ความคิดเห็นที่ 1 คอยเป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : ??? - [ 9 พ.ค. 48 00:24:38 A:61.7.142.198 X: TicketID:097374 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คิดแต่จะหวังพึ่งคนอื่น ก็จะรู้สึกแบบนี้แหละ เวลาที่คนเขาไม่สนใจคุณ จากคุณ : . - [ 9 พ.ค. 48 00:53:43 A:67.113.28.77 X: TicketID:085350 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เคยอ่านที่นี่ พบว่า นักเรียนไทย ไม่ค่อยชอบนักเรียนจีนกับเกาหลี บอกว่าพวกเขาเห็นแก่ตัว แต่คุณพบนักเรียนจีน ช่วยเหลือคุณเป็นอย่างดี ก็แสดงว่า ขึ้นกับแต่ละคน ดังนั้นเรื่องนักเรียนไทย ที่คุณบ่นมา ก็น่าจะขึ้นกับแต่ละคนเช่นกัน คนเราบางทีศรศิลป์ มันก็ไม่ตรงกันก็มี  แล้วก็อย่าลืมมองในมุมกลับบ้างว่า มีเหตุผลอะไรทำไมเขาจึงจะตัองมาช่วยคุณ คุณมีสิทธอะไรที่จะหวังให้เขามาช่วย ที่เขาไม่ช่วยคุณอาจจะเป็นเพราะว่า เขาเองก็มีปัญหา หรือเคยมีปัญหากับนักเรียนไทยคนอื่นมาก่อนก็ได้ เขาจึงไม่อยากคบค้าสมาคมช่วยเหลือคุณ อย่าไปว่าเขาเลย เพราะคุณเองก็ดูท่าทางไม่ย่อย เอาเขามาว่าซะแล้วตรงนี้ จากคุณ : ธนิตา - [ 9 พ.ค. 48 00:55:16 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หวังมากไปรึป่าวคะ ดูเหมือนว่าจะคอยรับความช่วยเหลืออย่างเดียวเลย ไปเมืองนอก สิ่งที่จะได้แน่นอนเลย คือ การช่วยเหลือตัวเอง เอาตัวเองให้รอดนะคะ มันฝึกความแข็งแกร่งให้เราค่ะ อย่ารอคอยความช่วยเหลือจากคนอื่น ถ้าเรายังไม่ได้ช่วยเหลือตัวเองเลย จากคุณ : gigi - [ 9 พ.ค. 48 00:55:29 A:24.30.148.50 X: TicketID:067983 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ที่คุณนำมาลงเนตัวอย่างของเพียงคนไทยคนเดียว และตัวอย่างของเพื่อนคนจีนคนเดียวกัน ขอค้านว่า... ไม่จริง... ที่ว่าคนไทยในเมืองใหญ่ ไร้น้ำใจ เราอยู่นิวยอร์ค ถึงไม่ได้อาศัยในสังคมคนไทย ทั้งๆที่อยู่ในโบโรหนึ่งในนิวยอร์ค แต่ดูห่างไกลจากคนไทยมากๆ... ไม่เจอคนไทยเลย... แต่เรามีเพื่อนคนไทย ที่เรารู้จักกันผ่านเนท เขาเป็นผู้ชายคนไทย และมีครอบครัวมีลูกแล้วหนึ่งคน... ไปๆมาๆเขาเป็นครอบครัวคนไทยที่เราคุ้นเคยกับเขา และเมียเขามากที่สุด เรายังพาลูกๆนอนค้างคืนเป็นเบบี้ซิทให้ลูกเขา เมือ่เขาขอให้เราช่วยดูแล... ก่อนหน้านี้เมื่อเขามีเวลาว่างจากงาน เขาจะขับรถไกลมากมารับ ส่งครอบครัวเราพาไปซื้อของไกลๆด้วย และช่วยเหลือเรื่องเป็นผู้ค้ำประกันให้ลูกเรา โดยที่เขาไม่หวังว่าต้องตอบแทนอะไร... แต่เราตอบแทนน้ำใจเขาโดยผ่านให้กับลูกเขา เชิญเขาไปเลี้ยงทานอาหารด้วย และยังมีคนไทยอื่นๆอีกบางคนที่ช่วยเหลือกันได้.. เมื่อเขารู้จักกันดีพอแล้ว.. พอที่จะคบกันไปได้ด้วยดี ใช่ว่าคนต่างชาติทุกคน จะเสนอหน้า ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเสมอไป... มันขึ้นอยู่กับความถูกใจ ถูกชะตาต่อกันด้วย... คนไทยที่คบกันได้ส่วนมากส่วนหนึ่ง.. ต้องถูกชะตากันด้วย... เราเองใช่จะนับว่าเป็นคนใจดีสุดขั้ว... ใช่ว่าเมื่อเห็นคนไทยที่ไหนแล้ว ต้องเสนอหน้า ยื่นมือ ไปช่วยเหลือทุกคน.. เพราะบางคนก็ใช่ว่า คนนั้นต้องการที่จะรู้จัก และต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่น เมื่อคุณตกอยู่ในยามยาก ยามคับขัน... เมื่อไม่มีคนไทยยื่นมือมาช่วยเหลือคุณตอนนั้นเข้า... จึงเกิดความอคติ คิดไปเองว่า ..คนไทยทุกคนเป็นเช่นนั้น... งั้นก็ควรนับรวมถึงตัวคุณเองด้วย ที่เป็นคนไทย.. ว่าเป็นคนไร้น้ำใจ หรือ มีน้ำใจ มากแค่ไหน ไม่เห็นคุณยกตัวอย่างความดี ความมีน้ำใจของคุณ ที่มีต่อคนไทยอื่นๆให้คนอ่านกันบ้างเลย มัวแต่ยกตัวอย่างไม่ดีแค่หนึ่งคนมาให้อ่าน เราจะไม่เหมารวมกับคนชาติหนึ่งชาติใด... ทุกชาติมีทั้งคนดี และเลว และปานกลาง แก้ไข จิ้มดีดตกหล่น แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 48 01:11:44 จากคุณ : JidNince - [ 9 พ.ค. 48 01:06:13 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ปัญหาเกิดจากบุคลิกภาพของคุณหรือเปล่าครับ ? ที่ทำให้คบกับคนไทยไม่ได้ หรือเพื่อนคนไทยไม่ยอมคบคุณ ..ก็เห็นใจ แต่ก็อย่างที่เพื่อน ๆ บอกไปแล้ว..ก่อนอื่นก็ต้องพึ่งตัวเองก่อนสิ และถ้าคุณเป็นคนปกติที่เข้ากับสังคมได้ ก็ไม่เห็นว่ามันจะมีปัญหาอะไร.. พูดตรงๆเลย เรารู้สึกไม่ค่อยดีนะที่รู้สึกแย่กับคนไทยด้วยกัน ขอโทษนะที่บ่น มีคนบอกว่านักเรียนไทยในอเมริกาชอบแข่งขันกันเอง หมั่นไส้กันง่ายมาก โดยเฉพาะที่ที่มีผู้หญิงมากๆ จริงไหม ที่ที่นักเรียนชายมากๆไม่ค่อยมีปัญหาแบบนี้ แต่จะชวนกันเที่ยวมากกว่า เลยทำให้เงินทุนไม่ค่อยพอใช้  แต่คนจีนจะแตกต่างเพราะทุกคนกว่าจะได้มาที่นี่ลำบากเหมือนกันเลยช่วยกันมากกว่า แต่คนไทยถ้าใครเคยลำบากจะต้องให้คนที่มาใหม่ลำบากเหมือนกัน แบบชอบรับน้องใหม่น่ะ ทุกวันนี้เราดีใจนะที่ต้นตระกูลเป็นคนจีน หน้าตาเราออกจีนมากกว่าคนไทยเลยเข้ากับคนจีนได้ง่าย พูดตรง ๆ ผมว่าคำพูดของคุณมันบ่งถึงทัศนคติในด้านลบที่คุณมีกับนักเรียนไทยอยู่ลึก ๆ นะ คิดว่าคงจะมีอะไรแสดงออกไปด้วยถึงทำให้คุณไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนคนอื่น หรือมีเพื่อนที่อยากจะมาสนิทกับคุณ .... นักเรียนไทยเท่าที่เห็นมาถ้าเป็นคนปกติ ๆ นิสัยดี ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร คนที่ไม่ค่อยคบคนไทยส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างมีความแปลกในบุคลิกภาพพอสมควรนะเท่าที่สังเกต (ถ้าได้ยินจากปากเขา ก็จะเป็นว่าเขาไม่คบคนไทย แต่ถ้าฟังจากอีกฝ่าย ก็ต้องบอกว่าคนไทยไม่คบ) จากคุณ : B.F.Pinkerton - [ 9 พ.ค. 48 01:17:50 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตัวอย่างของคนไทยมีน้ำใจอีกท่านหนึ่ง ที่เรารู้จักผ่านเนท... เป็นผู้อาวุโส มีอาชีพมั่นคงมาก มีฐานะมั่งมี ประสบความสำเร็จแล้ว ที่เขาไม่จำเป็นจะต้องมาสนใจกับคนอย่างเราที่ยังทำงานหาเลี้ยงชีพ แบบฐานะการเงินของเรากับเขาต่างกันลิบ เราเพิ่งเดินทางกลับมาจากไปต่างรัฐ.. ไปเยี่ยมเยียนเมืองเพื่อนเนทผู้อาวุโส... เขามารับเราด้วยรถเยอรมันรุ่นล่าสุด เปลี่ยนรถเยอรมันมารับ ขับพาชมเมือง และดูแลพาไปกินร้านอาหารหรูๆในช่วงที่เรากับลูกๆอยู่ที่นั้นหนึ่งอาทิตย์ ท่านผู้นั้น ไม่จำเป็นต้องสละเวลามาดูแลเรากับลูกๆก็ได้ ..เพราะด้วยฐานะที่ต่างกัน.. แต่ท่านนั้นมีน้ำใจ และต้อนรับเรา จนเราซึ้งในความมีน้ำใจของคนไทยคนหนึ่ง ที่รู้จักกันผ่านเนท.. ด้วยมิตรภาพอันดีที่มีต่อกัน เราเองยังไม่สามารถจะตอบแทนน้ำใจ ให้ดีได้เท่าเขาเลย... แต่เขายังคบคุยกับเราในฐานะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาตลอด หกปี จากคุณ : JidNince - [ 9 พ.ค. 48 01:19:32 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าเป็นเรา เราจะไม่หวังให้คนมาคอยเทคแคร์และช่วยเหลือ โดยเฉพาะถ้าเราเป็นผู้หญิง เราจะไม่ให้ผู้ชายที่มีภรรยามาคอยเทคแคร์ตลอดในเรื่องที่ไม่ได้เดือดร้อนจริงๆ (ส่วนในกรณีที่เดือดร้อนจริงๆ ก็คงไม่เป็นไร) จากคุณ : mobby - [ 9 พ.ค. 48 01:26:02 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เท่าที่อ่านดูก็รู้สึกว่าคุณหวังความช่วยเหลือ ความเห็นใจจากคนอื่นมากไปนะ พึ่งตัวเองมากๆดีกว่า โดยเฉพาะมเรียนเมืองนอก ต้องพึ่งตัวเองเป็นอย่างแรกเลย ผมว่า จากคุณ : เด็กบ้านนอก UK - [ 9 พ.ค. 48 01:56:08 A:157.228.187.195 X: TicketID:001535 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อยู่ที่ตัวคนมากกว่า อีกอย่างถ้าไม่ได้สนิทกัน ก็ไม่จำเป็นว่าเค้าต้องมา take care เราเป็นพิเศษหนิคะ ดิฉันคนนึงไม่มีอคติกะชาติไหนๆ ไม่ได้ดีเป็นพิเศากับคนไทย เพราะถือว่าทุกอย่างดูที่การกระทำเฉพาะตัวของบุคคล บางคนก็่อาจดูคนอย่างเราดูเหมือนไร้น้ำใจกับคนไทยด้วยกัน เราคิดว่าคนดีไม่ดีมีทุกชาติทุกภาษา จากคุณ : สะดีดสะดิ้ง - [ 9 พ.ค. 48 03:03:26 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณสำหรับคำเตือน ทำให้เราคิดได้ว่าบางครั้งเราก็คิดอะไรที่สุดโต่งไปจริง ๆ เวลาโมโหนะ บางครั้งการอยู่ที่นี่มันก็ทำให้คนอ่อนแอ คิดอะไรบ้าๆไปบ้าง หลายคนทำให้เราคิดได้และเข้มแข็งขึ้น จากคุณ : หนูแพม - [ 9 พ.ค. 48 04:04:15 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เคยมีเพื่อนคนไทยที่สนิท ๆ สองคน คนนึง แทงข้างหลัง พยายามแย่งแฟน ใส่ร้าย ดีเข้าตัวชั่วให้คนอื่น อีกคนนึง ก็เห็นแก่ตัวผิดปกติ พยายามชักจูงให้ไปอ่อยฝรั่ง เค้าอยากเป็นซิติเซนต์ ตอนนี้ไม่คบคนไทยแล้ว นกเอี้ยงที่เต็มบ่า กับ มีดหลายเล่มกลางหลัง คอยเตือนเราเสมอว่าเราโง่เพียงใด อาจเป็นเพราะบริเวณที่เราอยู่แสงสีมันเยอะพอสมควร อะไร ๆ มันก็เลยพาไป ตอนนี้ก็สนิทกับเพื่อนบราซิลเลี่ยน กับ สเปนิชมากกว่า ไนซ์และแฟร์ จากคุณ : คนไทยใต้ฟ้ากว้าง - [ 9 พ.ค. 48 06:37:37 A:68.20.211.148 X: TicketID:015116 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ใจเย็นๆ ค่ะ คำว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตนนี่ยังใช้ได้เสมอนะคะ คนไทยที่นี่ต้องเลือกคบค่ะ มีทั้งดีและไม่ดี จะไปหวังน้ำบ่อหน้าไม่ได้ ถ้ามามัวแต่หวังพึ่งคนไทยก็อยู่ที่เมืองไทยเถอะค่ะ อย่ามาเลยเมืองนอกอ่ะ นี่คือความจริง พูดกันตรงๆ แบบนี้นะคะ อย่าโกรธล่ะ จากคุณ : sandpainter - [ 9 พ.ค. 48 06:45:52 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คุณธนิตาทำให้เรานึกถึงคุณแม่ ตอนเด็กๆเวลาเราบ่นไม่ชอบเพื่อนบางคนที่โรงเรียนท่านก็จะพูดว่า คนเราบางทีศรศิลป์ มันไม่ตรงกัน คุณเจ้าของกระทู้เจอคนไทยที่ไม่ดีแบบนี้กี่คนกัน ในโรงเรียนเดียวกับคุณมีคนไทยกี่คน ได้เข้าไปสัมผัส รู้จักกับทุกคน แล้วเค้าไม่ดีแบบนั้นทุกคนหรือเปล่า ลองนึกกลับไปถึงสมัยเด็กๆที่คุณเรียนอยู่ไทย ทั้งโรงเรียนเป็นคนไทยหมด คุณเข้ากับทุกคนได้หมดหรือเปล่า คุณชอบทุกคนหรือเปล่า ดังนั้นมาเรียนเมกา ก็ไม่ได้ทำให้อะไรแตกต่างไป บางคนอาจจะชอบคุณ บางคนอาจจะไม่ถูกชะตากับคุณ คุณไปบังคับfriendshipไม่ได้ และตามที่คุณเล่ามา เราเห็นคุณบ่นไม่ชอบคนไทยก็เพราะว่าเค้าไม่ช่วยเหลือคุณ ในเวลาที่คุณต้องการ ตรงนี้ต้องย้อนกลับมาดูตัวเองด้วย ว่าเรียกร้องมากไปหรือเปล่า ต้องการความสะดวกสบายพึ่งพาคนอื่นมากไปหรือเปล่า ที่คุณชอบเพื่อนคนจีนคนนี้ก็เพราะเค้าให้ความช่วยเหลือกับคุณ อย่างที่คุณว่ามา ตรวจบทให้ จองห้องซ้อมให้ พาไปซื้อกับข้าว เอายามาให้กิน พูดจริงๆถ้าเป็นเรา อยู่ๆคนที่ไม่สนิท แบบว่าเพิ่งรู้จัก มาขอให้พาไปซื้อของ ซื้อกับข้าวตลอด อ๊วกก็โทรมาหาให้เอายาไปให้กิน มันก็ต้องมีเบื่อกันบ้าง เพื่อนคนไทยคุณอาจจะรู้สึกแบบนั้น แบบว่าอะไรกันเค้าไม่เห็นต้องขอความช่วยเหลือจากใครนัก ทำไมยัยนี่มาขอแต่ความช่วยเหลือ แล้วเรื่องพูดภาษาอังกฤษตลอดนี่ไม่น่าเอามาเป็นประเด็นนะ คุณต้องไม่ลืมว่า คนมาเรียนที่เมกาน่ะ ความคาดหวังในการที่จะได้อะไรกลับไปของแต่ละคนมันต่างกัน บางคนเค้าอยากใช้ภาษาอังกฤษให้เต็มที่ อันนั้นมันก็เป็นเรื่องของเค้าที่จะพูดภาษาอังกฤษกับคุณ ลองพึ่งพาตัวเองให้มากที่สุด แล้วลองมองเพื่อนคนไทยของคุณในมุมอื่น คุณอาจจะมีความสุขกับชีวิตนักเรียนที่เมกามากขึ้น You Get What You Give จากคุณ : Boo Yaa - [ 9 พ.ค. 48 07:04:25 A:24.19.97.193 X: TicketID:084537 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คุณคาดหวังมากไปหรือเปล่า เราอยู่อเมริกา มีเพื่อนคนไทยแต่ไม่สนิท นานๆไปมาหาสู่กัน เราไม่เคยขอความช่วยเหลือเค้า เค้าไม่เคยขอความช่วยเหลือเรา  ที่คุณบอกว่าคุณยืนรอรถเมล์อยู่และหนาวมาก เห็นคนไทยที่รู้จักขับรถผ่านเค้าไม่จอดรับคุณ เออ แล้วเค้าจะจอดรับคุณไปทำไมอะ เค้าไม่ได้สนิทกับคุณ แล้วเค้าอาจจะมีธุระอย่างอื่นต้องทำด้วยมั้ง จากคุณ : surinda - [ 9 พ.ค. 48 07:54:30 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่จริงหรอกนะคะ เราอยู่ที่นี่บังเอิญว่ามากับน้องก็เลยเหมือนกับว่ามีเพื่อนไปโดยปริยาย แต่เราว่าเราโชคดีที่กลุ่มนักเรียนไทยที่เมืองที่เราอยู่เนี่ย น่ารักกันทุกคนค่ะ เราอาจจะไม่ได้รู้จักทุกคนที่เรียนที่นี่ แต่ทุกคนที่เรารู้จัก น่ารักแล้วก็มีน้ำใจค่ะ ทำให้รู้สึกว่า โชคดีที่ได้มาเรียนที่นี่ ถึงแม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆ ที่ไม่มีอะไรมากมายนักก็ตาม เรื่องราวที่เจ้าของกระทู้เล่ามาไม่ทราบว่า เกิดขึ้นกับคนไทยคนเดียว หรือว่าทุกคนที่รู้จักเป็นแบบนั้นคะ? ถ้าหากว่าเป็นเรื่องที่เกิดกับคนแค่คนเดียว ยังไงลองรู้จักคนอื่นดูไหมคะ ก็พยายามอย่าไปยุ่งกับเค้า ต่างคนต่างอยู่ไป เราเชื่อว่าไม่ใช่ทุกคนแน่นอนที่จะเป็นแบบนั้น แต่ถ้าเกิดขึ้นกับทุกคนก็ถือเสียว่า การมาเรียนต่อครั้งนี้ของเราจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ เพราะการที่อยู่กับเพื่อนต่างชาติตลอดเวลาก็ทำให้เราต้องพูดภาษาอังกฤษ นี่จะเป็นส่วนที่ทำให้ภาษาอังกฤษพัฒนาไปได้ แล้วเราก็จะเรียนรู้ที่จะพึ่งพาตัวเองด้วยไงคะ หนึ่งในคติของเราก็คือ ในการที่จะทำอะไรนั้น เราจะถามตัวเองก่อนว่าเราจะทำให้มันสำเร็จได้อย่างไร ไม่ใช่ถามว่าใครจะช่วยเราให้สำเร็จได้บ้าง ส่วนที่เจ้าของกระทู้สงสัยว่าที่ที่มีผู้หญิงมากๆ มักจะมีปัญหานั้น เราเชื่อว่าไม่เสมอไปหรอกค่ะ ยังไงก็เอาใจช่วยนะคะ สู้ สู้ ค่ะ จากคุณ : small girl - [ 9 พ.ค. 48 08:10:04 A:204.180.74.8 X: TicketID:062549 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมว่าเรื่องที่นักเรียนไทยไม่พูดภาษาไทยกับคุณน่ะครับ คือเขาคงต้องการมาเรียนต่างประเทศเพื่อให้ได้ภาษาอย่างจริงจังน่ะครับ ถ้าเอาแต่พูดไทยก็ไม่ต้องไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนาหรอกครับ... มองหลายๆมุม นะครับ เขาอาจจะคิดกับคุณเหมือนกันว่า ไอ้นี่จ้องแต่จะคุยไทยกับเรา เราอยากจะฝึกภาษา งั้นอย่าคุยด้วยดีกว่า ...อาจจะเป็นแบบนี้นะครับ จากคุณ : เก่งน้อย - [ 9 พ.ค. 48 09:15:31 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อย่าคิดพึ่งคนอื่นเลยน่า  มีเพื่อนคนจีนก็แสนจะดีแล้ว ทำไมต้องมาหวังเอาอะไรกับคนไทย ที่เค้าไม่คิดจะใยดีกับคุณหละ คนชาติไหนดีกับคุณ คุณก็ดีกับคนนั้นแหละ ดีแล้ว จากคุณ : Adore - [ 9 พ.ค. 48 10:08:54 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เราว่าคุณ หนูแพม คงจะเหงานะคะ เวลาที่เราเหงา ถ้ามีใครไม่ว่าชาติไหน ทำอะไรไม่ดีให้เรานิดนึง (แม้เขาจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม)  เราก็จะรู้สึกแย่กับเขานะคะ อย่างล่าสุดที่เรารู้สึกก็คือ.. เดือนก่อน.. เลิกกับคนที่ไทย เพราะ ถ่านไฟเก่าของเขาคุขึ้นมา...  เราคนไกล จะไปสู้อะไรได้...  ตอนนั้นก็เหงาๆ เซ็งๆ  อยากจะคุย อยากจะระบายกับใครสักคน  ตอนนั้นก็มีเพื่อนคนไทยที่สนิทด้วยอยู่แล้วด้วย  แต่พอเราเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง  เขาก็ตอบกวนๆ  ประมาณว่า .. สม แห้ว รถไฟขบวนสุดท้าย...   ตอนนั้นก็รู้สึกแย่ค่ะว่าคนไทยด้วยกันเนี่ย ทำไมต้องเยาะเย้ยกันด้วย...   แต่สักพัก  ก็คิดได้ค่ะว่า เขาเป็นคนอย่างนี้อยู่แล้ว.. แค่ปกติ ก็พูดจากวนบาทา หยอกเล่นใส่กันอยู่แล้ว...  ไม่ใช่ว่า เขาไม่แคร์หรอกค่ะ  แต่เขาไม่รู้ และเราไปคาดหวังกับเขามากเกินไป... มีบางครั้ง เราเองก็เป็นคนที่ทำให้คนอื่นรู้สึกแย่...   เราก็ไปกวนแบบสนุกสนานของเรา.. แต่ไม่คิดว่าเขาจะจริงจัง..  มารู้ตัว ก็เรื่องผ่านไปนาน แล้วเรามารู้ความจริงทีหลัง  จะให้ขอโทษเขาก็กระไรอยู่.. เพราะมันผ่านมาและเหมือนเขาจะจำไม่ได้ ไม่ได้มีอะไรให้บาดหมาง  แค่เรารู้สึกผิด...  ก็ได้แต่ระวังตัวค่ะ บางที.. เราไม่ได้ยืนอยู่ ณ จุดเดียวกับเขา เราก็ไม่รู้หรอกค่ะว่าเขาเห็น เขาคิดยังไง... เขาก็เช่นกัน..   เขาไม่ได้ยืนอยู่จุดเดียวกับเรา  เขาก็ไม่รู้ว่าเรารู้สึกอย่างไร อย่างกรณี เพื่อนคุณ หนูแพม... เขาเข้าใจว่าคุณยืนรอเพื่อนจีน เขาเลยไม่ได้จอดรับ...  ก็เป็นไปได้  เพราะคุณอาจจะใช้เวลาอยู่กับเพื่อนคนนั้นมากกว่าเขา  และเขาเอง ก็อาจจะกลัวว่า ถ้าเขาจอดรถรับคุณ หรือ แค่ทักทายคุณ  คุณอาจจะมองเขาให้แง่ร้าย มองเป็นผู้ชายเจ้าชู้ก็ได้.. อันนี้เรื่องจริงเลยค่ะ  ตอนเรียนมหาวิทยาลัยที่ไทย.. มีนักศึกษาชายที่หอพักใกล้กัน  หยุดรถมาถามเรากับเพื่อนว่าจะไปส่งที่ตึกให้...  แต่เพื่อนเรากลับตะโกนไปว่า ไม่ต้อง อย่ามาหน้า...   บางที คนไทยคนนั้น อาจจะเจอประสบการณ์ร้ายๆ แบบที่เพื่อนเราเคยทำไป  เขาเลยไม่กล้าทำในสิ่งที่คุณคาดหวังก็ได้ค่ะ แต่ ก็ดีใจนะคะ ที่คุณได้เจอเพื่อนที่ห่วงใยคุณ  แม้ว่าจะต่างชนชาติ พูดคนละภาษา  แต่การที่หาเพื่อนดีๆ อย่างนี้ยากนะคะ  คนเราร้อยพ่อพันแม่ แต่ยังไง ทุกคนก็คบกันได้ เป็นเพื่อนกันได้ค่ะ จากคุณ : S.S. - [ 9 พ.ค. 48 11:08:10 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เอ...เราเจอแต่คนไทยนิสัยดี ๆ นะ (คนลาวดี ๆ ก็เพียบ) จากคุณ : Miss Poppins - [ 9 พ.ค. 48 11:12:17 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คิดมากไปหรือป่าวอ่ะ หวังมากไปมั้ย ลองถามตัวเองดูก่อนละกัน จากคุณ : kumi - [ 9 พ.ค. 48 13:05:14 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ยืนอยู่บนขาตัวเองให้ได้ค่ะ อย่าหวังที่จะพึ่งพาคนอื่น คนที่ไม่ดีกะคุณ ก็ไม่ต้องไปยุ่งกะเค้าสิค่ะ ในเมื่อคุณเห็นว่า เพื่อนชาวจีนที่คุณมีอยู่ดีกับคุณแล้ว เท่านี้ก็พอไม่ใช่เหรอ?   หันไปใส่ใจและทำดีกับเพื่อนดีๆ ที่คุณมีอยู่แล้วดีกว่า ***แก้คำผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 48 14:01:54 จากคุณ : soulfighter - [ 9 พ.ค. 48 13:58:13 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ชอบความคิดของคุณ S.S. หมายเลข 20 ค่ะ ^____^" คุณหนูแพม เท่าที่อ่านดูแล้ว คุณคงเหงา และคงจะคุ้นเคยกับการอยู่เมืองไทย แบบเพื่อนเยอะๆ ช่วยเหลือกัน ไปไหนไปกันกลุ่มใหญ่ๆ สาวๆ เยอะๆมั้งคะ (ติดเพื่อน) บางทีความรู้สึกของเรา ไม่สามารถวัด หรือนำไปเปรียบเทียบกับการปฏิบัติของคนอื่นได้หรอกค่ะ คุณอาจต้องถอยออกมาก้าวนึง มองมุมกว้าง มองให้เห็นความแตกต่าง ของคน หลายๆ ประเภท ที่เราจะต้องพบ ต้องเจอ ที่สำคัญ ต้องเข้มแข็งค่ะ และไม่คาดหวังว่า เราจะต้องได้รับการตอบแทน จากการกระทำทุกอย่างที่เราทำลงไป ต้องพึ่งตัวเองให้มากค่ะ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน บอกได้เลยความรู้สึกแบบคุณหนูแพมเนี่ยะ เป็นเพราะคุณยังเด็ก หรือไม่ก็ไม่เคยเผชิญโลกตามลำพัง ยังไงเอาใจช่วยนะคะ เชื่อว่าอีกหน่อยคุณจะเข้มแข็งขึ้น และยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง จำไว้นะคะ ใครดีมา ดีตอบ ร้ายมา ก็รับรู้ว่าเค้าร้าย แต่ไม่ต้องร้ายตอบก็ได้ แค่รู้เขารู้เราก็พอ สำหรับคนที่ยังไม่คุ้นเคย ให้คบแค่ผิวเผินค่ะ ยังไม่เทใจ อย่าไว้ใจใคร 100 % และอย่าไปคาดหวังว่าใครๆ ต้องดีกับเราเหมือนอย่างที่เราดีกับเค้า โชคดีนะคะ จากคุณ : Peony - [ 9 พ.ค. 48 17:05:00 A:61.90.58.48 X: TicketID:095366 ]

