ความคิดเห็นที่ 1 Cont' I told him I have just ten dollars in my bank ( checking account), but he doesn’t know I have another one ( three thousands dollars in saving). I'm a graduate student and I have only partime-job. Everytime I tell him I have only twenty dollars (it's true, I don't like to carry too much cash, I feel not save ka) in my wallet and he feel so sad and sorry about that, and he said one day when he has a lot of money he will give everything back to me and take me to go shopping and buy some stuffs for me.I know he would do it. However, the fact is I cannot see my future if I’m still with him(only one thing I know I like him). His new job is about mortage reality, if he doesn’t work hard and doesn’t keep contact to his customer, it will not be easy to close the loan and to get some money. Last month he just closed the first one but money he got was enough only his house rent. The second point is the way he is. He is a good looking and quiet guy. When he went to the club or party, a lot of girls and ladies came to him and ask him to go out with them but he always said “No” ( I think coz he has kids and he knows I really hate a player...I think!). It’s good that he always let me know about it. He is a man who is very proud of himself (especially his appeal) and very self-confident, and he likes when a lot of women pay attention to him. However, I’m still worried about him coz we stay far from each other. Thus, yesterday I told him politely that “if something happens ( I mean if he cheats on me), I’m all set. For I already gave you, helped you everything that I could do ... you know ..and I try to do everything for you my best ...( he is quiet)... and you know I like you.. and you know what I like, what I hate ( hate a player)... Only one thing I need..”Honesty”.. I can tell I’m always honest to you. if that thing happens, I’m done ..you go your way..I go my way....(still quiet).. Are you listening to me?...yes.. I’m listening to you. Thanks..(I laugh like I'm making joke, but he knows I am not.) This point is ..I know distance proves love and him....I’m just afraid of a player Anyway, I’m just confused, I don’t know what should I do...I should give him more time, right? But sometimes I try to understand him coz he has kids, he has to work hard, and he needs more time but during that time I don’t know what is gonna happen... I just don’t want to waste my time with the wrong person I know finding real love is like investment...it takes long time to see the result . Thank you for reading my story ka จากคุณ : MT - [ 30 มี.