติดใจที่ตอบ คำถาม คุณเก๋  น่ะค่ะ ความจริง ปรางเห็นด้วยกับคุณเกือก ซ่า น่ะค่ะว่า ฝรั่งก็เห็นแก่ตัวไปน่ะค่ะ  ถ้าเขาชอบผู้หญิ่งคน นั้นจริง ๆ  เค้าก็ต้อง รับฟ้งปัญหา ไม่ว่าจะมากมายแค่ไหน ของเธอคนนั้นได้สิค่ะ แต่เนี่ย เจอหนังตัวอย่างในชีวิต ของเธอ (ซึ่งอาจเป็นเรื่องเล่าที่ไม่ใช่เรื่องจริงของเธอก็ได้) เค้าก็ถอยหนีแล้ว ปรางว่าถึงเค้าจะเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี ก็ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ  เพราะยังงัยสังคมไทยเรา บาง ครั้งช่วยเหลือและรับฟังก็  ยังเป็นสิ่งจำเป็นอยู่น่ะค่ะในระบบโครงสร้างของครอบครัว   ปรางอาจจะพูดเรื่องนี้ได้ ยาวน่ะค่ะเพราะปรางเคยตัดสินใจไม่แต่งงานกับผู้ชายต่าง ชาติคนหนึ่งทั้งที่เขาก็มีพร้อมทุกอย่าง  แต่สิ่งเดียวที่เขา ไม่พร้อมคือ  ความรักความอบอุ่นที่เขาไม่มีให้กับครอบ ครัวของปราง  จริง ๆ แล้ว ปรางเองก็ไม่เคยคบใครเป็น แฟน มาก่อน  ปรางอาจไม่เข้าใจสังคมและวัฒนธรรม ของเขาให้ถ่องแท้ก็ได้  ก็เลยคิดว่าเขาจะเป็นอย่างคน ไทยเรา คือถ้าผู้ชา่ยคนไหนชอบลูกสาวบ้านไหนก็ต้อง ให้ความเคารพ พ่อ  แม่เราด้วย  แล้วก็ไปมา ลาไหว้ แต่ เขาไม่มีในสิ่งเหล่านี้ ปรางก็เลยคิดว่า  ต่างคน ต่าง ไป ดีกว่า ดีกว่าแต่งกันไปแล้ว ต้องมามีปัญหากันในสิ่งที่ ต่างคนต่างมีความเห็นไม่เหมือนกัน แล้วต้องมาทะเลาะ กัน  เนี่ยที่เล่ามาเนี่ย  เรื่องของปรางละค่ะ ที่เจอคนใน แบบที่ตัวเรารับแบบที่เขาเป็นไม่ได้  ก็เลยเลือกที่จะอยู่ เป็นโสด สบายใจกว่า  (แฮ่มป้าจ๋า เจอ คนขี้บ่นเข้า แล้ว  น่ะค่ะ) จากคุณ : สิปาง - [ 27 ก.พ. 48 22:10:59 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เอ้าตอบ..คุณสิปาง และคุณเกือกซ่า เห็นมั๊ยล่ะค่ะ ว่านี่คือความแตกต่างของวัย.. ถ้าเมื่อไหร่ คุณทั้งสองอายุมากขึ้นอาจจะเข้าใจว่า ว่าฝรั่ง(หรือไทยในปัจจุบัน) ชายสูงวัยที่ผ่านการทำงานและชีวิตครอบครัวมาตลอดชีวิต ทำงาน กลับบ้าน เลี้ยงให้ลูกๆโตจนพ้นอก  เงินทองมีเยอะแยะ แต่ไม่เคยมีอิสระ ครั้นมีอิสระ..เขาอยากจะไปใช้ชีวิตให้สนุกสนาน มีความสดใส เหมือนเมื่อครั้งยังเป็นหนุ่ม เพราะต่างก็คิดว่า เกิดมาแล้วใช้มันให้คุ้ม ตอนนี้ละค่ะ ที่มักจะหาเมียสาว มาเป็นเพื่อนท่องเที่ยว ช่วยใช้เงิน.. ความถูกใจตามแพทเทิร์นที่วางไว้นี้...จะมาก่อน ความรักมักจะตามมาทีหลัง.. แต่เมื่อมีความรักตามมาแล้ว..ทีนี้จะขอเลี้ยงครอบครัวพร้อมช้างอีกฝูงหนึ่ง..ก็ยังได้นะคะ ประหลาดใจไหมคะที่เห็นฝรั่งหน้าตาดี ไปคว้าผู้หญิงไทย แบบชาวบ้านๆมาเอาไปเป็นภรรยา คน(ไทยบางคน)ไปตีความเอาว่า..แหม..มันคงต้องชอบเรื่องบนเตียง อย่างโน้นอย่างนี้.. ปล่าวหรอกค่ะ..เขาชอบเพราะ"อยู่ด้วยแล้วสบายใจ" เห็นมั๊ยคะ นี่คือความต่างของความรัก..ตามวัยและประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา และการจัดวางมาตรฐานของ"ความรัก" นั้นไม่เหมือนกัน จากคุณ : WIWANDA - [ 27 ก.พ. 48 23:09:53 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เข้ามาอ่านความเห็นของป้าอีกครั้ง  รู้สึกดีจังค่ะเป็นมุม มองซึ่งปรางคิดว่า  ใช่เลย  บางครั้งโลกที่เราสัมผัสและ เรียนรู้อยู่คงแคบไปจริง ๆ  สิ่งที่เราคิดว่าใช่จริง ๆ แล้ว อาจไม่ใช่ก็ได้   ปรางก็เคยได้ยินเหมือนที่ป้าได้ยินละ ค่ะเรื่องผู้ชายต่างชาติหน้าตาดีกับผู้หญิงไทยหน้าตาธรรม ดา  แต่ปรางก็ไม่เคยเก็บมาคิดให้กระจ่างว่า  ทำไม เพิ่งมากระจ่างใจ ก็ตอนนี้เอง อ่านข้อเขียนที่ป้าตอบ มาทำให้ได้ความรู้  ได้มุมมอง ได้แง่คิด  ที่เราไม่เคย ทราบมาก่อน     ขอบคุณค่ะป้าที่ให้ความรู้  ว่าง ๆ เข้ามาเขียนให้พวก น้อง ๆ หลาน ๆ  ได้เข้ามาร่วมวงสนทนากันอีกน่ะค่ะ    ป.ล.  ปรางแกล้งเรียกป้าวิ  ตามกระทู้บ้างบนน่ะค่ะแต่ จริง ๆ  อาจเป็นพี่ิวิก็ได้ใช่ไม๊ค่ะ  จริง ๆ  ป้าวิอาจเป็นสาว สวยก็ได้  เอาเป็นว่าจะให้ปรางเรียก  พี่วิดีไม๊ค่ะ จากคุณ : สิปาง - [ 1 มี.ค. 48 22:33:26 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ดีใจที่ป้ากลับมาเขียนอะไรดีๆสนุกๆให้พวกเราอ่านอีก ขอบคุณนะคะ จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : ราดา - [ 2 มี.ค. 48 04:04:27 A:24.255.119.33 X: TicketID:075555 ]