ความคิดเห็นที่ 1 ช่วยตอบละกันคะ อาจจะช่วยอะไรไม่ได้มาก รอคนข้างล่าง มาตอบเพิ่มละกันค่ะ ........................ 1) เรืองกระเป๋า สำคัญเหมือนกันนา เพราะสมัยที่ตัวเองไปก็ เป็นอะไรที่ต้องคิดนานเหมือนกัน แต่ก็ไม่นานมากหรอกค่ะ อาศัยเท่าที่มีอยู่ ไม่อยากซื้อใหม่ เพราะราคาแพงเหลือหลาย เท่าที่คุณบรรยายลักษณะกระเป๋ามา หากไม่โชคร้ายเกินไป คงไม่โดนกรีดกระเป๋าหรอกค่ะ (กรณีกระเป๋าผ้านะ) และอีก อย่างมันเคลมได้ค่ะ หากกระเป๋าไปถึงจุดหมายปลายทางแล้ว เกิดสภาพผิดเพี้ยนไปจากเดิม ส่วนกระเป๋าที่ทำด้วยพลาสติก แบบแข็ง ๆ ถ้าเป็นของใหม่อย่าง Samsonite ที่จัดเข้าขั้นว่า คุณภาพดี ไม่น่าแตกง่ายขนาดนั้นนะคะ ส่วนเรื่องของขนาด อันนี้แล้วแต่สะดวกเลยค่ะ หากอยากใช้ใบใหญ่ใบเดียวไปเลย ก็ได้ แล้วค่อยไปหาซื้ออะไรเพิ่มเติมที่นั่นดีกว่า อยู่ตั้ง 3 ปี ไม่น่าคิดมากแล้วค่ะ เพราะซื้ออะไรใหม่ ๆ มาได้ใช้คุ้มแน่ค่ะ ................. 2) ค่าส่งเท่าไหร่?? บอกไม่ได้ตอนนี้ค่ะ ขึ้นอยู่กับ น้ำหนัก และประเภท ของของที่ส่ง ถ้าส่งทางอากาศ (airmail) แพงมากค่ะ (กรณีเร่งด่วน) แต่หากในกรณีที่มีเวลานานมาก ขนาดนี้แนะนำ ให้ใช้เป็นส่งเรือ (surface mail) แทนค่ะ ซึ่งจะกินเวลาประมาณ 1 เดือน ของอาจเยินไปบ้าง (อันนี้ต้องทำใจ) เพราะราคาถูกกว่า แบบ airmal เยอะ ซึ่งเหมาะกับประเภทที่ส่งหนังสือมาก ส่วนอีก แบบหนึ่งคือแบบอากาศชนิดไม่เร่งด่วน (SAL) อาจกินเวลาประมาณ 2 อาทิตย์ ราคาก็จะกึ่ง ๆ ระหว่างairmal และ surface mail ราคาค่าส่งของแต่ละประเภทแนะนำให้ถามได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์ ทุกแห่งค่ะ บางประเภทกำหนดเป็นกิโลกรัม บางประเภทมี rate อัตราไม่เท่ากัน จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 6 ก.ค. 48 09:54:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 3) อากาศเดือนตุลาคมค่อนข้างหนาวเย็นแล้วสำหรับในบาง พื้นที่ เตรียม Jacket หนา ๆ ตัวเก่ง หรือ sweater เท่าที่มีไป ด้วยนะคะ ช่วงแรก ๆ อาจจะยังไม่ชินกับความหนาวที่มีลมพัด แรงของญี่ปุ่น แต่อีกสักพักปรับตัวได้ก็จะเริ่มชินขึ้นมาเอง แต่ ที่ควรระวังคือ ถ้ายิ่งเหนือขึ้นไปมากเท่าไร อากาศก็จะเย็นลง มากขึ้นเท่านั้น ที่สำคัญอย่าลืมพกยาไปด้วยนะคะ เอาที่บรรจุหีบห่อดี ๆ มียี่ห้อ การันตีให้สบายใจ (เดี๋ยวจะไม่ผ่านศุลกากรของที่นั่น) เอาไว้ ให้มากพอ (กรณีมีโรคประจำตัว) เพราะหากเอาไปไม่พอการ จะส่งยาไปให้จากเมืองไทยบางทีก็อาจกระทำได้ไม่ง่ายนัก ดิฉันมีรุ่นน้องไปเยอรมัน 3 เดือน ไปเจอหนาวพอดี ร่างกาย ปรับตัวไม่ได้ หนาวมากขนาดเจ็บกระดูกไปโรงเรียนไม่ได้ เดือดร้อน ให้ทางบ้านที่เมืองไทยจัดส่งหยูกยาไปให้อีก ซึ่งก็ไม่สะดวก พอควรค่ะ ดังนั้นจุดนี้ก็เป็นจุดที่น่าจะคำนึงถึง ขอให้คุณ **TeNtOOmUsHi** โชคดีนะคะ ไปเรียนที่นั่นแล้ว เป็นอย่างไร อย่าลืมมาเล่าให้ที่นี่ฟังล่ะคะ ... จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 6 ก.ค. 48 09:59:46 ]

ความคิดเห็นที่ 3 กระเป๋าผ้าจุได้มากกว่า แต่พลาสติกจะแข็งแรงกว่า ตอนเราไปก็ใช้กระเป๋าผ้า จุได้เยอะมาก ถ้าไปญี่ปุ่นกระเป๋าผ้าไม่เยินหรอกค่ะ แต่ถ้าไปเมืองจีนของพี่สาวเยินมาแล้วค่ะ จริงๆจะแบบไหนก็ได้นะ แต่แนะนำแบบที่ลากง่ายคือมีคันชักลากในแนวตั้งน่ะค่ะ จะไปอยู่เมืองอะไรล่ะคะ เดือนต้นตุลาถ้าโตเกียวก็ยังไม่หนาวนะ แค่เย็นๆ ช่วงตุลา พฤศจิกา กลางวันจะไม่หนาวมาก แต่กลางคืนจะค่อนข้างหนาวแล้วล่ะ ละก็ยาค่ะที่สำคัญ อย่าลืมเอาไปด้วยนะ แต่เราเคยเป็นหวัด กินยาที่หมอญี่ปุ่นให้หายเร็วดีล่ะ จากคุณ : โมจิ - [ 6 ก.ค. 48 11:49:10 A:203.156.54.3 X: TicketID:103976 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อย่าขนหนังสือใส่กระเป๋าเดินทางไปเยอะ เอาเฉพาะที่จำเป็นต้องใช้ในสองสามวันแรก เพราะหนังสือไม่กินเนื้อที่ แต่หนักอิ๊บอ๋าย กระเป๋าเดินทางเอาแบบลากได้จะดีที่สุด ยิ่งประเภททนการกระแทกได้ก็จะดี หนังสือที่คิดว่าจะต้องใช้ตอนเรียน ให้ส่งไปกับพวกบริการส่งของเช่น ที่เป็นยี่ห้อฝรั่งทั้งหลาย แบบบริการมารับ ของถึงบ้าน และส่งให้ถึงหอจะสะดวกมาก จากคุณ : Canossa - [ 6 ก.ค. 48 13:08:14 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าคิดจะทำกับข้าวเองแนะนำพวกผงปรุงสำเร็จต่างๆ เครื่องแกงที่มีการบรรจุอย่างดี (ผมซื้อของโลโบ ขนมาที่นี่เพียบ) พวกนี้ไม่หนักมาก กินที่ก็ไม่เยอะ แต่พอมาที่ญี่ปุ่นจะรู้สึกว่ามันมีค่ามาก ช่วยให้เราสามารถสัมผัสรสชาติของอาหารไทยพอหายคิดถึงบ้านได้บ้าง (ตอนนี้น้ำปลาที่บ้านหมด เพิ่งจะรู้คุณค่าของมันก็คราวนี้แหละ) จากคุณ : s7014249 - [ 10 ก.ค. 48 22:06:51 ]