ความคิดเห็นที่ 2 Get your 4000 baht worth.  Good luck. จากคุณ : me_here - [ 25 เม.ย. 48 13:01:44 ]

ความคิดเห็นที่ 3 consular service is 662-205-4000 visa service is 662-205-5048, but they will pick up the phone from 1pm.-4pm. ka. before that will be voice recorder ka จากคุณ : small girl - [ 25 เม.ย. 48 13:04:29 A:204.180.74.219 X: TicketID:062549 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เดี๋ยวนี้ขอวีซ่าท่องเที่ยวต้องเอาtranscriptไปยื่นด้วยเหรอคะ เพราะจำได้ที่เคยขอๆมาตอนสมัยเรียนอยู่ก็จะใช้แต่หนังสือรับรองการเป็นนักเรียน-นักศึกษาแค่นั้น ในนั้นมันไม่ได้แสดงผลการเรียน เค้าเลยไม่รู้ว่าเรียนดี เรียนแย่แค่ไหน เดี๋ยวนี้กฏเปลี่ยนไปเยอะจังเลย จากคุณ : เกรดไม่สวย - [ 25 เม.ย. 48 13:37:48 A:24.19.97.193 X: TicketID:084537 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นบอกโดนย้ายเข้ากรุแล้วนิ จากคุณ : ZQ - [ 25 เม.ย. 48 13:57:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 up date นะคะ คุณพ่อโทรไปคุยกับทางแผนกวีซ่ามาแล้ว เค้าบอกว่า เจ้าหน้าที่ช่อง 8 คนนี้ ได้รับการร้องเรียนเป็นร้อยแล้ว แต่ว่าพอถามชื่อเค้าก็ไม่ยอมบอก ทางเจ้าหน้าที่แนะนำว่าให้อีเมลล์ มาร้องเรียนเพราะว่าท่านกงศุลจะเป็นคนอ่านเมลล์โดยตรง ถ้าใครมีปัญหาก็ลองอีเมลล์ไปแล้วกันที่ visasbkk@state.gov จากคุณ : small girl - [ 25 เม.ย. 48 14:14:04 A:204.180.74.219 X: TicketID:062549 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ดีจริงๆเลยค่ะ ยัยป้าคนนั้น จะได้รู้สึกซะที จากคุณ : Aebler - [ 25 เม.ย. 48 14:57:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 กระเหรี่ยงทั้งโลกเกลียดฉัน ก็ชั่ง ให้ผัว(ฝรั่ง)รักฉันก็เพียงพอ .... จากคุณ : ป.ช.ป - [ 25 เม.ย. 48 15:54:05 A:202.47.247.130 X: TicketID:045088 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จะบอกให้ก็ได้ .. ผมเคย post หลายรอบและหลายครั้งมากเกี่ยวกะเรื่องผลการเรียน อย่าว่าแต่เรียนได้เกรดเยอะเลย ... ถึงเกรดสูงแต่ไม่ได้มาจาก .... xxx ก็ยากที่จะได้ไป เหตุผล เค้ากลัวว่าจะไปแล้วชิ่งสิ เอาอย่างงี้สิ ถ้าทุกคนเกิดอยากไปแล้วไปลงเรียนราม แล้วเอาใบรับรองนักศึกษาไปยื่นจะเกิดอะไรขึ้น คนที่เรียนอยู่ที่ ... คณะ ... และเกรดสูงๆ เค้าจะค่อนข้างเชื่อว่ายังไงก็จะกลับมาเรียนต่อ คงไม่ทำลายอนาคตตัวเองหรอก ประเทศนี้เค้าไม่อยากได้คนฉลาดไปแย่งงานเค้าหรอก แต่เค้ากลัวคนไม่ขยันเรียน ซึ่งจบแล้วหาบริษัทดีๆที่เมืองไทยรับยาก ทำให้ได้เงินน้อย เลยต้องไปแย่งงานเค้าต่างหาก ขอโทษที่พูดตรงๆ แต่ไม่รู้จะอ้อมยังไง แล้วเค้าก็คิดอย่างงั้นจริงๆ Ent ไม่ติด เรียนที่กระจอกๆ มีแนวโน้มสูงว่าไม่เอาถ่าน เกรดไม่ดี อาจแปลว่า ไม่ค่อยตั้งใจ ไม่ใส่ใจ เหลวแหลก เสเพล หากรับพวกนี้เข้าประเทศ 1. อาจไปก่ออาชญากรรม เพราะคนที่เรียนไม่เก่ง มีแนวโน้มว่า aggressive สูง 2. อาจไม่กลับมาเพราะ เรียนอยู่ที่ๆไม่มีชื่อเสียง จบไม่จบก็ไม่สำคัญกะอนาคตมากนัก ขอโทษอีกครั้งที่ต้องแรงๆ และตรงๆ ส่วนตัวไม่เคยไปดูถูกคนเหล่านั้น เพราะเกรดห่วยๆ อาจเป็นเพราะต้องช่วยงานพ่อแม่ หาเงิน มีภาระหน้าที่เลี้ยงน้องอะไรประมาณนี้ แต่โชคร้ายที่สถานทูตไม่คิดอย่างงั้น เค้าจะตั้งสมมุติฐานมาก่อนเลยว่าคุณอาจไปอยู่แล้วไม่กลับ ซึ่งเค้าจะต้องแน่ใจจริงๆว่าที่เค้าคิดมันผิด จากนั้น เค้าถึงจะให้ตุณไป การที่เค้าตอบยังงั้นมาน่ะ ตีความได้หลายสาเหตุ การที่เค้าไม่ให้ visa นะ ไม่ได้แปลว่าเงินไม่ถึงเสมอไป บางคนมีญาติพี่น้องไปตั้งรกรากที่นั่นแบบผิดกฎหมาย หรือ บางคนค้าสิ่งของที่ทาง uSA ไม่ยอมรับ ซึ่งพวกนี้ มันจะมี record ไว้ ถ้าโชคดีเค้าไม่เจอก็ดีไป แต่ส่วนใหญ่ จะบอกให้ว่าไอ้พวกที่ไปแล้วชิ่งไม่กลับน่ะ ทำให้ญาติพี่น้องเข้าประเทศไม่ได้หลายคนแล้ว สถานทูติเค้าไม่มาบอกหรอก ว่า ขอโทษนะคะ ญาติคุณไปเป็น hood อยู่ที่นั่น เราให้คุณอีกไม่ได้ แต่คนส่วนใหญ่จะงง ว่าทำไมกรูถึงไม่ผ่าน แล้วก็ไปด่าป้าช่องแปดซึ่งเผอิญเค้าเป็นคนที่เข้าใจถึงวัฒนธรรมคนไทยที่สุด แบบ อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ เค้าจะจับผิดคนไทยได้ดีกว่าฝรั่ง ที่เขียนมา ไม่ได้ว่าใคร ไม่ได้ว่าคนที่เป็น Hood อยู่ที่นั่นด้วย เพราะชีวิตคนย่อมต้องการสิ่งที่ดีกว่าให้กะตัวเอง เช็ดโตะที่เมืองไทยได้ชั่วโมงล่ะ 25 บาท ไปอยู่นั่นได้ทิปเป็นร้อย (เหรียญ) เป็นใครก็อยากไป ถ้าให้ผ่านกันง่ายๆ ก็ไปหมดแล้วสิ ก็เลยกำเนิดป้าช่องแปดขึ้นมา ก็ถือว่าซวยไปแล้วกัน เพราะจะไปโทษอะไรก็ไม่ได้ การร้องเรียนคงไม่สามารถช่วยอะไรได้นัก เพราะคนที่หมั่นใส้ป้าช่องแปดมีมาก่อนคุณเป็นทศวรรตแล้ว (ดูจาก Pantip) เป็นบุคคลที่เรียกได้ว่าถือกำเนิดและมีชื่อเสียงคู่มากันกะ web นี้เลย แล้วดูดิ ป่านนี้ยังไม่โดนไล่ออกเลย แต่ก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่ เพราะจ่ายไปแล้ว 4 พัน ดังนั้นก็ร้องเรียนไปเถอะ ดีกว่าอยู่เปล่าๆ ปล ไม่ได้เป็นญาติกะป้าช่องแปด แต่ค่อนข้างสงสารเพราะโดนกระหน่ำเหลือเกิน เค้าก้อทำตามหน้าที่ของเค้า เพียงแต่พวกคุณซวยเองที่ไปได้ interview กะเค้า จากคุณ : visa master - [ 25 เม.ย. 48 16:06:56 A:61.90.121.123 X: TicketID:073565 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เอาเรื่องไปเลย หนับหนุน จากคุณ : หนับหนุน - [ 25 เม.ย. 48 16:38:22 A:61.90.69.38 X: TicketID:070742 ]

