ความคิดเห็นที่ 1 มี 2 passport ค่ะ อเมริกันเเละไทย เเต่ไม่เคยได้ใช้ passport ไทยเลยเพราะเดินทางเข้าไทยใช้ passport อเมริกันสะดวกกว่าค่ะ หมายถึงถ้าไม่ไปอยู่เมืองไทยนานเกินเดือนนึงนะคะ ทีนี้ถ้าถามว่าทำใมถึงไม่ใช้ passport ไทยเวลาเดินทางไปประเทศไทย ลองคิดในเเง่นี้นะคะ เวลาที่เดินทางไปประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่ดอนเมืองจะ stamp ในพาสปอร์ตว่าเห็นคนๆนี้เข้าประเทศในวันที่นั้น ด้วยเที่ยวบินนั้น เวลาที่เดินทางกลับออกนอกประเทศ เจ้าหน้าที่จะ stamp ที่ passport หน้าเดียวกันว่าเห็นคุณเดินทางออกนอกประเทศไปเมื่อวันที่นั้นๆ ถ้าคุณใช้พาสปอร์ตไทยเพื่อเข้าประเทศไทย เวลาที่คุณกลับเข้าอเมริกา คุณโชว์พาสปอร์ตไทยให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรที่ port of entry ในอเมริกาดู เขาจะคิดว่าคุณถือสัญชาติไทย เเละอาจขอดูวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐ ซึ่งคุณก็จะไม่มี ถ้ากลับเข้าอเมริกา คุณเอาพาสปอร์ตอเมริกันให้เจ้าหน้าที่ดู เขาจะไม่เห็นว่ามี stamp ว่าคุณเดินทางไปไหน เพราะ stamp นั้นอยู่ในพาสปอร์ตไทยของคุณ จริงมั้ยคะ ทีนี้ถ้าเจ้าหน้าที่เขาถาม (ตัวเองถูกถามทุกครั้งว่าไปทำอะไรที่ประเทศไทยค่ะ) ว่าคุณไปไหนมา คุณก็ต้องเอาพาสปอร์ตไทยให้เขาดูด้วย ทีนี้เขาก็จะเห็นว่าคุณมี 2 passport คงต้องมีการตอบคำถามกันยืดยาวล่ะค่ะว่าทำใม วิธีที่ดีที่สุด สะดวก ปลอดภัยที่สุดคือใช้ passport เดียวค่ะ เเล้วในเมื่อคนที่ถือสัญชาติอเมริกันเดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องขอวีซ่า ใช้ passport อเมริกันอย่างเดียวดีที่สุดค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 10 มิ.ย. 48 02:48:15 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณค่ะ แต่งงนิดหน่อยค่ะ คือปกติดิฉันก็ใช้พาสปอร์ตไทยเข้าออกทั้งไทยและอเมริกา โดยตอนที่เข้าอเมริกาก็จะยื่น greencard ไปด้วย ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลยค่ะ ได้รับการ stamp เข้าออกของทั้งสองประเทศ ที่ดิฉันต้องการสมัคร citizenship ก็เพื่อต้องการถือพาสปอร์ตอเมริกันจะได้เดินทางสะดวก ดิฉันและครอบครัวจะเดินทางไปต่างประเทศกันบ่อยแต่ต้องมาเสียเวลาขอ VISA ของดิฉัน ซึ่งบางครั้งต้องล้มเลิกการเดินทางเพราะการขอVISA ของประเทศต่างๆจะยุ่งยากมาก ในกรณีของลูกชายทั้ง 2 คน ดิฉันจะ Show Thai passpert ตอนเข้าออกเมืองไทย แล้วก็ Show American Passport ตอนเข้าอเมริกา ไม่เคยมีปัญหาเลยค่ะ เวลาที่ไปประเทศอื่นตอนเขาออกประเทศนั้นๆก็จะ show American passport ค่ะ ไม่มีปัญหาเช่นกัน ดิฉันอยากจะสะดวกแบบลูกๆค่ะ เวลาจะไป vacation ไหนทีจะได้ไม่ยุ่งยากค่ะ จากคุณ : Bento - [ 10 มิ.ย. 48 03:16:28 A:69.244.144.59 X: TicketID:000069 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตอนที่ถือกรีนคาร์ดก็ใช้พาสปอร์ตไทยอย่างเดียวทั้งเข้าออกอเมริกาเเละเมืองไทยเหมือนกันค่ะ stamp เข้าออกจะอยู่ที่พาสปอร์ตไทยพาสปอร์ตเดียว ในกรณี passport อเมริกันและไทย ลองดูที่ passport ของลูกชายเวลาไปเมืองไทยสิคะ ถ้าโชว์พาสปอร์ตไทยเวลาเข้าเมืองไทย stamp ของ entry เเละ exit จะอยู่หน้าเดียวกันค่ะ ถ้าโชว์พาสปอร์ตไทย stamp ทั้งสองนั้นจะอยู่ในพาสปอร์ตไทย ใช่มั้ยคะ ในพาสปอร์ตอเมริกันจะไม่มีอะไรเลย คิดว่าที่ไม่มีปัญหาเเละเจ้าหน้าที่ไม่ถามในกรณีลูกชาย เพราะเขาดูจาก stamp ของพ่อเเม่ก็รู้ว่าลูกไปไหนมา เเต่ถ้าเป็นของผู้ใหญ่ เขาจะถามเเน่ๆค่ะ เวลาที่คุณสาบานตัวเข้ารับสัญชาติอเมริกัน มีอยู่ตอนนึงที่คุณต้องพูดตามเขาคือคุณต้องยกเลิกสัญชาติเดิมค่ะ เเม้ว่าตามกฎหมาย เราถือสองสัญชาติได้ เเต่ถ้าตอนที่เราสาบานตัว เราสาบานว่าเราจะยกเลิกสัญชาติเดิม ปัญหามันอยู่ตรงนั้นเเหละค่ะ ในกรณีของลูกชาย คงได้สัญชาติอเมริกันโดยกำเนิดใช่มั้ยคะ คิดว่านั่นน่าจะต่างกันนะคะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 10 มิ.ย. 48 03:32:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขออนุญาตแย้งพี่ไก่นิดนึงนะคะ ในกรณีที่เขาให้สาบานตนว่าจะยกเลิกสัญชาติเดิม หมายความว่าอเมริกาไม่อนุญาตให้ถือสองสัญชาติ ฉะนั้นก็หมายความว่าโดยหลักกฎหมายแล้ว คนไทยที่ถือทั้งสองสัญชาติ ไทย-อเมริกันนั้น ทำผิดกฎหมายของประเทศอเมริกานะคะพี่ไก่ ถ้าเกิดทางอิมมิเกรชั่นเขาอยากจะเล่นแง่ขึ้นมาอาจมีปัญหาได้ ไม่เหมือนกรณีของแคนาดาหรือออสเตรเลีย ที่เขาระบุไว้ชัดเจนในกฎอิมมิเกรชั่นเลยค่ะว่า คนที่ต้องการขอสัญชาติแคนาเดียนหรือออสเตรเลียนนั้นไม่จำเป็นต้องสละสัญชาติเดิมของตนค่ะ แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 48 04:02:49 จากคุณ : Northernlife - [ 10 มิ.ย. 48 04:02:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ใช่ค่ะ เจ้าหน้าที่ที่เมืองไทยไม่เคยถามของลูกเลยค่ะ ดิฉันก็จะแสดงพาสปอร์ตไทยอย่างเดียว แต่อย่างที่คุณว่าก็เป็นไปได้ที่เขาไม่สนใจเด็กมากเพราะมากับผู้ใหญ่ และตอนที่เข้าอเมริกาดิฉันก็แสดงพาสปอร์ตอเมริกันอย่างเดียว แต่เด็กถือ 2 สัญชาติได้จนกว่าจะครบ 18 ถ้าดิฉันเข้าใจไม่ผิด แต่สำหรับตัวดิฉันเอง คิดว่า ถ้าดิฉันได้พาสปอร์ตอเมริกัน ดิฉันจะทำแบบลูกขณะนี้ได้ไม๊ แล้วที่เมืองไทยอนุญาต ให้เราถือ 2 สัญชาติได้รึเปล่าค๊ะ ปกติดิฉันจะกลับเมืองไทยมากกว่า 1 เดือนตอนช่วงซัมเมอร์ คือถ้าดิฉันทำแล้วคือ ถือทั้ง พาสปอร์ตของทั้ง 2 ประเทศ กลัวว่าจะมีปัญหา ในอนาคตหนะค่ะ เหราะยังไงดิฉันก็จะไม่สละสัญชาติไทยเพราะธุรกิจที่บ้าน และคิดจะกลับไปอยู่เมืองไทยในอนาคต แต่จะต้องกลับมาอเมริกาทุกปีอยู่แล้วค่ะ สามีดิฉันเป็นอเมริกันค่ะ แล้วอย่างที่คุณNorthenlife ว่าการถือ 2 สัญชาติก็ผิดกฎหมายอเมริกันนั้นถูกรึเปล่าค๊ะ จากคุณ : Bento - [ 10 มิ.ย. 48 04:31:27 A:69.244.144.59 X: TicketID:000069 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องนี้สงสัยต้องว่ากันยาวเลยค่ะ กฎหมายอเมริกันหลายๆกฎหมายมันคลุมเคลือเพราะการออกกฎหมายเขาเน้นที่ว่ากฎหมายที่ออกมาเเต่ละกฎหมายจะต้องไม่ไปขัดกับ civil liberties ของประชากรเเต่ละคน กฎหมายเรื่องถือสองสัญชาติของคนอเมริกัน ในเเง่ของตัวหนังสือเขาอนุญาติค่ะ เเต่เเง่ปฎิบัติอาจเป็นอีกเรื่องนึง ตัวอย่าง court case ที่อนุญาติให้คนอเมริกันถือสองสัญชาตินี่มีเยอะมากเลยค่ะ อย่างเช่นกรณี Schneider v. Rusk Angelika Schneider เกิดที่เยอรมัน เข้ามาอาศัยอยู่ในอเมริกาตามพ่อเเม่ เเล้วก็โอนสัญชาติเป็นอเมริกัน ต่อมาเเต่งงานกับคนเยอรมัน เเล้วย้ายไปอาศัยอยู่ในเยอรมันโดยถาวร State Dept. อ้างว่าเมื่อเป็นอย่างนั้น เท่ากับว่าเธอเสียสัญชาติอเมริกัน ก็เลยมีการฟ้องร้องกัน U.S. Supreme Court ruled เข้าข้าง Angelika Schneider โดยบอกว่าในเมื่ออเมริกายอมให้คนที่ถือสัญชาติอเมริกันโดยกำเนิดถือสองสัญชาติได้ การไม่ยอมให้คนที่เป็น naturalized American ถือสองสัญชาติเป็นการละเมิดสิทธิ์ของคนๆนั้น ในฐานะที่ Supreme court เป็นผู้มี final say ในเรื่องของกฎหมายของอเมริกา คำตัดสินของ Supreme court ถือว่าเป็นข้อสิ้นสุดของกรณืนั้น Angelika Schneider ก็เลยคงถือสองสัญชาติได้ตามเดิม หรือกรณี Afroyim v. Rusk กรณีนี้ Beys Afroyim เกิดที่โปเเลนด์ เเล้วอพยพไปอยู่อิสราเอล ก่อนย้ายมาอเมริกา เเล้วขอสัญชาติอเมริกัน เป็น naturalized American citizen อีกเหมือนกัน มีอยู่คราวหนึ่งเขาไปลงคะเเนนเสียงเลือกตั้งในอิสราเอล State Dept. ของอเมริกาจะยกเลิกสัญชาติอเมริกันของเขา เรื่องไปถึง U.S. Supreme Court อีกเหมือนกัน กรณีนั้น Supreme court อ้าง 14th Amendment to the US Constitution ซึ่งเป็นธรรมนูญที่ค้ำประกันความเป็น citizen ของทาสซึ่งได้รับการปลดปล่อย Supreme court ยกธรรมนูญนั้นมาอธิบายว่าสภาคองเกรสไม่มีสิทธิผ่านร่างกฎหมายใดๆที่ "deprive an American of his citizenship without his assent" คือยกเลิกสิทธิความเป็นประชากรอเมริกันของคนอเมริกันโดยที่บุคคลนั้นไม่ยินยอม เเต่เรื่องของเรื่องคือ State Department ของสหรัฐต่อต้านการถือสองสัญชาติของคนอเมริกัน โดยเฉพาะคนที่ถือสัญชาติอเมริกันโดยผ่านการ naturalization น่ะค่ะ กฎหมายการยินยอมให้ถือสองสัญชาติของคนเป็นอเมริกันโดยกำเนิดนี่ระบุไว้ชัดเจน เเต่คนที่ naturalize เป็นอเมริกัน เราต้องสาบานตัวว่าจะยกเลิกสัญชาติเดิมของเรา การถือสองสัญชาติของเราก็เลยเป็นเเบบเเอบๆเอาน่ะค่ะ เพราะอย่างนั้นถึงไม่เเนะนำให้คุณเจ้าของกระทู้ใช้สองพาสปอร์ตถ้าไม่จำเป็นค่ะ หมายถึงหลังจากได้สัญชาติอเมริกันเเละได้พาสปอร์ตอเมริกันเเล้วนะคะ เพราะเเม้ว่าตามตัวกฎหมายจะยินยอม เเต่เมื่อเราสาบานตัวว่าอย่างนึง จะเป็นปัญหาได้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 48 04:40:31 จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 10 มิ.ย. 48 04:39:56 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เท่าที่ทราบนะคะ ถ้าไปอยู่เมืองไทยเกินเดือน เราขออยู่ต่อได้ค่ะ เห็นมีคนบอกว่าไปขอที่กงศุลค่ะ คนต่างชาติบางคนใช้วิธีเดินทางออกนอกประเทศไทย ไปประเทศใกล้ๆ อย่างมาเลเซีย เเล้วเวลากลับเข้าประเทศไทยอีก ก็จะได้ stamp เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่อีกค่ะ คุณ Bento คะ ดิฉันก็ต่อพาสปอร์ตไทยมาเรื่อยๆเหมือนกันค่ะ เเล้วก็กลับไปต่ออายุบัตรประชาชนไทยที่เมืองไทยทุกครั้งก่อนบัตรหมดอายุ เคยเล่าให้ที่นี่ฟังหลายรอบเเล้วเหมือนกันค่ะว่า ที่เมืองไทยดิฉันยังเป็นนางสาวอยู่เลยค่ะ คือเเต่งงานกับคนอเมริกันเหมือนกันมาเกือบ 15 ปีเเล้วค่ะ เเต่ไม่ได้ไปทำเรื่องขอเปลี่ยนสถานภาพที่เมืองไทยเลยค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 10 มิ.ย. 48 04:46:34 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พอดีเพิ่งไปอ่านเจอในเว็บนี้ เลยเข้าใจที่พี่ไก่อธิบายกระจ่างขึ้น ขอบคุณพี่ไก่นะคะ แล้วเลยถือโอกาสเอามาฝากคุณเบนโตด้วยค่ะ My son has both British and American citizenship. At what age must he choose which citizenship he wants to keep? American citizenship is for life. The laws covering the retention of citizenship have been greatly liberalized - thanks in large part to the lobbying of American community groups overseas. No child has to do anything at any age to retain, choose, affirm, or confirm American citizenship. In the 1980's, the Supreme Court ruled that citizenship is a Constitutional right, which cannot be taken away from a citizen who does not intend to relinquish it. Therefore, such actions as naturalization in a foreign state or voting in a foreign election do not automatically jeopardize American citizenship. I have both U.S. and British passports. Can I use either to travel to the United States? No. Under U.S. law, U.S. citizens must be in possession of a valid U.S. passport to enter or leave the United States. This is true even if you hold a passport from another country. If your U.S. passport has been lost or stolen, or if it has expired, you must apply to replace it before traveling to the United States. อ่านเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์นี้นะคะ http://www.usembassy.org.uk/cons_web/faqs/faqs-citz.htm แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 48 04:52:37 จากคุณ : Northernlife - [ 10 มิ.ย. 48 04:51:30 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ติดตามอ่านคุณกุลธิดาตอบ ตั้งแต่กระทู้ก่อน ๆ รู้สึกว่าตอบได้ดีิและ ได้ความรู้มากค่ะ นี่ดิฉันก็กล้า ๆ กลัว ๆ จะเปลี่ยนสัญชาติ(ถ้าเวลานั้นมาถึง) แฟนอยากให้เปลี่ยน ด้วยเหตุผลเหมือนคุณเจ้าของกระทู้นะค่ะ จากคุณ : เสียงซึง - [ 10 มิ.