ความคิดเห็นที่ 1 อย่าคิดมากเลยนะ เราเป็นอีกคนนึงนะที่กำลังจะไปต่างประเทศ แต่แฟนเราอยู่เมืองไทย ตอนนี้เรา 2 คนรักกันมาก แต่เราเชื่อนะว่าความห่างอาจเป็นช่องว่างระหว่าง 2 คน แต่อยากให้เชื่อนะคะว่าซักวันนึงคนนั้น ต้องกลับมาหาคุณ "ถามตัวเองก่อนว่า"คุณพร้อมจะเปิดรับเค้ามั๊ย เอาเป็นว่าเราเข้าใจนะว่าคุณรู้สึกยังงัย จะคอยให้กำลังใจนะคะ สุดท้ายคืออยากให้คุณเชื่อมั่นในความรักเท่านั้น จากคุณ : จิ๊บซี่ (จิ๊บซี่) - [ 15 มี.ค. 48 16:56:13 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ทำไงดีละ เฮ้ออออออออ ความรักมันอยู่ที่คนสองคน ไม่ได้อยู่ที่ระยะทางสักหน่อย คนจะรักกัน อยู่ที่ไหนก็ยังรักกันอยู่วันยังค้ำ ผมว่าคุณควรไปพิจรณาที่ คนรักมากกว่านะว่า เขามั้นคงแค่ไหนครับ ระยะทางมันเป็นแค่ปัญหาที่ปลายเหตุครับ จากคุณ : ผมเอง - [ 15 มี.ค. 48 17:14:26 A:61.19.32.226 X: TicketID:084112 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คุณน่ารักจังเลยค่ะ คุณอกหัก จะบอกว่า ไม่เป็นไร ก็ไม่รู้จะบอกไปทำไม ก็คนกำลังอกหัก (ชื่อก็บอกอยู่แล้ว) ไม่รู้จะให้กำลังใจยังไงเหมือนกัน ไม่ให้ก็แล้วกัน เพราะดูแล้ว กำลังใจคุณก็ยังดีอยู่มากนะ คุณได้เรียนรู้ด้วยตัวคุณเองว่า ความรู้สึกที่คุณเรียกว่ารัก มันเป็นอย่างไร คือความรู้สึกนี้ของแต่ละคนมันก็ไม่เหมือนกันน่ะ ขอบอกว่า อกหัก ดีกว่ารักไม่เป็น ละกันนะ (เพลงของใครเนี่ย? รู้สึกว่าจะเก่าแล้วไหม? หรือว่าเป็นสุภาษิตติดหลังรถบรรทุก) พอคุณทำงานเสร็จแล้วนะ ก็ออกไปเดินตรงที่มีแสงสว่างหน่อย ไปสวนก็ได้ ช่วงพักเที่ยง (มีสวนไหม ที่ทำงานน่ะ) แล้วก็สูดอากาศเข้าไปลึกๆ แล้วก็คิดว่า นี่นะ เราได้สูดอากาศเข้าไปอย่างเต็มปอด ปอดของเรา ไม่ใช่ปอดของใคร (อ้าว... ไม่ต้องพนมมือตั้งนโมค่ะ ยังไม่ถึงขนาดต้องพิจารณาจิตขนาดนั้น) แล้วคุณจะรู้สึกว่า เออ นี่เรายังมีชีวิตอยู่นะ ทำไมไม่ตายล่ะ ก็กับแค่อกหัก มันก็เป็นความรู้สึกของการขาดหายไปของสิ่งที่เคยมี อือมมม์ ดิฉันก็พูดได้ง่าย เพราะไม่ได้อยู่ในสภาวะอกหักเหมือนคุณ แต่เคยอกหักนะ ตอนอกหักครั้งแรกมันยากหน่อย พอครั้งต่อๆ ไปก็ง่ายขึ้นค่ะ ทีนี้ เตรียมใจไว้เลยว่า เดี๋ยวอกหักครั้งต่อไป เราสบายแล้ว ไม่รู้สึกแล้ว เรียกว่า อกหัก จนความรู้สึกด้านชาไปแล้ว ฝึกไว้บ่อยๆ ดีนะ เป็นภูมิคุ้มกันของตัวเอง จากนั้นเดินเข้าออฟฟิซ (อันนี้ต่อจากตอนนี้ให้เดินออกไปสูดอากาศ) แล้วก็นั่งทำงานต่อ เสร็จแล้วเย็นนี้ ถ้าเลิกงานเร็วหน่อย ก็โทรศัพท์หาพ่อ หาแม่ ถามว่า เป็นอย่างไรบ้าง อ้อ ครั้งสุดท้ายโทรหาเมื่อไรเอ่ย? ชวนไปทานข้าวนอกบ้านกันหน่อยก็ดีเหมือนกัน ถ้ายังไม่รู้สึกดีขึ้น หมุนโทรศัพท์หาเพื่อนที่ปกติไม่ค่อยโทรไปหา หรือหาเพื่อนที่เป็นคนรู้จักห่างๆ แล้วก็ชวนออกไปทานข้าว ถามว่า เขาทำอะไรตอนนี้ งานไปถึงไหน? ไม่ต้องเอาเรื่องอกหักไปเล่าให้เขาฟัง เดี๋ยวเขาจะกินข้าวไม่ลง เศร้าเกินไป คือชวนเขาคุยเรื่องของเขา ฟังเรื่องของเขา เป็นเรื่องใหม่ของเรา เออนะ คนๆ นี้ ก็เป็นคนที่น่าสนใจเหมือนกันนะ ไม่ใช่เพื่อจะไปจีบเขานะ แต่เพื่อเป็นการทำความรู้จักกับคนอื่นๆ เพราะบางทีช่วงเวลาที่ผ่านไป เราไม่ได้ใช้เวลาของเราในการทำความรู้จักกับคนรอบข้างบ้างเลย ไม่รู้จะแนะนำยังไงต่อแล้ว คือ...หาอะไรทำซะน่ะ อย่ามัวแต่มานั่งอกหักอยู่ได้ จากคุณ : พธูไทย - [ 15 มี.ค. 48 17:36:31 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เราผ่านมันมาได้แล้ว และคุณก็ต้องผ่านได้เช่นกัน คุณไม่ได้เป็นคนเดียวหรอกค่ะที่แพ้ระยะทาง เข้มแข็งไว้ แล้วฝันร้ายก็จะผ่านไป จะเป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : สู้สู้ค่ะ - [ 15 มี.ค. 48 18:21:14 A:61.90.62.97 X: TicketID:088311 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณมากครับ คุณพธูไทย สำหรับคำแนะนำ จริงๆแล้ว ผมก็กำลังทำสิ่งที่คุณพธูไทยบอกอยู่ล่ะครับ เพียงแต่สภาวะในตอนนี้ ถ้าให้บอกจริงๆก็คือ ผมยังรักเค้าคนนั้นมากอยู่ และอยากจะรอให้เค้ากลับมาหาเราสักวันหนึ่ง ซึ่งก็ไม่รู้จะเป็นไปได้ไหม แต่อยากให้เป็นจริงอย่างที่คุณจิ๊บซี่บอกถึงอานุภาพของความรัก เพราะถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ ผมพร้อมเสมอที่จะรับเค้าไว้เหมือนเดิม และจะดูแลเค้าให้ดีที่สุดตลอดไป เพียงแต่ทุกวันนี้ สิ่งที่ผมอยากทำมากที่สุดก็คือ การได้ทำสิ่งดีๆให้กับคนที่เรารัก คอยห่วงใย และเอาใจใส่ช่วยเหลือเค้า ยามที่เค้าต้องการเรา เพราะเราไม่รู้อนาคตที่แน่นอน เราก็อยากจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง เพราะเราได้ทำเต็มที่แล้ว จากคุณ : เจ้าของกระทู้ (คนอกหัก) - [ 15 มี.ค. 48 18:28:20 A:203.154.162.129 X: TicketID:027226 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คู่กันแล้ว ไม่แคล้วกันหรอกค่ะ แต่ถ้าไม่ใช่ ยังไงมันก็ไม่ใช่ ถึงตอนนี้เราจะเสียใจมาก คิดถึงมาก เศร้ามาก คิดมาก แต่รับรองว่าเมื่อเวลาผ่านไป มันจะดีขึ้นแน่ๆ ตอนนี้รักตัวเองให้มากๆ นะคะ มีกำลังใจอยู่นี่อีกคน จากคุณ : maya the bee - [ 15 มี.