พักที่หัวหินได้สองวัน เราก็เดินทางลงใต้ไปเกาะเต่าค่ะ
เราทิ้งรถที่เช่ามาจากกรุงเทพไว้ที่หัวหินนั่นเอง โดยเสียค่าใช้จ่ายพันนึงให้กับทางบริษัทส่งคนมารับไป
เกาะเต่าเป็นเกาะเล็ก ๆ อยู่ในจังหวัดชุมพร มีเกาะเล็กจิ๋วอีกเกาะนึงอยู่ใกล้ ๆ กันชื่อเกาะนางยวน เค้ามีบริษัทขนส่งเปิดเส้นทางพาคนไปที่นั่นด้วยรสบัสหะรูหะราไปส่งที่ชุมพร จากหัวหินไปใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วจากท่าเรือชุมพรนั่งเรือความเร็วสูงต่อไปเกาะต่าง ๆ อันได้แก่ เกาะนางยวน เกาะเต่า เกาะพงันและเกาะสมุยโดยลำดับ จากฝั่งไปเกาะเต่าใช้เวลาประมาณชั่วโมงเดียวก็ถึงแล้วค่า
ส่วนที่พักในเกาะเต่า ได้รับการแนะนำจากบริษัททัวร์ที่ซื้อตั๋วโดยสารนั่นเอง แต่เขาไม่รับจองให้ เพราะไม่มีคอนแท็คกันแล้ว หนูเลยโทรไปจองเอง เลยได้ห้องพักในราคาที่ค่อนข้างแพงพอสมควรสำหรับสภาพห้อง แม้จะเป็นห้องแอร์แต่ก็มีไฟฟ้าหลังห้าโมงเย็นไปแล้วเท่านั้น ฝักบัวก็ไหลเอื่อย ๆ ด้วยความแรงเท่ากับฝนลงเม็ด เฮ้อ....
แต่พอได้ลงไปดำน้ำ(สน็อกเกิ้ล)ที่ชายหาดส่วนตัวของโรงแรมเท่านั้นแหละค่ะ กรี๊ดค่ะกรี๊ด ปะการังทั้งนั้นเลยค่า ปะการังจริง ๆ วางตัวเหยียดยาวติดกันเป็นพรืดอยู่ ณ หน้าหาดของโรงแรมของเรา โน่นค่ะ ปลาค่ะปลา ปลาเป็นร้อย ๆ พัน ๆ แล้วก็ไม่ใช่ปลาลายเสือที่เห็นกันดาดดื่นตามแหล่งท่องเที่ยวทั่วไปด้วยนะคะ เป็นปลาสีสันสวย ๆ แปลก ๆ อย่างที่เราเห็นตามสารคดีแอนนิมอลแพลนเน็ตแหวกว่ายกันให้ควั่กไปหมด หอยมือเสือเอย ดอกไม้ทะเลเอยมีอยู่ดาษดื่นมาก ที่สำคัญ ไม่มีหอยเม่นหรือปลิงทะเลให้เราคอยแขยงเท้าเวลายืนในน้ำเลยด้วย กรี๊ดอีกครั้งนะคะ กรี๊ด....
ที่สภาพแวดล้อมของหาดนี้ยังดีอยู่มากเพราะเป็นหาดส่วนตัวอย่างที่กล่าวค่ะ ไม่อนุญาตให้คนนอกที่ผ่านไปผ่านมาโดยทางเท้าหรือทางเรือลงไปว่ายน้ำได้ นอกจากต้องเสียเงิน 100 บาทเสียก่อน คนส่วนใหญ่จึงไม่สนใจที่จะเสียเงินลงไปชมความงามใต้ทะเลหน้าหาดของโรงแรม เลยเป็นโชคดีของคนที่ได้มาเห็นจริง ๆ ค่ะ
เราตั้งใจจะพักอยู่ที่โรงแรมเพียง 2 คืน แล้วจะย้ายไปพักต่อที่เกาะนางยวนที่อยู่ใกล้ ๆ กัน แต่เมื่อซื้อทัวร์ดำน้ำรอบเกาะในวันที่สอง ก็พบว่าเกาะนางยวนสำหรับเราแล้วเหมาะกับการแวะไปเที่ยวเพียงวันเดียวมากกว่า เพราะถึงแม้สภาพของเกาะจะสวยงามกินขาดบาดตา แต่ขนาดของเกาะและสภาพที่พักเมื่อเทียบกับโรงแรมที่เราพักอยู่ ก็ดูไม่สู้จะสะดวกสบายเท่าไหร่ ราคาอาหารและเครื่องดื่มในร้านอาหาร(ที่มีอยู่เจ้าเดียว)ก็แพงมากอีกต่างหาก อีกอย่างการผูกขาดลักษณะนี้ทำให้เราทั้งคู่รู้สึกขยาดอยู่หน่อย ๆ ด้วย นอกจากนั้น สถานที่ดำน้ำ(ตื้น)ทั้งเกาะก็ไม่เห็นมีที่ไหนจะสวยสู้หน้าหาดโรงแรมเราได้สักที่นึง อย่ากระนั้นเลย เราตัดสินใจพักต่อไปที่โรงแรมของเราไปเรื่อย ๆ นั่นแหละค่ะ
และในคืนนั้นเอง
คร่อก....ฟี้
หึ ....