ค. 48 17:41:03 A:24.61.1.229 X: TicketID:046309 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อ่านจบเรียบร้อยแล้วค่ะ ส่วนคอมเม้นท์ ขอท่านผู้มีประสบการณ์คนต่อไป จากคุณ : Autumn Leaves - [ 30 มี.ค. 48 19:01:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คุณ MT คะ ลองเปิดโอกาสให้ตัวเองมีความสุขสิคะ คุณบอกว่า I just don’t want to waste my time with the wrong person. ใช้เวลาของคุณเพื่อตัวคุณคนเดียวโดยไม่มีหนุ่มของคุณมาเกี่ยวข้องสักพัก คุณคงหาคำตอบได้เองว่าคุณยังอยากเสียเวลาของคุณไปกับเขาหรือไม่ แต่เราคาดว่าคุณคงมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้ว เพียงแต่คุณต้องการใครสักคนมาช่วยยืนยันว่าคุณควรใช้ความห่างเป็นเครื่องมือพิสูจน์ เราสนับสนุนให้ทำค่ะ ชีวิตเราชีวิตเดียว ทำไมไม่ทำให้ตัวเรามีความสุขก่อนล่ะคะ จริงไหม จริงไหม จากคุณ : A-Chee - [ 30 มี.ค. 48 20:02:39 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ก่อนอื่นถามตัวเองก่อนว่า "เราต้องการอะไรในpartner" ไม่มีใครperfect เพราะฉะนั้น มีข้อด้อยอะไรในข้อดีที่เราสามารถยอมรับได้ ที่เรายอมtradeได้ มีคุณสมบัติอะไรที่เราคิดว่าคนคนนั้น*ต้อง*มี มีคุณสมบัติอะไรที่เราคิดว่า ไม่ว่ายังไงเราก็*ไม่สามารถ*ทนได้ เมื่อสามารถตอบคำถามของตัวเองข้างบนได้แล้ว หลายๆอย่างจะชัดขึ้น รวมถึงคำถามย่อยที่ว่า ควรจะให้เวลากับคนคนนั้นอีกนานเท่าไร ปัจจัยอีกอย่างคือ ความพยายามจากทั้งสองฝ่ายที่จะทำให้relationship works สิ่งต่างๆเหล่านี้ ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครให้คำตอบได้แม้แต่ตัวเอง เพราะหลายๆครั้งมันเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ชีวิตที่ต้องพบและเจอ ที่ต้องลอง ต้องเรียนรู้ ถ้าพลาด ก็ย่อมเสียใจเป็นธรรมดา แต่ก็ถือว่าได้บทเรียนมาอีกบทเพื่อที่ว่าต่อไปอย่างน้อย..ถ้าพลาด ก็ไม่พลาดในแบบเดิมอีก โชคดีละกัน จากคุณ : Overseas - [ 30 มี.ค. 48 21:02:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ง่ะ.....ภาษาปะกิดเราอ่อนหัด อ่านแบบตะกุกตะกัก เข้าใจแบบแหว่งๆ วิ่นๆ แต่ก็มาให้กำลังใจค่ะ.... เรายังไม่แต่งงานนะคะ ไม่รู้เราอ่านเข้าใจมากแค่ไหน แต่เท่าที่อ่านดู ....ก็คงแนะนำอะไรไปไม่ได้มาก เพราะเรื่องความรักเป็นเรื่องของคนสองคน ถ้าลงว่าได้รักไปแล้ว ความรู้สึกรัก มักจะทำให้คุณหาเหตุผลมาหักล้างความไม่ดีของเค้าอยู่เสมอ...บางครั้งก็ลบล้างได้จริง บางครั้งก็ดูเหมือนว่า เข้าข้างตัวเอง ปลอบใจตัวเอง เท่าที่อ่านเรารู้สึกว่า คุณ จขกท. กำลังเป็นอย่างหลัง... แต่ก็อย่างคุณ คห.4 ว่าแหละค่ะ บางเรื่องก็ต้องตัดความกังวลออกไปบ้าง ต้องลองดูซักครั้ง แต่ก็ต้องระวังอย่าให้เสียเปรียบมากจนเกินไป อย่างเรื่องเงินที่คุณกังวลก็เป็นเรื่องดีค่ะ.. อืม คงแนะนำไรมากไปไม่ได้ แต่โดยส่วนตัวสำหรับเรา เรามีความเชื่ออยู่อย่างนึง (จากประสบการณ์ที่เคยอกหักมา 2-3 ครั้ง) เราเชื่อว่า...คนที่จะมาเป็นเนื้อคู่น่ะ มันจะดูง่ายๆ อะไรๆ ก็ดูราบรื่นไปหมด ทุกอย่างจะรู้สึกดี ปลอดโปร่ง ไม่กังวล ถึงมีก็จะรู้สึกว่าปรับได้ เปลี่ยนได้ แล้วไม่นานก็จะหายไปเอง แล้วเรากะเค้าก็จะอยู่กันได้ยาวนานไปอีก ถ้ารู้สึกขัดๆ ในตัวเอง กังวลลึกๆ ในใจ ว่าจะเลิกมั้ย เมื่อไหร่จะเลิก จะมีเหตุอะไรมาให้เลิกหรือป่าว เค้าจะมีคนใหม่มั้ย อะไรเทือกนั้น คือไม่ใช่ระแวงนะ แต่มันจะเป็นความรู้สึกเหมือนไม่สบายใจ มีกังวลน่ะค่ะ (เยิ่ยเย้อไปมั้ยเนี่ย เรา)...