ค. 48 18:32:07 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุณอกหักนี่น่ารักจริงๆ (พูดแล้วพูดอีกค่ะ ดิฉันประเภทย้ำคิดย้ำทำ) ถ้าคิดว่าได้ทำเต็มที่แล้ว ก็ดีค่ะ ทำต่อไป ไอ้มดเอ็กซ์ (โอย ตายจริง ใช้สำนวนแบบนี้ ดิฉันรู้สึกว่า กระชากวัยมากเลยค่ะ) หากเป็นความสุข และเป็นความสบายที่จะทำ ก็ทำไปค่ะ ว่าแต่ว่า เย็นนี้จะไปทานข้าวกับพ่อ-แม่ หรือเปล่าเนี่ย ที่เมืองไทยท่าทางจะเย็นแล้วนะคุณ นี่ดิฉันนั่งทำงานไป ก็ไปเอาข้าวมานั่งกินไปด้วย อ่านเรื่องของคุณ ให้ความรู้สึกอย่างกับดูหนังเรื่อง Notting Hill เลยค่ะ เอาไว้กลับจากธุระแล้ว เดี๋ยวจะแวะมาอ่านเรื่องของคุณต่อ จากคุณ : พธูไทย - [ 15 มี.ค. 48 19:12:01 ]

ความคิดเห็นที่ 8 รักแท้ไม่แพ้ระยะทางและความเหงา but in your case...it's obvious that it's not "รักแท้" because it แพ้ ระยะทางและความเหงา ...isnt it? sorry if i am too blunt. จากคุณ : HotChoc - [ 15 มี.ค. 48 20:03:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อยากจะบอกว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในอารมณ์เดียวกับคุณเลยค่ะ เมื่อก่อนเค้าจะไปยังคิดว่ารักของเราคงจะไม่แพ้ระยะทาง แต่แล้ว...มันไม่ใช่อย่างที่คิด  เพราะเมื่อเค้าไปเจอคนใหม่ที่อยู่ใกล้ชิดเค้าเค้าก็พร้อมที่จะไปจากเราโดยไม่หันหลังกลับมา จากคุณ : ++เมเปิลสีแดง++ - [ 15 มี.ค. 48 20:26:12 ]

ความคิดเห็นที่ 10 น้ำเน่า.... จากคุณ : ส่วนใหญ่จะแพ้นะ...ระยะทางน่ะ - [ 16 มี.ค. 48 05:41:18 A:64.173.159.219 X: TicketID:059190 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มันอยู่ที่...คน...มากกว่านะ ถ้าจะมีคนอื่นน่ะ ไม่ต้องอยู่ห่างกันหรอกต่อให้นอนหมอนใบเดียวกันทุกคืนก็มีใหม่ได้ ไม่จำเป็นหรอกว่า..รักแท้จะแพ้ระยะทาง ... ทุกอย่างในโลกนี้ ถ้ามันเป็นของเรา มันก็เป็นของเรา แต่ถ้ามันไม่ใช่ ก็ไม่ต้องไปพยายามซะให้ยากส์ If it meant to be, it will be no matter what... จากคุณ : tigress - [ 16 มี.ค. 48 06:25:53 A:202.5.82.158 X: TicketID:081570 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณมากครับ สำหรับกำลังใจและความคิดเห็น ผมเองตอบจริงๆว่า ยังไม่เคยดูหนังเรื่อง Notting Hill เลย รู้แต่ว่าเป็นหนังรักโรแมนติคน่ะ แต่ถ้ามันใกล้เคียงกับชีวิตจริง....ก็จะลองไปหามาดูดีกว่า เพราะตอนนี้สิ่งที่อยากทำมากที่สุด ก็คือ อยากไปหาเค้าอีกครั้ง ไปคอยดูแล เอาใจใส่อย่างใกล้ชิด เพราะเค้าเองก็อยากให้เราไปหาเหมือนกัน แม้ตัวเราเองรู้ดีว่าเค้าอาจจะสนิทกับคนใหม่ไปแล้ว และเราก็เป็นเหมือนแค่คนรู้จักคนหนึ่ง เพียงแต่อยากจะพิสูจน์ให้เค้าเห็นว่า เรารักเค้าจริงๆนะ....