อะไร......
อย่ามาปลุกเซ่.....
ห๊า ........ กรี๊ด!!!!!!!!!....แอร๊ยยยยย!!!!!
งูค่างู งูตัวจริงเสียงจริงมันเลื้อยอยู่บนเพดานเหนือที่นอนที่เรานอนอยู่ค่า แฟนหนูเขารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแต่เช้ามืดแบบไร้สาเหตุแล้วเจอเจ้างูน้อยแขวนตัวอยู่อย่างนั้น แล่บลิ้นแผล่บ ๆ อยู่ในร่องเพดานแบบซิกแซ็กพิเศษที่เขาคงจะออกแบบมาเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ ตัวมันยาวประมาณเมตรนึงได้ ทันทีที่ดีดตัวออกจากที่นอนหนูก็ให้แฟนหนูยืนคุมความประพฤติเจ้างูไม่ให้เลื้อยเข้าไปในบรรดาข้าวของต่าง ๆ ที่วางเปิดอ้าซ่าไว้เต็มห้องเด็ดขาด ก่อนที่จะวิ่งตื๋อแบบสติแตกไปเรียกพนักงานของโรงแรมมาจัดการเนรเทศน้องงูออกไป เดี๋ยวเดียวน้องพนักงานที่เป็นพม่าที่ไปหาไม้ไผ่ยาว ๆ มาได้อันนึงก็วิ่งเข้าไปรบกับเจ้างู น้องเขาเอาไม้ไผ่นั่นกระทุ้งแอ้กเข้าไปที่หัว เจ้างูน้อยก็ตกปุ้กลงมาดิ้นอยู่บนที่นอน ก่อนที่พนักงานจะเอาร่างดุ๊กดิ๊กของน้องงูไปวิสามัญต่อที่นอกชาน โถ...อนิจจา สัพเพสัพตา อะเวราโหตุนะจ๊ะ น้องงู
จากเหตุการณ์นี้ หนูนำไปเล่าให้เจ้าของโรงแรมฟัง พร้อมทั้งพลอยรำพึงรำพันเรื่องความแรงของน้ำฝักบัวเสียด้วยเลย ปรากฎว่าโดยไม่คาดฝันค่ะ(ไม่คาดฝันจริงจริ๊ง ให้ตายเหอะ) เจ้าของโรงแรมใจดีย้ายให้เราไปอยู่ห้องพักอีกห้อง ซึ่งสภาพดีกว่าห้องแรกมาก ๆ เป็นบ้านไม้ติดแอร์ที่มีนอกชานที่ติดมุ้งลวดมิดชิด แถมน้ำฝักบัวก็ยังแรงซู่หยั่งกะทีลอซูแน่ะค่ะ ด้วยห้องใหม่สุดหรูนี่เอง เราสองคนเลยตัดสินใจพักอยู่ที่นี่ต่อไปอีกสามคืน โดยหารู้ไม่ว่าภายใต้พื้นบ้านอันมืดมิดของบ้านหลังใหม่ที่ดูเหมือนจะเป็นวิมานแห่งความสุขนั้น ได้มีสิ่งมีชีวิตบางอย่าง ซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบเชียบและมันกำลังเคลื่อนไหวช้า ๆ เหมือนกำลังรอคอยอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลา
และที่สำคัญ มันไม่ได้มีเพียงแค่ตัวเดียว!!!
(โปรดติดตามตอน(คาดว่าน่าจะ)จบ ในเอ็ปปิโสด 3 ค่า)
จากคุณ :
กะเทยไทยในอัมสเตอดัม
- [
30 มิ.ย. 48 05:35:28
A:84.86.99.71 X: TicketID:077778
]