มันก็ดูเหมือนจะไม่ใช่แล้วอ่ะค่ะ....และบางครั้ง ความรักก็ไม่ใช่เรื่องของคน 2 คนเสมอไปนะคะ เริ่มแรกอะใช่ แต่ถ้าคิดจะตกลงปลงใจ มันจะกลายเป็นหลายๆ คนเข้ามาร่วม และอนาคตด้วย ลองอยู่กับตัวเองซักพัก หาคำตอบให้ตัวเอง เวลาจะทำให้อะไรๆ ดีขึ้นค่ะ อย่าปล่อยให้ความสงสัยเคลือบแคลงติดอยู่ในใจเรา บางเรื่องที่เราจำเป็นต้องรู้ ก็ควรจะถามเค้าให้รู้นะคะ เราจะได้หมดกังวล สงสัย อยากรู้ ในเรื่องนั้นๆ   เป็นกำลังใจนะคะ เขียนยาวไปป่าวเนี่ย แหะๆๆ นี่ขนาดไม่มีประสบการณ์นะคะเนี่ย ถ้ามีจายาวแค่ไหนน๊า .... แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 48 22:30:59 แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 48 22:28:58 จากคุณ : ยัยเจี๋ยมเจี้ยม - [ 30 มี.ค. 48 22:27:21 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ที่จริงเราว่าเรื่องความรักคุณน่าจะรู้ตัวเองดีที่สุด เพราะตัวคุณเองสามารถรับรู้ และสัมผัสในความเป็นเค้าได้ดีกว่าคนอื่นที่ได้แต่รับฟังเฉยๆ เราไม่รู้ว่าเราควรจะแนะนำคุณอย่างไร แต่อ่านแล้วก็ได้แต่เอาใจช่วยให้คุณได้เจอความสุขและสมหวัง คุณต้องลองคิดดูว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับความรักที่คุณต้องการมัน balance กันมั้ย ถ้าไม่ก็ลองถอยออกมาทีละนิด เพื่อที่คุณจะได้ไม่เจ็บ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : donalna - [ 30 มี.ค. 48 23:59:26 ]

ความคิดเห็นที่ 7 Thank you all for good advices ka. He just called me in the afternoon and he told me he doesn't have even a penny in his pocket. The gas in his house was cut, and no food in the refrigerator. I had to go to the bank and transfered a hundred dollars to his account ( all I gave him almost over three thousands dollars ). I told him that's all I have now and I have to save some for my rent payment. I know he didn't lie about it coz if he doesn't have a big problem, he would not let anybody know except me..( should I be glad!). I will try to do the thing that you all told me na ka..."step back one step and open my eyes..care myself first" Actually, I must go back to Thailand soon, so I cannot imagine what is gonna happen between me and him. I already told him aboout it and he said if I don't come back to the US he will be very very mad. I don't know the future ka but I have a plan to do Ph.D here, so maybe I come back or.....I don't know. Now I just feel tired ..why he always has this problem and when I and he would have a happy time together..I always tell myself " give him more time..give him a chance..don't let him alone... he is getting the result that he did in the past..and one day many good things may come back to him and me." จากคุณ : MT - [ 31 มี.