และไม่เคยรักคนอื่นมากเท่าเค้า แต่ก็ไม่รู้ว่า สิ่งที่จะทำนี้ เป็นการสูญเปล่ากับเราหรือเปล่า? เราแค่อยากพยายามทำในสิ่งที่ใจต้องการ....และให้เค้าได้รับรู้ถึงความรู้สึกของเรา? ไม่รู้ว่าถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นจะมีความคิดเห็นอย่างไรกับสิ่งที่เรากำลังคิดจะทำเพื่อคนที่เรารัก จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [ 16 มี.ค. 48 13:39:53 A:203.154.162.129 X: TicketID:027226 ]

ความคิดเห็นที่ 13 รักของคุณมันแท้ มันจึงไม่แพ้ระยะทาง แต่รักของเค้าอีกคนไม่แท้ มันเลยแพ้ระยะทาง มันไม่มีทางพิสูจน์ ไม่มีทางแก้ เพราะมันไม่ใช่รักประเภทเดียวกัน จากคุณ : Puget Sound - [ 16 มี.ค. 48 14:23:27 ]

ความคิดเห็นที่ 14 นี่ดิฉันเพิ่งกลับจากพาลูกไปส่งที่โรงเรียน เลยรีบมาดูตอนต่อไป (ยังกับติดละครช่อง 7) คิดว่านะ คุณควรจะไปหาหนังเรื่อง The Bridge of Madison มาดูด้วยนะ ดิฉันดูไป ร้องไห้ไป ต้องหยุดพักทำใจก่อน แบบว่ามันซึ้งมาก มันเหมือนชีวิตจริงของคนๆ หนึ่ง ที่จะเกิดขึ้นได้ และอาจเกิดขึ้นได้กับคนทุกๆ คน ไม่ใช่เรื่องของรักแท้ หรือรักไม่แท้ใดๆ ทั้งสิ้น แต่มันคือโอกาส การพบปะ และจังหวะของชีวิต ที่ไม่มีใครจะโทษใครได้ เหมือนกับเราจะบอกว่า ชีวิตนี้ลิขิตเอง แต่ความจริงหลายอย่างเรากำหนดไม่ได้ (ลองไปหามาดูนะ) ย้อนกลับมาคุยเรื่องของคุณอกหักบ้าง (ดิฉันมันประเภท เรื่องของเขา เราต้องรู้) คุณบอกว่า คุณเพิ่งไปเยี่ยมเขามาเร็วๆ นี้ใช่ไหม? (ที่หัวข้อกระทู้น่ะ) แล้วนี่คุณอยากจะไปหาเขาอีกในตอนนี้ ด้วยใจที่เรียกร้อง และฝ่ายหญิงก็อยากให้คุณไปด้วย หมายถึงว่าฝ่ายหญิงบอกคุณเองว่า อยากให้คุณบินไปหาใช่ไหม? ถ้าดิฉันเป็นคุณนะ ถ้าคุณอยากทำ คุณก็ทำไปเลยค่ะ ไม่งั้นมันติดในจิตใจนะ ไปๆ เสียให้รู้ไปเลย ถ้าคุณอยากจะพิสูจน์รัก พิสูจน์ตัวเอง คุณก็ทำไปเถอะค่ะ แต่อย่าเอาสิ่งนี้ไปเป็นเครื่องพิสูจน์ฝ่ายหญิง อย่าเอาเรื่องที่คุณจะยอมทิ้งงานเพื่อไปหาเธอ ให้เธอเห็นว่าคุณรักจริงแท้แน่นอน คือดิฉันคิดว่า การเอาอะไรเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน หรือเรียกร้องนี่ มันใช่ไม่ได้กับความรู้สึก โดยเฉพาะความรู้สึกทางอารมณ์เรื่องรักๆ อย่างนี้ อาจใช่ได้ในชั่วแว่บแรก แต่ถ้าฝ่ายหญิงเขากระเจิดกระเจิงไปมากแล้ว สิ่งนี้จะทำให้เขารู้สึกผิดมากกว่านะ ถ้าเขาจะปรับความรู้สึกให้มารักคุณได้อีก มันจะเป็นแบบฝืนใจทำน่ะ... ไม่รู้ว่าดิฉันคิดถูกไหมเหมือนกัน แต่ถ้าดิฉันเป็นฝ่ายหญิงในกรณีนี้นะ ดิฉันกำลังคบคน 2 คนในเวลาเดียวกัน