ความคิดเห็นที่ 1 A$5,000 ถึง A$10,000 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 48 00:02:04 จากคุณ : Folio - [ 14 มิ.ย. 48 00:01:41 ]

ความคิดเห็นที่ 2 A$10,000 ถึง A$25,000 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 48 00:03:16 จากคุณ : Folio - [ 14 มิ.ย. 48 00:02:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 .. แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 48 00:04:30 จากคุณ : Folio - [ 14 มิ.ย. 48 00:04:00 ]

ความคิดเห็นที่ 4 A$25,000 ถึง A$50,000 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 48 00:05:16 จากคุณ : Folio - [ 14 มิ.ย. 48 00:04:51 ]

ความคิดเห็นที่ 5 A$50,000 ถึง A$100,000 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 48 00:06:09 จากคุณ : Folio - [ 14 มิ.ย. 48 00:05:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ส่วนเงินต้นมากกว่าแสนเหรียญเราสามารถต่อรองกับธนาคารได้ครับ ประโยชน์จากการฝากเงินแบบนี้ ผมมองได้ดังนี้ 1. แน่นอนครับ ได้ดอกเบี้ยมาช่วยค่าใช้จ่าย ค่าเรียน ค่าบ้าน 2. เรียนรู้โลกการลงทุนระหว่างประเทศ 3. ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากเราถือเงินออสไว้    เงินออสยิ่งแข็งค่าเทียบกับเงินบาท เรายิ่งได้กำไรเวลาโอนกลับไปเมืองไทย 4. ฝึกการบริหารเงิน เนื่องจากต้องคอยคำนวณว่า จะนำเงินมาใช้เท่าไร แบ่งไปฝากประจำเท่าไร 5. ความเสี่ยงต่ำมาก (ยกเว้นแบงค์เจ๊ง) เทียบเท่าการฝากเงินในธนาคารที่เมืองไทย ขอให้มีความสุขในการลงทุนครับ แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 48 00:12:22 จากคุณ : Folio - [ 14 มิ.ย. 48 00:10:09 ]

ความคิดเห็นที่ 7 I do not have much money to make any different for interest.. About 13 years ago I know a person from Iran deposit 8 million dollars in one US bank.. (one account).. the bank has an FDIC insured for 100,000 dollars per account. After about 3 and a half years.. he had only about 30,000 left... The bank hold no responsibility.. He can claim on 100,000 dollars only.. I learned later that he died just about a year later. . Another instance, a stamp collector from NY saw the interest rate in Mexico was very high comapring to the USA. He moved his money to Mexico.. just to find out that it was a big mistake.. can not cope with inflation rate. . Million things to consider if you move your money to Australia. Well, the rich knows better.. . Lots of Luck. จากคุณ : Isvasu - [ 14 มิ.ย. 48 05:48:59 A:68.49.117.13 X: TicketID:084617 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมไม่ค่อยชอบลงทุนที่ไม่ลงแรงเท่าไหร่ จริงๆ คือไม่มีตังนั่นเอง แต่สงสัยว่า ทำไมตัวเลขมันดูแปลกๆ ทำไมฝากแบบ ห้าเดือนถึงได้ดอกเบี้ยมากที่สุด อธิบายหน่อยได้มั๊ยคับ จากคุณ : g9h - [ 14 มิ.ย. 48 08:57:04 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมก็สงสัยเหมือนกัน แต่ขอเดาว่า ธนาคารจะ match ช่วงเวลาให้เข้ากับ ความต้องการเงินของเค้า เนื่องจากเค้าเอาเงินฝากเราไปปล่อยกู้ต่อ หรือไม่ก็นำไปลงทุน ดังเช่น แบงค์พาณิชย์ทั่วไป ด้านความเสี่ยง ยอมรับว่ามีครับ ทั้งในเรื่องความมั่นคงของธนาคาร และอัตราแลกเปลี่ยน แต่ผมอยู่ระยะสั้น ดูแลได้ ถ้าอยู่ยาวสิบ ๆ ปี คงต้องหาช่องทางอื่นประกอบกันไป เคยมีคนบอกผมว่า ความมั่งคั่ง =  หยาดเหงื่อ x สติปัญญา ต้องสมดุลย์กันครับ ขาดอย่างใดไปไม่ได้ ผู้ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ (ไม่ใช่ผมล่ะ) ทำงานด้วยความมุ่งมั่น และใช้สติปัญญาแก้ปัญหา รวมถึงหาทางต่อเติมความมั่งคังครับ จากคุณ : Folio - [ 14 มิ.ย. 48 11:59:18 ]