ความคิดเห็นที่ 25 Don't you think that many times you asked them for help and seem to takeing them for granted, I have a friends who would call me when ever have peoblems with assignments ect. but never call me up for hanging out, so i assuming that person doesn't want a friendship but only need something from me.Just look back have you really done anything to them as friends would. And you were right your friend just been there for only 5-6 years, i suppose the person still wanna keep improving his/her english,don't you think if you hanging with thai friends all the time and talk thai all the time your english will improve?. Anyhow, take care and try to depend on yourself as most as you could. จากคุณ : tammy a little koala - [ 9 พ.ค. 48 19:55:25 A:203.122.80.55 X: TicketID:001017 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ลองทำดีกับเพื่อนๆคนไทยบ้างดีไหมคะ อย่างเช่นทำกับข้าวไปฝาก ชวนมาทานข้าวที่บ้าน ถ้ามีหนังสือน่าอ่านก็หยิบไปให้เค้าอ่านบ้าง ชวนไปนั่งดื่มกาแฟกันบ้าง ลืมเรื่องเก่าๆที่ผ่านมาให้หมด  ย้อนดูตัวเองนิดนึงว่าเคยแสดงความมีน้ำใจให้เค้าบ้างหรือเปล่า ไม่ต้องรอดูว่าใครทำดีกะเราก่อนแล้วเราค่อยดีตอบ ตนเองก็ใช้วิธีนี้ค่ะ อย่างเวลาไปซื้อของร้านไทย เห็นอะไรที่เพื่อนชอบก็ซื้อติดมือไปฝากเค้า เวลาเค้าไปมั่งเค้าก็จะซื้อของมาฝากเรา กินข้าวบ้านเรามั่ง เวลาไปทานข้าวบ้านเค้า เพื่อนๆเค้าจะชอบนึ่งปูให้ทานเป็นกะละมังเลย เพราะเค้ารู้เราชอบทานปู แค่นี้ก็ซึ้งแล้วค่ะ  ตอนนี้ไปไหนมาไหนแวะร้านอาหารไทยแค่นั่งดื่มกาแฟ เดี๋ยวกับข้าวของว่างก็จะลอยมาเป็นของกำนัลข้างหน้าให้ทานเล่น ไม่คิดตังค์  มีอะไรโทรหากริ๊งเดียว แทบจะกรูกันเข้ามาช่วยเลย คุณแม่เคยสอนไว้ว่า คนไทยแท้ๆ ทำแกงหม้อเดียว กินได้ทั้งปีค่ะ   เพราะถ้าเราเผื่อแผ่แก่เค้า แล้วเค้าเป็นคนไทยจริงๆ เค้าจะนึกถึงเราเวลาเค้าทำอะไรกินเค้าก็จะเอามาแบ่งปันกะเรา คนเรามองต่างมุมกันค่ะ บางทีถ้ารู้จักเค้าจริงๆ อาจจะเห็นว่าสิ่งที่เคยเห็นว่าเค้าเป็นจริงๆ มันต่างจากสิ่งที่เราเคยมองเค้านัก จากคุณ : belissima - [ 9 พ.ค. 48 20:44:17 ]