ความคิดเห็นที่ 11 น่าสนใจครับ ดูเป็นรูปธรรมดี #9 ผมว่าคุณมองช่องแปดในแง่ดีมากเกินไปครับ ผมเคยรู้จักคนที่ได้ offer จาก  Columbia University (in the city of New York) เรียนเก่ง หน้าที่การงานดี แต่โดนยัยป้าช่องแปดปฏิเสธวีซ่าเพราะเหตุผลงี่เง่า ๆ เหมือนกัน แต่โชคดีว่าเขาพอรู้จักคนอยู่บ้าง เลยร้องเรียนและก็ได้วีซ่าออกในกาลต่อมา ฯ  ยังไงผมก็มองว่าผู้หญิงที่นั่งช่องแปดคนนั้นไม่ปกติครับ จากคุณ : B.F.Pinkerton - [ 25 เม.ย. 48 17:07:39 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีคนเคยร้องเรียนแล้วได้ Visa ด้วย คห ที่ 11 ช่วยอธิบายหน่อยว่า "ในกาลต่อมา" แปลว่าอะไร ... 1 ปีให้หลังหรือ ร้องเรียนแล้วได้เลย แล้วเหตุผลงี่เง่านั้นคืออะไร แล้วต้องรู้จักใครถึงจะผ่าน ช่วยเคลียร์นิดนึง จะได้เป็นวิทยาทานสำหรับคนที่จะไป interview ก็เพราะว่าผมก็คิดเหมือน คหที่ 11 นั่นแหละ ถึงบอกว่า มันเป็นความซวยที่ได้ไปสัมภาษณ์กะป้านั่น ผมว่าเค้ารับ วัฒนธรรมอเมริกันเต็มๆ คือ หน้าที่มาก่อนเหนือสิ่งอื่นใด เค้าไม่สนหรอกว่าใครจะไปเดือดร้อนถ้าไม่ได้ visa มันป่วยการที่จะไปนั่งเจ็บใจ เสียเวลาด้วย case ของเพื่อนผมก็คล้าย คห ที่ 11 ได้ตอบรับขาก IVY League รวย ทำงานบริษัทน้ำมัน เงือนเดือนไม่ต้องพูดถึง ต่างกันตรงที่เค้าไม่ได้ถึงแม้ว่าจะไปร้องเรียนแล้วก็ตาม แล้วเค้าก็ไม่บอกเหตุผลว่าทำไม ถ้า คห 11 ช่วยขยายความ จะเป็นประโยชน์กะคนตาดำๆที่กะลังอยากไป USA อีกมาก ผมเห็นคนบ่นอยู่หลายคนแล้ว เห็นว่าถึงขนาดรวบรวมรายชื่อร้องเรียน แต่สุดท้าย ป้าก็กลับมาอีก จากคุณ : visa master - [ 25 เม.ย. 48 17:44:14 A:61.90.121.123 X: TicketID:073565 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ในกาลต่อมา..ในอีกวันสองวันนั่นแหละครับ ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใหม่ด้วย แต่ก็อาจจะเป็นกรณีพิเศษเพราะเขารู้จักคนใหญ่โตแถว ๆ นั้น (ตามประสาเมืองไทย ใครมีคอนเนคชั่นก็ได้เปรียบ พวกลูกตาสีตาสาก็ต้องทนโดนช่องแปดย่ำยีไป) เหตุผลที่เขาไม่ได้..เกี่ยวกับเรื่อง statement อะไรนี่แหละ คือเขายื่นบัญชีเป็นเงินพอเพียงสำหรับการเรียนตลอดหลักสูตรพร้อมค่ากินอยู่ที่โรงเรียนแจ้งเอาไว้ ก็ปกติ แต่ป้าช่องแปดบอกว่าต้องเอาบัญชีพ่อแม่มาให้ดูด้วย อะไรทำนองนั้นแหละ ดูจากหน้าที่การงาน ฐานะการเงิน การศึกษา ก็ไม่เห็นจะมีแนวโน้มว่าจะอยากหนีไปเป็นโรบินฮูดตรงไหน ก็ยังโดนช่องแปดทำได้ จากคุณ : B.F.Pinkerton - [ 25 เม.ย. 48 17:52:24 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เรื่องคนเรียนรามไปขอวีซ่านี่ เพื่อนเราเองอะเรียนรามแล้วขอวีซ่าท่องเที่ยวผ่าน พอไปขออีกครั้งหลังจากอันแรกหมดอายุไป ได้มาตั้ง10ปี ใช้แค่ใบรับรองความเป็นนักศึกษาด้วย ไม่ได้ยื่นtranscriptเลย ในใบรับรองการเป็นนักศึกษานั่นมันจะบอกแค่ว่าเรียนได้กี่หน่วยกิต อยู่ปีไหนแล้ว เลยอยากจะบอกว่ามันไม่เสมอไป ว่าจะเรียนที่ไหน มีเงินมากแค่ไหน ไม่รู้ว่าเค้าใช้อะไรเป็นเกณฑ์ กรณีเพื่อนเราทำให้เห็นว่าสถานทูตเค้าไม่ได้มาเหมาเอาว่าทุกคนที่เอ็นท์ไม่ติดจะเป็นคนกระจอก ไม่เอาถ่าน จะแอบหนีไปทำงานที่ประเทศเค้า แต่ละกรณีมันต่างกันออกไป จากคุณ : Boo Yaa - [ 25 เม.ย. 48 19:08:01 A:24.19.97.193 X: TicketID:084537 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ความคิดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่มันไม่เสมอไปหรอกนะ ที่ว่าเรียนที่กระจอก เกรดต่ำ แล้วเค้าจะไม่ให้วีซ่าน่ะ เพื่อนเราเรียนรามเหมือนกัน เกรดไม่ถึง 2 ด้วย ยังได้วีซ่า 10 ปีเลย จากช่องนี้ด้วย คนที่ไม่ได้รับวีซ่าเพราะเหตุผลที่ไม่ได้เรื่องแบบนี้ แถมเจ้าหน้าที่ยังบอกอีกว่าไม่มีกฎแบบนี้ ถ้าเป็นคุณคห.9 คุณจะทำยังไง คุณแรงไปนิดกับการใช้คำพูดนะ จริงอยู่บางคนอาจจะไปเป็น hood แต่ก็ไม่ทุกคนนะ แต่ก็อย่างว่าแหละ คนคิดดีก็พูดดี จริงมะ จากคุณ : ไม่เข้าใจเล้ย (alcohol 65 degree) - [ 25 เม.ย. 48 19:42:41 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ยัยป้าโรคจิต จากคุณ : - - [ 25 เม.ย. 48 19:44:38 A:61.90.69.38 X: TicketID:070742 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เราคิดว่า#9 น่าจะเป็นคนที่เก่งมากๆไช่ไหม เอ๊นติด อยู่มหาลัยรัฐชื่อดังและเกรดสูงแน่ๆ อย่างนี้คนเอ็นไม่ติด เรียนรามก็ไม่ต้องเพ้อฝันจะได้ไปเลยหรอ จากคุณ : ขำ - [ 25 เม.ย. 48 20:49:54 A:168.120.27.144 X: TicketID:090881 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คุณขำ และปุคคลที่กะลังจะ post กระแนะกระแหนผม อย่าเพิ่งว่าอะไรผมเลยครับ แค่เอา ความคิดเห็นของคนที่รู้จักที่เค้าเคยคุยกะพวกที่เป็น imigration มาเล่าให้ฟัง ไม่ได้มีเจตนาจะดูถูกคนที่เรียนรามหรืออะไร แล้วก็ไม่เก่งด้วย อย่าเพิ่งเข้าใจเจตนาผมผิด ถ้าไม่พูดอย่างงี้ แล้วจะให้พูดยังไง ถ้าอ่านที่ post ไปก็จะเห็นว่าผมไม่ได้ฟันธงว่าจะเป็นอย่างงั้นอย่างงี้ ผมใช้คำว่า อาจจะ หรือ น่าจะ สรุปสั้นๆก็คือ ไม่ใช่กะทุกคน แต่เค้ามีสมมุติฐานอย่างงั้น แต่มันก็ต้องดูส่วนอื่นๆด้วย ซึ่งอย่างที่บอกว่าผมไม่รู้รายละเอียดลึกๆ แต่เจ้าของกระทู้ ตั้งหัวเรื่องเกี่ยวกะเรื่อง GPA ต่ำๆ แล้วพอดีผมรู้มาอย่างงี้ แล้วก็เห็นว่าสิ่งที่ผมรู้มา มันตรงกะที่เจอในชีวิตจริง ถ้าผมไม่พูดอย่างงี้มันจะเห็นภาพไหมเนี่ย จริงอยู่อาจจะแรงไป แต่ผมคิดว่ามันน่าจะทำให้ใครหลายคนได้รู้ถึงเหตุและผล ที่ มา ที่ ไปว่าทำไมเกรดต่ำๆ และไม่ได้มาจากที่ดีๆ ถึงไม่ค่อยได้ VISA ขณะที่ยังเป็นนักศึกษา ผมไม่ได้บอกว่าคนที่เรียนรามทุกคนหรือมหาลัยที่ไม่ใช่ ... ทุกคนจะไม่มีโอกาสได้ VISA เพิ่มอีกนิด ที่ผมเคยเจอหลายคนที่ได้ visa ทั้งๆที่เกรดไม่ถึง 2 หรือต่ำมากๆ ส่วนนึงก็เพราะ passport เค้าอาจมี visa หลายประเทศประทับ หรือไปต่างประเทศกะครอบครัวบ่อยๆ ซึ่งสถานทูตมักคิดว่าคนเหล่านี้คงรวยจริงๆและไม่มีความจำเป็นต้องไปหางานที่นั่น อีกอย่างผมไม่ได้มีเจตนาจะว่าใคร รวมถึงคนที่ไปเป็น Hood ที่นั่น เพราะถ้ามีความจะเป็น ผมก็อยากจะไปเป็นเหมือนกันเพราะมันได้ตังเยอะดี แม้จะลำบากบ้าง สุดท้ายนี้อยากบอกว่าผมไม่ได้มีเจตนาจะว่าใคร จขกท ตั้งกระทู้มา ผมเลยเล่าถึงที่มาที่ไปเกี่ยวกะเรื่อง เกรด ซึ่งมีผลต่อการออก VISA เจตนาผมคือ ให้ความรู้เท่านั้น และเล่าถึงสิ่งที่ได้เจอมากะตัวเองและฟังมาจากคนแถวๆนั้น ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร ไม่ว่า คห ที่ 19 ครับ ถ้าเป็นผม ผมก็คงทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่ใหญ่ ไม่มีตังเยอะ และก็ไม่ได้มาจากสถาบัยชั้นนำ ส่วนเกรดที่ไม่ถึง 2 น่ะ คุณลองเล่าให้เพื่อนๆคนอื่นๆฟังได้ไหมว่าเค้าเอาหลักฐานอะไรยื่นไปบ้าง แล้วชอบเดินทางบ่อยๆหรือเปล่า จะเป็นประโยชน์มากครับ คห ที่17 ผมไม่เก่งหรอกครับ โง่ด้วย ผมไม่ได้บอกว่าเรียนรามแล้วไปไม่ได้ ทุกคนมีโอกาสเหมือนกัน แต่มันอยู่ที่คุณจะทำยังไงให้เค้าล้างสมมุติฐานว่าคุณจะไปอยู่ที่นั่นออกไปได้ยังไง ผมว่าก่อนที่จะ post ว่า โอ้ยเพื่อนผมเรียนรามก็ได้ตั้ง 10 ปี คุณลอง post หลักฐานอื่นๆด้วยสิ จะได้เป็นวิทยาทานต่อคนอื่นๆ ข้อมูลของทุกๆคน จะเป็นประโยชน์ต่อคนที่กะลังจะไปขอ VISA หรือคิดที่จะไปขอ VISA จะได้เตรียมตัวแต่เนิ่นๆ และไม่ต้องไปเสียตังฟรี ถ้าใครจะว่าผมก็ว่าไปเถอะครับ แต่ขอให้ลงข้อมูลที่เป็นปีโยชร์ไว้บ้าง ประเถทที่มากระแนะกระแหน อย่างเดียว ขอร้องเถอะครับ เปลืองเนื้อที่ Harddisk เค้าเปล่าๆ จากคุณ : Visa Master - [ 25 เม.ย. 48 21:35:05 A:61.91.170.122 X: TicketID:073565 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นคนคุยกันเยอะดีเลยจะมาแชร์อะไรนิดๆหน่อยๆที่เรา"เคย"รู้ (ที่เน้่นคำว่า"เึคย"เพราะปัจจุบันอาจจะไม่เป็นอย่างที่บอก) เราเห็นด้วยทั้งกับคุณ คคห. 9 และคุณ คคห. 11 ค่ะ เราก็เคยรู้มาจาก ... (ซึ่งเชื่อถือได้แน่นอน) ว่าถ้าคุณจบจากที่เหล่านี้ เกรดประมาณนี้ และมีหลักฐานครบ เขาจะ assume ไว้่ก่อนเลยว่า คุณมีแนวโน้มที่จะกลับมา หรือมีแนวโน้มที่จะไม่ไปอยู่อย่างผิดกฎหมาย ฯลฯ แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่จบจากที่นี่ นู่น นั่นจะได้นะคะ อย่างที่บอกไว้ว่าเอกสาีรหรือหลักฐานอื่นๆต้องครบด้วย ส่วนคนที่จบจากที่อื่นๆ(ที่เขาไม่้ได้บอกให้เราฟัง) ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ให้หรือมาสงสัยอะไรมากมาย เพียงแต่เขาอาจจะต้องดูอะไรๆเพิ่มเติมขึ้นมาเท่านั้นเอง ไม่ใช่เฉพาะคุณป้าช่ิองนั้นเท่านั้นที่เขารู้อะไรๆเกี่ยวกับคนไทยดี ท่านอื่นๆก็รู้เหมือนกันค่ะ ... แต่เท่าที่ได้อ่านๆจากกระทู้ในนี้ คุณป้าเขาก็คงไม่ปกติ(อย่่างที่ คคห. 11 บอกไว้)จริงๆ อิอิ เอาเป็นว่า ... เราเข้าใจสิ่งที่คุณ Visa Master ต้องกาีรจะสื่อค่ะุ (จะโดนว่าด้วยมั๊ยเนี่ย เหอๆ) สุดท้าย ... มาช่วยลุ้นให้น้องสาวเจ้าของกระทู้ได้ visa ไวๆนะคะ เข้าใจคนเป็นพี่เหมือนกันค่ะ ว่าอยากให้น้องได้มาอยู่ในงานเหมือนกัน :) จากคุณ : DeSeRt RoSe @>--,-- - [ 25 เม.ย. 48 21:44:37 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เราไม่ได้ว่าอะไรนะ แต่สถาบันการศึกษามีผลต่อการออก visa เหมือนกัน แต่ก็นั่นเป็นแค่อีกหนึ่งปัจจัยล่ะ จากคุณ : - - [ 25 เม.ย. 48 21:52:09 A:61.90.34.199 X: TicketID:070742 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มันก็ต้องฟังความทั้งสองฝ่าย ต่างคนต่างมุม จากคุณ : Tee - [ 25 เม.ย. 48 22:17:52 A:61.91.170.150 X: TicketID:089744 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าใครจะว่าผมก็ว่าไปเถอะครับ แต่ขอให้ลงข้อมูลที่เป็นปีโยชร์ไว้บ้าง ประเถทที่มากระแนะกระแหน อย่างเดียว ขอร้องเถอะครับ เปลืองเนื้อที่ Harddisk เค้าเปล่าๆ --> เห็นด้วยจริงๆ พอดีผมตามเรื่อง ADSL ของ TRUE ห้องอื่นมา แบบไม่พอใจ แล้วก็เอาแต่ด่าๆ เป็นหมาเห่าใบตอง แท้จริงแล้วตัวเองก็ไม่รู้อะไร เอาแต่เห่าอยู่ร่ำไป จากคุณ : Tee - [ 25 เม.ย. 48 22:20:20 A:61.91.170.150 X: TicketID:089744 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แต่แปลกแฮะ การเรียนผมได้เกรดต่ำกว่า 2 แต่ได้วีซ่าอเมริกา 10 ปีแน่ะ จากคุณ : tAESPY - [ 25 เม.ย. 48 22:21:27 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สาวโสด ขอวีซ่า ท่องเที่ยว ร้อยนึง เก้าสิบเก้าคนมั้ง ที่ไม่ผ่าน ถ้าได้เจอช่องแปดอีกหละก็ อนาคตดับวูบสนิท ถ้าขอวีซ่าไปเรียนเนี่ย ยังมีหวังมากกว่า จากคุณ : Adore - [ 26 เม.ย. 48 01:18:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณทุกความเห็นที่เข้ามาตอบมานะคะ ยอมรับว่าพออ่านครั้งแรก ก็โกรธคุณคห. 9 เหมือนกัน แต่ว่า พออ่านๆ ก็เข้าใจนะคะว่า คุณพยายามจะสื่ออะไร ถูกต้องค่ะ คุณป้าให้เหตุผลในการปฎิเสธว่า ผลการเรียนไม่ดีพอ แต่เค้ากลับมาร์กลงไปในฟอร์มถึงเหตุผลของการ ปฏิเสธว่า น้องของเราไม่สามารถแสดงหลักฐานที่แสดงถึงความมั่นคง ทางด้านการเงิน เศรษฐกิจและสังคมมากเพียงพอว่ามีความผูกพันกับประเทศ ไทย เรางงมากว่าทำไมเหตุผลที่บอกน้องเรากับเหตุผลที่เค้ามาร์กลงไป ไม่เหมือนกันล่ะ เราโทรกลับไปถามทั้งแม่และน้องให้แน่ใจว่าเค้าให้เหตุผล ว่าอะไรซึ่งเหตุผลที่เค้าบอกน้องเรากับเหตุผลที่เค้ามาร์กลงมานั้น เป็นคน ละเหตุผลกันจริงๆ วันก่อนที่น้องเราไปสัมภาษณ์กับแม่ เค้ายังบอกเลยว่า เค้าพอใจหลักฐานทางการเงินและทุกอย่างที่นำมาแสดงนะ เหลือแค่ของ ลูกสาว (ซึ่งก็คือน้องเรา) เท่านั้นเอง ให้ไปเอาใบรับรองสถานภาพนักศึกษา ผลการเรียนมาให้ แถมน้องเราก็เอาใบรับรองที่ว่าลงทะเบียนไปแล้ว ยังไงก็ จะต้องกลับมาเรียนแน่นอน เราโกรธว่า ถ้าจะไม่ให้ ก็บอกมาเลย น้องเราจะ ได้ไม่ต้องเสียเวลาไปๆ มาๆ เค้าก็ต้องทำอย่างอื่นเหมือนกัน น้องเราอาจจะ เอนท์ไม่ติด แต่เราก็เชื่อว่ามหาวิทยาลัยของน้องเราก็ไม่ได้ด้อยกว่าที่อื่น เค้ากำลังเรียนปีสองนิเทศฯ ม.กรุงเทพฯอยู่ ผลการเรียนก็เลย 2 เพียงแต่ว่า ไม่ถึงสามเท่านั้น ถ้าเราจำไม่ผิด สาขาทางด้านนี้ตอนนี้ม.กรุงเทพฯ ดีที่สุด ไม่ใช่เหรอ? สองปีก่อน เรากับน้องสาวคนที่สองก็สัมภาษณ์กับคุณป้า สัมภาษณ์วันแรก เค้าไม่พอใจกับหลักฐานของเราสองคน เค้าว่าไปทีเดียวพร้อมกันสองคน แถมเรียนโทอีก ต้องยื่นหลักฐานความพร้อมทางการเงินให้มากกว่านี้ แล้ว เค้าก็บอกให้เอาสมุดบัญชีไปอัพมาด้วย เค้าว่า เค้าจะให้โอกาสวันพรุ่งนี้อีก ครั้งหนึ่งนะ พอกลับบ้านไป เราก็บอกพ่อ พ่อเราว่าจะให้อัพสมุดบัญชีได้ไง นี่เป็นฝากประจำ ยังไม่ถึงกำหนดเค้าไม่ถอนกันหรอก วันรุ่งขึ้นพ่อเลยไปกับ เราและน้องด้วย พอไปถึงก็สัมภาษณ์กับคุณป้าเหมือนเดิมแหละ พอคุณป้า เห็นพ่อเราก็ถามเลยว่า มาทำไม สัมภาษณ์แค่ผู้ขอวีซ่าเท่านั้นนะ พ่อเราก็ พูดออกไปเลยว่า ลูกสาวไปบอกว่าคุณมีปัญหากับหลักฐานทางการเงินและ สมุดบัญชี วันนี้ผมเลยมาให้ถาม คุณสงสัยเรื่องนี้ก็ต้องถามผมสิ ผมเป็นคน จ่ายเงิน ไปถามลูกสาวเค้าจะไปรู้เรื่องอะไร เค้าเป็นคนไปเรียนนะ ปกติพ่อ เราเป็นคนเสียงดังอยู่แล้ว ตรงนั้น ถ้าใครเคยไปก็คงรู้ว่าเงียบแค่ไหน ตอนที่ พ่อเราพูดอยู่ ทุกคนเงยหน้าขึ้นมามองหมดเลย ทำเอาเราเองก็เสียวๆ ไป เหมือนกัน คุณป้าบอกพ่อเราว่า ถ้าอย่างนั้นเชิญคุณพ่อไปนั่งรอก่อนนะคะ ถ้ามีคำถามอะไรจะให้ลุกสาวไปตาม พ่อเราก็ไป คุณป้าก็ดูหลักฐานของเรา ซึ่งไม่มีอะไรเพิ่มเติมเลย เหมือนของเมื่อวานทุกอย่าง สมุดบัญชีก็ไม่อัพ คุณป้าถามน้องเราก่อนว่าที่ไปเรียนนี่ใครเป็นคนจ่ายเงินคะ น้องเราก็ว่า คุณพ่อค่ะ เราคุณป้าก็เงิียบๆ ไป ตรวจดูเอกสารตรงนั้นที ตรงนี้ที แล้วก็ถามเรา ซึ่งยืนอยู่ติดกันว่า ที่ไปเรียนนี่ คุณพ่อเป็นสปอนเซอร์ใช่ไหมคะ เราก็ตอบว่า ค่ะ จากนั้นคุณป้าก็ก้มหน้าดูเอกสารอีก แล้วก็บอกว่า ไปรอนะคะ เดี๋ยววีซ่า เสร็จแล้วจะเรียก อ้าว แล้วตรงไหนละที่ว่าให้เราแสดงหลักฐานความมั่นคงทางการเงินเพิ่ม อย่างที่เมื่อวานตั้งคำถาม แล้วทำไมไม่เห็นถามเราเรื่องไม่อัพสมุดบัญชีที่ เมื่อวานสงสัยเลยละ ตั้งแต่นั้นมาเราก็แน่ใจมากๆ ว่า การขอวีซ่าเนี่ย มันก็ คงขึ้นอยู่กับคนจริงๆ ไม่มีมาตรฐานอะไรเลยอะ เมื่อวานเราโทรกลับไปทางแผนกวีซ่าอีกคร้ั้ง เพราะเราต้องการทราบชื่อของ คุณป้า เจ้าหน้าที่ที่รับโทรศัพท์บอกว่าไม่สามารถให้ชื่อได้ ถ้าต้องการจะ ร้องเรียนก็อีเมลล์มา เราเลยถามกลับไปว่า ไม่ให้ชื่อแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าจะ ร้องเรียนใคร เค้าว่าบอกหน้าต่างมาเลย เพราะเจ้าหน้าที่จะนั่งที่หน้าต่างตัว เดิมเสมอ เราก็เลยถามต่ออีกว่า แล้วเมลล์เนี่ยไปจะถึงใคร เค้าก็ว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนจะได้อ่าน อ้าว ถ้าอย่างนั้น เกิดเค้ามาอ่านแล้วลบทิ้งไปละค่ะ เราถามกลับ เค้าก็ตอบไม่ได้ ดูอึกอัก แล้วตลอดเวลาเราสังเกตุว่าเค้าเร่งพยายาม จะวางโทรศัพท์จากเรามากๆ แต่เรายังคาใจอยู่นี่นา เราก็เลยถามโน่นถามนี่ ไปเรื่อย จนในที่สุด เค้าก็บอกเราว่า ต้องวางแล้วนะคะ เท่านี้นะคะ มีคนรอสายอยู่ ช่วงบ่ายงานยุ่งมาก เราเลยถามกลับไปเลยว่า อ้าว ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่เปิดรับ โทรศัพท์ตั้งแต่เช้าถึงเย็นเลยละ เค้าว่าตอนเช้าเจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์ไม่ว่าง ต้องไปทำอะไรสักอย่าง นี่เราก็เลยตั้งใจว่าจะเมลล์ไปบอกท่านกงศุลให้ ย้ายป้ามารับโทรศัพท์แทนซะเลย แต่เราก็รู้หรอกว่า ท่านกงศุลคงไม่ทำหรอก เพราะก็อย่างที่คุณคห. 9 บอกนั่นแหละว่ามีคนร้องเรียนเรื่องป้า หลายครั้งแล้ว แต่ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย แต่ยังไงเราก็จะร้องเรียนอยู่ดี อ้อ เราถามเจ้าหน้าที่ที่รับโทรศัพท์เราด้วยว่า ได้ยินคนบ่นเรื่องป้าคนนี้มาก็ ตั้งหลายครั้งแล้ว ทำไมไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลยล่ะ อย่างนี้ก็เท่ากับว่าทาง สถานทูตไม่สนใจ แล้วก็ไม่ใส่ใจจะปรับปรุงการทำงานแล้วก็บริการเลยน่ะสิ เค้าก็ว่า ท่านกงศุลก็ตระหนักถึงข้อเท็จจริงนะคะ แล้วก็ตอบอะไรกลับมาอีก ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่า ไม่เห็นจะเกี่ยวกับคำถามแล้วก็ไม่ได้ความกระจ่างแม้แต่นิด เดียว เราถามอีกว่า ถ้าการให้วีซ่าขึ้นอยู่กับคนที่สัมภาษณ์แต่ละคน อย่างนี้ มาตรฐานมันอยู่ตรงไหนอะ เค้าก็ว่าเค้าจะอิงกฎหมายของสหรัฐฯให้มากที่ สุด เสียดายที่ลืมถามไปว่า กม.ของสหรัฐเนี่ยมีระบุเกรดเฉลี่ยเป็นอย่างต่ำ ของคนที่จะเข้าประเทศด้วยเลย เพราะป้าก็บอกกับน้องเราอย่างเดียวเลยว่า มันเป็นกฎนะคะ มันเป็นกฎค่ะ มีอีกประสบการณ์จากเพื่อนที่เรียนที่นี่เล่าให้ฟัง เค้ามีคนรู้จักสอบได้ทุนกพ. แต่ว่าก็โดนปฎิเสธวีซ่าโดนป้าคนนี้แหละ โชคยังดีที่พ่อเค้าเป็นทหาร เลยช่วย เค้าได้ เค้าก็เลยได้วีซ่าในวันต่อมาโดยที่ไม่ต้องกลับไปสถานทูตอีกครั้ง ที่เราจะเมลล์ไปร้องเรียน เราก็รู้แหละว่า คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นนักหรอก แต่เราก็อยากให้ทางสถานทูตและท่านกงศุลรับรู้เอาไว้ว่าเจ้าหน้าที่ของท่าน ไม่มีมาตรฐานในการทำงานเอาเสียเลย และถ้าใครที่ได้เค้ามาอ่าน รู้จักคุณป้า หรือรู้ว่า ทำไมคุณป้าจึงเป็นแบบนี้ เอาข้อเท็จจริง หรือนโยบายในการ ให้วีซ่าของทางสถานทูตเลยนะ ก็บอกเราด้วยแล้วกัน ถ้าเราเข้าใจคุณป้าผิด เราก็พร้อมจะขอโทษ แต่ถ้าสิ่งที่เราเข้าใจไม่ผิด เราก็พร้อมที่จะเอาเรื่องให้ ถึงที่สุดเหมือนกัน แม่เราบอกว่า อย่าให้เค้ารู้นะว่าเราเป็นใคร เดี๋ยวเค้าขึ้นบัญชีดำบ้านเราไม่ ให้วีซ่า เราบอกแม่กลับไปว่า ถ้าเค้าไม่กล้ารับฟังความคิดเห็น และพร้อมที่จะ ทำอะไรพาลๆ แบบนั้นก็ยุบแผนกร้องเรียนทิ้งไปเถอะ อย่ามีไว้ให้เปลืองค่า น้ำค่าไฟเลย แม่เราว่า ของอย่างนี้อาจจะอยู่ที่ดวง น้องเราอาจจะไม่มีดวงที่ จะได้มาเที่ยวที่นี่ ตอนนี้เราก็พยายามทำใจคิดว่าเป็นอย่างนั้นอยู่ เราจะได้ ไม่แค้นคุณป้ามากไปกว่านี้ เพื่อนเราเตือนว่า โกรธน่ะได้ แต่ว่าอย่าแค้น เพราะว่าจะเป็นบาป ก็ตั้งแต่เมื่อวานมาจนถึงตอนนี้เราคงก่อบาปไปมากมาย เพราะว่าแค้นคุณป้ามากๆ สงสัยต้องหาโอกาสไปวัดทำบุญสักหน่อยแล้ว แล้วสุดท้าย เรื่องครั้งนี้จะเป็นยังไงจะมาอัพให้ฟังกันอีกแล้วกัน จากคุณ : small girl - [ 26 เม.ย. 48 02:04:05 A:204.180.74.219 X: TicketID:062549 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอโทษที ตอนพิมพ์แค้นมากไปหน่อย เลยพิมพ์ผิดเพียบเลย จากคุณ : small girl - [ 26 เม.ย. 48 02:11:00 A:204.180.74.219 X: TicketID:062549 ]

ความคิดเห็นที่ 28 จบจากราม [ เรียน 7 ปี ] เกรด 2.28 สาวโสด หลักฐานของเรา - สมุดบัญชี - I 20 เรียน ภาษา 6 m. - Transcript / เราได้VISA 5  ปี จากคุณ : เราโง่เรียนไม่เก่งแต่ตั้งใจ (-=@Shi=-) - [ 26 เม.ย. 48 03:07:38 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มันก็ให้น่าทะแม่งๆ ที่ว่า ไม่ให้วีซ๋า เพราะ น้องสาวคุณเกรดต่ำ มัน discriminate เสียเว่อไป และ ทางสถานทูตก็บอกว่า ไม่มีกฎข้อนี้ --- ได้ถามชื่อคนรับสายหรือเปล่า ---------------------- การร้องเรียนของคุณ รับรองมีผล รับรองว่า น้องสาวคุณจะต้องได้วีซ่า ไปงานฉลอง เพราะ คนเมกันนั่นนะ ถ้าเห็นเราหงอ เค้าก็เชิดใส่ แต่ถ้าcomplain เค้าจะฟังและพิจารณา ให้ Complain ไปเยอะๆ ให้เหตุผลแย้งเจ้าหน้าที่ให้ได้ การที่เจ้าหน้าที่ไม่ให้ชื่อ ผิด -- เจ้าหน้าที่ทำงานให้Federal แบบนี้ คือ serve the public จะต้องให้ชื่อ เราจะได้รู้ว่าพูดกะใคร ในกรณีที่ร้องเรียนจะได้ร้องเรียนได้ถูก แม้แต่พวก Telemarketing เค้ายังมีหมายเลขให้เลย ดูแล้ว ว่าครอบครัวของคุณ มีฐานะการเงินที่มั่นคงพอควร ถึงสามารถส่งลูกถึงสองคนไปเรียนพร้อมกันที่อเมริกาได้ และ จบตามกำหนด ซึ่งเป็นเครดิทที่ทำไว้ดี น่าจะ apply ให้กับน้องสาวคุณด้วย เพียงแต่ขอให้ การ complain ในครั้งต่อไป ให้หาเหตุผลให้เยอะๆ อย่าใช้อารมณ์ อย่าขี้นเสียง ไม่งั้นจะเป็นผลเสียกับทางคุณ จากคุณ : ควรจะได้วีซ๋า - [ 26 เม.ย. 48 03:29:58 A:151.205.111.103 X: TicketID:091781 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อ่านแล้วน่าเห็นใจ จขกท จริง ๆ ดีครับ สู้ไม่ถอย !! จากคุณ : B.F.Pinkerton - [ 26 เม.ย. 48 04:21:57 ]