ความคิดเห็นที่ 10 1000$ ยังมีไม่ถึงเลยอะ จากคุณ : NESTON - [ 14 มิ.ย. 48 16:59:34 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คุณ Isvasu มาห้องนี้ด้วยหรอครับ จากคุณ : <---TUk---> - [ 14 มิ.ย. 48 18:07:25 ]

ความคิดเห็นที่ 12 นำเสนอได้เยี่ยมเลยครับ Folio ปล. ต้นเดือนหน้าผมจะแว๊บไป Perth อีกแล้ว ปีนี้จะได้เจอกันไหมเนี่ย ^^ จากคุณ : Okey Dokey - [ 14 มิ.ย. 48 21:13:42 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้ามาเดือนหน้าได้เจอกันแน่ครับ หวังว่าจะได้เจอกัน (ซะที) จากคุณ : Folio - [ 14 มิ.ย. 48 22:04:34 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมว่าสาเหตุที่เค้าตั้งดอกเบี้ยสำหรับ Term Deposit ไว้สูงที่ระยะเวลาสั้น เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงหากเกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอย่างกระทันหัน ผิดไปจากที่คาดการไว้ จะได้ไม่ต้องยอมจ่ายดอกสูงในระยะเวลานานเกินไป ในขณะที่ธนาคารยังคงต้องการเงินสดไปทำธุรกิจต่อไป สังเกตุจากอัตราดอกเบี้ยย้อนไปในช่วงปี 03-05 (ช่วงที่ผมฝากอ่ะ) ช่วงแรกๆ เค้าจะให้เวลาฝากค่อนข้างนาน ตอนนั้นผมเอาเข้าไปร่วม 9 เดือนได้ ดอกที่ 5.25 แต่อัตราใหม่ หลังจากนั้น อาจขึ้นไปถึง 5.5 แต่ลดระยะเวลาเหลือเพียงแค่ไม่เกินประมาณ 5 เดือน หมายความว่าคุณจะได้ดอกมากขึ้น แต่ก็ได้ในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น ไม่สามารถนอนกระดิกเท้ากินดอกได้ยาวเป็นปีๆ หน่ะคับ จากคุณ : กลด - [ 14 มิ.ย. 48 22:36:25 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ไปด้วยยยยยยยยยยยยย พี่โอโด ขอน้องไปด้วยๆๆๆ อิอิ คุณ Folio กลับเมืองไทยอีกทีเมือ่ไหร่อ่ะ อย่าลืมของฝากอีกนะ เอาอีก เอาอีก อิอิ ตากลด วิชาการเกินไปเปล่าเนี่ย ฉานเครียด... จากคุณ : emily ka - [ 14 มิ.ย. 48 23:55:14 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แหม ตอนนี้ก็มีอยู่หลายพันแหละนะครับ แต่อีกไม่กี่วัน จะเหลือ 0 เลย เพราะจ่ายค่าเทอมหมด แง้ ตั้งแต่มาอยู่ออสเตรเลียไม่เคยจนขนาดนี้มาก่อนเลย เวลาที่บ้านถามมีตั้งใช้ป่าว ก็บอก โฮ้ย สบายมาก มั่งคั่ง กินดีมีสุข เหอๆๆๆๆ จากคุณ : ดอส - [ 15 มิ.ย. 48 07:28:31 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมยอมรับว่าดอกเบี้ยที่ australia สูงกว่าเมืองไทย แต่ถ้าทุกคนทำแบบนี้กันหมด เอาเงินจากไทยมาฝากที่australia กันหมด คราวนี้เงินจากออกนอกประเทศกันหมด แล้วจะทำให้ค่าเงินเราอ่อนลง นี้คือแผนการที่แบงค์เค้าเสนอมา เพื่อให้เงินเข้าประเทศเขาเอง ผมคุยกับคน homestay มานะ เค้าบอกมา จากคุณ : k9999th (k9999th) - [ 15 มิ.