ความคิดเห็นที่ 27 โชคดียังมีเพื่อน หนูอยู่ที่นี่มาสามปี มาแบบไม่รู้เรื่องอะไร โนวอิงแค่ศูนย์ เดินทางไม่เป็น make friendไม่เป็น เอ๋อมาก พยายามช่วยตัวเองทุกๆอย่าง ทำให้รู้อะไรหลายอย่างขึ้นถึงแม้จะใช้เวลานานหน่อยแต่ก็ภูมิใจ หลังๆเริ่ม make friend เป็นแต่ก็ไม่เคยขออะไรเว้นแต่สถานะการณ์ไม่อำนวยจริงๆ ส่วนตัวเองถือคติมีน้ำใจกับผู้อื่นเป็นที่ตั้ง พยามช่วยได้ก็ช่วยและเต็มกำลัง ที่สำคัญห้ามหวังสิ่งใดตอบแทนเพราจะเป็นการทำร้ายตัวเองเปล่าๆ ผลออกมาจะดีเกินคุ้ม ลองดู จากคุณ : Ka (Ka_See_Cha) - [ 9 พ.ค. 48 21:58:54 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ่า.. สงสัยได้เวลาแล้ว ที่คุณจะได้เริ่มเรียนรู้คำว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน จากคุณ : Autumn Leaves - [ 9 พ.ค. 48 23:16:47 ]