ย. 48 06:27:16 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คงต้องคิดอีกซักพักแล้วละค่ะ ว่าจะเอาไงดี แต่ถ้าดิฉันจะทำเรื่องขอ Citizenship จะใช้เวลานานไม๊ค๊ะ เอาตั้งแต่เริ่มเลย และมีขั้นตอนยังไงเอาแบบย่อก็ได้ค่ะ ปีหน้านี้ดิฉันต้องทำเรื่องขอ Greencard แบบบ 10 ปี อันที่ 2 แล้ว ค่ะ Info ที่คุณ Nothenlifeหามาเล่าสู่กันฟัง แสดงว่า พวกเด็กที่ถือ 2 สัญชาติกันขณะนี้พอ อายุ 18 ก็ยังได้ 2 สัญชาติ เหมือนเดิมถูกรึเปล่าค๊ะ แล้วถ้ามีลูกชายจะทำยังไงเรื่องเกณฑ์ทหารที่เมืองไทย ต้องขอบคุณ คุณกุลธิดาและคุณNorthernlife มากเลยค่ะ ดิฉันเข้ามาห้องแม่บ้านบ่อยแต่จะขอบัตรผ่านยังไม่ได้เป็นสมาชิกเลยค่ะ ตอนนี้อยู่ที่ Michigan ค่ะ แวบเข้าแวบออกเกือบ 4ปีแล้วค่ะ ถ้าท่านผู้ใดมีข้อมูลเรื่องนี้ก็เอามาเล่าสู่กันฟังบ้างนะค๊ะ จากคุณ : Bento - [ 10 มิ.ย. 48 08:30:09 A:69.244.144.59 X: TicketID:000069 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เข้ามาเก็บข้อมูลค่า อิอิ จากคุณ : letsgokrabi - [ 10 มิ.ย. 48 15:05:47 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ลองอ่านหน้านี้ดูซิคะ เหมือนจะอนุญาตให้ถือ 2 สัญชาติได้เลยค่ะ http://travel.state.gov/travel/cis_pa_tw/cis/cis_1753.html หรือว่าเฉพาะถ้าคนอเมริกันไปขอสัญชาติอื่นแต่ไม่ในทางกลับกัน? จากคุณ : จีโอแอล - [ 10 มิ.ย. 48 20:53:51 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จากที่เข้าไปอ่านลิ้งค์ข้างบน เขาเขียนในทำนองให้'ตีความ' ไม่มีตรงไหนบอกตรงๆทำนองว่า คนที่มีสองสัญชาติ*จะต้อง*เสียสัญชาติอเมริกันหรือของชาตินั้น เพราะมันขึ้นอยู่กับกฏหมายในเรื่องนี้ของชาตินั้นๆด้วย(ว่ายอมไม่ยอม) เขาไม่สนับสนุน เพราะมันอาจส่งผลถึงเรื่องทางการเมืองกฎหมายกรณีคนที่มีสองสัญชาตินั้นมีปัญหาในประเทศที่ตัวเองมีสัญชาติอยู่ สรุปคิดว่า เขาไม่ได้ห้ามโดยตรงหรอก แต่ไม่สนับสนุน จากคุณ : Overseas - [ 10 มิ.ย. 48 23:11:44 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อ่านแล้วก็งงนะคะ ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณ จขกท. ถึงต้องใช้ passport 2 เล่มต่อการเดินทางออกนอกประเทศ 1 ครั้ง (กรณีเดินทางไปเมืองไทย) โดยส่วนตัวแล้วดูมันทะแม่งๆ พิกล สมมุติว่าคุณมีทั้ง passport ไทยและอเมริกัน คำถามคือ:- - ชื่อบน passport ทั้ง 2 เล่มนั้น เป็น Mrs. ทั้ง 2 เล่มหรือเปล่า? - ถ้าคุณเดินทางออกจากอเมริกา คุณยื่น passport อเมริกันพร้อมตั๋วเครื่องบิน พอถึงเมืองไทยคุณยื่น passport ไทย เพื่อใช้สิทธิการเป็นพลเมืองไทยในการพักอาศัยนานกว่า กม.คนเข้าเมืองกำหนด แล้วพอคุณเดินทางกลับอเมริกา ตอนเดินทางออกจากเมืองไทยคุณยื่น passport ไทย คุณจะทำได้อย่างไร? เพราะตอน check in สายการบินจะขอดู green card หรือวีซ่าเข้าประเทศอเมริกา แต่คุณไม่มีเพราะคุณเป็น citizen แล้ว คุณก็จะใช้ passport ไทยเดินทางออกนอกประเทศไทยไม่ได้ - แล้วถ้าคุณมาถึงอเมริกา คุณเปลี่ยนเป็นใช้ passport อเมริกัน ตามสิทธิพลเมืองที่ไม่ต้องใช้วีซ่า แต่ immigration ดูแล้วไม่มีการประทับตราจาก immigration ของเมืองไทยเลย ทั้งเข้าและออก ซึ่งจะระบุวันเวลาช่วงที่คุณเดินทาง เขาต้องถามคุณแน่ๆ แล้วคุณจะตอบเขาว่าอย่างไร? คิดว่าคุณอาจจะถือ 2 สัญชาติได้ แต่ก็ไม่ควรใช้กับการเดินทางระหว่างไทยและอเมริกา ถ้าคุณเดินทางไปประเทศอื่นๆ อาจจะไม่มีปัญหานะคะ รอผู้รู้ท่านอื่นมาคลายความสงสัยด้วยดีกว่า... จากคุณ : SugarCane - [ 11 มิ.ย. 48 00:23:59 A:207.200.116.68 X: TicketID:029980 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตอบคุณ SugarCane นะคะ ดิฉันยังไม่มีพาสปอร์ตอเมริกันค่ะ ตอนนี้เพียงแต่ต้องการหาข้อมูลว่าควรจะขอ citizenship เพื่อจะขอ พาสปอร์ตอเมริกันดีรึเปล่า คำถามที่คุณถามมาก็น่าคิด เพราะ นามสกุลของทั้งสองพาสปอร์ตจะไม่เหมือนกัน แต่ในพาสปอร์ตอเมริกัน ดิฉันจะมีทั้งชื่อและนามสกุลไทยอยู่ด้วยเพราะตอนจดทะเบียนที่อเมริกาดิฉันเอานามสกุลเดิมของตัวเองมาเป็นชื่อกลาง ของลูกๆก็จะเป็นเหมือนของดิฉันทั้งในพาสปอร์ตไทยและอเมริกัน พาสปอร์ตไทยของดิฉันจะเป็น Mrs.ค่ะแต่นามสกุลเดิม ไม่ใช่นามสกุลสามี ส่วนคำถามข้อที่สองดิฉันคิดว่าถ้าดิฉันมีทั้งสองพาสปอร์ตดิฉันก็จะยื่นพาสปอร์ตไทยตอนเข้าประเทศไทย ส่วนตอนออกดิฉันก็จะยื่นพาสปอร์ตไทย และก็จะยื่นพาสปอร์ตอเมริกันให้ดูถ้าเจ้าหน้าที่ สายการบินหรือเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองถาม ซึ่งตอนนี้ของลูกชายก็จะยื่นแบบนี้ตลอดเขาก็ไม่ได้ว่าหรือถามอะไรเลยนะคะทั้งเจ้าหน้าที่สายการบินและ จนท ตรวจคนเข้าเมือง จากคำถามข้อนี้ทำให้ดิฉันอยากทราบว่า จริงๆแล้วประเทศไทยอนุญาติให้คนไทยถือสองสัญชาติได้ไม๊คะ ในกรณีที่เป็นผู้ใหญ่อายุเกิน 18 ปี และเด็กที่ถือ 2 สัญชาติขณะนี้ พออายุครบ 18 ปีจะต้องทำยังไง พอทราบกันไม๊คะ สำหรับข้อที่ 3 ก็กะว่าจะยื่นแต่พาสปอร์ตอเมริกัน เหมือนลูกๆ จนท ตรวจคนเข้าเมืองที่นี่ไม่เคยถามทั้งของดิฉันและลูกๆเลย มีแต่จะถามเล่นๆว่าไปไหนมา เป็นไง and Welcome Back แต่ประทับตราที่พาสปอร์ตให้ (ของลูกๆ บางครั้งก็ไม่ประทับตราให้ค่ะ ของสามีก็เช่นกันบางทีก็ไม่ประทับตราให้สามีต้องบอกจนท ว่า For my Tax purpose ค่ะ) จากคุณ : Bento - [ 11 มิ.ย. 48 01:41:42 A:68.61.239.184 X: TicketID:000069 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอแย้งว่าเวลาสาบานตัวเข้ารับสัญชาติอเมริกัน ไม่มีข้อความอะไรในคำสาบานว่าเราต้องยกเลิกสัญชาติเดิม http://uscis.gov/graphics/services/natz/English.pdf Page 28 What does the Oath require? When you take the oath, you must promise to do three things: (1) I Will Renounce Foreign Allegiances. As stated in the Oath, you must renounce all foreign allegiances to become a U.S. citizen. (2) I Will Support the Constitution. You must also be willing to support and defend the principles of the U.S. Constitution and the laws of the United States. (3) I Will Serve the United States. When required by law, you must be willing to (1) fight in the U.S. Armed