ย. 48 16:33:01 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วยเลยครับ  เมื่อเงินเราอ่อนลงถึงค่านึง รัฐบาลก็จะเข้ามาแทรกแทรง ทำให้ส่วนต่างนั้นลดลง โดยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในประเทศ หรือพยุง อัตราแลกเปลี่ยน ในระยะยาว (ไม่รู้ว่ายาวนานแค่ไหน) นักการเงินเชื่อว่าอัตราแลกเปลี่ยนและ อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกจะอยู่ในจุดสมดุลย์ (equilibrium) แต่เป็นไปได้ยากครับ ้เหมือนคลื่นในทะเล มียอดคลื่น มีท้องคลื่นสลับกันไป ไอ้ส่วนต่างนี่แหละครับ ทำให้คนรวยมหาศาล ไม่ก็ขาดทุนย่อยยับ มานักต่อนัก ความจริงการมีเงินฝากไหลเข้ามาก ๆ โดยไม่สามารถนำไปให้กู้ หรือลงทุนต่อไปได้ ก็มีข้อเสีย คือธนาคารต้องแบบรับภาระดอกเบี้ยจ่าย ดังเช่นที่ธนาคารในประเทศไทย กำลังประสบอยู่ จนรัฐบาลต้องออกพันธบัตรหลายครั้ง เพื่อดูดซับสภาพคล่องส่วนนี้ออกไป คุยไปคุยมา เหมือนผมตามมาแก้ทุกความเห็น แต่ความจริงมีเจตนาเพียงเพื่อชี้ช่องทางเลือก ในการลงทุนอีกทางหนึ่ง เท่านั้นครับผม... แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 48 22:28:58 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 48 22:27:25 จากคุณ : Folio - [ 15 มิ.ย. 48 22:23:16 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ดอกเบี้ยบ้านเราจะอยู่ในขาขึ้นแล้ว แต่อย่าหวังว่าจะขึ้นไปถึงเลยสองหลักเหมือนสมัยวิกฤตเศรษฐกิจได้ครับ แต่คงกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากเงินในระบบถูกดูดเข้าระบบไปเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าโครงการเมกะโปรเจคผ่าน ก็น่าจะมีเงินไหลกลับเข้าระบบพอสมควร จริงๆ แล้ว ถ้ามาเรียนที่ออสเตเรีย และไม่อยากปวดหัวกับอัตราแลกเปลี่ยน ให้โอนเงินค่าเทอมทั้งหมดมาเลยครับ คราวนี้พอธนาคารเห็นเงินในบัญชีเราเยอะ เค้าจะติดต่อเรามา เราก็ลองคุยดูครับ บางทีอาจได้อัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ก็ได้ พอครบกำหนด เราต้องจ่ายค่าเทอมก็ไปถอนออกมา ตอนผมเรียนอยู่ บางทีอยู่ว่างๆ เดินเข้าไปคุยเลยครับ บอกว่าเรามีเงินแสนเหรียญต้องการมาฝาก พนักงานจะรีบต้อนรับเลย (จริงๆ ไม่มีเงินหรอก แกล้งเข้าไปคุยดูว่า เค้าจะเสนออะไร ฝึกภาษาไปในตัว รู้เรื่องมั้งไม่รู้มั้ง ดีกว่าอยู่เปล่าๆ) ผมรู้มานานแล้วว่าอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า แต่มีข้อระวังหลายอย่างครับ ถ้าต้องการย้ายเงินลงทุนระหว่างประเทศ ยังไงขอให้คิดให้รอบคอบครับ โชคดีกับการลงทุนทุกประเภท จากคุณ : boyd23 - [ 17 มิ.ย. 48 09:00:27 ]