ความคิดเห็นที่ 29 น่าเบื่อพวกที่เอาคำว่าน้ำใจมาหากินจริงๆ แค่เค้าไม่ช่วยคุณ คุณก็มาด่าเค้าแล้วเหรอ ทำไมไม่มองย้อนกลับว่า ทำไมเค้าต้องช่วยคุณล่ะ แขนขาก็มีเท่ากัน ตอนคุณอยู่เมืองไทย คุณเจอเพื่อนร่วมคณะ ที่ไม่ได้สนิทกัน คุณเคยหยุดรับเค้าขึ้นรถบ้่่างไหมล่ะครับ อย่าลืมว่า เค้าไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องมาช่วยไรคุณ ถ้าเค้าจะช่วยมันก็ควรเป็นบวก แต่ถ้าไม่ช่วยก็ต้องเป็นศูนย์ ไม่ใช่ติดลบแบบนี้ แล้วก็อย่างที่ท่านอื่นบอก คุณเองเคยทำอะไรให้เค้าก่อนรึเปล่า หรือว่า "ไร้ีน้ำใจ" เหมือนกัน หรือว่าแค่พอต้องการความช่วยเหลือ ก็ค่อยติดต่อ แต่จากประสบการณ์ส่วนตัว คนไทยด้วยกันนั่นล่ะที่ทำให้คนไทยในอเมริกา "ไร้น้ำใจ" กันแบบนี้ พอได้คืบก็จะเอาศอก พอไปรับไปส่งบ่อยๆหน่อย วันไหนไปไม่ได้ก็โดนด่า พอช่วยแนะนำอะไร แต่ปฎิเสธที่จะโทรไปทำเรื่องให้เพราะไม่มีเวลา ก็โดนด่า เอาคนไทยที่ไม่เคยพบเจอกันมานอนบ้านเพราะสงสารที่หอเต็ม ก็แทบกลายไปเป็นคนใช้เค้า โดนนินทา แถมพอมาบ่นระบายที่ไกลบ้านนี่ ก็โดนด่ากลับว่า "ไร้น้ำใจ คนไทยด้วยกันช่วยๆกันไป ทำไมต้องมาบ่น" แล้วอย่างนี้ใครที่ไหนเค้าจะอยากช่วยคนไทยด้วยกันล่ะ เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง แถมต้องเอากระดูกมาแขวนคอแบบนี้ ถ้าอยากจะได้รับ "น้ำใจ" จากผู้อื่น ก็ต้องหัดมอบ "น้ำใจ" ให้คนอื่นเค้าซะก่อน ไม่ต้องไปช่วยเหลืออะไรมากมายให้เปลืองเงินเปลืองพลังตนเองก็ได้ สิ่งเล็กๆน้อยๆ แต่สม่ำเสมอเห็นผลมากกว่า ผมเองไปช่วยวัดสอนหนังสือแก้เบื่อ ใครมีอะไรก็ให้คำแนะนำ (แต่ให้ไปทำเอง) ช่วยเล่นกับเด็กๆหลังเลิกเรียน "น้ำใจ" มันก็กลับมาในรูปของกับข้าวบ้าง ผักผลไม้บ้าง คำขอบคุณบ้าง ป่วยไข้ไม่สบาย ก็มีหมอ มีพยาบาลมาจ่ายยาให้ ไม่ต้องพึ่งประกัน ผมกับภรรยา ได้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ทุกๆปี ทั้งๆที่คนอื่นต้องไปเข้าคิวรอกันตั้งแต่ตี5 ทั้งหมดนี้ได้มาโดยไม่ต้องร้องขออะไรเลย น้ำใจคนไทยน่ะมันมีอยู่เสมอครับ ถ้าคุณรู้จักเป็นผู้ให้ซะก่อน อย่ามัวแต่รอเป็นผู้รับ เพราะแบบนั้น คุณเองนั่นล่ะที่เป็นคน "ไร้น้ำใจ" แล้วใครที่ไหนจะมี "น้ำใจ" มาให้คุณ คนไทยที่นี่เกลียดคนไร้น้ำใจแบบนั้นนั่นล่ะ คนพวกที่ประมาณ "เธอทำไมไม่ช่วยชั้น คนไทยด้วยกันซะเปล่า" แต่ตัวเองงอมืองอเท้า ช่วยไปก็ไม่เคยคิดเป็นบุญคุณ แถมดีไม่ดีมาลอบกัดซะอีก คุณเป็นคนแบบนั้นรึเปล่าล่ะครับ จากคุณ : คนใจดำ - [ 10 พ.ค. 48 00:32:04 ]

ความคิดเห็นที่ 30 Why do you expect that other Thai students in your town have to help you?  In Thailand, do you expect that every Thai who drives pass you on the street has to pick you up when it rains very heavily?  People are different.  If you are not strong enough and need help in everything that you do, I think you should go back to your Mommy and Daddy in Thailand na ka.  If you want friendship from others, you need to be the first one who gives it to others. จากคุณ : Sonnenschein - [ 10 พ.ค. 48 01:48:20 ]

ความคิดเห็นที่ 31 29 เหมือนชื่อเลยนะคะ เหอๆๆ เป็นกำลังใจให้ค่ะ เจ้าของกระทู้ก็บอกอยู่ว่า มีน้ำใจให้คนอื่นอยู่ เช้นโรงเรียนมี อะไรดีๆ ก็จะบอก นั่นไม่ใช้น้ำใจหรอ ชั่งมันเถอะค่ะ พยายามยืนด้วยขาของเรา อย่างน้อยก็มี เพื่อนไม่ใช่หรอคะ มีเพื่อนดีๆ ไม่ว่าชาติไหนก็ช่างเถอะค่ะ ขอให้มี จากคุณ : วีระดา - [ 10 พ.ค. 48 01:59:39 A:61.91.138.251 X: TicketID:076205 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อ่านความคิดเห็นกระทู้นี้แล้ว ยิ่งเห็นสันดานนักเรียนไทยที่อยู่ในอเมริกาดียิ่งขึ้น ออกมารุมด่าคุณเจ้าของกระทู้แบบหมาหมู่ เราเห็นด้วยกับคุณเจ้าของกระทู้นะ ว่านักเรียนไทยที่นี่ไร้น้ำใจ เพื่อนต่างชาติดีกว่าเยอะเลย เช่นคนจีน ช่วยเหลือกัน ไม่นินทาลับหลังแบบพวกนักเรียนไทย แล้วเรื่องที่บอกว่าคุณเจ้าของกระทู้เขาไม่มีน้ำใจให้ก่อนนั้น ถ้าคิดแบบนี้ก็แย่มากๆ คนที่มีมากกว่าก็ควรจะช่วยเหลือคนอื่นที่มีน้อยกว่าไม่ใช่เหรอ แต่คุณเจ้าของกระทู้เขาก็บอกแล้วนี่ว่า เวลาได้รับอะไรพิเศษจากโรงเรียน ก็บอกไม่เคยปิดบัง อย่างนี้ไม่เรียกว่ามีน้ำใจอีกเหรอ ขอแค่อาศัยติดรถไปโรงเรียน หรือไปจ่ายกับข้าว มันมากมายอะไรกันนักหนา ไปก็เส้นทางเดียวกัน เราเองก็ไม่อยากเข้าสังคมคนไทย ไม่สนิทกับคนไทย ยิ่งยุ่งด้วยมากเท่าไหร่ก็รู้สึกแย่มากขึ้นเรื่อยๆ เราขอเตือนพวกที่จะมาเรียนที่นี่ว่า อยู่ให้ห่างๆคนไทยไว้แหละดี คบเพื่อนต่างชาติแล้วสบายใจกว่าเยอะ จากคุณ : ขอเป็นกำลังใจให้คุณเจ้าของกระท - [ 10 พ.ค. 48 02:13:27 A:209.167.162.166 X: TicketID:075617 ]

ความคิดเห็นที่ 33 แหม คุณ #31 ชื่อผมก็บอกอยู่แล้วนี่ครับ สำหรับคนที่ให้รอคนอื่นช่วยเหลือน่ะ ผมนะใจดำเมี่ยมเลยล่ะครับ แต่ที่ผมขำจริงๆก็คุณ 32 เนี่ยล่ะ แปลกดีเนอะ คนขอความช่วยเหลือมีการบอกว่า "มันมากมายอะไรกันนักหนา" ด้วยแน่ะ ผมดันไปนึกว่าคนช่วยซะอีกที่จะเป็นคนกำหนดว่าอะไรที่มัน "มากมาย" หรือเปล่าสำหรับเค้า ขอ "แค่" นั้นเองเนอะ ^__^ จากคุณ : คนใจดำ - [ 10 พ.ค. 48 03:38:41 ]

ความคิดเห็นที่ 34 You can 100% depend on you and yourself. If you expect something from others, most of the time, that will disappoint you. Stand on your own feet krub... It's your own choice krub. Good luck. :) จากคุณ : amatuer translator - [ 10 พ.ค. 48 05:17:51 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เข้าใจคุณ "คนใจดำ" ครับ ให้กำลังใจคุณตรงนี้ละกัน นับเป็นบุญของผมที่ไม่เคยเจอคนไทยประเทศที่"ใจดำไม่ยอมช่วยเหลือคนอื่น" และก็ประเภท"คอยขอความช่วยเหลือ" ทั้งสองแบบนี้ โชคดีจริง ๆ จะบอกให้ว่าผมสนิทกับเพื่อนคนไทยมากที่สุดเลยครับ และก็รู้สึกดีกับเพื่อน ๆ มาก ไม่เคยรู้สึกไม่ดีกับคนไทยเลยตั้งแต่เรียนที่ต่างประเทศมา เจอแต่คนดี ๆ ทั้งนั้น บางคนก็โคตรดีเลย ทั้งเก่งทั้งดีมีน้ำใจ แต่ผมก็เห็นใจคนที่เขาอาจจะไม่ได้โชคดีแบบเรา (เท่าที่อ่าน ๆ มา หลายคนเจอประสบการณ์เลวร้าย) จากคุณ : B.F.Pinkerton - [ 10 พ.ค. 48 05:18:52 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นใจคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ ที่ไม่ได้มีโอกาสเจอเพื่อนร่วมชาติที่ดีในเขตที่อาศัยอยู่ เข้าใจว่าเป็นเรื่องของการสมาคมปฏิสัมพันธ์ บางครั้งคนที่เราอยากคบเป็นเพื่อนด้วย เขาอาจจะไม่อยากจะสร้างสัมพันธ์ระยะยาวกับเราก็ได้ เพืื่อนไม่มีสังกัดเชื้อชาติและผิวพรรณ ถึงเกิดมาในดินแดนเดียวกัน ก็อาจจะไม่ใช่เพื่อน ก็เหมือนการที่เราไปคาดหวังจากพี่น้อง ถึงแม้จะเกิดจากพ่อแม่เดียวกัน ก็ไม่ได้รับประกันความรักใคร่ หรือความช่วยเหลือ บางคนก็โชคดีเวลาไปไหนมาไหนทำอะไร ก็มีคนอุปถัมภ์ค้ำชู ในขณะที่อีกคนไปไหนทำอะไร ต้องดิ้นรนเอาเองทุกอย่าง ซึ่งก็ส่งผลต่อการมองโลก และทัศนคติของเขาต่อสังคมที่อาศัยอยู่ เรื่องเหล่านี้ บางครั้งก็ไม่สามารถให้คำตอบที่ตีลงไปอย่างชัดเจนได้นัก้ เพราะเป็นเรื่องของบุญกรรมทำแต่งของแต่ละคนเหมือนกัน ดั่งที่เขาว่า "เราได้เกิดมา ทำบุญร่วมขันกันมา และได้มาเจอะเจอกัน" คุณเจ้าของกระทู้ควรทำจิตใจให้สบายเป็นดีที่สุด ถือเสียว่าทุกอย่างที่เราประสบ ทำให้เราเกิดการเรียนรู้ เกิดสติ การวางแผน และการเตรียมการป้องกัน ทุกอย่างที่เกิดในชีวิตไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือร้าย ขอก็ให้มองในแง่บวกี คุณจะเห็นสัจจธรรม เพราะทุกอย่างมีเหตุที่ไปที่มาุ และมีผลกรรมเสมอ อย่าคิดมากนะคะ จากคุณ : บีพี - [ 10 พ.ค. 48 05:41:43 ]