Forces, (2) perform non-combatant service in the U.S. Armed Forces, and (3) perform civilian service for the United States. The Oath of Allegiance I hereby declare, on oath, that I absolutely and entirely renounce and abjure all allegiance and fidelity to any foreign prince, potentate, state, or sovereignty, of whom or which I have heretofore been a subject or citizen; that I will support and defend the Constitution and laws of the United States of America against all enemies, foreign and domestic; that I will bear true faith and allegiance to the same; that I will bear arms on behalf of the United States when required by the law; that I will perform noncombatant service in the Armed Forces of the United States when required by the law; that I will perform work of national importance under civilian direction when required by the law; and that I take this obligation freely, without any mental reservation or purpose of evasion; so help me God. จากคุณ : DISCOVER - [ 11 มิ.ย. 48 02:10:40 A:24.20.212.132 X: TicketID:079249 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถึงคุณ Discover: ข้อความข้างล่างนี้แหละค่ะ ถ้าคุณแปลให้ดีๆแล้ว มันหมายความว่าคุณต้องยกเลิกการถือสัญชาติเดิมค่ะ The Oath of Allegiance I hereby declare, on oath, that I absolutely and entirely renounce and abjure all allegiance and fidelity to any foreign prince, potentate, state, or sovereignty, of whom or which I have heretofore been a subject or citizen; จากคุณ : Northernlife - [ 11 มิ.ย. 48 03:11:44 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไปค้นมาให้อ่านกัน อันนี้เป็น กม.ไทยเกี่ยวกับ "การเสียสัญชาติไทย" มาตรา ๑๓ หญิงซึ่งมีสัญชาติไทยและได้สมรสกับคนต่างด้าวและอาจถือสัญชาติของสามีได้ตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติของสามี ถ้าประสงค์จะสละสัญชาติไทย ให้แสดงความจำนงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามแบบและวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง อ่านแล้วเข้าใจว่า ถ้าเราไม่ยื่นขอสละสัญชาติเดิม เราก็สามารถถือได้ 2 สัญชาติ ตามความที่เขียนไว้ว่า "ถ้าประสงค์" ดังนั้น ถ้าเราไม่ประสงค์จะสละสัญชาติก็ได้ (ค่าธรรมเนียมขอสละสัญชาติ 5,000 บาท พร้อมแนบเอกสารอีกเพียบ) ขอผู้รู้ขอ กม. ออกความเห็นด้วยค่ะ... โดยส่วนตัวแล้วก็จะถือ 2 สัญชาติเหมือนกันนั่นแหละค่ะ ที่จะเป็น American Citizen ด้วยเหตุผลเดียวคือ จะได้งานดีๆ ที่เขาระบุว่าต้องเป็น citizen เท่านั้นถึงจะสมัครได้ อยากได้งานแบบนั้นค่ะ จากที่ comment ไว้ข้างบนนะคะ คือ สงสัยว่าถ้าคุณ Bento เข้าเมืองไทยด้วยวีซ่าไทย แต่ตอนออกไม่มี green card หรือวีซ่าแสดงก็ใช้ passport ไทยไม่ได้ (ตามความเข้าใจ) และหากเปลี่ยนไปยื่น passport อเมริกันจะไม่มีปัญหาหรือคะ? ถ้า (1) คุณอยู่เกินกำหนด 1 เดือน คุณจะโดนปรับไม๊? (2) คุณไม่มีตราประทับของ immigration ตอนเข้าเมืองใน passport อเมริกัน จะมีปัญหาไม๊? ถ้าต้องใช้ตอนเดินทางออกจากประเทศไทย (3) มาถึง ตม.อเมริกาแล้วจะมีปัญหาไม๊? ที่ถามก็เพราะอยากรู้เหมือนกันค่ะ เป็น case ที่น่าสนใจดีค่ะ... อย่างน้อยก็เสนอเป็นข้อกันด้วย จากคุณ : SugarCane - [ 11 มิ.ย. 48 03:39:43 A:207.200.116.68 X: TicketID:029980 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คุณ SugarCane ค๊ะ ดิฉันก็อยากทราบเหมือนกันค่ะว่าจะเป็นยังไงตอนที่เราจะออกจากเมืองไทยเพราะตอนเข้า จนท. จะไม่ถามยื่นพาสปอร์ตไทยอย่างเดียว แต่ตอนออกนี่ล่ะค่ะถามแน่โดยเฉพาะ จนท สายการบิน แต่อย่างของลูกอย่างที่บอกไว้ข้างต้น ดิฉันยื่นไทยตอนเข้า ตอนออกดิฉันยื่นทั้งไทยและอเมริกันค่ะ ที่จนท สายการบินขอดูคงเป็นเพราะว่า จะดูว่าเราจะกลับเข้าอเมริกากันได้ไม๊ ส่วนที่คุณถามว่าจะโดนปรับไม๊ถ้าอยู่เกินหนึ่งเดือนโดยใช้พาสปอร์ตอเมริกันเข้า ตอบว่าโดนค่ะถ้าไม่ไปทำเรื่องขออยู่ต่อ ส่วนข้อสอง-สามไม่แน่ใจค่ะแต่ของลูกไม่มีปํญหาอะไรเลย ทีนี้เราก็ไม่ทราบว่าเด็กกับผู้ใหญ่กฎจะต่างกันรึเปล่าของทั้งสองประเทศ ตัวดิฉันบ้านอยู่ต่างจังหวัดการยื่นพาสปอร์ตไทยตอนเข้าจะสะดวกกว่าเพราะอยู่เกิน 1 เดือนโดยไม่ต้องเข้ามาทำเรื่องในกทม ให้ยุ่งยากค่ะ แม่บ้านที่ขอ Citizenship ขอกันนานไม๊ค๊ะ Process เป็นไงบ้างค๊ะ จากคุณ : Bento - [ 11 มิ.ย. 48 04:26:30 A:68.61.239.184 X: TicketID:000069 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ตอบคุณ SugarCane ตามที่ดิฉันมีประสบการณ์ตรงมาเรื่องการถือสองพาสปอร์ตนะคะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าดิฉันถือพาสปอร์ตของออสเตรเลียและของไทย ไม่ใช่พาสปอร์ตอเมริกา เคยใช้พาสปอร์ตไทยเดินทางออกจากออสเตรเลียไปประเทศไทย เมื่อถึงประเทศไทยดิฉันก็ยื่นพาสปอร์ตไทย เพราะตั้งใจอยู่สามเดือน ก็ผ่านโดยไม่มีปัญหาอะไร ขาออกก็ยื่นพาสปอร์ตไทยตั้งแต่เช็คอินกับสายการบิน แน่นอนว่าตรงนี้เขาต้องเช็คอยู่แล้วว่าดิฉันมีวีซ่าเข้าเมืองไหม ดิฉันก็บอกตรงๆว่าถือพาสปอร์ตของออสเตรเลียด้วย เขาขอดูแล้วก็ให้ผ่านไป ไม่ได้ว่าอะไร ตอนผ่านตม.ก็ทำเช่นเดียวกัน ก็ผ่านฉลุยค่ะ ดิฉันทำแบบนี้มาสองครั้งแล้ว (ทุกครั้งที่ตั้งใจว่าจะอยู่เมืองไทยนานกว่าหนึ่งเดือน) ก็ไม่มีปัญหาอะไรกับทั้งตม.ไทยและตม.ที่ออสเตรเลีย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ขอยืนยันเรื่องตม.ของอเมริกานะคะ เพราะเคยมีเพื่อนสนิทเล่าให้ฟังว่าถูกเล่นแง่ตอนที่จะเข้าอเมริกา (เพื่อท่องเที่ยว) โดยที่เพื่อนคนนี้ถือพาสปอร์ตของอังกฤษและแคนาดา ตม.อเมริกันก็ถามคำถามกวนประสาทเล่นซะอย่างนั้นแหละว่าถ้าอังกฤษกับแคนาดารบกันเขาจะเข้าข้างฝ่ายไหน แถมยังพูดสั่งสอนเพื่อนของดิฉันคนนี้ด้วยว่าเขาไม่สมควรที่จะถือสองสัญชาติ ควรจะเลือกสัญชาติใดสัญชาติหนึ่งเพียงชาติเดียว ทั้งๆที่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอเมริกาสักนิดเล้ย (อังกฤษและแคนาดามีกฎหมายรับรองการถือสองสัญชาติอย่างชัดเจนทั้งคู่) แค่เอามาเล่าให้ฟังตามที่พบเห็นมานะคะ  ส่วนเรื่องประเทศอเมริกาจะยอมหรือไม่ยอมอย่างไรนั้น ดิฉันไม่ทราบจริงๆ ตอบข้อถามเรื่องสัญชาติไทยนั้น คุณ SugarCane เข้าใจถูกแล้วค่ะว่า ถ้าคุณไม่ยื่นเรื่องสละสัญชาติไทย คุณก็ยังเป็นคนไทยอยู่วันยังค่ำค่ะ จากคุณ : Northernlife - [ 11 มิ.ย. 48 04:27:15 ]