ดิฉันจะอยากรู้ตัวเองค่ะว่า ตัวเองจะเอายังไงกันแน่กับใจตัวเองเหมือนกัน โดยเฉพาะถ้ากำลังลังเล เหงาก็เหงา คนเก่าก็ไม่มีข้อเสียอะไร แต่กับคนใหม่ก็กำลังตื่นเต้น ทำให้จิตใจเบิกบาน เหมือนกับการค้นพบอะไรใหม่ๆ ในตัวเอง ที่สำคัญทำให้หายเหงาไปด้วย กรณีนี้ดิฉันจะอยากให้ฝ่ายชายมาหา หรือไม่ดิฉันจะกลับเมืองไทย แล้วก็พิสูจน์ตัวเองค่ะ ว่าจริงๆ แล้วเราต้องการอะไรกันแน่ ของอย่างนี้ คุยกันเลยค่ะ ลองโทรไปหาเลยนะ ถามเขาเลยว่า คุณจะไปหาแล้วนะ แล้วลองใช้เวลาด้วยกันดูหน่อย ถ้าฝ่ายหญิงตอบว่า อยากให้คุณไป แล้วคุณก็อยากไป ก็ไปเลยค่ะ แต่อย่าคิดว่าในที่สุดจะกลับมาเหมือนเดิม คืออย่าคาดหวังอะไรน่ะ ทำตามที่ใจปรารถนาไปก่อน หากฝ่ายหญิงตอบว่า ไม่อยากให้คุณไป (บางทีคำตอบเปลี่ยนได้ภายในวันสองวันเลยนะ ไอ้เรื่องความรู้สึกรักๆ ใคร่ๆ นี่) กรณีนี้ ดิฉันคิดว่า คุณอย่าไปเลยค่ะ เพราะใจเขามันคงจะไปมากแล้ว คนมันจะรัก มันก็รัก ไร้เหตุผลใดๆ คนมันจะใคร่ มันก็ใคร่ เหตุผลใดๆ ก็ไร้ความหมาย นี่ดิฉันกำลังสงสัยตัวเองว่า แล้วดิฉันมายุ่งเรื่องอะไรกับคุณด้วยล่ะเนี่ย จากคุณ : พธูไทย - [ 16 มี.ค. 48 15:43:44 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คนเราเวลารักกันอะไรๆมันก็ดีไปหมด แต่พออยู่ห่างกันแล้วมันเป็นเรื่องของจิตใจและก็ความมั่นคงมากกว่า ระยะทางไม่ใช่เรื่องสำคัญเราคิดว่ามันอยู่ที่คนสองคนมากกว่า ถ้าคนหนึ่งมั่นคงแต่อีกคนไม่คิดที่จะมั่นคงด้วยถึงอยู่ใกล้แค่ไหนก็คงต้องจากกันจนได้ กรณีของคุณแฟนคุณเค้าอยู่ไกลและก็คงเป็นคนอ่อนไหวและต้องการคนเอาใจ ดังนั้นเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับผู้หญิงอ่อนไหว แล้วยิ่งถ้าคนใหม่ดีกว่า ok กว่า ร้อยทั้งร้อยรับรองว่าเปลี่ยนใจ เพื่อนเราก็เป็นแบบนี้เหมือนกันมันไปอยู่ Australia ห่างแฟนไป ประมาณ 8 เดือน มันก็โทรมาบอกเลิกกับแฟนเก่า อ้างว่าไกลกัน แต่จริงๆแล้วเราว่าเพราะความเหงามากกว่า เรารู้ว่าคุณคงรักเค้ามากแต่อย่าลืมว่าคุณเป็นผู้ชาย คงต้องยอมรับกับการตัดสินใจของคนที่คุณรักถ้าคุณยืนยันว่าคุณรักเค้ามาก ก็ปล่อยเค้าไปเถอะ เชื่อไหมละว่ายังมีคนอื่นที่เค้ารอคุณอยู่บนโลกใบนี้ แค่คุณpost ในนี้ก็มีผู้หญิงทั้งในและนอกประเทศเห็นใจคุณแล้ว....เข้มแข็งไว้คิดซะว่า ขำขำ... If you love her let her go. If she love you too. she  will be back จากคุณ : lyon - [ 16 มี.