ความคิดเห็นที่ 37 มันเป็นทางเดินที่คุณเลือก คุณก็ต้องพยายามก้าวต่อไป ช่วยตัวเองให้มากที่สุดก่อนให้คนอื่นช่วยคุณ เขาก็มีปัญหาเหมือนกัน ทุกสังคมก็มีทั้งคนดีคนไม่ดี ไม่จำเป็นต้องเชื้อชาติศาสนาไหน คุณก็เลือกคบกับคนที่เป้นคนดีละกันครับ ดังมงคลชีวิตที่ว่า คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล Goodluck จากคุณ : ballaski - [ 10 พ.ค. 48 08:36:43 ]

ความคิดเห็นที่ 38 คุณ หมายเลข # 32 ดิฉันว่า ข้อความคุณแรงไปนิดนะคะ จริงๆ แล้วถ้าคุณอ่านดูทุกๆ ข้อความ และอ่านให้ละเอียด หลายๆ คนเค้าหวังดีและเห็นใจค่ะ ไม่ควรใช้คำว่า " สันดาน" หรือ "รุมด่าแบบหมาหมู่" อย่างที่คุณใช้ คุณเองก็คงเจอสถานการณ์ที่เลวร้าย มาก่อนเหมือนกัน ถ้าให้เดา แต่ทั้งนี้ เราต้องมองตัวเองด้วยค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความคิดของตัวเราเอง เคยได้ยินไหมคะ อยู่คนเดียวให้ระวังความคิด อยู่กับมิตรให้ระวังคำพูด ดิฉันว่าคุณต้องระวังให้มากๆ ทั้งสองอย่างเลยล่ะ จากคุณ : Peony - [ 10 พ.ค. 48 08:47:31 A:61.91.86.241 X: TicketID:095366 ]

ความคิดเห็นที่ 39 From my experience, it depends ka. When I lived in the small city, I met many real badddd Thai people and really cool Thai roommate and friends. I got one Taiwanese close friend and also had bad Taiwanese friend (I never considered any bad person to be my friend) I got a psycho Korean roommate who cheat my deposit and don't even lose any penny, real cheapass Korean girl!!! Then I met some selffish Thai roommates. after I moved out I met some great Thai coworkers. Also, now I hang out with American and Japanese friends who are so nice. Life is always up and down in the US!! So, I think nationality doesn't matter ka. It depends on how lucky you are and how much you expect things around you. You have to make your life flexible, don't expect things, don't ask for help, be self confident, strong and be nice to people, otherwise, you can't live in this country. I went through a lot of deeply bad situations and also a lot of great memories. I learn that living in here is A.F.U., but I love it. When I got a problem with Thai friends, I always think about my goal to be in the US ka, I came here to study to gain as much as knowledge and I don't come here to find more friends cuz I have enough good friends in Thailand ka. So, ask yourself na ka what is your major goal to be in the US, to find a lot of Thai good friends or to study and learn great experience? Then when you have passion in making your life happy, good friends will come to you unexpectedly ka. จากคุณ : CUTIE - [ 10 พ.ค. 48 10:43:17 A:67.176.151.172 X: TicketID:011764 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เห็นด้วยกับความเห็น29จ้า แต่คิดว่าที่เป็นอย่างนั้นเพราะสังคมไม่เหมือนกัน คนไทยที่มาใหม่จะเพิ่งคนอื่นตลอด ไม่ค่อยขวนขวาย มอลปิดกี่โมงก็โทรมาถาม ทำการบ้านเสร็จก็จะให้ตรวจให้ งานก็จะให้หาให้ คอมเสียก็โทรมาตีสองตีสามจะให้ซ่อมให้ ต้องลองช่วยตัวเองก่อนจ้าแล้วถ้าขาดเหลืออะไรถึงจะขอให้คนอื่นช่วย ตอนแรกๆก็ช่วยได้เพราะเห็นมาใหม่ อาจไม่รู้อะไร ขับรถไปรับส่งถ้าสนิทกันก็จะขับให้ครั้งแรกๆให้จำทางได้ ตอนหลังไปเป็นแล้วก็ลองไปเอง คนอื่นก็หนาวเหมือนกัน ไม่มีรถก็ขึ้นรถเมล์ บางคนถือว่าเป็นคนไทยด้วยกันก็จะโทรมาขอ โทรมาวานตลอดเลย ถ้าเคยช่วยตอนเขามาใหม่ๆแล้วตอนหลังไม่ช่วยก็โดนว่าอีก ต้องมองทั้งสองด้านนะ จากคุณ : . - [ 10 พ.ค. 48 10:57:49 A:24.85.93.86 X: TicketID:007997 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ชอบความเห็นที่  39  ครับ จากคุณ : ชอบ 39 (พ่อแดดจ้า) - [ 10 พ.ค. 48 16:44:30 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ....คนไทยในอเมริกา ก็ไม่ต่างอะไรจากคนไทยในประเทศไทยหรอกค่ะ แล้วก็ไม่ต่างจากคนชาติอื่นทั่วโลกด้วย มีดี มีเลว มีไร้น้ำใจ มีน้ำใจงาม...ขึ้นกับว่าคุณไปเจอคนประเภทไหนเท่านั้นเอง แต่นิสัยบางอย่างเราก็ไม่ค่อยชอบนะ อันนี้ไม่ได้พูดถึงคนไทยที่ไหนเฉพาะเจาะจง แต่พูดรวมๆ ถึงการหวังพึ่งคนอื่นจนเกินเลยและ "ขาดความเกรงใจ"เช่น... - ปิดเทอม อยู่หอต้องเสียตังค์เพิ่ม เลยมาขออาศัยอยู่บ้านเพื่อน 2 อาทิตย์ฟรีๆ กินก็กินอาหารเค้า โดยที่เขาไม่ได้เอ่ยปากชวน และไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นเสียด้วยซ้ำ แล้วเพื่อนกำลังจะสอบ ทั้งๆที่อยู่หอต่อก็ได้แต่งก ไม่อยากเสียเงิน - เพื่อนมีรถ เก็บตังค์ซื้อรถเพื่อขับไปเรียน พอรู้ว่าเค้ามีรถก็เลยขออาศัยติดรถเค้าไปเรียนทุกวัน วันไหนเค้ามาสายก็เป็นความผิดเค้าอีก  พอจะไปเที่ยวต่างเมืองก็ชวนเค้าไปด้วย เพราะหวังจะนั่งรถเค้าและให้เค้าเป็นคนขับ น้ำมันก็ให้เค้าจ่าย ทั้งๆที่ public transport ก็มี - ฝากซื้อของมากมายเวลาคนไปต่างประเทศ ฝากซื้อของเล็กๆน้อยๆน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่บางทีเห็นเพื่อนกลับจากอเมริกา ก็เล่นฝากซื้อโน้ตบุ๊ค 2 เครื่องให้ตัวเองกับญาติ และฮาร์ดดิสก์อีก 8 อัน ฯลฯ ทั้งๆที่ซื้อเมืองไทยก็ได้ แค่แพงกว่ากันไม่เท่าไหร่ ฝากซื้อกันจนกระเป๋าเค้าเต็มและน้ำหนักเกิน แถมยังต้องไปเดินหาของให้อีก บางทีเค้าเอาของมาให้แล้วก็ติดเงินเอาไว้ก่อน เพราะบอกยังไม่มีตังค์  หรือบางทีก็ฝากซื้อ Wristband ..ไอ่เราก็บอกแล้วว่ามันไม่มีขายตามร้านหรอก มาปุ๊บก็หมดปั๊บ ก็บอกให้สั่งทาง ebay ก็มาบอกว่า..ไม่เอา..เสียค่าส่ง แพง..ให้เราไปเดินหาดูให้ หาหลายๆรอบ มันต้องเจอซักรอบ.. พูดอย่างกะเวลาเดินทางเข้าไปในเมืองไม่ต้องเสียเงินค่ารถ ..เฮ้อ..อย่างงี้มันไม่เรียกว่าต้องการน้ำใจแล้วล่ะ มันเรียกงกมากกว่า แต่ไม่คิดถึงคนอื่นเลย อยากจะพูดมานานแล้ว.. จากคุณ : shory - [ 10 พ.ค. 48 18:22:44 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เห็นด้วยกับทุกๆคนเลยค่ะว่าเรียนหนังสือที่อเมริกาต้องพยายามช่วยตัวเองให้มากที่สุด อยากบอกเจ้าของกระทู้ว่าทุกๆคนที่มาเรียนที่อเมริกาต่างก็ต้องปากกัดตีนถีบทั้งนั้น บางคนเห็นว่าเขามีรถ เขาน่าจะสะดวกสบายนะ จริงๆเเล้วเปล่าเลยค่ะ มีรถนี่หมายถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วย ทั้งค่าอินชัวรัน ค่าน้ำมันรถ แล้วส่วนมากที่มีรถกัน ก็ไม่ได้เป็นรถใหม่เอี่ยม เป็นรถมือสอง มือสาม มือสี่ หรือหลายมือเเล้วทั้งนั้น นั่นก็หมายถึงค่าซ่อมรถ ค่าดูแลรถอีกบานเบอะ คนที่มีรถก็ต้องปากกัดตีนถีบเพิ่มขึ้นเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายในส่วนนั้น ข้อดีของความเป็นอยู่เเบบนั้นก็คือทำให้เรารู้จักช่วยตัวเอง รู้จักการอยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่ตัวเองเป็นที่พึ่งของตัว ว่าก็ว่าเถอะ คนไทยเราๆที่มาเรียนต่อต่างประเทศนี่ส่วนใหญ่อยู่เมืองไทยเป็นคุณหนูมีคนคอยทำอะไรต่ออะไรให้เเทบทั้งนั้น ใหม่ๆที่ต้องมาอยู่ในสภาพที่ต้องช่วยตัวเองทุกๆอย่างมันก็ปรับตัวลำบากในระยะเเรกๆเป็นธรรมดา เเต่ในที่สุดเราก็จะปรับตัวได้ค่ะ ที่สำคัญคืออย่าไปโกรธคนอื่นถ้าเขาไม่ได้ให้ความช่วยเหลือคุณเท่าที่คุณต้องการ อยากบอกว่าเขาก็ปากกัดตีนถีบเหมือนคุณนั่นแหละค่ะ อาจดีหน่อยตรงที่เขาอยู่มานานกว่าคุณ เขาปรับตัวเข้ากับสภาพได้แล้ว อีกหน่อย เมื่อคุณคุ้นเคยกับสภาพแปลกใหม่ของคุณดีแล้ว คุณก็จะต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่นน้อยลง แล้วเมื่อถึงเวลานั้น คุณจะเข้าใจคนที่คุณเคยคิดว่าเขาไม่มีน้ำใจ ว่าทำใมเขาถึงเป็นเเบบนั้น ที่สำคัญก็คือ การมาเรียนต่อต่างประเทศมันเป็นการสร้างบุคลิกภาพของคุณในลักษณะที่คุณจะภูมิใจในอนาคต มันสอนให้คุณอึด ให้คุณยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง เป็นประสบการณ์การสร้างบุคลิกภาพที่หาค่ามิได้เลยค่ะ ทุกวันนี้ตัวเองก็ยังรู้สึกขอบคุณประสบการณ์การเป็นนักเรียนสิบกว่าปีในอเมริกาว่ามันช่วยให้ดิฉันเป็นอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ได้อย่างไร ถ้าไม่มีประสบการณ์ช่วงนั้น ดิฉันคงไม่เป็นอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้แน่ๆ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 10 พ.ค. 48 22:57:21 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ ยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง คุณตัดสินใจมาเอง คนเดียว ก็ต้องต่อสู้คนเดียว .. เรื่องการพบเจอ คนดี คอยช่วยเหลือ เป็นเหมือนกำไร ถ้าเจอ ก็เป็นผลดีกับคุณ แต่ถ้าไม่เจอ มันก็ไม่แปลก อย่าคาดหวังเลย ว่าจะต้องเจอคนไทย ด้วยกัน คุยกัน ควรช่วยเหลือกัน ..  ทางที่ดีที่สุด ก็พึ่งตัวเองให้มากที่สุด ..  เค้าดีมาก็ดีตอบ เค้าเฉยๆ เราก็ไม่ต้องไปยุ่งอะไร .. ก็เท่านั้นเอง จากคุณ : Cassoulet - [ 10 พ.ค. 48 23:06:31 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เห็นด้วยกับคุณใจดำ การที่ไม่มีใครคบคุณเลย ควรเริ่มพิจารณาจากตัวเองก่อนเป็นอันดับเเรก ไม่ใช่ไปโทษคนอื่นว่า เอ๊ะ ทำไมไม่คบชั้นวะ ชั้นเนี่ยดีเเสนดีขนาดนี้ คนเรามักคิดอะไรเข้าข้างตัวเองเสมอเเหละคุณ จขกท อีกอย่าง การอยู่เมืองนอกไม่ได้เป็นปัจจัยที่ทำให้คนไทยไม่อยากคบคนไทยด้วยกันเอง เเต่อาจจะมีกระบวนการเลือกสรรค์กันบ้างว่าจะเลือกคบใคร ลักษณะไหน เเละจะให้ขอบเขตความใกล้ชิดมากน้อยเพียงใด เราอยู่ไกลบ้านมาหกปีจะเข้าปีที่เจ็ด หากเราไม่คบใคร ไม่ได้หมายความว่าเรารังเกียจคนไทย กรุณาอย่าเหมารวม เเต่เป็นเพราะลักษณะนิสัยพิเศษของบุคคลนั้นๆต่างหาก ซึ่งอันนี้ต้องดูเป็นรายๆไป เราไม่สงสารคุณ จขกท เลยอ่ะ เราจะผิดไหมถ้าจะบอกว่าพฤติกรรม "ขอ" ทั้งหลายที่คุณเล่ามาออกจะมากไปสักนิด ทุกคนที่มาอยู่ไกลบ้านไกลเมืองต่างมีภาระหน้าที่มากมายเป็นของตัวเองที่ต้องรับผิดชอบ อย่าลืมว่าคุณหนูเเพมไม่ได้อยู่ที่บ้านตัวเองเเล้ว ต้องหัดช่วยเหลือตัวเองให้มากกว่านี้ เห็นด้วยกับหลายๆท่านว่าคำว่าน้ำใจ ควรมาจากใจผู้ให้ หากเขาคิดจะไม่ให้ด้วยเหตุผลหลายๆอย่างซึ่งเจ้าตัวไม่จำเป็นต้องมาเเจกเเจง ก็ไม่ควรไปว่าเขาไร้น้ำใจ ปล.ถ้าคุณรู้จักให้เเละรับในเวลาเดียวกัน เราเชื่อว่าต่อไปคุณจะไม่ต้องมาตั้งกระทู้ลักษณะนี้อีก  มิตรภาพหาซื้อไม่ได้ อยากได้มาต้องรู้จักผูกรู้จักสร้างขึ้นมาเอง จากคุณ : Syrup On Ice - [ 10 พ.ค. 48 23:26:25 ]