ความคิดเห็นที่ 21 กระทู้นี้สะดุดตาดิฉันมากเลยค่ะ เข้ามาแล้วไม่ผิดหวังจริงๆ เลย เพราะดิฉันก็อยากจะได้ความคิดเห็น เรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เพราะกำลังจะทำเรื่อง citizen เช่นกัน ได้ข้อมูลมีประโยชน์มากเลยค่ะ จะขอเล่าอะไรนิดนึงนะคะ  ญาติของดิฉันคนนึง อยู่แอลเอ แล้วใช้พาสปอร์ตของทั้งไทย และอเมริกัน ทุกครั้งที่เข้าเมืองไทย จะใช้พาสปอร์ตอเมริกันเข้า แต่มีหนนึงที่แถวของต่างชาติยาวมากๆ เลยย้ายแถวไปที่แถวคนไทย แล้วดึงพาสปอร์ตไทยออกมา ( แต่ครั้งล่าสุด ดิฉันกลับไป รู้สึกว่าจะไม่แยกแถวแล้วนะคะ แถวไหนว่างก็ต่อได้ ) เจ้าหน้าที่ไทยก็พูด บอกว่า ตะกี้ผมเห็นคุณมีพาสปอร์ตประเทศอื่นนะ  แล้วมาเข้าแถวนี้ได้ยังไง ญาติของดิฉันบอกว่า  ก็ผมคนไทยนี่  แต่มีพาสปอร์ตของประเทศอื่นด้วย   เจ้าหน้าที่คนนั้นก็ประทับตราให้ค่ะ ส่วนเพื่อนบ้านของดิฉันที่เมืองไทย  เค้าอยู่อเมริกากัน และทำงานจนรีไทร์ แล้วกลับเมืองไทย ไปรับเงินรีไทร์เม้นท์ที่นั่น  ลูกๆ ทุกคนมี 2 พาสปอร์ตหมดค่ะ  ทุกปี เค้ามีเหตุจะต้องมาอเมริกากัน ดิฉันก็เคยเดินไปถามเรื่องนี้ ได้ความมาว่า ตอนนี้ที่เมืองไทย คนที่กลับไปอยู่เมืองไทยกัน ส่วนใหญ่จะมีสองสัญชาติกัน จนเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วค่ะ เวลาจะออกนอกประเทศ ให้สายการบิน เช็คอิน ก็ให้สองพาสปอร์ตไป แต่ตอนถึงด่าน ตม. ไทย ที่จะประทับตรา ก็ให้ของไทย ( อันนี้ที่ดิฉันงงนะคะ ) พอมาถึง ด่าน ตม. อเมริกา ก็ยื่น พาสปอร์ตอเมริกันให้ เพราะ ตม. เค้าไม่แคร์อยู่แล้วว่า ยูจะมีกี่สัญชาติ  เค้าบอกมางี้นะคะ ดิฉันก็ไม่ค่อยจะเคลียร์เท่าไหร่ แต่ว่า ก็เห็นเพื่อนบ้านดิฉันเข้าออกประเทศกันเรือ่ยๆ นะคะ จากคุณ : พันธุ์หมวยบ้า - [ 11 มิ.ย. 48 08:03:48 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณ คุณ Northernlife แต่ยังขอยืนยันความคิดเห็นส่วนตัวเช่นเดิมว่า เราไม่ต้องยกเลิกสัญชาติเดิม เมื่อทำพิธีสาบานตนในการถือสัญชาติอเมริกัน ************************************************ http://www.newcitizen.us/dual.html DUAL CITIZENSHIP, THE NATURALIZED US CITIZEN, AND THE OATH OF ALLEGIANCE “I hereby declare, on oath, that I absolutely and entirely renounce and abjure all allegiance and fidelity to any foreign prince, potentate, state, or sovereignty of whom or which I have heretofore been a subject or citizen ” from the Oath of Allegiance The opening lines of the Oath of Allegiance are meant to give the United States exclusive sovereignty over the newly naturalized citizen. In other words, you are a citizen of one and only one country, the United States of America. The idea is that as soon as you take the Oath of Allegiance and become an American, you are giving up your citizenship of your native country. Naturalized citizens are not legally obligated to give up their citizenship of their native country. The United States has never ordered (as far as we know) any newly naturalized US citizens to present themselves to their native country’s embassy and formally renounce their original citizenship. In the past, the first part of the oath was never a problem because almost all countries took away a person’s citizenship as soon as they became a citizen of another country. Legally speaking, however, there is nothing in the Constitution and there are no past rulings from the United States Supreme Court preventing the United States (via the USCIS and the State Department) from requiring all naturalized citizens to officially renounce their original citizenship to their native country as a condition of naturalization. However it seems very unlikely that this would occur for a number of reasons: * Even in the aftermath of September 11th, there doesn’t seem to be much political support or even political will for implementing such an extreme policy. * Many foreign countries may resist implementation of any such policy. These countries could simply refuse to accept any renouncement of citizenship as a condition of US citizenship, which the US would be powerless to stop. * The rate of naturalization in this country would drop off dramatically and alienate many immigrants, creating divisiveness and polarization in a country that prides itself on being the “great melting pot.” * More practically speaking, besides the administrative cost of implementing such a policy, the US government is ever so slowly waking up to the fact that there are more benefits in terms of economic opportunities and US cultural expansion than risks in allowing dual citizenship. The important thing to remember about the Oath of Allegiance is not the renouncement of your original citizenship, which the US does not enforce and permits you to keep anyway. The important thing to remember is the allegiance and fidelity you swear to the United States of America. That’s the power in the Oath and that’s why you should display the Oath of Allegiance. It is a reminder of the promise you made to be faithful and true to the United States. The Oath is also demonstration to everyone else of your loyalty and the sworn commitment you made to place America first! ON BEING A DUAL CITIZEN As mentioned previously, the United States government does allow dual citizenship. They don’t approve of dual citizenship—they simply tolerate it. You need to understand this distinction so you won’t have problems with the US government at the border or abroad at one of their embassies or consulates. จากคุณ : DISCOVER - [ 11 มิ.ย. 48 08:12:12 A:24.20.212.132 X: TicketID:079249 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ DISCOVER คะ ข้อความที่น้องหนม Northernlife ยกมาชื้ให้เห็นมันชัดยิ่งกว่าชัดอีกนะคะว่าหมายความว่าอย่างไร "I absolutely and entirely renounce and abjure all allegiance and fidelity to any foreign prince, potentate, state, or sovereignty, of whom or which I have heretofore been a subject or citizen;" หาอะไรชัดยิ่งกว่านั้นไม่มีเเล้วค่ะ อยากบอกคุณเจ้าของกระทู้นิดว่าถ้าคุณสามารถขออยู่เมืองไทยเกินเดือนนึงได้โดยใช้พาสปอร์ตอเมริกันอย่างเดียว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วนี่คะ ใช้พาสปอร์ตเดียวไปเลยจะปลอดภัยกว่านะคะ ไม่น่าจะไปเสี่ยงกับเจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่นโดยไม่จำเป็นเลยค่ะ ถ้าเขาดี มองข้ามสองพาสปอร์ตไปก็ดีไป เเต่ถ้าเขาเกิดสงสัยขึ้นมา คุณจะเดือดร้อนโดยไม่จำเป็นนะคะ กฎหมายที่มีให้ปฎิบัติกับ natural born citizen กับ naturalized citizen นี่ต่างกันนะคะ ถึงได้มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับสถานภาพของ naturalized citizen กันอยู่เรื่อยๆไงคะ ง่ายๆ คนที่ได้ซิติเซ็นโดยการโอนสัญชาติ มีสิทธิถูก revoke citizenship ได้ถ้าทำความผิดรุนแรงทางกฎหมาย ในขณะที่คนที่เป็นประชากรอเมริกันโดยกำเนิด ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ไม่มีใครยกเลิกสัญชาติอเมริกันของเขาได้ หรือคนที่โอนสัญชาติเป็นอเมริกันไม่มีสิทธิเข้าชิงตำเเหน่งประธานาธิบดี ทำนองนั้นน่ะค่ะ เเสดงว่าเขายัง treat คนที่เป็นอเมริกันจากการโอนสัญชาติไม่เท่าเทียมกับคนที่เป็นอเมริกันโดยกำเนิด เพราะฉะนั้นการที่ลูกของคุณ ซึ่งยังเล็กอยู่ด้วย ถือสองพาสปอร์ตเเล้วเจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่นไม่ทักท้วง นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าถ้าคุณจะทำอย่างเดียวกันเเล้วเขาจะไม่ทักท้วงเหมือนกันหรอกนะคะ ยิ่งทุกวันนี้ จากปัญหาการก่อการร้าย หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองยิ่งเข้มงวดขึ้นมาก อย่าเสี่ยงโดยไม่จำเป็นเลยดีกว่าค่ะ มันไม่คุ้มกันหรอกค่ะ ใช้พาสปอร์ตอเมริกันอย่างเดียว ปลอดภัยที่สุดค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 11 มิ.ย. 48 08:27:14 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขั้นตอนการขอ citizen นั้นไม่ยากหรอกค่ะ ไม่ทราบว่าทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างหรือเปล่านะคะ เพราะขอมาสิบปีเเล้วค่ะ ตอนนี้หน่วยงานอิมมิเกรชั่นไปขึ้นกับ Homeland Security Dept. เเล้ว เมื่อก่อนขึ้นกับ State Dept. สมัยก่อนการขอก็ต้องส่งจดหมายขอเเบบฟอร์มไป สมัยนี้คงดาวน์โหลดฟอร์มได้จากเวปไซท์ของอิมมิเกรชั่นได้เเล้วมั้งคะ ส่งฟอร์ม ส่งเงินไป เเล้วก็คอยให้เขาส่งจดหมายนัดมาให้ไปพิมพ์รายนิ้วมือ พิมพ์เสร็จก็กลับมาคอยอีก คอยให้เขาเรียกไปสอบค่ะ สอบผ่านก็ไปสาบานตัว ระยะเวลาคงเเล้วเเต่รัฐมั้งคะ รัฐที่อยู่นี่เป็นรัฐเเบบไกลปืนเที่ยง สมัยก่อนหน่วยงานของอิมมิเกรชั่นที่นี่ก็ไม่มี จะทำอะไรทีก็ต้องไปที่รัฐข้างเคียง ตอนนั้นขอสัญชาติก็เลยใช้เวลานานหน่อยค่ะ ก็เป็นปีเเหละค่ะ บางคนที่อยู่รัฐที่สิวิไลย์หน่อย 5-6 เดือนก็เสร็จเเล้วค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 11 มิ.ย. 48 08:42:13 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เเอนคะ กรณีคนไทยที่ถือสัญชาติอเมริกันเเล้วย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย ก็คงเป็นลักษณะเหมือนพวก expat มั้งคะ เวลามาอเมริกาก็ใช้พาสปอร์ตอเมริกัน พี่มีป้าคนนึง ท่านอยู่ทำงานที่อเมริกาเกือบสี่สิบปี ตอนนี้กลับไปกินเงิน social ที่เมืองไทยเเบบถาวรเเล้วค่ะ นานๆเเกกลับมาอเมริกาที เวลาเข้าอเมริกาก็ใช้พาสปอร์ตอเมริกันนี่เเหละค่ะ เข้าประเทศ อ้อ... อีกอย่างค่ะคุณเบนโตคะ คุณไม่เสียสัญชาติไทยหรอกค่ะถ้าคุณโอนสัญชาติเป็นอเมริกันเเล้ว เพราะตามกฎหมายไทย จะเสียสัญชาติไทยก็ต่อเมื่อคุณทำเรื่องขอยกเลิกสัญชาติไทยน่ะค่ะ ถ้าคุณเฉยๆเสียอย่างที่ดิฉันทำ คุณก็ยังคงสัญชาติไทยเอาไว้ได้ค่ะ อยากบอกว่าหน้าเลือกตั้ง บางครั้งดิฉันก็กลับไปเลือกตั้งที่เมืองไทยด้วยนะคะ ลงทะเบียนขอมีสิทธิเลือกตั้งเมืองไทยไว้ที่นี่หลายปีเเล้วด้วยค่ะ เลือกตั้งใหญ่ของไทยครั้งที่ผ่านมา กงศุลไทยที่เเอลเอก็ส่งเอกสารมาให้ดิฉันลงคะเเนนเสียงด้วยนะคะ ทั้งๆที่เจ้าหน้าที่ที่นั่นรู้ว่าดิฉันถือสัญชาติอเมริกันเเล้วด้วยค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 11 มิ.ย. 48 08:47:22 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ดิฉันจะปรึกษากับสามีดูแล้วกลับไปมืองไทยเที่ยวนี้จะไปขอความกระจ่างจากผู้รู้จริงเกี่ยวกับกฎหมายไทย เพราะไม่อยากเสี่ยงกับเรื่องทรัพท์สินและมรดกที่เมืองไทย ดิฉันกับสามีก็กะว่าจะย้ายไปอยู่เมืองไทยภายใน 10 ปีนี้แต่ก็จะไปไปมามาทุกปีเพราะครอบครัวของสามีก็อยู่ทางนี้ คุณตาคุณยายของสามีก็อายุ 80กว่ากันแล้ว แต่ด้วยความที่สามีชอบทางเอเซียมากแล้วคุณแม่ดิฉันก็อยากให้ไปปักหลักกันที่เมืองไทย ก็เลยตัดสินใจกันว่าจะไปอยู่เมืองไทยกัน ใจจริงแล้วก็อยากจะขอเพราะเรื่องการเดินทางไปประเทศอื่นๆอย่างเดียวเท่านั้น คือจะได้แพ็คกระเป๋าไปกันเลยไม่ต้องคิดมาก เพราะสามีจะเดินทางบ่อย เรากับลูกก็ตามกันไปได้เพราะลูกก็ชอบเดินทาง แล้วก็ยังเล็กกันอยู่ หนะค่ะ ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลแค่นี้ดิฉันควรจะทำไม๊ค๊ะ คุ้มค่ารึเปล่า ขอคามคิดเห็นด้วยค่ะ จากคุณ : Bento - [ 11 มิ.