ความคิดเห็นที่ 31 แน่ใจเหรอว่าที่ป้าช่อง 8 ทำนั่นคือตามหน้าที่ เราว่าคุณที่เค้านั่งอยู่ช่องอื่นๆเค้าก็ทำหน้าที่ของเค้าเหมือนกันนะ ทำไมเค้าไม่เห็นต้องพูดจาไม่ดีเหมือนคุณช่อง 8 เลยหล่ะคะ เอาใจช่วยเจ้าของกระทู้ค่ะ เราว่าทุกคนที่ไปยื่นขอวีซ่าควรได้รับเป็นธรรม ได้รับการพิจารณาอย่างเสมอภาคกันไม่ใช่ตัดสินใจโดยไม่มีอะไรมาเป็นบรรทัดฐาน จากคุณ : ...kiki... - [ 26 เม.ย. 48 04:43:55 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เจ้าของกระทู้สู้เข้าครับ เอาเรื่องให้ถึงที่สุด ถ้ามีปัญหาอะไรอยากให้ช่วยมาโพสเลยครับ มีคนพร้อมช่วยเหลือคุณเยอะแน่ๆ จากคุณ : เก่งน้อย - [ 26 เม.ย. 48 08:12:20 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอให้เข้าใจว่าป้า เขาไม่มีการศึกษาสูงนะ หรืออีกอย่างคือขาดการศึกษานั่นเองครับ ไม่เคยมีหน้าที่หรืออำนาจเหนือคนอื่นเลยในชีวิต โดยกดขี่มาตลอด แต่พอได้สามีฝรั่ง เขาก็เลยเอาไปใช้งานเสียบ้าง ดีกว่าให้เกาะสามีฝรั่งกินอย่างเดียว แต่บังเอิญงานที่เขาได้รับ มันดูเหมือนจะมีอำนาจเหนือคนอื่นหน่อยก็เลยเอาอำนาจมาใช้แบบมั่ว ๆ มีหลายเหตุผลที่เจ้าหน้าที่มีการศึกษาและทำตามหน้าที่ทั่วไปไม่น่าจะนำมาใช้เช่น คุณอายุน้อยเกินไปที่จะเดินทาง คุณไม่มีความรู้เรื่องกฏหมาย มากระทู้นี้ ผลการเรียนไม่ดีพอ ดูจากเหตุผลแล้ว คนที่ได้รับเหตุผลด้านบนทั้งหมด คือคุณสมบัติผ่านหมดครับ แต่ไม่รู้จะให้เหตุผลในการปฏิเสธวีซ่าได้อย่างไร เลยออกมาอย่างที่เห็น ก็แปลกดีสถานทูตนี้ แต่ที่ไม่น่าแปลกก็คือ มีคนไปจ่ายค่าเงินที่เรียกว่า ค่าวีซ่า ให้เขาแต่ละวันเป็นแสน โดยที่ไม่ได้รับอะไรกลับคืนเลย จากคุณ : บุหงาตันหยง - [ 26 เม.ย. 48 09:11:19 A:192.168.1.105 X:61.91.158.77 TicketID:052742 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผมก็มาให้กำลังใจเจ้าของกระทู้ครับ ผมไม่อยากให้คนไทยต้องหงอกับฝรั่ง เว้นเสียแต่ว่าเราทำไม่ถูกเราก็ต้องยอม แต่ถ้าเรามีสิทธิ์ร้องเรียนเราก็ควรทำตามสิทธิ์ที่เราควรจะได้ ไม่ได้หมายความว่าเราตั้งใจจะไปว่ากล่าวเขา เพราะคำว่า "สิทธิ" นี่คนอเมริกันเข้าใจดีกว่าคนไทยเยอะ คำว่า "สิทธิ" มันศักสิทธิ์มากในประเทศอเมริกา เพียงแต่กลายเป็นเรื่องตลกในเมืองไทย จากคุณ : Paul - [ 26 เม.ย. 48 10:53:30 A:219.79.31.162 X: TicketID:094172 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ก็เข้าใจนะว่าสถานทูตไม่จำเป็นต้องให้เหตุผลว่าทำไมถึงไม่ออกวีซ่าให้ แต่ทำไมยัยคนนี้ถึงต้องมาหาเหตุผลไม่เข้าเรื่อง บางทีมันร้ายแรงไม่ได้ใกล้เคียงกับเหตุผลจริงๆเลยด้วยซ้ำ อย่างเคยอ่านกระทู้ที่เด็กม.5ไปขอวีซ่าและจะไปพักกับพี่สาวของเพื่อนสนิท แต่ป้าคนนี้ไม่ให้ หาว่าน้องผู้ชายคนนี้จะไปหาแฟน คือเด็กม.5 เนี่ย กับเหตุผลนั้น มันสมเหตุสมผลไม๊ แล้วก็อีกอันที่คนขอวีซ่าเพื่อจะไปงานศพคนในครอบครัวเค้า ยัยคนนี้ไม่ให้แถมมาบอกว่าคนตายไปแล้ว ถึงไปก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้ามันไม่สมเหตุสมผลที่จะให้ก็เงียบๆไปเลยดีกว่า ทำไมถึงไม่ทำเหมือนคนสัมภาษณ์ชาวอเมริกันช่องอื่นๆ ที่เวลาเค้าปฎิเสธวีซ่า เค้าก็พูดกันแค่ว่า 'ขอโทษครับ เราไม่สามารถออกวีซ่าให้คุณได้ ตอนนี้กฏของเราเข้มงวดมาก' แค่นั้นก็จบไป ใครจะไปโกรธเคือง พอคนได้รับเหตุผลที่มันไม่ควรจะเป็นเหตุผล แล้วยิ่งถ้าไม่จริงเลยสำหรับเค้า เค้าก็ต้องคิดไว้ก่อนว่าเค้าไม่ได้รับความยุติธรรมในการพิจารณาออกวีซ่า อ้อ ที่เล่าไปข้างบนว่ามีเพื่อนเรียนรามได้วีซ่า หลักฐานเค้าก็ไม่มีอะไรพิเศษค่ะ -หนังสือรับรองความเป็นนักศึกษา -บัญชีเงินฝากของพ่อเค้า -พาสปอร์ตที่ไม่เคยมีวีซ่าเดินทางไปไหนมาก่อนเลย -ตอนไปขอระบุว่าไปเที่ยวกับทัวร์ จากคุณ : Boo Yaa - [ 26 เม.ย. 48 11:47:33 A:24.19.97.193 X: TicketID:084537 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คนไทยที่ได้ วีซ่าถาวร ต้องไปขอเอกสารรับรองจากสันติบาล แต่คนที่ทำงานในสถานทูต ได้รับการปกป้อง แม้แต่ชื่อเสียงก็ไม่เปิดเผยให้รู้ ไหนล่ะความเสมอภาค จากคุณ : PDX Oregon - [ 26 เม.ย. 48 12:05:42 A:202.133.132.94 X: TicketID:000051 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็นแล้วก็ทุกๆ กำลังใจนะคะ คุณคห.ที่ 29 ตอนที่เราโทรไป complain เราพยายามพูดเสียง ให้เพราะมากที่สุด เรารู้ว่า เราเด็กกว่าคนรับโทรศัพท์ (สังเกตุจากเสียง) เราเลยแทนตัวเองว่า หนู และมีคำว่า ค่ะ ลงท้ายทุกครั้ง แต่เราก็รู้ตัวว่า เสียงเราคงไม่ดีนักหรอก เพราะว่าเรากำลังโกรธมาก โกรธจนสั่นไปทั้งตัว แล้วเสียงของเราก็สั่นมากๆ ด้วย เราไม่แน่ใจหรอกว่าปลายสายจะสังเกตุ หรือเปล่า เรื่องการวีน พ่อเราสอนเสมอว่าจะวีนใคร จะทำอะไรต้อง มีเหตุผล อย่าสักแต่ว่าใช้อารมณ์ พอพ่อเรารู้ว่าน้องเราไม่ได้วีซ่า ยังถามเลยว่าทำไม ครั้งแรกที่ไปแล้วน้องเราไม่มีทรานสคริปต์กับใบรับรองสถานภาพนักศึกษาแล้วต้องกลับไปใหม่อีกวัน พ่อเราก็ดุน้องเราไปว่า อย่าไปโกรธคุณป้า เป็นเพราะน้องเราสะเพร่าไม่เตรียมพร้อมเอง แม่เราบอกเราตลอดว่าคุณป้าเค้าพูดจาดีนะ ยังยิ้มให้แม่เลย บอกว่าลูกสาวแม่เก่งจังไปไม่ถึงสองปีจะจบแล้ว ถ้าอย่างนั้น ทำไมไม่ให้น้องเรามางานเราล่ะ????? ตอนนี้แผนทุกอย่างรวนไปหมด ญาติเราทางนี้จองทัวร์ จองตั๋วเครื่องบินเตรียมพาแม่กับน้องเราเที่ยวที่ต่างๆ ก็ต้องยกเลิก นี่แม่เราก็เลื่อนวันมาจากวันศุกร์นี้ไปเป็นวันพุธที่ 4 แทน เราต้องเลื่อนวันที่จะได้เจอแม่ไปอีกอะ ตอนที่เราโทรไป เราพยายามถามหาเหตุผลและมาตรฐานในการออก วีซ่า แต่ว่าทางเจ้าหน้าที่ที่รับโทรศัพท์เราไม่สามารถตอบคำถามอะไร ที่เป็นประโยชน์หรือว่าทำให้เรากระจ่างขึ้นได้เลย เราจำได้ เราพยายามถามชื่อของคุณป้าเพื่อที่จะระบุได้ถูกคน เจ้าหน้าที่ที่รับโทรศัพท์บอกเราว่า ต้องขอโทษด้วยนะคะ ทางเราไม่สามารถให้ชื่อเจ้าหน้าที่คนไหนได้ถ้าหากว่าเจ้าตัว ไม่อนุญาติ เราถึงได้ถามกลับไป (อย่างที่เล่าไปแล้ว) ว่า ถ้าอย่างนั้นจะทราบได้ยังไงว่าวีนถูกคน เค้าถึงบอกให้เราระบุหน้าต่าง เราเลยต้องถามกลับไปว่า เจ้าหน้าที่จะนั่งหน้าต่างตัวเดิมใช่ไหม และเค้าก็ตอบเรากลับมาว่าใช่ค่ะ เรายอมรับว่า เราเองก็ไม่มั่นใจนักว่าการร้องเรียนครั้งนี้จะได้ผลหรือเปล่า เราไม่คาดหวังอะไรหรอก แต่เราก็อยากให้ทางสถานทูตมีมาตรฐานที่จะสามารถเชื่อถือได้มากกว่านี้ ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับคนแค่คนเดียว และถ้าคนๆ เดียวถูกร้องเรียนมากเป็นร้อยๆ (อย่างที่เจ้าหน้าที่เค้าบอกพ่อเรามา) ก็ควรมีการจัดการที่ดีกว่านี้ เพราะการที่คนๆ หนึ่งได้รับการร้องเรียนมากขนาดนี้มันไม่น่าจะเป็นเรื่องปกตินะ น้องเราบอกว่า สังเกตุดูทุกคนที่เข้าช่องนี้ คุณป้าแกปฎิเสธหมดทุกคน น้องเราว่า บางคนเดินถือพาสปอร์ตร้องไห้กลับไปก็มี ที่แค้นอีกคน ก็เป็นเจ้าหน้าที่ผู้ชายที่ให้บัตรคิว ตอนที่น้องเราเดินไปเอาบัตรคิว เค้าถามว่าอยากสัมภาษณ์กับใคร น้องเราบอกว่าขอเป็นเจ้าหน้าที่ อเมริกันแล้วกัน เค้าถามน้องเรากลับมาว่า แน่ใจเหรอ? ไม่ใช่ว่าแค่ฟังออกอย่างเดียวนะ ต้องเข้าใจด้วยนะ อ้าว พูดจาอย่างนี้ ถ้าอย่างนั้นอย่าถามตั้งแต่แรกให้เสียอารมณ์ แล้วก็ยื่นบัตรคิวมาเลยดีกว่า เราเข้าใจนะว่า เค้าอาจจะไม่ต้องการ ให้คนที่ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษไปงกๆ เงิ่นๆ กับเจ้าหน้าที่อเมริกัน เพราะจะทำให้เสียเวลาเปล่าๆ แต่เราก็คิดว่าเค้าน่าจะมีวิธีการพูด ให้คนฟังรู้สึกดีมากกว่านี้ได้สิ เฮ้อ เราบ่นอีกแล้ว ยิ่งบ่นยิ่งแค้น ยิ่งแค้นก็ยิ่งบาป ว่าแล้วก็ไปนั่งสมาธิสงบจิตใจดีกว่า น้องเราเค้าดวงไม่ดีเองแหละ ซวยตั้งแต่เจอคนแจกบัตรคิวแล้ว ตอนนี้เราก็ทำใจแล้วล่ะว่า น้องเราคงไม่ได้มาหรอก เค้าคงไม่มีดวงที่จะได้มาประเทศนี้เองแหละ จากคุณ : small girl - [ 26 เม.ย. 48 14:35:21 A:204.180.74.219 X: TicketID:062549 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ความเสมอภาคเหรอ ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างไกลตัวอ่ะ ไม่ใช่เฉพาะที่สถานทูตอ่ะ ลองมองรอบๆตัวเรา มีเหรอความเสมอภาค เวลาไปติดต่อราชการเค้าก็ต้องบริการ VIP ดีกว่าเป็นเรื่องธรรมดา ขึ้นศาลบางครั้งก็ต้องใช้ทนายเก่งๆ คนผิดยังหลุดเยอะแยะๆ เพราะอะไร ก็เพราะเค้าไม่รู้ว่าเจตนาจริงๆคุณเป็นยังไงน่ะสิ หลักฐานที่คุณส่งไปก็ไม่สามารถทำให้เค้าเชื่อได้บางครั้ง ก็เหมือนกะคุณขึ้นศาลนั่นแหละ อีกอย่างการที่เค้าไม่อณุญาตให้บุคคลธรรมดาอย่างพวกเราๆ เข้าประเทศ ก็ไม่ได้กระทบอะไรกะความสำพันธ์ระหว่างประเทศมากนัก จะไปฟูมฟายก็ปวดหัวเปล่าๆ เพราะฉะนั้นเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ จับมือกะจีน สร้างความแข็งแกร่งแล้วอย่าไปง้ออเมริกามากนัก ลองคิดดู ยุคนี้มัน Digital ขนาดไหน ไม่เหมือนแต่ก่อน ตอนนี้ทุกอย่างผลิดในเอเชีย ทำงานอะไรก็เริ่ม outsource อีกหน่อยเศรษกิจที่นู่นก็จะดิ่ง ถ้าเราแข็งๆ เดี๋ยวเค้าก็มาง้อเราเอง แต่ตอนนี้ปล่อยมันไปก่อน ส่วนคนที่ไปถามชื่อยัยป้านั่น ไม่ต้องห่วง เค้าไม่บอกหรอก เพราะถ้าบอก ยัยป้านั่นคงไม่อยู่ยงคงกระพันมาจนถึงป่านนี้ แต่ต้องระวังเพราะเกิดเค้ารู้ว่าคุณเป็นใคร เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ เรื่องพวกนี้ นอกจากหลักฐานคุณค้องปึกแล้วคุณต้องดวงแข็งด้วยอ่ะ ลองคิดเล่นๆ คนไปขอ Visa อาทิตย์นึงเป็นพันๆคน อาจถึงหมื่น ใครจะมีเวลาไปนั่งฟังคุณอธิบายหรือมานั่งพิจารณาหลักฐานเพิ่ม เวลาเค้าเห็นว่าหลักฐานคุณ conflict กัน อย่างเช่น ในบัญชีมี 5 แสน แต่บอกไปว่าเพิ่งเริ่มทำงานมาปีนึง เงินเดือน 15000 อย่างงี้เป็นต้น พอเค้าเจอแบบนี้เค้าไม่มานั่งพยายามหาเหตุผลมาสนับสนุนคุณหรอก ว่าทำไมเงินเดือนแค่นี้ถึงมีเงินเก็บตั้งหลายแสนในปีเดียว มันเป็นหน้าที่คุณที่ต้องทำให้หลักฐานที่ยื่นมันไม่ขัดแย้งกันเอง แล้วที่เหลือก็ไปวัดกันที่ดวง ถ้าเป็นผม หากผมไม่ได้ ผมคงไม่ไปถามชื่อป้านั่น เพราะผมคิดว่า เค้าคงต้องคิดว่าผมคงอาฆาตยัยป้านั่น ซึ่งส่วนใหญ่คนปกคิคงไม่อยากรู้ชื่อแส้ หากไม่คิดร้าย แล้วเดี๋ยวสถานทูต Mark ชื่อเราเอาไว้คราวนี้ซวยใหญ่เลย ยิ่งไม่ใช่คนใหญ่คนโตด้วย เพื่อนๆในห้องก็ระวังตัวด้วยนะครับ สถานทูตเค้าก็ต้องคุ้มครองคนของเค้า เรื่องแบบนี้เกิดกะใครก็ต้องเสียความรู้สึกทั้งนั้นอันนี้เข้าใจ เราอาจจะร้องเรียนได้แต่ก็ต้องสงบสติอารมณ์นิดนึง ไม่งั้นอารมณ์จะนำให้เราวีนแตก แล้วก็จะทำให้อะไรๆแย่ลง เกิดแบบนี้มา เค้าตัดสินแล้วว่าไม่ให้ก็แสดงว่าเค้าต้องมองเป็นความขัดแย้งของหลักฐานรวมถึงความน่าจะเป็นต่างๆ เราน่าจะมองกลับมาที่ตัวเราเองก่อนว่าตอนนั้นพลาดอะไร ไม่ใช่พอเค้าไม่ให้ ก็ไปโวยก่อนว่า ยัยป้านั่นเคี่ยว บ้าพลัง ขอร้องเรียน ขอรู้ชื่อ ซึ่งพอรู้แล้วได้อะไร แค่เราบอกขอร้องเรียนช่องนี้ ซึ่งสัมภาษณ์เวลานี้ ก็น่าจะพอ แต่ส่วนใหญ่คนที่ไม่ได้ Visa จะโกรธและเสียความรู้สึก จนระงับอารมณ์ไม่อยู่แล้วก็จะวีนออกมา คนที่ไม่ผ่านแล้วไปวีนผมว่าตอนนี้ก็น่าจะมีเป็นหมื่นๆแล้ว คุณก็เป็นแค่หนึ่งในหมื่นของประเทศไทย (หรืออาจจะแสนๆด้วยซ้ำ) ซึ่งถ้าคำนวนจากทั้งโลก ก็คงมีคนขอ Visa แล้วก็ไม่ผ่านเป็นล้านๆคน สถานทูตเค้าไม่น่ามาสนใจ ตาสีตาสาหรอก ถ้าคุณเป็น VIP ก็ว่าไปอย่าง ถ้าคุณมัวแต่มานั่งหาคำตอบว่า ทำไมๆๆๆ คุณก็จะเจ็บใจไม่เลิก นอนไม่หลับ แค้นไม่มีที่สิ้นสุด โลกเรายังมีอะไรที่ไม่เสมอภาคอีกเยอะ เพื่อนผมคนจีน เรียนไม่เก่งหรอก แต่มันไม่เหมือนใคร แต่มีโอกาสได้รู้จักกะบุคคลสำคัญคนนึง แล้วบุคคลนี้ Recommend ไปที่อาจารย์ที่ Harvard ผลก็คือ มันเข้าไปเรียนโทได้ทั้งๆ ที่เกรดก็ไม่ได้สูงมาก ในขณะที่เด็กเรียนดี เกรดสูงๆ ได้ honor เข้าไม่ได้ แบบนี้คุณว่า Harvard ยุติธรรมมั๊ย แล้วบางคนพ่อโดนผู้ร้ายยิงตาย แต่ คนยิงกลับโดนศาลยกฟ้อง ถ้าคุณหมกมุ่นอยู่กะการเรียกร้องหาความยุติธรรมหรือความเสมอภาคน่ะ คุณก็จะประสาทแด๊กปล่าวๆ กลับไปเตียมตัวใหม่แล้ว ลองยื่นไหม่ดู เพราะมีหลายคนยื่นครั้งที่สองแล้วผ่านอย่างงงๆ ก็ถือว่าคราวนี้เราซวยแล้วกัน อย่าลืมว่าเค้าใช้มนุษณ์พิจราณา และตัดสินใจ ซึ่งมันมี Human error ค่อนข้างสูง มนุษย์เราอาจจะมีอารมณ์เข้ามาเป็นปัจจัยตัดสินด้วย ใครจะรู้วันนี้ป้าช่องแปดซะมีไม่นอนด้วยมาหลายเดือน หรือไม่ก็เมนไม่มา เปอร์เซ็นของการอะลุ่มอล่วยเลยต่ำ เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้และอีกหลายๆคนที่ Visa ไม่ผ่าน ขออย่าให้ทำอะไรลงไปด้วยอารมณ์เลยครบ มีแต่เสียกะเสีย เรื่องแบบนี้มันเหมือนการประกวด คุณจะไปโวยกรรมการก็ไม่ได้ ดูอย่างนางสาวไทยปีนี้ ผมล่ะแค้นมาก ทำไมน้อง ... ไม่ได้นะ จากคุณ : visa master - [ 26 เม.ย. 48 17:46:22 A:210.213.16.222 X: TicketID:073565 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ชอบคุณ visa master ตอบมาเอาเหตุผลมาใช้ในการตอบได้ดี ตอนแรกอ่านแค่จขกท.เขียนเราก้อเริ่มจะมาโวยวายด้วยคนทำไมป้าช่องแปดเป็นแบบนี้ พออ่านคุณตอบแล้วแบบทำให้เราเข้าใจมากขึ้นเยอะเลย...ขอบคุณคะ ตอนอยู่ที่จีนเพื่อนๆคนจีนบอกว่า ถ้าเป็นหญิง ไม่แต่งงาน อายุเลยเท่าไรไปแล้วเนี่ยหล่ะ ไม่ต้องคิดขอวีซ่าเลย balcklist ชัวร์ๆ ส่วนเพื่อนๆคนไทยที่เรียนจีนที่นั่นมาหลายปีจะไปเที่ยวเมกาขอวีซ่าจากที่นั่นโดยปฏิเสธสามครั้งรวดเลย ทั้งสองคนเลยนะ ก้องงๆดี ส่วนเราได้วีซ่าสิบปีมาตอนหลัง 9-11ได้สักครึ่งปีแล้ว ก้อได้แบบสิบปีเลยมากะน้อง ทั้งที่พึ่งเรียนจบไม่มีงานทำแต่จะไปเยี่ยมพี่ชาย...ก้องงๆดีว่าใช้ไรตัดสินกันบ้างนี่ จากคุณ : เด็กหัวโตขโมยอมยิ้ม (jump) - [ 26 เม.ย. 48 18:05:56 ]

ความคิดเห็นที่ 40 คุณ visa master ขอบคุณนะคะที่แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างทำให้เห็น ในอีกมุมหนึ่ง เราไปคุยกับเพื่อนเหมือนกัน เค้าบอกว่า อย่าไปโกรธเลย ไม่เข้าใจระบบอีกเหรอ นี่ก็คือระบบของเมืองไทยอย่างไรละ เค้าบอกเรา ว่าถ้าเธอจะเส้น เธอต้องทำตั้งแต่ก่อนที่จะไปขอแล้ว ไม่ใช่ขอแล้วไม่ได้ แล้วค่อยมาจัดการทีหลัง เค้าปฏิเสธไปแล้ว เราไม่มีทางรู้หรอกว่า ระบบ ข้างในเป็นยังไง คุณป้าลองว่ามีคนไม่ชอบมากขนาดนั้นแต่ยังอยู่มาได้ ไม่คิดบ้างหรือว่า คุณป้าเค้าก็ต้องมีเส้นเหมือนกัน หรือไม่ คุณป้าเค้าก็ อาจจะเป็นแค่ฟันเฟืองตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งในระบบ อาจจะเป็นคนอื่นก็ได้ ที่อยู่ เหนือคุณป้าขึ้นมาอีกที ที่คอยบอกให้คุณป้าต้องทำแบบนี้ เราอยู่ข้างนอก เราไม่มีทางทำอะไรได้หรอก เพื่อนเราบอกว่า เราไม่ยอมเล่นตามระบบ ตั้งแต่แรก ตอนนี้เค้าปฏิเสธวีซ่าให้น้องเราไปแล้ว การที่จะไปกลับคำแล้ว ก็มาให้ใหม่นะ ไม่คิดบ้างเหรอว่าอาจจะไปหักหน้าใครบางคนในนั้น เค้าว่า ครอบครัวเราคิดว่าตัวเองพร้อมทุกอย่าง พอไม่ได้ก็เลยพาลมาโกรธคุณป้า เค้าว่า เราควรจะใจเย็นแล้วก็ยอมรับระบบและความเป็นไปเหล่านี้ ซึ่งมันก็มี มาตั้งนานแล้ว น้องไปไม่ได้แต่ก็ยังดีที่แม่ไปได้นี่นา ดีกว่าไม่มีใครเลย เพื่อนเราเค้าบอกให้เราใจเย็นๆ แล้วก็ปล่อยไปซะ คิดซะว่าเป็นบทเรียน คราวต่อไปก็จะได้รู้ว่าควรจะเล่นตามระบบยังไง เรารุ้ว่าคนที่เข้ามาอ่านต่อ อาจมีบางคนที่ตั้งคำถามว่า "ระบบ" คืออะไร ขอโทษจริงๆ ที่อธิบายไม่ได้ เพราะว่าเราก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน ฟังที่เพื่อนเราพยายามจะอธิบายให้เราฟังแล้ว ทั้งหมดทั้งปวงก็คือคำว่า "เงิน" และ "อำนาจ" นั่นเอง ในขณะที่เราฟังเพื่อนเราพูดถึงเรื่องพวกนี้ เราก็ได้ แต่รู้สึกว่า แย่จังเลย จะมีวันที่ประเทศไทยปลอดจากระบบพวกนี้ไหม? เพื่อนเราบอกว่าไม่มีหรอก เราต้องรู้จักระบบ เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับมัน และเรียนรู้ที่จะใช้มัน เฮ้อ เกิดเรื่องนี้ขึ้นมาก็ทำให้เรามองอะไรหลายมุม มากขึ้น แม่เราว่าโทษใครไม่ได้หรอก ถือเสียว่า น้องเราไม่พร้อมเองก็ แล้วกัน สุดท้ายนี้ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกๆ กำลังใจ แล้วก็ความคิดเห้นนะคะ คงจะโพสเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เพราะว่าเรื่องก็จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทีนี่ก็คงต้องกลับไปตั้งใจเตรียมตัวสำหรับการ defense ในวันศุกร์นี้แทน แล้วดีกว่า ปล. ถึงน้องเราไม่มาแต่รายการของฝากที่ต้องหิ้วกลับไปให้นี่เพียบเลย จากคุณ : small girl (เจ้าของกระทู้ค่ะ) - [ 26 เม.ย. 48 18:06:27 A:204.180.74.219 X: TicketID:062549 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เป็นกำลังให้ จขกท นะคะ อ่านแล้วเห็นใจคุณมาก ส่วนคุณ visa master ตอนแรกที่คุณให้ความเห็นมามันค่อนข้างแรงค่ะ แต่พอได้อ่านมาเรื่อยๆ จึงเข้าใจ และคิดว่าเหตุผลของคุณมันตรงค่ะ ยังไงก็ขอโทษด้วยที่แอบเหน็บไปนิด ไม่ว่ากันนะคะ อิอิอิ ส่วนเพื่อนที่ได้วีซ่ามา 10 ปีนั้น เค้าและครอบครัวค่อนข้างมีฐานะค่ะ และเดินทางมาแล้วเกือบรอบโลก จึงไม่มีปัญหาอะไรในการได้วีซ่า ส่วนหลักฐานของเค้าก็เหมือนกันทุกๆ คนแหล่ะค่ะ เพียงแต่เงินเค้าหนา และปั๊มเยอะเท่านั้นเอง เราเองก็ใกล้จะถึงคิวสัมภาษณ์แล้วเหมือนกัน แต่เราก็ไม่คิดอะไรมากนะคะ แต่คิดว่าถ้าดวงจะได้ก็คงได้ แต่หลักฐานที่ยื่นไป ครบค่ะ จากคุณ : แมวน้อยน่ารัก (alcohol 65 degree) - [ 26 เม.ย. 48 18:45:02 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คนที่ 38 เจ้าหน้าที่สถานทูตเมกา คือเจ้าหน้าที่ราชการ จะต้องให้ชื่อ ถ้าคนถาม เพราะ คนไทยที่ทำงานรัฐของเมกา ย้ำมา และ ความเป็นคนเมกา การระบุชื่อเมื่อ complain ย่อมจะทำให้มีน้ำหนัก เพราะไม่งั้นจะเป็นการกล่าวหากันลอยๆ เป็นสิทธิของเจ้าของกระทู้ที่จะต้องรุ้เหตุผล ว่าทำไมถึงถูกปฎิเสธวีซ๋า ถึงแม้ว่า คนจะสมัครเป็นหมื่นๆคนต่อวันก็เถอะ ในเมื่อสถานทูตรับค่า fee ไปแล้ว จะเอาไปเฉยๆ โดยไม่ให้เหตุผลได้กะไร เพราะการที่คนไทยกลัว กลัวว่า จะถูกเป็นแกะดำ กลัวว่าจะเป็นภัยแก่ตัว เลยทำให้ไม่มีการ complain ที่เป็นกิจจะลักษณะ ได้แต่บ่นๆ แล้วลืมไป เพราะคิดว่า โห้ย เราตัวแค่นี้ ใครเค้าจะมาให้ความสำคัญ ก็ยังคิดว่า เจ้าของกระทู้ทำถูก ที่ข้องใจกับการปฎิเสธวีซ๋าของน้องสาวของคุณ และ มีการสอบถาม เพียงแต่ความ Arrogant ของเจ้าหน้าที่นั่นเอง จากคุณ : เหอ - [ 26 เม.ย. 48 19:20:33 A:151.202.115.197 X: TicketID:091781 ]