ค. 48 06:23:33 A:24.61.1.229 X: TicketID:046309 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อ่านมาตลอด ยังไมออกความเห็น จนมาถึงตอนนี้ ทนเงียบต่อไปไม่ได้ เมื่ออ่าน คห.ที่7 ดูซิเค้ามีแต่ปัญหา ขนาดไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีอาหาร แล้วที่เค้าบอกว่า พ่อแม่เค้ารวย ถึงจุดนี้แล้วยัง ไม่ยอมหันไปปรึษาพ่อแม่ นำปัญหามาให้คุณแก้ทุกทีไป เรื่องแบบนี้ ผู้ชายแบบนี้เราเจอมาคนนึง เกิดแบบนี้คล้ายๆกันแต่อยู่คนละประเทศ เราเองก้อคิดแบบคุณ จขกท. ว่าเค้าไว้ใจเรา เห็นเราเป็นคนสุดท้ายที่จะบอกทุกข์ บอกสุข พูดอีกอย่างเราตอนนั้นคิดภูมิใจว่า เราคือคนเดียว ที่เค้าคิดว่าสำคัญต่อเค้า  แต่พอนานๆเข้า มานั่งทบทวนแล้ว จึงตื่นจากฝัน กลับเข้าโลกแห่งความจริง เพราะว่าแค่นี้เค้าเองยัง ไม่สามารถจัดการกับปัญหาของชีวิตตนเองได้ ลองคิดดูว่า หากเราไปร่วมชีวิตกับเค้าอะไรจะเกิดขึ้น คุณไม่เพียงต้องเลี้ยงเค้า คุณจะมีลูกให้เลี้ยงอีก 3 คน ขอพูดตรงๆ อย่างคนที่เคยเจอผู้ชายแบบนี้มาแล้ว ว่า "แผ่นดินไม่ไร้เท่าใบพุทธา" ความรัก รูปร่างหน้าตา ภายนอก นานวันมันก้อร่วงโรย เปลี่ยนแปลงได้ เราเองเคยเจอหลุ่มหลง ขนาดมีลูกด้วยกัน 1 คน แต่สุดท้ายเมื่อสุดทนแล้วเราต้องถอนตัว ยอมลำบากเพื่อลูก ฉนั้นมองให้กว้างเข้าไว้ คุณคงต้องตัดสินเอง คนกำลังอยู่ในความรัก ไม่ว่าเค้าพูดอะไรเราจะเห็นว่า เค้าไม่โกหก เค้าน่าสงสาร เราต้องช่วยเค้า แต่พอวันหนึ่ง เราเห็นโลกที่แท้จริงของเค้า เราอาจสมน้ำหน้าตัวเอง เราอาจตื่นจากฝัน เราอาจเสียใจจนแทบอยากจะทำลายตัวเอง หรือเราอาจจะคิดแม้แต่จะทำอะไรสักอย่างให้หายแค้น แต่......ไม่ว่าจะคิดอย่างไร ขอให้รักตัวเองให้มาก เพราะชีวิตเรามีค่าสำหรับอีกหลายคนที่เค้า รักเรามากกว่า ผู้ชายคนนี้ ที่เรากำลังชั่งใจว่าเค้ารักเราจริงหรือ...... คุณลองปฏิเสธเค้าสักครั้งดูซิว่า หากไม่มีคุณ แล้วเค้าจะยอมอดตาย ไร้ที่ซุกหัวนอนไหม เค้าต้องหาทางจนได้ ที่จะครองชีวิต คุณไม่สามารถ เป็นหน่วยประชาสงเคราะห์ให้เขาได้ตลอดไป คุณก้อต้องกิน ต้องอยู่ แถมต้องเรียน เข้าใจว่าเค้าอยู่เมกา หากหมดหนทางจริงๆ ไปขอให้ทางการช่วยเค้ามีสวัสดิการให้สารพัด หรือยอมไปหางานทำอะไรก้อได้เพื่อแลกอาหารค่าเช่าคงหาได้ไม่ยากหรอก หากเค้ามีความพยามตั้งใจจริง ไม่สำอางค์เกินไป แต่เค้าก้อเลือกที่จะยกหูโทรศัพท์มาโอดครวญกับคุณ แล้วก้อมีเงินโอนเข้ามา มันง่ายกว่ากันมากใช่ไหม เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นมากี่ครั้ง แล้วหากว่าสลับเป็นคุณละ เค้าจะช่วยคุณแบบนี้ไหม เค้าจะยังกลับมาอีกไหมหากคุณไม่มีเงินให้เค้า ลองปฏิเสธดูสักครั้งวัดใจคนได้ดีทีเดียว ก จากคุณ : จิงโจ้/ออสซี่ - [ 31 มี.ค. 48 07:51:03 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขออนุญาตออกความคิดเห็นตามประสาคนที่มีครอบครัวแล้วนะคะ  คุณMT  อาจจะชอบเค้าก็เลยมองโลกในแง่ดี แต่ความคิดของพี่ การที่ใครสักคนถ้าเค้ารักเรา เค้าคงม่อยากทำให้เราเดือดร้อน โดยเฉพาะเราเองก็ไม่ใช่คนท้องถิ่น  เงินทองเราก็มีไม่มาก ถ้าเทียบกันโอกาสที่เค้าจะหาเงินน่าจะมี  แต่เค้าคงไม่ทำ  ขอโทษนะคะ ถ้าความคิดนี้ไม่ถูกใจ จากคุณ : คุณแม่ pp (anwan) - [ 31 มี.