ค. 48 17:00:39 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณอีกครั้งอย่างสูงครับ สำหรับคุณพธูไทย ที่ติดตามเรื่องของผม ผมเองคิดไว้คล้ายๆกับที่คุณพธูไทยบอกมาทั้งหมดแหละครับ เพราะตลอดเวลาที่ผมคบกับเค้า เรามีแต่ความเข้าอก-เข้าใจกัน เอื้ออาทรต่อกัน ไม่เคยแม้แต่จะทะเลาะอะไรรุนแรงกันเลย มีแต่จะคอยปรับความเข้าใจกันมากกว่า ถ้ามีเรื่องที่อาจจะขัดใจกันบ้าง ดังนั้น ถ้าผมจะทำตามที่ใจตัวเองปราถนา ผมก็จะลองถามเค้าดูอีกทีครับว่า อยากให้เราไปหาจริงไหม? และเมื่อเค้าต้องการให้เราไป ผมก็จะไปโดยไม่คาดหวังสิ่งใดๆจากเขา (เพราะทุกวันนี้..ผมก็ทำหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างให้เค้า โดยที่ไม่คาดหวังอะไรทั้งนั้น ขอเพียงแค่ให้เราสุขใจที่ได้ทำก็พอ) อีกอย่าง ผมก็เข้าใจความคิดเห็นของคุณ lyon ดีครับว่า ถ้าเรารักเค้ามาก เราก็ควรจะเคารพการตัดสินใจของเค้า เพียงแต่ตอนนี้ ผมคิดว่าการตัดสินใจของเค้ายังไม่ถึงที่สิ้นสุด ก็คือยังไม่ได้เลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่กับใครคนใดคนหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ ผมเองก็บอกเค้าแล้วว่า ผมจะรอ......รอจนกว่าเค้าจะเรียนจบหรือตัดสินใจแล้วจริงๆ แต่ระหว่างนี้ สิ่งที่ผมทำได้ก็แค่พยายามดูแล ช่วยเหลือเค้าให้ดีที่สุดเท่าที่เราสามารถจะทำได้เพื่อเขา เพราะอย่างน้อยสิ่งนี้ก็น่าจะอยู่ในใจเขาบ้างเมื่อเขาต้องเลือกใคร คนใด คนหนึ่ง เพราะฉะนั้น หากการไปหาเค้าในครั้งนี้ จะทำให้ผมมีความสุขที่ได้อยู่ดูแล-ใกล้ชิด และช่วยเหลือคนที่เรารัก แม้เค้าจะไม่รักเราแล้วก็ตาม.....ผมก็จะทำให้ดีที่สุด ขอบคุณอีกครั้งครับสำหรับคุณพธูไทย และกำลังใจจากทุกๆคน จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [ 16 มี.ค. 48 17:26:26 A:203.154.162.129 X: TicketID:027226 ]

ความคิดเห็นที่ 17 นี่คุณคะ ตกลงว่าละครจบหรือยังคะ แล้วจะมาเล่าให้ฟังภาคต่อไปไหม ว่าหลังจากไปหาแล้ว เหตุการณ์เป็นอย่างใด? เนี่ย...อยากรู้จริงๆ เลย แต่ถ้าคุณมาโพส์ทใหม่ แล้วพยายามหาเจอดิฉันให้เจอด้วยนะคะ (เผื่อว่าดิฉันมีธุระอะไรทำมั่ง มัวแต่มานั่งติดตามเรื่องราวอยู่ตลอดไม่ได้ค่ะ) ตามให้ดิฉันมาอ่านเรื่องของคุณต่อด้วยค่ะ จากคุณ : พธูไทย - [ 16 มี.ค. 48 23:15:50 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ทำใจค่ะ... อกหัก ปางตาย แต่ก็ไม่ตายหรอกค่ะ เคยมาแล้ว...ฆ่าตัวตายก็เคยมาแล้ว แต่ไม่ตาย ถึงได้บอกว่า ปางตาย คนเราถ้าใจเปลี่ยน ทำไงก็ไม่เหมือนเดิมค่ะ ไม่มีวันเหมือนเดิมจริงๆ หาใหม่เถอะค่ะ เหมือนที่เค้าก็มีคนใหม่ไงคะ เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะดีขึ้น อย่าเศร้านะคะ จากคุณ : เก๋ (ยัยเจี๋ยมเจี้ยม) - [ 17 มี.ค. 48 11:03:12 ]