ความคิดเห็นที่ 43 http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H3370791/H3370791.html จากคุณ : Rovershearer - [ 26 เม.ย. 48 20:08:57 ]

ความคิดเห็นที่ 44 http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=seii&group=1 จากคุณ : Rovershearer - [ 26 เม.ย. 48 20:09:32 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ควรฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายด้วย เอาให้มันหลาบจำไปเลย ถึงเวลาใช้กรรมแล้ว ทำกับคนอื่นไว้มาก เราอยากดักตบหน้าสถานทูตด้วยซ้ำ จากคุณ : แค้นกว่า - [ 27 เม.ย. 48 23:16:58 A:210.246.74.54 X: TicketID:001064 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เอ่อออ เห็นด้วยกับเหตุผลของคุณ Visa Master ครับ เป็นความจริงครับ ที่ว่า คนของสถานฑูตนั้น จะได้รับความคุ้มครองของประเทศนั้น ๆ ไม่ว่าอยู่ที่ไหน เราก็ไปยุ่งกะเขาไม่ได้  เป็นกฎหมายน่ะครับ ขืนยุ่งกะเขาจริง ๆ ก็เป็นปัญหาระหว่างประเทศนะครับ แล้วเราจะซวยนะครับ   ทางที่ดี ควรใช้เหตุผลที่สมเหตุสมผลจะดีกว่านะครับ  ไม่ต้องไปสนใจป้าเค้าอะไรหรอกน่า เด๋วกรรมมาสนองเขาแหละ มันก็ถูกอีกแหละว่า เวลาจะทำอะไรต่อไป เราต้องเตรียมมาอย่างดีเลยนะครับ ต้องเช็คดี ๆ นะครับ   คุณเจ้าของกระทู้ครับ ทำใจยอมรับเถอะนะครัีบ คุณยังมีโอกาสอีกนะครับ สู้ ๆ จากคุณ : KJ_FBI - [ 28 เม.ย. 48 00:19:47 ]

ความคิดเห็นที่ 47 Khun small girl .I just have chance to read your problem :I cheer you so much to do something with this lady .I agree that embassy poeple worker are working under the law of that contry .But about this lady story are make problem for somebody who would like to go to US for important thing .If she expert for look at the poeple who will legal or ilegal .In this web will have not story of her . I cheer you up up up to do something with her for many poeple in the future .You will be great lady in US visa history . I cheer you krab . จากคุณ : **********Jim Jum ******* - [ 28 เม.ย. 48 22:50:11 A:80.35.184.208 X:80.58.20.107 TicketID:092919 ]

ความคิดเห็นที่ 48 มาอัพอีกหน่อยนะคะ แม่เราเค้ากลับไปสถานทูตมา บอกเจ้าหน้าที่ข้างหน้าที่ให้บัตรคิวว่า ต้องการมาพบป้าเพราะอยากทราบว่าทำไมถึงไม่ให้วีซ่าน้องเรา ทั้งที่ก่อนหน้านั้นก็บอกกับแม่ว่าเราว่าเค้าพอใจหลักฐานทางการเงินและทุกอย่างที่เป็นของผู้ปกครองขอดูแต่ของทางน้องเราเท่านั้น แล้วทำไมถึงกลายเป็นว่าปฎิเสธไม่ให้ไปได้ เจ้าหน้าที่คนนั้นขอโทษแม่เราใหญ่แล้วบอกว่า ขอให้ยื่นทำเรื่องใหม่อีกทีได้ไหม แล้วคราวนี้เค้าจะจัดให้สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่คนอื่น แต่น้องเราบอกไปว่า ไม่ ไม่ทำอีกแล้ว แล้วต่อไปนี้ก็จะไม่มีวันมาเหยียบสถานทูตอีกแล้วด้วย ต่อให้ต้องไปเรียนก็จะไปเรียนที่อื่น อย่าได้หวังว่าจะมาอเมริกา อันที่จริงเรากับน้องคนที่สองก็ไม่เคยคิดจะมาที่นี่เหมือนกัน ตอนนั้นเราอยากไปแคนาดามากกว่า ค่าเงินก็ถูกกว่าด้วย แต่พอดีเรามีญาติอยู่ที่นี่สองคนแล้วญาติเราก็โทรไปหาเรา ถามว่าทำไมไม่อยากมา มาอยู่ใกล้ๆ เค้าสิ มีปัญหาอะไรเค้าจะได้ช่วยได้ สุดท้ายเราเลยต้องมา ตอนไปขอวีซ่าแล้วมีปัญหา เรายังบอกกับน้องอยู่เลยว่า เราให้โอกาสป้าครั้งเดียวเหมือนกัน ถ้าป้าไม่ให้วีซ่าเรา เราก็จะไม่มาอเมริกาเหมือนกัน เราเล่าให้ advisor เราฟัง เค้ายังว่า มีแบบนี้ด้วยเหรอ ไม่อยากจะเชื่อเลย พ่อเราบอกว่า ตอนที่เขียนเรื่องร้องเรียน อย่าไปตำหนิการทำงานของคุณป้าว่าดีหรือไม่ดียังไง แต่ให้ทำเป็นเหมือนกับว่าเราเล่าประสบการณ์ให้ท่านกงศุลฟังว่า คุณป้าถามอะไรมา พูดมาแบบไหน เชื่อปะ ตอนที่เราขอมากับน้อง คุณป้าถามว่าทำไมต้องไปพร้อมกันสองคน ทำไมไม่ไปคนเดียว อ้าว ป้าก็พ่อหนูจะส่งพร้อมกันสองคนมีปัญหาอะไรอะ เนี่ย พ่อเราบอกว่าให้เล่าลงไป ให้เห็นว่าคุณป้าไม่ได้ทำหน้าที่ของตน คุณป้ามีหน้าที่ดูแค่หลักฐานว่าพร้อมไหม จะให้หรือไม่ให้วีซ่า ไม่ใช่มาออกความคิดเห็นว่า ควรไปคนเดียวหรือสองคน แล้วบ้านเรานะ เอา statement ของ bank ไปให้ป้าดู ป้าบอกว่า ไม่จำเป็นอะ แปลกไหม? ก็คือพยายามชี้ให้ทางสถานทูตเห็นว่า คนของเค้าทำงานไม่ถูกจุด สนใจหรือว่าตั้งคำถามกับสิ่งที่ไม่ใช่เรื่อง คือพยายามใช้เหตุผลเข้าว่านั่นแหละ นี่เราก็ร่างๆ อยู่ ได้สามหน้าแล้วล่ะ ต้องขอเกลาต่ออีกนิดหนึ่ง แล้วก็จะส่งไป ไม่มั่นใจจริงๆ แหละว่าจะได้ผลมากน้อยแค่ไหน แต่ก็ยังอยากให้ทุกคนช่วยกันทำ เพราะเราเชื่อว่า สักวันหนึ่ง ต้องส่งผลแน่นอน อย่างที่มีคนข้างบน โทษทีจำไม่ได้อะว่าคนที่เท่าไร บอกเอาไว้ว่า สักวันหนึ่ง ป้าก็ต้องได้รับผลกรรมตามสนองจนได้นั่นแหละ...สาธุ จากคุณ : small girl - [ 29 เม.ย. 48 06:37:36 A:204.180.74.219 X: TicketID:062549 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เขียนผิดอะ ต้องเป็น adviser ต่างหาก จากคุณ : small girl - [ 29 เม.ย. 48 06:41:33 A:204.180.74.219 X: TicketID:062549 ]

ความคิดเห็นที่ 50 agree with visa master. From the US. perspective, If u graduated from no name university. it is likely that you are gonna be robinhood krub. So they won;t give you VISA. จากคุณ : it's true - [ 29 เม.ย. 48 14:04:31 A:67.180.160.151 X: TicketID:051698 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ยังไงผมไม่ค่อยเห็นด้วยกะการไปถามชื่อของป้า และคิดว่าเค้าไม่บอกแน่ๆ เราแจ้งเค้าไปว่าเราสัมภาษณ์เวลานี้ ช่องนี้เค้าก็รู้แล้วว่าเป็นใครยิ่งบอกว่าเป็นคนไทยยิ่งรู้เลยว่าใคร อีกอย่าง ในกรณีนี้มันค่อนข้างชี้ชัดว่า เราอยากรู้ชื่อป้าเค้าและที่อยู่เพื่ออะไร ทำไมไม่คิดว่าถ้าทุกคน เอาแค่ในพันทิพรู้ชื่อป้าขึ้นมา อะไรจะเกิดขึ้น เอาแค่คนในพันทิพลงขันกันสัก 100 บาท แค่นี้ก็จ้างมือปืนระดับโลกมาเก็บได้แล้ว สถานทูตเค้าไม่โง่พอที่จะไม่รู้หรอก ว่าป้านั้นโดนคนไทยหลายคน แค้น แค่ไหน เค้าจำเป็นต้องปกป้องคนของเค้า เหมือนคุณทำงานเป็น Agent แล้ว FBI เปิดเผยชื่อและที่อยู่คุณ ครอบครัวคุณไม่เดือดร้อนเหรอ ผมกลับมองว่าการไปเค้นถามชื่อยัยป้านั่น นอกจากจะไม่ได้รับคำตอบแล้ว ยังอาจทำให้ทัศนคติของสถานทูตต่อตัวเราแย่ไปด้วย เจ้าหน้าที่สถานทูต เป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐ (US Government Officer) ไม่ใช่ข้าราชการ (ข้าราชการ แปลว่า คนที่ทำงานให้ในหลวง) ฉะนั้นเงินเดือนเค้ามาจากภาษีของประชาชนเค้า ถ้าคุณได้รับบริการที่ไม่ดีในหน่วยงานที่เค้าสามารถเปิดเผยชื่อได้ โดยที่คุณเป็น Citizen คุณอาจจะโวยได้เต็มที่ เพราะคุณโดนบังคับให้จ่ายตังจ้างมาทำงาน (ภาษี) หากคุณเป็นคนต่างชาติ แล้วยิ่งเป็นใครไม่รู้ เค้าจะมาแคร์คุณทำไม (คุณเป็นแค่หนึ่งในจำนวนคนหลายล้านคนที่มาขอ VISA) ยิ่งกรณีของเราคือ เรามาซื้อบริการเค้า ซึ่งเค้าก็ไม่ได้บังคับให้เรามา เราไม่ไปขอ VISA เค้าก็ไม่ได้มาง้อเรา เราเองต่างหาก กระเสือกกระสนอยากจะไป พอเค้าไม่ให้ก็แค้นอกแค้นใจ บางคนอาละวาด ตะโกนด่าเลยก็มี และในที่สุดคุณก็ทำอะไรไม่ได้ อีกทั้งยังมีความเจ็บใจไม่ลืมเลือนฝังอยู่ในอก ทุกข์ใจปล่าวๆครับ อย่าไปเครียดกะมันมากเกินไป เพราะอย่างที่บอก หลักฐานต้องสัมพันธ์กันหมด ไม่มี Conflict ไม่ใช่แค่แน่นอย่างเดียว นอกจากนี้ก็อยู่ที่ดวงด้วยส่วนนึง ไม่ได้วันนี้ วันหน้าถ้าเราพร้อมแล้วโชคดี ก็ผ่าน คุณอาจไปร้องเรียนได้ คุณคิดว่ามันไม่ยุติธรรมอย่างไรก็ว่าไป แต่เรื่องถามชื่ออะไรนี่ ผมว่ามันเปล่าประโยชน์และเค้าไม่บอกคุณหรอก เพราะถ้าเค้าบอก ป่านนี้ คงมีชื่อยัยป้า Post เป็นพันๆกระทู้ในห้องนี้แล้ว แต่ก่อนจะไปร้องเรียน คุณต้องแน่ใจว่าหลักฐานที่คุณเตรียมไป รวมทั้งคำสัมภาษณ์ที่คุณให้ไป มันมีช่องโหว่อะไรหรือเปล่า ลองสำรวจตัวเองก่อนที่จะไปโวยเค้า ไม่งั้นคุณจะเสียเวลาและเสียความรู้สึกขึ้นไปอีก หลายคนมานั่งบ่น กรูมีตัง ๆ ๆ ทำไมมันไม่ให้ผ่าน มันโง่ๆๆๆๆ อะไรประมาณนี้ แต่อย่างที่บอก เงินเดือนหมื่นกว่าๆ แต่เอาบัญชี เป็นล้านๆไปยื่น พอเค้าถามก็บอกไม่ได้ว่ามาจากไหน เพราะที่บ้านฝากให้ พอเค้าไม่ให้ ก็มานั่งบ่นๆๆๆ ทั้งๆที่ตัวเองเตรียมตัวไม่พร้อม คุณ Small Girl ใจเย็นลงเยอะ เป็นเรื่องที่ดีมากครับ เชื่อคุณพ่อไว้ดีแล้วครับ เล่าปัญหาของเราให้เค้าฟัง ก็พอ แต่อย่าไปสับแหลกป้านั่นเลยครับ ทุกอย่างมันไม่มีอะไรแน่นอน มาตรฐานการ ให้ผ่านกะไม่ให้ผ่าน visa นั้นไม่ใช่ 100% ส่วนใหญ่คนที่สัมภาษณ์เค้าก็มองจากประสบการณ์ที่ผ่านมาที่เค้าเคยเจอ ซึ่งมันก็ไม่ได้รับรองว่าจะถูกต้องเสมอไป เป็นกำลังใจให้กับ คุณ Small Girl นะครับ ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี ยังไงก็ต้องขอโทษทุกคนด้วยถ้าให้คำพูดที่แรงเกินไป พิมพ์ไม่ค่อยเก่งแล้วก็นึกคำอ้อมๆไม่ออก แต่เจตนาก็ไม่ได้คิดจะดูหมิ่นใคร ตราบใดที่เรายังต้องง้อเค้าอยู่ เค้าก็ไม่ได้ให้ความสนใจเรามากนักหรอกครับ เค้าไม่ให้เราคนนึง ก็ยังมีอีกเป็นร้อยๆคนไปขอ VISA ทุกวันๆ จากคุณ : visa master - [ 29 เม.ย. 48 15:22:00 A:61.90.24.251 X: TicketID:073565 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เคยได้ยินหลายคนพูดว่าอเมริกาเป็นประเทศที่ให้โอกาสคน ฮืม น่าจะจริง ให้โอกาสเสียตังค์ค่าขอวีซ่าฟรี ๆ ตั้ง 4,000บาท ทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้เลยว่าจะได้หรือไม่ได้ แปลกดีนะ จากคุณ : Bryan - [ 29 เม.ย. 48 21:03:58 ]

ความคิดเห็นที่ 53 Khun Small Girl ,PLs know something .you already have fanclub .I always following you .You well done krab .Actualy .Yes poeple who working in the embassy is US citizen and control under US law but USA ahve money from student .THis is business .If everybody think like khun VISA MASTER and make it quiet .I think this is problem coz THai poeple go to studying in US are pay money and notr make problem for US goverment .IF I think Thai student is customer and US embassy is company .THe company have to responsibility when poeple in the company make problem for customer .In Khun small girl case .Herfamily are strong and have not enough reason to refuse visa . Anyway .I think we do something for this lady better quiet .I cheer you again krab khun Small girl .At least you will make for lot of poeple after yopur case . Pen Gum Lang Jai krab . จากคุณ : *****JIm Jum ***** - [ 30 เม.ย. 48 04:05:42 A:80.35.184.208 X:80.58.20.44 TicketID:092919 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คุณ visa master คุณพูดถูกแล้วค่ะว่าความเห็นของคุณตรงแล้วก็อาจจะทำให้ใครหลายๆคนไม่พอใจ หนึ่งในนั้นก็คือเราด้วย (ในตอนแรก) แต่เรายอมรับว่าคุณพูดในสิ่งถูกต้อง เรายอมรับว่านึกไม่ถึงเรื่องที่ว่าถ้ามีคนรู้ชื่อจริงคุณป้าแล้วจะเป็นอันตราย เพราะเราก็คิดแค่ว่าบอกไปว่าเป็นคนนี้เพื่อให้แน่นอนว่าเป็นใครจะได้ไม่เกิดการผิดพลาดภายหลังก็เท่านั้นเอง คุณ Jim Jum แล้วก็ทุกๆ คน ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่เป็นกำลังใจให้ แม่เราจะมาพุธหน้าแล้วล่ะ ตอนนี้เราไม่คิดอะไรอีกแล้ว จดหมายก็เสร็จแล้ว กำลังจะส่งไปค่ะ ถ้าหากว่าได้รับอะไรตอบกลับมาก็จะมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ แต่(แอบ)คิดว่า คงไม่ได้รับ feedback อะไรกลับมาหรอก มานอกเรื่องกันดีกว่า วันนี้ไป defense prospectus มาค่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับ political communication in Thailand การ defense ผ่านพ้นไปด้วยดี committee หนึ่งคน กับ adviser เราคิดว่าเราน่าจะจบได้ภายในเทอมนี้ แต่ committee อีกคนหนึ่งไม่ค่อยมั่นใจนัก แต่ว่าเราก็ต้องพยายามเต็มที่แหละ เราอยากกลับบ้านจะแย่อยู่แล้ว อย่างน้อยการ defense ในวันนี้ผลก็ออกมาน่าพอใจทีเดียว ถึงแม้ว่าจะมีงานอีกเพียบรอเราอยู่ก็เถอะ เอาละ ขอไปทำงานต่อละนะคะ ขอบคุณทุกคนแล้วก็ทุกความคิดเห็นอีกครั้งค่ะ จากคุณ : small girl - [ 30 เม.ย. 48 05:40:41 A:204.180.74.219 X: TicketID:062549 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เป็นกำลังใจให้อีกคนนะคะ ยังคิดตามอ่านความคืบหน้าต่อไปนะคะ เราคิดว่าคุณทำถูกแล้วค่ะคุณ small girl จากคุณ : ชฎาแหลม - [ 30 เม.ย. 48 09:22:08 ]

ความคิดเห็นที่ 56 cheer u up จากคุณ : Rovershearer - [ 30 เม.ย. 48 19:21:06 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เพื่อนผมจบจุฬา  ยังชิ่งเรย จากคุณ : ZooM116 - [ 2 พ.ค. 48 22:38:15 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สรุปว่าไม่ไปแล้วเรอครับ จากคุณ : ชาติ 4300 - [ 2 พ.ค. 48 23:25:37 ]

ความคิดเห็นที่ 59 จริงค่ะ คุณ คห 25 ผิดด้วยเหรอที่โสดง่ะ  แต่เราไม่อยากไปเรียนนี่นา เราไม่ชอบอเมริกาเลย ตอนนั้นเราก็จะไปงานรับปริญญาน้องสาวเราเหมือนกันแต่ก็ไม่ผ่าน แต่ช่างเต๊อะ มันก็นานแล้ว แต่พอมีกระทู้ป้าช่องแปดทีไรมันต้องแจมทุกทีสิน่า ป้าน้าป้าคนเกลียดทั่วประเทศแล้วรู้ตัวไหม???? จากคุณ : Liztalor - [ 2 พ.ค. 48 23:41:46 ]

ความคิดเห็นที่ 60 มันจริงๆ นะ สาวโสด ขอวีซ่าท่องเที่ยว  ร้อยนึง เก้าสิบเก้า คนไม่ผ่าน จากคุณ : Adore - [ 3 พ.ค. 48 00:19:40 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ทำไมสาวโสด ที่อยากไปประเทศที่พัฒนาแล้ว เขาถึงคิดว่าจะไปเป็นไก่กันล่ะ แล้วไก่ๆ ทั้งหลายที่หลบไปใช้แรงงานในประเทศเหล่านั้นล่ะ ทำไม๊...ถึง visa ผ่านเข้าไปได้ ไม่เข้าใจจริงๆ จากคุณ : - - [ 3 พ.ค. 48 00:36:44 A:61.90.34.55 X: TicketID:070742 ]

ความคิดเห็นที่ 62 สู้เค้า เอาใจช่วย เราก้อคนนึงที่วีซ่าไม่ผ่านจากป้าแกนี่ล่ะ ตอนนั้น ทั้งโกรธ ทั้งเกลียดแกมาก ถ้าแช่งได้ คงแช่งแล้วล่ะ นิดนึง เราไม่ผ่าน เพราะป้าแกบอกว่า เราไม่มีความรู้เรื่องกฏหมาย ไม่สมควรออกนอกประเทศ ว่าเข้าไปนั่น เซ็ง พักก่อนเห็นเงียบๆ ไปเรื่องแก ได้ข่าวว่าโดนย้าย นี่กลับมาอีกแล้วเหรอ แบบนี้ความหวังก้อเริ่มมืดลงอีกแล้วสิเนี่ย เวงกำ - -" จากคุณ : นางมารนอกสังกัด - [ 3 พ.ค. 48 01:41:50 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เฮ้อ โชคของเรา ไม่ได้ขอในประเทศไทย เลยผ่านฉลุย เราก็เคยขอที่เมืองไทยสมัยเด็กๆนะ ก็เห็นผ่านทุกครั้ง สงสัยหลัง11ก.ย.เค้าให้ยากขึ้นนะ เราว่าอยู่ที่โชคของแต่ละคนด้วยละ อีกอย่างเราว่า เมกันมันก็อยากได้ตังค์อะ ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดี รัฐเลยต้องหาทางปั๊มเงิน แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 48 02:03:38 จากคุณ : ToToT - [ 3 พ.ค. 48 02:03:00 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ความคิดเห็นที่ 62 ไม่ผ่านเพราะไม่มีความรู้เรื่องกฎหมาย ไม่สมควรออกนอกประเทศ????? ป้านี่ท่าจะเพี๊ยน จากคุณ : - - [ 3 พ.ค. 48 09:01:19 A:61.90.34.253 X: TicketID:070742 ]