ค. 48 09:23:27 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อ่านเรื่องคุณจบคิดคำตอบไว้ในใจ  พอมา่เห็นคำตอบของคุณจิงโจ้แล้วเหมือนที่คิดไว้เลยค่ะ  ต้องขอตอบแบบคนเห็นแก่ตัวนะ  ว่าตัวเค้าเองยังดูแลตัวเองไม่ได้เลย (แล้วไหนจะลูกอีกสาม??) คุณคิดว่าถ้าร่วมชีวิตกันจริงๆแล้วเค้าจะเป็นผู้นำครอบครัวที่ดีได้เหรอคะ  คิดและไตร่ตรองให้ดีๆ  ก่อนตัดสินใจนะคะ จากคุณ : offita - [ 31 มี.ค. 48 10:08:05 ]

ความคิดเห็นที่ 11 Khun MT, After reading your story I can’t help giving you my opinions (that you may not like it). Three years ago before my husband and I got married, we discussed about how to have a happy marriage. We came up with three conclusions. Each person needs to have these three basics things: a) Companionship b) Compassion and c) Currency. You and your boyfriend need to be strong in these three factors individually. Then you can think about spending the rest of your life together as a partner. As far as I know, your relationship is imbalance. You give up too much just to be with him. I don’t think he has tried hard enough to proof that he is your good partner. He is taking advantage from your kindness. Q: Should you give him more time (from your question)? A: How much time does he need? One and a half year is not enough? It is OK to ask him how come he got divorced while he loves his wife so much. Just asking. Being quiet doesn’t help. You have the right to do so. If he asks you for money again, just let him know that you cannot give him any more because you need it too. When will you give me my money back? Don’t say anything else. Don’t feel guilty (he has no plan to give you money back). If you want to give him money again, get it in writing. Keep your bank statements, ATM card and checkbook away from him. Enough is enough! You have to make a decision. It is not fair to you at all giving up your happiness, time, money, your freedom, etc. for a person who doesn’t want to stand on his own feet. It's time for him to grow up. จากคุณ : cosby - [ 31 มี.ค. 48 10:19:15 A:24.62.247.252 X: TicketID:041063 ]

ความคิดเห็นที่ 12 After I read your story, I think this man has nothing but look (which is the one that he pround)  Well, you are graduated student which is mean you have brain of course.   In my opinion, everybody would like to have a spouse who could take care of you, have future together and many more.  It seems like this guy has none.  I don't blame him that he got married when he was 25 yrs.  Now, he is 33 plus kids.  A 33 yrs old man with kids should have something that show he has some kind of future in his life.  So far, he couldn't even take care of his electricity bills, what do you think about that ??   