ความคิดเห็นที่ 46 แต่ยังไงก็ตาม คุณหนูแพมคะ อย่าเพิ่งท้อแท้นะคะ หลายคนที่แสดงความเห็น เคยมีประสบการณ์ ที่เลวร้ายมาแล้วเหมือนกันค่ะ แต่เป็นลักษณะตรงกันข้ามกับที่คุณเจอค่ะ ที่นี้ คุณต้องแยกให้ออกนะคะ ว่าคนที่คุณพบเจอเนี่ยะ เค้าแย่อย่างไร 1. เค้าไม่ช่วยเหลือใครๆ (ก้อคงต้องมองอีกมุมนึงว่า อาจเป็นแบบที่หลายๆท่านพูด จริงๆ เค้าอาจไม่ได้เลวร้าย) 2.แต่เรื่อง เค้าใส่ร้ายคุณ ทำให้คุณเดือดร้อน อันนี้นับว่าแย่มาก ซึ่งคุณไม่ควรไปเสวนาด้วยแล้วล่ะค่ะ ยังไงอย่าเพิ่มหมดกำลังใจนะคะ จากที่อ่านดูข้อความคุณ บางอย่างแล้ว ขอพูดตรงๆ ว่าคุณคง require เยอะไปนิดนึง แต่เชื่อว่าคุณเป็นคนจิตใจดี เพราะฉะนั้น เชื่อว่าคนดี ก็ต้องเจอแต่สิ่งดีๆค่ะ มองโลกในแง่ดีเข้าไว้ อาจเป็นโชคดีของคุณที่ได้เพื่อนดีๆ ที่เป็นชาวต่างชาติ (ดีกว่าคนไทยคนนั้น) ก็ได้ค่ะ จากคุณ : Peony - [ 11 พ.ค. 48 00:43:02 A:203.107.193.140 X: TicketID:095366 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อืม.. แปลกนะ เราอยู่ที่นี่ก็เพื่อนคนไทยก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกันดี และเราก็ช่วยคนไทยที่รู้จักเท่าที่จะช่วยได้ รวมทั้งเพื่อนต่างชาติด้วย Give and take คือช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีทั้งให้มีทั้งรับ ถ้าจะรับอย่างเดียวคงไม่มีใครคบเป็นแน่แท้ จริงมั้ยคะ ลองทำแบบ คคห 26 สิคะ เราก็ทำอยู่ แต่ไม่ได้ทำเพราะแสร้งนะคะ เราทำด้วยใจ การให้สุขใจมากกว่าผู้รับนะคะ ขอพูดแค่นี้นะคะ ต้องไปดูลูกก่อน จากคุณ : แม่น้องจัสติน (Baby I love you) - [ 11 พ.ค. 48 01:20:24 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ความคิดเห็นที่ 32 นี่น่ากลัวจังค่ะ แต่คุณกำลังว่าตัวเองด้วยรึเปล่า ที่คุณบอก" เราเองก็ไม่อยากเข้าสังคมคนไทย ไม่สนิทกับคนไทยยิ่งยุ่งด้วยมากเท่าไหร่ก็รู้สึกแย่มากขึ้นเรื่อยๆ เราขอเตือนพวกที่จะมาเรียนที่นี่ว่า อยู่ให้ห่างๆคนไทยไว้แหละดี คบเพื่อนต่างชาติแล้วสบายใจกว่าเยอะ" นี่คุณหมายถึงอะไรหรือคะ.... น้องแพมคะ ฟังไว้นะ คุณเขาก็ไม่อยากคบน้องแพมที่เป็นคนไทยน่ะทั้งๆที่ขึ้นต้นมาเหมือนจะเข้าข้างแล้วเชียว นี่คงเป็นเหตุผลนึง... คนบางคนรึหลายคนทำเสียชื่อไว้ แต่ในฐานะที่น้องแพมเป็นคนไทยคนนึง ก็อย่าทำให้คนอื่นเขาเอาไปว่าต่อได้ เมืองนอกถ้าเราทำไม่ดีเขาก็ว่าคนไทยเนี่ย ไม่ดี เขาคงไม่คิดแค่ตัวคุณ เช่นเดียวกับที่คุณคิดว่านักเรียนไทยในเมืองใหญ่ไร้นำใจนั่นแหละ(ก็ยังดีที่ระบุว่าเพราะสังคมอเมริกัน ถ้าเป็นคนต่างชาติคงโทษสังคมไทยสอนมา) ไม่เห็นมีใครบอกว่านาย ก,นาย ข, มีแต่เหมารวม ถ้าคนไทยยังว่ากันเอง แล้วใครจะช่วยสร้างภาพดีๆของคนไทยได้ล่ะคะ รู้มั้ย china town มักมีพวกมาเฟีย,รู้มั้ย คนจีนโหดก็มี, ฝรั่งเล่นยาก็เยอะ,ทะเลาะตบตีเหมือนในหนังก็มีนะ... ที่เพื่อนคนนั้นไม่ช่วยเราอาจเพราะไม่สนิท,เข้าใจอะไรผิดหรือมีประสบการณ์เลวร้ายมาก่อน...หรือเขาอาจเป็นพวกรักสันโดษ,ชอบอิสระ ไม่ใช่พ่อพระคอยตามช่วยสาวๆ (ถึงได้มาอยู่เมืองนอกไง) ก็อย่าไปใส่ใจเลยนะ ไม่มีเขาก็ใช่ว่าเราจะเรียนไม่ได้หรือไปไม่รอด...เขาไม่ใช่พี่รหัส(เหมือนในมหาวิทยาลัย),ญาติหรือพี่เลี้ยง เขาไม่จำเป็นต้องมาสนใจเรา..ปล่อยเขาไปเหอะ... มั่นใจหน่อยนะ เราต้องอยู่ได้สิ อย่างน้อยอย่าคิดว่าคนไทยไม่ดีเลยค่ะ ถ้าโกรธก็ระบายที่ตัวบุคคลดีกว่า อยู่นานไปจะรู้เองค่ะ ไกลบ้านไกลเมืองก็อย่างงี้แหละ ... ดูแลตัวเองดีๆนะคะ ... เพื่อนดีๆก็ยังมีค่ะ จากคุณ : คนไทยในต่างแดน - [ 11 พ.ค. 48 07:10:43 A:84.65.168.91 X: TicketID:097976 ]