ความคิดเห็นที่ 65 มันแปลกตรงที่ว่าทำไมคนไม่มีปัญหากับช่องอื่นแต่มีปัญหากับช่องนี้มากกว่านะครับ - -' จากคุณ : cookiecompany - [ 3 พ.ค. 48 11:50:35 ]

ความคิดเห็นที่ 66 pain in the arse. เสียทีนึงสี่พัน คนก็ไม่ใช่น้อยๆ ไปก็ไม่ได้ไป ไม่มีใครร้องเรียน สคบ มั่งอ่ะ นโยบาย non sense จากคุณ : S(2) - [ 3 พ.ค. 48 20:32:59 ]

ความคิดเห็นที่ 67 อยากจะเล่าสู่กันฟังเรื่องนึง เหตุเกิดประมาณปีกว่า ๆ แล้ว คิดว่าน่าจะคล้าย ๆ กันในเรื่องของความพอใจ และเลือกปฏิบัติ 2 หญิงสาวจากสิงค์โปร์ อายุประมาณ 27-28 ปี โสด เดินทางเข้าอเมริกา แล้วโดนกักที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองอยู่นานหลายชั่วโมง ทั้ง ๆ ที่ ไฟท์นี้ มีคนสิงค์โปร์อื่น ๆ เดินทางด้วยแต่ไม่มีปัญหา เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง สอบประวัติเธอทั้งสอง เกรงว่าจะเป็นคนจีนจากแผ่นดินใหญ่ ขโมยหนังสือเดินทางสิงค์โปร์มา เพื่อสวมหนังสือเดินทางมาอเมริกา เพราะหน้าตาออกจีนดูยาก แถมยังพูดภาษาจีนกลาง อังกฤษได้ (สิงค์โปร์ไม่ต้องขอวีซ่าเข้าอเมริกา ได้สิทธิยกเว้น อยู่ได้ไม่เกิน 90 วัน) ถามสองสาวว่ามาจากจังหวัดไหนของประเทศสิงค์โปร์ นายกรัฐมนตรีชื่ออะไร และคำถามประหลาดแบบหาคำตอบให้ไม่ได้ เธอบอกว่า สงสัยเจ้าหน้าที่คนนี้ยังไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ จนสองสาวบอกให้หาไฟท์กลับให้วันนั้นเลย แต่เจ้าหน้าที่ก็อนุญาติให้ผ่านเข้าอเมริกา พอเธอกลับมาถึงสิงค์โปร์ เธอพากันไปร้องเรียนที่หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น (คนสิงค์โปร์ขึ้นชื่อเรื่องร้องเรียนอยู่แล้ว) และทำเรื่องส่งไปยังสถานฑูตอเมริกา ได้ผลค่ะ สถานฑูตรีบทำหนังสือชี้แจงขอโทษ 2 สาวและคนอื่น ๆ ด้วย เพราะหนังสือพิมพ์ลงข่าวหน้า 1 ทำให้สถานฑูตเสียหาย นี่คือเหตุการณ์หนึ่งซึ่งเกิดขึ้นกับคนสิงค์โปร์ นี่ก็เหมือนกับกรณีที่เกิดขึ้นกับเจ้าของกระทู้ แล้วแต่ความพอใจ หรือ วิจารณญาณ ของเจ้าหน้าที่ของสหรัฐอเมริกา หาความชัดเจนไม่ได้ และอีกอย่าง คงขึ้นอยู่กับดวงอย่างว่าด้วยมั๊งค่ะ จากคุณ : สะใภ้แขก (ravindran) - [ 3 พ.ค. 48 21:31:43 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ไม่ต้องอื่นไกลค่ะ เพื่อนสนิทเราเอง เจอมาเต็มๆ เหตุเกิดหลายปีแล้ว เขาเป็นพี่น้องฝาแฝดหญิง จะไปเรียนต่ออเมริกา ทั้งคู่ ใช้เอกสาร หลักฐานต่างๆ เหมือนกันเด๊ะ (หน้าตายังแยกไม่ค่อยออกเลย ว่าคนไหนเป็นคนไหน) เรียนจบ มธ. มาเหมือนกัน คนละคณะ ให้คุณพ่อเป็น sponsor เรียกว่า เอกสารทุกฉบับเหมือนกันเด๊ะ พอไปสัมภาษณ์ ได้คนละช่อง คนที่เป็นเพื่อนเราสัมภาษณ์กับฝรั่ง แต่คนที่เป็นน้องสาว สัมภาษณ์กับ คุณป้า นี่แหละ สัมภาษณ์พร้อมๆ กันเลย ปรากฏว่า เรื่องเหลือเชื่อคือ เพื่อนเราผ่าน แบบง่ายๆ ถามไม่กี่คำ ส่วนน้องสาว ไม่ผ่าน ! ก็ไม่รู้ว่า เขาตัดสินกันยังไง เรียกว่าไม่มีมาตรฐานอะไรเล๊ย อยู่ตรงคนที่จะให้นั่นเอง ว่าจะให้หรือเปล่า เพราะว่าเอกสารเหมือนกันเด๊ะ พ่อแม่เดียวกัน แถมเป็นฝาแฝด ดันออกมาเป็นคนนึงได้ คนนึงไม่ได้ งงไปเลยค่ะ สุดท้าย คนพี่ก็เลยไม่ไปดีกว่า แล้วย้ายไปเรียน New Zealand ด้วยกันทั้งคู่ วีซ่าก็ผ่านไม่มีปัญหาอะไร นี่เค้าก็เรียนจบกันแล้ว กลับมาเมืองไทยกันแล้ว ทำงานดีๆ เรียบร้อยค่ะ จากคุณ : Autumn Leaves - [ 4 พ.ค. 48 00:34:44 ]

ความคิดเห็นที่ 69 "I am absultely 100% disagree with Khun Visa Master." I can't tell you why! just talk to Mr. Cockran, my lawyer. Unfortunately, he is half-way to heaven by now. จากคุณ : OJ Simpson Plead not guilty (ThaiAng-) - [ 4 พ.ค. 48 00:59:20 ]

ความคิดเห็นที่ 70 Khun small girl krab .I was cheer you up for comemnt US embassy .and then after I read you messeg again I cheer you more for you study .I happy for Thailand will have new generation like you .In the future may be your power will be nice for many poeple. cheer krab. จากคุณ : *******JIm JUm ***** - [ 4 พ.ค. 48 01:11:08 A:80.35.184.208 X:80.58.20.107 TicketID:092919 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เป็นบุคคลที่น่าสนใจจริงๆ สงสัยค่ะว่าทำไมหลายคนถึงรู้ประวัติเขาดีจังอย่างเช่นเขามีสามีฝรั่ง(สำหรับเราว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวพอสมควรนะ)แต่กลับไม่รู้ว่าเขาชืออะไร เราแค่สงสัยค่ะ ไม่ได้อยากรู้นะคะเพราะไม่เคยเจอเขาเลยค่ะ เราขอวีซ่านักเรียนเมื่อปีที่แล้วก็ไม่มีปัญหานะคะ คิดว่าเป็นเพราะเตรียมเอกสารครบุถ้วน แล้วเวลาเขาถามว่าสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษได้ไหม ก็บอกไปว่าได้ เพราะได้ยินว่าสัมภาษณ์กับกงศุลฝรั่งจะได้ง่ายกว่า ไม่จำเป็นต้องพูดภาษาอังกฤษเป็นไฟหรอกค่ะ แค่พองูๆปลาๆก็ได้แล้ว แล้วถ้าพูดไม่ได้จริงๆฝรั่งเขาก็พอพูดไทยได้ด้วย น่าจะเป็นอีกวิธีหนึ่งในการหลีกเลี่ยงช่องแปดด้วยการขอรับสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ จากคุณ : แม้นศรี - [ 4 พ.ค. 48 02:00:16 A:139.182.11.217 X: TicketID:065550 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เอาซะหน่อย โดนมากะตัวเหมือนกัน เลือกสัมภาษณ์ไทย เราโดนสัมภาษณ์เป็นอังกฤษแบบเป็นชุดเกือบ 10 นาที  ได้สนทนาไทยแค่ 2 ประโยค  ซึ่งสุดท้ายก้อได้มา อย่างนี้จะให้เลือกทำไมเนี่ยสัมภาษณ์ไทย มันก้อต้องเป็นภาษาไทยเด่ะ เนี่ยอารายกันเนี่ย เรื่องแค่เนี่ยยัยป้านั่นแยกไม่ออกเชียวเหรอ ฉันละเซ็งจิต จำได้ว่า คนที่ขอก่อนหน้าเรา เค้าก้อโดนปฏิเสธ และ คนหลังเรา ก้อโดนเหมือนกัน จากคุณ : น้องอึ้งย้งของพี่ก๋วยเจ๋ง - [ 4 พ.ค. 48 02:25:25 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ขอออกความเห็นบ้างนะคะ คือว่า หากขอวีซ่าจากสถานทูตไม่ได้นั้น ขอแนะนำให้ใช้วิธี "appeal the decision" จะดีที่สุดค่ะ นั่นก็คือการอุทธรณ์ ซึ่งเป็นวิธีที่ฝรั่ง (รวมทั้งอเมริกัน) ทำกันค่ะ ส่วนที่คุณ จขกท เล่ามานั้น เป็นวิธีการแบบคนไทยน่ะ คือ โทรไปต่อว่า ซึ่งเขาไม่สนใจหรอกค่ะ เพราะร้อยละ 90 กระทำด้วยอารมณ์มากกว่า รูปการณ์เลยดุเหมือนจะไป attack เจ้าหน้าที่เขามากกว่า ดังนั้นเขาก็ต้องปกป้องคนของเขาแน่นอนอยู่แล้ว ว่าแต่...ตอนนี้ก็คง happy ending แล้ว ยังไงก็ขอฝากเป็นข้อคิดกับคนที่กำลังจะไปขอวีซ่าก็แล้วกันค่ะ ... หากไปขอวีซ่า ก็เตรียมหลักฐานให้พร้อม อย่าให้มีช่องโหว่หรือข้อขัดแย้งกัน หากขอไม่ได้ก็ยื่นอุทธรณ์ใหม่นะคะ ขอให้โชคดีทุกคนค่ะ จากคุณ : SugarCane - [ 4 พ.ค. 48 05:41:59 A:207.200.116.68 X: TicketID:029980 ]

ความคิดเห็นที่ 74 หายไปหลายวัน คิดว่ากระทู้ของเราน่าจะตกไปเรียบร้อยแล้ว ไม่น่าจะขึ้นมาอยู่ซะข้างบนขนาดนี้ ตกใจค่ะ ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นแล้วก็แชร์ประสบการณ์ร่วมกันนะคะ เพิ่งได้คุยกับเพื่อนที่เค้าก็มาเรียนที่นี่ คุณแม่เค้าก็ถูกปฏิเสธวีซ่าเหมือนกันค่ะ เห็นว่าแม่ของเค้าเขียนจดหมายร้องเรียนไปทางสภาฯ ก็คงมีคนรู้จักอยู่ทางนั้น คุณ SugarCane เรื่องจบไม่ happy ค่ะ เพราะน้องเราไม่ได้มาค่ะ เค้าไม่ยอมยื่นขอใหม่อย่างที่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งแนะนำ แม่เราก็เลยจะมาคนเดียว จะมาถึงวันพรุ่งนี้แล้วค่ะ ขอย้ำให้คุณมั่นใจว่า ที่เราโทรไปหาเค้า เราพยายามสะกดอารมณ์และพูดจาดีมากค่ะ เพราะเราเองก็ไม่ชอบให้ใครมาวีนใส่เราถ้าเราไม่ได้ทำความผิด เราถือว่าคนรับโทรศัพท์ไม่ใช่คุณป้า เค้าไม่ควรจะต้องมาเป็นที่รองรับอารมณ์ของเรา แต่เราโทรไปขอความกระจ่างแล้วก็สอบถามถึงวีธีการร้องเรียนเท่านั้นค่ะ อย่างไรก็ตาม ขอบคุณนะคะที่แนะนำวิธีการอุทธรณ์ ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยค่ะ ทีนี้จะได้รู้เอาไว้ว่าทำแบบนี้ได้ด้วย จะได้เก็บเอาไว้ไปแนะนำคนอื่นค่อไปด้วยค่ะ ยอมรับว่าตอนนี้ใจเย็นขึ้นมากแล้วค่ะ พอไม่โกรธก็เลยทำให้ค่อยๆ คิดออกว่าควรจะจัดการเรื่องนี้ต่อไปยังไงดี เป็นข้อเตือนใจอย่างหนึ่งจริงๆค่ะ ว่าในการทำอะไรทุกอย่างเราจำเป็นต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา ส่วนจดหมายยังไม่ว่างส่งเลยค่ะ เพราะว่ายุ่งกับทำโปรเจคตลอด อันนี้สำคัญกว่าเพราะว่าถ้าทำไม่เสร็จภายในวันพฤหัสหน้าก็ไม่จบเทอมนี้ค่ะ ตอนนี้เลยเร่งทำโปรเจคก่อน จบเมื่อไรค่อยเขียนจดหมายอีกที แต่ยังไงก็จะไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านไปเฉยๆ แน่ค่ะ ตอนนี้ก็แค่รอเวลาที่จะกลับเมืองไทย จะได้ไปจัดการหาข้อมูลแล้วก็สืบทุกอย่างที่อยากรู้ด้วยตัวเอง คุณ JIm JUm ขอบคุณนะคะ defense ครั้งที่หนึ่งผ่านแล้วค่ะ ที่นี่ก็ลุ้นครั้งที่สองหลังจากทำโปรเจคเสร็จค่ะ จากคุณ : small girl - [ 4 พ.ค. 48 07:33:53 A:204.180.74.219 X: TicketID:062549 ]

ความคิดเห็นที่ 75 คุณ Small Girl ถ้า defense ผ่านแล้วช่วยแจ้งด้วยนะคะ เพราะเอาใจช่วยอยู่ค่ะ ส่วนเรื่อง appeal decision นั้น เล่าให้สามีฟัง...เขาแนะนำว่าควรทำวิธีนี้ค่ะ Good Luck จากคุณ : SugarCane - [ 4 พ.ค. 48 09:28:46 A:207.200.116.68 X: TicketID:029980 ]

ความคิดเห็นที่ 76 เป็นกระทู้ที่ hot มากๆ คะ อ่านจนตาลายเลย  เราเพิ่งได้วีซ่าท่องเทียวมาคะ ได้ 10 ปี สัมภาษณ์กะฝรั่งน่ะ เราไม่เคยขอวีฯ มาก่อนเลย นี่เป็นครั้งแรก แต่เราน่ะ คิดเอาเองว่า คนที่เลือกสัมภาษณ์กะฝรั่งน่ะน่าจะน้อยกว่า ซื่งจะเป็นผลดีกะเราคือ เร็ว ไม่ต้องรอนานคะ และ คนสัมภาษณ์เป็นผู้ชาย เราสามารถ หยอดลูกเล่นนิดๆ หน่อยๆ พอขำๆ ทั้งๆ ที่ statement เราก้อน้อยนิดเองคะ แต่ผล คือ ได้มาแล้ว ลองเปลี่ยนยุทธศาสตร์มาสัมภาษณ์กะฝรั่งดูมั๊ยคะ ถ้ายังเรียนอยู่ก้อขอให้สถาบันออกหนังสือรับรองว่าเป็นนักศึกษาหรือนักเรียนดู ไม่ต้องแสดงผล (ไม่ได้จะไปเรียนนิ)น่าจะดี เป็นการเลี่ยง  คะ เป็นไม่ได้ผิดอะไรนิหน่า อีกอย่างนีง คือ พยายามสื่อสารเหตุผลผ่านทางจดหมายดู เอาแบบซึ้งๆ กินใจ  เลือดรักชาติสูบฉีดรุนแรง (ทำมาแล้ว) เพื่อเป็นการลดเวลาการสัมภาษณ์ เพราะเค้าจะดูข้อมูลที่เราเขียนไป ง่ายขึ้นกะทั้งสองฝ่ายคะ เราเตรียมเอกสารและดำเนินการเองทุกอย่าง ก่อนที่จะมาอ่านกระทู้คะ แต่ก้อผ่านมาได้ด้วยดี เป็นกะลังใจให้ทุกคนที่กำลังขอวีฯอยู่คะ ปล.ทั้งหมดเป็นข้อสังเกตุของเราเองนะ จิงๆ ไม่มีอะไรตายตัวหรอก ถ้ามันมีข้อกำหนดแบบตายตัว ปานนี้คงได้กันหมดแล้วละ จากคุณ : Pattie - [ 4 พ.ค. 48 15:04:25 ]

ความคิดเห็นที่ 77 กลับมาดูอีกที โอ้โห ขึ้นหิ้งไปแล้วกระทู้นี้ สิ่งที่เกิดขึ้นกะ คุณ small girl มันเป็นแค่เศษหนึ่งส่วน ความไม่เที่ยงทั้งหมดที่คนเราจะต้องเจอในชีวิต ถ้าเราเรียนรู้ที่จะอยู่กะมันได้ ก็จะมีความสุข ชีวิตยังต้องเจออะไรอีกเยอะครับ คุณ Small Girl เป็นตัวอย่างของคนที่เรียกสติคืนมาได้เร็ว เข้าถึงเหตุและผลได้อย่างเร็ว สมแล้วที่เรียนถึงตั้งระดับนี้ ทุกๆอย่าง ไม่มีอะไรแน่นอน อะไรที่เราคิดว่าจะได้ มันอาจจะไม่ได้เสมอไป ผมสนับสนุนให้ทุกคนเรียกร้องถึงสิทธิที่เราควรได้ เราเสียเงินไปแล้วถ้าเรามั่นใจว่าหลักฐานทุกอย่างและประวัติคนรอบตัวเราไม่มีอะไรด่างพร้อบ เราร้องเรียนไปเลย เขียนจดหมายกินใจไปได้เลย แต่น่าจะระวังบางคำถามที่คุณจะไปถามเค้า อย่างเช่นที่เห็นกันชัดๆคือ ป้าชื่ออะไร ป้าอยู่ที่ไหน ป้าทำอย่างงี้ได้ยังไง ทำไมป้างี่เง่าอย่างงี้ ... คำถามพวกนี้ถามไปไม่มีประโยชน์หรอกครับ เค้าไม่ตอบหรอก มันเป็นคำถามที่แฝงความอาฆาตเอาไว้ ไม่มีใครบ้าไปคิดว่าคุณจะมาถามเพราะอยากรู้ชื่อจะได้ไปร้องเรียนถูกหรอกครับ จะลองเล่าประสบการณ์ตัวเองให้ฟัง 1. หญิงโสดสัญชาติไทยหลายคนไปทำงานเป็น Chic อยู่ที่นั่น เพราะอยู่ที่นี่เมืองไทย ทั้งชาติคงไม่มีปัญญาซื้อรถ 2. หลายคนบอกว่าคนไปเรียนที่นั่นที่บ้านมีฐานะ แต่ทำไมส่วนใหญ่ที่ผมรู้จักเรียนจบแล้ว ไม่กลับ ทำงานต่อ บางคน เรียนมันอยู่นั่นแหละ TOEFL เรียนกันจนอาจารย์ไล่ให้ไปเรียน GMAT เรียนสารพัดจะเรียนแล้ว พวกนี้จะพบได้ตามร้านอาหารไทย 3. บางคน OPT ได้ ปีนึง แต่ทำไม๊อยู่กันสองปีกว่าๆแล้วยังไม่กลับ หรือกลับบ้านไม่ถูกเหรอ พวกนี้เช่นกัน ส่วนใหญ่พบได้ตามร้านอาหารไทย 4. ก่อนที่จะไม่มีการปั๊มลายนิ้วมือ มีใครน๊าที่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล แล้วไปขอ VISA ใหม่ บางคนหนี้ท่วมหัวทำไมสถานทูติออก VISA ให้ 5. เอ ... ทำไมพอไปถึงที่นั่นแล้วจะเจอ Immigration ที่นั่นส่งกลับหรือเปล่า แต่พอไปถึง อ้าวเจอ immigration ที่รู้จักกันมาก่อน เหมือนนัดกันไว้เลย เอ้า ผ่าน ! 6. Work permit ละ เธอได้มาได้ไง มีบริษัทจ้างเราไปเป็น Business Analysis หรือ Marketing Manager หรืออะไรต่อมิอะไรที่มีชื่อเท่ห์ แต่พอไปถึงที่นั่น ไปเจอ Analyze ถ้วยชามอยู่ 7. จะแต่งงานดีมั๊ยนะ จะได้ Green card ด้วยล่ะ แต่คงต้องจ้างทนายเพราะให้เค้าไป Deal ดีกว่าเรา Deal เสียค่าทนายหลายๆ พันเหรียญน่าจะชัวร์กว่านะ 8. ยิ่งหลัง Sep 11 เค้ายิ่งเก็บ SEVIS พวกนักเรียนเพื่ออะไรล่ะ ก็เพราะจะเอาไปตาม maintaining database ของพวกนักเรียนต่างชาติทั้งหลายนั่นแหละ เพราะ torrorist มีแนวโน้มว่าจะแฝงตัวเข้าประเทศในรูปแบบนักเรียนสูง ข้อนี้ไม่ค่อยเกี่ยวกะคนไทยเท่าไหร่ แต่มันจะเกี่ยวในเรื่องที่ว่า พอมันมีระบบติดตามตัวนักเรียนต่างชาติที่ดีขึ้น เค้าก็จะรู้ความเคลื่อนใหวของนักเรียนต่างชาติได้ดีขึ้น ผลก็คือโอกาสที่จะชิ่งไปทำงานหรืออะไรๆ ก็ ... ไม่รู้นะ ตอนนี้ยังไม่ค่อยเห็นผล แต่บางคนที่นั่นเริ่มมองหางานที่ต้องเสียภาษีและได้ work permit กันบ้างแล้ว เอ พวกที่ทำงานที่ร้านอาหารนี่ มีใครเสียภาษีบ้างน๊า แล้วคนส่วนใหญ่ได้รับเงินสดหรือเปล่าน๊า ขอโทษถ้าข้างบนมันจะไปตรงกะชีวิตใครบางคน ไม่คิดหรือ ว่าทำไมผมและคนไทยหลายๆคนที่อยู่ที่นั่น ถึงชินกะการได้ยินเรื่องพวกนี้ เราเคยคิดกันบ้างมั๊ยว่าผมยังรู้ แล้ว Immigration รวมทั้งสถานทูตจะไม่ตื่นตัวในการหามาตรการป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเหรอ เค้ามีแต่จะยิ่งเข้มงวดขึ้นๆ ผมถึงบอกไง ว่าถ้าหลายทศวรรตก่อน คุณอาจจะได้ visa เข้า USA ตลอดชีพ แต่ตอนนี้ดูสิเป็นไง ถ้าหลายๆคนเคยสัมผัส เคยได้ยินถึงเรื่องข้างบนแล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไม สถานทูติจึงเคี่ยวยังงี้ ยังมีอีกหลายๆ เรื่องที่เกิดขึ้นที่นู่นที่ยัง ไม่ได้เอามา post อีกมากและไม่คิดว่าเป็นผลดีเท่าไหร่ เรื่องเหล่านี้จะไปโทษใครก็ไม่ได้หรอก ทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากหลายๆปัจจัย คนที่ไปแต่ก่อนหลายคนก็อยากไป make money ที่นั่น สถานทูติก็จะเป็นต้องเคี่ยว คุณก็จะเป็นต้องไป คนที่เค้าอยากไป make money ก็เพราะเค้ามองว่าโอกาสที่จะหาเงินในเมืองไทยเยอะๆ มันไม่ค่อยมี บางคนหนีหนี้ หนี้คดีก็มีเยอะ มนุษย์ทุกคนมีสิทธิเอาตัว รอด ทำไมถึงหาเงินเยอะๆโดยเริ่มจากศูนย์ได้ยากยิ่งวมัยนี้ นั่นก็เพราะสังคมไทยตอนนี้เป็นทุนนิยม มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก คุณอยู่เมืองไทย คุณได้เกิดเหรอ ถ้าคุณไม่เจ๋งจริง ผมถึงบอกว่าการที่คนเราโดนปฏิเสธเรื่อง VISA ก็ให้ถือเป็นความซวยอย่างนึง เราจะไปแก้ระบบก็ไม่ได้ จะไปบอกให้เค้าอะลุ่มอล่วยเหมือนเมื่อ 10 ปีที่แล้วก็ไม่ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราสามารถทักท้วงได้ ถ้าเราเห็นว่าเราบริสุทธิ์ใจจริงๆ แต่อย่าไปวีนหรือโวยวายอาฆาตอะไรเลย ไม่มีประโยชน์หรอก ดูอย่างคนสิงคโปร์ ญี่ปุ่นและบางชาติที่อเมริกาเคยให้เข้าประเทศโดยไม่ต้องมี VISA คุณลองไปถามประวัติของคนส่วนใหญ่ (ผมใช้คำว่าส่วนใหญ่) ของประเทศเหล่านั้นสิแล้วลองไปดูสิ่งที่พวกเราๆที่อยู่ที่นู่นปฏิบัติสิ แล้วคุณจะรู้คำตอบว่าทำไมเราต้องมาขอ VISA ยากเย็นกันแบบนี้ เป็นกำลังใจกะทุกคนที่กะลังจะไปขอ หรือคนที่ไม่สมหวัง วันนี้ไม่ใช่ของเรา วันหน้าก็มีอีก ชื่นชมคุณ Small Girl มากที่ตั้งสติได้เร็วและดำเนินการทุกอย่างด้วยปัญญา และมีความกล้าหาญที่เอาสิ่งที่ตัวเองเผชิญมาเล่าให้เพื่อนๆฟังกัน โดยไม่เกรงกลัวป้าช่องแปดที่กะลังอ่านอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ หากป้าอ่านอยู่ ป้าปล่อยเค้าไปเถอะ เห็นแก่กระทูยอดนิยมซึ่งตอนนี้ปาเข้าไปตั้ง 70 กว่าๆและยังคงมีทีท่าว่าจะเพิ่มขึ้นอีก ขอร้องล่ะป้าๆๆๆ จากคุณ : Visa Master - [ 4 พ.ค. 48 23:02:09 A:61.90.25.133 X: TicketID:073565 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ป้านี่ดังกว่าคุณน้ำอบอีกนะเนี่ย รู้ป่าวป้า จากคุณ : นางมารนอกสังกัด - [ 4 พ.ค. 48 23:32:10 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ดีใจจังที่ไม่มีธุระอะไรต้องไปอเมริกา ไม่งั้นคงได้เห็นคุณป้ามหาภัยตัวเป็นๆ เธอแรงมั่กๆๆ จากคุณ : bellemaman - [ วันฉัตรมงคล 01:50:54 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เห็นป้าแล้ว แว๊บๆ แต่ไม่กล้ามองหน้าตรงๆ กลัวโดนกัด จากคุณ : Adore - [ วันฉัตรมงคล 08:30:46 ]