ย. 48 09:28:14 A:68.61.239.184 X: TicketID:000069 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มาช่้วยเพิ่มค่ะ จากประสบการณ์สองพาสปอร์ต ออกจากยุโรป ยื่นพาสปอร์ตยุโรป เข้าถึงไทย ยื่นพาสปอร์ตไทย (หากมีสองเล่มเจ้าหน้าที่ถามด้วยซ้ำว่าครั้งก่อนใช่เล่นไหนออกไป เข้าไทยก็ใช้เล่มไทยสิ ก็เลยยังไม่เคยลองเข้าด้วยพาสปอรตของยุโรป พอตอนเช็กอิน เรายื่นพาสปอร์ตไทยกับจนท สายการบิน หากเขาต้องการเช็กวีซ่า ก็ยื่นพาสปอร์ตยุโรปให้ พอตอนออกจากตมไทย ก็ยื่นพาสปอร์ตไทย ยังไม่เคยมีปัญหาใดๆค่ะ เพียงแต่ว่า (อย่างที่พี่กุลธิดาบอก) บนเล่มพาสปอรตยุโรปเราไม่มีร่องรอยการเข้าไปในประเทศใดๆเลย เพราะว่า เวลาเข้าออกยุโรป ไม่มีการประทับตราอยู่แล้ว ประเทศที่อยู่ไม่ได้บังคับให้ผู้ขอสัญชาติต้องสละสัญชาติค่ะ และสัญชาติไทย หากเราไม่ได้ทำเรื่องสละสัญชาติ เราก็ยังคือถือสัญชาติไทยอยู่ ยกอีกตัวอย่าง อย่างคนจีนไปขอสัญชาติประเทศไหน เขาต้องสละสัญชาิติจีน ทุกคนค่ะ เพราะกฎหมายจีนเขาว่าอย่างนั้น (อาจไม่เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้) ---------------- ต่อมาเป็นข้อสงสัยที่ยังไ่ม่ได้รับคำตอบค่ะ ขอรบกวนถามตอบเผื่อมีผู้รู้ช่วยไขปัญหา หากต้องกลับไปอยู่เมืองไทยเนี่ย จะต้องกลับไปด้วยพาสปอร์ตไหนจึงจะเหมาะสมคะ ตามหลักก็น่าจะใช้พาสปอร์ตไทยใช่ไหมคะ เพราะว่าเราเป็นคนไทย แต่ในขณะเดียวกัน เราถือพาสปอร์ตยุโรป ถ้าไม่ได้เข้ามาด้วยพาสปอร์ตยุโรเปียน ไม่มีวีซ่า ไม่มีการลงทะเบียนกับกงศุลของประเทศเจ้าของพาสปอร์ตเรา เราก็ไม่มีสิทธิต่ออายุพาสปอร์ตยุโรปเปียน ซึ่งพาสปอร์ตยูโรเปียนมีอายุ10ปีนับจากวันออก(ถ้าไม่มีลูกอยู่ในพาสปอร์ตเล่มเดียวกัน) งงไหมคะ ใครมีประสบการณ์ฺมาแชร์กันเป็นความรู้นะคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : BFR - [ 11 มิ.ย. 48 10:04:55 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คุณBentoคะ ดิฉันก็มีที่ดินอยู่ที่เมืองไทยค่ะ นอกจากที่ดินเเล้วก็ยังมีบ้านอยู่ที่เมืองไทยด้วย ถึงได้ยังคงยึดสัญชาติไทยไว้อย่างเหนียวเเน่นไม่ยอมปล่อยนี่เเหละค่ะ ถ้าคุณ Bento ขอสัญชาติอเมริกันเพื่อจะได้เดินทางไปประเทศอื่นได้สะดวก นั่นก็น่าคิดเหมือนกันนะคะ เพราะนอกจากเรื่องนั้นเเล้ว การขอสัญชาติกับการถือกรีนคาร์ดก็ไม่ค่อยจะต่างอะไรกันเท่าไหร่เลย เมื่อเทียบกรณีนั้นกับการคิดจะไปอยู่เมืองไทยถาวร ตัดสินใจยากเหมือนกันนะคะเนี่ย จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 11 มิ.ย. 48 11:37:05 ]

ความคิดเห็นที่ 29 กระทู้นี้มีประโยชน์ช่วยตอบให้ดังนี้นะคะ มาตอบตามประสบการณ์มีสองพาสปอร์ตเช่นกัน เห็นด้วยกับพี่ไก่ กุลธิดามากๆ คือ เจอมากับตัวแล้ว ปกติ ไทยจะไม่แคร์ว่าคุณจะถือพาสต์ปอร์ตอะไรตราบใดที่คุณยังพูดไทยและมีพาสต์ปอร์ตไทย เพราะถือว่าคุณคือคนไทย คุณมีศักดิ์และสิทธิ์ให้การที่จะเข้าประเทศไทยและดำเนินธุรกรรมภายใต้กฎหมายไทยได้ทุกประการ เรื่องที่สอง หากคุณอยู่เมืองไทยเกิน 30 วัน และคุณยังมีความตั้งใจที่จะใช้พาสปอร์ตไทยเข้าไทย และใช้พาสปอร์ตอเมริกันเข้าอเมริกาแล้วล่ะก็ คุณเตรียมตัวไว้เลยสำหรับในการตอบคำถามเมื่อคุณเข้าอเมริกาอีกครั้ง ((เพราะตอนที่คุณสาบานตัวเป็นอเมริกันชน คุณสาบานไว้แล้วว่าคุณจะกีฟอัพสัญชาติเดิม )) ตัวเองนี่เจอเจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่นที่นิวยอร์คเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ถามเลยว่า ทำไมไม่กีฟอัพสัญชาติเิดิม แล้วทำไมไม่ใช้พาสปอร์ตอเมริกันเข้าไทย แล้วก็หลายคำถามตามมา โชคดีของตัวเองตอนนั้นเนื่องจากมีญาติของสามีทำงานอิมมิเกรชั่นที่นั่นเลยคุยกันได้ แก้เีกี้ยวไปว่าเข้าใจผิด นึกว่าถือ การถือสองสัญชาติได้ อันนี้เล่าจากประสบการณ์ที่เจอมา แนะำนำว่า ควรทำตามที่พี่ไก่ กุลธิดาแนะนำดีกว่า เพราะว่าตัวเองเคยถามแม้กระทั่งกงศุลไทยที่บอสตัน เค้าก็ไม่สามารถตอบคำถามให้กระจ่างได้เรื่องการถือสองสัญชาติ เค้าก็ตอบเหมือนที่ได้กล่าวให้ฟังแล้วในประเด็นแรก จากคุณ : บอสตัน - [ 11 มิ.ย. 48 19:23:07 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คิดเหมือนพี่ไก่ค่ะ แล้วก็ได้ยินมาเร็วๆนี้ด้วยว่ามีคนมีปัญหาเหมือนๆคุณบอสตัน โทรมากงศุล เพื่อนที่ทำงานที่นั่นเลยเตือนว่าอย่าเชียว ไม่มีปัญหาก็รอดตัวไป ถ้าเจอเจ้าหน้าที่เข้มๆล่ะคุณจะทำไง ดิฉันก็มีสองพาสปอร์ท แต่ถ้าเดินทางเข้าออกอเมริกาก็ใช้ของ อเมริกา จะอยู่ไทยนานๆ ก็คิดจะขอวีซ่า ไม่เห็นจะยากเลย ทำแล้วสบายใจดี จากคุณ : ปรารถนา - [ 11 มิ.ย. 48 20:16:03 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มีใครรู้จักคนที่ถือสองสัญชาติแล้วกลับมาปักหลักเมืองไทยกับคู่สมรสคนต่างชาติไหมคะ อยากทราบจังว่าต้องทำกันอย่างไรเพื่อให้สามารถถือ และต่ออายุพาสปอร์ตต่างชาติของตัวเองได้(อยากศึกษาไว้ค่ะ คิดว่าเป็นกรณีที่น่าสนใจสำหรับอีกหลายๆคน) มีเพื่อนคนหนึ่งถือสองพาสปอร์ต ไทยและยุโรเปียน เวลาเข้าออกไทยหรือที่ไหนก็ใช้พาสปอร์ตยุโรเปียนตลอด โดยเขาให้เหตุผลว่า หากเกิดอะไรขึ้นมาเช่นไปเที่ยวแล้วเกิดอุบัติเหตุ และต้องการเคลมประกัน แล้วหากเราไม่สามารถหาหลักฐานได้ว่าเราเข้าออก เมืองไทยวันไหนเดือนไหน จะลำบาก เพราะถ้าเราเข้าไทยด้วยพาสปอร์ตไทย บนเล่มพาสปอร์ตยุโรเปียนจะไม่มีหลักฐานเลยว่าเราได้ออกจากประเทศไปไหน อีกอย่าง อยากให้สังเกตนะคะ การจับคู่ตราประทับเข้า-ออก ของคนถือพาสปอร์ตไทย กัีบคนถือพาสปอร์ตต่างชาติที่เดินมาพร้อมๆกันมันไม่เหมือนกัน ยิ่งดูแล้วก็ยิ่งงง มีใครเคยสังเกตไหมคะ มีตัวอย่างมาให้จับผิดกันด้วย -ฝั่งซ้ายเป็นพาสปอร์ตยุโรเปียนของลูก (ซึ่งเดินทางเข้าออกไทยพร้อมกันตลอด) -ฝั่งขวาเป็นพาสปอร์ตไทยของตัวเอง (ซึ่งใช้เข้าออกไทยทุกครั้ง) (ส่วนพาสปอร์ตยุโรเปียนของตัวเองโล่งโจ้งไม่มีหลักฐานการเข้าเมืองไทยเลย -วงกลมสีเหลืองๆ คือการจับคู่กันของ ตราประทับเข้าออก ส่วนสีข้างใน พยายามเทียบกันระหว่างพาสยุโรเปียนกับพาสไทย ไม่มีคู่ไหนเหมือนกันเลย ในพาสปอร์ตไทย นับการเดินทางออกเป็นลำดับแรก นับการกลับเข้ามาเป็นอันดับสอง ตรงกันข้ามกับพาสปอร์ตของต่างชาติ ตราประทับวันเข้าออกที่จับคู่กัน ของเรากับของลูกไม่เคยตรงกันเลย งงไหมคะ จากคุณ : BFR - [ 11 มิ.