I am sorry I might be a little bit rude, I personally might called this kind of person "Looser".   If I were you, I probably let him go.  I don't like to waste my time with this kind of people.   You can fall in love with someone but you should use your brain too.  What will happen if he always has no money and has to ask from you all the time.  You are his GF not his ATM machine. Good Luck Khun MT จากคุณ : Scooterella - [ 31 มี.ค. 48 13:16:49 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ คห.8 9 10 11 12 ถูกต้องแล้วค๊าบบบ หนูอยากบอกพี่เค้าแบบนั้นแหละ แต่กลัวเค้าไม่สบายใจมากก่าเดิม ...เพราะคนกำลังรักอะนะ..... กลับมาเมืองไทยแล้วมองหาชายไทยดีๆ ซักคนแทนที่ ลองคบดู อาจจะดีกว่าเค้าก็ได้นะ... ไม่ต้องหาเหตุผลมากมายหรอกค่ะ ไม่ต้องคิดแทนเค้าให้เยอะแยะ  คิดอยู่อย่างเดียว เค้าดี หรือไม่ดี .... ถ้าเค้าดี คุณคงไม่ทุกข์แบบนี้หรอกค่ะ หายไวๆ นะคะ จากคุณ : เก๋ (ยัยเจี๋ยมเจี้ยม) - [ 31 มี.ค. 48 14:12:50 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เรียนรู้เขาคนนั้น.....ไปในแต่ละวัน.... อย่างน้อยเราก็ได้เพื่อนเพิ่มเข้ามาในชีวิตอีก 1 คน หากไม่สามารถมอบความรักแบบ "คนของใจ" ให้แก่เขาได้... ก็อย่าฝืน.... ถ้ามันไม่ได้......ทั้งเราและเขา "ก็รู้กัน" และความรักแบบเพื่อนมิตร.......ก็จะยังคงอยู่.... ไม่ง่ายที่จะรู้จักใครสักคนอย่างคุ้นเคย... เพราะต่างต้องใช้เวลาเรียนรู้ซึ่งกันและกัน... เริ่มคบ...เริ่มเรียนรู้...ไม่ได้หมายความว่า เธอจะต้องรักเขาเลยทันที.... คงความเป็นตัวเองไว้.... อย่างที่เป็นอยู่ทุกวัน...... แล้วทั้งเราและเขาจะรู้คำตอบ... "ว่าเราสามารถไปด้วยกันได้ดีหรือไม่" แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 48 14:26:38 จากคุณ : marinesnow - [ 31 มี.ค. 48 14:24:51 ]

ความคิดเห็นที่ 15 มาให้กำลังใจค่ะ จากคุณ : กะเทยไทยในอัมสเตอดัม - [ 31 มี.ค. 48 20:38:53 A:84.80.52.170 X: TicketID:077778 ]

ความคิดเห็นที่ 16 Thanks you all again ka. I can tell nothing is rude in your opinions ka( not really), in the other hand, I like all of them coz you guys wake me up from the dream and let me come back to the real world. I just need someone like you guys who can teach me, yell me, shout out to me that...stop thinking about him and start thinking about myself first ka. My family don't know anything about him, for I don't want them to feel bad and worried about me. Thanks a lot ka. I will save this Kratoo and remind myself to read it when I have time. จากคุณ : MT - [ 31 มี.ค. 48 21:09:30 A:24.61.1.229 X: TicketID:046309 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ป่าวหรอกค่ะ ไม่ได้ให้กำลังใจอะไรหรอก แค่มาเทสต์เฉย ๆ เพราะเมื่อวานลองตอบแล้วแต่มันไม่ขึ้น คิดว่าโดนบล็อคไปแล้วซะอีก แต่ตอนนี้เอาจริงละนะ ............ จะบอกว่าเรื่องของความสัมพันธ์น่ะ การพึ่งพากันมันเป็นเรื่องปกติมาก ๆ ค่ะ พวกปากถือศีลหลายคนอาจจะบอกว่าเราจะรักใครเราให้ต้องให้เขา เราต้องพึ่งพาตัวเองให้ได้ก่อน ก่อนจะไปรักผู้อื่น อย่าโง้นอย่างงี้ บลา ๆ ๆ รอจนถึงวันนั้น ก็พอดีชาตินี้ไม่ต้องรักใครพอดี เพราะคนเราถ้าพึ่งพาตัวเองได้ในทุกเรื่องจริง ๆ น่ะ อยู่คนเดียวดีที่สุดค่ะ ไม่เจ็บ ไม่ผิดหวัง รักสัตว์ป่า ต้นไม้ ตั้งมูลนิธิไปโน่นเลย จะได้รักแบบไม่คาดหวังแบบแท้จริง ปุถุชนคนธรรมดาจะรักกันมันก็ต้องคาดหวังกันเป็นเรื่องปกติค่ะ ลองดูตัวอย่างนี้นะคะ นางงามรักคนรวย นางแบบรักนักการเมือง ลิซ เทเล่อร์รักอีตากรรมกรหาเช้ากินค่ำ หลายคนอาจจะมองว่าที่ยก ๆ มา ฝ่ายหนึ่งให้อีกฝ่ายหนึ่งรับอยู่ตลอดเวลาหละสิ จริง ๆ ไม่ใช่หรอก คนให้ก็เติมเต็มให้ตัวเองอยู่ตลอดเวลา ชอบที่จะเห็นคนที่เรารักมีความสุข และจริง ๆ ทั้งคู่ก็(น่าจะ)มีความสุขดี เพราะทั้งนี้ทั้งนั้น ความสัมพันธ์(ที่สมดุลย์)จะอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า"ทั้งสองฝ่ายต่างมีความสุข"นะคะ แต่ถ้าฝ่ายให้เกิดความไม่อยากจะให้ ตัวเองก็ไม่ค่อยจะมีเหลือมากมายแต่ต้องคอยเอาไปให้อีกฝ่าย ต้องเหนื่อยตัว เหนื่อยหัวใจ จนต้องมาคิดทบทวนบ่อย ๆ ว่าควรหรือเปล่าที่จะทำแบบนี้ ก็แปลว่าคุณกับเขาไม่เหมาะกันแล้วหละค่ะ ............. เขาอาจหล่อ อาจหน้าตาดี อาจจะป้อยอหรือทำอย่างอื่น(ว้าว...)เก๊งเก่ง แต่ถ้าคุณต้องเหนื่อยใจ ลำบากกายเพื่อที่จะตะกายให้ได้เขามาน่ะมันก็ไม่ต่างกับการที่ใครสักคนต้องยอมกินอย่างอด ๆ อยากๆ เพื่อที่จะไปซื้อข้าวของแบรนด์เนมมาประดับตัวอวดชาวบ้านนั่นแหละ ดูดีแต่เวลาอยู่ข้างนอก แต่จริง ๆ ไส้แห้งอยู่ข้างใน ปล่อยให้เค้าไปใช้หน้าตาหล่อ ๆ ที่เค้ามั่นใจนักหนาไปป้อพวกเศรษฐีนีที่มีความพร้อมที่จะปรนเปรอเค้าด้วยเงินทองกองท่วมดีกว่ามั้งคะ และเดี๊ยนแน่ใจค่ะ ว่าเขาจะหาได้ในเวลาไม่นานหลังจากที่คุณจากมา ส่วนคุณ ก็หาคนที่จะทำให้คุณมีความสุขใจมาเป็นคู่ชีวิตที่เหมาะสมดีกว่า ไม่ต้องรวยล้นฟ้าจนเลี้ยงคุณได้หรอก แค่ทำให้คุณสบายใจจนไม่ต้องมานั่งเหนื่อยใจเช้าเย็น เฝ้าถามตัวเองว่าจะอยู่หรือจะไปดี แค่นี้ชีวิตก็สมดุลย์แล้วค่ะ ลองพิจารณาดูเอาแล้วกันนะคะ จากคุณ : กะเทยไทยในอัมสเตอดัม - [ 31 มี.ค. 48 21:30:53 A:84.80.52.170 X: TicketID:077778 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คุณคะ มาถึงขนาดนี้แล้ว คิดว่าผู้ชายคนนี้ไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้คุณได้แน่นอนค่ะ ตัวเขาและลูกอีกสาม อีกหน่อยสมมติว่าแต่งงานกันไปคุณได้หาเลี้ยงทั้งครอบครัวแน่เลย เหมือนเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบแม้แต่ชีวิตของตัวเอง แล้วจะมารับผิดชอบชีวิตของคุณเพิมได้ยังไง แต่เห็นใจคุณค่ะ เพราะความรักทำให้คนตาบอดแบบนี้แหละ อ่านความเห็นของคุณ cosby แล้วเห็นว่าตีได้ตรงทุกจุดเลยค่ะ เจ้าของกระทู้อ่านซ้ำหลายๆรอบนะคะ แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 48 22:25:59 จากคุณ : yinnerella - [ 31 มี.ค. 48 22:14:24 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยกับคคห.ข้างบน ตัดใจวันนี้ดีกว่าเสียทั้งเวลาทั้งโอกาส ชีวิตคู่มันไม่ได้อยู่กันด้วยความรักอย่างเดียว เพราะสถานภาพทางการเงินน่ะมันเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญมากสำหรับชีวิตคู่  เลี้ยงเด็กคนนึงน่ะ มันเป็นภาระผูกพัน เพราะเราต้องเลี้ยงเค้าตั้งแต่เกิดจนเอาชีวิตรอดได้นั่นคือการให้ศึกษา เค้ามีลูก 3 คน มันเป็นความผูกพันระยะยาว   ในมุมมอง คิดว่าคุณก็พร้อม ทั้งความรู้ การศึกษา แล้วไม่มีภาระ แปลว่าคุณมีโอกาสที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ แล้วคุณไม่ได้ผิดอะไรที่จะรักตัวเอง จากคุณ : sri123 - [ 1 เม.ย. 48 00:56:45 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มีความเห็นเดียวกับคุณ จิงโจ้/ออสซี่ มากๆ เลยค่ะ เหมือนทุกคำพูดที่ดิฉันอยากจะบอกคุณเลยค่ะ เค้ามี Maturity น้อยมากค่ะ พูดกันตรง ๆ ดีกว่านะคะ อย่าโกรธ The man needs to grow up, big time !! จากคุณ : เพื่ออนาคตค่ะ - [ 1 เม.ย. 48 01:31:20 A:66.248.53.195 X:207.69.138.201 TicketID:076829 ]

ความคิดเห็นที่ 21 OMG! You should have left this man like, yesterday. Unless you're willing to play a mother role for his three kids, and financially support all four of them until the day you die, you're so wasting your time. Come on, let's admit it, chances that he can make a decent living to support his family is so slim, judging from his work ethic and education background. Remember, love alone, is not enough for marriage. P.S. If you think he said no to gals because he loves you think again. Simply, I think he is living poor because of his financial problem. It takes money to show women a good time. แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 48 11:02:59 แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 48 11:02:13 จากคุณ : Hotlver - [ 2 เม.ย. 48 11:00:46 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอยกมือด้วยคนนะ เพราะปรกติชอบอ่านอย่างเดียว แต่กระทู้ขอแจมนะคะ คิดว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้มีความภาคภูมิใจเหมือนภาพลักษณ์ภายนอกหรอก เค้ามีลูกตั้ง 3 แต่ยังไม่มีความรับผิดชอบ มาขอ(ยืม.หรือเปล่า)จากคุณ คนที่อยู่ไกลบ้านไกลเมือง ทำไมเค้าถึงคิดถึงตัวเค้าก่อนคนที่เค้ารักนะ เราว่าถ้าเป็นคนที่รักกันจริง ๆ เค้าต้องเป็นฝ่ายเทคแคร์คุณมากกว่านะ เอาใจช่วยนะ.. จากคุณ : mask - [ 5 เม.ย. 48 19:44:32 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอโทษถ้าจะหยาบคาย อายุ 33 แล้ว มีลูกก็แล้ว น่าจะโตเต็มตัวได้แล้วได้แล้ว เงินที่ยืมคุณไป เค้าเอามาคืนครบตามเวลาหรือเปล่า เค้าคิดจะสร้างอะไรเป็นหลักแหล่งหรือเปล่า พ่อแม่เค้ารวยจริงหรือเปล่า เหตุผลของการหย่า คุณก็มีสิทธิ์ที่จะรู้ค่ะ ไม่ต้องเกรงใจถ้าจะใช้ชีวิตร่วมกับเค้า ลองใช้วิธีของแม่บ้านข้างบนดูค่ะ น่าจะเห็นผล จากคุณ : padme' amidala - [ วันจักรี 17:01:41 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เปล่อยเขาไปดีกว่าค่ะ แฟนคุณดูไม่มีความรับผิดชอบเอาซะเลย  เหมือนอยู่ไปวันๆ  เหมือนเด็กไม่รู้จะโต จากคุณ : i_am_ami - [ 12 เม.ย. 48 03:12:37 ]