ความคิดเห็นที่ 81 คุณ SugarCane ขอบคุณที่เอาใจช่วยนะคะ ต้องการมากๆ ค่ะ แผนตอนนี้ก็คือ เขียนรายงานให้เสร็จภายในพฤหัสฯหน้าค่ะ เพราะว่าจะขอ defense อีกทีวันที่ 23 หรือ 24 พฤษภาค่ะ ตามกฎของคณะก็ต้อง hard copy ให้ committees ล่วงหน้า 10 วันค่ะ ต่อจากนั้นก็คงขึ้นกับ committeeds แล้วค่ะ ว่าจะเห็นว่าเราพร้อมที่จะ defense หรือเปล่าหรือว่า รายงานยังมีข้อที่ต้องปรับปรุงอีก แล้วจะคอยอัพเดทนะคะ คุณ Visa Master เราใจเย็นขึ้นส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะข้อเขียนของคุณ แล้วก็ทุกๆ คนที่เข้ามาอ่าน เข้ามาแนะนำ เข้ามาแชร์ประสบการณ์ พอได้อ่านแล้วก็คิดตามไปด้วยแล้วก็รู้สึกว่าไม่มีประโยชน์ที่จะโกรธ การแสดงแบบรุนแรงน่าจะเป็นผลเสียกับตัวเรามากกว่า อีกครั้งนะคะ ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ ทั้งที่แนะนำแล้วก็แชร์ประสบการณ์ร่วมกัน ทำให้เรารู้ว่า ไม่ได้มีแค่เราคนเดียวสักหน่อยที่เจอเรื่องแบบนี้ แล้วก็ไม่ใช่เราคนเดียวสักหน่อยที่โกรธป้าเค้า พระพุทธเจ้านั่นตรัสไว้ถูกแล้วว่า "ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน" น้องของเราเจอความไม่แน่นอนในความแน่นอนเข้าไปเท่านั้นเองค่ะ ตอนนี้แม่เรามาถึงที่นี่แล้ว ไปเที่ยวเวกัสกับน้องคนที่สองแล้วก็ญาติ เพราะว่าน้องเรา defense จบแล้ว เค้าเลือกจบแบบสอบข้อเขียนค่ะ ก็เลยไม่ต้องยุ่งยากมากนั้นเหมือนเรา แอบอิจฉานะเนี่ยที่เค้าได้ไปเที่ยวกัน แต่ว่าเรายังต้องนั่งทำรายงานอยู่กับบ้านคนเดียว แต่ไม่เป็นไร วันจันทร์ก็ได้เจอแม่แล้ว คิดในทางที่ดี น้องเราไม่อยู่ ก็ไม่มีคนทำกับข้าวให้เรา ถือเป็นการไดเอทไปในตัวค่ะ แต่ความจริงก่อนเค้าไป ทำกับข้าวไว้เต็มตู้เย็นเลยค่ะ ทั้งน้ำแกง ทั้งไข่ตุ๋น (สี่ชาม) แล้วก็หุงข้าวให้อีก ใครๆ ที่นี่ก็อิจฉาเราเพราะเราพกแม่ครัวส่วนตัวมาด้วยไง ^.^ ไปปั่นรายงานต่อละค่ะ ขอบคุณทุกความคิดเห็นอีกครั้งนะคะ เราก็หวังว่า เรื่องราวทุกอย่างในกระทู้นี้จะพอเป็นประโยชน์ให้กับใครก็ตามที่ได้เข้ามาอ่าน รวมทั้งคนที่อาจจะต้องไปติดต่อขอวีซ่าต่อไปในอนาคตด้วยนะคะ จากคุณ : small girl - [ วันฉัตรมงคล 10:33:34 A:204.180.74.219 X: TicketID:062549 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ขอชื่นชมเจ้าของกระทู้ค่ะ จากคุณ : Autumn Leaves - [ วันฉัตรมงคล 12:04:37 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ป้าช่องแปด สำแดงเดชอีกแล้ว... ทำไงจะรอดพ้นเงื้อมือเค้าได้ค่ะ ถ้าหากว่าวันนึงต้องบังเอิญไปขอเข้าประเทศนี้จากคนแถวนั้น.... จิตตกขึ้นมาอีกรอบ..... เคยตอบไปครั้งนึงว่า "ป้าแกอจจะเป็นบุคคลดีเด่นของสถานทูตก็ได้ เพราะสามารถทำเงินเข้าประเทศ จากการไม่ให้ผ่านวีซ่า ได้คราวละหลายคน คิดเป็นเงินรายวันก็หลายอยู่นา".... จากคุณ : เก๋ (ยัยเจี๋ยมเจี้ยม) - [ วันฉัตรมงคล 18:29:02 ]

ความคิดเห็นที่ 84 จากคุณ : นางมารร้าย/น้อยซะเมื่อไหร่ - [ วันฉัตรมงคล 20:43:54 ]

ความคิดเห็นที่ 85 อย่าไปเรียก She ว่า "ป้า" เลยคะ เพราะ She คงไม่อยากนับญาติกะคนไทยหัวดำๆอย่างเราเท่าไหร่ เท่าที่ได้ยินมาและประสปมากะตัวสดๆร้อนๆ เรามีความรู้สึกว่าเค้าดูถูกคนไทยมาก ไม่ให้แล้วยังมาพูดใหเจ็บใจอีกแต่เราก็รู้สึกดีขึ้นแล้วเพราะคุณแม่เราบอกว่า "ค่อยไปขอใหม่ เดี๋ยวมันก็ตาย" =============================== คิดจริงๆหรอว่าที่ตัวสามารถตัดสินคนเป็นล้านๆได้หมายความว่าตัวจะสูงส่งหรือดีเริ่ดกว่าคนอื่น!!!!! จากคุณ : พิม - [ 6 พ.ค. 48 00:30:14 A:168.120.26.98 X: TicketID:090881 ]

ความคิดเห็นที่ 86 อ่านความคิดเห็นของคุณ Visa Master #77 แล้วสะกิดใจนิดหน่อย เมื่อสองปีก่อนที่เราเพิ่งจะมาเรียนต่อป.โทต่างประเทศ เราก็ไม่เห็นด้วยมากๆ กับนักเรียนไทยที่ดูเหมือนเดินทางมาเรียนแต่ว่าไม่เรียนปริญญาซักที แต่ขอวีซ่ามาเพื่อหาโอกาศทำงาน และนักเรียนที่เรียนจบแล้วแต่ไม่ยอมกลับประเทศเสียที แต่กลับไป "พบได้ตามร้านอาหารไทย" อย่างที่คุณ Visa Master ว่า สองปีผ่านไปกับการใช้ชีวิตบนลำแข้งตัวเอง (หรือเรียกลำน่องดี เพราะเดินเสริฟอาหารจนน่องโต ^__~)  ทำให้เรามองชีวิตคนเหล่านั้นต่างไปจากเดิมอย่างมาก หลายคนที่เรารู้จัก ... จำเป็น...ต้องใช้ชีวิตเช่นนั้น และอีกหลายคน ..เลือก...ใช้ชีวิตเช่นนั้น ซึ่งถึงเราจะไม่เห็นด้วย (และก็ยังไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ ว่างเมื่อไหร่ก็ชวนกลับเมืองไทยเมื่อนั้น) แต่ว่าเราก็เคารพการตัดสินใจของพวกเค้า ตอนนี้เรากำลังจะเรียนจบและกลับเมืองไทยแล้ว (วีซ่ายังไม่หมดหรอก แต่กลับล่ะ คิดถึงคุณพ่อคุณแม่) แต่พี่ๆ เพื่อนๆหลายคนในร้านอาหารยังเลือกที่จะใช้ชีวิตในต่างประเทศต่อ ด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ ถึงบางครั้งเราไม่เห็นด้วยกับเค้าแต่ว่าเราเคารพการตัดสินใจของพวกเค้า และที่สำคัญเรานับถือพวกเค้าในฐานะคนที่สอนให้เราเรียนรู้กับการใช้ชีวิตที่อาจารย์หน้าห้องเรียนไม่สามารถสั่งสอนเราได้ อืม... ที่เราอยากเสนอความคิดเห็นนิดหนึ่งก็คือว่า การเสนอความคิดเห็นอ้างอิงผู้อื่นผ่านสื่อที่เข้าถึงคนจำนวนมากขนาดนี้ (หมายถึง internet น่ะ) มันก็คล้ายๆกับการพูดจาเสียดสีใครออกทีวี หรือลงหนังสือพิมพ์ ความคิดเห็นเหล่านี้มันจะผ่านไปถึงคนที่ไม่ได้เข้าใจว่าคนที่ใช้ชีวิตเช่นนั้นมีเหตุผลหลากหลาย และสุดท้ายอาจจะสร้างภาพที่ไม่ตรงความจริงนักขึ้นมาได้ (เช่น หญิงไทย = ผู้หญิงขายตัว ซึ่งใครๆก็รู้ว่าไม่จริงทั้งหมด แต่พอ stereotype เหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาแล้วมันลบยากนะ) ...ยังไงซะสุดท้าย ชีวิตใคร ก็ชีวิตมัน ... มันก็เท่านั้นเอง จากคุณ : ศิษย์เอกพรรคกระยาจก - [ 6 พ.ค. 48 07:31:40 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ยังไม่ได้อ่านความเห็นข้างบน แต่ตอนนี้แค้นมาก ขอระบายก่อน น้องชายเราก้เพิ่งเจออย่างนี้เหมือนกัน พ่อเราสัมภาษณ์กับฝรั่ง ไม่มีปัญหาอะไรเลย ถามแค่คำสองคำ แต่น้องเรา เจ๊แกจะดู transcript น้องเราก้ไม่ได้เรียนเก่งอะไรมากมาย แต่แค่จะมางานรับปริญญาเนี่ย มันอะไรกันนักกันหนาเหรอ ตั๋วเครื่องบินไปกลับก้มีไปให้ดู ป้าแกไม่ดูอะไรเลย น้องอธิบายอะไรก้ไม่ฟัง ไล่กลับอย่างเดียว เด๋วน้องเราจะเข้าไปใหม่ตอนบ่ายพร้อมใบเกรด ที่บังเอิญหาเจอที่บ้าน ไม่งั้นน้องต้องไปศรีราชาเพื่อขอtranscript น้องเราเรียนอยู่เกษตรศรีราชาน่ะ ถ้าป้าแกให้เหตุผลงี่เง่างี้ emailกงศุลล้นmailbox แหงๆ เมื่อกี้โทรกลับไปหาน้อง ให้ถามชื่อป้าแกมาด้วยแล้ว หงุดหงิดมากๆ ทำเดือดร้อนทั้งบ้านเลย คนนัดวันก้นัดมั่ว นัดมาได้เมื่อวาน วันหยุดก้สักแต่นัดๆมา น้องเราไปสถานทูตจนไม่อยากมานี่แล้ว มันว่ากะอีแค่มาเที่ยวแป๊บๆ ถ้ามันเรื่องมากขนาดนี้ก้ไม่อยากมาหรอก หงุดหงิดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 48 10:14:31 จากคุณ : ++Sweetie Pie++ - [ 6 พ.ค. 48 10:13:55 ]

ความคิดเห็นที่ 88 อ่านมาจนจบ เห็นด้วยกับบางความคิดเห็นของคุณ Visa Master แต่ไม่เข้าใจว่า การขอวีซ่าต้องขึ้นอยู่กับ "ดวง" ด้วยเหรอ เราคิดว่าการขอวีซ่าโดยที่เราได้ยื่นหลักฐานที่ครอบคลุม เพียงพอและเหมาะสมต่อประเภทวีซ่าที่เราจะไปขอ ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ถ้ามันขาดหรือต้องการอะไรเพิ่มก็ขอมาสิ ไม่ใช่ว่า มันขึ้นอยู่กับ "ดวง" นะคุณ แล้วแบบนี้กฎระเบียบจะมีขึ้นมาทำไมล่ะ สู้ไปบนบานศาลกล่าวแล้วก็มาขอวีซ่าก็ผ่านงั้นเหรอ อีกอย่าง ไม่เห็นด้วยกับระบบเก็บเงินวีซ่าก่อน ไม่ได้ก็ไม่คืน เราคิดว่าเป็นการค้ากำไรเกินควรนะ โอเค จ่ายเงินก่อน ถ้าวีซ่าไม่ผ่านก็คืนเงินมาสิ จะหักกี่เปอร์เซนต์ก็ว่ากันไป แต่ไม่ใช่ยึดไปหมดแบบนั้น แบบนี้คุณก็ปฏิเสธวีซ่า ให้กลับมาขอใหม่ คุณได้เงินค่าวีซ่าสองเท่า ไม่น่าเกลียดไปหน่อยเหรอ ดูอย่าง ญี่ปุ่นสิ ประเทศนี้ยุติธรรมกว่า วันมารับวีซ่าค่อยจ่ายเงิน ถ้าไม่ผ่านก็ไม่ต้องจ่าย เรื่องการถามชื่อ เราว่าเป็นเรื่องปกติ เจ้าหน้าที่ของคุณกำลังทำหน้าที่ให้บริการลูกค้า ซึ่งก็คือคนที่ไปขอวีซ่า หากเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ได้ไม่โปร่งใส เราก็ควรมีสิทธิ์ร้องเรียนที่จะทราบชื่อของเจ้าหน้าที่คนนั้น คุณจะมาอ้างว่า เราไปง้อขอเข้าประเทศเค้า ไม่ถูกต้องนะคะ ยกตัวอย่าง AIS ขายมือถือ เค้าก็ไม่ได้มาบีบคอให้ใครไปซื้อของเค้า แต่เมื่อมีคนซื้อ (กลายมาเป็นลูกค้า) เจ้าหน้าที่ที่ประสานงานกับคนซื้อ ก็คือผู้ให้บริการ หากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานไม่ดี ลูกค้าก็ควรมีสิทธิ์ทราบชื่อเพื่อบอกกล่าวไปยังตัวบริษัทให้ดำเนินการสอบสวนต่อไป จากคุณ : HuGGie - [ 6 พ.ค. 48 10:59:05 ]