ย. 48 22:30:10 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สรุปว่า ผู้ที่ตีความหมายของคำสาบาน (The Oath of Allegiance) ว่าจะต้องยกเลิกสัญชาติเดิม นั้น รู้อยู่แก่ใจ แต่ยังกล้าเข้าพิธีสาบานตน โดยมิได้มีเจตจำนงที่จะปฏิบัติตามคำปฏิญาณตนแม้แต่น้อย การผิดคำสัตย์สาบานเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วหรือ You swore an oath when you had no intentions of honoring its terms. In my opinion, you perjured yourself, morally, if not actually legally. You escaped legal consequences because the oath is ambiguous, and in addition, the US does not enforce the tenets of the oath. You did not escape the moral culpability of your deception since that inures to your conscience and accrues. จากคุณ : DISCOVER - [ 12 มิ.ย. 48 01:00:26 A:24.20.212.132 X: TicketID:079249 ]

ความคิดเห็นที่ 33 Khun DISCOVER ka, if you want to split hair, here's my answer. Since Thai laws do not require a Thai citizen to give up his/her citizenship after becoming a citizen of another country, my rights as a Thai citizen remains intact. To give up your Thai citizenship, according to Thai laws, you have to file an official declaration of intent. You have to ask for permission to relinguish your citizenship. In that case, my status as a Thai citizen remains since I have never filed a paper of intent to give it up. My main point to Khun Bento is this; do not mess with the U.S. immigration if it's not absolutely neccessary. It's not worth it ka. จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 12 มิ.ย. 48 03:44:21 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เราคิดว่าทางอเมริกาก็ไม่เห็นจะซีเรียสเท่าไร ไม่งั้นก็คงขอใบพิสูจน์ว่าคุณคืนสัญชาติเดิมจริงๆด้วยดิ อีกอย่างเขาเป็นคนออกกฎมาบังคับให้ผู้ที่อยากได้สัญชาติเขาสาบาน ...คุณคิดต่อก็เองก็แล้วกัน จากคุณ : ปรารถนา - [ 12 มิ.ย. 48 03:53:09 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เห็นเพื่อนชาวศรีลังกาแต่เขาได้รับสัญชาติแคนาเดียนแต่มีสองพลาสปอร์ต เขาบอกว่า Immigration ที่ศรีลังกาชอบเล่นแง่ อยากจะเอาเงินอย่างเดี่ยว เขาทำบัตร PR ปลอมเพื่อใช้ตอนขาออกจากศรีลังกา ดิฉันยังตกใจอยู่เลยว่าถ้าเขาจับได้ขึ้นมา ต้องโดนเข้าคุกแน่เลย ทุกวันนี้ดิฉันก็ใช้พลาสปอร์ตของแคนาดาเข้าออกประเทศไทยอยู่ ถ้าอยู่มากกว่าหนึ่งเดือนก็ทำวีซ่าไปเลย เพื่อความพร้อม กลัวถ้าใช้พลาสต์ไทยตอนเข้าไทย แต่ตอนออกต้องโชว์บัตรแสดงสถานะที่อยู่ต่างประเทศ อย่างที่คุณ กุลธิดา บอกว่านะค่ะว่า ถ้าเจอเจ้าหน้าที่ดีก็ดีไป แต่ถ้าเจอคนไม่ดีก็เสียเวลาอีก จากคุณ : Sunshine Coast - [ 12 มิ.ย. 48 09:23:41 A:199.243.30.75 X: TicketID:059893 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คุณเจ้าของกระทู้ค๊ะ ดิฉันเองก็มีความคิดเห็นคล้ายๆกับคุณและเคยได้อ่านบทความที่มีประโยชน์เกี่ยวกับเรื่องนี้ หากสนใจทิ้งอีเมล์ไวได้เลยค่ะ จากคุณ : Californian - [ 14 มิ.ย. 48 02:52:59 A:66.52.54.70 X:64.136.26.14, 64.136.26.225 TicketID:045595 ]

ความคิดเห็นที่ 37 My husband just became an US Citizen just this past Thursday.  He asked the INS officer at the ceremony, what the Oat really means...does it means he has to give up his Thai citizenship.  The judge said no...it only means that if USA at war with Thailand, my husband will have to bear arms for USA.   USA allow dual citizenships.  USA never asks you to give up your roots. I am a US citizen for almost 10 years and went back to Thailand 5 times with both US and Thai passports for all 5 times.  When I get in and out at the Port of Entry in Thailand I shown them Thai passport.  When I come back to USA I show them US passport.  They never care to look for the stamps in and out in my passports.  Usually, then just waive me in and said welcome back. จากคุณ : me_here - [ 16 มิ.ย. 48 13:03:08 ]

ความคิดเห็นที่ 38 My mom became an US citizen last 40 years ago. Every time she travels between Thailand and the US, she did just like khun me_here. When she gets in and out at the port of entry in Thailand, she presents her Thai passport. When she go out or come back to the US, she presents her US passport. She never has any problems with the immigration. She still can buy a land and apply a job in Thailand after she moved back to Bangkok since last 30 years ago. For me, I expect to get a greencard (applied through my mom) next year. I also think about applying for the US citizen with the same reason as khun Bento. However, I heard that I have to wait for 5 years after receiving a greencard in order to apply for the US citizenship. Not sure this info is right or wrong. จากคุณ : Chicago Girl - [ 17 มิ.ย. 48 21:38:39 A:134.124.48.44 X: TicketID:064226 ]

ความคิดเห็นที่ 39 รบกวนคุณ me_here เช็คหลังไมค์ด้วยค่ะ ดิฉันมีคําถามสงสัยค่ะ จากคุณ : วิสกี้โซดา - [ 18 มิ.ย. 48 07:18:56 ]