ความคิดเห็นที่ 49 Totally agree with khun CUTIE (comment # 39) krub (-: จากคุณ : คนไทยในต่างแดน(เหมือนกัน) (PEDestrain) - [ 11 พ.ค. 48 22:29:32 ]

ความคิดเห็นที่ 50 จข กระทู้ "เราเห็นแมวหลงทางนอนหนาวกลางหิมะเรายังเอาแมวเข้าบ้านก่อน เดี๋ยวค่อยตามเจ้าของ นี่คนไทยเหมือนกันนะ เราได้รับอะไรพิเศษจากโรงเรียน เราก็บอกไม่เคยปิดบัง กลัวว่าเขาจะไม่ได้ เราพยามผูกมิตรขนาดนี้นะ" #5 "ไม่เห็นคุณยกตัวอย่างความดี ความมีน้ำใจของคุณ ที่มีต่อคนไทยอื่นๆให้คนอ่านกันบ้างเลย มัวแต่ยกตัวอย่างไม่ดีแค่หนึ่งคนมาให้อ่าน" มันสะท้อนอะไรหลายๆอย่างครับ จากคุณ : มานะ - [ 12 พ.ค. 48 01:52:16 A:210.203.185.204 X: TicketID:077548 ]

ความคิดเห็นที่ 51 i agree with ความคิดเห็นที่ 50, i dont know why  some people cant see the good thing of khun jao khong ka tu... จากคุณ : bellemaman - [ 12 พ.ค. 48 03:25:49 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ผมว่าแล้วแต่ดวงนะ ส่วนตัวผมว่าเอาสถิติดีกว่าครับ เจอมา 100 คน ก็นับดู ว่าเป็นกี่ % เจอมา  1 คน สรุปไม่ได้ครับ จากคุณ : เฒ่า(ทารก) - [ 12 พ.ค. 48 04:51:02 ]

ความคิดเห็นที่ 54 มองต่างมุม เพราะความดีมีน้ำใจของเจ้าของกระทู้เพียงหนึ่งบรรทัดเศษ... เมื่อเทียบกับความไร้น้ำใจของคนไทยหนึ่งคน ที่จขกท.หาพรรณนาออกมาได้ยาวๆๆทีเดียว.... มันสะท้อนให้เห็นต่างมุมได้เหมือนกัน อ้อ.. ที่บ้านพี่เราในอเมริกาก็เก็บช่วยเหลือแมวจรจัดช่วงหน้าหนาวมาเลี้ยง เขาทำแบบนี้มาจะสี่สิบปีแล้วในอเมริกา จนมี ๓๐-๔๐ ตัวในบ้าน ล้มป่วยตายจากโรคมะเร็งที่รักษาไม่หาย จากแมวมาก่อนหน้านี้หลายสิบตัวแล้ว ดูแลรักษาโรค ทำหมัน และช่วยเหลือของคนไทยอื่นๆมาเยอะ เพราะเป็นโรคใจอ่อนกับหมาและแมวจรจัด ฮี่ๆๆ คุณ laksi2000 นั่นเป็นสไตล์ร้อง แบบร้อค กันตรึม เขมรเปล่าคะ เรามีของร้อค กันตรึม จากคุณ : JidNince - [ 12 พ.ค. 48 09:53:23 ]

ความคิดเห็นที่ 55 คุณ จขกท โชคร้ายจัง จากคุณ : L-Nets - [ 12 พ.ค. 48 10:03:30 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ลองอ่านกระทู้นี้ดูน่ะ http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H3468657/H3468657.html จากคุณ : คิดดูเอาเองแล้วกัน - [ 12 พ.ค. 48 10:17:40 A:67.64.113.61 X: TicketID:097985 ]

ความคิดเห็นที่ 57 นี่ผมต้องรับคนไทยทุกคนที่ยืนตากหิมะ มาขึ้นรถป่าวนี่ จากคุณ : Rovershearer - [ 12 พ.ค. 48 11:49:12 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เราก็เคยรู้สึกคล้ายๆ แบบนี้แหละค่ะ เราพักอยู่ห่างออกไป เพื่อนๆ เขามีกลุ่มกันหมดแล้ว มันก็ยากที่เราจะไปแจมเขา ก็น้อยใจนิ๊ดๆ เหมือนกันว่า เขาไม่ได้ชวนเราไปไหนมาไหนด้วย แต่เราก็เข้าใจน่ะว่า เขาก็มีภาระหน้าที่ของตัวเอง แล้วก็มีกลุ่มอยู่แล้ว เราเองก็ไม่เคยโทรไปคุยทักทายด้วย นานๆ ถึงจะโทรไปถามโน่นถามนี่ เพราะเราเองก็เกรงใจ นึกถึงใจเขาใจเราว่า โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ยังคาดหวังให้คนอื่นมาทำนู่นทำนี่ให้ เป็นเราเราคงรู้สึกไม่ค่อยดีเหมือนกัน ไม่ได้เป็นเพื่อน ไม่ได้เป็นพี่เป็นน้องกันมาก่อน ใครจะมาโอ๋เราเหมือนเพื่อนสนิทที่เมืองไทย หรือครอบครัวเราเอง เราว่ามันเป็นเรื่องของจังหวะ และเวลามากกว่า ที่คุณจะได้เจอเพื่อนคนไทย หรือเพื่อนต่างชาติที่คุยกันได้ แล้วคลิกกัน แล้วช่วยเหลือดูแลกัน ของเราพักกับเพื่อนคนจีน 2 คน คนหนึ่งนิสัยไปกันได้ ก็คุยกัน ดูแลกัน แต่กับอีกคนเขาก็เฉยๆ ไม่ไยดีอะไร ตอนแรกเราก็งงๆ เหมือนกันว่าขนาดเพื่อนคนจีนอีกคนมีปัญหา เขายังเฉยๆ ไม่ได้ดูแลกัน เราซะอีกคอยปลอบมัน เลยเข้าใจว่า เป็นที่นิสัยแต่ละคนมากกว่า จขกท อย่าคิดมากเลยค่ะ มองใน bright side เราว่าคุณโชคดีมากๆ ที่ได้เพื่อนต่างชาติที่น่ารักขนาดนั้น เราเคยอยู่คนเดียวในแฟลทเพราะคนอื่นเขามีกลุ่มไปเที่ยวกันหมด หดหู่สุดๆ แต่ก็ฮึดสู้ค่ะ ต้องอยู่ได้ ต้องมั่นใจในตัวเอง ต้องไม่เศร้า ตอนหลังก็สบายค่ะ ได้เจอเพื่อนคนไทยน่ารักถึงไม่ได้มีเยอะแยะ แต่ก็เข้ากันได้ ช่วยเหลือกัน มีความสุขแล้ว ส่วนเพื่อนต่างชาติใครดีกับเรา เราก็ดีกับเขา ใครไม่ไยดีกับเรา ก็ไม่ต้องสนใจ เอาเวลาไปคิดเรื่องเรียน หรือทำเรื่องดีๆ ให้กับคนที่เขาดีกับเราดีกว่า ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ช่วยเหลือตัวเองเหมือนเดิม ซึ่งเราว่าดีจะตาย ทำให้เราได้เรียนรู้ สมองเปิดกว้าง กลายเป็นว่าการที่ไม่มีใครช่วยเหลือทำให้เราได้รูอะไรมากมาย ปรับปรุงตัวขึ้นเยอะ ยังไงเอาใจช่วยน่ะค่ะ ผ่านไปสักพักคุณจะเปลี่ยนมุมมองใหม่ แล้วจะเห็นสิ่งดีๆ ของการมีชีวิตอยู่คนเดียวขึ้นอีกเยอะ จากคุณ : นู๋ปิ๋มมี่ - [ 12 พ.ค. 48 12:19:22 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เราเห็นใจเจ้าของกระทู้นะคะ แต่เรืองแบบนี้สามารถเกิดได้กับทุกคน เราเองเคยไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั้นเกือบ 3 เดือน สิ่งที่เราได้กลับมาคือเพื่อนคนไทยที่ทุกวันนี้ยังมานั่งคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่น้นอยู่เลย เรากับเพื่อนๆๆคนไทยสนิทกันมาก มีอะไรชวยเหลือกัน แบบว่าหัวเราะก็หัวเรอะด้วยกัน ร้องไห้ก็ร้องด้วยกัน เรายังนึกไม่ออกเลยถ้าไม่มีพวกเค้าเราจะเป็นยังไง สำหรับเจ้าของกระทู้อย่าคิดมากนะคะ เราว่าคงต้องอาศัยเวลาปรับตัว ยังไงเราก็เชื่อว่าคนไทยด้วยกันไม่ทิ้งกัน อีกอย่าง ตนเป็นที่ผึ้งของตน นั้นแหละคะดีที่สุด ยังไงก็ไม่มีใครคอยช่วยเหลือเราได้ตลอดเวลาเหมือนกับตัวเราเองคะ จากคุณ : เห็นใจคะ (Yel_Ly) - [ 12 พ.ค. 48 13:19:28 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ไม่มีความเห็นค่ะ เดี๋ยวเข้าตนเองถ้าพูดไป จากคุณ : ต้นลูกตาล - [ 13 พ.ค. 48 00:00:24 ]