ความคิดเห็นที่ 89 มาบอกต่อ เมื่อกี้น้องเรากลับไป ป้าแกไม่ให้สัมภาษณ์ บอกว่าต้องมาพรุ่งนี้ พรุ่งนี้มันก้ติดส-อา ก้ต้องไปวันจันทร์ แล้วเราก้ซื้อตั๋วเครื่องบินให้มาวันพุธเที่ยง เซ็งมาก คาดว่าไม่น่าได้มาแล้วล่ะ จากคุณ : ++Sweetie Pie++ - [ 6 พ.ค. 48 11:59:02 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ที่ Post มาทั้งหมด ยาวๆ ก็เพื่อจะนำเสนอในอีกมุมมองที่บางครั้งเราอาจไม่ได้คิดถึงมัน หลายคนที่ไม่ได้ VISA อยากจะแก้แค้นป้าช่องแปดทั้งนั้น สถานทูติก็น่าจะรู้ถึงข้อนี้ดี ป้าช่องแปดเป็นแค่อาการของปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นแค่เศษเสี้ยวหนึ่งที่สถานทูติสร้างขึ้นเพื่อเป็นด่านเอาไว้ ส่วนสาเหตุที่สถานทูติต้องทำอย่างนี้พราะอะไรล่ะ ก็เพราะคนของเรารุ่นก่อนๆไปทำอะไรๆเอาไว้ที่นู่นไม่ใช่เหรอ จะไปโทษเค้าก็ไม่ได้ คนเราถ้าไม่มีความจำเป็นก็ไม่อยากไป ผมก็เป็นคนนึงที่คลุกคลีกะคนแถวๆร้านอาหารบ่อยๆ หลายครั้งที่เราคุยกัน เรารับรู้ถึงความจำเป็นของคนหลายๆคน เศรษฐกิจก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้เราต้องไป หาอะไรที่มันดีกว่าทำ การคอรัปชั่นเล่นพรรคเล่นพวก ก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้คนเราไม่ได้ผุดได้เกิด ถ้าค่าเงินบาท มีค่า 10 บาทต่อ 1 ดอล แล้วใครจะอยากไปทำงานอยู่ที่อเมริกาที่ๆไปไหนก็ไม่ค่อยได้ เจ็บป่วยก็ไม่มีประกันสังคม นั่งเครื่องก็กลัวโดนตรวจ Passport ไปไหนไกลๆก็ต้องนั่ง greyhound นั่งกันจนก้นแฉะก็ไม่ถึงซะที วันหยุดไม่มีไรทำก็ได้แต่ไป casino หลายร้อยปีก่อนอเมริกาอาจเป็นที่ๆ ใครๆก็เข้ามาเริ่มต้นไหม่ แต่ตอนนี้คนเค้าเริ่มเยอะ หลายสิ่งหลายอย่างเริ่มอยู่ตัว จนกระทั้งคนเค้าเองยังว่างงาน ถามหน่อย ถ้ามีคนเขมรหรือคนพม่าเข้ามาทำงานที่คนไทยก็ทำได้เยอะขึ้นเยอะขึ้น ทั้งๆที่คนไทยหลายคนยังว่างงาน กระทรวงแรงงานนั่งเล่นอยู่เฉยๆได้เหรอ อีกอย่างประเทศเค้าก็มีแผนเศรษกิจของเขา ตอนนี้เขาใหญ่ เขาก็ต้องประคองตัวเองไม่ให้ล้ม ไม่สงสัยเหรอ ทำไมอเมริกันต้องไปยุ่งเรื่องชาวบ้านชาวช่อง เพราะถ้าไม่ยุ่งแล้วปล่อยคนอื่นรวมหัวกัน ตัวเองก็ล้มสิ และเมื่อชอบวุ่นวายนักก็จะมีศัตรูเยอะ หลายๆคนอยากถล่มอเมริกาจะตาย สถานทูติเป็นแค่ด่านนึงในการกรองคนเข้ามา แทรกแทรง แย่งงาน หรือหลบหนี .... ไม่ให้คนถูกเข้ามา 10 คน ดีกว่าปล่อยคนผิดเข้ามาทำลายตึกคนเดียว คุ้นๆไหมประโยคนี้สำหรับคนที่เรียนกฏหมาย ทำไมผมถึงบอกว่ามันอยู่ที่ดวงด้วย ก็เพราะปัจจุบันนี้มันยังไม่มีระบบหรือเทคโนโลยีที่สามารถอ่านจิตใจคุณว่าจะไปแล้วจะกลับมานะสิ หลักฐานที่คุณยื่นไปจะหรูขนาดไหนมันก็เป็นแค่เศษกระดาษที่สร้างขึ้นมาได้ ... คุณลองไปสั่งตรายางอันละ 40 บาทสิ สลักชื่อ Company อะไรก็ไม่รู้เอาให้ฟังแล้วดูดีหน่อย ให้เพื่อนคุณโอนเงินเข้าบัญชีคุณทุกๆเดือนสิ หาให้ได้ซะเดือนละ 3-4 หมื่น จากนั้นคุณก็เอา word พิมจดหมายรับรองตัวคุณเอง เขียนว่าคุณเป็น CCO ที่นั่นแล้วให้เพื่อนคุณเซ็น แล้วก็ไปขอสิ สถานทูติมันเคยมาเช็คคุณมั๊ยละ โดยโทรไปหา Boss คุณมั๊ย แล้วเค้ารู้ด้ไงว่าเอกสารที่คุณยื่นมันไม่ Fake วันเวลาผ่านไปอะไรๆ มันก็ยิ่งยาก แต่ก่อนได้ง่าบๆ เดี๋ยวนี้พอมันเยอะเกินไปเค้าก็เคี่ยวขึ้น ในขณะเดียวกัน เค้าก็ยังไม่มีระบบอ่านจิตใจคน การตัดสินใจด็ยังพึ่งมนุษย์อยู่ แต่มนุษย์จะตัดสินใจจากอะไร ก็ต้องจากประสบการณ์ที่เค้าเคยเจอมา ซึ่งแน่นอนมันย่อมไม่เกิดความถูกต้อง 100% มันคือความไม่แน่นอน ถ้าเราทำใจอยู่กะมันไม่ได้ เราก็จะอารมณ์เสีย หงุดหงิดนอนไม่หลับ คิดแต่ว่าป้าชื่ออะไร แล้วก็คิดหาทางไปวีนยังไง ไม่มีความสุขหรอกครับเพราะสุดท้ายเค้าก็ไม่มีทางบอกชื่อและที่อยู่ของป้าไปให้คุณคอยดักซุ่มทำอะไรหรอกครับ จริงอยู่คุณอาจถามชื่อพนักงานที่บริการไม่สุภาพได้ที่ AIS แต่ถ้าคุณทำงานอยู่ หน่วยข่าวกรองหรืออะไรที่เกี่ยวข้องกะความมั่นคงหรืองานที่ถ้าเปิดเผยชื่อแล้วมันจะไม่เป็นผลดีต่อตัวคุณและครอบครัว ถ้าเป็นคุณ คุณจะยอมให้ หัวหน้าเอาชื่อคุณไปประกาศเพื่อรอวันล้างแค้นเหรอครับ ทั้งหมดนี่ก็ไม่ได้เข้าข้างป้า หรือ กล่าวโทษคนที่ไปทำงานอยู่ที่นู่นหรอก ผมก็คลุกคลีกะคนที่นู่นและได้เห็นถึงความจำเป็น และได้สัมผัสกับมุมมองชีวิตต่างๆ เหมือนกัน ทุกคนมีเหตผลของตัวเองและสามารถจะเลือกทางเดินของตัวเอง มีสิทธิที่จะไปรับอะไรที่ตัวเองคิดว่ามันดีกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพออะไรๆมันมากขึ้นๆ และมีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติเค้าเพิ่มขึ้น เค้าก็ต้องระวังตัวและเคี่ยวขึ้นเป็นธรรมดา มันจะ Stereotype หรือ monotype หรือ อะไร type ๆๆๆ เราก็ต้องยอมรับมันว่ามันเป็นข้อเท็จจริง ผมไม่เคยพูดสักครั้งว่าคนไทยทุกคนเป็นอย่างงี้ แต่บ่อยครั้งที่มนุษย์เราพอเห็นใครหลายๆคนทำอะไรคล้ายๆกัน ก็จะเหมาว่าคนชาตินั้นเป็นแบบนั้นทุกคน เหมือนที่ฝรั่งมองไทยว่าเป็น land of smile ซึ่งจริงๆแล้วก็มีคนไทยที่ยิ้มยากๆ อยู่ทั่วไป ไหนๆกระทู้นี้มัน ติดลมบนไปแล้ว ผมก็อยากเอาแง่มุมบางแง่มุมที่คนหลายคนไม่ค่อยได้นึกถึงมา Share ให้ฟังในขณะที่หลายๆคนแค้นป้านั่น มันเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมจึงบอกว่าส่วนหนึ่งมันก็อยู่ที่ดวงด้วย ขณะนี้มันไม่มีอะไรแน่นอนทั้งนั้น ทางสถานทูตก็น่าจะปรับปรุงระบบตรวจสอบอยู่เรื่อยๆ เห็นได้จากการนำระบบ scan นิ้วมือมาใช้ ถ้าคุณร้องเรียนแล้วได้ง่ายๆ คนอื่นเค้าก็มาทำแบบเดียวกัน แล้วจะเกืดอะไรขึ้น ป่านนี้ทางสถนทูติก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว วันๆรับแต่เรื่องร้องเรียนอย่างเดียวเพราะมันมีคนไม่ผ่านำนวนมาก นี่แค่เมืองไทยนะ แล้วอีกหลายๆประเทศละ ต่อไปนี้หน้าที่ของสถานทูตอเมริกาคือรับเรื่องร้องเรียนอย่างเดียว จริงๆ แล้วผมค่อนข้างสนบสนุนให้คุณเขียน อธิบายอย่างสุภาพชนเวลาไป หากคุณคิดว่าคุณไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะสิ่งที่คุณร้องขึ้นไป ทางสถานทูตก็อาจนำไปปรับปรุงการทำงาน ซึ่งมันจะเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นหลังๆ ต่อไป หวังว่าคนที่เข้ามาอ่านที่ผม Post คงเป็นประโยชน์บ้าง เราควรมองอะไรกว้างๆ ยังมีอีกหลายแง่มุมที่เรานึกไม่ถึง ป้าไม่ใช่ตัวปัญหา แต่ป้าคืออาการที่เกิดขึ้นหลังจากปัญหาได้เกิดขึ้น ป้าช่องแปดเป็นแค่เครื่องมือของสถานทูตเพื่อมาสะกัดกั้นไม่ให้คนที่ไม่พึงประสงค์ในสายตาสถานทูติเข้าประเทศ สำหรับคนที่ร้องเรียนแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น หรือคนที่ขอแล้วไม่ผ่าน หวังว่าพออ่านแล้วคงได้รับรู้ถึงแง่มุมบางมุมและทำใจให้หายโกรธเกลียดเคียดแค้นเร็วๆนะ ทุกอย่างบางครั้งเราก็ไม่สามารถไปกำหนดได้ สิ่งที่เกิดขึ้นมันมีที่มาที่ไป เอาไว้ให้ประเทศไทยเป็นผู้นำเศรษฐกิจของโลกก่อน หรือไม่ก็อเมริกาพัฒนาระบบอ่านใจคนสำเร็จก่อน หรือไม่ก็คนไทยที่ไปที่นั่นส่วนใหญ่กลับตามกำหนดและไม่ไปทำอะไรที่ฝืนกฏข้อบังคับของเขาก่อน เมื่อนั้นแหละ บางทีเราอาจจะได้รับความยุติธรรมจากสถานทูตมากกว่านี้ แต่ พศ นี้สิ่งต่างๆเหล่านี้มันไม่มีทางเกิดขึ้นหรอก สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้ก็คือต้องทำใจยอมรับ และเรียนรู้ที่จะอยู่กะมัน จะไปด่าหรือไปนั่งเจ็บใจยัยป้านั่นก็ไม่มีประโยชน์หรอก เพราะสุดท้ายภ้าคุณไม่ VIP หรือรู้จักใคร big ๆ จริง ท้ายสุดก็ทำอะไรไม่ได้ BTY: ช่วงนี้ชี้แนะ จิงๆ พวกเราลองไปทุบกำแพงสถานทูติบ้างนะ เพราะ มีคนทุบรถแล้วเค้ายังคืนเงินให้เต็มจำนวน ไม่แน่ เค้าอาจคืนสี่พันกลับมาพร้อมกะประทับตรา visa 10ปีมาให้ใครจะไปรู้ สคบ ว่าไงตอบด้วย จากคุณ : visa master - [ 6 พ.ค. 48 17:03:19 A:61.90.24.6 X: TicketID:073565 ]

ความคิดเห็นที่ 91 คุณ sweetie pie ใจเย็นๆ นะคะ เราเข้าใจจริงๆ ว่าคุณรู้สึกยังไง เพราะเรามั่นใจว่า เราเองก็รู้สึกแบบคุณมาก่อน ของเราก็แม่ก็ซื้อตั๋วเตรียม ไว้หมดทุกอย่างแล้วเหมือนกัน แล้วไหนจะญาติทางนี้ที่ซื้อตั๋วเครื่องบิน ซื้อทัวร์เตรียมพาน้องกับแม่เราเที่ยว ต้องแคนเซิลทุกอย่าง โชคดีที่ค่าตั๋ว เครื่องบิน ได้คืนเป็นเครดิตสำหรับการซื้อครั้งต่อไป แต่ทัวร์นี้ต้องเสีย ไปเลยสถานเดียว เข้าใจสุดๆ ค่ะว่าคุณอยู่ในอารมณ์แบบไหน เราไม่ห้ามค่ะ ถ้าคุณจะโกรธ หรือว่าจะใจร้อนยังไง แต่ว่าอย่าเพิ่งทำอะไรลงไปในขณะที่ตัวเองยังโกรธ นะคะ เพราะเราเชื่อว่า ถ้ารอให้ใจเย็นลง การทำอะไรทุกอย่างจะดีขึ้นค่ะ ที่เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่าเรื่องแบบนี้มันก็ขึ้นอยู่กับดวงเพราะ เราเชื่อว่า ทุกอย่างไม่น่าจะมีปัญหาไงคะ ป้าเค้าพอใจกับหลักฐานทุกอย่าง ของแม่เราที่ไปสัมภาษณ์ในวันแรก แต่เค้าอยากดูใบเกรดน้องเรา พอกลับไป ใหม่ น้องเราไปคนเดียว แม่เราไม่ได้ไปเดียว ทุกอย่างก็พลิกไปเลย น้องเราเล่าว่า ป้าเค้าสัมภาษณ์จนเหมือนกับว่าจะให้อยู่แล้ว จรดปากกา เตรียมเซ็นแล้ว แต่อยู่ๆ ก็เปลี่ยนใจกลับไปดูหลักฐานใหม่ แล้วก็เกิดบอกว่า ไม่ให้ขึ้นมาซะอย่างนั้นแหละ พ่อเราบอกว่าทำไมถึงไม่ได้ไปรู้ไหม? ก็เพราะว่าแมวห้าตัวมันไปดลใจไม่ให้ป้าออกวีซ่าให้น้องเราน่ะสิ เพราะพวกมันรู้ว่า ถ้าน้องกับแม่เรามาที่นี่ก็จะไม่มีคนคอยให้ข้าว ให้น้ำมัน เรื่องก็คือ แม่เราเอาข้าวให้แมวจรจัดแถวบ้านกินทุกวันค่ะ แม่เค้าจะซื้อปลามาแล้วก็คลุกข้าวให้พวกแมวกิน มีอยู่วัน แม่เราไม่ได้กลับบ้านประมาณสองสามวัน ก็เข้าไปค้างที่บ้านอีกหลังอะค่ะ พอกลับไปพวกมันเห็นว่ากลับมา ก็มายืนรอตั้งแต่พ่อยังจอดรถไม่สนิทเลยค่ะ คนแถวบ้านเล่าว่า พวกแมวมัน มารอแม่เราอยู่ทุกวัน เค้าเห็นแม่เราเคยทำข้าวคลุกปลาให้พวกมัน เค้าก็ ทำให้บ้าง แต่พวกมันไม่มีใครกินของเค้าเลยค่ะ เค้าว่า พวกมันรอแม่เรา กลับมาทำข้าวให้กิน เนี่ยละค่ะ พ่อเราถึงบอกว่า พวกมันมาดลใจไม่ให้น้องเราไป ไม่อย่างนั้น พวกมันจะไม่ได้กินข้าวไปเดือนกว่าๆ เลยค่ะ เราก็เลยทำใจว่า ดวงของ แมวห้าตัวนั้นรวมกันคงแรงกว่าดวงน้องเรา น้องเราเลยโดนสกัดต้องอยู่ บ้านเลี้ยงข้าวแมวต่อไปค่ะ ตอนนี้แม่มาถึงแล้วค่ะ ไปเที่ยวเวกัสกับน้องคนที่สอง ส่วนเราก็ปั่นรายงาน ต่อไป ต้องเสร็จให้ทันส่งพฤหัสฯ หน้าค่ะ ถ้าคุณ sweetie pie ได้เข้ามาอ่านถึงข้อความตรงนี้ ก็หวังว่าจะใจเย็นลง แล้วนะคะ คุณป้าไม่ใช่คนที่มีค่ามากพอที่จะทำให้เราต้องโกรธหรอกค่ะ ทำแบบนั้นถ้าคุณป้าได้มีโอกาสอ่าน อาจจะยิ่งสะใจนะคะที่ทำให้พวกเรา โกรธได้ เพราะคุณป้าไม่ปกติค่ะ ไม่ยอมทำงานตามหน้าที่ แล้วก็ชอบเห็น คนอื่นผิดหวัง ดังนั้น เราต้องไม่ผิดหวังแล้วก็ไม่โกรธค่ะ คุณป้าจะได้โกรธ แทนที่ทำอะไรพวกเราไม่ได้ไงค่ะ ^.^ จากคุณ : small girl - [ 6 พ.ค. 48 18:18:39 A:204.180.74.219 X: TicketID:062549 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ผมงงคุณป้าช่องแปดอย่างนึง เพื่อนผมคนนึง Stamp Visa เต็ม passport เต็มไปหมด โดน คุณ ป้า Reject เนื่องจากว่า ไม่ได้เอา Passport คุณพ่อคุณ แม่ตัวจริงไปด้วย เอ่อ คือ เพื่อนผมอายุ ยี่สิบห้า ทำงานทำการแล้วครับ หลักฐานการทำงานดีด้วย  อ้อ จบจาก ธรรมศาสตร์ ด้วยน่ะ คุณป้าคนนี้เป็นเครื่องมือ screen คนของสถานทูต รึเปล่า ผมไม่ทราบครับ แต่ การเท่าที่อ่านจากพันทิพ และเสียงต่างๆจากคนรอบข้างที่โดนมา ผมรู้สึกว่าคุณป้าคนนี้ ใช้ อะไรไม่รู้ในการ screen ครับ criterea ??? จากคุณ : เด็กชายรอยยิ้มโทรศัพท์และน้ำตา - [ 6 พ.ค. 48 21:54:09 ]

ความคิดเห็นที่ 93 คุณป้าช่องแปดครับ เรารู้ว่าป้าต้องเขามาดูกระทู้นี้แน่ๆ ผมไม่ได้เป็นญาติคุณ small girl แต่ผม... ผมกะลังร้องไห้หลังจากได้อ่าน คหที่ 91 หากป้าเป็นอย่างที่คนเค้าบ่นๆจริง ป้าน่าจะปรับปรุงวิธีการปฎิสัมพันธ์กะผู้คนได้แล้ว คนเค้าเสียเงินมาตั้ง 4000 บาท ถ้าไม่ให้ก็น่าจะปฎิเสธเค้าดีๆหน่อย ถ้าวิธีการที่ป้าพูดมันแข็งๆ ฟังแล้วเหมือนตลกร้าย ป้าก็ลดๆ ลงหน่อยเถอะ เพราะที่นี่ ประเทศไทย แล้วคนที่ไปขอ VISA ก็คนไทยส่วนใหญ่ ไม่ใช่คนอเมริกัน ถ้าป้าพูดจาบางอย่างหรือทำหน้าตา ... เบ้ๆ ไม่แคร์ใคร ถ้าเป็นคนอมเริกันอาจไม่คิดอะไรเพราะมันเป็นวัฒนธรรมของเค้า แต่คนไทยเค้าอาจได้ดูได้ฟังแล้วไม่ค่อยสบอารมณ์ก็ได้ เข้าใจว่าคนไปขอเข้าประเทศเยอะ และป้าก็ต้องทำตามหน้าที่ บางครั้งก็ต้องปฏิเสธบ้าง แต่กระบวนการพูดและแสดงทัศนะของป้ารวมทั้งสีหน้าของป้า กะลังทำให้คนมีทัศนคติที่ไม่ค่อยจะดีต่ออเมริกาหลายคนแล้วนะ ยิ่งตอนนี้มีคนไม่ชอบอยู่เยอะแล้วด้วย จากคุณ : Visa Master - [ 6 พ.ค. 48 22:00:25 A:61.90.25.42 X: TicketID:073565 ]

ความคิดเห็นที่ 94 น้องเหมียวน้อยทั้ง 5 ตัวก็เลยได้ข้าวกินต่อไป...ก็ไม่เป็นไรนะ ถือซะว่าน้องสาวคุณ small girl ได้ทำบุญอยู่ที่เมืองไทย อีกหน่อยก็ได้ไปเองล่ะจ้ะ จากคุณ : : ) - [ 7 พ.ค. 48 00:25:09 A:61.90.34.117 X: TicketID:070742 ]

ความคิดเห็นที่ 95 Hello Krab Khun small girl and Khun Visa Master .I lost from bord long time and come back again .I think in Thailand have lot of poeple who have problem like this .I think we standing and do something .I think about 4,000 thb .for some poeple is very much . If She refuse mean 4,000 tbh .For my idea I think not so good na krab .Anyway .Thank you for Khun small girl and Khun Visa Master krab for everybody . Khun Sweetie Pie sloe down krab .come back and thinking How we can get but For me now I start to think How we can get money from US .hi hi hi จากคุณ : *****JIm JUm ***** - [ 7 พ.ค. 48 04:27:59 A:80.35.184.208 X:80.58.20.44 TicketID:092919 ]

ความคิดเห็นที่ 96 Oh Dee Jai for Khun small girl na krab .I pray for you to get degree asp na krab . จากคุณ : *****JIm Jum ***** - [ 7 พ.ค. 48 04:29:06 A:80.35.184.208 X:80.58.20.44 TicketID:092919 ]

ความคิดเห็นที่ 97 เราเคยได้ยินมานะว่า คนที่ทำงานคล้ายๆ กับป้า 8 ของสถานทูตแห่งหนึ่ง (ซึ่งเป็นประเทศที่ ไก่-หญิงไทยชอบหนีไปเริงร่าขายตัวตามซ่องกันเยอะ) ไม่ออก visa ให้ผู้ชายคนหนึ่ง และคนสถานทูตคนนั้นก็ถูกขู่ฆ่าถึงบ้าน ก็เลยต้องย้ายไปประจำที่อื่น น่ากัวววววว... จากคุณ : เท่าที่เรารู้มา - [ 7 พ.ค. 48 09:51:13 A:61.90.69.195 X: TicketID:070742 ]

ความคิดเห็นที่ 98 what happened to you ka khun visa master? why did you have to cry lor ka? จากคุณ : small girl - [ 7 พ.ค. 48 11:32:00 A:204.180.74.219 X: TicketID:062549 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ขอบคุณค่ะคุณsmall girl ใจเย็นขึ้นแล้วค่ะ แต่ยังเสียใจอยู่ อยากให้น้องมามากๆ เพราะว่าตอนแรกตั้งใจว่าจะขับรถไปโน่นนี่กันสี่คนพ่อแม่ลูก แล้วที่เที่ยวแต่ละที่ก้ไกลๆกันทั้งนั้นเลย(คาดว่าเราน่าจะอยู่แถบๆเดียวกันนะคะ) อยากให้น้องมาช่วยกันดูทาง ช่วยกันขับน่ะค่ะ พ่ออายุเยอะแล้ว ไม่อยากให้ขับรถที่นี่ กลัวเค้าจะกังวลกับซ้ายขวา อะไรเงี้ยน่ะค่ะ จะขับคนเดียวก้อ่วมอยู่ เรื่องร้องเรียน คิดว่ายังไงก้คงไม่มีประโยชน์ ก้อย่างที่เค้าว่ากันว่ามีคนร้องเรียนเยอะแยะแล้ว ป้าแกก้ยังอยู่ได้ ที่แย่ก้คือเมื่อวานตอนน้องกลับไปอีกที พ่อกับแม่รีบเอาเอกสารออกไปให้ แม่ก้เลยเข้าไปด้วย แทนที่จะพูดกันดีๆ แม่บอกว่าเค้าไม่มองหน้าเลย พูดกับลม กับอะไรไป เหมือนเป็นหัวหลักหัวตอนะค่ะ อยากจะบอกว่าแม่เราไม่ใช่แบบป้าๆหรือซิ้มนะคะ ปกติไปไหนก้จะได้รับการทรีตดีเป็นพิเศษ ประมาณว่ามีราศีน่ะค่ะ เลยคิดว่าถ้าขนาดกับแม่เรายังโดนงี้ คนอื่นจะเป็นยังไง เจออย่างนี้ เลยอารมณ์เสียกันทั้งบ้าน แต่ก้ดีค่ะ เราๆทั้งหลายก้จะได้มีป้าเป็นแรงผลักดัน ว่าชาติต้องได้ดี เป็นใหญ่เป็นโต หรือไม่ก้รู้จักกับคนใหญ่คนโต จะได้ไม่มีปัญหาเวลาขอวีซ่าอเมริกา ดีไม๊คะ จากคุณ : ++Sweetie Pie++ - [ 7 พ.ค. 48 12:53:58 ]

ความคิดเห็นที่ 100 อ้อ ส่วนเรื่องมาตรฐานการออกวีซ่าเนี่ย ไม่มีหรอกค่ะ เค้าเขียนไว้ชัดเจนในเว็บเลยค่ะ ว่าขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ เป็นสิทธิขาดค่ะ ประมาณว่าอาศัยประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่เอาค่ะ เค้าจะรู้ไม๊คะ ว่าอายุที่มากขึ้น ไม่ได้ทำให้เจ้าหน้าที่บางคนมีความสามารถมากขึ้นตามหรอกนะคะ จากคุณ : ++Sweetie Pie++ - [ 7 พ.ค. 48 12:58:37 ]

ความคิดเห็นที่ 101 Khun Small Girl อ่านแล้วซึ้งมาก น้ำตาเล็ดก็เพราะเรื่องให้อาหารแมวคุณนั่นแหละ เสียงของเราคงไม่เป็นประโยชน์กะเรา แต่มันอาจจะไปสะกิดป้าให้ปรับปรุงวิธีการพูด การทำงาน กาลครั้งหนึ่งเคยนั่งกินไม่ได้นอนไม่หลับ เกิดมาไม่เคยเสียหน้าหรือต้องไปง้อใครก่อนเลยถึงสองครั้ง แล้วยิ่งพอไม่ได้ยิ่งกลัดกลุ้ม นั่งหาแต่คำตอบว่าทำไมไม่ได้ แต่พอได้คุยกะคนหลายๆคนก็เลยเย็นลงๆๆๆๆๆ หลายคนบอกให้มองอะไรลึกๆถึงสาเหตุที่แท้จริง บางอย่างเราจะไปแก้มันก็ไม่สามารถ พอเรารู้เหตผลว่าแท้จริงแล้วทำไมจึงเคี่ยวอย่างงี้ เราก็เลยเข้าใจและทำใจได้ เราเลยรู้ว่าแท้จริงแล้วตัวเราเป็นแค่เศษหนึ่งส่วนล้านของคนที่ผิดหวัง เมื่อเราคลานก็แพ้ เดินก็แพ้ ก็เหลืออย่างสุดท้ายคือวิ่งนั่นแหละ วิ่งๆๆๆๆๆ จึงจะชนะ คุณ Sweetie Pie ผมก็โดนคนผลักมาแล้ว เลยบอกไง ว่าดวงและโอกาสบางครั้งก็จะเป็นตัวช่วยได้เหมือนกัน BTY: http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H3459995/H3459995.html ไม่รู้ใครเข้าไปดูยัง บางที่ผมว่า print กระทู้ใน Pantip เอาไปให้ คุณสมัครอ่านน่าจะดีนะ จากคุณ : Visa Master - [ 7 พ.ค. 48 23:39:06 A:61.91.170.216 X: TicketID:073565 ]

