ความคิดเห็นที่ 9
ขอโทษเจ้าของกระทู้ด้วยครับที่ต้องมาเถียงกันในนี้ ใจจริงผมก็ไม่อยากจะเถียงอะไรให้มากความ แต่จุดประสงค์หลักในใจคือไม่อยากให้ว่าที่นักเรียนทุนคนหนึ่งที่มีความสามารถขนาดได้รับ fellowship ต้องพลาดโอกาสดี ๆ ในชีวิตไป เพียงเพราะไปฟังคำแนะนำบางอย่างมา (อาจจะด้วยเจตนาดี ความไม่รู้ หรืออะไรก็ตามแต่)
ประสบการณ์ที่ผมได้พบกับนักเรียนทุนท่านอื่น ๆ โดยเฉพาะในระดับ graduate schoolในอเมริกา ส่วนใหญ่ก็มักจะได้รับทุนการศึกษาสองทางทั้งสิ้น เพราะมหาวิทยาลัยดี ๆ ในอเมริกา ส่วนใหญ่เขาก็มักจะสนับสนุนด้านเงินทุนให้นักเรียนเต็มที่อยู่แล้ว โดยทั่วไป ก็คิดว่าน่าจะได้กันเกือบทุกคน ตามหลักจริง ๆ จะว่า ไปแล้วเงินแค่ 1200 จาก กพ ถ้าไปอยู่มหาวิทยาลัยดี ๆ ในเมืองใหญ่ ๆ เช่น Boston, NYC, SF ถ้าไม่ได้เงินช่วยเหลือพวก fellowship หรือ TA/RA จากมหาวิทยาลัย นักเรียนก็คงจะไม่สามารถอยู่ได้แน่ ๆ และก็คงจะไม่มีนักเรียนทุก ก.พ. คนไหนสามารถเรียนในมหาวิทยาลัยแบบ Columbia, Stanford, Berkeley, Harvard, MIT, Caltech ได้แน่นอนด้วยเงินทุนจากรัฐบาลเพียงด้านเดียว
นั่นแหละครับ ผมเลยรู้สึกว่าควรจะเอาข้อเท็จจริงมาพูดกันดีกว่ากล่าวโทษนักเรียนทุนว่าเป็นคนไม่ซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นการไม่ยุติธรรมกับนักเรียนทุนเกินไป ยิ่งคนที่พูดอ้างตนว่าเป็นเพื่อนนักเรียนทุน ก.พ.ด้วยแล้ว ทำให้ผมไม่สามารถปล่อยให้ความเข้าใจผิดนี้ ผ่านไปได้
อย่างผมเอง ตอนเรียน ป.โท ได้ลดราคาค่าเล่าเรียน หนึ่งหมื่นเหรียญต่อปี อันนี้ก็คือเป็นการประหยัดงบประมาณให้ประเทศชาติ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเงินส่วนนี้จะได้เข้ากระเป๋านักเรียนแต่อย่างไร เพราะว่า ทุนจากมหาวิทยาลัยในอเมริกาไม่ได้ให้เป็นตัวเงินครับ ในขณะเดียวกัน เพื่อนๆที่เรียน ป.เอก ส่วนมากจะได้เรียนฟรี และมีเงินเดือนให้ด้วยจากทุนมหาวิทยาลัย ก็คือ ตรงนี้ กพ.ก็ไม่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียน แต่อย่างใด และก็คงไม่เป็นการสมเหตุสมผลที่จะไปหักเงินค่าใช้จ่ายของเขา
เพื่อไม่ให้ต้องสงสัยอีกต่อไป ผมได้ไปหยิบ"คู่มือนักเรียนทุนรัฐบาล สำหรับผู้ที่เดินทางไปศึกษา ณ สหรัฐอเมริกา" มาเปิดดู และก็ได้พบกับหัวข้อที่ตรงกับเรื่องนี้ครับ
3.11 การรับทุนอื่น นักเรียนทุนรัฐบาลสามารถรับทุนอื่นได้ ถ้าทุนที่ได้นั้นเป็นทุนอันเนื่องมาจากผลการศึกษาที่นักเรียนทุนรัฐบาลผู้นั้นเรียนดีเด่นจนมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอื่นใดมอบทุนให้และการรับทุนนั้นไม่มีข้อผูกพันอันจะทำให้การศึกษาของนักเรียนทุนรัฐบาลนั้นผิดไปจากแนวการศึกษาเดิม ทั้งนี้จะต้องรายงานให้ สนร ฯ ทราบด้วยและหากนักเรียนได้รับเงินส่วนลดคืนจากสถานศึกษา นักเรียนจะต้องคืนให้แก่ทางราชการ นักเรียนทุนที่รับทุนอื่นจะไม่สามารถของดรับทุนรัฐบาลทั้งจำนวนเพราะจะทำให้ขนาดสถานภาพการเป็นนักเรียนทุนรัฐบาล
หวังว่าเจ้าของกระทู้และผู้อ่านท่านอื่น ๆ คงจะเข้าใจ แง่มุมหนึ่งและไม่หมดกำลังใจ ในการขอทุน Fellowship ต่อไป
ปล. อันนี้ผมสันนิษฐานเอาว่าเจ้าของกระทู้กำลังจะมาเรียนในสหรัฐอเมริกา ฯ ดังนั้นบทวิเคราะห์อันนี้จึงใช้ได้เฉพาะสำหรับนักเรียนทุน ก.พ. ที่ศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา เท่านั้นครับ
จากคุณ :
B.F.Pinkerton
- [
19 พ.ค. 48 09:21:44
]
|
|
|