หลังจากที่นั่งลุ้นนานกว่าสองอาทิตย์ คุณฝรั่งเดนนิชที่ดิฉันไปพบเพื่อสัมภาษณ์งานก็ติดต่อมาทางเมล์ ให้ดิฉันโทรกลับไปที่เดนมาร์ก เพราะเธอมีข้อเสนอใหม่มาให้ดิฉัน
การสัมภาษณ์งานครั้งแรกเป็นการพูดคุยที่เขย่าประสาทพอสมควร เพราะเราต่อรองกันเรื่องผลประโยชน์ (ดิฉันก็รักษาผลประโยชน์ของตัวเอง คุณเดนนิชก็รักษาผลประโยชน์ของบริษัืท) เสร็จจากสัมภาษณ์งาน และมาโพสท์ขอความคิดเห็นคุณ ๆ แม่บ้าน ดิฉันก็หมดแรง นอนพังพาบไปสองวัน
พอดิฉันอ่านเมล์ของคุณเดนนิชจบ ก็เกิดอาการสติแตก เพราะนึกว่าต้องมานั่งเจรจาธุรกิจกับแกอีก (คุณเดนนิชแกเป็น Group Purchasing Director ค่ะ วิธีการต่อรองของแกเหนือชั้นจริง ๆ ) ตั้งนะโมเสร็จสามจบ เป็นไงก็เป็นกัน เขียนเมล์ตอบกลับไปว่า ดิฉันจะโทรไปหาตามเวลาที่กำหนด
หลังจากที่นอนหลับไม่เต็มตื่นมาหนึ่งคืน เพราะมัวแต่คิดกลยุทธตอบโต้แก เช้าวันรุ่งขึ้น ดิฉันก็เดินตากลวงไปทำงาน ก่อนเวลานัดก็ควักเอาโพยขึ้นมาดูว่า จะรบในกระบวนท่าไหนดี พอได้เวลาก็แอบโทรศัพท์ไปเดนมาร์ก
คุณเดนนิชเธอพูดสวิดิชสำเนียงเดนนิช ฟังแล้วมึนพอสมควร (ตอนสัมภาษณ์ใช้ภาษาอังกฤษค่ะ เพราะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เป็นเรื่องบาดใจ) เธอทักทายดิฉันอย่างดิบดี ส่วนดิฉันก็นั่งกำหูโทรศัพท์แน่น รอว่าแกจะออกกระบวนรบท่าไหนออกมา
แกว่างี้ค่่ะ ....บริษัทไม่อาจรับข้อเสนอเรื่องเงินเืดือนแพงหูตูบในประเทศไทย แต่เป็นอัตราปกติของประเทศสวีเดน ที่ดิฉันเรียกไปได้ ...
โห ใจดิฉันตกไปอยู่ตาตุ่ม ... หลุดมือไปเสียแล้ว งานในฝัน...
....แล้วแกก็ถามว่า ดิฉันจะขัดข้องไหม ถ้าจะนั่งทำงานอยู่ที่ Ljungby ในสวีเดน แต่ต้องเดินทางไป ๆ มา ๆ สวีเดนกับประเทศไทยอย่างน้อยห้าอาทิตย์ต่อปี ....
หูฝาดหรือว่าฟังผิดกันแน่นะเรา ถามซ้ำเพื่อความแน่ใจ คุณเดนนิชแกก็ยืนยันตามเดิม
ถึงตอนนี้ เพื่อน ๆ พี่ ๆ แม่บ้านเดาคำตอบของดิฉันได้แล้วใช่ไหมคะ
แม่นแล้วค่ะ ดิฉันตอบตกลงไปเรียบร้อยแล้ว
(แถมท้ายเรื่องอ้วน ดิฉันโทรไปเล่าให้อ้วนฟัง อ้วนหัวเราะเสียงดังมาทางโทรศัพท์ เดาได้เลยว่าโล่งใจที่ไม่โดนทิ้งไว้ที่สวีเดนคนเดียว ตอนนี้เราเตรียมแพ็กกระเป๋ามาเยี่ยมพ่อแม่ที่เมืองไทยสี่อาทิตย์ แล้วกลับไปเริ่มงานใหม่ในสวีเดนเดือนกันยายนค่ะ)
จากคุณ :
A-Chee
- [
29 มิ.ย. 48 13:14:46
]