ความคิดเห็นที่ 102 http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H3459995/H3459995.html จากคุณ : JingleJ - [ 8 พ.ค. 48 04:53:26 ]

ความคิดเห็นที่ 103 เคยไปสมัครวีซ่าของสถานทูตนึง เค้าโทรมาถามว่า ทำไมมีวีซ่าของประเทศนึงที่ขอไปไม่มี stamp -_-" งง เลย ทำงานยิ่งกว่า FBI อีก จากคุณ : นับเราด้วยคนนึง - [ 8 พ.ค. 48 11:42:09 ]

ความคิดเห็นที่ 104 โห ... อ่านแล้วเครียดเลยค่ะ ปกติมั่นใจมาก ว่าตัวเองไปขอ คงไม่มีปัญหา เพราะเคยได้มาสิบปีแล้ว (แต่เพิ่งหมดไปเมื่อมกราคมนี้) วันพฤหัสนี้จะไปขอวีซ่าไปเรียน แต่เป็น Extension Program พออ่านแล้วก็อึ้งเลย ไม่รู้จะต้องเตรียมใจไว้ไง เรามันก็คนใจร้อนซะด้วย เฮ้อ ... ช่วยๆ กันภาวนาให้เรารอด(จาก ยัยป้า) ด้วยนะค้า (กัวเจง ๆ) จากคุณ : MoccaBaileys - [ 8 พ.ค. 48 12:23:55 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ขอโทษค่ะ นอกเรื่องนิดนึง...เรามี pin card ของ hatari เหลือกี่บาทก็มะรู้นะ แต่ถ้าโทรไป USA ได้ 14 นาที... เราเชื่อว่าถ้าโพสข้อความแล้วคนแรกคนเดียวเท่านั้นที่จะได้ใช้รหัสนี้ แต่เราไม่อยากเก็บไว้แล้วจริงๆ (เพราะเลิกกะแฟนที่อยู่นอก) รหัสค่ะ 900234960644 จากคุณ : MomMam - [ 8 พ.ค. 48 14:52:40 A:10.42.5.171 X:202.28.180.201 TicketID:069143 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ฮัลโหล ทุกๆ ท่านคะ แค่อยากจะบอกว่า บางที อาจมีเหตุผลหลายอย่างก็ได้ค่ะ คุณป้าแกอาจมีเหตุผลที่ไม่สามารถบอกได้ เป็นไปได้ไหมคะ?? ดิฉันเอง เคยได้วีซ่ามาจากคุณป้าเองค่ะ คุณป้าวันนั้น อารมณ์ดีพูดจาน่ารัก ไม่ดุ ตอนไปก็ไม่เคยได้ยินกิตติศัพท์แกมาก่อนเลยนะคะ หลังจากนั้น มาอ่านข้อความใน pantip เลยนึกว่า "ตายละวา เราเจอคุณป้า ผู้โด่งดังมาแล้วหรือนี่" แต่ไหงถึงผ่านมาได้ละคะ อ้อ เดินทางสองคนค่ะ กับญาติ เห็นคุณป้าเค้าบอกว่า ถ้ามาคนเดียวไม่ผ่านชัวร์ๆ ค่ะ จากคุณ : sonia - [ 9 พ.ค. 48 00:11:59 A:61.91.86.111 X: TicketID:095366 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ลืมบอกไปค่ะ หน้าที่การงานเราสองคน โอเคค่ะ เงินในบัญชี ก็พอใช้ได้ แต่ไม่มากมายอะไร แต่หน้าใสซื่อค่ะ อิอิอิ จากคุณ : sonia - [ 9 พ.ค. 48 00:16:03 A:61.91.86.111 X: TicketID:095366 ]

ความคิดเห็นที่ 108 เข้ามาแสดงความเสียใจค่ะ เข้าใจคุณ จขกท. มากๆค่ะ เราก็เคยรู้สึกฉุนกึ้กมากๆเหมือนกันกับคุณป้าคนนี้ ทั้งๆที่ตอนที่เรารู้เรื่องจากน้องเราเราไม่เคยได้ยินกิตติศัพท์ของเค้ามาก่อน คือเมื่อ summer ที่แล้วน้องสาวเรา 2 คนจะมาเรียน summer course ที่นี่แล้วก็จะมาอยู่กับเรา (ที่อเมริกา) พอดีน้องคนนึงก่อนหน้านั้นเค้าพึ่งไปมาเลยไม่ต้องสัมภาษณ์ แต่น้องอีกคนนึงไปมาปีสองปีแล้ว เลยต้องสัมภาษณ์ จริงๆแล้วน้องเราคนที่ต้องสัมภาษณ์นั้นเคยไปอยู่อเมริกาเป็นปี ส่วนเราก็กำลังเรียนอยู่ที่นี่ ส่วนน้องอีกคนก็พึ่งจะมา พ่อแม่เราก็พึ่งจะมาเมื่อปีก่อนหน้านั้นและมีวีซ่า 10 ปี แต่... คุณป้าคนนั้นกลับบอกว่าไม่ให้ เพราะบ้านเราไม่เคยมีประวัติมาอเมริกา!!!! น้องเราก็เลยบอกไปว่าน้องเราก็พึ่งไปอยู่มาเป็นปี ใน passport ก็ยังมี stamp อยู่ ตอนนี้พี่สาว (ซึ่งคือเรา) ก็เรียนอยู่ พ่อแม่กับพี่สาวอีกคนก็พึ่งไปมาปีที่แล้ว ที่บ้านจะไม่เคยมีประวัติไปอเมริกาได้อย่างไร คุณป้าตอบมาว่า... คอมพิวเตอร์บอกว่าไม่มี คอมพิวเตอร์ไม่ผิดหรอก... เราได้ยินนี่เราโมโหมาก ที่บ้านเราก็โมโหเหมือนกัน สุดท้ายไม่รู้ว่าน้องเราทำยังไงถึงได้มา แล้วถึงบ้านเราไม่มีประวัติมาจริงๆแล้วน้องเราจะมาไม่ได้เพราะเหตุผลนั้นหรอ? น้องเราเรียนอยู่วิศวะจุฬาฯ เกรดก็ไม่น่าเกลียด บ้านเราก็ไม่ได้ว่าจนขนาดต้องส่งลูกสาวมาเป็น robinhood ทั้งๆที่ยังเรียนไม่จบเรารู้สึกว่าเหตุผลที่เค้าปฏิเสธมันข้างๆคูๆมาก เราว่าถ้าไปขอแล้วแล้วเรามีหลักฐานหนักพอแต่เค้ากลับให้เหตุผลในการปฏิเสธแย่ๆเราก็ควรจะอธิบายให้เค้าเข้าใจนะคะ ถ้าสำหรับป้าคนนี้ใช้ไม้แข็งไม่ได้ก็อาจจะต้องใช้ไม้อ่อน จากคุณ : เสียใจด้วยค่ะ - [ 9 พ.ค. 48 04:01:52 A:160.39.250.117 X: TicketID:056721 ]

ความคิดเห็นที่ 110 อยากดูรายการถึงลูกถึงคน... ตอน... คุณป้ามหาภัย ล้อเล่นนะครับ จากคุณ : Hematite - [ 9 พ.ค. 48 08:49:20 ]

ความคิดเห็นที่ 111 โห...ป้าแกดังกว่าดารา Hollywood อีกนะเนี่ย แต่ไม่ใช่นางเอกนะ....เป็นนางมารร้ายตัวจริง เท่าที่รู้กิตติศัพท์แก หลายคนโกรธไม่ใช่เพราะไม่ได้วีซ่านะ แต่พฤติกรรมของแกที่แสดงออกกับเพื่อนร่วมชาติ อย่างดูถูกดูแคลนมันน่าเจ็บใจมากกว่า วีซ่าไม่ผ่านก็ช้ำพอแล้วมาเจอยัยป้าพูดให้เจ็บช้ำน้ำใจอีก มันก็น่าที่ใครดันซวยไปเจอป้าแกจะแช่งให้แกตายไวๆจะได้ไปขอวีซ่าใหม่.... ยังไม่มีโอกาสไปเหยีบสถานฑูตอันเป็นที่รักของป้าแกซักที กะจะรอได้ immigration ของ Singapore จะได้ไม่ต้องไปขอวีซ่ากับป้าแกให้เป็นจุดด่างในชีวิต.... ขอโทษนะป้า..หนูไม่ง้อป้าหรอก แต่ป้าเพลาๆลงบ้างนะสงสารคนไทยคนอื่นบ้างเหอะ เดี๋ยวเค้าจะแช่งให้ป้าตายเร็วขึ้นก่อนวัยอันควร จากคุณ : นางพญาผมยาว - [ 9 พ.ค. 48 15:56:26 ]

ความคิดเห็นที่ 112 เราว่านะสถานทูตน่าจะมีการเช็คสภาพจิตก่อนที่จะเลือกคนมาปฏิบัติหน้าที่นี้นะ เหมือนคนที่เป็นหมอเค้าก็ต้องมีการตรวจสภาพจิตก่อน ไม่รู้ยายคนนี้ผ่านมาได้ไง ปล่อยให้มาระบายความแค้นกะคนที่ไม่รู่อิโหน่อิเหน่ไม่รู้เก็บกดมาจากไหน เลยสงสัยว่าถ้าอำนาจอยู่ในมือคนชั่ว อะไรจะเกิดขึ้น??? จากคุณ : พิม - [ 9 พ.ค. 48 18:09:42 A:168.120.13.2 X: TicketID:090881 ]

ความคิดเห็นที่ 113 วันนี้ดูรายการทีวีคุณสมัครสนทนากับคุณดุสิต มีการคุยถึงเรื่อง ความไม่เข้าท่าของสถานกงสุลยูเอส ที่ไม่ให้วีซ่าคนไทย แต่ดันเรียกเก็บเงิน 4 พันบาท มีการคุยกันว่าจะนำเรื่องนี้ไปถามท่านทูตยูเอส แต่ก็มีการคุยกันอีกนั่นแหละว่า ท่านทูตจะตอบว่า ไม่ใช่หน้าที่ของท่าน เป็นหน้าที่ของส่วนงานอื่นของยูเอส คุณสมัครให้ความเห้นว่า เราควรปฏิบัติต่อพลเมืองของยูเอสให้เท่าเทียมกัน คือ ต้องทำวีซ่าเข้าบ้านเรามั่ง เล่าสู่กันฟังครับ จากคุณ : เฒ่าน้อย - [ 9 พ.ค. 48 20:43:50 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ผมว่านะ เค้าใช้ป้าคนนี้เป็นคนเช๊คกึ๋นของผู้สมัคร คุณจะไปอเมริกานะ เค้าจะดูว่าคุณเอาตัวรอดได้รึป่าว ถ้าเอากับไอ้ป้านี่ไม่ป่าน ก็คงเอาตัวรอดที่อเมริกาไม่ได้ ก็เป็นอันไม่ผ่านไป ลองเถียงดูสิ เถียงกลับแบบถ้าไม่ให้ฉันผ่านเพราะเหตุผลงี่เง่าก็เอา รปภ มาลากฉันออกไปซะเลย เท่าที่ฝังดูแล้วคนที่โดนไม่ผ่านเพราะไม่มีเหตุผล ทำไมไม่มีการโต้แย้งกลับไปนะตอนนั้นให้ป้าเขาจนมุมด้วยเหตุและผลล่ะครับ? จากคุณ : Coffee Bean - [ 12 พ.ค. 48 04:02:53 ]

ความคิดเห็นที่ 116 เราก็พูดนะ พูดจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้วว่ายังงู้นยังงี้ แต่ป้าแกก็คิดเอง สรุปเองเสร็จสรรพไม่ฟังอะไรเราเลย เราก็ไม่กล้าจะไปเถียงอะไรมากกลัวจะโดนดีทีนี้แหละซวยเลย ยังไงแกจะไม่ให้ก็ไม่ให้อะคุณ พูดอะไรแกก็ไม่ฟัง แล้วเราก็เคยไปมาหลายทีแล้ว สัมภาษณ์กับฝรั่งก็ไม่เคยมีปัญหาเลย เราว่ามันไม่เกี่ยวกันนะถ้าเอากับป้านี่ไม่ผ่านก็คงเอาตัวรอดที่อเมริกาไม่ได้ จากคุณ : พิม - [ 12 พ.ค. 48 23:41:14 A:168.120.26.177 X: TicketID:090881 ]

ความคิดเห็นที่ 117 มันเกี่ยวอะไรกันด้วยฟะ ถ้าไม่ผ่านป้าคนนี้ ไปอเมริกาก็เอาตัวรอดไม่ได้ เหอ....เหอ ป้าแกไม่ให้ เพราะคนไทยสมองคิดได้แค่นี้ หรือเปล่า แกถึงไม่ให้น่ะ คิดได้ไง แค่ไม่ผ่านป้า ไปอเมริกาก็เอาตัวไม่รอด วัยรุ่นเซ็ง....... จากคุณ : เข้ามาอ่านนานละ - [ 13 พ.ค. 48 05:51:41 A:203.113.33.10 X:203.151.140.111 TicketID:074336 ]

ความคิดเห็นที่ 118 เราได้วีซ่ากะป้าช่องแปด..ก็ไม่รู้เหมือนกันเป็นโอแปมั้ง แต่ที่เข้ามานี้ไม่รู้ช้าไปป่ะ..มาเป็นกำลังใจให้เจ้าของทู้นะคะ... จากคุณ : ก้อนหินริมทาง - [ 13 พ.ค. 48 22:13:11 ]

ความคิดเห็นที่ 119 I think I had been facing the same trouble with you. I, my parents and 2 brothers were planning to go to attend my sister gradution in next week. My parents have already got 10-yr visa since 2 years ago and I used to have F-1 for my Master. Then on the past Monday I and 2 younger brothers were interviewed for B1/B2 visa by that Auntie. On that day, both of them were denied by 3 reasons which are 1.Their education status since they are still 1st and 2nd year at BU. 2.Don't know they are well at school or not? 3.Not all people who have money can get visa.....About mine, I needed to summit 2 more evidences which are 1.My parents passports 2.Source of my mom income shown in the bank books. So the 2nd interview, she mostly kept her eyes on my parents passport and my transcript and found my parents have been to the US last year. So well done, I just went to pick up my 10-yr visa today and left there at 6.30pm.....can you guys believe what the hell is that waiting? An officer kept the boxes contained visaed passports underneath the table at the window 1-3 causing other officers couldn't find them. So there were like 30 people hanging out with me that long. And eveyone didn't wanna go home, we all only wanted our passports back! However, the officer has been sorry to all of us though. จากคุณ : Little Chicken (Little Chicken) - [ 14 พ.ค. 48 00:35:43 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ที่จริงปีนี้คิดจะไปเยี่ยมhost family ที่ยังคงติดต่อกันมาโดยตลอด พอรู้ว่าคิวสัมภาษณ์ยาวไป.......โน่น  8-9 สัปดาห์ อะจ๊ากกกกก........... อิฉันมาคำนวณแล้ว มันจะเลยเปิดเทอมไปแล้วนู่น ลูกชายคงต้องขาดเรียน อย่ากระนั้นเลย ไปเที่ยวที่อื่นก่อน ไม่เข้าใจว่ะ ทำไมมานานแบบข้ามศตวรรษอย่างนี้ จากคุณ : เซ็ง (tomoko) - [ 14 พ.ค. 48 21:19:41 ]

ความคิดเห็นที่ 121 เอ... รอมาก็หลายเพลาแล้ว ไม่เห็นมีนักกฎหมายของแผ่นดินมาตอบกระทู้บ้างเลย เคยอ่านมีนักกฎหมายเยอะเหมือนกันนิ พวกที่ไปต่อ LLM มหาวิทยลัยอันดับหนึ่ง แต่ทำไมประเด็นอย่างนี้ หายไปไหนหมดล่ะครับ จากคุณ : ThaiAng- - [ 15 พ.ค. 48 11:56:31 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ไม่อยากให้ตก จากคุณ : Rovershearer - [ 16 พ.ค. 48 12:22:29 ]

ความคิดเห็นที่ 123 แล้วทำไมไม่เลือกสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษกันละครับ หรือว่าโดนเหมือนกัน จากคุณ : praphrut608 - [ 17 พ.ค. 48 09:07:59 ]

ความคิดเห็นที่ 124 I got H1B approval from US. However, it denied my change of the status. They asked me to request the visa outside the US. I plan to go back thailand. Is there a probablility of getting H1 from US Embassy in thailand? Does anyone know anything about that? Can they deny my H1 visa eventhough I already got approved in the US?? Does anyone suggest me to go back thailand?? Or should I go to Canada and get visa there instead?? จากคุณ : Au - [ 19 พ.ค. 48 00:41:16 A:63.208.36.92 X: TicketID:098854 ]

ความคิดเห็นที่ 125 I think you could go to Canada instead..sometimes, someone in the US Embassy in Thailand is quite stupid. จากคุณ : -- - [ 19 พ.ค. 48 08:50:37 A:61.90.34.215 X: TicketID:070742 ]

ความคิดเห็นที่ 126 เลือกได้ด้วยหรอว่าจะสัมภาษณ์เป็นภาษาอะไร เราไปไม่เห็นเค้าถามหรือให้เลือกอะไรเลย เจอป้าเหมือนกันแต่ผ่านมาได้ด้วยดี ป้าก็พูดจาดีด้วยคงเพราะเอกสารเราดีมั้ง (เรามีเอกสารรับรองจากรัฐบาลus) แต่เพื่อนเราที่เคยขอวีซ่าท่องเที่ยวเคยโดนไปเหมือนกัน จากคุณ : Lindt - [ 19 พ.ค. 48 13:31:22 ]

ความคิดเห็นที่ 127 Khun Au If you already got the the paper from the INS saying that your status now in the US is H1, there is no problem for u to go back to Thailand to change your visa. I did it before. จากคุณ : gang - [ 20 พ.ค. 48 00:33:11 A:4.237.245.19 X: TicketID:098397 ]

ความคิดเห็นที่ 128 คุณป้าท่านนี้ ผมก็จำได้คลับคลายคลับคลา ว่าผมก็ไปขอกับเข้าเหมือนกัน เกรดผมก็ไม่ได้ดีอะไร ขอได้ไม่มีปัญหานี่คับ (คงเป็นเพราะว่าหาเหตุผลไม่เจอ) แต่เห็นหน้าแล้วก็รู้สึกไม่ชอบหน้าแกเหมือนกัน (อันทพาลหน่อย ๆ อิอิ) จากคุณ : นธี - [ วันวิสาขบูชา 03:21:18 ]

ความคิดเห็นที่ 129 เด๋วนี้เจ๊แกย้ายไปนั่งช่อง 9 แล้วนะ...สงสัยกลัวเจอน้ำกรดสาด... แต่คนไทยที่ทำงานที่สถานทูตเมกานี่มารยาท "ทราม" จริงๆ...ทั้งการพูดการจาและท่าทาง... ขนาดเพื่อนเราเป็นฝรั่งสัญชาติเมกันตอนนั้นมารับเด็กไทยไปเป็นลูกบุญธรรมนี่เค้ายังบอกเลย ว่าประทับใจทุกแห่งในเมืองไทย...ยกเว้นที่เดียวคือที่สถานทูตเมกา.... จากคุณ : maebannannie - [ วันวิสาขบูชา 14:41:36 ]

ความคิดเห็นที่ 130 อำนาจอยู่ในมือข้า ข้าจะทำอะไรก็ด้าย ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผมไม่เคยไป USA ไม่เคยขอวีซ่าของที่นั่น เคยแต่ไปขอที่ Austria ก็มีป้าคนนึงคล้ายๆ กัน ขอแต่ละที่ยุ่งยากมากทั้งที่ผมก็เคยไปมาแล้ว 1 ครั้ง พอ 5 ปีให้หลังไปขออีกครั้ง ไม่ผ่านเฉยเลย แต่ดีที่เป็น EU เลยเลี่ยงบาลีไปขอที่ France ขอปุ๊บ ผ่านเลย หลักฐานเหมือนเดิม นี่แหละ อำนาจอยู่ในมือข้า ข้าจะทำอะไรก็ได้  จริงๆ Austria เป็นเมืองท่องเที่ยว ฝรั่งมันอยากให้คนไปเที่ยวจะตาย แต่ไอ้คนของเรามันบาอำนาจเอง จากคุณ : Krajye - [ 25 พ.ค. 48 19:30:06 ]

ความคิดเห็นที่ 131 ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ ทำไมถึงอยากไปเมืองนอกกันนักนะ ผมเองยังไม่อยากไปเลย ที่ไปเพราะถูกบังคับให้ไปว่ะ ไปเรียนไม่ได้ไปเที่ยว เรียนจบก็กลับเลย มาอยู่เมืองไทยดีกว่า พวกคุณโดนสื่อฝรั่งมั่นล้างสมองหมดแล้ว อย่างVOAนะมันไม่ให้คนอเมริกันฟังหรอก มันเอาไว้ให้ไอ้โง่กะเหรี่ยงฟัง VOA มีกำเนิดจากสงครามเย็น ไอ้กันมันเอาไว้โปรกะกานดาต่อต้านรัสเซีย ล้างสมองประเทศที่กำลังพัฒนาเท่านั้น หรืออย่าง CNN สัญชาติอเมริกันเป็นของTime warner เจ้าของสื่อหลายอย่าง อย่างเช่น HBO นั่นก็เหมือนกัน ตอนนี้กำลังโปรโมทประเทศจีนไม่รู้เหมือนกันมีประสงค์อะไร? แต่ที่แน่ๆมันไม่เลียก้นประเทศจีนโดยไม่หวังผลหรอก จากคุณ : เข้ามาจอย - [ 26 พ.ค. 48 07:42:27 A:203.156.27.190 X:203.147.0.9 TicketID:033855 ]

ความคิดเห็นที่ 132 ใครช่วยส่งกระทู้นี้ไปหาหน่วยงานที่เราสามารถร้องเรียนได้เถอะ หรือส่งให้คนในสถานทูต จากคุณ : - - [ 27 พ.ค. 48 12:12:24 A:61.90.34.96 X: TicketID:070742 ]

ความคิดเห็นที่ 133 อ่านแล้วกลุ้มใจแทน ...... เฮ้อ.. จากคุณ : โปเกโดเรมอน - [ 29 พ.ค. 48 19:44:25 A:58.9.187.52 X: TicketID:091498 ]

ความคิดเห็นที่ 134 ช่องเจ็ดสีทีวีเพื่อคุณ... จากคุณ : sickboy_1983 - [ 30 พ.ค. 48 13:33:36 ]