ความคิดเห็นที่ 61 มันมีทุกหนทุกแห่งแหล่ะครับ  คนมีน้ำใจชอบช่วยคนอื่น  คนเฉยๆ ช่วยเท่าที่จำเป็น หรือคนที่เห็นแก่ตัว จ้องแต่จะเอาเปรียบ   อยากให้สังคมเป็นยังไง ก็เริ่มที่ตัวเราเองครับ อย่าไปร้องป่าว ให้คนโน่นทำอย่างโน้น คนนี้ทำอย่างนี้ เราทำให้ดีที่สุด อย่าไปหวั่นไหว ถ้ามันไม่ได้ดังใจอย่างที่เราคิด คนนึงทำดีกับคนอื่น  เดี๋ยวมันก็ต่อๆ กันไปเองแหล่ะครับ คนไหนเห็นแก่ตัวมาก เค้าก็อยู่ไม่ได้เอง จากคุณ : ZEROSUM - [ 13 พ.ค. 48 08:52:17 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้เข็มแข็งและหัดเรียนรู้ที่จะต่อสู้ด้วยตนเองนะคะ อ่านจากที่เพื่อนๆ พี่ ๆ เขาโพสมาข้างบนแล้วก็ลองทบทวนดู คนไหนเขาดีกับเราๆก็ดีกับเขา ถ้าเขาไม่ดีกับเราๆ ก็ห่างๆ เขาก็แล้วกันค่ะ อยู่ไกลบ้านไกลเมือง ตอ้งเข้มแข็งนะคะ ช่วยเหลือตัวเองให้มากถึงทีสุดก่อนค่อยรอหาความช่วยเหลือจากึคนอื่น พยายามไม่ย่อท้อ ผลสุดท้ายตัวเราเองแหละค่ะที่จะได้ผลตอบแทนดีกลับมา จากคุณ : ชฎาแหลม - [ 13 พ.ค. 48 16:25:32 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ไม่มีคำตอบสุดท้ายสำหรับกระทู้แบบนี้ เพียงแต่มีข้อคิดที่ว่า ขอให้เจ้าของกระทู้และคนที่เข้ามาอ่านทุกท่าน นำมาพิจารณาและจงเอาสิ่งที่ดีและไม่ดี จากความเห็นต่างๆ มาปรับปรุงตนเองให้ดียิ่งๆขึ้นไป จากคุณ : . - [ 13 พ.ค. 48 21:48:38 A:69.180.59.240 X: TicketID:012743 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เอ่อ...ไม่ต้องไปถึงอเมริกา แค่อ่านในนี้ก็รู้แล้วว่าเป็นไง จากคุณ : bellemaman - [ 13 พ.ค. 48 23:55:50 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณสำหรับคำเตือน ทำให้เราคิดได้ว่าบางครั้งเราก็คิดอะไรที่สุดโต่งไปจริง ๆ เวลาโมโหนะ บางครั้งการอยู่ที่นี่มันก็ทำให้คนอ่อนแอ คิดอะไรบ้าๆไปบ้าง หลายคนทำให้เราคิดได้และเข้มแข็งขึ้น จากคุณ : หนูแพม - [ 9 พ.ค. 48 04:04:15 ] เพื่อนๆ คะ เรารู้ว่าเพื่อนๆ หวังดีกับเจ้าของกระทู้ ถ้ายังไง ช่วยเขียนให้นุ่มนวลซักนิดก็จะดีนะคะ เห็นมั้ยว่าเค้าก็ดูเหมือนจะคิดอะไรได้และออกมาขอบคุณตั้งแต่ต้นกระทู้แล้ว...คือ ถ้าเราเป็นคุณหนูแพม กำลังเหงาๆ และท้อแท้ แล้วได้อ่านหลายๆ ข้อความที่คุณเขียนกัน คงท้อน่ะค่ะ ^^ จากคุณ : เราก็เหงาเหมือนกัน - [ 14 พ.ค. 48 09:49:00 A:66.216.217.11 X: TicketID:016978 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เห็นแก่ตัวกันดีค่ะ จากคุณ : qqndautre - [ 14 พ.ค. 48 17:59:41 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เห็นใจ จขกท เราเจอทั้งคนดีและคนไม่ดี เราเลยแยกแยะออก ดังนั้นไม่ขอออกความเห็นเรื่องนี้ มีแ่ต่เรื่องที่คุณบอกว่า ดีใจที่ต้นตระกูลเป็นจีน เหรอคะ?? เรื่องนี้หล่ะ ที่ขอพูดหน่อย.... คนจีนที่ดูถูกคนไทยทั้งๆที่คุณเองก็มาอาศัยประเทศเค้าอยู่ งั้นเราเหมารวมได้มั้ยคะ ว่าคนจีนมันอกตัญญูกันทั้งหมด คิดเอาเองนะคะ เราก็ไม่ตัดสินนิสัยคนจีนทั้งหมด ถ้าเห็นแค่ีคุณคนเดียวหรอกค่ะ คุณเองก็ไม่ควรตัดสินนิสัยคนไทยทั้งหมด จากคนๆนึงที่คุณเห็นเหมือนกัน ปล. ปู่เราก็จีนแท้ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 48 00:26:13 จากคุณ : พีพี.พูพู - [ 15 พ.ค. 48 00:25:15 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ของงี้แล้วแต่ดวงคะ ไม่มีใครผิดใครถูก หรือจะผิดกผิดทั้งคู่ จะถูกก็ทั้งหมด อย่าไปใส่ใจเลยคะ เรามาเรียนก็เรียนให้ดีที่สุดคนอื่นมันจะแข่งมันจะอะไรก้ช่างมัน คุณก็แข่งกับตัวเองดีที่สุดคะ รู้ว่ามันยาก แต่ก็รู้ว่ามันแบบนั้นตั้งแต่ตัเสินใจขอ I-20 แล้วไม่ใช่หรอคะ ก็ในเมื่อเลือกที่จะมา ก็ต้องสู้คะ ไม่มีอะไรสวยงามหรอกคะ อย่าไปหวังกับคนอื่นเลย เอาใจช่วยนะคะ ปล. คนไทยมีน้ำใจก็เยอะคะ เพียงแต่คุณไม่ได้เจอเองต่างหาก จากคุณ : NETMAGNET - [ 15 พ.ค. 48 01:42:32 ]

ความคิดเห็นที่ 69 คนไทยด้วยกันไร้น้ำใจแน่นอน แต่เป็นบางคนนะ  เคยมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง วันนั้นที่ ซานฟราน หน้าหนาวเราแต่งตัวปอนๆ เพิ่งตื่นนะ ออกไปซื้อของ ปรากฏว่าหลง ทางไม่แน่ใจว่ากลับทางไหน เห็นสาวไทย สองคน พูดภาษาไทยจ้อยๆ เลยเราเลยไปถามเป็นภาษาไทยประมาณจะกลับที่พักกลับยังงัย เพราะเราเพิ่งมาอยุ่ซานฟรานไม่ถึงเดือน   เขาดูการแต่งตัวเราแล้วพูดภาษาอังกฤษ สำเนียงไทยๆใส่เราประมาณว่าI dont know เราไม่รู้จะทำยังงัยเลยเดินไปที่รถกะว่าขับไปเรื่อยๆมั่วๆเดี่ยวคงถึงเอง    สองสาวเขาเห็นรถเรานะ รถเราเป็นเบนซ์ รุ่น S500 คันนึงก็หลายสิบล้านบาท  ปรากฏว่า สองสาวรีบวิ่งมาช่วยเหลือเราทันที แล้วก็พยายามตีสนิท เราก็แค่ขอบใจเขาแล้วก็ขับรถออกไป  ไม่สนใจ  อีกครั้งนึงก็ตอนเรียนในห้อง เราค่อนข้างจะแต่งตัวดูดี ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม คนไทยในคลาสเขาคงหมั่นใส้เรามากไม่มีคนคุยกับเราเลย เราเลยต้องไปคบกับ คนญี่ปุ่น อเมริกัน เกาหลีแทน   พวกคนไทยก็ชอบเขม่นเราอยุ่เรื่อย คงคิดว่าเราไม่ได้เรื่องอะไร ปรากฎว่าผลสอบออกมา เราได้ A แทบทุกวิชา  คนไทยพวกนั้นเลยเริ่มมาคุยดีด้วย  พูดอย่างโน้นอย่างนี้ เราก็พูดด้วยนะแต่ให้เราไปสนิทคงไม่เอา คบเพื่อนญี่ปุ่นสบายใจกว่าเยอะ  เฮอาและจริงใจและใจถึงมาก ตอนปิดเทอมหน้าร้อน เรากับเพื่อนญี่ปุ่นไปทัวส์ยุโรปด้วยกัน ปิดเทอมช่วงฤดูเราก็ชอบไป ฮาวาย ไม่ก็มาเมืองไทย ไม่ก็ไปมัลดีฟล์ ด้วยกัน   ไม่รู้ว่าพวกเขาอิจฉาเราหรือเปล่าถึงไร้น้ำใจกับเรา แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 48 08:35:51 จากคุณ : แววดาว - [ 15 พ.ค. 48 08:32:23 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ไม่กล้าอ่านผ่านข้อคิดที่หก เอาเป็นว่า อันนี้ของหนูแพมก็แล้วกัน เราก็โชคไม่ดีเหมือนกันกับคนไทยบางคน คนดี ๆ เขาก็มี แต่เรายังไม่ได้ไปเดินชนเข้าให้  ฝรั่งไม่ดี เราก็เจอมาแล้ว เราได้เพื่อนรักจากโรงเรียนมาคนหนึ่งเป็นคนญี่ปุ่น ความจริงเราเป็นคนไทยคนเดียวในห้อง ถ้าอยากมีเพื่อนเป็นคนไทย ก็บอกมาละกัน ช่วยอะไรได้เราก็จะช่วย แต่สงสัยจะอยู่คนละรัฐซะมากกว่า เอาใจช่วย จากคุณ : Akha - [ 16 พ.ค. 48 08:02:18 ]

ความคิดเห็นที่ 71 อาเราอยู่อเมริกามา 30 ปี เพิ่งจะย้ายกลับเมืองไทยไปได้ปีกว่า เค้าก็เตือนเราเหมือนกันว่าอย่าไปสุงสิงกับคนไทยมากนัก เพราะบางคนไม่เกรงใจ พยายามอย่าไปพึ่งใคร และอย่าให้ใครเค้าพึ่ง ทุกคนที่นี่ต้องช่วยตัวเองทั้งนั้น ใครจะมาใจดีกะเราฟรี ถ้าใครช่วยอะไรก็พยายามให้เป็นแค่ครั้งเดียว เพราะเราไม่รู้ว่าเค้าคิดว่าเราไปสร้างความลำบากให้เค้ามั้ย เราโชคดีที่มีอาอยู่ที่นี่ ไม่ต้องอาศัยใคร อยากรู้อะไรก็หาเอาทางเนท ก่อนออกจากบ้านก็จดเส้นทางจากเวบแผนที่ให้เรียบร้อย ติดต่อมหาลัยหรือราชการเค้าต้องการเอกสารอะไร ทุกอย่างมีในเนทเกือบทั้งนั้น ตอนแรกเราไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไม่อยากให้เราคบคนไทยด้วย แต่พออยู่ๆไปแล้วก็เห็นจริงตามที่เค้าว่า บางคนไม่เกรงใจและคิดว่าเป็นหน้าที่ที่เราต้องช่วย พอช่วยไปครั้งสองครั้งสามครั้งแล้วไม่ไหวแล้ว เลิกช่วย ก็โดนว่า พวกนี้ไม่เคยเกิดกับเราหรอกนะ แต่ได้ยินได้ฟังมามาก ตัวอย่างอื่นๆก็คล้ายๆกับที่ข้างบนเค้าเล่า ทุกคนที่นี่ไม่ได้อยู่ไปวันๆ ทุกคนมาเรียนหรือทำมาหากินทั้งนั้น จะให้มาความสำคัญกับธุระคนอื่นมากกว่าของตัวเองก็ใช่ที่ อาเราบอกเราตอนที่มาใหม่ๆ แล้วเราปรับตัวยังไม่ได้ ร้องไห้คิดถึงบ้านบ่อยๆ ว่า  What doesn't kill you make you stronger. กับ If you cannot make it here, in America, you cannot make it anywhere. จากคุณ : lookjiab - [ 16 พ.ค. 48 12:38:58 ]